จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 687



    ‘แอ็ปเปิ้ล??’

    หากดูจากสภาพของโนเอะและแรนดี้  สัญลักษณ์แอ็ปเปิ้ลคงหมายถึงการถูกโพเวีย ‘ล็อคเป้า’
    ดูเหมือนแผนจะย่นระยะเข้าหาโพเวียด้วยเคลื่อนที่อิสระโดยไร้รอยขีดข่วนจะกลายเป็นหมันไปเสียแล้ว  ทักษะนี้หลบได้เฉพาะการโจมตีที่ไม่ล็อคเป้า

    “นักธนูมีทักษะล็อคเป้าไกลขนาดนี้ได้ยังไง…?  ขี้โกงฉิบ...!  เวทตรวจจับ!”

    ซู่ว—
    
    กริดพยายามควานหาตัวโพเวียอย่างสิ้นหวังด้วยเวทตรวจจับ (พัฒนา) ที่เขาหมั่นใช้งานทุกวันอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันมีเลเวลสาม
    ทันใดนั้น   เสียงของบราฮัมดังขึ้นจากด้านใน

    >>  จุดลอบยิงของนักธนูไม่ได้ใกล้ตัวเหมือนนักลอบสังหารหรอกนะ  โดยเฉพาะนักธนูในตำนานเช่นเธอ…

    กริดเองก็รู้เรื่องนี้ดี  เขาเห็นจิสึกะแสดงฝีมือมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน 
    เป็นไปตามความคาดหมาย

    เวทตรวจจับคว้าน้ำเหลว…

    “เฮ่อ...เวทมนตร์ของนายมักไร้ประโยชน์ในช่วงเวลาสำคัญเสมอ”

    >>  เพราะผู้ใช้งานอ่อนหัดต่างหาก
    
    บราฮัมเชื่อว่า  หากเวทตรวจจับมีเลเวลมากกว่านี้สักสองระดับ  รับรองว่าโพเวียจะถูกพบตัวแน่นอน
    
    >>  นี่คือสาเหตุที่ฉันบอกให้นายหมั่นฝึกฝนเวทมนตร์  มิใช่สร้างกางเกงในผลาญเวลาอย่างไร้ค่า

    กว่าพักใหญ่แล้วที่กริดอุทิศตัวให้กับการสร้างกางเกงในมากกว่าฝึกฝนเวทมนตร์
    ขณะบราฮัมกำลังถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย  ฝนธนูห่าใหญ่ได้โปรยลงมาจากท้องฟ้าด้านบน
    รวมทั้งหมด 11 ดอก

    กริดตอบโต้ด้วยท่าทีสุขุมจนน่าทึ่ง

    “หัตถ์เทวะ!”

    เริ่มด้วยการใช้หัตถ์เทวะปัดป้องลูกธนูส่วนใหญ่  จากนั้นก็อาศัยความว่องไวส่วนตัวคอยโยกหลบ
    นับเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เลว

    ขอเพียงไม่ใช่ทักษะชนิดล็อคเป้า  การหลบหลีกก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับกริด  จะมาเป็นฝนธนูเช่นนี้ก็ไม่เกี่ยง

    แต่น่าเสียดายที่กริดลืมนึกไปว่า  ร่างของตนก็ถูกอีโมติค่อนแอ็ปเปิ้ลปรากฏขึ้นเช่นกัน  ย่อมหมายความว่า  ห่าฝนของโพเวียทั้ง 11 ดอกล้วนเป็นศรชนิดล็อคเป้าทั้งสิ้น  นี่คือการโจมตีที่ระบบของซาทิสฟายไม่อนุญาตให้หลบหลีก

    ฉึก!

    ฉึกฉึก—

    มีศรเพียงส่วนน้อยที่หัตถ์เทวะปัดป้องสำเร็จ  ส่วนที่เหลือได้พุ่งเสียบปักร่างกริดโดยมิอาจหลบพ้น

    “อั่ก…!”

    ศรหกดอกสร้างความเสียหายแก่ชายหนุ่มได้มากกว่า 40,000 หน่วย

    ‘ความรุนแรงขนาดนี้...ไม่ได้คิดพลังป้องกันเลยรึไง?’

    เคร้งเคร้ง!

    เคร้ง—

    หลักจากศรห้านัดถูกบล็อคด้วยหัตถ์เทวะและโล่  กริดรีบหยิบลูกธนูบนพื้นขึ้นมาสำรวจรายละเอียดทันที
    
    ศรยัฟฟ่า...

    “กะแล้วเชียว...ว่าทำไมถึงได้เจ็บนัก”

    ชายหนุ่มนำโพชั่นพลังชีวิตออกมาดื่ม
    สุดยอดโพชั่นที่สร้างจากโรแปรธาตุเรย์ดัน  พวกมันมีประสิทธิภาพเพิ่มเลือดในระดับน่าทึ่ง
    
    >>  ใจเย็นดีนี่

    ป่าดงดิบขนาดใหญ่ที่ปราศจากแสงสว่างจากดวงอาทิตย์
    ทิวทัศน์รอบด้านมีเพียงพืชพรรณเขียวชอุ่ม   ทั้งงดงามและน่ารำคาญลูกตาในเวลาเดียวกัน  ใบไม้เหล่านี้ปกปิดทัศนวิสัยการมองเห็นให้แคบลง  แถมยังมีเสียงร้องระงมจากเหล่าแมลงนานาชนิด
    สถานการณ์ฝั่งกริดค่อนข้างเสียเปรียบ
    ระหว่างกำลังตกที่นั่งลำบาก  ฝ่ายศัตรูยังลอบโจมตีเข้ามาด้วยทักษะที่รุนแรง  ไม่แปลกเลยที่โอกาสชนะของกริดจะเหลือเพียงริบหรี่

    แต่กระนั้น  เขากลับยังสุขุมจนน่าทึ่ง

    >>  มีแผนในใจแล้วหรือ

    บราฮัมพยายามข่มน้ำเสียงให้เรียบเฉย  ไม่แสดงความอยากรู้อยากเห็นออกนอกหน้า
    
    กริดตอบกลับอย่างมั่นใจ

    “ต่อให้โพเวียเป็นนักธนูในตำนาน  แต่เธอก็ไม่มีทางยิงทักษะล็อคเป้าได้ต่อเนื่องแน่...ฉันพูดถูกรึเปล่า”

    ลองนึกตามสภาพความเป็นจริง
    นักธนูที่สามารถยิงฝนศรจำนวนมากจากระยะไกล  แถมทั้งหมดยังเป็นการโจมตีชนิดล็อคเป้า  นับเป็นอีกหนึ่งทักษะสุดโกงที่ผู้เล่นล้วนต้องการมีไว้ในครอบครอง
    เป็นพลังที่สามารถทำลายสมดุลเกมให้ราบคาบในพริบตา
    
    ‘ต้องมีระยะหน่วงหลังใช้นานแน่’    

    หากเธอยังมีชีวิตอยู่ก็อีกเรื่อง
    แต่ปัจจุบัน  โพเวียคืออัศวินความตาย  แน่นอนว่าทักษะจะถูกลดทอนประสิทธิภาพลงหลายส่วน

    ‘โนเอะกับแรนดี้โดนไปคนละหนึ่ง  ส่วนของเราก็ 11 ดอก...รวมทั้งหมด 13 ดอกแล้ว  การโจมตีระลอกถัดไปต้องเป็นชนิดไม่ล็อคเป้าแน่’

    แต่โดยทั่วไป  การโจมตีชนิดไม่ล็อคเป้าจะมีพลังทำลายรุนแรงกว่าทักษะชนิดล็อคเป้ามาก
    ยิ่งโจมตีได้รุนแรง  ความยุ่งยากในการใช้งานก็ยิ่งมีสูง

    ‘และนั่นจะถึงเวลาของวันวน’

    ชายหนุ่มแสยะยิ้ม
    
    ‘จากนั้นก็...’

    กริดครุ่นคิดถึงลักษณะพิเศษของวิชาดาบแพ็กม่า ‘วังวน’ 
    มันมีคุณสมบัติในการ ‘สะท้อน’ ทักษะโจมตีของศัตรูกลับไป
    หรืออีกความหมายหนึ่ง  มันสามารถสะท้อนลูกธนูโพเวียกลับไปหาเจ้าของได้
    ชายหนุ่มหวังช่วงชิงโอกาสจากตรงนี้

    ‘ถ้าเรารีบตามการโจมตีที่วังวนสะท้อนกลับไป...เราก็จะได้พบโพเวีย’

    ทักษะสะท้อนการโจมตีสามารถใช้ในการค้นหาตำแหน่งศัตรูได้เช่นกัน
    สมองของกริดกำลังประมวลผลอย่างน่าทึ่งในสถานการณ์บีบบังคับเช่นนี้
    สิ่งนี้คือพัฒนาการทางธรรมชาติของผู้ที่ดำรงชีวิตด้วยความเสี่ยงตายตลอดเวลา
    กริดรู้สึกภูมิใจที่ตนคิดเรื่องนี้ได้  แต่เขาก็มิได้หลงตัวเองจนเกินพอดี

    ‘หากเป็นครอเกล...เขาคงใช้วังวนตั้งแต่ก่อนจะถูกโจมตี’

    ยิ่งกริดพัฒนาฝีมือต่อสู้  เขาก็ยิ่งยอมรับในความสุดยอดของครอเกลเหมือนกับแร้งเกอร์คนอื่น
    ช่างย้อนแย้งนัก...
    ยิ่งกริดเข้าใกล้  เขาก็ยิ่งรู้สึกห่างไกลจากครอเกลมากขึ้นทุกที

    ‘...แต่การตระหนักว่าครอเกลมีฝีมือยอดเยี่ยมเพียงใด  หมายความว่าเราเองก็เติบโตขึ้นมากแล้ว’

    หมับ!

    ป่านนี้ครอเกลคงมีความสุขอยู่กับการผจญภัยอยู่ที่ใดสักแห่งบนโลก
    กริดฉีกยิ้มพร้อมกับกำดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมในมือแน่น

    ซู่ววว—
    
    หนนี้  ศรหนึ่งดอกได้พุ่งลงจากท้องฟ้าด้วยบรรยากาศอันดุดันประหนึ่งอุกกาบาต
    แม้จะมีเพียงดอกเดียว  แต่ความน่าสะพรึงที่อัดแน่นกลับมิอาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

    หากกริดโดนการโจมตีนี้เข้า...บางทีอาจถึงกับต้องใช้งานประกันชีวิตอมตะ
    กระนั้น  ชายหนุ่มยังคงสงบใจ  ไม่แตกตื่นเกินพอดี
    กริดรำดาบวังวนเสร็จสิ้นแล้ว  รอเพียงประกาศใช้ในจังหวะสมบูรณ์แบบเท่านั้น...

    “วังวน!”

    ซู่ววววว—

    ฝืนป่าสั่นครืนอย่างรุนแรง  หมู่แมกไม้โยกเอนตามแรงลม
    ศรอุกกาบาตถูกสะท้อนกลับด้วยวิชาดาบวังวนก็จริง  แต่อานุภาพความรุนแรงที่แฝงมาได้ทำให้ผิวหนังกริดไหม้เกรียมไปบางส่วน
    ชายหนุ่มหยุดรอจังหวะเล็กน้อย

    “บิน!”

    เขาหยิบยืมพลังรองเท้าบราฮัมเพื่อบินตามด้านหลังศรอุกกาบาตที่กำลังจะกลับสู่จุดเริ่มต้นยิง

    ‘ตั้งเวลาศรเวท  สามวินาที  ด้านหน้า’

    ซู่ว—

    บอลแสงสีขาวปรากฏขึ้นรอบตัวกริดขณะกำลังบินฝ่ายหมูมวลพฤกษา

    “ตรงนั้น!”

    ในจังหวะที่กริดกำลังร่อนลง  เขาได้เห็นอัศวินความตายโพเวียกำลังแอบซุ่มอยู่ระหว่างสองผาชัน

    บึ้มมมม—

    ศรอุกกาบาตพุ่งเข้าหาโพเวียด้วยความเร็วสูง  ตามต่อด้วยศรเวท
    และยังไม่จบเพียงเท่านี้

    “วิชาดาบแพ็กม่า!”

    โพเวียกระโดดหลบศรอุกกาบาตและศรเวทอย่างคล่องแคล่ว  แต่กริดอ่านออก  เขาเล็งซัดร่ายรำใส่ทิศทางที่เธอหลบกระโดดหลบไป

    ฟุ่บ!

    ฟุ่บฟุ่บฟุ่บ—

    รัศมีดาบจำนวน 20เส้นพวยพุ่งออกจากปลายดาบยาวที่มีเปลวเพลิงลุกโชนและกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
    คลืี่นพลังโจมตีตกกระแทกร่างโพเวียอย่างหนักหน่วง  ส่งผลให้เกิดระเบิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่สองสี  สีส้มและสีดำ  รวมถึงสายฟ้าสีแดงที่ฟาดผ่าลงมาจากด้านบน
    
    บึ้มบึ้ม—
    
    ครืนนนนน—

    ตู้มตู้มตู้มตู้ม—

    “…!”

    ราวกับกริดคือผู้ที่สามารถเสกภัยพิบัติได้ดั่งใจนึก
    โพเวียพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดท่ามกลายภัยธรรมชาติหลากหลาย 
    ด้วยความคล่องแคล่วของนักธนูในตำนาน  ระหว่างนี้โพเวียได้ยิงธนูสวนกลับใส่กริดเป็นระยะ

    “พลิ้วไหว!  โทสะช่างตีเหล็ก!  เคลื่อนที่อิสระ!”

    สมาธิของชายหนุ่มกำลังสงบนิ่งจดจ่อไม่ต่างจากตอนตีเหล็ก  กริดต้องการชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นจากก้นบึ้งหัวใจ

    แต่นี่ยังไม่ใช่สมาธิสูงสุด

    พลังที่แท้ริงของกริดจะถูกระเบิดออกในยามถูกคุกคามอย่างหนัก  เฉกเช่นเมื่อครั้งต่อสู้กับครูเกอร์และกิส
    
    เคร้งเคร้ง!

    เคร้งเคร้งเคร้ง—

    กริดพุ่งฝ่าและปัดทำลายฝนธนูที่โพเวียกระหน่ำยิงสวน  จากนั้นก็ฟาดดาบใส่หล่อนด้วยการโจมตีธรรมดา
    ดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมได้ส่งเสียงคำรามตอบรับความมุ่งมั่นของเจ้านาย  มันคือเสียงระเบิดของเปลวเพลิงและสายฟ้า

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 18,900 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 20,730 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความ… 22,500 หน่วย ]

[ <เพลิงทมิฬ> แสดงผล ]    

    บึ้มมมม—

    สุดยอดเหนือคำบรรยาย…!
    ถัดมาเป็นการรัววิชาดาบแพ็กม่านานาชนิดเข้าใส่  ระหว่างนั้น  บัญชาแห่งเทพได้แสดงผลลบล้างทักษะสำคัญ
    เป็นชุดการโจมตีที่แม้แต่ราชาไร้พ่ายก็ยังต้องล้มลง

    >>  แต่แค่นี้จะพอหรือ

    บราฮัมเอ่ยปากถามจากที่ใดสักแห่งในร่างกริด

    “สุดยอด…!”

    สติกส์ผู้เฝ้ามองกริดจากบอลคริสตัล  เขากล่าวสรรเสิญกริดอย่างปลาบปลื้มอยู่หลายหน

    บึ้มบึ้ม!

    บึ้มบึ้มบึ้ม—

    โพเวียถึกทนกว่าที่คิด
    เธอรอดชีวิตจากมวลมหาระเบิดได้อย่างหวุดหวิด  จากนั้นก็ลงมือยิงตอบโต้ในระยะเผาขน
    ศรทุกนัดล้วนทรงพลังจนสามารถดับลมหายใจกริดได้ทุกเมื่อ  ยิ่งเป็นการยิงจากระยะใกล้  การหลบหลีกยิ่งยากเป็นเท่าทวี
    
    “ยารุกต์!”

    ซู่ววว—
    
    ศรดอกแรก  กริดยื้อด้วยแหวนโดรัน
    ศรดอกที่สอง  กริดยื้อด้วยโพชั่นและการทำงานของพลังทีราเม็ท  
    ขณะศรดอกสามกระทบร่างและส่งผลให้สมญานามกษัตริย์คนแรกทำงาน  กริดรีบสลับดาบโลหิตออกมาถือพร้อมอัญเชิญยารุกต์
    
    อสูรเฒ่าผมขาวปรากฏกายข้างโพเวีย

    “ดาบพิสุทธิ์”

    ฉัวะฉัวะฉัวะฉัวะ—

    “โฮกกกกก”

    แข็งแกร่ง...
    บราฮัมและสติกส์จ้องมองกริดอย่างชื่นชม
    บราฮัมไม่มองว่ากริดเป็นเพียงเด็กหนุ่มไร้เดียงสาอีกต่อไป

    >>  อย่างที่คิดไว้...พลังที่สามารถคุกคามได้แม้กระทั่งจอมอสูร

    “เมื่อกลายเป็นราชาวีรบุรุษ...เขาสามารถรับมือกับเจ็ดภัยพิบัติได้แน่!”

[ ท่านสังหารอัศวินความตายโพเวีย  ผู้พิทักษ์แห่งเกาะหมายเลข 65 ]
[ เกาะหมายเลข 65 ถูกชำระล้าง ]
[ รางวัลบททดสอบ : เลเวลของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <ปลอกมือสำหรับยิงธนูของเผ่าเอลฟ์ (สร้างโดยแพ็กม่า)> ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม <สร้อยคอต้นไม้โลก> ]

    ซู่วววว—

    เสาลำแสงสีขาวพวยพุ่งขึ้นฟ้า  มันส่องสว่างเจิดจรัสท่ามกลางป่าดงดิบอันมืดมิด  
    แสงดังกล่าวเผยให้เห็นสภาพอันเหนื่อยหอบที่เปี่ยมด้วยเหงื่อไหลของกริด  ตามร่างกายและใบหน้ามีบาแผลถูกยิงหลายแห่ง  โลหิตกระเซ็นเปรอะเปื้อนเป็นทางยาว
    
    “แฮ่ก...แฮ่ก...เหลือแค่เกาะสุดท้าย”

    หมู่เกาะเบเฮ็นเคยมีผู้มาเยือนมากหน้าหลายตา  ทั้งสมาชิกโอเวอร์เกียร์  ครอเกล  แอ็กนัส  ดาเมี่ยน  และซีบาล
    แต่บัดนี้  มันกำลังจะถูกราชาโอเวอร์เกียร์ชำระล้างให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง

    ***

[ ปลอกมือสำหรับยิงธนูของเผ่าเอลฟ์ (สร้างโดยแพ็กม่า) ] 
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 100/111
* ความเร็วโจมตีธนู +20% เมื่อสวม
(เผ่าเอลฟ์จะได้รับผลสองเท่า)
* การโจมตีธรรมดาหรือทักษะจะถูกเปลี่ยนให้เป็นการโจมชนิด ‘ล็อคเป้า’ หนึ่งครั้ง  ระยะหน่วงสามนาที
(เผ่าเอลฟ์จะลดระยะหน่วงลงครึ่งหนึ่ง)
    ปลอกมือที่สร้างให้กับอัศวินความตายโพเวีย  เป็นผลงานของแพ็กม่า  ช่างตีเหล็กในตำนานและผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
    ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับร่างกายของโพเวีย  ครึ่งมนุษย์  ครึ่งเอลฟ์
น้ำหนัก : 15

[ สร้อยคอต้นไม้โลก ]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 20/22
* เพิ่มพละกำลังและความว่องไว 20% ในดินแดนเอลฟ์
* มานาฟื้นฟูตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น 150% ในดินแดนเอลฟ์
* ความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 1.2 เท่าในดินแดนเอลฟ์
    ก่อนจะกลายเป็นตำนาน  โพเวียคือหญิงสาวที่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวลำพัง  เธอไม่เป็นที่รักของทั้งมนุษย์และเอลฟ์
    สร้อยคอเส้นนี้คือของขวัญจากต้นไม้โลก  เพื่อนเพียงคนเดียวในชีวิตเธอ
น้ำหนัก : 50

    ‘ยอดเยี่ยมจนหมดคำพูด...’

    ทุกไอเท็มที่กริดได้รับจากหมู่เกาะเบเฮ็นหลัก 60 ล้วนมีมูลค่าสูงลิบลับ
    มันไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขให้ชัดเจนได้เลย
    หมู่เกาะเบเฮ็นเป็นราวกับคลังสมบัติล้ำค่าขนาดใหญ่
    กริดดีใจที่ตนมาถึงจุดนี้ได้เป็นคนแรก

    เขากำลังฉีกยิ้มกว้าง
    ทันใดนั้น  เสียงของสติกส์ดังขึ้นจากด้านหลัง

    “ฝ่าบาท…!  เกาะต่อไปต้องระวังตัวให้มาก...หากกระผมเข้าใจไม่ผิด  ราชาไร้พ่ายมาดราจะต้องมีสติสัมปชัญญะสมัยเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่แน่”

    “สติสัมปชัญญะ?”
    
    บนเกาะหมายเลข 65 ที่ถูกชำระล้าง
    เพื่อที่จะเคลียทั้ง 66 เกาะให้จงได้  กริดจึงไม่คิดประมาทและจดจำคำเตือนของสติกส์ไว้หนักแน่น

    “ทำไมอัศวินความตายถึงยังมีสติสัมปชัญญะหลงเหลือ”

    “ซากศพที่เปี่ยมด้วยแรงอาฆาตและความทรงจำสมัยยังมีชีวิต  ด้วยวัตถุดิบเช่นนี้  แพ็กม่าสามารถสร้างอัศวินความตายหรือลิชที่มีสติสัมปชัญญะได้...ความทรงจำอันเข้มข้นที่ตกค้างอยู่ในซากศพคือแรงขับเคลื่อนให้ร่างกายขยับตามใจนึก”

    “แรงอาฆาต…?  ราชาไร้พ่ายมีสิ่งใดให้ต้องเสียใจด้วยหรือ  ในมือไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด  เขาก็น่าจะจากโลกนี้อย่างมีความสุขไม่ใช่รึไง”
    
    >>  มาดราไม่ได้ตายอย่างมีความสุข  เขาถูกบุตรชายตนสังหาร

    “...”

    >>  คุคุ  แม้ฉันเองก็เคยถูกเพื่อนรักทรยศมาบ้าง  แต่ไม่รุนแรงเท่ากรณีของมาดราหรอกนะ

    “...”

    กริดเริ่มคิดว่า  เนื้อหาในซาทิสฟายถูกแต่งได้หดหู่ยิ่งกว่าละครย้อนยุคร่วมสมัยเสียอีก  มันไม่เหมาะกับการเป็นเกมเกาหลีใต้สำหรับการผ่อนคลายเลยสักนิด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,143
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มาดรา ชายผู้ที่ไม่สยบต่อผู้ใด

    ReplyDelete
  2. ต้องให้นารูโตะมาเป็นไลฟ์โค้ช

    ReplyDelete
  3. ผมที่อ่านมาดราเป็นมาดาระ

    ReplyDelete
    Replies
    1. 555ถ้าเป็นมาดาระกริดคงไม่มีทางชนะ

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00