จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 871
ขณะรอให้สติกส์ฟื้นฟูมานา
ขณะยืนครุ่นคิดบนถนนหมู่บ้านเชิงเขา
ขณะพิจารณาม่านบาเรียสีดำ
และขณะรับมือกับสาวกยาธานจำนวนมากที่ขวางทาง…
กริดเชื่อเสมอว่าตนไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเกินพอดี เขามั่นใจ ไอรีนและลอร์ดต้องปลอดภัยแน่
เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ในวาติกันยังมีดาเมี่ยนและอิสซาเบลประจำการอยู่ กริดทราบดีว่าทั้งสองต้องปกป้องบุตรชายและภรรยาของตนอย่างเต็มกำลัง
ใช่แล้ว ตัวตนดาเมี่ยนและอิสซาเบลมีอิทธิพลมากพอจะทำให้กริดเกิดความโล่งใจ
หากไม่มีทั้งสอง ชายหนุ่มคงมิอาจใจเย็นขนาดนี้ และเมื่อขาดความสุขุม แต่ละการตัดสินใจอาจเกิดความผิดพลาดจนทำให้ไปถึงที่หมายช้าลง
“โชคดีที่มาทัน…”
กริดกระโจนลงจากเพดานพร้อมกับโจมตีใส่ข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ด—ฮิลล์
จากนั้นก็เหลือบมองไอรีนและลอร์ด
แม้จิตใจคนทั้งคู่จะอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ร่ายกายกลับปราศจากบาดแผลรอยขีดข่วนโดยสิ้นเชิง
“ขอบคุณสวรรค์…”
กริดฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข หากใครไม่รู้จักกริดคงเข้าใจผิดว่าชายคนนี้คือเทวดาจากฟากฟ้า
“คุณคะ…”
“ท่านพ่อ!”
ดวงตาของไอรีนและลอร์ดเริ่มแดงก่ำเมื่อได้เห็นใบหน้าผู้นำครอบครัวเต็มสองตา
สามีและบิดาที่ปรากฏตัวในสถานการณ์วิกฤติ—กริดคือบุคคลที่พวกเขามิอาจหาใครแทนที่ได้ ชายคนนี้เป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ในสายตาคนทั้งสอง
ใช่แล้ว พวกเขาเข้าใจไม่ผิด กริดที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือราชาวีรบุรุษที่อยู่เหนือตัวตนวีรบุรุษทั้งปวง
[ ท่านได้พบบุคคลที่แข็งแกร่งของยุคสมัยปัจจุบัน ]
[ ท่านได้พบบุคคลที่แข็งแกร่งของยุคสมัยปัจจุบัน ]
[ ท่านได้พบบุคคลที่แข็งแกร่ง… ]
หมอกสีม่วงรอบตัวกริดทวีความเข้มข้นอย่างรวดเร็ว
บุตรีแห่งรีเบคก้า
ข้ารับใช้ยาธาน
ดูรันดัล—องค์ชายลำดับสองแห่งจักรวรรดิ
อัศวินสีชาดหลักเดียว
ทุกตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของยุคสมัยได้กระตุ้นปราณต่อสู้รอบกายราชาวีรบุรุษจนเดือดพล่าน
“ทุกคน…”
ขณะหมอกม่วงกำลังห่อหุ้มร่าง กริดชำเลืองมองเหล่าอัศวินหนุ่มสาวที่คอยปกป้องลอร์ดและไอรีนด้วยแววตาซาบซึ้ง
ทุกคนล้วนบาดเจ็บหนัก ไม่มีใครไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ ไม่มีใครไม่อ่อนล้า แต่พวกเขากลับฝืนกำดาบด้วยฝ่ามือสั่นระริกโดยหวังปกป้องไอรีนและลอร์ดจนตัวตาย
เพียงมองปราดเดียวก็ทราบแล้วว่า อัศวินเหล่านี้ต้องต่อสู้โดยที่ร่างกายซึมซับคำสาปกัดกร่อนจิตใจเข้าไปมากเพียงใด
เมื่อคู่ต่อสู้ใช้มนตร์ดำ อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทางจิตใจจะรุนแรงกว่าที่เห็นตามร่างกายมาก
“ขอบคุณ ขอบคุณทุกคน...”
กริดกล่าวกับคาซิม ชักสเล่ย์ รวมถึงอัศวินหนุ่มสาว
เมื่อจบประโยค ชายหนุ่มเหลือบไปมองฮิลล์ที่กำลังหยุงร่างกายลุกขึ้น
หลอดพลังชีวิตฮิลล์ยังเหลือมากถึงเก้าส่วนสิบแม้จะถูกวิชาดาบแพ็กม่า·ร่ายรำเข้าไปอย่างจัง
กลับกัน กริดที่โดนสิบสองหมัดได้สูญเสียพลังชีวิต 9,600 หน่วย หลอดพลังชีวิตปัจจุบันของเขาจึงเหลือไม่ถึงเก้าส่วนสิบ
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ดาเมี่ยนรีบหันไปกล่าวกับกริด
“กริด ถึงจะเป็นนายก็คงรับมือหมอนี่ไม่ง่ายแน่”
ในช่วงแรกที่ดวลกับฮิลล์ ดาเมี่ยนประเมินพลังชีวิตฮิลล์ไว้มากถึงห้าสิบล้านหน่วย
ไม่เพียงเท่านั้น พลังโจมตีของฮิลล์ยังสูงกว่าดาเมี่ยนถึง 1.6 เท่า ขณะที่พลังป้องกันต่ำกว่าดาเมี่ยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แม้พลังโจมตีกริดอาจสูงกว่าดาเมี่ยนราวสองเท่า แต่ก็ยังไม่มากพอจะพลิกสถานการณ์ตรงหน้า
ใช่แล้ว กริดกำลังเสียเปรียบ
“มันคือสัตว์ประหลาดที่ใช้ทักษะสุดโกงได้อย่างไรขีดจำกัด! นายไม่ควรปะทะซึ่งหน้า!”
สิบสองหมัดในหนึ่งวินาที—สิ่งนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องอย่างไม่รู้จบ ขณะที่วิชาดาบแพ็กม่ามีจังหวะท่วงท่าวุ่นวายและระยะหน่วงหลังใช้แสนนาน
ดาเมี่ยนมั่นใจว่าไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถดวลชนะฮิลล์แบบหนึ่งต่อหนึ่งได้แน่ ไม่เว้นแม้กระทั่งกริดที่เขาเทิดทูนบูชาเหนือสิ่งอื่นใด
กริดหรี่ตาลงขณะรับฟังความเห็นจากดาเมี่ยน
“อา…หมอนี่แข็งแกร่ง พลังโจมตีและป้องกันก็สูงมาก”
กริดได้รับความเสียหาย 800 หน่วยในทุกหมัด หมายความว่าสิบสองหมัดของฮิลล์จะสร้างความเสียหายคงที่ 9,600 หน่วย
และสิ่งนี้สามารถใช้งานได้ทุกวินาที
พลังโจมตีของฮิลล์ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อผู้เล่น แม้กริดจะคำนึงว่าตนมีแหวนโดรัน แหวนเอลฟิน·สโตน พลังทีราเม็ท และบาเรียคุ้มกายจากสมญานามกษัตริย์คนแรกแล้วก็ตาม
‘หมอนี่เก่งชนิดที่ดาร์คบัสเทียบไม่ติด’
กริดเคยบดขยี้ข้ารับใช้ยาธานจนแหลกคามือมาแล้วหลายต่อหลายคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาสามารถเปรียบเทียบระดับความแข็งแกร่งได้ชัดเจนมากกว่าใคร
ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับว่าฮิลล์คือศัตรูที่ตึงมือ
‘เราคงพ่ายแพ้อย่างหมดรูปหากยังมีพลังเทียบเท่าตอนแข่งนานาชาติ’
ใช่แล้ว ฮิลล์แข็งแกร่ง ไม่แปลกที่ผู้เล่นเก่งฉกาจอย่างดาเมี่ยนจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“เสมือนเทพ·ผสานไอเท็ม”
ฮิลล์เก่งกาจขนาดทำให้กริดต้องเอาจริงตั้งแต่เริ่มสู้
[ ไม้เท้าบีเลียลเริ่มผสานกับดาบอัสนีฯ ]
ชายหนุ่มมั่นใจว่าอาวุธผสานคือทางออกเดียวของปัญหาปัจจุบัน
หากเปลวเพลิงทมิฬ ภาพหลอน สายฟ้าสีชาด หรีอเพลิงมหึมาแสดงผล สิ่งเหล่านี้จะถูกนับรวมให้เป็นเวทมนตร์และสร้างบาเรียคุ้มกาย 5,000 หน่วยขึ้นรอบตัวกริด
ความเสียหายจากกำปั้นฮิลล์จะถูกลดทอนไปหลายส่วน ไม่มีสิ่งใดเหมาะแก่การรับมือฮิลล์มากกว่าอาวุธผสานอีกแล้ว
“หอก?”
ในมุมมองของฮิลล์ กริดคือศัตรูแปลกหน้าที่เพิ่งปรากฏตัวในช่วงหลัง มันจึงไม่ควรประมาทโดยเด็ดขาด
ฮิลล์ตั้งท่าป้องกันพลางเหลือบมองมงกุฏสีเงินงดงามเหนือศีรษะชายปริศนา
นักดาบผู้นี้กวัดแกว่งอาวุธได้ว่องไวกว่ากำปั้นของมันราวสองเท่า แต่ปัจจุบัน อีกฝ่ายกลับละทิ้งดาบและนำหอกออกมาควง
ฮิลล์รีบครุ่นคิดคำนวณถึงสาเหตุ
มันเย้ยหยันในใจ
‘มันคงรู้ว่าดาบที่รวดเร็วมิอาจทำอันตรายเราได้ จึงเปลี่ยนเป็นหอกเพื่อสร้างความเสียหายให้รุนแรงขึ้นในแต่ละครั้งสินะ’
ช่างโง่เขลา แม้จะโจมตีรุนแรงขึ้นก็ไม่เกิดประโยชน์หากโจมตีได้ช้าลง
ในบรรดาข้ารับใช้ยาธาน ฮิลล์มีพลังทางกายภาพสูงสุดอย่างไร้ข้อกังขา มันเริ่มประเคนหมัดอีกครั้งพลางตะโกนข่มขู่
“แกจะรวดเร็วหรือรุนแรงแค่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้! ถ้าอยากชนะฉัน แกต้องโจมตีให้ทรงพลังและรวดเร็วยิ่งกว่าการโจมตีของฉัน! คุฮ่าฮ่าฮ่า!”
มันสืบเท้าเข้าหากริดด้วยสีหน้าฮึกเหิม
รูปลักษณ์ของชายวัยกลางคนร่างท้วมเคยทำให้ผู้คนรู้สึกขบขัน แต่ไม่ใช่อีกแล้ว ไม่มีใครกล้าดูแคลนฮิลล์อีก ทุกคนต่างหวาดกลัวในพลังทำลายที่แม้แต่สันตะปาปาดาเมี่ยนยังตกที่นั่งลำบาก
“อันตราย!”
ลอร์ดส่งเสียงตะโกนเมื่อเห็นบิดาถูกโจมตี
“…!”
ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของเด็กชาย แอ็กนัสพลันเสียสมาธิขณะมันกำลังดวลกับซิลเวนัสด้วยลิชมูมัด
ปัจจุบัน มันต้องเอาชนะศัตรูเบื้องหน้าให้ได้เพื่อปกป้องสตรีและเด็กที่ไร้ทางสู้ ทว่า กำปั้นซิวเวลนัสถูกเหวี่ยงใส่ปลายคางแอ็กนัสที่เสียสมาธิอย่างจัง
มันกระอักเลือดลงพื้น โลหิตสีแดงสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อน
หน้าอกกำลังเปลือยเปล่าไร้การป้องกัน
ซิลเวนัสเสียบดาบใส่แผ่นอกแอ็กนัสอย่างไร้ความปราณี
“อั่ก…!”
“แกบ้าไปแล้วรึไง? ทั้งที่กำลังจะตาย ทำไมถึงต้องเป็นห่วงชีวิตคนอื่นนัก? เสียสติไปแล้วรึไง?”
เหล่าข้ารับใช้ยาธานคือกลุ่มคนชั่วร้าย พวกมันหวังทำลายโลกมนุษย์และแปรเปลี่ยนให้เป็นขุมนรก เป้าหมายสูงสุดของพวกมันมิใช่สิ่งที่น่ายินดีสำหรับผู้คน
ในมุมมองคนทั่วไป ข้ารับใช้ยาธานคือพวกจิตไม่ปรกติ แต่กลุ่มคนจิตไม่ปรกติกลับมองว่าแอ็กนัสประหลาดกว่าพวกมัน
แอ็กนัสก้าวถอยหลังพลางใช้มือกุมหน้าอกที่มีเลือดไหลซึม
มันส่งเสียงคิกคัก
“ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยคนโฉดแบบพวกแก มันยากที่จะให้ควบคุมสติไว้ได้ คิคิคิก! คิฮ่าฮ่าฮ่า!”
แอ็กนัสยอบรับว่าตนคือคนบ้า มันสูญสิ้นสติสัมปชัญญะในค่ำคืนที่คนรักลิ้มรสความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ยากจะลืมเลือน
“มูมัด!”
แอ็กนัสเตรียมออกคำสั่งแก่ลิชมูมัดที่หลงเหลือมานาไม่มากแล้ว
“…ปกป้องราชินีกับองค์ชาย”
“…?”
ลิชมูมัดลังเลครู่หนึ่ง
เป็นท่าทีตกตะลึงและสับสน มูมัดแทบไม่เชื่อหูว่าเจ้านายของตนจะออกคำสั่งให้ปกป้องผู้อื่น
แอ็กนัสตวาดสั่งซ้ำ
“รีบไปเดี๋ยวนี้!”
“…”
อันเดดระดับสูงสุดอย่างลิชย่อมมี สติปัญญา อารมณ์ และจิตใจ แต่คำสั่งจากเจ้านายจะอยู่เหนือห้วงอารมณ์ใดทั้งหมด
นับตั้งแต่ถูกแอ็กนัสช่วงชิงดวงวิญญาณจนถึงปัจจุบัน ลิชมูมัดเคยถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่พึงประสงค์มากมาย ทั้งทำร้ายผู้บริสุทธิ์และกระทำเรื่องต่ำทราม
แทบทุกคำสั่งจากเจ้านายจะทำให้มูมัดรู้สึกเจ็บปวดหัวใจราวกับตกนรกทั้งเป็น
แต่ปัจจุบันถือเป็นข้อยกเว้น
คำสั่งล่าสุดจากเจ้านายคือสิ่งที่หัวใจของมูมัดปรารถนา
แกร่ก แกร่ก...
ลิชมูมัดย่างกรายผ่านโถงหลักพลางรวบรวมเศษเสี้ยวมานาที่แทบไม่หลงเหลือ
ซิลเวนัสพยายามหยุดยั้งไว้
“แกคิดจะไปไหน?”
เป็นแอ็กนัสที่ใช้ตัวเข้ามาขวางทางหล่อน ซิลเวนัสไม่รีรอ เธอหมุนตัวแทงดาบใส่บุคคลที่ไม่หลงเหลือมานาและใกล้ตายเบื้องหน้า
“แกมันบ้า!”
ดาบซิลเวนัสทะลวงผ่านลำตัวแอ็กนัสอย่างอำมหิต เธอมั่นใจว่าแอ็กนัสคงจบชีวิตแน่แล้ว เพราะอีกฝ่ายใช้ประกันชีวิตอมตะไปในช่วงก่อนหน้า
“คิคิคิก!”
น่าประหลาด แอ็กนัสยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าดาบของซิลเวนัสจะแทงทะลุช่องท้องไปแล้วก็ตาม
ร่างกายแอ็กนัสยับเยินประหนึ่งผ้าขี้ริ้ว ซิลเวนัสมิอาจสัมผัสถึงสัญญาณชีพจากบุคคลเบื้องหน้าได้อีก
แล้วเหตุใดหมอนี่ถึงยังไม่ตาย?
ซิลเวนัสชักดาบกลับพลางก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าสับสน จนกระทั่งหล่อนฉุกคิดได้ว่า แอ็กนัสคงใช้พลังบางอย่างเพื่อก้าวข้ามความตายชั่วขณะ
“กลายเป็นลิช? แกถึงกับยอมสละดวงวิญญาณแสนสำคัญเพื่อปกป้องสองคนนั้นเชียว!?”
“คิก…! คิคิก!”
กองทัพอัศวินความตายและอสูรปรากฏกายอีกครั้งรอบตัวแอ็กนัส—ชายที่เพิ่งกลายเป็นลิชและได้รับพลังเวทมนตร์กลับคืนบางส่วน
ซิลเวนัสเริ่มสัมผัสถึงลางร้าย
***
‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...?!!’
ข้ารับใช้ยาธานลำดับสาม—อลิเบิร์น ดวงตาของมันพลันเบิกโพลงเมื่อชายปริศนากระโจนลงจากเพดานและโจมตีใส่ฮิลล์
สาเหตุเพราะ มันทราบถึงหมอกม่วงที่กำลังโอบล้อมรายกายคนผู้นั้น
‘ราชาวีรบุรุษ!’
มีตำนานมากมายกล่าวไว้ว่า อริยดาบและราชาวีรบุรุษ—มุลเลอร์ คือบุคคลที่ผนึกจอมอสูรสำเร็จหลายตน สิ่งนี้ย่อมทราบกันดีในหมู่สาวกยาธานระดับสูง
ราชาวีรบุรุษ นักล่าอสูร และบุตรีแห่งรีเบคก้า คนกลุ่มนี้คือศัตรูตัวฉกาจของวิหารยาธานและจอมอสูรทั้งปวงมาช้านาน
แล้วเหตุใดราชาวีรบุรุษถึงปรากฏตัวในช่วงเวลาแสนสำคัญ?
รีเบคก้าแอบใช้พลังแทรกแซงงั้นหรือ?
‘…ไม่สิ นี่คือโอกาสทองต่างหาก!’
อลิเบิร์นแสยะยิ้มชั่วพลางสลัดความกลัวออกจากจิตใจ
ฮิลล์ไม่เพียงเป็นข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ดที่มาแทนดาร์คบัส แต่มันยังเป็นผู้ฝึกสอนศิลปการต่อสู้ระดับสูงของวิหารยาธาน
แตกต่างจากข้ารับใช้คนก่อนหน้าที่ถูกสังหารอย่างง่ายดายเมื่อศัตรูประชิดตัว ฮิลล์คือบุคคลที่มีพลังทางกายภาพสูงส่ง
ว่ากันว่าฮิลล์ไม่เคยพ่ายแพ้ในการดวลหนึ่งต่อหนึ่งเลยสักครั้ง
‘ท่านอาโมแร็คเป็นผู้เจาะจงเลือกฮิลล์ด้วยตัวเอง ฮิลล์ไม่มีทางพ่ายแพ้ราชาวีรบุรุษแน่’
ความมั่นใจของอลิเบิร์นกำลังเพิ่มพูน นี่คงเป็นโอกาสทองแสนหายากที่องค์เทพยาธานชักนำมาให้
เป็นโอกาสอันดีที่จะทำลายโบสถ์รีเบคก้าไปพร้อมกับราชาวีรบุรุษในคราเดียว
“เอาหมัดไปกิน!”
ฮิลล์ที่ร่างกายส่องแสงจากบาเรียคุ้มกายพิเศษ มันประเคนหมัดใส่ราชาวีรบุรุษสิบสองครั้งซ้อนเฉกเช่นทุกครั้ง
จอมอสูรลำดับ 25—ดันทาเลี่ยน เป็นผู้มอบ ‘องค์ความรู้การต่อสู้’ ให้แก่ฮิลล์ด้วยตัวเอง
หากพลังนี้เบ่งบานถึงขีดสุด ฮิลล์จะกลายเป็นตัวตนที่อยู่เหนือท้องฟ้าทั้งปวง
เฉกเช่นการดวลกับสันตะปาปาเมื่อก่อนหน้า อลิเบิร์นมั่นใจว่าราชาวีรบุรุษต้องถูกฮิลล์ไล่ต้อนจนมุมในอีกไม่ช้าแน่
ทว่า ผลลัพธ์กลับผิดแผกจากที่คาด
“อะไรกัน?”
อลิเบิร์นเฝ้ามองการต่อสู้ด้วยดวงตาที่สั่นระริก
ทุกครั้งที่ราชาวีรบุรุษกวัดแกว่งหอกดำปะทะร่างฮิลล์ สายฟ้าสีแดงและเปลวเพลิงปริศนาจะปะทุขึ้นโดยมีฮิลล์เป็นจุดศูนย์กลาง
ยิ่งเวลาผ่านไป สภาพร่างกายฮิลล์ยิ่งทรุดโทรม แต่ฝ่ายราชาวีรบุรุษกลับไร้รอยขีดข่วนเพราะมีบาเรียสีดำปริศนาปกป้องร่างกายไว้ตลอดเวลา
แม้ทั้งสองจะแลกการโจมตีโดยไม่มีใครคิดปัดป้อง แต่มีเพียงฮิลเท่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บหนัก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ราชาวีรบุรุษคนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่ามุลเลอร์อีกหรือ?
อลิเบิร์นเริ่มขมวดคิ้ว
“คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร!”
มิธ มิธ และมิธ
อาวุธเกรดมิธสองชนิด และทักษะระดับเทวะตำนานซึ่งได้รับจากพรแห่งเทพธิดา ทุกสิ่งผสานกันอย่างลงตัวจนผลักดันให้กริดก้าวข้ามตำนานไปไกล
จนกระทั่ง ฮิลล์แห่งวิหารยาธานถูกตัดสินประหารชีวิต
[ ท่านสังหารข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ด—ฮิลล์]
[ ท่านได้รับ ‘เศษเสี้ยวองค์ความรู้ของดันทาเลี่ยน’ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
โอ้ ราชาโอเวอร์มา พวกนี้ก็เลยดูกากเลย 555สู้กันมาตั้งนาน โดนกริดตบครั้งเดวตายซะแล้ว 🙏😂😂😂สนุกมากครับ ขอบคุณครับแอดดดดดดด
ReplyDeleteและนี้คือรายการ How to ชนะศึกง่ายๆ by ก็อดกริด
Delete😂 นึกว่าไซตามะ
Deleteกริดได้รับเศษเสี้ยวองค์ความรู้ของดันทาเลี่ยนมา นั้นคือ กริดได้วิชาการต่อสู้อีกแขนงมาเป็นของตัวเอง และก็จะกายเป็นก็อดกริดอัพเลเวล คุคุคุ คิกคิกคิ สนุกมากครับ
Deleteตอนนี้ก็ยังโคตรเทพ¡!!!!
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😊🙏
ReplyDeleteไม้เท้าเบเลียล+ดาบอัสนีฯ นับเป็นดาบด้วยเหรอ ถึงได้ใช้วิชาดาบแพกม่าได้
ReplyDeleteดูภายนอกมันน่าจะเป็นหอกแต่รายละเอียดมันบอกว่าเป็น"ดาบ(?)"มันน่าจะใช้ได้ทั้งดาบทั้งหอกในตัวมั้งครับ
Deleteมันเป็นดาบที่มีด้ามจับยาวคับ จะใช้เป็นหอกก็ได้ ดาบก็ได้ แต่ด้วยท่า เป็นท่าแทง เลยใช้ได้ **มั้ง
Deleteได้ไอเทมให้เพื่อนอีกอัน
ReplyDelete