จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 874



    ไอรีนผู้กำลังมีใบหน้าแดงก่ำ  กริดสัมผัสแก้มเธอด้วยฝ่ามือแสนอ่อนโยน  ราวกับกำลังจับต้องสมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิต    


    “ฉันภาวนาให้เธอปลอดภัยตลอดทาง  ขอบคุณสวรรค์ที่เธอไม่เป็นอะไร”


    “คุณคะ…”


    ทั้งสีหน้า  ท่าทาง  และคำหวานที่กริดมอบให้  ทุกสิ่งผสานกันจนไอรีนรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก  


    ใบหน้าของเธอกำลังแดงระเรื่อ


    “คุณต้องจินตนาการไม่ออกแน่  ว่าฉันมีความสุขแค่ไหนที่คุณมาถึงทันเวลา…”


    หากไอรีนตกที่นั่งลำบากตามลำพัง  เธอคงไม่รู้สึกยินดีเลยสักนิดถ้ากริดต้องละทิ้งผู้คน  อาณาจักร  และเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอเพียงคนเดียว


    แต่เหตุการณ์ปัจจุบันมิได้เป็นเช่นนั้น  


    ที่นี่ยังมีลอร์ด—บุตรชายคนสำคัญของพวกเขา  ยังมีขุนพลผู้ซื่อสัตย์ที่ยอมสละชีพเพื่ออาณาจักรอย่างชักสเล่ย์  คาซิม  และเหล่าอัศวินหนุ่มสาวที่เป็นความหวังของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


    ไอรีนดีใจที่กริดสามารถช่วยทุกคนไว้ได้ทันเวลา  ไม่เฉพาะเธอ


    “วันแรกที่เราได้พบกัน  ตอนนั้นคุณก็กำลังต่อสู้เพื่อผู้อื่น”


    ไอรีนย้อนความจำ


    สมัยนั้น  เธอยังเป็นเพียงบุตรสาวคนโตของเอิร์ลแห่งอีเทอนัล  และกริดคือชายนิรนามที่ตอบรับคำขอของโดรันเพื่อช่วยเหลือคนแปลกหน้าเธอ


    “ฉันเพิ่งทราบความจริงหลังจากถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองวินสตัน…”

    

    ไอรีนยังได้ทราบวีรกรรมอันกล้าหาญของกริดที่ช่วยกำจัดบริษัทเมโร่ร่วมกับช่างตีเหล็กที่ชื่อข่าน 


    จากนั้น  เธอถูกมาลาคัสจับตัวไป  และได้กริดเป็นผู้ช่วยเหลือออกมาอีกหน


    กริดยังทำเพื่อผู้อื่นอีกหลายครั้ง  ทั้งเหตุการณ์โกเล็มรุกรานไรน์ฮาร์ท  ชุบชีวิตชาวเมืองเรย์ดันขึ้นใหม่  เดินทางไปยังทวีปตะวันออกเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองแพงเจียทั้งสองแสนห้าหมื่นคนให้พ้นภัยจากการรุกรานของเจียงซือ  และอีกมากมาย

    

    กริดใช้ชีวิตเพื่อผู้อื่นมาตลอด  

    นี่คือตัวตนของกริดในสายตาไอรีน


    “ฉันดีใจที่ได้เป็นภรรยาคุณ”


    ใบหน้าของไอรีนกำลังเขินอาย


    “อะแฮ่ม”


    กริดเหงื่อตก  เขากระแอมด้วยสีหน้าเคอะเขิน  ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่ไอรีนเข้าใจผิดว่าตนคือคนดี  


    การกระทำในอดีตส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ  แต่เป็นการตกกระไดพลอยโจน  


    หากวันใดที่เธอรู้ความจริงเข้า  เขาไม่อยากจินตนาการว่าไอรีนจะรู้สึกผิดหวังมากเพียงใด


    ราวกับไอรีนอ่านความคิดกริดออก  เธอใช้ใบหน้าซุกไซร้แผ่นออกกริดพลางกล่าวปลอบประโลม


    “ฉันอยากให้คุณรับรู้ไว้ว่า  ต่อให้คุณไม่ใช่วีรบุรุษ  ฉันก็จะรักคุณไม่เปลี่ยน”


    เธอตระหนักดีว่า  แสงสว่างเจิดจ้าจากดาบที่กลืนกินความมืดเมื่อครู่มิใช่แสงธรรมดา


    ไอรีนยังคงรักกริดเช่นเดิม  แม้ว่ากริดจะเลือกละทิ้งทุกคนและเดินบนเส้นทางครึ่งเทพแสนชั่วร้าย


    “คุณคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตฉัน”


    ไอรีนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและไม่สั่นคลอน  

    

    กริดกำลังอิ่มเอมใจ


    “ไอรีน…”


    เฉกเช่นไอรีน  กริดเกิดความผูกพันธ์อย่างหาที่สุดมิได้ในยามจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ

    

    ไม่มีสิ่งใดต้องกล่าวให้มากความ  ทั้งสองเริ่มจุมพิตอย่างดูดดื่มโดยไม่สนสายตาคนรอบข้าง


    แน่นอนพวกเขายังไม่ลืมลอร์ด—ผลผลิตจากความรักที่เกิดขึ้น


    มือของไอรีนและกริดคนละข้างยังคงโอบกอดลอร์ดอย่างอบอุ่น


    “ท่านพ่อ…ท่านแม่”


    บิดาและมารดาที่ต่างเป็นคนสำคัญของกันและกันเหนือทุกสิ่ง  เหตุการณ์ตรงหน้าส่งผลด้านบวกกับลอร์ดตัวน้อยอย่างมาก

    

    ในวันนี้… 

    ลอร์ดได้บรรลุสัจธรรมสำคัญหลายข้อ


- ลอร์ดได้เรียนรู้ความสำคัญของการอดทนอดกลั้น  มิให้โทสะเข้าครอบงำจิตใจ  ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาที่ร้ายแรงตามมาเช่นคาซิม

- ลอร์ดได้ตระหนักถึงความจงรักภักดีของเหล่าองครักษ์ที่คิดปกป้องตนและมารดาโดยไม่ห่วงชีวิตตัวเอง

- ลอร์ดเริ่มเข้าใจหน้าที่ของผู้ปกครอง

- ลอร์ดได้ประจักษ์สติปัญญาและความรักอันยิ่งใหญ่ของมารดา

- ลอร์ดได้ประจักษ์ความน่าเกรงขามและคุณธรรมของสันตะปาปาดาเมี่ยน

- ลอร์ดได้ตระหนักถึงความไร้พลังของตัวเอง


    และ… 


    ‘ความแข็งแกร่งของท่านพ่อ  รวมถึง…’


    สายตาลอร์ดเหลือบมองโครงกระดูกที่ยืนห่างออกไปไม่ไกล


    ซึ่โครงของมันหักหลายท่อน  กระโหลกมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่


    ลิชมูมัด


    ‘…ความเศร้า’


    เพราะลอร์ดยังเด็กงั้นหรือ?  เขาถึงมองเห็นความเศร้า  ความสำนึกอดีต  และความเกลียดชังปริมาณมหาศาลในยามที่แอ็กนัสจ้องมองตนและมารดา  


    ส่วนบุคคลที่มีแววตาอัดแน่นด้วยความเจ็บปวดมากที่สุดคงหนีไม่พ้นมูมัด


    ลอร์ดได้เรียนรู้ว่า  ทุกคนสามารถมีบาดแผลทางจิตใจที่รักษาไม่หาย  


    เฉกเช่นอาจารย์คาซิมผู้ใจเย็นที่โกรธแค้นจักรวรรดิจนหลงลืมตัว  และมารดาของตนที่หวาดกลัวข้ารับใช้ยาธานอย่างไร้เงื่อนไข    


    ‘เราต้องเติบโตเป็นบุคคลที่ช่วยเยียวยาแผลใจให้ผู้อื่น’


    นี่คือเส้นทางที่ลอร์ดเลือก

    

    องค์ชายตัวน้อยเริ่มเปลี่ยนความคิดหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายที่ตนเผชิญอย่างใกล้ชิด


    หากทางเดินของบิดาคือการต่อตั้งอาณาจักรและปกป้องรักษาไว้  เป็นทางเดินแห่งผู้พิทักษ์  


    เช่นนั้นแล้ว  ลอร์ดจะเลือกเดินบนเส้นทางที่คอยชดเชยในสิ่งที่ผู้อื่นขาดหายไป  


    ‘เราจะเปลี่ยนบุคคลที่แข็งแกร่งให้เป็นพวกพ้องของท่านพ่อ’


    ลอร์ดมั่นใจว่าตัวเองทำได้แน่  

    

    เขามีทั้งราชันย์เงาคาซิม  สันตะปาปาดาเมี่ยน  อริยดาบครอเกล  และชาวนาในตำนานปิอาโร่เป็นอาจารย์คอยสอนสั่ง  


    ลอร์ดไม่เคลือบแคลงว่าตนสามารถเติบโตเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ได้


    ความไร้พลังในวันนี้  เขาต้องรีบก้าวข้ามให้ได้โดยเร็วที่สุด    


    ‘เราต้องแข็งแกร่งกว่านี้ให้ได้!’


    แล้วสักวัน  เขาจะได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้เป็นบิดา    


    ‘เราต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อท่านพ่อ’


    หากเป็นราชวงศ์อื่น  องค์ชายมักหาโอกาสขึ้นครองบัลลังก์  ส่วนราชามักคอยหวาดระแวงพฤติกรรมน่าสงสัยขององค์ชาย


    เป็นความจริงที่น่าเศร้า


    ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง  ราวกับตระกูลราชวงส์มีชะตากรรมต้องถูกสาป  พวกเขาไม่มีวันได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสันต์เหมือนครอบครัวชาวบ้านทั่วไป


    เป็นความสัมพันธ์ที่โหดร้ายเหมือนกับสิงโตเฒ่าจ่าฝูง  และสิงโตหนุ่มที่รอวันขึ้นครองอำนาจแทน


    ใช่แล้ว  


    การลั่นวาจาสาบานขององค์ชายตัวน้อยในวันนี้  คือเหตุการณ์แสนสำคัญที่ประวัติศาสตร์ทวีปตะวันตกจะจารึกไปอีกแสนนาน


    หลังจากจุมพิตไอรีนเสร็จ  กริดหันมามองทางลอร์ดด้วยสายตาเอ็นดู


    จากนั้น  ใบหน้าพลันบิดเบี้ยว


    ‘ไอ้ระยำนั่นยัง…!’


    กริดเหลือบเห็นลิชมูมัดที่ยืนมองมาทางตนด้วยสายตาเหม่อลอย


    เขาไม่สนว่ามูมัดสมัยยังมีชีวิตอยู่จะเป็นคนเช่นไร  แต่ลิชมูมัดในปัจจุบันคือมือและเท้าของแอ็กนัส


    ในมือแอ็กนัสคือศัตรู  ดังนั้นลิชมูมัดจึงเป็นภัยคุกคามที่เขามิอาจมองข้าม


    “แอ็กนัส!  โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!”


    เสียงกริดคำรามดังขึ้นพร้อมกับแสงอาทิตย์แรกของท้องฟ้ายามย่ำรุ่ง


    ชายหนุ่มชักดาบอัสนีฯ พลางปรี่เข้าหาลิชมูมัดที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

    

    “ท่านพ่อ!  โครงกระดูกตนนั้นไม่ใช่ศัตรู!”

    

    “คุณคะ…เขาช่วยพวกปกป้องเราไว้!”


    ทั้งสองรีบตะโกนห้าม  แต่กริดเข้าประชิดตัวมูมัดเรียบร้อยแล้ว    


    ยิ่งไปกว่านั้น  เขายังไม่วางใจแม้จะได้ยินคำบอกอธิบายจากสองแม่ลูกเต็มสองรูหู


    มูมัดช่วยไอรีนและลอร์ดไว้งั้นหรือ?

    

    กริดมิอาจทางหาเหตุผลรองรับการกระทำนี้ได้เลย    ไอรีนและลอร์ดต้องเข้าใจบางสิ่งผิดไปแน่


    ดาบอัสนีฯ ฟันปะทะบาเรียคุ้มกายรอบตัวมูมัด


    กำแพงด้านหลังที่เป็นรูโหว่อยู่ก่อนแล้ว  ยามนี้พังครืนจนไม่เหลือเค้าเดิมเมื่อเพลิงทมิฬระเบิดออก  


    แต่บาเรียรอบตัวมูมัดยังไม่สลายไป


    “เจ้านายแกอยู่ที่ไหน!?”


    กริดขบกรามแน่นเมื่อหวนนึกถึงใบหน้าแอ็กนัส    


    ไอ้บัดซบแอ็กนัสซ่อนตัวเพื่อเฝ้ามองความเจ็บปวดของภรรยาและบุตรชายตนงั้นหรือ?


    “...”


    ลิชมูมัดมิได้กล่าวสิ่งใด  มันยืนจ้องมองกริดด้วยสายตาที่เหม่อลอย


    มูมัดมิได้โจมตีโต้กลับ


    กริดมองว่านี่คือการเย้ยหยันท้าทาย


    “แอ็กนัส!”


    แอ็กนัสคือบุคคลเสียสติ  ดังนั้นสถานการณ์ปัจจุบันจึงน่าเป็นกังวล


    กริดไม่ชอบใจที่แอ็กนัสกำลังเฝ้ามองอย่างมีความสุขเมื่อเห็นไอรีนและลอร์ดได้รับอันตราย


    การโจมตีใส่มูมัดอัดแน่นไปด้วยโทสะปริมาณมหาศาล


    ค่าเรี่ยวแรงที่ฟื้นฟูขึ้นเล็กน้อยจากพลังของยูนิคอร์น  เขาไม่แยแสว่ามันจะหมดลงไปอีกหรือไม่


    ระหว่างนี้ยังออกคำสั่งให้หัตถ์เทวะและดาบแห่งแสงคอยปกป้องข้างกายไอรีนกับลอร์ดตลอดเวลา  


    บ่งบอกได้ชัดเจนว่ากริดเป็นหวงคนทั้งสองมากเพียงใด


    “…”


     ขณะมูมัดยืนรับการกระหน่ำโจมตีจากกริด  มันหวนนึกถึงอดีต


    ตัวมันกำลังทำสิ่งใดเมื่อครั้งยังมีอายุเท่าองค์ชายตัวน้อยคนนี้?  


    คำตอบคือ  มันเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่  มีชีวิตรอดในแต่ละวันด้วยการขออาหารผู้อื่นกิน


    มันเคยปกป้องใครดังเช่นที่องค์ชายตัวน้อยแสดงพยายามออกหรือไม่?


    คำตอบคือ  มีอยู่หนึ่งคน—ภรรยาของมันที่ได้พบรักในไซเรน     


    เธอคือคนเดียวในโลกที่มันมอบความรักให้  และคนเดียวที่มันสัญญาว่าจะทำให้มีความสุขไปชั่วนิรันดร์


    แกร่ก  แกร่ก!


    กรามมูมัดเริ่มขยับขึ้นลง  

    รอยร้าวบนกระโหลกขยายขนาดขึ้น


    ความทรงจำแสนเจ็บปวดเริ่มผุดเข้ามาในหัว… 


    ความทรงจำเกี่ยวกับอาจารย์ที่เก็บมันมาเลี้ยง    


    มูมัดติดตามชายคนนั้นราวกับเป็นบิดาบังเกิดเกล้า  จนกระทั่งถูกทรยศหักหลัง


    มันหลบหนีไปยังไซเรนเพื่อรักษาแผลใจ  แต่กลับกลายเป็นวาสนาได้พบคนรักแทน


    ทว่า  ฟ้าช่างเล่นตลก  มูมัดค้นพบว่าตนป่วยเป็นโรคร้ายแรงและมีชีวิตได้อีกไม่นาน


    แกร่ก!  แกร่ก แกร่ก!

    

    อา…ใช่แล้ว  มูมัดจมอยู่กับความทรงจำแสนเจ็บปวดนานหลายปีจนกระทั่งเสียชีวิต


    แม้จะได้พบหญิงสาวอันเป็นที่รัก  แต่กลับไม่มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างอบอุ่นเหมือนครอบครัวอื่น


    วาระสุดท้ายคือช่วงเวลาที่ปราศจากความสุขโดยสิ้นเชิง


    ความตายคือการพักผ่อนเดียว  และมูมัดก็ปรารถนาให้เป็นการพักผ่อนตลอดกาล


    “มูมัด!”


    “…”


    เสียงหนึ่งแว่วขึ้นและปลุกมันให้ตื่นจากห้วงความตาย


    ราวกับเขาถูกเทพบนสวรรค์สาปแช่งให้ไม่มีความสุขตลอดชีวิต  มูมัดถูกขัดขวางการพักผ่อนและต้องกลายเป็นลิชในที่สุด


    แกร่ก! แกร่ก!

    

    กรามของมูมัดกำลังพะงาบขึ้นลง  


    “แอ็กนัส!”


    กริดเหลือบมองแอ็กนัสขณะกำลังรัวดาบโจมตีใส่มูมัด


    ร่ายกายแอ็กนัสกลายเป็นโครงกระดูกไปแล้ว  นี่คือลักษณะพิเศษของทักษะ ‘กลายเป็นลิช’


    มันสู้กับใครมา…?


    กริดเกิดคำถาม  แต่เขาไม่ครุ่นคิดหาคำตอบให้เสียเวลา  ชีวิตภรรยาและบุตรชายกำลังตกอยู่ในอันตราย


    “แกนะแก!”


    กริดเห็นเต็มสองตา  ลิชมูมัดร่ายเสาเวทมนตร์หกต้นโดยพยายามโจมตีใส่ไอรีนและลอร์ด  


    หากตนไม่ใช้แหวนลบล้าง  ป่านนี้ืทั้งสองคนอาจไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว


    “ตายซะ!”


    ชายหนุ่มปลดปล่อยจิตสังหารทั้งหมดใส่แอ็กนัส  เหตุการณ์เกิดขึ้นชั่วพริบตาก่อนที่ไอรีนหรือลอร์ดจะได้อธิบายสิ่งใด


    “มูมัด!  ทำไมแกยังไม่ฆ่าไอ้งั่งนั่นอีก?  คิคิก!  คิฮ่าฮ่าฮ่า!”


    แอ็กนัสเป็นฝ่ายเปิดศึกยั่วยุกริด


    มูมัดที่ยืนเหม่อลอยมานาน  ยามนี้เริ่มขยับตัวลงมือ


    “อึก…!”


    กริดที่กำลังจะพุ่งประชิดตัวแอ็กนัส  เขาถูกกลุ่มก้อนเวทมนตร์จากมูมัดยิงถล่มขัดขวางไว้    


    บอลมานาจำนวนมากพุ่งปะทะร่างกายกริดพร้อมกับสร้างความเสียหายหลายพันหน่วย


    “ไอ้บัดซบ!”


    “คิคิก! คิฮ่าฮ่าฮ่า!”


    เหตุการณ์กำลังโกลาหลวุ่นวาย


    กริดเพิ่งจะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้า  แต่กลับมีภัยคุกคามใหม่ปรากฏขึ้น    


    เขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งอ่านข้อความระบบยืนยันสำเร็จภารกิจคืนดาบศักดิ์สิทธิ์หรือของรางวัลที่ได้รับ


    ไม่ได้อ่านด้วยซ้ำว่าไอเท็มดรอปจากอลิเบิร์นมีสิ่งใดบ้าง


    แอ็กนัสก็เช่นกัน


    มันเพิ่งเอาชนะซิลเวนัสได้  จึงรีบร้อนกลับเข้ามาในโถงหลักโดยไม่ได้ตรวจสอบไอเท็มดรอปจากหล่อน    


    แอ็กนัสต้องการยืนยันให้แน่ใจว่า  หญิงสาวอ่อนแอไร้ทางสู้ยังคงปลอดภัยดีอยู่

    

    “ย๊ากกก!”


    “เข้ามา!”


    แรงปะทะที่เกิดขึ้นส่งผลให้พื้นดินสนั่นหวั่นไหวกว่าครั้งใดทั้งหมด


    ไม่เพียงซากปรักหักพังของโถงหลักที่ถล่มลง  แต่ทั่วทั้งวาติกันกำลังสั่นสะเทือนอย่างหนักราวกับจะพังครืน


    ชาวบ้านในหมู่บ้านเชิงเขาเริ่มหวาดกลัวว่าอาจเกิดดินถล่มลงไป

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,269

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. สรุปแล้วมันจะเอายังไงกันสองคนนี้ จะเป็นศัตรูหรือจะเป็นมิตร ? ขอบคุณที่แปลครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอขอบคุณผู้แปลที่ลงตั้ง2ตอนขอบคุณจริงๆ

      Delete
  2. เราว่ากริดทำผิดไปอย่างหนึง ตามที่ลอดกับไอรีนพูดมา กริดควรจะขอบคุณแอ๊กนัสเป็นอย่างแรกนะ ถึงจะเป็นศัตรูกันแต่ถ้าเขาช่วยเราไว้ก็ควรขอบคุณนะไม่ใช่ไปหาเรื่อง #ความคิดส่วนตัว+วิจารณ์

    ReplyDelete
    Replies
    1. ควรเข้าใจ1อย่างน่ะมีคนมาโจมตีภรรยาและลุกตัวเองใครจะไปเชื่ออ่ะแถมยังไม่ได้บอกไห้ระเอียดอีกแค่บอกว่าช่วยแถมฝ่ายตรงข้ามอ่ะเปนหมอผีหรือฝั่งคัวร้ายหมดไห้คิดใครจะไปเชื่อว่าเขาจะย้ายฝั่งมาช่วยเราที่เสียเปรียบอยุ่อ่ะแอ็กนัสมีปเลยข่วย

      Delete
    2. ขอบคุณที่มาตอบนะครับ ได้ความเห็นต่างแบบนี้ทำให้เข้าใจในมุมต่างๆมากขึ้นขอบคุณฯครับ😁😁😁

      Delete
    3. เอาง่ายๆเลย พึ่งตีการมา 555+ ขนาดเวอรดินทำ กริดยังเชื่อว่าแอกนัสสั่งเลย

      Delete
  3. สงสารแอ็กนัส
    เห็นใจกริด
    ถูกใจผู้แปล
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​😁🙏

    ReplyDelete
  4. ค้างงง🙂🙃🤭😣

    ReplyDelete
  5. กริดแม่งเปิดแบบไม่ฟ้งเมียกับลูกเลย

    ReplyDelete
  6. กริดไม่ควรเป็นพระเอกแอ็กนัสในตอนที่ผ่านมาควรเป็นพระเอกมากกว่ากริด

    ReplyDelete
  7. บทตัวร้ายแอ็กนัสจะรับไว้เอง 🥺 เป็นเส้นทางที่นางเลือกและกริดก็ไม่สามารถยกโทษให้แอ็กนัสได้เช่นกันต่อให้จะรู้ความจริง เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกดี 😅 เพื่อนก็ไม่ใช่ศัตรูก็ไม่เชิง แต่ทำไมต้องเขียนบทให้แอ็กนัสน่าสงสารขนาดนี้ เป็นตัวร้ายที่เกลียดไม่ลงจริง ๆ

    ReplyDelete
  8. ตัวอักษรโคตรเล็ก เปลี่ยนฟร้อนทำไมวะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00