จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 691

    บึ้มบึ้ม—

    เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นทุกครั้งที่กริดฟาดฟันใส่มาดรา
    เอฟเฟคสุดแสนตระการตาของเพลิงสีส้ม  สายฟ้าสีแดง  และเพลิงสีดำ  เป็นราวฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องดัง
    ไม่มีอาวุธใดสามารถสร้างภัยพิบัติได้มากมายเช่นนี้อีกแล้ว
    ไม่มีสิ่งใดต้องอธิบายให้มากความ  กล่าวโดยสั้น  มันคืออานุภาพทำลายล้างที่สามารถสยบได้ทุกสิ่งมีชีวิต

    “อา...”

    มาดรา
    เขาถูกกล่าวขานให้เป็น ‘ราชาไร้พ่าย’ เพราะไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด  จนกระทั่งช่วงหนึ่งของชีวิต  มาดรากลายถือกำเนิดใหม่ในฐานะตำนาน
    สำหรับเขา  ผู้ยืนบนจุดสูงสุดมาโดยตลอดไม่ว่าจะยามเป็นหรือยามตาย  การเผชิญความสิ้นหวังตรงหน้านับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่แสนตื่นเต้น
    
    ในตอนแรก  มาดราลนลานเล็กน้อยเมื่อชะงักจากการถูกฝูงค้อนกระหนำทุบใส่ศีรษะอย่างต่อเนื่อง  
    แต่ผ่านไปไม่นาน  เขาระเบิดเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข

    “คุคุ…!  คุฮ่าฮ่า!  เราเข้าใจแล้ว!  สามัญชนต้องต่อสู้ด้วยเงื่อนไขลำบากเช่นนี้เสมอสินะ!”

    ผู้เป็นตำนานจะต้านทานสถานะผิดปรกติเกือบทุกชนิด  สิ่งนี้จึงแปลกใหม่สำหรับมาดราอย่างแท้จริง  
    ตำนานโดยทั่วไปจะต้านทานอาการผิดปรกติทางกายภาพบางชนิดไม่ได้  และบางทักษะโจมตีก็สามารถมองข้ามทะลวงผ่านค่าต้านทาน 100%
    ใช่แล้ว  ค่าต้านทาน 100% ของตำนานไม่ใช่สิ่งที่ป้องกันอาการผิดปรกติได้สมบูรณ์แบบ

    แต่กับมาดราแล้วต่างออกไป
    เพื่อจะไม่พ่ายแพ้ผู้ใด  มาดราฝึกฝนตนเองเให้รับมือกับอาการผิดปรกติทุกรูปแบบ
    ด้วยเหตุนี้  มาดราจึงมีทักษะพิเศษเฉพาะตัว  เขาเป็นผู้เดียวในหมู่ตำนานที่สามารถต้านทานอาการผิดปรกติทุกชนิดได้อย่าง ‘สมบูรณ์แบบ’
    
    ในแง่การเอาชีวิตรอด  ค่าต้านทานสมบูรณ์แบบของมาดราจะยอดเยี่ยมยิ่งกว่าทักษะอ่านใจของอริยดาบมุลเลอร์เสียอีก
    
    แต่นั่นเป็นเรื่องราวในอดีต
    ทุกสิ่งจบลงนับตั้งแต่ถูกขุดคุ้ยซากศพขึ้นมาสร้างเป็นอัศวินความตาย
    ปัจจุบัน  เขามิอาจหลุดพ้นจากผลของชะงักถาวรโดยมโยลเนียร์สี่อันได้
    
    “เราผู้นี้...ราชาไร้พ่ายกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์สิ้นหวัง!  ช่างเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งนัก!”

    ‘หมอนี่เสียสติไปแล้วรึไง?’

    ผัวะ!

    ผัวะผัวะ—

    หัตถ์เทวะทั้งสี่ยังคงกระหน่ำทุบศีรษะมาดราโดยมิรู้เหน็ดเหนื่อย  จังหวะของพวกมันสอดประสานโดยไม่ขาดตกบกพร่อง
    อาการชะงักถาวรคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
    ผู้ชนะและผู้แพ้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
    มาดราไม่มีฤทธิ์เดชมากพอจะดิ้นรนขัดขืนกริดได้อีก
    หลังจากตายไปแล้วหนหนึ่ง  มาดรามีชะตากรรมต้องจบชีวิตลงเป็นหนที่สอง
    
    กระนั้น  ชายคนนี้กลับส่งเสียงหัวเราะอย่างอิ่มเอมใจ

    ‘เป็นเหมือนแอ็กนัสรึไง…’

    หรือมาดราจะเผชิญหน้ากับความโดดเดี่ยวบนเกาะ 66 จนเสียสติไปแล้ว
        
    แต่น่าเสียดายที่  กริดกำลังเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้าผิดไป

    แม้ชะตาชีวิตจะน่าเศร้า  แต่ความจริงที่มาดราไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใดก็ไม่เปลี่ยนแปลง
    ต่อให้เก่งกาจเพียงไหน  แต่หากประมาทพลาดพลั่งแม้เพียงเสี้ยววินาที  ศัตรูก็จะฉกฉวยมาเป็นโอกาสดับลมหายใจได้  
    ด้วยเหตุนี้  มาดราคือผู้ที่สุขุมเยือกเย็นได้ในทุกสถานการณ์สงคราม  นั่นคือรากฐานสำคัญของตำนานไร้พ่ายอันเกรียงไกร
    
    การที่มาดราหัวเราะ  นั่นเพราะเขามิได้มองว่าเป็นสถานการณ์เลวร้ายถึงชีวิต

    แกร่ก!

    แกร่ก!  แกร่ก!

    ระหว่างนี้  แรงระเบิดนานาชนิดรวมถึงแรงทุบค้อนจากหัตถ์เทวะเริ่มให้กะโหลกของมาดราเกิดรอยร้าว
    
    ‘ดีล่ะ  รักษาความได้เปรียบนี้ไว้’

    เมื่อเห็นว่าหลอดพลังชีวิตของมาดราลดลงเกือบถึง 50% แล้ว  ชายหนุ่มเร่งมือโจมตีปิดฉากการต่อสู้ไร้ประโยชน์ครั้งนี้โดยไว

    ตราบใดที่ยังมีคอมโบชะงักถาวร  เขาไม่มีทางพ่ายแพ้เด็ดขาด
    
    จากนั้น
    
    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—

    เสียงระเบิดดังกึกก้องไม่ขาดสายนานหลายนาที  จนกระทั่งพลังชีวิตมาดราลดลงเหลือเพียง 30%  กระโหลกศีรษะของเขาเริ่มปรากฏรอยร้าวชัดเจน

    ในเสี้ยววินาทีก่อนกะโหลกจะแตกเป็นเสี่ยงโดยสมบูรณ์...
    
    “เรารอเวลานี้มานานแล้ว”

    “…!”

    เมื่อสิ้นเสียง  มาดราสลัดหลุดคอมโบชะงักถาวรได้อย่างน่าทึ่ง

    เหตุผลนั้นแสนง่าย

    จังหวะที่กะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากแตกยุบ  การทุบค้อนของหัตถ์เทวะ (3) จึงต้องเปลี่ยนไปเล็กน้อย
    ทำไม?
    ย่อมช่วยไม่ได้  เพราะหัตถ์เทวะ (3) รับหน้าที่ทุบในส่วนกะโหลกหน้าผาก  เมื่อมันแตกยุบไปจนมิอาจทุบได้  หัตถ์เทวะ (3) จึงต้องเปลี่ยนจุดในการทุบ 
    
    ในสถานการณ์ปรกติ  หัตถ์เทวะ (3) จะลงมือทุบค้อนในทุก 0.6 วินาที  นั่นก็เพื่อให้สอดประสานกับหัตถ์เทวะอื่น  
    แต่พอถึงคิวของมัน  กระโหลกศีรษะสวนหน้าผากที่ตนควรทุบกลับไม่มีอยู่  มันจึงต้องมองหาจุดใหม่
    กระบวนการนี้ก่อให้เกิดช่องว่าง 0.2 วินาทีเหลื่อมล้ำ  และมาดราก็รอคอยมันมาตลอด
    เขาสังเกตุและคาดเดาว่าเหตุการณ์นี้ต้องเกิดขึ้น  เนื่องด้วยร่างกายที่แสนเปราะบางของตน

    ฉึก!

    ทุกสิ่งอุบัติในเสี้ยวพริบตา
    มาดราแหวกกลุ่มหัตถ์เทวะพุ่งเข้าหากริด  ปลายดาบเล็งแทงแม่นยำเสียบหน้าอกชายหนุ่มที่ขาดความระวังตัว

[ คริติคอล! ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 26,130 หน่วย ]
[ ค่าประสบการณ์ของเข็มขัดทีราเม็ทเพิ่มขึ้น 0.12% ]

    “ชิ…!”

    การต่อสู้ซึี่งหน้าไม่ใช่เรื่องดีแน่
    กริดต้องหาทางสร้างอาการชะงักถาวรอีกครั้งให้ได้
    ชายหนุ่มรีบสั่งให้หัตถ์เทวะรุมโจมตีใส่มาดราจากทุกทิศ

    ...แต่นั่นกลับสูญเปล่า

    บึ้มมมมม!

    ดาบมาดราที่ยังเสียบหน้าอกกริดพลันเกิดระเบิดรุนแรง  ปลดปล่อยรัศมีดาบทำลายล้างไปทั่วบริเวณ
    นี่คืออานุภาพของ ‘ดาบพินาศทัพสองแสน’  ที่สามารถคราชีวิตทหารทุกคนในรัศมีหลายร้อยเมตรรอบตัวมาดรา

    “...อ๊ากกก!”

    ชายหนุ่มครางอย่างเจ็บปวดด้วยร่างที่ลอยกระเด็นไปในอากาศ   ภาพการมองเห็นกลายเป็นสีแดงฉานพร้อมกระพริบวูบวาบ

    โนเอะและแรนดี้จบชีวิตลงอย่างฉับพลัน  สัตว์เลี้ยงทั้งสองกลับสู่ช่องสัมภาระ

[ ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง ]
[ หัตถ์เทวะเกิดอาการชะงัก ]
[ ค่าประสบการณ์ของเข็มขัดทีราเม็ทเพิ่มขึ้น 1% ]
[ ตำนานย่อมไม่ตายโดยง่าย  ท่านจะอยู่ในสภาวะอมตะเป็นเวลา 5 วินาทีด้วยพลังชีวิต 1 หน่วย ]

    ‘ได้ยังไง…?’

    ก่อนหน้านี้  ขณะหัตถ์เทวะสร้างอาการชะงักถาวร  กริดได้ฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาเต็มหลอดอีกหน  เป็นปริมาณพลังชีวิตที่มากถึงเกือบแสนหน่วย  ระดับเดียวกับตัวแทงค์แนวหน้าของโลก
    แต่ทั้งหมดนั่นกลับถูกลบออกไปในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที  พร้อมกับการทำงานของประกันชีวิตอมตะ
    มันเกิดขึ้นทั้งที่เขากำลังสวมสามชั้นอยู่

    ‘หนึ่งการโจมตีธรรมดา...และหนึ่งทักษะโจมตีหมู่เนี่ยนะ!’

    ขี้โกงฉิบ
    ทำไมนายถึงขี้โกงแบบนี้...มาดรา

    ‘ทั่งที่อัศวินความตายคนอื่นใช้ได้เพียงทักษะพื้นฐานเท่านั้น’

    แล้วทำไมปีศาจอย่างนายถึงใช้ท่าไม้ตายได้?

    กริดประเมินว่า  ‘ดาบพินาศทัพสองแสน’ ที่มาดราใช้เมื่อครู่จักต้องเป็นท่าไม้ตายของมาดราแน่
    รัศมีการโจมตีหลายร้อยเมตร  อนุภาพทำลายล้างมหาศาล  กริดไม่เคยได้รับทักษะใดรุนแรงเช่นนี้มาก่อน  จึงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากทักษะไม้ตาย
    ไม่ยุติธรรมเลยที่มาดราสามารถใช้ทักษะไม้ตาย  แม้จะกลายเป็นอัศวินความตายไปแล้ว

    ขณะกริดกำลังสับสนและหงุดหงิด  เสียงของบราฮัมได้ดังขึ้นจากด้านใน

    >>  นี่เป็นเพียงท่าพื้นฐานของมาดราเท่านั้น  แสนยานุภาพที่แท้จริงของมาดราจะเริ่มต้นที่ดาบพินาศทัพระดับ ‘ห้าแสน’ ขึ้นไป

    ‘อะไรนะ?  ขึ้นไป...?’

    >>  ทักษะที่สร้างชื่อและเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของมาดราคือ ‘ดาบพินาศทัพหนึ่งล้าน’  มาดราในปัจจุบันอ่อนแอลงมาก  ด้วยขีดจำกัดร่างกาย  มันคงใช้ได้เพียง ‘สองแสน’ เท่านั้น  ช่างน่าสมเพช  สิ่งมีชีวิตตรงหน้าไม่สมควรถูกเรียกว่ามาดรา

    “...”

    กริดไม่อยากฟังอีกแล้ว
    เขาไม่อยากเก็บคำพูดของบราฮัมมาคิดให้เจ็บปวดหัวใจ

    ‘ต้องทำให้จบในห้าวินาที!’

    ชายหนุ่มเปิดใช้งานร่างมืดพร้อมกับปรี่เข้าหามาดราโดยหมายจะจบทุกสิ่ง
    แต่บางครั้ง  ความตั้งใจเพียงอย่างเดียวก็ไม่มากพอจะนำพาทุกสิ่งให้ดำเนินไปในทิศทางที่ต้องการ  และโลกที่กริดอาศัยอยู่มักโหดร้ายกับเขาเสมอ

    “เราคงไม่ปล่อยให้เจ้าทำเช่นนั้น”

    ผัวะ!

    มาดราใช้ขาถีบกริดที่พุ่งพรวดเข้าหาเพื่อรักษาระยะห่าง  
    มาดราเองก็เป็นตำนาน  เขาย่อมรู้ว่าตำนานมีบัฟอมตะห้าวินาที

    “เจ้าไม่มีทางแตะต้องตัวเราได้”

    “เฮ่อะ!  นายมันขี้ขลาด!”

    แม้มาดราจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสง่างามและองอาจ  แต่การกระทำนั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
    เพื่อมิให้กริดแตะต้องตัว  มาดราเร่งฝีเท้าวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตโดยไม่แยแสเกียรติยศ
    ในทางทฤษฏี  ไม่มีทางเลยที่กริดจะไล่มาดราผู้ซึ่งมีวิชาเคลื่อนที่ระดับเดียวกับ ‘ชุนโป’ ของยังบันได้ทัน
    
    “จะหนีไปไหน!  หยุดก่อน!”
    
    “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  จับให้ได้ถ้าเจ้าแน่จริง”

    “คอยก่อนเถอะ!  ถ้าจับได้จะเชือดให้สาแก่ใจ!”

    >>  ...

    บัฟอมตะเหลือเพียงสี่วินาที
    มาดราวิ่งไปรอบเกาะ 66 อันว่างเปล่าพร้อมกับตะโกนว่า “จับเราให้ได้สิ” หลายหน  ส่วนกริดก็เอาแต่วิ่งไล่อยู่อย่างนั้น
    มองผิวเผินจะเหมือนกับคู่รักทั่วไปกำลังเล่นไล่จับ  ฉากรักอันเร่าร้อนระหว่างโครงกระดูกผุและชายหนุ่ม!

    >>  ...นายกำลังทำอะไร?
    
    ขณะบราฮัมโพล่งขึ้นด้วยน้่ำเสียงดูแคลนสุดขีด
    
    “ได้เวลาแล้วสินะ”

    ตึง!

    ในวินาทีที่บัฟอมตะกำลังจะหมดลง  มาดราหยุดวิ่งพร้อมกับตั้งท่าโจมตีใส่กริด
    เขาคิดจะเปิดฉากทันทีเมื่ออีกฝ่ายปราศจากบัฟอมตะ
    ทุกคนที่ล่วงรู้ความลับบัฟอมตะย่อมตัดสินใจกระทำแบบเดียวกัน

    และแน่นอนว่า  กริดเองก็อ่านอีกฝ่ายออก

    เขาดื่มโพชั่นพลังชีวิตพร้อมกับสวมแหวนโดรันเพื่อรอรับการโจมตีอันหนักหน่วง  จากนั้นก็รำวิชาดาบแพ็กม่าไว้หนึ่งชนิด
    เป็นวังวน
    สุดยอดทักษะสะท้อนที่สามารถส่งกลับการโจมตีได้ทุกชนิด
    ทว่า...

    เคร้ง!

    “…!”
    
    ดวงตากริดพลันเบิกโพลง  
    มาดรามิใช้ได้ทักษะใหญ่  เขาใช้เพียงการโจมตีแสนธรรมดา
    สิ่งที่กริดสะท้อนกลับไปคือการโจมตีธรรมดาจากมาดรา

    “ฮ่าฮ่าฮ่า!  เจ้านี่ช่างอ่านง่ายชะมัด!”

    ‘เขามองออก…!’

    นั่นสินะ  มาดรารู้จักแพ็กม่าเป็นอย่างดี  และรู้จักวังวนเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
    มาดราเดาออกว่ากริดจะจะใช้วังวนในจังหวะเช่นนี้

    ซู่วว—

    รัศมีดาบจากวิชาดาบ ‘พินาศทัพหนึ่งแสน’ กำลังพุ่งตรงมายังร่างกริดที่กำลังยืนท้อแท้สิ้นหวัง

    “กริด…!”

    ณ เกาะหมายเลข 65
    สติกส์พลันหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นเหตุการณ์จากบอลคริสตัล
    เขาตกตะลึงกับความแข็งแกร่งที่มีมากเกินพอดีของมาดรา  
    ชายคนนี้เป็นตัวตนที่น่าหวาดหวั่นจนสติกส์คิดถอดใจ   
    หากมาดรายังเป็นผู้พิทักษ์ของเกาะหมายเลข 66 อยู่เช่นนี้  บางทีอาจไม่มีผู้ใดสามารถชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นสำเร็จอีกแล้ว 

    แต่กริดคือตัวตนที่แตกต่าง
    ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างมีชัยเมื่อสายตากำลังจ้องมองยังรัศมีดาบที่พุ่งเข้าหาตน

    มาดราพลันฉงน
    
    “วังวน”

    “...อะไรนะ?”

    วิชาที่ตนสลายไปแล้วเมื่อครู่  อีกฝ่ายกลับใช้ซ้ำได้งั้นหรือ

    ซู่่ววว—

    ดาบพินาศแสนทัพ
    การโจมตีที่มาดราหมายจะดับลมหายใจกริด  บัดนี้ถูกสนองคืนกลับหาเจ้าของ
    มาดรารับมันเข้าไปอย่างจัง…

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—

[ ท่านสร้างความเสียหาย 1,435,900 หน่วยแก่เป้าหมาย ]

    “แค่ก...”

    เกาะหมายเลข 66 เกิดแรงสะเทือนประหนึ่งแผ่นดินไหว
    ท่ามกลางความพังพินาศเป็นวงกว้าง  ใจกลางความเสียหายคือร่างของราชาไร้พ่ายที่ยืนเด่นตระหง่าน
    ใครจะไปคิดกัน?
    ว่าราชาไร้พ่ายอย่างมาดรากลับต้องเผชิญหน้าวิกฤติสองครั้งซ้อนจากศัตรูคนเดิม
    
    “คาดไม่ถึงสินะ?”

    ชายหนุ่มสามารถใช้วังวงสอนหนซ้อนด้วยความช่วยเหลือจาก ‘บัญชาแห่งเทพ’
    เขารอดชีวิตอย่างหวุดหวิดเพราะโชคช่วยอย่างแท้จริง  กริดพยายามข่มความตื่นเต้นไว้ด้วยสีหน้า
    ชายหนุ่มกล่าวกับมาดราด้วยน้ำเสียงสุดแสนโอหัง

    “ทุกการกระทำถูกคำนวณไว้ล่วงหน้่าอย่างแม่นยำแล้ว...เมื่อครู่ก็เพิ่งบอกไป  ว่าฉันคนนี้จะพรากความไร้พ่ายไปจากนายเอง!!”

    “ฮ่าฮ่า…!!”

    “วิชาดาบแพ็กม่า!”

    “ดาบพินาศ—”

    กริดเริ่มรำดาบทักษะ ‘มายาร่ายรำ’  ขณะเดียวกัน  มาดราก็คิดโจมตีสวนกลับเพื่อวัดพลังซึ่งหน้า

    แต่โชคไม่ดีนัก  คนทั้งสองมีสภาพร่างกายแตกต่างกันเป็นทุนเดิม  การดวลของลูกผู้ชายจึงมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง

    อัศวินความตายมาดรา
    ร่างกายแสนเปราะบาง  ทุกส่วนเป็นเพียงโครงกระดูกแตกหักง่าย  ท้ายที่สุดก็ดำเนินมาถึงขีดจำกัด

    “ทัพ—”

    แกร่ก!

    “สาม—”

    แกร่กแกร่ก!

    “...แสน!!”

    โผละ!

    มาดราต้องการใช้ดาบพินาศทัพสามแสนเพื่อโจมตีแลกใส่กริดซึ่งหน้า
    เขาหวังจะช่วงชิงความได้เปรียบเหนือกริด  แต่กลับกลายเป็นทำให้ตนเสียเปรียบยิ่งกว่าเดิม
    ร่างกายที่เปราะบางแตกร้าวมิอาจแบกรับพลังอำนาจของดาบพินาศทัพสามแสนไหว
    ภาระที่เกิดขึ้นจากวิชาดาบส่งผลให้กระดูกแขนซ้ายและไหล่ซ้ายแตกละเอียด  
    กระดูกซี่โครงซ้ายและขาซ้ายร้าวหนัก  จวนเจียนผุกร่อนเต็มที

    ตุ้บ...

    วิชาดาบล้มเหลว
    มาดราทรุดคุกเข่าลงกับพื้น

    เขามิได้หัวเราะอีกแล้ว...
    ถึงกระนั้น  ท่าทียังคงสุขุมเยือกเย็นจนน่าทึ่ง
    มาดราอ้าแขนรับการโจมตีของกริดอย่างสมเกียรติยอดนักรบ

    แม้กำลังจะสูญเสียตำนานตำนานไร้พ่ายที่รักษาไว้ยาวนานเกินกว่าหนึ่งร้อยปี  แต่มาดราก็มิได้แสดงท่าทีอาลัยอาวรณ์ต่อมันเลยสักนิด

    เขาเหนื่อยแล้ว...
    นับตั้งแต่ถูกปลุกขึ้นจากความตายในร่างใหม่  เขาต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวบนเกาะหมายเลข 66 มานานกว่าร้อยปี
    ในฐานะราชาไร้พ่าย  มาดราไม่ต้องการแสดงออกให้ใครเห็น  แต่ภายในใจได้โหยหาการพักผ่อนชั่วนิรันดร์มานาน
    
    “ราชาโอเวอร์เกียร์...ผู้เป็นตำนานแห่งยุคสมัยปัจจุบันเอ๋ย  ขอบใจเจ้ามากที่มอบความสนุกเช่นนี้ให้เราในวาระสุดท้าย  เพื่อเป็นการตอบแทน  เรามีของขวัญพิเศษจะมอบให้”

    “...มาดรา!!”

    เป็นคำสั่งเสียและคำอำลาที่แสนสั้น

    ในวินาทีที่สุ้มเสียงมาดราขาดห้วง
    
    บึ้มบึ้ม!

    บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม—

    รัศมีดาบจำนวนมากของมายาร่ายรำ  พุ่งปะทะร่างมาดราโดยปราศจากการขัดขืนดิ้นรน

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 21,560 หน่วย ]
[ ท่านฟื้นฟูพลังชีวิต 2,587 หน่วยจากแหวนเอลฟิน·สโตน ]
[ ค่าประสบการณ์ของแหวนเอลฟิน·สโตนเพิ่มขึ้น 0.2%] 
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 24,010 หน่วย ]
[ ท่านสร้าง... 26,500 หน่วย ]
[ ท่านสร้าง... 29,100 หน่วย ]
…
...
[ คริติคอล! ]
[ เพลิงทมิฬแสดงผล ]
[ ท่านอัญเชิญสายฟ้าสีชาด ]
[ คริติคอล! ]
…
…
…
…

[ มหาวีรบุรุษ...กษัตริย์กริดแห่งโอเวอร์เกียร์ได้ปลดปล่อยดวงวิญญาณอดีตวีรบุรุษให้หลับไหลชั่วนิรันดร์  เขาคือผู้ที่ชำระล้างหมู่เกาะเบเฮ็นสำเร็จ ]

[ เกียรติยศในเหตุการณ์นี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ตลอดกาล ]

    ข้อความระบบถูกส่งออกไปทั่วโลก

    “...”

    แต่สีหน้ากริดกำลังขื่นขม
    ท่าทีของมาดราในวาระสุดท้ายได้ทำให้หัวใจของชายหนุ่มหนักอึ้ง

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,146
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous