จ้างแห่งยุทธภัณฑ์ 690



    ฉัวะฉัวะ—

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—

    ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน
    เฉกเช่นนามของมัน  ทักษะนี้มีพลังอำนาจมหาศาลสุดหยั่ง

    จุดที่เกิดความเสียหายมิได้มีเพียงร่ายกริด  หากแต่รวมถึงรัศมีรอบกริดหนึ่งร้อยเมตร

    รัศมีดาบหลายพันเส้นพวยพุ่งทำลายพื้นดินที่ว่างเปล่าบนเกาะหมายเลข 66 เกิดคราบระเบิดสีดำตามพื้นดินเป็นวงมหึมา
    มันคือทักษะโจมตีหมู่แสนทรงพลัง

[ ท่านได้รับความเสียหาย 10,900 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 11,310 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 10,870 หน่วย ]

...
[ ค่าประสบการณ์ของเข็มขัดทีราเม็ทเพิ่มขึ้น 0.12% ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 11,100 หน่วย ]

...
[ สมญานามกษัตริย์คนแรกแสดงผล ]
[ ความปลอดภัยกษัตริย์สำคัญที่สุด  ท่านได้รับความเสียหายเกินกว่า 70% ของพลังชีวิต  ระบบจะทำการสร้างบาเรียคุ้มกายเท่ากับความเสียหายที่ได้รับใน 1 นาทีล่าสุด ]
[ ท่านได้รับบาเรียคุ้มกายที่สามารถดูดซับความเสียหายได้ 61,722 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,870 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 10,200 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,930 หน่วย ]


[ ค่าประสบการณ์ของเข็มขัดทีราเม็ทเพิ่มขึ้น 0.12% ]
[ บาเรียคุ้มกายถูกทำลาย ]

    “เคลื่อนที่อิสระ!”

    ทุกสิ่งทุกอย่างด้านบนเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที
    ใช่แล้ว  อ่านไม่ผิด  ไม่ถึงหนึ่งวินาที
    มิใช่สิ่งที่กริดจะจินตนาการคาดหวังไว้ล่วงหน้า  
    ในวินาทีที่ชีวิตก้าวเข้าสู่ขอบเขตความตาย  สัญชาตญาณเอาตัวรอดพลันตอบสนองอัตโนมัติโดยที่สมองยังไม่ทันสั่งการ

    แต่สัญชาตญาณที่ดีย่อมเกิดจากการหล่อหลอมด้วยอุปสรรคนานาชนิดในอดีต
    
    ฟุ่บ!

    ฟุ่บฟุ่บ—

    “...หืม”

    มาดราเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อยเมื่อการโจมตีของตนเริ่มพลาดเป้า
    ชายหนุ่มโจมตีตอบโต้กลับ  เขาเล็งฟันใส่ลำคอมาดราอย่างแม่นยำ
    ด้วยความเร็วสี่ครั้งต่อวินาที

    ฉัวะ!

    ฉึกฉึก!  ฉัวะ!

[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 7,600 หน่วย ]
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 912 หน่วยด้วยผลของแหวนเอลฟิน·สโตน ]
[ ค่าประสบการณ์ของแหวนเอลฟิน·สโตนเพิ่มขึ้น 0.2% ]

[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 7,540 หน่วย ]
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 7,660 หน่วย ]
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 7,590 หน่วย ]

    “หลบไม่พ้นหรือนี่...เราผู้นี้อ่อนแอลงขนาดนี้เชียว”

    “อ่อนแอลง...”

    กริดได้แต่กลืนน้ำลายอีกใหญ่
    เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า  ชุดเกราะราชาไร้พ่ายที่บูบัตสวมในงานแข่งนานาชาติหนที่สอง  เป็นเกราะหนักที่มีค่าพลังป้องกันกายภาพสูงมาก

    ‘คริติคอลสร้างความเสียหายได้ไม่ถึงแปดพัน...มาดราคือปีศาจที่มีทั้งฝีมือและไอเท็ม!’
    
    ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า  มาดราคือกริดเวอร์ชั่นอัจฉริยะที่บรรลุศาสตร์ทุกแขนง
    
    เมื่อกริดตาสว่าง  เขาพลันรู้สึกตึงเครียดในบันดล  ระหว่างนี้  มาดราพยายามใช้มือข้างขวากำด้ามดาบตนเองให้ถนัดแน่นอยู่หลายหน

    “มือกระดูกช่างไม่เหมาะกับการจับดาบเอาเสียเลย  เราผู้นี้จึงใช้ดาบพินาศได้เพียงทัพหนึ่งแสนเท่านั้น”

    “…!”

    ตัวตนระดับบอสที่มีโชคชะตาเผชิญหน้ากับผู้เล่น  ย่อมต้องมีจุดอ่อนให้จัดการที่ใดสักแห่ง
    ไม่เว้นแม้กระทั่งมังกรที่ผู้เล่นยังมิอาจรับมือไหวในปัจจุบัน
    ด้วยเหตุนี้  S.A. กรุ๊ปจึงวางเนื้อเรื่องของมังกรไว้ในอนาคตที่เหมาะสม
    
    บางการกระทำของบอสสามารถบอกใบ้ถึงจุดอ่อนให้ผู้เล่นทราบ
    แน่นอนว่า  ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะมองหามันพบหรือไม่
    กริดสัมผัสได้ทันที  มือขวาของมาดรากำลังมีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล

    ‘กระดูกมือขวามีรอยแตกร้าว!

    ก่อนหน้านี้  มาดราเคยบอกใบ้มาแล้วหลายจุดอ่อน
    เขาเปรยอย่างไม่พอใจทุกครั้งถึงความอ่อนแอลงของตัวเอง  แสดงท่าทีหงุดหงิดเมื่อจับดาบได้ไม่ถนัด  คอยย้ำอยู่เสมอว่า  ร่างโครงกระดูกไม่เหมาะกับการใช้ดาบโจมตี

    สมองกริดกำลังประมวลผล

    ‘หรือมาดราจะเป็นบอสที่ยิ่งสู้ยิ่งอ่อนแอลง...’

    โดยทั่วไป  บอสประเภทนี้พบได้ไม่ยาก
    มอนสเตอร์ระดับบอสที่ดูแข็งแกร่งและทรงพลังในตอนต้น  แต่เมื่อเวลาผ่านไป  ร่ายกายกลับทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว
    
    ‘ทุกครั้งที่ใช้ทักษะ  กระดูกจะรับภาระหนักจนเกิดอาการร้าว  หากปล่อยไว้  อีกไม่นานมาดราต้องทำลายตัวเองแน่’

    ดังนั้น  กลยุทธ์คือการยื้อเวลาให้นานที่สุด
    แต่ในวินาทีแรก  กริดกลับสูญเสียสองทักษะสำคัญอย่างกษัตริย์คนแรกและเคลื่อนที่อิสระ

    การสู้โดยยื้อเวลาจะง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ?
    
    “เดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า!  หัตถ์เทวะ!”

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—

    หัตถ์เทวะรอบกายกริดเริ่มเปิดฉากบุก  พวกมันกระจายตัวออกพร้อมกับเหวี่ยงมโยลเนียร์ใส่มาดราจากทุกทิศทาง
    
    แต่มาดราดำรงชีวิตท่ามกลางกระแสสงครามอันโหดร้ายทุกลมหายใจ
    การโดนศัตรูรุมล้อมคือเหตุการณ์ปรกติไม่ต่างจากกินข้าว
    เขาสามารถโจมตีใส่กริดพร้อมกับรับมือหัตถ์เทวะสี่ข้างในเวลาเดียวกัน
    
    “ตีฝ่าทัพหนึ่งล้าน!”

    ฟุ่บ—

    มาดราขยับร่างกายได้รวดเร็วราวกับเป็นเรื่องโกหก
    เขาหมุ่นควงสว่านรอบตัวเองในพริบตาเพื่อซัดหัตถ์เทวะทั้งสี่จากทุกทิศทางให้แตกกระเจิงพร้อมกัน  จากนั้นยังคงหมุนตัวพุ่งเข้าหากริดด้วยความเร็วสูง

    “…!”

    “ดาบสะบั้นทัพสองแสน!”

    ซู่ววววววว—

    คลื่นดาบขนาดมหึมาซึ่งตัดทุกสิ่งที่พุ่งผ่านให้ขาดเป็นสองท่อน!
    มหาคลื่นดาบทรงจันทร์ครึ่งเสี้ยวถูกปลดปล่อยจากปลายดาบมาดรา  โดยพุ่งแหวกอากาศเข้าหากริดเป็นแนวนอน

    ฟ้าวววว—

    แรงสั่นสะเทือนราวกับโลกจะพังทลายส่งผลให้กริดเริ่มโงนเงนเสียหลัก  ปลายทางของมหาคลื่นดาบเป็นอื่นมิได้นอกจากร่างตน
    สัญชาตญาณกำลังกรีดร้องภายในห้วงความคิด  หากถูกดาบนี้เข้า  รับรองว่าร่างกายได้ขาดเป็นส่องท่อนแน่

    แต่กริดมีวิธีรับมือในใจแล้ว
    เขาออกคำสั่งย้ำหัตถ์เทวะที่กำลังจะกลับมาช่วยเหลือ : พวกแกจงโจมตีต่อไป
    ขณะเดียวกัน  ชายหนุ่มเต้นรำจังหวะดาบวังวนอย่างช่ำชอง

    “โฮ่?”    
    
    ซู่วว!

    ฟ้าววววว—

    วังวนห้วงมิติลึกลับดูดกลืนมหาคลื่นดาบของมาดราเข้าไป  จากนั้นก็ปล่อยกลับออกมาในทิศทางตรงข้าม
    
    มหาคลื่นดาบสีม่วงที่ควรตัดขาดกริดเป็นสองท่อน  บัดนี้หวนกลับย้อนทำร้ายตัวมาดราเสียเอง

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 2,118,000 หน่วย ]

    กริดได้แต่ยิ้มแห้งเมื่อเห็นตัวเลขความเสียหายจากข้อความระบบ
    
    ‘...บ้าบอสิ้นดี’

    มันชื่ออะไรแล้วนะ?
    ดาบสะบั้นทัพสองแสนใช่ไหม?
    
    มาดรา  ชายคนนี้มีพลังป้องกันกายภาพระดับน่าทึ่งชนิดที่กริดคริติคอลได้เพียงไม่ถึงแปดพัน  แต่เขากลับถูกทักษะของตัวเองเข้าไปมากถึงสองล้าน
    
    กริดกระจ้างแจ้ง...
    สัญชาตญาณของตนล้วนถูกต้อง  หากถูกดาบเมื่อครู่เข้าไป  กล้าพนันได้เลยว่าประกันชีวิตอมตะถูกใช้แน่นอน

    “ผู้สืบทอดแพ็กม่า...”
    
    มาดราระบุตัวตนกริดอย่างแม่นยำ
    หลังจากใช้ดาบสะบั้นทัพสองแสน  กระดูกแขนขวาเริ่มร้าวจนอยู่ในสภาพวิกฤต  มาดราสลับดาบมาถือในมือข้างซ้ายทันที

    “ชักสนุกแล้วสิ  แพ็กม่าคือผู้ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ถูกปนเปื้อน  และผู้สืบทอดกำลังจะชำระล้างมัน  โลกใบนี้หมุนรอบช่างตีเหล็กรึไง”

    “…?”

    กริดประหลาดใจไม่น้อย
    ท่าทีของมาดราดูใจเย็นว่าที่กริดเคยจินตนาการไว้

    “ในเมื่อรู้แล้วว่าฉันคือผู้สืบทอดแพ็กม่า  บุคคลที่เปลี่ยนนายให้กลายเป็นอัศวินความตายเปรียบดั่งอาจารย์ฉัน  นายไม่มีสิ่งใดอยากระบายกับฉันเลยรึไง”

    “เหตุใดต้องระบาย?”

    “...แพ็กม่าจับนายขังไว้ที่นี่นานกว่าหนึ่งร้อยปี”

    “หืม…?  คุคุ!  เข้าใจแล้ว...เจ้าคิดว่าเราจะเคียดแค้นที่ถูกแพ็กม่าเปลี่ยนให้อัศวินความตายสินะ  แล้วคิดว่าเราจะระบายความแค้นใส่ผู้สืบทอดเช่นเจ้า  นั่นคือสาเหตุที่เจ้าไม่ยอมเปิดเผยตัวตนใช่ไหม”

    “...”

    ถูกต้อง
    กริดมองว่า  ตำนานทุกคนที่กลายเป็นอัศวินความตายเพื่อปกป้องหมู่เกาะเบเฮ็นคือ ‘ผู้ถูกกระทำ’ 
    ดวงวิญญาณของพวกเขาถูกปลุกจากการหลับไหลเพื่อปกป้องหมู่เกาะแสนโดดเดี่ยวแห่งนี้นานกว่าร้อยปี
    ระบุให้ชัดคือ  กริดรู้สึกเห็นใจต่อเหล่าอดีตตำนานมาก
    
    มาดรายักไหล่เล็กน้อยเมื่ออ่านความคิดกริดอย่างทะลุปรุโปร่งผ่านแววตา

    “ผู้ที่น่าสงสารอย่างแท้จริงคือแวมไพร์ครึ่งมนุษย์ในร่างกายเจ้าต่างหาก  หมอนั่นถูกทรยศโดยแพ็กม่า  แต่ปัจจุบันกลับต้องอาศัยร่างของผู้สืบทอดแพ็กม่าเพืื่อดำรงชีวิตต่อไป  เป็นแวมไพร์ที่ช่วงสุดท้ายของชีวิตกลับเข้าใจหัวอกมนุษย์ขึ้นมา”

    >>  ไอ้ระยำ!

    นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่เกาะหมายเลข 66
    บราฮัมเริ่มหงุดหงิดใจตั้งแต่มาดราเรียกตนว่าแวมไพร์ครึ่งมนุษย์
    ปัจจุบัน  เมื่อถูกดูแคลนเป็นหนที่สอง  เขามิอาจเก็บงำความฉุนเฉียวได้อีก
    กริดรีบปรามบราฮัมที่อาจคลุ้มคลั่งและฝืนผสานวิญญาณโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ‘ได้โปรด...ครั้งนี้อย่าก่อกวนการต่อสู้ของฉันอีก’

    ระหว่างดวลกับแอ็กนัส  กริดถูกขัดขวางกลางคันด้วยความคลุ้มคลั่งของบราฮัม  ทำให้เขามิอาจสำแดงฝีมือในฐานะนักดาบช่างตีเหล็กได้  ต้องสู้ด้วยร่างมหาจอมเวทที่ไม่ถนัดเลยสักนิด
    กริดไม่ต้องการให้เหตุการณ์ซ้ำเดิมเกิดขึ้นอีก

    การพึ่งพาบราฮัมมักนำไปสู่ผลลัพธ์ไม่น่าอภิรมณ์เสมอ  เขาเลิกหวังขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นนับแต่นั้น

    ‘ฉันจะหุบปากมันเอง  จงเชื่อมือฉันและคอยดูจากข้างในให้เต็มสองตา  รอสะใจในความพ่ายแพ้ของมันได้เลย’

    >>  กริด...

    หัวใจบราฮัมพลันถูกสั่นคลอน
    ไม่เคยมีใคร…
    นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  ไม่เคยมีใครเลยสักคนที่เอ่ยปากบอกกับมหาจอมเวทย์ในตำนานเผ่าพันธุ์แวมไพร์ว่า  ‘ได้โปรดฝากความหวังไว้ที่ฉัน’

    คำพูดกริดสร้างแรงกระเพื่อมในใจบราฮัมได้มหาศาล
    แต่เขาพยายามระงับมิให้แสดงออกมา

    >>  เฮ่อะ!  อยากทำอะไรก็เชิญ!  แต่นายอย่าได้ลืมเด็ดขาด  ว่ามาดราร่างนี้อ่อนแอลงกว่าแต่ก่อนมากแล้ว!  ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คนอย่างนายสมควรแพ้เลยสักนิด!

    ‘อา...เดี๋ยวฉันจะอัดมันเอง’

    มาดราอ่อนแองั้นหรือ…?
    นั่นเมื่อนำไปเทียบกับสมัยยังมีชีวิต
    กริดไม่รู้จักอดีตและตำนานเล่าขานวีรกรรมของมาดรา  แต่เขามั่นใจมากว่า  อัศวินความตายตรงหน้าคือศัตรูอันดับหนึ่งเท่าที่เคยเผชิญหน้าตามลำพัง
    โอกาสชนะไม่ได้สูงส่งขนาดจะประกาศกร้าวใหญ่โตได้
    
    “พลิ้วไหว·โทสะช่างตีเหล็ก”

    กริดควักมีดสั้นออกมาบัฟพร้อมกับพุ่งไปยังด้านขวาของมาดรา
    บริเวณนี้คือจุดบอด  เพราะกระดูกแขนขวาของมาดรากำลังเสียหายหนัก
    ชายหนุ่มสวมผ้าปิดตาและหน้ากากเพชฆาตพร้อมกับเปิดทักษะแสดงจุดอ่อน

    “วิชาดาบแพ็กม่า·ร่ายรำ!”

    ฟุ่บ—

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—

    แม้ความสุดยอดจะห่างไกลกับ ‘ดาบพินาศหนึ่งแสนทัพ’ ของมาดรา  แต่นี่คือทักษะที่มีสปีดการโจมตีสูงสุดของเขา
    รัศมีดาบ 20 เส้นภายในหนึ่งวินาที  ทั้งหมดพุ่งปะทะร่างมาดราจากด้านข้างด้วยความเร็วสูง
    แต่มาดราตอบโต้ทันควัน
    เขาหายตัวมาปรากฏด้านซ้ายกริด  จากนั้นเริ่มง้างดาบฟันสวน
    ทว่า…

    ผัวะ!

    “…!”

    ท้ายทอยมาดราถูกมโยเนียร์ด้ามหนึ่งกระแทกใส่อย่างจัง
    มาดราถูกโจมตีเพราะกริดอ่านเกมออกว่าเขาจะหลบทางซ้าย
    บราฮัมส่งเสียงสะใจ

    >>  ต้องอย่างนั้น!  ซัดไอ้โครงกระดูกระยำนี่ให้หมอบ!  มันไม่มีมันสมองหลงเหลืออยู่แล้ว  ก็เลยถูกลูกไม้กระจอกของนายเล่นงานเข้า

    ‘...การเน้นย้ำว่าเป็นลูกไม้กระจอกมันทำให้สถานการณ์ดีขึ้นยังไง?’

    ผัวะ!

    กริดเริ่มรำดาบทันทีที่มาดราชะงักจากผลของค้อน
    สุดยอดท่าไม้ตายก้นหีบ
    คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหาร

    “โฮ่?”

    ซู่ววว—

    มาดราเริ่มทึ่งเมื่อเห็นท่วงท่ารำดาบของกริด  
    ไม่แปลกที่เขาจะสนใจ  เพราะมาดราก็เป็นหนึ่งในผู้ที่คุ้นเคยวิชาดาบแพ็กม่าดี
    คลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหารอัดแน่นด้วยกลิ่นอายทำลายล้างไม่ด้อยไปกว่าทักษะไม้ตายของแพ็กม่าสมัยยังมีชีวิตเลยสักนิด

    “มาถึงขั้นนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังดยุคแห่งไฟงั้นหรือ...”
    
    ฉึก!
    
    ฉึกฉึกฉึก—
    
    ซ่าาาา—

    ฟัน  แทง  ฟัน  แทง  ฟาดลง  และฟันทะแยง
    เปลวเพลิงสีส้ม  สายฟ้าสีแดง  และเปลวเพลิงสีดำ  ภัยพิบัติทางธรรมชาติถูกปลดปล่อยจากดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรม  กายาโครงกระดูกของมาดรากำลังจมท่วมด้วยสรรพการโจมตีนานาชนิด

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 113,500 หน่วย ]
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 256,200 หน่วย ]
[ หัตถ์เทวะ (1) สร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 1,010 หน่วย ]
[ เป้าหมายชะงัก 0.3 วินาที ]

[ สร้างความเสียหายเพิ่มเติมธาตุสายฟ้า 15% ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 129,700 หน่วย ]

[ หัตถ์เทวะ (2) สร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 650 หน่วย ]
[ เป้าหมายชะงัก 0.1 วินาที ]

[ ท่านอัญเชิญสายฟ้าสีชาด ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 278,030 หน่วย ]
[ เป้าหมายชะงัก 1.2 วินาที ]

[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ คริติคอล! ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 950,490 หน่วย ]

    คอมโบชะงักถาวรสอดประสานอย่างลงตัวระหว่างหัตถ์เทวะทั้งสี่และสายฟ้าสีชาด
    ราชาไร้พ่ายกำลังเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังเป็นหนแรกในชีวิตนับแต่เกิดมา
    
    “ตำนานไร้พ่ายจะสิ้นสุดลงในวันนี้!!”

    ชายหนุ่มกระหน่ำโจมตีไม่พักหายใจ
    เสียงประกาศกร้าวของเขาดังกังวาลไปทั่วเกาะหมายเลข 66  สอนประสานกับเสียงระเบิดและสายฟ้าที่ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
        
    ไม่เพียงเท่านั้น

    กริดอัญเชิญโนเอะและแรนดี้ขนาบข้างกายซ้ายขวา

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,145
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณผู้แปลมากครับสนุกมากเลย

    ReplyDelete
  2. ค้างว้อยยย!

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00