จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 697



    กริดได้รับหนังสือทักษะที่บรรจุวิชาดาบของราชาไร้พ่ายมาดราไว้
    ชายหนุ่มพลันขนลุกเมื่อเห็นว่า  วิชาดาบทัพหนึ่งแสนถูกจัดอยู่ในเกรดเลเจนดารี    
    
    ‘ทั้งที่เป็นเวอร์ชั่นลดระดับเนี่ยนะ...’

    แถมที่น่าตกตะลึง  วิชาดาบทัพหนึ่งแสนถูกจัดเป็นเพียงทักษะ ‘พื้นฐาน’ ของราชาไร้พ่ายมาดรา
    บราฮัมกล่าวไว้ว่า  แสนยานุภาพที่แท้จริงของมาดราจะเริ่มต้นที่วิชาดาบทัพห้าแสนขึ้นไป
    
    ‘ยิ่งได้รู้จักอดีตตำนาน  เราก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความสุดยอด’

    กริดย้อนนึกไปถึงความทรงจำสมัยผสานวิญญาณกับบราฮัมหนแรก
    บราฮัมใช้เวทมนตร์สุดโกงที่สามารถหยิบยืมพลังจากธรรมชาติรอบตัว  เขาดูดกลืนมานาทุกอนูทะเลแดงมาเปลี่ยนเป็นพลัง
    ในวินาทีนั้น  กริดตระหนักได้ทันที  ตำนานในปัจจุบันเป็นเพียงทารกน้อยหากเทียบกับตำนานสมัยอดีต
    แม้กระทั่งปิอาโร่  หนึ่งในบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปตะวันตกเวลานี้  ก็มิอาจรับมือพายุไฟบอลจากบราฮัมสมัยรุ่งโรจน์ได้
    
    “...เพราะแบบนี้ไง  เกมถึงน่าสนุก”

    ซาทิสฟายยังมีเนื้อหาอยู่ในบทเริ่มแรก  หมายความว่า  เนื้อเรื่องอนาคตยังพัฒนาไปได้อีกไกลและซับซ้อนมาก
    สีหน้าแววตาชายหนุ่มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นทันที

    ‘ต้องรีบไล่ตามอดีตตำนานให้ทัน’

    ไม่สิ  เขาจะก้าวข้ามให้ได้
    เป้าหมายของครอเกลคงไม่ต่างกัน
    ไม่เหลือเวลาให้ผลาญทิ้งอย่างไร้ค่าอีกแล้ว  กริดเปิดหนังสือทักษะดาบทัพหนึ่งแสนด้วยสีหน้าคาดหวัง

    ทันใดนั้น

[ ท่านพยายามเรียนทักษะ : วิชาดาบทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ) ]
[ ท่านถูกยอมรับจากราชาไร้พ่าย  ท่านมีสิทธิ์ครอบครองทักษะ : วิชาดาบทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ)  ]

[ ขอแสดงความยินดี!  ท่านครอบครองทักษะ  ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ) และดาบสกัดทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ)]

[ รายละเอียดทักษะใหม่จะปรากฏในหน้าต่างรายการทักษะ ]

    “เยี่ยม!”

    กริดเปิดหน้าต่างรายการทักษะทันที
    ดาบพินาศทัพหนึ่งแสนที่มาดราแสดงให้เห็น  ความเร็วอยู่จะที่ 40 ครั้งต่อวินาทีและโจมตีเป็นวงกว้างไกลกว่าร้อยเมตร
    เพียงความเร็วก็มากกว่าร่ายรำถึงเท่าตัว  ประสิทธิภาพด้านอื่นยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง  
    กริดร้อนรนต้องการทดสอบดาบพินาศทัพหนึ่งแสนโดยเร็ว

    ทว่า

[ ดาบสกัดทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ) Lv.1 ]
    สร้างความเสียหาย 20% ต่อศัตรูทั้งหมดในระยะมองเห็น  ศัตรูที่ถูกโจมตีจะตกอยู่ในอาการ ‘ถูกผนึก’ เป็นเวลา 3 วินาที
    เป้าหมายที่ถูกผนึกจะไม่สามารถขยับร่ายกายหรือใช้ทักษะได้
ทรัพยากรที่ใช้ :
- มานา 5,000
- ปราณดาบ 20 หน่วย
ระยะหน่วง : 30 นาที
* ท่านไม่สามารถใช้งานทักษะได้
    ท่านต้องสะสมปราณดาบให้เพียงพอสำหรับใช้งานทักษะ

[ ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ) Lv.1 ]
    สร้างรัศมีดาบจำนวน 30 เส้นภายในหนึ่งวินาที  
    แต่ละเส้นรุนแรง 60% ของพลังโจมตี      โจมตีโดนทุกเป้าหมายในระยะ 10 เมตรด้านหน้า (ไม่สนมิตรหรือศัตรู)  
ทรัพยากรที่ใช้ :
- มานา 8,000
- ปราณดาบ 50 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 10 นาที
* ท่านไม่สามารถใช้งานทักษะได้
    ท่านต้องสะสมปราณดาบให้เพียงสำหรับการใช้งานทักษะ

    “อะไรคือปราณดาบ…?”

    มันถูกระบุไว้ว่าสามารถสะสมได้  แต่ไม่ได้บอกว่าต้องสะสมอย่างไร
    กริดพยายามอ่านรายละเอียดทักษะที่ฉายอยู่ตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    
    “ล้อกันเล่นรึไงเนี่ย...”

    ทักษะที่ได้รับอย่างยากลำบาก  หลังจากเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งและได้รับการยอมรับจากอีกฝ่าย  
    เหตุใดตนถึงยังใช้งานไม่ได้?
    
    “บ้าบอสิ้นดี!”
    
    กริดไม่อยากยอมรับความจริง
    เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับเดินออกจากหอสมุด
    กริดผ่านโถงกว้างโดยมีจุดหมายปลายทางคือสวนดอกไม้ภายในวัง

    “กรี๊ดด!  ท่านราชาโอเวอร์เกียร์!”    

    “โอ้ส!  ดูนั่น!  ท่านราชาโอเวอร์เกียร์!”

    สาวใช้และคนสวนต่างส่งเสียงยินดีเมื่อเห็นกริดเดินเข้ามาในสวน
    พวกเขามีความสุขที่ได้ต้อนรับกษัตริย์กริดที่ทุกคนรักและชื่นชมอย่างใกล้ชิด
    ทั้งหมดพลันหยุดหายใจไปชั่วครู่เมื่อกริดนำดาบเปลวเพลิงสีแดงออกมาตั้งท่าถือ
    ทุกคนที่มารุมล้อม  ไม่ว่าจะสาวใช้หรือคนสวน  ทั้งหมดต่างเฝ้ามองกริดด้วยดวงตาเปล่งประกาย
    จากนั้น  กริดก็...

    “ดาบพินาศ—”

    ชิ้ง—

    ณ มุมหนึ่งของสวนดอกไม้
    ชายหนุ่มเล็งฟันไปยังต้นไม้ใหญ่พร้อมตะเบ็งเสียงกึงก้อง

    “ทัพหนึ่งแสน!!”

    “…!”

    เหล่าสาวใช้และคนสวนต่างผงะไปพร้อมกัน
    กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขากำลังพูดถึงการคร่าชีวิตทหารหนึ่งแสนคน...
    ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเพื่อเฝ้ารอผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นด้วยใจจดจ่อ

    ส่วนผลลัพธ์…

    ฟ้าว...

    มีเพียงเสียงสายลมพัดผ่าน
    นอกนั้นเงียบกริบ
    ต้นไม้ใหญ่ด้านหน้ากริดไม่มีแม้แต่รอยขนแมว

[ ดาบพินาศทัพหนึ่งแสนใช้งานล้มเหลว ]

    “...”

    กริด  สาวใช้  และคนส่วน  ไม่มีใครส่งเสียงใดออกมา  บรรยากาศถูกความเงียบสงัดเข้าครอบงำ

    และในวันนี้
    ข่าวลือ ‘กริดเป็นจูนิเบียว’ ได้แพร่สะพัดไปทั่วอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
    
    ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน
    มันถูกเปิดตัวสู่โลกภายนอกเพียงนามปากเปล่า  มิได้ประจักษ์ผลลัพธ์อานุภาพทำลายล้างอย่างที่ควร
    ช่างน่าเศร้าสำหรับทักษะที่เคยสร้างตำนานไว้อย่างยิ่งใหญ่ในอดีต

    ***

    “เฮ่อ...บัดซบ!”

    วิชาดาบแพ็กม่าจะเพิ่มพลังโจมตีในโหมดปรกติ  แถมยังเพิ่อัตราและความแรงคริติคอลอย่างมาก    
    กริดจึงเปี่ยมด้วยความคาดหวังกับทักษะที่โจมตีที่อาศัยบัฟเหล่านี้

    ชายหนุ่มอยากเห็นผลลัพธ์การผสานระหว่างบัฟวิชาดาบแพ็กม่าโหมดปรกติ  กับความทรงพลังของดาบพินาศทัพหนึ่งแสน

    แต่เขากลับมิอาจใช้งานมันได้...

    ‘มานาไม่ใช่ปัญหา...แต่อะไรคือปราณดาบ?’

    พักหลังมานี้  ชายหนุ่มถูกผลคลาสรองบังคับอัพค่าสติปัญญาหกแต้มในทุกเลเวล  แต่กระนั้น  ค่ามานาสูงสุดกลับยังมีไม่ถึง 14,000 หน่วย

    วิขาดาบทัพหนึ่งแสนสิ้นเปลืองมานา 5,000 และ 8,000 หน่วย  ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สาหัสเอาการ
    แล้วยังต้องการทรัพยากรปริศนาเพิ่มอีกงั้นหรือ?

    ‘ให้ตายสิ...เรามีทักษะสุดโกงอยู่ในมือ  สร้างความเสียหายรุนแรง 60% จำนวน 30 ครั้ง  แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้...’

    นับเป็นผลกระทบทางจิตใจที่รุนแรง
    กริดกำลังทุรนทุรายด้วยสีหน้าหงุดหงิด  ราวกับเขาถูกทรมานโดยผู้เชี่ยวชาญก็มิปาน

    ขณะกริดกำลังตัดพ้อ  ชายหนุ่มพลันนึกถึงคริส

    “คริสจะรู้จักปราณดาบรึเปล่า...”

    หลังได้รับสมญานามราชาวีรบุรุษ  กริดเองก็มีทรัพยากรใหม่ที่ชื่อปราณต่อสู้
    หากฟังจากชื่อ  ปราณดาบน่าจะหมายถึงทรัพยากรของคลาสนักดาบโดยเฉพาะ
    
    คริส...นอกจากจะเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลก  ชายคนนี้ยังเป็นจ้าวแห่งดาบใหญ่
    
    หลังจากเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์พร้อมกิลด์ไจแอนต์  กริดได้แต่งตั้งคริสให้เป็นถึงดยุคอาณาจักร  มีอำนาจล้นพ้นเป็นรองเพียงตนและลอเอล  คริสจึงเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่กริดไว้ใจ

    เขารีบปรี่ไปหาคริสทันที

    ***

    ณ เมืองเรย์ดัน

    เมืองใหญ่อันดับสองของอาณาจักร  อดีตสถานที่พักพิงของกริดและขุนพลโอเวอร์เกียร์  ปัจจุบัน  เรย์ดันคือเมืองหลวงรองของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์

    เจ้าเมืองคือผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลก
    คริส
    
    ผู้เล่นอัจฉริยะที่มียอดอาจารย์อย่างเซอร์คานคอยสอนสั่งข้างกาย
    อดีตหัวหน้ากิลด์ไอแอนต์ 
    หนึ่งในตัวตนที่โด่งดังของโลก
    และยังเป็นชายคนเดียวที่มีค่าพละกำลังสูงกว่ากริด
    ด้วยผลของคลาสรอง ‘ทรราชย์’  คริสสามารถดูดกลืนค่าพละกำลังของศัตรูรอบตัวมาเป็นของตน  จากนั้นก็ฟาดฟันศัตรูด้วยพลังทำลายที่รุนแรงยิ่งกว่าดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมของกริด
    
    ใครจะไปคิดว่า  ผู้เล่นกัปตันทีมชาติแคนดาและอันดับหนึ่งของโลกคนนี้  จะยอมคุกเข่าศิโรราบกริดต่อหน้าผู้คนทั่วโลก…
    การเข้าร่วมของคริสได้ตกเป็นข่าวใหญ่สุดน่าทึ่งของโลกไปหลายวัน

    มีหลายกระแสออกมาโจมตีว่า  เป็นเพราะกริดกำจุดอ่อนของคริสและบีบบังคับให้เขายอมจำนน
    แต่ความจริงนั้นตรงกันข้าม
    คริสยอมรับในตัวกริดจากก้นบึ้ง  เขาตัดสินใจรับใช้กริดด้วยประสงค์ของตนเอง
    คริสมั่นใจว่า  การอยู่ใต้กริดจะทำให้ตนพัฒนาได้อย่างไร้ขีดจำกัด
    และเหนือสิ่งอื่นใด  คริสชื่นชอบนิสัยกริดเป็นการส่วนตัว

    ยกเว้นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น…

    “ฉันอยากใช้ปราณดาบ”

    “...”

    หมอนี่เพี้ยนไปแล้วรึไง?
    ช่างตีเหล็กอยากใช้ปราณดาบ?
    ขณะกำลังล่าแวมไพร์อย่างตั้งใจ  สมาธิอันแน่วแน่ของคริสพลันแหลกละเอียดจากเสียงทักทายจากชายคนหนึ่ง

    “ปราณดาบเป็นทรัพยากรเฉพาะของนักดาบ  แถมไม่ใช่กับนักดาบทั่วไป  แต่ต้องเป็นระดับมหาจอมดาบเท่านั้น...นายจะไปมีปราณดาบได้ยังไง?”

    ฉัวะฉัวะ—

    คริสกล่าวพลางสังหารแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ที่ขนาบซ้ายขวาสองตัวพร้อมกัน
    เป็นการใช้เทคนิคของดาบใหญ่ได้น่าทึ่ง  กริดจ้องมองอย่างชื่นชม

    ชายหนุ่มรู้สึกแปลกประหลาด  ใจหนึ่งก็หลงไหล  อีกใจกลับหงุดหงิดที่เห็นคริสใช้เทคนิคดาบใหญ่ได้สมบูรณ์แบบไร้จุดบกพร่อง

    “นายรู้จักปราณดาบสินะ  ฉันอยากมีปราณดาบเป็นของตัวเอง...ต้องทำยังไง?”

    ฉึก!

    ฉัวะฉัวะ!

    บึ้มมมม—

    ชายหนุ่มฟาดฟันสี่ครั้งในหนึ่งวินาที  ตบท้ายด้วยแรงระเบิดสีดำที่น่าเกรงขาม  แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์จบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ

    คริสอึ้งไปพักใหญ่

    ‘นี่น่ะหรือ...ดาบใหม่ที่ลือกัน’

    พลังทำลายมหาศาลจนน่าขนลุก
    เหตุใดดาบมือเดียวถึงมีพลังทำลายสูงกว่าดาบใหญ่ที่ตนถือ?
    
    คริสนึกชื่นชมกริดในใจ  ชายคนนี้มีพัฒนาการเหนือความคาดหมายทุกคนเสมอ
    
    “หลังจากชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นและได้รับสมญานามราชาวีรบุรุษ  อันดับโลกของนายขยับขึ้นมาเป็นที่สามแล้วใช่ไหม?”

    “ฉันไม่กล้าอวดต่อหน้าอันดับหนึ่งของโลกหรอกนะ”

    “...หึหึ”

    คริสตระหนักทุกลมหายใจ
    บัลลังก์อันดับหนึ่งของตนเป็นเพียงสิ่งชั่วคราวเท่านั้น  สามารถถูกเหล่าอัจฉริยะระดับปีศาจช่วงชิงไปได้ทุกเสมอ  และหนึ่งในผู้ที่จะมาแย่งชิงคือกริด

    แต่คริสก็มิได้โกรธแค้นหรือเสียใจ
    เขายอมรับในตัวกริด  การมอบตำแหน่งนี้ให้กริดจึงไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย
    แน่นอนว่า  คริสจะไม่ยอมถูกใครแย่งจนกว่ากริดจะคว้ามันไป
    
    “นายได้วิชาดาบใหม่มาจากหมู่เกาะเบเฮ็นใช่ไหม?”

    อัจฉริยะเช่นคริสคาดเดาสถานการณ์ได้ด้วยบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยค
    สิ่งนี้ทำให้กริดผู้สมองทึบรู้สึกทึ่ง

    “ถูกต้อง...นายฉลาดจัง”

    “สรุปได้ดังนี้  ปราณดาบคือทรัพยากรพิเศษสำหรับมหาจอมดาบ  และมีเพียงคลาสเกี่ยวกับนักดาบเท่านั้น  จึงจะครอบครองสมญานามมหาจอมดาบได้  หรืออีกความหมายหนึ่งคือ  นายไม่มีวันได้ครอบครองปราณดาบแน่นอน”

    “...”

    หางตากริดพลันกระตุก
    ความจริงมักโหดร้ายกับเขาเสมอ

    ชายหนุ่มระบายอารมณ์ใส่ฝูงแวมไพร์ตรงหน้าด้วยวิชาดาบมายา  
    ภายในเมืองแวมไพร์อันมืดนิด  เกิดระเบิดดังสั่นหวั่นไหวต่อเนื่อง  คร่าทำลายทุกชีวิตจบดับดิ้นในพริบตา  
    จากนั้น  กริดถอนหายใจยาว

    “แล้วฉันต้องทำยังไง?  ฉันไม่มีวันใช้ทักษะที่ต้องการปราณดาบได้เลยหรือ?”

    “โดยปรกติจะเป็นเช่นนั้น  แต่สำหรับนายอาจมีทางเลือกอื่น...”

    ซู่วว—
    
    ณ เมืองแวมไพร์ลำดับ 13

    อดีตเคยเป็นเมืองที่ปกครองโดยเอลฟิน·สโตน  แต่ปัจจุบัน  บอสใหญ่กลายเป็นแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ดาษดื่น

    กริดและคริส
    
    สองสุดยอดขุมพลังแห่งโอเวอร์เกียร์ย่างกรายเข้าสู่ห้องบอสใหญ่

    บอสตนนี้โมโหมากที่กริดและคริสบังอาจรบกวนเวลานอนแสนมีค่า  มันลงมือโจมตีใส่ทั้งสองโดยไม่เกริ่นให้มากความ

    ทันใดนั้น  รอบกายคริสบังเกิดหมอกสีฟ้าระยิบระยับห้อมล้อม

    “นี่คือปราณดาบ”

    เปรี้ยงงง—

    ดาบใหญ่คริสฟาดฟันจนเกิดภาพตกค้างเป็นเส้นฟ้า
    มันคือการโจมตีสุดน่าทึ่งที่สามารถสร้างบาดแผลฉกรรจ์ลงบนร่างบอสใหญ่แห่งเมืองแวมไพร์ลำดับ 13 ในพริบตา
    
    “สุดยอด...”

    กริดจ้องมองอย่างสนใจ

    “ออร่าสีม่วงรอบตัวนาย...ใช่ปราณนักสู้ของสมญานามราชาวีรบุรุษรึเปล่า?”

    คริสหันมามองออร่าหมอกม่วงระยิบระยับรอบตัวกริด

    “หนึ่งในภารกิจที่ฉันเคยทำมา  มันเขียนระบุไว้ชัดเจนว่า...ราชาวีรบุรุษเคยเป็นสมญานามของอริยดาบมุลเลอร์”

    “อริยดาบมุลเลอร์…?”

    “ถูกต้อง  มุลเลอร์คือผู้ที่ครอบครองทั้งปราณดาบและปราณต่อสู้  สิ่งนี้ย่อมหมายถึง  ปราณต่อสู้สามารถปรับใช้กับวิชาดาบได้  ทำไมนายไม่ทดสอบใช้ปราณต่อสู้แทนวิชาดาบดูล่ะ?”

    “แล้วต้องทำยังไง?”

    “...ฉันคงตอบให้ไม่ได้  มันเป็นสิ่งที่นายต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง”

    บึ้มบึ้ม—

    เปรี้ยงงงง—

[ ผู้ปกครองเมืองแวมไพร์ลำดับ 13  แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ ‘เรย์’ ถูกสังหาร ]

    กริดและคริสต่างได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก
    
    แม้จะสนทนากันอย่างจริงจังตลอดดันเจี้ยน  แต่กริดและคริสกลับไม่ละสายตาจากการต่อสู้เลยสักวินาทีเดียว  
    ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแสนน่าทึ่ง
    กริดและคริสเคลียร์ดันเจี้ยนเมืองใต้ดินแวมไพร์ด้วยเวลาสั้นที่สุดเป็นสถิติใหม่

    ชายหนุ่มครุ่นคิด

    ‘ถึงเวลาล่าเมืองแวมไพร์ถัดไปรึยัง?’

    กริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์ได้หยุดล่าดันเจี้ยนแวมไพร์ไปพักใหญ่  เพราะความหวาดกลัวที่มีต่อแมรี่·โรสและแวมไพร์ทายาทตนอื่น

    แต่หลังจากครั้งนั้น  เวลาก็ล่วงเลยมานานมากแล้ว
    ทุกคนเติบโตขึ้น

    การเคลียร์เมืองแวมไพร์ใต้ดินคงไม่ใช่เรื่องยากเกินกำลังอีกต่อไป
    หากแมรี่·โรสไม่ปรากฏตัวล่ะนะ

    “อา...เดี๋ยวฉันกลับไปถามสติกส์เรื่องปราณต่อสู้ก็แล้วกัน  ขอบคุณมาก...คริส  นายเองก็รีบอัพเลเวลอย่าให้ใครตามทันล่ะ”

    “นายพูดแบบนี้หลังจากแย่งค่าประสบการณ์ของฉันไปครึ่งหนึ่งเนี่ยนะ?”

    “ฮะฮะ!  ขอโทษที...แล้วอย่าลืม  ถ้านายมีปัญหาอะไรสามารถติดต่อฉันได้ทุกเมื่อ!”

    กริดทิ้งให้คริสบ่นอุบอิบตามลำพัง  
    ตัวเขารีบเดินทางกลับไรน์ฮาร์ททันที

    คริสได้แต่อมยิ้ม

    “ฉันจะรอดวลกับนายในงานแข่งปีนี้”


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,151
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00