จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 880-881

 จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 880


    โค้กรู้สึกราวกับตนกำลังนั่งบนเก้าอี้หนาม


    ‘เราได้ยินอะไรผิดรึเปล่า?’

    

    เมื่อสนธิสัญญาจบลง  อัศวินหนุ่มคนนี้จะบดขยี้อัศวินสีชาดรุ่นใหม่อย่างง่ายดาย  และบุคคลที่กริดชี้นิ้วระบุคือโค้ก


    โค้กมีเลเวลต่ำสุดในบรรดาอัศวินทั้งหมด  เรื่องราวจึงฟังดูไม่น่าเป็นไปได้


    ‘เขาหมายถึงรอยแมนรึเปล่า?  ต้องไม่ใช่เราแน่  นั่นสินะ  เราเข้าใจผิดไปเอง!’


    โค้กปฏิเสธความจริง  เขาหันไปมองรอยแมนที่อยู่ซ้ายมือ


    แน่นอน  รอยแมนกำลังหันมาจ้องโค้กอย่างไม่กระพริบตา  เช่นเดียวกับอัศวินโอเวอร์เกียร์ด้านหลังเธอ


    ทุกคนกำลังมองโค้กเป็นตาเดียว


    ‘บ้าน่า?  เรื่องจริงงั้นหรือ?’


    โค้กกำลังลนลาน  นัยน์ตาเริ่มสั่นระริก


    ‘เราเนี่ยนะจะบดขยี้อัศวินสีชาด?’


    จะเป็นไปได้ยังไง?


    ‘หรือว่า…’


    กริดกำลังเล่นมุกตลก  แต่ตัวโค้กดันคิดเป็นจริงเป็นจังไปเองฝ่ายเดียว

    

    ทันใดนั้น  ราชาโอเวอร์เกียร์วางมือลงบนบ่าโค้กที่กำลังมองว่าเป็นมุกตลก


    “ไม่ต้องห่วง  ยังเหลือเวลาอีกมาก  ฉันจะแสดงให้นายเห็นถึงพลังแห่งไอเท็มที่แท้จริง”


    “…”


    กริดเอาจริง


    โค้กยอมทราบดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น  เขานับถือและติดตามกริดมานานมากแล้ว


    สายตาในปัจจุบันของกริดกำลังเปี่ยมด้วยความดุดันและไม่สั่นคลอน


    เป็นสายตาที่กริดแสดงออกทุกครั้งในยามพูดความจริง


    ‘เขาคิดว่าเราเอาชนะอัศวินสีชาดได้จริงหรือ?’


    โค้กย่อมทราบถึงความยอดเยี่ยมของไอเท็มจากกริด  แต่… 


    ขณะความคิดเริ่มปั่นป่วน  โค้กกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว


    เขาดีใจที่กริดเชื่อมั่น  แต่ก็กังวลว่าตนอาจสนองความเชื่อใจนั้นไม่ได้


    โค้กคิดว่าตัวเขาจะล้มเหลวก่อนได้ลงมือปฏิบัติเสียอีก


    “น่าสนใจดีนี่”


    เสียงของดูรันดัลดังแว่วข้างหูโค้ก


    มันกำลังแสยะยิ้มเย้ยหยันถ้อยคำเหลวไหลของกริด


    “ไม่เคยนึกฝันว่าจะมีใครกล้าสามหาวต่อหน้าฉันขนาดนี้  น่าสนใจมาก  ไม่ทราบว่าราชาโอเวอร์เกียร์เคยเป็นตัวตลกมาก่อนรึเปล่า?”


    สายตาของมันเลื่อนจากกริดไปมองโค้ก


    “ดูนั่นสิ  ลูกแกะไร้เดียงสากำลังยืนสั่นระริกอย่างหวาดกลัว  คุคุ!  มันกำลังจะถูกส่งเข้าโรงเชือดงั้นหรือ?”


    ดูรันดัลมิได้หวาดกลัวโค้กเลยสักนิด  ท่าทีเหยียดหยันของมันเหมือนกับในยามจ้องมองมดปลวก


    อัศวินสีชาดทุกคนจะถูกหมอนี่บดขยี้?  


    ช่างน่าขัน  ไม่มีทางที่องค์ชายแห่งจักรวรรดิอย่างมันจะจินตนาการออก


    “…”


    โค้กยังนิ่งเงียบ 


    เหนือสิ่งอื่นใด  คำเปรียบเปรยของดูรันดัลนั้นไม่มีส่วนใดผิด

    

    โค้กอาจเป็นถึงอันดับหนึ่งของสิบรุคกี้รุ่นที่สาม  และอาจเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์สูงในยุคหลัง  แต่ก็เพียงเท่านั้น


    ยังไม่ใช่ระดับที่จะต่อกรกับอัศวินสีชาด  หน่วยรบอันดับหนึ่งของทวีปไหว


    แม้แต่แรงเกอร์แถวหน้าของโลกหลายคนที่เล่นซาทิสฟายก่อนโค้กยังรู้สึกหวาดกลัวต่ออัศวินสีชาด


    ‘เราเนี่ยนะจะเอาชนะอัศวินสีชาดได้ในอีกไม่กี่ปี?’


    เหตุใดกริดถึงเชื่อใจตนนัก?  


    โค้กไม่เข้าใจเลยสักนิด


    “ในตอนนี้อาจฟังดูน่าขัน  แต่เขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันทีเมื่อโอเวอร์เกียร์”


    กริดยังคงแสดงสีหน้ามั่นใจ    


    ‘แบบนี้นี่เอง…’


    โค้กตระหนักได้ทันทีว่ากริดมิได้เชื่อใจตน  ตรงกันข้าม  กริดเชื่อใจในพลังไอเท็ม

    

    ‘เขามั่นใจว่าจะเปลี่ยนอัศวินคนหนึ่งให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดได้ด้วยพลังไอเท็ม’


    ต้องเป็นช่างตีเหล็กในตำนานเท่านั้นจึงจะมีความมั่นใจระดับนี้ได้


    ตึกตัก…


    ตึกตัก! 


    ความตึงเครียดในใจโค้กเริ่มบรรเทาลง  สีหน้าของเขาถูกแทนที่ด้วยความคาดหวัง


    กระนั้น  โค้กยังเป็นกังวล


    เขาจะแข็งแกร่งขึ้นกี่เท่าหลังจากสวมใส่ไอเท็มสุดโกงจากกริด  มากพอจะล้มอัศวินสีชาดเชียวหรือ?


    “โอเวอร์เกียร์อะไร?  พูดจาเรื่อยเปื่อย  ช่างเถอะ  เถียงกันต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดขึ้นมา”


    สีหน้าของดูรันดัลเจือความหงุดหงิด


    ชิ!


    มันส่งเสียงไม่พอใจพลางหันหลังหนี


    “แต่จงจำเอาไว้ให้ดี  หากพบกันคราวหน้าแล้วยังกล้าพล่ามไร้สาระต่อหน้าฉันผู้นี้  รับรองได้เลยว่าศีรษะของพวกแกทุกคนจะหลุดจากบ่า”


    สายเลือดองค์ชายซาฮารันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น  มันสมควรถูกราชาจากทุกอาณาจักรมอบความเคารพเท่าเทียมกับองค์จักรพรรดิ


    สำหรับดูรันดัล  ท่าทีสามหาวของกริดคือสิ่งที่มิอาจอภัยได้


    แต่เหตุผลหลักที่มันไม่สั่งตัดหัวกริดในทันที  เนื่องจากสนธิสัญญาระหว่างจักรพรรดิและราชาโอเวอร์เกียร์ยังคงมีผล


    ไม่ว่ากริดจะก่อบาปร้ายแรงเพียงใด  ตัวมันที่เป็นเพียงองค์ชายมิอาจละเมิดการตัดสินใจของจักรพรรดิได้


    ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นกบฏแผ่นดินไปทันที


    ‘ฮุฮุ…ความอดทนของเราในวันนี้จะถูกส่งไปถึงหูท่านพ่อ  แล้วเขาจะไว้วางใจเรามากขึ้น’


    “หึหึ”


    ดูรันดัลภูมิใจในความอดกลั้นของตนมาก  มันเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเปี่ยมสุข


    กริดจ้องมองแผ่นหลังดูรันดัลด้วยสายตาผ่อนคลาย


    เขากำลังโล่งใจ


    ‘คิดว่าองค์ชายจะยิ่งใหญ่กว่านี้  กลับธรรมดากว่าที่คิด’


    ดูรันดัลคือองค์ชายประเภทเย่อหยิ่งจองหองและไร้ความสามารถที่กริดพบได้ทั่วไป


    เขาเคยมองว่าดูรันดัลเป็นตัวตนที่น่าเกรงขาม  เนื่องจากมันสามารถกระตุ้นปราณต่อสู้ให้เดือนพล่านได้  แต่กลับกลายเป็นว่า  กริดนึกกังวลไปเองฝ่ายเดียว


    ดูรันดัลห่างไกลจากผู้เป็นพ่อมาก  ภัยคุกคามอันทรงพลังที่แผ่จากร่างฮวนเดอร์  กริดสัมผัสในตัวดูรันดัลไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยว


    ‘เทียบกับบิดาไม่ติด  ได้แต่หวังว่าองค์ชายที่เหลือจะไม่ต่างกัน’


    กริดสวดภาวนาจากก้นบึงหัวใจ


    เขากังวลว่า  หากผู้สืบทอดฮวนเดอร์คือบุคคลที่ทรงพลังและมีความสามารถ  นั่นจะทำให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์เผชิญความยากลำบากในอนาคต


    “ฝ่าบาท…”


    เมื่อเห็นว่าดูรันดัลลับสายตา  เมอร์เซเดลเริ่มเอ่ยปาก


    เธอค่อนข้างกังวล


    “ฉันได้ยินความกล้าหาญของเซอร์โค้กเมื่อคืนแล้ว  เขาต้องมีอนาคตที่ดีแน่  แต่พรสวรรค์ยังไม่แบ่งบานเต็มที่  เร็วเกินไปที่จะรับมือกับอัศวินสีชาด”


    แน่นอน  เมอร์เซเดสย่อมทราบถึงพลังไอเท็มของกริด

    

    หากประเมินจากดาบและชุดเกราะที่กริดมอบให้เธอ  อัศวินหนุ่มสาวเหล่านี้จะกลายเป็นบุคคลทรงพลังได้ไม่ยาก

    

    ทว่า  ความแตกต่างด้านฝีมือมิใช่สิ่งที่สามารถย่นระยะได้ง่ายขนาดนั้น 


    อัศวินสีชาดคืออัจฉริยะเหนืออัจฉริยะทั้งปวง  ถูกคัดสรรจากตระกูลขุนนางนับหมื่นจากทั่วทั้งจักรวรรดิซาฮารัน  แถมยังต้องผ่านบททดสอบอีกหลายด่าน  


    ไม่เพียงเท่านั้น  พวกมันยังได้รับเศษเสี้ยวของปราณสีชาดเป็นพลังขับเคลื่อน  ส่งผลให้ความเย่อหยิงทรนงมากมายคับฟ้า


    พรสวรรค์เหล่านี้อาจเล็กน้อยสำหรับกริด  แต่กับโค้กแล้วไม่ใช่


    ‘ยิ่งไปกว่านั้น  อัศวินสีชาดยุคใหม่จะได้รับการสอนสั่งจากแกรนมาสเตอร์โดยตรง’


    เมอร์เซเดสทราบดีว่าซูซานเฉลียวฉลาดเพียงใด  และความโอหังของเธอย่อมมีเหตุผลรองรับ


    “ไม่ต้องกังวลไป  ว่าแต่  แกรนมาสเตอร์เป็นใครกัน?”


    “…”


    เมอร์เซเดสจ้องมองกริดด้วยอารมณ์หลากหลาย 


    บุคคลเบื้องหน้าเธอผู้นี้  เขาสร้างอาณาจักรขึ้นจากสองมือของตัวเอง  กลายเป็นราชาวีรบุรุษ  และถูกยอมรับจากจักรพรรดิฮวนเดอร์  ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีป


    กริดคือชายที่ประสบความสำเร็จมากมาย  เขายอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น


    และนั่นคือสาเหตุที่เมอร์เซเดสต้องกังวล


    เธอกลัวว่ากริดอาจมั่นใจเกินเหตุ  จนประเมินสถานการณ์รอบตัวผิดเพี้ยนไป


    เมอร์เซเดสมิได้เก็บซ่อนใบหน้าที่เย็นชาและหม่นหมอง


    “แกรนมาสเตอร์คือบุคคลที่ยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ  ชายคนนั้นเชี่ยวชาญศาสตร์ต่อสู้หลายแขนง  รวมถึงเวทมนตร์และวิชาการ”


    “เชี่ยวชาญศิลปการต่อสู้  เวทมนตร์  และวิชาการ?”


    คำตอบเมอร์เซเดสทำให้กริดผิดคาด


    ‘หมายความว่าเก่งทุกด้านสินะ?’


    กริดไม่ประหลาดใจกับคำว่าเก่งทุกด้านมากนัก  เพราะตัวเขาก็เก่งในทุกด้าน


    ชายหนุ่มครอบครองพลังตีเหล็ก  วิชาดาบ  เวทมนตร์  ตัดเย็บ  และอีกมาก


    ในศาสตร์เหล่านี้  กริดทำได้ดีกว่าผู้เล่นทั่วไปมาก


    ‘แต่เรามิได้บรรลุถึงขั้นสุดยอด’


    ด้านตีเหล็กอาจเรียกว่าเชี่ยวชาญได้เต็มปาก  แต่ไม่ใช่กับวิชาดาบ  เวทมนตร์  และตัดเย็บแน่


    ‘วิชาดาบของเราถูกพันธนาการไว้กับการรำดาบ  จึงถูกเล่นงานในจุดนี้บ่อยครั้ง’


    ส่วนเวทมนตร์ยิ่งแล้วใหญ่  สติปัญญาของเขามีค่าต่ำจนมิอาจร่ำเรียนเวทมนตร์ของบราฮัมได้หมด


    ‘แต่ถึงจะไม่มีดาบ  เราก็ยังใช้ไม้เท้าบีเลียลสังหารศัตรูได้ด้วยเวทมนตร์…’


    กริดครอบครองพลังไอเท็ม  

    พลังสมญานาม  

    และพลังแห่งทักษะ


    ส่วนด้านตัดเย็บ  เขายังอยู่ในความชำนาญระดับกลางเท่านั้น


    ด้วยเหตุนี้  กริดจึงไม่เกรงกลัวบุคคลที่เก่งในทุกด้านแม้แต่น้อย


    ‘เหมือนกับเรา  แกรนมาสเตอร์ต้องเด่นด้านใดเป็นพิเศษ  ส่วนด้านที่เหลือทำได้เพียงพอใช้’


    “ด้วยความสัตย์จริง  ฉันมิได้ใช้คำว่า ‘เชี่ยวชาญ’ อย่างพร่ำเพรื่อ  แกรนมาสเตอร์เก่งฉกาจในทุกด้านอย่างแท้จริง  ฝ่าบาทมิควรประเมินเขาต่ำเกินไป”


    เมอร์เซเดสออกปากเตือน


    กริดขมวดคิ้ว


    “หมายความว่ายังไง  เก่งฉกาจในทุกด้าน?  ใช้ดาบได้ดีกว่าอริยดาบ  ใช้เวทมนตร์เก่งกว่ามหาจอมเวท  และมีภูมิความรู้สูงกว่าจอมปราชญ์งั้นหรือ?”


    “ค่ะ”


    “เห?”


    “อริยดาบในยุคปัจจุบันมีฝีมือดาบด้อยกว่าเขา  มหาจอมเวทมนต์ในยุคปัจจุบันชำนาญเวทมนตร์น้อยกว่าเขา  และหากคำนึงว่าแกรนมาสเตอร์เข้าออกหอสมุดหลวงของจักรวรรดิได้ตามใจชอบ  เขาอาจมีภูมิความรู้ที่สูงกว่าจอมปราชญสติกส์”


    “อะไรกัน…”


    เรื่องอริยดาบสามารถเข้าใจได้  เพราะครอเกลยังเป็นอริยดาบได้ไม่นาน


    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  เรื่องที่ขีดจำกัดของผู้เล่นต่ำกว่า NPC  ไม่แปลกที่ครอเกลจะอ่อนแอกว่าอริยดาบรุ่นก่อน


    สถานการณ์ของมหาจอมเวทก็คล้ายคลึงกัน


    ในยุคปัจจุบัน  ยังไม่มีมหาจอมเวทคนใดก้าวขึ้นเป็นตำนานได้สำเร็จ


    ไม่แปลกที่แกรนมาสเตอร์จะแข็งแกร่งกว่าคนเหล่านี้


    แต่กริดมิอาจยอมรับให้แกรนมาสเตอร์มีภูมิปัญญาเหนือสติกส์


    เมอร์เซเดสยังกล่าวต่อไป


    “หากแกรนมาสเตอร์ถูกมอบหมายให้ดูแลวังหลวง  ฉันกล้ารับประกันว่าแผนของจอมอสูรอัสทารอธจะถูกทำลายในพริบตา  และหากแกรนมาสเตอร์อยู่ในวังหลวงวันที่อัสทารอธอาละวาดด้วย…”


    “หากมันอยู่ที่นั่น…?”


    “อัสทารอธจะกลายเป็นเศษขี้เถ้าก่อนได้อัญเชิญเขตแดนสายฟ้าอสูรแน่นอน”


    เพราะการมีตัวตนของแกรนมาสเตอร์  เหล่าองค์ชายซาฮารันจึงไม่หวาดกลัวต่อจอมอสูรหรือตำนานหน้าไหน


    และสอดคล้องกับสิ่งที่ราชาจอมเวทเคยกล่าวไว้


    “ราชาไร้พ่ายคือบุคคลเดียวในโลกที่สามารถต่อกรกับแกรนมาสเตอร์อย่างสูสี  ในวินาทีที่แกรนมาสเตอร์เปิดเผยตัวตนสู่โลกภายนอกและจารึกการกระทำลงบนประวัติศาสตร์  ตำนานคนใหม่ของโลกจะถือกำเนิดทันที”


    “…”


    กริดเงียบงันเป็นเวลานานหลังจากได้ยินคำอธิบายจากเมอร์เซเดส

    

    เมื่อเห็นว่ากริดเริ่มตื่นตัว


    “ฝ่าบาทไม่ควรมองอัศวินสีชาดรุ่นใหม่เป็นเพียงตัวตลก  คนเหล่านั้นถูกสอนสั่งโดยแกรนมาสเตอร์โดยตรง”


    ชายหนุ่มยักไหล่เล็กน้อย


    “เมอร์เซเดส  เธอเข้าใจผิดไปหนึ่งเรื่อง”


    “เข้าใจผิด?”


    “ฉันไม่เคยมองอัศวินสีชาดเป็นตัวตลก”


    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น  


    อัศวินสีชาดคือบ่อเกิดของอัศวินในตำนาน ‘เมอร์เซเดส’  และอัศวินสีชาดรุ่นใหม่ยังแข็งแกร่งกว่าเดิมจากปัจจัยที่คาดไม่ถึง


    “ฉันแค่มั่นใจว่าไอเท็มของตัวเองทรงพลังมากกว่า”


    “…?”


    ขณะเดียวกัน


    “โฮ่…!  พวกเราคอยอยู่นานแล้ว  ท่านราชาโอเวอร์เกียร์!”


    ขณะเดินไปคุยไป  กลุ่มของกริดก็มาถึงห้องรับประทานอาหาร


    ชายหนุ่มทำตามคำแนะนำของสภาอาวุโส  พวกเขาเดินมายังโต๊ะอาหารที่ถูกจัดเตรียมอย่างหรูหราและยิ่งใหญ่  อยู่ไม่ห่างจากโต๊ะขององค์ชายซาฮารันมากนัก


    ดูรันดัลแสดงสีหน้าหงุดหงิดชัดเจน

    

    มันไม่เข้าใจเลยสักนิดว่า  เหตุใดสภาอาวุโสถึงต้องคอยเอาอกเอาใจกริดขนาดนี้


    … 


    ‘เฮ่อ…น่าเบื่อชะมัด  ฉันคือช่างตีเหล็กนะเฟ่ย!’


    ถึงจะมีสมญานามมากมายประกอบต่อท้าย  ทั้งราชาวีรบุรุษ  มหาจอมเวท  หรือกษัตริย์คนแรก  แต่ทั้งหมดเป็นเพียงตัวตนรอง


    ชาติกำเนิดของเขาคือช่างตีเหล็กในตำนาน  กริดได้แต่หวังว่าการรับประทานอาหารแสนน่าเบื่อจะจบลงโดยไว


    เขาต้องการจับค้อน  ต้องการชำระล้างดาบศักดิ์สิทธิ์เดี๋ยวนี้!


    …


    ณ ยามเย็น  


    “พร้อมรึยัง?”


    “อื้อ”


    หลังจากตระกูลราชวงศ์ทั้งหมด  รวมถึงดูรันดัล  เดินทางกลับออกจากวาติกัน


    กริดรีบตรงไปยังโรงเหล็กขนาดกระทัดรัดในวาติกันทันที


    ดาบศักดิ์สิทธิ์อับแสงลงจากเช้าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด


    ความเร็วของกระบวนการแข็งเป็นหินจาก ‘ศิลาแห่งบาปต้นกำเนิด’ รุนแรงกว่าที่กริดคิดไว้


    “แยกส่วนไอเท็ม!”


    ก่อนอื่น  เขาต้องเพิ่มค่าความเข้าใจไอเท็มให้กลายเป็น 100% 


    แม้จะเห็นดาบศักดิ์สิทธิ์ถูกแยกส่วนเบื้องหน้า  แต่ดาเมี่ยนก็มิได้หวาดหวั่น


    เขาเชื่อใจกริดเหนือสิ่งอื่นใด


จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 881


    ซาทิสฟายมีระบบความเข้าใจในไอเท็ม


    กริดสามารถทำให้ค่าตรงนี้กลายเป็น 100% ได้โดยการอ่านรายละเอียด  ใช้งาน  แยกส่วน  และประกอบกลับไปใหม่


    เมื่อค่าความเข้าใจครบ 100%  เขาจะได้รับสูตรผลิตไอเท็มชิ้นนั้นติดตัว


    “แยกส่วนไอเท็ม”


    กริดมีแผนจะเพิ่มค่าความเข้าใจก่อนชำระล้างดาบศักดิ์สิทธิ์

    

    ยิ่งเข้าใจรายละเอียดมาก  คำบอกใบ้ภารกิจก็ยิ่งปรากฏง่ายขึ้น


    ‘บางที  ไอเท็มชิ้นนี้อาจเพิ่มค่าความเข้าใจได้ไม่ถึง 100%’


    เพราะเหตุน่ะหรือ?


    เหตุผลคือ  ดาบศักดิ์สิทธิ์คือสัญลักษณ์ของรีเบคก้า—เทพธิดาแห่งแสง  รวมถึงเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนสันตะปาปาแห่งโบสถ์รีเบคก้า  ศาสนาอันดับหนึ่งบนทวีปตะวันตก 

    

    ถือเป็นข้อยกเว้นพิเศษแม้จะมีเกรดมิธเหมือนกับไอเท็มอื่นที่กริดครอบครอง  ในทางทฤษฏีแล้ว  มนุษย์ไม่น่าจะเข้าใจไอเท็มจากเทพได้อย่างถ่องแท้  100%  ไม่ใช่ไอเท็มเกรดมิธทุกชิ้นในเกมจะเท่าเทียมกัน


    ไม่เพียงแตกต่าง  แต่ไอเท็มเกรดมิธแต่ละชนิดจะมีความหมายและเรื่องราวแฝงไว้เบื้องหลังเสมอ


    สาเหตุหลักที่กริดมองว่าตัวเขาคงมิอาจเพิ่มค่าความเข้าใจเป็น 100% ได้  เพราะดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้คือไอเท็มภารกิจ    


[ ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน ]

เกรด : มิธ

    ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งมวลมนุษย์

    เดิมที  มันเคยถูกผนึกไว้ในศิลาแห่งบาปต้นกำเนิด  แต่ผู้สืบทอดแพ็กม่า—กริด  ได้สลายคำสาปเป็นการชั่วคราว 

    ดาบเล่มนี้ยังไม่หลุดพ้นจากคำสาปโดยสมบูรณ์  ศิลาแห่งบาปต้นกำเนิดกำลังผนึกมันกลับไปอีกครั้ง


    ขณะที่กริดทำภารกิจ ‘เส้นกั้นแบ่งระหว่างดีชั่ว’  ชื่อของดาบศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นเพียง ‘ดาบปักในหิน’


    ไม่มีรายละเอียดไอเท็มระบุไว้  เช่นพลังโจมตี  ค่าความคงทน  หรือออปชั่น


    มีเพียงรายละเอียดสั้นและเรียบง่าย


    ขณะกริดเห็นดาเมี่ยนสยบอลิเบิร์นได้ในการโจมตีเดียว  เขาจึงมั่นใจว่า… 


    ‘ดาบศักดิ์สิทธิ์คือไอเท็มภารกิจ  ไม่มีทางนำออกมาใช้ในฐานะไอเท็มธรรมดาได้’


    ไอเท็มภารกิจจะมีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเหนือจินตนาการ  แต่สามารถใช้ได้เฉพาะเหตุการณ์พิเศษที่ตรงตามเงื่อนไขเท่านั้น  มิอาจนำไปใช้ในเหตุการณ์ปรกติทั่วไปได้


    ด้วยเหตุนี้  ต่อให้เป็นช่างตีเหล็กในตำนาน  แต่ก็ไม่มีทางครอบครองสูตรผลิตไอเท็มภารกิจแน่  ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ไม่มีวันถูกสร้างขึ้นในปริมาณมาก


    ‘ในการจะรักษาความเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาไว้  ระบบต้องไม่ยอมให้มีค่าความเข้าใจ 100% แน่’


    แต่สำหรับกริดแล้ว   99.99% ก็ยังดี


    ถึงจะไม่ได้รับสูตรผลิต  แต่ฟังก์ชั่นลับหรือคำบอกใบ้ต้องปรากฏออกมาแน่


    ‘ขอแค่ได้รับคำบอกใบ้เพื่อชำระล้าง’


    ก่อนอื่น  เขาต้องมองให้ออกว่าคำสาปทำงานอย่างไร


    เมื่อตัดสินใจได้  ชายหนุ่มออกแรงทุบค้อนในมือทันที


    เคร้งง— 


    ของวิเศษประจำศาสนาถูกกริดทุบโดยปราศจากความลังเล


    ฉากตรงหน้าอาจทำให้สาวกรีเบคก้าหลายล้านของโบสถ์เกิดความเดือดดาล


    แต่ปัจจุบัน  มีเพียงดาเมี่ยนผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์  เขาเฝ้ามองกริดอย่างเงียบงัน


    เคร้ง!  เคร้ง!


    แคร้งงงง— 


    ไม่ว่ากริดจะใช้เครื่องมือใดกระทำต่อดาบศักดิ์สิทธิ์  ความกังวลหรือหวาดหวั่นมิได้ปรากฏบนใบหน้าดาเมี่ยนแม้แต่น้อย


    แม้กระทั่งการโยนดาบเข้าเตาหลอมที่เปลวเพลิงลุกโชนร้อนระอุ


    สันตะปาปาดาเมี่ยนเฝ้ามองกริดด้วยความเชื่อใจเป็นล้นพ้น


    และอันที่จริง  ดาเมี่ยนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อใจกริด    


    สาเหตุหลักที่เขาวางใจ  เพราะดาเมี่ยนเคยเห็นกริดแยกส่วนและประกอบหอกไลฟาเอลนับครั้งไม่ถ้วนขณะทำภารกิจช่วยเหลืออิสซาเบลก่อนหน้านี้


    ‘แต่ว่า…’


    ผ่านไปแล้วสามสิบนาที


    ดาเมี่ยนเริ่มแสดงความกังวลในแววตาเป็นครั้งแรก


    หลังจากกริดนำดาบออกจากเตาหลอม  แทนที่รูปลักษณ์ของดาบจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยหรือเริ่มระลาย  มันกลับยังคงสภาพเดิมไว้ทุกประการ


    ‘เราตาฝาดรึเปล่า?  ทำไมดูเหมือนไม่มีความคืบหน้าเลย…’


    ตนไม่น่าจะเข้าใจผิด


    'มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล'


    ความกังวลของดาเมี่ยนนั้นถูกต้อง


    “แฮ่ก…แฮ่ก  บ้าจริง!”


    กริดสบถอย่างหัวเสียขณะเร่งอุณหภูมิเตาหลอมด้วยเครื่องเป่าลม


    เขาใกล้คลุ้มคลั่งเต็มที


[ ท่านไม่สามารถหาจุดหลอมเหลวของวัสดุหลักที่ใช้สร้างไอเท็มเป้าหมาย ]

[ การหลอมล้มเหลว ]


[ ท่านไม่สามารถหาจุดเชื่อมต่อโลหะของไอเท็มเป้าหมาย ]

[ การแยกส่วนล้มเหลว ]    


    ‘ทำไมค่าความเข้าใจถึงไม่เพิ่มขึ้นเลย?’


    ต่อให้เป็นไอเท็มเกรดมิธ  แต่กริดมั่นใจว่า  หากตนหมั่นแยกส่วนและประกอบใหม่อย่างต่อเนื่อง  ค่าความเข้าใจต้องเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย


    แต่ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้กลับพิเศษ


    ถึงกริดจะแยกส่วนและประกอบใหม่มานานกว่าครึ่งชั่วโมง  แต่ค่าความเข้าใจไอเท็มกลับค้างคาอยู่ที่ 7% เท่านั้น


    ‘เราไม่ได้หวัง 100%  ขอแค่ 99.9% ก็พอ  เราต้องการเพียงสำเร็จภารกิจ’


    ขั้นตอนการลงมือของกริดไม่มีสิ่งใดผิดพลาด


    ‘ใจเย็นก่อน  ถ้าเราพยายามต่อไป  มันอาจเพิ่มขึ้นได้อีก’


    หนึ่งในพรสวรรค์ที่หล่อหลอมให้กริดมีวันนี้ได้—ความหมั่นเพียร


    แทนที่จะหงุดหงิดหรือหมดกำลังใจ  กริดกลับระงับอารมณ์พลางเพ่งสมาธิเพื่อแยกส่วนอีกครั้ง


    หากค่าความเข้าใจไม่เพิ่มหลังจากแยกส่วนสิบครั้ง  กริดก็จะทำเพิ่มอีกสิบ

    หากค่าความเข้าใจไม่เพิ่มหลังจากแยกส่วนยี่สิบครั้ง  กริดก็จะทำเพิ่มอีกยี่สิบ

    หากค่าความเข้าใจไม่เพิ่มหลังจากแยกส่วนสามสิบครั้ง  กริดก็จะทำเพิ่มอีกสามสิบ


    เขาต้องทำต่อไปจนกว่าจะได้ผลลัพธ์


    …  


    “แฮ่ก  แฮ่ก!  แค่ก!  แฮ่ก… 


    กริดเริ่มเห็นภาพหลอนขณะก้มหน้าแยกส่วนดาบด้วยท่อนแขนที่อ่อนล้า


    ช่างตีเหล็กคือคลาสชนชั้นแรงงานที่สิ้นเปลืองเรี่ยวแรงมาก  เขารู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะตาย


    ‘ข่าน  ผมจะได้ไปหาลุงแล้วสินะ…’


    “—ริด!  กริด!!”


    “…เฮ้ย!”


    กริดที่ลิ้นห้อยออกจากปากเหมือนกับสุนัขหอบแดด  ยามนี้เริ่มได้สติกลับมา


    มีบางสิ่งดังแว่วอยู่ข้างหู


    เขาหยุดมือกลางคันพลางกวาดสายตามองรอบโรงเหล็ก  แล้วก็ได้พบดาเมี่ยนที่ยืนมองด้วยสีหน้ากังวล


    “พักก่อนไหม?”


    “ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?”


    เดิมที  กริดมักใช้เวลาหลายวันในการสร้างไอเท็มแต่ละชิ้น


    คงผ่านไปแล้วสองถึงสามชั่วโมงกระมัง  นับตั้งแต่ที่ตนเริ่มแยกส่วนดาบศักดิ์สิทธิ์… 


    “หือ?”


    ขณะจ้องมองดาเมี่ยน  กริดพลันต้องขมวดคิ้ว


    หน้าต่างบานด้านหลังดาเมี่ยนกำลังส่องแสงอาทิตย์เจิดจ้า  บ่งบอกถึงช่วงเวลากลางวัน


    “นี่ฉันทำงานทั้งคืนเลยหรือ?”


    “เลยยามบ่ายแล้ว  นายทำงานต่อเนื่องนาน 15 ชั่วโมง”


    “อะไรนะ?”


    ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองชั่วโมงรึไง?


    กริดเริ่มเย็นสันหลัง


    ‘เราเข้าสู่ภาวะไร้ตัวตน?’


    หมายความว่า  เขาสิ้นเปลืองสมาธิและเรี่ยวแรงเป็นจำนวนมาก


    แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับใกล้เคียงศูนย์


    หลอดค่าความเข้าใจยังคาอยู่ที่ 7% เช่นเดิม


    “ได้ยังไง…”


    กริดเริ่มสิ้นหวัง  เป็นความสิ้นหวังจากก้นบึ้ง


    นี่คือหนแรกอย่างแท้จริง  ที่การลงแรงในโหมดไร้ตัวตนของกริดต้องสูญเปล่า


    ‘บ้าจริง!’


    เขายืนจ้องดาบศักดิ์สิทธิ์บนทั่งเหล็ก    


    ทั้งที่ตนสูญสิ้นทุกสิ่งเช่นนี้  แต่มันกลับยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์  กริดไม่ชอบใจเสียเลย


    ดาเมี่ยนถอนหายใจ


    “ว่ากันว่า  ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้สร้างจากแร่พิเศษซึ่ง ‘เฮ็กเซเทีย’ เทพแห่งการตีเหล็กหลอมขึ้นกับมือ  เป็นโลหะจากดินแดนเทพ  บางทีอาจยากเกินไปสำหรับนาย”

    

    “อะไรนะ?  เฮ็กเชี่ยไรนะ?”


    ชิ้ง—  


[ ท่านได้รับรู้เรื่องราวของ ‘เฮ็กเซเทีย’ เทพตีเหล็ก ]

[ ค่าสติปัญญาเพิ่มขึ้น 10 แต้ม  ค่าประสบการณ์ทักษะตีเหล็กทุกชนิดเพิ่มขึ้น 2% ]


    “…เอ๋?”


    ในบางครั้ง  ความรู้คือพลังอันยิ่งใหญ่


    นั่นคือเหตุผลหลักที่ผู้คนพยายามอ่านตำราให้มากที่สุด  จากหอสมุดหลวงอาณาจักรหรือหอสมุดของแต่ละเมือง


    กริดแสดงสีหน้าสับสนเมื่อตนได้รับโบนัสล้ำค่า  หลังจากได้ยินชื่อเทพตีเหล็กเป็นหนแรก


[ ท่านค้นพบผู้สร้าง ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน’ ]

[ ค่าความเข้าใจใน ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน’ เพิ่มขึ้น 5% ]


[ ท่านได้รับคำบอกใบ้ถึงโลหะที่ใช้สร้าง ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน’ ]

[ ค่าความเข้าใจใน ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน' เพิ่มขึ้น 7% ]


    ข้อความระบบแสดงขึ้นอย่างต่อเรื่อง


    “…อา”


    กริดส่งเสียงครางจากลำคอ


    เขากำลังมีความสุขงั้นหรือ?  


    ไม่เลยสักนิด!  กริดกำลังข่มโทสะอันเดือดดาลมิให้ปะทุออก


    ชายหนุ่มหันไปแสยะยิ้มชั่วร้ายใส่ดาเมี่ยน


    “โลหะที่ใช้สร้างดาบศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?”


    “ได้ยินมาว่าเป็น ‘ศิลาศักดิ์สิทธิ์’  อย่างที่เคยบอกไป  เทพตีเหล็กเฮ็กเซเทียเป็นผู้หลอมโลหะชนิดนี้ด้วยตัวเอง”

    

    ชิ้ง— 


[ ท่านได้รับข้อมูลโลหะชนิดใหม่ ]

[ ภูมิความรู้และเทคโนโลยีการตีเหล็กของท่านกำลังแผ่ขยาย ]


[ ท่านทราบถึงโลหะที่ใช้ในการสร้าง ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน’ ]

[ ค่าความเข้าใจใน ‘ปฐมดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังกลายเป็นหิน’ เพิ่มขึ้น 15% ]


    “…”


    ตั้งแต่เด็กจนโต  มีเรื่องน่าอับอายมากมายที่กริดเคยกระทำและไม่ต้องการพูดถึงมันอีก  ดังเช่นการนอนบนเตียงและใช้ขาถีบผ้าห่มเล่น

    

    ประสบการณ์ตะขิดตะขวงใจเคยเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน  หนึ่งในครั้งสำคัญคือวันที่กริดได้รับวิชาดาบแพ็กม่า


    เขาพยายามรำดาบตามท่วงทาในภาพวาดบนผนังถ้ำหิน… 


    ซึ่งนั่นมัน… 


    “เชี่ย!  ค**เอ้ย!”


    ชายหนุ่มสบถคำหยาบสุดโต่งครั้งแรกหลังจากไม่ได้พูดมานาน(?)


    เขาลืมเสียสนิทว่าภารกิจในคราวนี้  ผู้ว่าจ้างคือผู้เล่นด้วยกันเอง  หาใช่ NPC เหมือนกับทุกครั้ง


    ‘เราลืมสอบถามข้อมูลจากผู้ว่าจ้าง…’


    กริดทั้งอับอายและโมโหที่ตนปล่อยเวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์


    ‘…ไม่ใช่ความผิดเราสักหน่อย  เจ้าบ้าดาเมี่ยนต่างหากที่ควรให้ข้อมูลตั้งแต่ต้น!’


    ขณะกริดยืนกำหมัดพลางสั่นระริก… 


    “นายไม่ต้องเสียใจไป  บางครั้งเรื่องราวก็ไม่ดำเนินไปตามที่ใจคิด  พักผ่อนหรือทานอาหารก่อนไหม?  ค่อยกลับมาทำงานใหม่ตอนที่สมองโล่ง”


    ดาเมี่ยนกล่าวแนะนำด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่น


    ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่ากริดกำลังเดือดดาลและเพ่งความโกรธใส่ตน


    “ฮ้าววว—หิวจังเลย  อิสซาเบลจังรอกินข้าวกับเราอยู่รึเปล่านะ?”


    ขณะดาเมี่ยนก้าวขาออกจากโรงเหล็กด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว


    “หยุดก่อน”


    กริดส่งเสียงสั้นห้วน  เขาเริ่มแผ่จิตสังหารใส่ดาเมี่ยนผู้ไร้เดียงสา


    “…?”


    “นายต้องนั่งดูฉันทำงานจนกว่าจะเสร็จ  ลืมเรื่องกินข้าวไปได้เลย”


    “หา?”


    “นั่งลงแล้วคายข้อมูลทั้งหมดที่รู้ออกมาเดี๋ยวนี้!”


    “ต…แต่ว่า”


    “มันใช่เวลาแดกรึไง?”


    “…?”


    ทำไมกริดต้องโกรธขนาดนี้?  


    ดาเมี่ยนขมวดคิ้วฉงน  จนกระทั่งเขาเริ่มฉุกคิดได้


    ‘กริดไม่ได้โกรธ  เราต่างหากที่คิดตื้นไป!’


    ในเมื่อดาบศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ถูกคลายคำสาป  แล้วสันตะปาปาอย่างตนจะทิ้งให้แขกพิเศษทำงานหนักเพื่อแกปัญหาตามลำพัง  และออกไปกินข้าวสบายใจได้อย่างไร?  


    สาวกโบสถ์ต้องผิดหวังแน่หากทราบเรื่องนี้


    ทุกคนคงนินทาว่าตนเป็นสันตะปาปาไม่ได้เรื่อง  ที่เลือกกินข้าวโดยปล่อยให้ช่างตีเหล็กในตำนานแก้ปัญหาของโบสถ์แทน


    ดาเมี่ยนจะสูญเสียคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสมัยต่อไป  และนั่นอาจเป็นจุดจบของตำแหน่งสันตะปาปา


    ‘ม…ไม่น่าเชื่อ!’

        

    ดวงตาดาเมี่ยนเริ่มเปียกซึม


    เขารู้สึกติดหนี้บุญคุณกริดเป็นทวีคูณ  ดาเมี่ยนเทิดทูนบูชากริดยิ่งกว่าเก่า


    “เป็นอีกครั้งที่นายช่วยเหลือฉันและสอนบทเรียนล้ำค่า!  สมกับ…สมกับเป็นก็อดกริดซามา!!”


    “เป็นบ้าอะไรของนายอีก?”


    “นายใจกว้างดุจดั่ง…มหาสมุทร!!”


    “…”


    เป็นที่แน่ชัดแล้ว  รอบตัวกริดไม่มีใครปรกติแม้แต่คนเดียว


    ชายหนุ่มสลัดความปัญญาอ่อนของดาเมี่ยนทิ้งไป  เขาโยนดาบศักดิ์สิทธิ์เข้าเตาหลอมอีกครั้ง


    การถลุงที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้น


    ไม่ใช่ความล้มเหลวเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,272
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. 555 สนุกมากครับ ได้อ่านแล้ว 2 ตอนลวด 🙏นอนหลับสบายแล้วคืนนี้ นอนหลับฝันดีสาวกก็อดกริด

    ReplyDelete
  2. ✌️สองตอนๆ
    ได้อ่านยาวๆอีกแล้ว😁
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete
  3. ก๊อดกิดซามา!! 555+😂😂😂

    ReplyDelete
  4. เอ็งก็ไม่ปกติเหมือนคนรอบข้างแหละกริด5555555555

    ReplyDelete
  5. ความเข้าใจผิดมักเป็นไปในทางที่ดีสำหรับกริดเสมอ 😫😫

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00