จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 873
ภารกิจตรงหน้าสามารถสำเร็จผ่านไปได้แน่ ดาเมี่ยนมั่นใจมาก
ความเชื่อมั่นของเขาไม่แปรเปลี่ยนทั้งในยามถูกกักขังในม่านบาเรีย ในยามดวลกับฮิลล์ หรือกระทั่งขณะอลิเบิร์นเสกบอลทมิฬหายนะหลายร้อยลูก
‘หากพิจารณาจากแก่นเนื้อเรื่องซาทิสฟาย วิกฤตินี้ต้องผ่านไปได้แน่’
สถานการณ์จะคลี่คลายผ่านไปได้ถึงแม้กริดจะไม่ปรากฏตัวก็ตาม
สาเหตุเพราะ บุตรีแห่งรีเบคก้าทั้งสามคนยังไม่มีใครใช้ ‘ร่างสีขาว’ พวกเธอปฏิบัติตามคำสั่งดาเมี่ยนอย่างเคร่งครัดที่ห้ามใช้ร่างสีขาวโดยพละการ
หากอิสซาเบล ริน และลูน่าระเบิดพลังร่างสีขาวพร้อมกัน กระแสสงครามต้องพลิกกลับมาอยู่ฝั่งรีเบคก้าแน่นอน
ดาเมี่ยนจึงรอคอยโอกาสเหมาะที่จะให้พวกเธอทั้งสามปลดปล่อยพลังที่แท้จริงเพื่อกำราบวิหารยาธาน
ทว่า เหตุการณ์กลับดำเนินผิดแผกไปจากที่ดาเมี่ยนคาด
ก่อนบุตรีแห่งรีเบคก้าจะใช้ร่างสีขาวสยบอลิเบิร์น กริดได้พลิกผันทุกสิ่งให้กลับตาลปัด
เหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นในวินาทีที่กริดใช้มือสัมผัสดาบซึ่งปักอยู่ในหินด้านหลังอลิเบิร์น
แสงสีขาวพลันสว่างไสวทั่วโถงหลักวาติกันโดยมีศูนย์กลางเป็นดาบในมือกริด
ไม่ผิดแน่ กริดกำลังสำแดงพลังของดาบศักดิ์สิทธิ์
“อะไรกัน?”
ผู้สืบทอดแพ็กม่าเกี่ยวข้องยังไงกับสัญลักษณ์แห่งโบสถ์รีเบคก้า?
‘ทำไมกริดถึงใช้พลังของดาบได้?’
ดาเมี่ยนพอจะเข้าใจถึงความสัมพันระหว่างกริดและเซ็ตแสงศักดิ์สิทธิ์ เพราะนั่นคือเซ็ตชุดเกราะที่แพ็กม่าสร้างเพื่อมอบให้อดีตสันตะปาปาลำดับห้า—ฟรานซ์
จะเกี่ยวพันกับกริดก็ไม่แปลกนัก
‘แต่แพ็กม่าเกี่ยวข้องยังไงกับดาบศักดิ์สิทธิ์?’
ชิ้ง—
ขณะดาเมี่ยนฉงนหนัก ข้อความระบบได้แสดงขึ้นเพื่อคลายความสงสัย
[ ภารกิจ ‘ทวงคืนดาบศักดิ์สิทธิ์’ เปลี่ยนแปลงเป็น ‘ทวงคืนดาบศักดิ์สิทธิ์ (2)’ ]
[ ทวงคืนดาบศักดิ์สิทธิ์ (2) ]
★ภารกิจลับ★
ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่เคยตกอยู่ในเงื้อมมือวิหารยาธาน ปัจจุบันถูกกระตุ้นโดยพลังของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติผู้ชั่วร้าย
เจ็ดนักบุญภัยพิบัติ—บุคคลชั่วร้ายที่ต้องการเลื่อนสถานะจากครึ่งเทพให้กลายเป็นเทพเต็มตัว กลุ่มคนเหล่านั้นแสวงหาพลังที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเทพ
ดาบศักดิ์สิทธิ์คือสัญลักษณ์แห่งรีเบคก้าและเครื่องพิสูจน์ความเป็นสันตะปาปา!
จงนำมันกลับคืน! ห้ามให้ตกอยู่ในมือของบุคคลชั่วร้ายที่หมายแย่งชิงบัลลังก์เทพเด็ดขาด!
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ทวงคืนดาบศักดิ์สิทธิ์
รางวัลสำเร็จภารกิจ :
- พรจากเทพธิดารีเบคก้า เทพยูดาห์ และเทพโดมิเนี่ยน
- ความสัมพันธ์กับสภาอาวุโสเพิ่มขึ้นถึงค่าสูงสุด
- ได้รับความศรัทธาจากสาวกทั่วทั้งทวีป
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :
- สาวกรีเบคก้าจะไม่เชื่อมั่นใจโบสถ์และตัดสินใจเลิกนับถือ
- ท่านไม่สามารถเป็นสันตะปาปาได้อีก
- เทพธิดารีเบคก้าผิดหวังในตัวท่าน
- เลเวล -10
‘เจ็ดนักบุญภัยพิบัติ? ทำไมพวกมันถูกเอ่ยถึงในภารกิจนี้?’
ในสายตาผู้เล่นทั่วไป เรื่องราวของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติยังคงเป็นปริศนาที่แทบไม่เคยมีใครเข้าถึง
แม้กระทั่งราชาโอเวอร์เกียร์เช่นกริดก็เพิ่งรับรู้เมื่อไม่นานมานี้ แถมมิได้ทราบด้วยตัวเอง แต่มาจากคำบอกเล่าของอริยดาบครอเกล
ทว่า ดาเมี่ยนมิใช่ผู้เล่นทั่วไป ก่อนจะเป็นสันตะปาปา เขาคือพาลาดินแถวหน้าของโลก เป็นแรงเกอร์ที่มีชื่อเสียงมาก่อน จนกระทั่งได้รับคลาสลับ—อัครทูตแห่งเทพธิดา
เฉกเช่นครอเกล ดาเมี่ยนสำเร็จภารกิจจำนวนมากและเข้าใจเนื้อหาซาทิสฟายอย่างลึกซึ้ง ไม่สิ บางทีหากเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเทพ ดาเมี่ยนอาจมีความรู้มากกว่าครอเกลด้วยซ้ำ
เขาทราบมาว่า นักบุญภัยพิบัติคือตัวตนแสนชั่วร้าย
‘พวกมันได้รับความชอบจากเทพจนกลายเป็นครึ่งเทพ แต่กลับไม่พึงพอใจแค่นั้น พยายามไขว่คว้าพลั’เพื่อให้กลายเป็นเทพเสียเอง…’
และหนึ่งในเจ็ดนักบุญภัยพิบัติคือผู้ที่สืบทอดพลังจากเทพธิดาแห่งแสง—รีเบคก้าโดยตรง
เพียงนึกถึงพวกมันก็มากพอจะทำให้ดาเมี่ยนเกิดโทสะ
กล้าดียังไงถึงคิดทรยศเทพธิดารีเบคก้าผู้มอบความรักอันหาที่สุดมิได้ให้แก่มนุษย์?
นับตั้งแต่กลายเป็นอัครทูตแห่งเทพธิดา จนกระทั่งถึงวันที่กลายเป็นสันตะปาปาเต็มตัว ดาเมี่ยนได้เรียนรู้เกี่ยวกับคุณงามความดีมากมายที่เทพธิดารีเบคก้ามอบให้มนุษย์โลก
เขาจึงเกลียดชังเจ็ดบุคคลชั่วร้ายที่พยายามทรยศหักหลังเธอ
‘เดี๋ยวนะ…’
ดาเมี่ยนเริ่มผงะ
ภารกิจของตนเปลี่ยนแปลงไปในวินาทีที่กริดจับดาบศักดิ์สิทธิ์มิใช่หรือ?
หมายความว่า ‘ตัวตนชั่วร้ายที่ครอบครองพลังเจ็ดภัยพิบัติ’ ในคำอธิบายย่อมหมายถึง…
กริด
“ก…กริด!”
ดาเมี่ยนรีบหันมองกริดด้วยสีหน้าตกตะลึงสุดขีด น้ำเสียงของเขากำลังสั่นระริก
กริดยืนอ่านรายละเอียดภารกิจใหม่พลางขมวดคิ้ว ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดและขัดแย้งภายในใจ
[ เส้นกั้นแบ่งระหว่างดีชั่ว ]
★ ภารกิจลับ ★
หลังจากผจญภัยในโลกกว้างมานาน ในที่สุดท่านก็ได้ครอบครอบพลัง ‘บัญชาแห่งเทพ’ ที่ ‘ทาเร็น’—นักบุญลำดับสี่แห่งเจ็ดภัยพิบัติเหลือทิ้งไว้ให้มนุษย์รุ่นหลัง
ท่านได้ยินเสียงแว่วของทาเร็น :
‘แสงสว่างเจิดจ้าเสียจนเรามองไม่เห็นความมืดมิดที่หลบซ่อน’
จากนั้นก็เป็นเสียงของเทพสงคราม—เซราทุลที่ดังขึ้น :
‘มนุษย์เอ๋ย นี่มิใช่การนำพาจากทาเร็น หากแต่เป็นฝีมือโดมิเนี่ยนและเรา อย่าไปฟังเสียงของตัวตนที่ชั่วร้ายเด็ดขาด!’
ปัจจุบัน ‘ดาบศักดิ์สิทธิ์ (ไม่สมบูรณ์)’ เริ่มถูกกัดกร่อนด้วยพลังบัญชาแห่งเทพ
‘ดาบศักดิ์สิทธิ์ (ไม่สมบูรณ์)’ เป็นสัญลักษณ์ของโบสถ์รีเบคก้า
จงเลือกทางเดิน!
ท่านจะอาศัยพลังของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติเพื่อเปลี่ยนดาบศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นสมบัติของตัวเอง…หรือจะคืนมันให้แก่โบสถ์รีเบคก้าตามเดิม?
จงเลือกเส้นทางที่ท่านต่องการ
★ รางวัลหากช่วงชิงดาบศักดิ์สิทธิ์ :
- จะได้รับ ‘ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งมารลำดับสี่’
- เผ่าพันธุ์ของท่านจะเปลี่ยนจากมนุษย์กลายเป็น ‘ครึ่งเทพ’
( ครึ่งเทพได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์หลายด้าน เป็นเผ่าพันธุ์ที่ใกล้เคียงเทพมาก ทักษะทุกชนิดของท่านจะถูกยกระดับขึ้น )
- ทักษะติดตัว ‘บัญชาแห่งเทพ’ ถูกยกระดับ
( โอกาสแสดงผลบัญชาแห่งเทพกลายเป็น 100% แต่ทักษะที่ใช้จะไม่มีวันเกิดคริติคอล )
- ปลดล็อกทักษะ‘ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกกัดกร่อน’
- ท่านจะถูกคำสาปจากเทพธิดารีเบคก้า เทพโดมิเนี่ยน เทพยูดาห์ และเทพเซราทุล
- ค่าความสัมพันธ์กับโบสถ์รีเบคก้า โดมิเนี่ยน และยูดาห์กลายเป็นติดลบ
- สาวกเทพสงครามจะตามล่าตัวท่าน
★ รางวัลหากท่านคืนดาบศักดิ์สิทธิ์ :
- พรจากเทพธิดารีเบคก้า
- ความสัมพันธ์กับโบสถ์รีเบคก้ากลายเป็นค่าสูงสุด
( ท่านมีความสัมพันธ์ในระดับสูงสุดอยู่แล้ว )
ตึกตัก…!
ตึกตัก!
หัวใจกริดเริ่มเต้นโครมครามเมื่ออ่านรายละเอียดภารกิจครบถ้วน
ความโลภกำลังร่ำร้อง
แรงปรารถนาในใจพลันส่งเสียงคำราม
‘ชิงดาบศักดิ์สิทธิ์มาซะ!’
‘ครึ่งเทพเชียวนะ! ครึ่งเทพ!!’
‘เราจะไม่แพ้ใครอีก! เราจะครองบัลลังก์ไปตลอดกาล!’
‘เราจะกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลก! ทุกคนบนโลกจะริษยาเรา!’
‘รักแรกอย่างอาฮยองจะต้องนอนเสียใจไปทุกคืน ฮุฮุฮุ!’
‘พวกที่เคยแกล้งเราไว้จะอยู่ไม่เป็นสุข’
‘โอกาสแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว! สถานการณ์ปัจจุบันกำลังไม่มั่นคง ครอเกลและแอ็กนัสอาจทวงคืนบัลลังก์จากเราได้ทุกเมื่อ’
‘มีผู้คนมากมายรอซ้ำเติมถ้าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ล่มสลาย หากเราสูญเสียทุกสิ่งไป เราจะกลับไปมีชีวิตน่าสมเพชอีกครั้ง’
ตึกตัก…
ตึกตัก!
จิตใจที่ขัดแย้งของกริดกำลังเอนเอียงเลือกฝ่ายอย่างชัดเจน
แรงปรารถนาในใจกริดไม่ต้องการปล่อยมือจากดาบ แม้เขาจะฝ่าฝันอุปสรรคมากมายและกลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จแล้วก็ตาม
ฝ่ามือกริดเริ่มกำดาบแน่น
“กริด!”
เสียงเรียกของดาเมี่ยนดังแว่วข้างหู
ดาเมี่ยนคือบุคคลที่ชื่นชมและศรัทธาในตัวกริดอย่างไร้ความเคลือบแคลงมาตลอด กริดเองก็ภูมิใจที่ตนมีสายสัมพันธ์อันดีกับผู้เล่นซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดาเมี่ยน
ทว่า นั่นยังไม่พอจะทำให้กริดปล่อยมือจากดาบ
“กริด! ตื่นสักที!”
สุ้มเสียงที่สั่นเครือของอิสซาเบลดังแว่ว
อิสซาเบลเคยเป็นหญิงสาวผู้น่าสงสาร จนกระทั่งกริดยื่นมือเข้าช่วยและมอบความสุขให้เธอ
ความรู้สึกติดหนี้บุญคุณ ความรัก และความศรัทธาเป็นล้นพ้นที่เธอมอบให้กริด สิ่งนี้ทำให้กริดทั้งอุ่นใจและภาคภูมิใจที่มีพาลาดินอันดับหนึ่งของทวีปอย่างเธอเป็นพวกพ้อง
กริดรู้สึกเสียใจที่ต้องทำให้เธอผิดหวัง
“ฉ…ฉัน”
ฝ่ามือชายหนุ่มคลายออกเล็กน้อย แต่ก็เพียงชั่วครู่ มือถูกกำแน่นอีกครั้งเมื่อความโลภระลอกใหม่ครอบงำ
“คุณคะ…”
“ท่านพ่อ!”
“…!”
เป็นเสียงเรียกจากไอรีนและลอร์ด
นี่คือครั้งแรกที่กริดได้สติกลับมาอย่างแท้จริง เขาเริ่มละสายตาจากดาบในมือ
หญิงสาวคนแรกที่มอบความรักให้ตนอย่างสุดหัวใจ—สตรีที่สอนให้กริดรู้จักความรัก ความสุข และความหมายของชีวิต
แถมยังมีผลผลิตจากความรักของเขาและเธอ—บุตรชายที่กำลังเจริญรอยตามตน
จากนั้น ใบหน้าของบุคคลสำคัญได้ผุดขึ้นทีละคนสองคน ทั้งฮิวรอย ยูร่า จิสึกะ เรกัส ป็อน ลอเอล พีคซอร์ด และทูน
“ฉ…ฉัน”
ความขัดแย้งเริ่มเอนเอียงสลับขั้ว
กริดสยบแรงปรารถนาในใจพลางกัดฟันตะโกน
“ฉันทิ้งครอบครัวและพวกพ้องไม่ได้!!”
จะมีค่าอันใดหากตนได้เป็นครึ่งเทพตามลำพัง?
ถ้าคนใกล้ตัวต้องเดือดร้อนหลังจากเขากลายเป็นศัตรูกับโลกใบนี้…
กริดไม่ต้องการ เขาไม่อยากอยู่ตามลำพังบนโลก
“ดาเมี่ยน!”
ชายหนุ่มตะโกนเรียกสันตะปาปาพร้อมกับโยนดาบศักดิ์สิทธิ์ให้
ดาเมี่ยนคว้าดาบไว้ได้ เขาเผยรอยยิ้มแสนมีความสุขจากก้นบึ้งหัวใจ
‘ฟู่ว…ขอบคุณสวรรค์’
ตนจะทำอย่างไรได้หากกริดเลือกเส้นทางเจ็ดนักบุญภัยพิบัติรุ่นที่สอง?
ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องราวจะดำเนินถึงจุดตกต่ำจนดาเมี่ยนไม่กล้าจินตนาการ
“หยุดพวกมันไว้!”
อลิเบิร์นรีบตะโกนสั่งอย่างลนลาน มันเพิ่งหลุดพ้นจากพลังสะกดของดาบศักดิ์สิทธิ์
ความสุขุมที่สูญเสียไปครู่ใหญ่เริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่สายเกินไป
ข้ารับใช้ยาธานที่เหลือรวมถึงสาวกยาธานยังคงถูกพลังจากดาบศักดิ์สิทธิ์ครอบงำ
“เจตจำนงแห่งเทพธิดา”
สันตะปาปากวัดแกว่งปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ด้วยท่วงท่าองอาจห้าวหาญ
อาวุธในมือดาเมี่ยนส่องสว่างท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน รัศมีดาบสีขาวที่สว่างและอบอุ่นพุ่งกระจายทั่วบริเวณ
คำสาปจากข้ารับใช้ยาธานและมนตร์ดำจากสาวกยาธานถูกสลายจนหมดสิ้น
แถมยังสร้างบาดแผลฉกรรจ์แก่พวกมันทุกคนในคราเดียว
“อ๊ากก!!”
ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์คืออาวุธสำหรับฆ่าฟันจอมอสูร แน่นอน ตัวตนแสนกระจอกอย่างข้ารับใช้ยาธานย่อมมิใช่คู่ต่อสู้
อลิเบิร์นบาดเจ็บรุนแรงจนร่างกายล้มทรุดลงกับพื้น กริดรำดาบสอดประสานการโจมตีของดาเมี่ยนทันที
“วิชาดาบแพ็กม่า!”
“สามหาว!”
อลิเบิร์นจดจ้องกริดปานกินเลือดเนื้อ
ดวงตาของมันกำลังแดงก่ำ ความอับอายที่ถูกบุคคลเพียงผู้เดียวทำให้แผนการทั้งหมดพังครืน สิ่งนี้มิอาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
“ตายซะไอ้พวกชั่ว!”
“ถ้าฉันต้องตาย ฉันจะเอาแกลงนรกไปด้วยกัน!!”
“สังหาร!”
“อั่ก…! อ๊ากกกก!”
“อ…อี๋ย!”
“ข…ข้ารับใช้ลำดับสาม!”
เสียงร้องโหยหวนจากบุคคลชั่วร้ายที่สร้างความปั่นป่วนแก่วาติกัน สิ่งนี้ส่งผลให้สาวกยาธานไม่เหลือกำลังใจจะสู้ต่อ
พวกมันรีบวิ่งหนีอย่างลนลาน แต่ก็ถูกหน่วยพาลาดินขัดขวางไว้
“แฮ่ก…แฮ่ก"”
อลิเบิร์นกลายเป็นแสงสีเทา ส่วนกริดเริ่มออกอาการโงนเงนอย่างเห็นได้ชัด
การต้องตัดสินใจในเรื่องที่ยากลำบาก รวมถึงต้องปลดปล่อยทักษะทรงพลังมากมายติดต่อกันในระยะเวลาอันสั้น
สิ่งเหล่านี้ทำให้จิตใจและเรี่ยวแรงของกริดกำลังอ่อนล้าสุดขีด
แต่เขายังล้มลงไม่ได้ ชายหนุ่มต้องการโอบกอดลูกและเมียให้หายเหนื่อย
“คุณคะ…!”
“ท่านพ่อ!”
“โชคดีจัง…ขอบคุณสวรรค์ที่พวกเธอปลอดภัย”
ขณะสวมกอดครอบครัวอย่างแนบแน่น รอยยิ้มของกริดช่างอบอุ่นจนคล้ายคลึงกับรอยยิ้มของเทพธิดารีเบคก้าในภาพวาด
เหล่าสภาอาวุโสของโบสถ์รีเบคก้าเริ่มมองกริดด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม
ส่วนอิสซาเบล…เธอรู้สึกศรัทธาและเทิดทูนบูชากริดยิ่งขึ้น เป็นความรู้สึกระดับเดียวกับที่มอบให้เทพธิดารีเบคก้า
ตอนนี้ก็ถูกมอบเป็นเทพก็อดกริดแล้ว เกือบโดนครอบงำด้วยความโลบแล้วซิก็อดกริด รอดไป ดีที่ไม่ลืมพวกพ้องกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 🙏🎉🎉ยอดเยี่ยมมาก สนุกมากครับ ขอบคุณที่แปลให้ได้อ่านกัน สายฟรีทางนี้ครับผม
ReplyDeleteตัวหนังสือมดมาแล้ว
ReplyDeleteวิชาดาบแพ็กม่า สามหาว
ReplyDelete😂
ต้องอ่านซ้ำอีกรอบ นึกว่าสังหาร
ขอบคุณครับ😁
ครึ่งเทพโครตโกงเลยนี่หว่า ทำให้บัญชาเทพโอกาสแสดงผลจาก 50% เป็น 100% (ผลจากบัญชาเทพหากรีเซ็ตคูลดาวของทักษะและหากใช้ทักษะนั้นใน 10 วินาทีจะไม่เสียทรัพยากร) ถึงมันจะไม่ติดคริแต่คิดสภาพที่แบบ วังวน วังวน วังวน โห้ใครจะฆ่ามันได้วะ
ReplyDeleteโกงเกิ๊น!!!!
Deleteคือยังไง == ตอนที่แล้วตัวหนังสือใหญ่จนมองบรรทัดทัดไปจนไม่เห็น พอมาตอนนี้เล็กจนต้องซูมอ่าน
ReplyDeleteมันคือความหลากหลายในการอ่าน
Deleteเปลี่ยนขนาดฟร้อนอีกละ มันอ่านไม่สบายตา ห่วยย
ReplyDelete