จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 680
ซ่าาา—
สะพานเชื่อมต่อกับสวรรค์และโลก
น้ำตกยักษ์พาดลงจากฟากฟ้าไกลสุดลูกหูลูกตา มันคือน้ำตกสูงหลายพันเมตรซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเกาะหมายเลข 62 ละอองน้ำสาดกระเซ็นทุกทิศทางประหนึ่งพายุฝนจากทวยเทพ
ร่างกายที่บอบบางของสติกส์ไม่ค่อยถูกกับน้ำเย็นสักเท่าไร ตรงกันข้ามกับกริด ชายคนนี้ไม่เกรงกลัวแม้กำลังเผชิญหน้ากับปลายเหล็กแหลมคม ดังนั้น เสียงอื้ออึงแทบหูดับจากฝอยละอองน้ำจึงมิอาจสั่นคลอนจิตใจอันแน่วแน่ได้
“ผู้พิทักษ์เกาะถัดไปเป็นใคร”
มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง หากกริดต้องการชนะโดยไม่พึ่งพาประกันชีวิตอมตะ สิ่งที่ควรรู้เป็นอันดับแรกคือ...คู่ต่อสู้เป็นใคร
เขาจะได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมืออย่างเหมาะสม
น่าเสียดายที่เกาะหมายเลข 63 คือดินแดนซึ่งสติกส์ไม่เคยไปถึงมาก่อน
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะความจริงแล้ว ลำพังฝีมือสติกส์เอง เขายังติดแหง่กอยู่เพียงเกาะหลัก 30 เท่านั้น ต้องให้กริดช่วยพามาจนถึงหลัก 60
“ไม่ทราบเหมือนกัน...ขออภัยที่เป็นประโยชน์ให้ฝ่าบาทไม่ได้”
“นายเป็นเอลฟ์...ไม่ต้องก้มศีรษะให้มนุษย์อย่างฉัน”
หากเป็นกริดในอดีต เขาคงสบถอย่างหัวเสียถึงความไร้ประโยชน์ของสติกซ์ ชายคนนี้เป็นเอลฟ์ผู้ทรงปัญญา เหตุใดถึงไม่มีประโยชน์อันใดเลย...
แต่ปัจจุบัน หากเอาใจเขามาใส่ใจเรากริดจะเข้าใจหัวอกสติกส์ได้ไม่ยาก
คนไม่รู้ จะให้ตอบว่ารู้ได้อย่างไร
การกระทำของกริด ส่งผลให้สติกส์พยายามเค้นสมองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขามีสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะเอ่ยปาก
“ก่อนหน้านี้ กระผมเคยบอกไปแล้วว่า มุลเลอร์ไม่มีทางถูกเปลี่ยนให้เป็นอัศวินความตายแน่นอน ไม่ใช่แพ็กม่าด้วย เนื่องจากเขาเป็นผู้สร้างอัศวินความตาย และไม่ใช่บราฮัมเช่นกัน”
แน่นอนอยู่แล้ว เพราะปัจจุบัน ดวงวิญญาณบราฮัมกำลังสถิตย์อยู่ในร่างตน
ชายหนุ่มโล่งใจอย่างมากที่ไม่ต้องสู้กับบราฮัมในร่างลิช
‘ถ้านายเป็นลิช...ฉันคงไม่มีวันชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นสำเร็จ’
อัศวินความตายของอดีตตำนานจะใช้ได้เพียง ‘ทักษะพื้นฐาน’ และนั่นถือเป็นจุดอ่อนใหญ่ร้ายแรงของพวกเขา
แต่สำหรับบราฮัมแล้ว มันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เวทมนตร์สุดถนัดของบราฮัมล้วนเป็นเวทพื้นฐานเวอร์ชั่นพัฒนา หากบราฮัมกลายเป็นลิชล่ะก็ แม้จะใช้เวทมนตร์พื้นฐานได้เพียงไม่กี่ชนิด เช่นศรเวท ไฟบอล และตั้งเวลา แต่แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับสร้างอสูรกายขึ้นมาหนึ่งตน
อสูรกายที่ผู้เล่นไม่มีวันเอาชนะได้
‘บราฮัม...นายรู้ตัวรึเปล่าว่าตนเองยอดเยี่ยมถึงขนาดนั้น’
>> ฮึ! ตำนานไม่ได้เก่งเหมือนกันหมดทุกคนหรอกนะ ฉันคือหนึ่งในตำนานหัวแถวของโลก
บราฮัมได้ใจเพียงเพราะคำเยินยอเล็กน้อย ช่างย้อนแย้งกับความเป็นจริงนัก ทั้งที่บราฮัมคือนักโทรลล์ตัวพ่อมาโดยตลอด
กริดแลบลิ้นปลิ้นตาเพื่อหวังยัวยุดวงวิญญาณบราฮัมที่อยู่ด้านใน
ขณะเดียวกัน คำวิเคราะห์ของสติกส์ยังคงดำเนินต่อ
“หากไม่นับสามคนที่กล่าวมาข้างตน และไม่นับสองคนที่ถูกจัดการไปแล้วอย่างลันเทียร์และอเล็กซ์ ตำนานจะเหลือเพียงสี่ ซึ่งประกอบด้วยนักธนูในตำนาน ‘โพเวีย’ ช่างตัดเย็บในตำนาน ‘ครูเกอร์’ นักขุดแร่ในตำนาน ‘กิส’ และคนสุดท้าย...”
ลิมชอลโฮเคยกล่าวไว้ว่า ตำนานในอดีตจะมีทั้งหมดเก้าคน
ใครคือคนที่เหลือ…กริดมั่นใจมาก
“มาดรา...”
“ฝ่าบาทรู้อยู่แล้วสินะ”
เป็นดังคาด ตัวตนที่แท้จริงของตำนานคนที่เก้าคือมาดรา ราชาไร้พ่าย
บุคคลเดียวในประวัติศาตร์ที่สามารถนำกองทัพรบชนะจักรวรรดิในยุครุ่งเรือง
ชายผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ และตำนานคนเดียวที่เป็นกษัตริย์
“ทั้งสี่คนจะปรากฏตัวบนสี่เกาะที่เหลือ โดยไม่เรียงลำดับ”
สติกส์ไม่อาจเดาได้เลยว่าใครเป็นคนต่อไป แต่ถึงอย่างนั้น กริดก็โล่งใจไปหลายส่วน
“สองในสี่คนนั้น ฉันน่าจะเอาชนะได้ไม่ยาก”
สองคนที่กริดหมายถึงคือ นักขุดแร่ในตำนาน ‘กิส’ และช่างตัดเย็บในตำนาน ‘ครูเกอร์’ ด้วยความที่เป็นคลาสสายผลิต กริดจึงมองว่าตำนานเหล่านี้ไม่น่าจะแข็งแกร่งสักเท่าไร
“...แต่ฝ่าบาทก็เป็นช่างตีเหล็กนะ”
“...”
แพ็กม่าคือช่างตีเหล็กและนักดาบ
ดังนั้น กิสกับครูเกอร์ก็สามารถมีฝีมือต่อสู้ที่เก่งฉกาจได้เช่นกัน
“นั่นก็เป็นไปได้...”
ชายหนุ่มเริ่มตึงเครียด เมื่อลองย้อนกลับไปมองแพ็กม่า เขาเริ่มตระหนักได้ว่า ทั้งกิสและครูเกอร์อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่าย
ปัญหาคือวิธีต่อสู้ของสองคนนั้น กริดจินตนาการไม่ออกเลยว่า ช่างตัดเย็บกับนักขุดแร่จะใช้ศาสตร์ใดในการเอาชีวิตศัตรู
ในส่วนนี้ ภูมิปัญญาสติกส์สามารถไขความกระจ่าง
“มาดราเป็นนักกลยุทธ์ผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม ศิลปการต่อสู้เก่งกาจ และวิชาดาบที่ยากจะหาใครทัดเทียม หนึ่งดาบของมาดราสามารถดับลมหายใจทหารจักรวรรดิได้นับแสน...ใช่แล้ว นับแสน”
สติกส์ยังคงเล่าต่อไป
“กิสคือตัวแทงค์ที่มีร่างกายแข็งแกร่งกำยำดุจดั่งหินผา ค่าพลังทางกายภาพสูงที่สุดในบรรดาตำนานทั้งหมด ส่วนครูเกอร์โด่งดังในด้าน ‘เข็มปลิดชีพ’”
“อา...”
เมื่อลองคิดดูใหม่ คู่ต่อสู้ที่ง่ายคงเป็นโพเวียกับกิส
‘นักธนูอย่างโพเวียคงไม่ใช่ปัญหา หากย่นระยะได้ใกล้กว่า 200 เมตร เราสามารถเข้าประชิดตัวในพริบตาด้วยเคลื่อนที่อิสระ จากนั้นก็จัดการแบบเดียวกับอเล็กซ์’
ส่วนตัวแทงค์ที่พลังโจมตีต่ำ คู่ต่อสู้ประเภทนี้รับมือง่ายที่สุด
‘ตัวแทงค์มักไม่ดุดัน...แต่แตกต่างจากเราที่ค่าพลังป้องกันและโจมตีสูงทั้งคู่ หากโจมตีแลกกัน ฝ่ายชนะย่อมเป็นเราแน่’
และคนที่ยากที่สุดจากทั้งหมด…
กริดกังวลกับมาดราอย่างมาก
‘ถ้ามาดราเก่งกาจศิลปการต่อสู้และวิชาดาบจริง ทักษะพื้นฐานของเขาย่อมมีจำนวนมาก แม้ทักษะสุดยอดอาจถูกผนึกไว้ แต่ด้วยความหลากหลายของทักษะพื้นฐาน มาดราจะเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยากที่สุด แถมยังเป็นกษัตริย์ หากประเมินจากสมญานามกษัตริย์คนแรก ทักษะติดตัวของมาดราต้องเป็นชนิดถึกทนแน่’
คนที่ควรกังวลคือมาดรา
ส่วนครูเกอร์…แม้กริดจะไม่รู้ว่าเข็มปลิดชีพคือสิ่งใด แต่เขาก็ไม่วิตกเท่าที่ควร กริดมีจอมปราชญ์สติกส์ผู้รอบรู้
“เข็มปลิดชีพ...หมายความว่ายังไง”
สติกส์เริ่มอธิบาย
“เป็นวิธีการต่อสู้โดยใช้เข็มแทงลงบนร่างกายศัตรู แม้จะเป็นเพียงเข็มเล็ก แต่หากแทงเข้าที่จุดหมุนเวียนพลังอย่างแม่นยำ ศัตรูจะถึงแก่ความตายในพริบตา ครูเกอร์ที่เป็นนักตัดเย็บในตำนาน เขาย่อมใช้งานเข็มได้คล่องแคล่ว ความแม่นยำอยู่ระดับเหนือจินตนาการ”
“อา...”
ภาพของจอมยุทธลอยเข้ามาในหัว
จอมยุทธในหนังกำลังภายในมักใช้งานเข็มได้หลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการทะลวงจุดชีพจร เป็นได้ทั้งเครื่องมือช่วยเหลือชีวิตและอาวุธดับลมหายใจ
ถึงกระนั้น กริดมิได้มองว่าเป็นภัยร้ายแรงเลยสักนิด
‘ฟังดูอ่อนแอฉิบ’
อาวุธที่เล็กอย่างเข็มย่อมมีระยะการโจมตีกำจัดกำเขี่ย สามารถรับมือได้ง่ายด้วยดาบยาว
ยิ่งไปกว่านั้น...
‘พลังโจมตีของเข็มต่ำมาก’
ชายหนุ่มสวมใส่สามชั้นที่ขึ้นชื่อด้านพลังป้องกันกายภาพ แม้แต่มีดอันคมกริบของนักลอบสังหารยังยากทะลวงผ่าน นับประสาอะไรกับเข็ม
กริดแสยะยิ้ม
“ดูเหมือนจะง่ายทุกคนยกเว้นมาดรา”
กริดต้องการดวลกับมาดราในเกาะสุดท้าย คงดีกว่าหากเอาชนะตำนานคนอื่นและรวมรวบไอเท็มกับเลเวลให้แข็งแกร่งที่สุดก่อนเผชิญหน้ามาดรา
[ ระยะหน่วงของประกันชีวิตอมตะพร้อมใช้งาน ]
เมื่อข้อความที่รอคอยแสดงขึ้น กริดลุกพรวดพร้อมกับเดินไปยืนบนสะพานที่นำพาไปยังเกาะถัดไป เขาอมยิ้มก่อนจะหันกลับมาโบกมือให้สติกส์
“ไว้พบกันเกาะหน้า”
“ขอให้ฝ่าบาทโชคดี”
สติกส์สัมผัสได้ถึงความมั่นใจที่มากเป็นพิเศษจากกริด แต่ถึงกระนั้นก็มิได้ทักท้วงออกไป เขาเลือกจะฝากอนาคตการชำระล้างหมู่เกาะให้อยู่ในมือกริดแล้ว
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มย่างกรายเข้าประตูมิติพร้อมกับถูกส่งตัว
ซู่ว—
รายกายของเขาเลือนหายไปจากการมองเห็นของสติกส์
***
[ ท่านเข้าสู่เกาะหมายเลข 63 ]
‘จะเป็นใครกันนะ’
โพเวีย มาดรา กิส หรือครูเกอร์
ผู้พิทักษ์บนเกาะหมายเลข 63 จะเป็นใครในสี่ตำนานที่เหลือ…
สิ่งแรกที่ชายหนุ่มทำคือระแวดระวังการซุ่มโจมตี เขาส่งหัตถ์เทวะออกไปเตรียมป้องกันฝนธนูที่อาจจู่โจมเข้ามา
แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายวินาที บรรยากาศโดยรอบยังคงเงียบงันเช่นเดิม โอกาสเป็นโพเวียลดลงหลายส่วน
‘ไม่เหมือนกับลันเทียร์และอเล็กซ์ที่โจมตีใส่ทันที...’
เช่นนี้คงเป็นกิสหรือครูเกอร์
คนทั้งสองเป็นคลาสสายผลิตซึ่งพลังโจมตีค่อนข้างอ่อนแอ คงฉลาดกว่าหากเลือกโจมตีอย่างระมัดวังในจังหวะเหมาะสม
ทันใดนั้น...
“ดวงตาช่างตัดเย็บในตำนาน”
“…!”
ชายหนุ่มพลันเย็นสันหลังวาบเมื่อได้ยินสุ้มเสียงอันแหบพร่าของอัศวินความตายดังมาจากบนหินก้อนใหญ่ด้านหลัง
เป็นเสียงที่ลุ่มลึกกังวาลประหนึ่งดังจากปากถ้ำ
“หัตถ์เทวะ!”
ชายหนุ่มสั่งให้หัตถ์เทวะกระชับเข้ามาใกล้เพื่อเตรียมรับมือการโจมตี เขากำดาบแห่งการบรรลุสัจธรรมในมือแน่น โดยพร้อมโจมตีสวนกลับทุกเมื่อ
แต่อัศวินความตายกลับทำเพียงจ้องมองโดยไม่ขยับร่างกาย ชื่อเหนือศีรษะเขียนไว้ชัดเจนว่าครูเกอร์ ช่างตัดเย็บในตำนานเจ้าของผลงานผ้าคลุมล่องหนอันลือเลื่อง
ครูเกอร์มองกริดพร้อมกับกล่าวซ้ำ
“ดวงตาช่างตัดเย็บในตำนาน”
“…!”
เมื่อได้ยินชัดเจนเต็มสองหู ชายหนุ่มเริ่มตื่นตัวมากขึ้น หากดวงตาช่างตัดเย็บเหมือนกับดวงตาช่างตีเหล็กล่ะก็ หมายความว่าครูเกอร์กำลังตรวจสอบไอเท็มของตนอยู่ และนั่นจะเป็นการระบุจุดแข็งจุดอ่อนได้เป็นอย่างดี
ชายหนุ่มไม่มีวันปล่อยให้ครูเกอร์เห็นรายละเอียดไอเท็มตนไปมากกว่านี้ เขารีบโจมตีใส่เป้าหมายด้วยทักษะสุดทรงพลัง
กริดประเมินครูเกอร์ไว้ต่ำมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“วิชาดาบแพ็กม่า...มายาร่ายรำ”
ฟุ่บฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—
พายุรัศมีดาบหลายสิบเส้นพุ่งเข้าหาครูเกอร์เหนือหินก้อนใหญ่อย่างแม่นยำ ชายหนุ่มคาดว่าครูเกอร์คงหลบไม่พ้น เพราะปัจจุบันกำลังเพ่งสมาธิสำรวจรายละเอียดไอเท็มตนอยู่
ระหว่างครูเกอร์กำลังได้บาดเจ็บ กริดหวังฉวยโอกาสนี้พุ่งตัวปีนป่ายขึ้นไปบนหินพร้อมกับซัดการโจมตีถัดไป
ทว่า...
ฟุ่บ—
เข็มแหลมเล่มหนึ่งพุ่งทะลวงผ่านกลุ่มระเบิดและควันของมายาร่ายรำออกมา มันถูกเล็งใส่หว่างคิ้วกริดอย่างแม่นยำขณะชายหนุ่มกำลังปีนป่ายก้อนหิน
ปัจจุบัน ไม่มีข้อความระบบใดเลยที่แจ้งว่าครูเกอร์ได้รับความเสียหาย
‘นี่เขาหลบหลีกรึไม่ก็ปัดป้องมายาร่ายรำได้งั้นหรือ...’
แม้จะไม่เข้าใจ แต่กริดยังรักษาความสุขุมอยู่ ชายหนุ่มโยกศีรษะเล็กน้อยเพื่อหลบเข็มขนาดเล็กที่สั้นเพียงห้าเซนติเมตร จากนั้นก็ปีนขึ้นบนยอดก้อนหินด้วยความเร็วสูง
...แล้วก็ต้องพบกับความประหลาดใจ
‘หายไปแล้ว...’
หายไปไหน!
ครูเกอร์หายตัวไปราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ บนก้อนหินมีแค่กริดยืนตามลำพัง
‘เกิดอะไรขึ้น...’
เขากวาดสายตามองโดยรอบพร้อมกับขมวดคิ้ว
บราฮัมส่งเสียงจากด้านใน
>> ใช้เวทมนตร์ตรวจจับ!
เป็นคำแนะนำเดียวกับเมื่อครั้งเผชิญหน้าทักษะพรางตัวของลันเทียร์
กริดตระหนักได้ทันที
‘ผ้าคลุมล่องหน!’
ใช่แล้ว ชายคนนี้คือครูเกอร์ ช่างตัดเย็บในตำนาน เฉกเช่นช่่างตีเหล็กที่โอเวอร์เกียร์ไอเท็มประเภทโลหะ ช่างตัดเย็บก็โอเวอร์เกียร์ไอเท็มประเภทผ้า!
ฉึก!
ขณะกำลังใช้เวทมนตร์ตรวจจับ ชายหนุ่มถูกลอบโจมตีจากด้านข้างโดยที่ไม่ทันระวัง เป็นเข็มขนาดเล็กจากครูเกอร์ที่กำลังหลบซ่อนตัว
ทว่า…
[ ท่านได้รับความเสียหาย 430 หน่วย ]
เข็มยังเป็นเข็มวันยังค่ำ
มันมิอาจทะลวงผ่านสามชั้นได้ง่ายนัก แถมยังลดทอนความเสียหายประเภทการแทงลง ตัวเลขที่เกินขึ้นจึงนับว่าน้อยนิด
“เล่นตลกกันรึไง”
กริดแสยะยิ้มพร้อมกับรำดาบเตรียมใช้ ‘คลื่น’ ที่มีการโจมตีเป็นวงกว้าง สิ่งนี้จำเป็นสำหรับเปิดเผยตัวตนครูเกอร์ออกมา
แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ
[ เข็มทะลวงชีพจรของครูเกอร์ส่งผลให้มานาของท่านไหลย้อนกลับ ]
[ ท่านมิอาจต้านทาน ]
[ วิชาดาบแพ็กม่า คลื่น ล้มเหลว! ]
[ พลังชีวิตลดลงเป็น 3 เท่าของปริมาณมานาที่ต้องใช้ ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 2,400 หน่วย ]
“...”
นักสร้างอาการผิดปรกติอันดับหนึ่ง!
นี่คือตัวตนที่แท้จริงของครูเกอร์ กริดรู้สึกเย็นสันหลังวาบ เส้นขนลุกตั้งชันทั่วร่าง
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่คิดอยู่นิ่ง เขารีบใช้เวทมนตร์ตรวจจับเพื่อรีบค้นหาตัวครูเกอร์โดยเร็ว
ขณะเดียวกัน ครูเกอร์ได้ถอดผ้าคลุมล่องหนออก เผยให้รูปลักษณ์ในปัจจุนอย่างชัดเจน
โครงกระดูกอัศวินความตายที่กำลังหนีบเข็มสามเล่มในทุกซอกนิ้ว เครื่องแต่งกายภาพนอกคือผ้าคลุมหรูหราลวดงดงาม
ดูคล้ายกับลิชไม่มีผิด
“ดวงตาช่างตัดเย็บในตำนาน”
ซู่ว—
ครูเกอร์ใช้ทักษะเดิมซ้ำอีกหน แสงสีม่วงรอบร่างกายสะบัดไหววูบวาบเมื่ออัศวินความตายตรงหน้ากำลังเพ่งสมาธิมายังกริด
ชายหนุ่มพลันรู้สึกราวกับร่างกายถูกเปลือยเปล่าในยามข้อมูลไอเท็มถูกส่งไปยังศัตรู
“บัดซบ!”
กริดปรี่เข้าหาครูเกอร์อย่างฉุนเฉียว เข็มทะลวงชีพจรของครูเกอร์จะส่งผลเพียงทักษะเดียว ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษะถัดไปได้อย่างอิสระ
ในวินาที่ <ร่ายรำ> ถูกปลดปล่อยออกจากคมดาบ
ซู่วววว—
โดมโปร่งแสงถูกสร้างขึ้นรอบกายครูเกอร์ในรัศมีสิบเมตร ร่ายรำของกริดปะทะมันอย่างจังจนเกิดระเบิดทมิฬสั่นสะเทือนท่วมเกาะ
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—
“...”
ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด...ม่านโดมโปรงแสงยังคงปักหลักในจุดเดิมอย่างมั่นคง ไม่ถูกสั่นคลอนหรือแตกร้าวแม้แต่เศษขนแมว
เพลิงทมิฬหลายระลอกที่เบิดใส่อย่างเกรี้ยวกราดล้วนไร้ผล
กริดพลันขมวดคิ้วฉงน
‘มีทักษะป้องกันตัวที่ขี้โกงขนาดนี้บนโลกด้วยรึไง...’
นั้นเป็นความเข้าใจผิด
ม่านโดมโปร่งแสงมิใช่ทักษะที่ครูเกอใช้งาน หากแต่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกจากระบบของซาทิสฟาย
กริดได้เรียนรู้ความจริงอันน่าตกตะลึงด้วยตาตนเอง
[ ‘ครูเกอร์’ ช่างตัดเย็บในตำนานกำลังลงมือสร้างไอเท็ม! กระบวนการทั้งหมดใช้เวลานาน 10 นาที ท่านไม่มีสิทธิ์รบกวน ]
“...เอ๋!”
ภายในโดมโปรงแสง อัศวินความตายโครงกระดูกกำลังนังยองลงกับพื้นและเริ่มใช้เข็มร้อยด้ายเข้ากับเศษผ้า
ช่างเป็นภาพที่น่าขบขัน
...แต่กริดขำไม่ออกเลยสักนิดเดียว
“...”
เหนือศีรษะชายหนุ่มมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด
ผสานเสื้อผ้า
ReplyDeleteมีเหตุผล
Deleteสร้างไอเทมต่างหาก
ReplyDeleteพอตอนกริดสร้างไอเท็มไม่เห็นมีแบบนี้มีแต่พาเฟเนี่ยมแต่โดมก็โกงอยู่ดี
ReplyDelete