จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,373



เผ่าพันธุ์คนยักษ์เกิดมาพร้อมกับความฉลาด


พวกมันคือสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์โบราณที่เคยครองอารยธรรมและเทคโนโลยีล้ำยุคชนิดที่มนุษย์สมัยใหม่ไม่มีวันจินตนาการถึง


‘ไม่น่าเชื่อ… เขานำสร้อยเนอวาร์ธานกลับมาได้จริง’


ลาร์ดวูล์ฟ ลำดับสามแห่งหอคอย


แม้กระทั่งในหมู่คนยักษ์ด้วยกัน มันถูกยกย่องว่ามีวิสัยทัศน์และความรู้กว้างขวาง


ข้อมูลบางส่วนอาจล้าสมัยเนื่องจากหมกตัวอยู่ในหอคอยเป็นเวลานาน แต่ก็มีอยู่หนึ่งข้อเท็จจริงที่มันสามารถปักใจเชื่อได้โดยไม่เคลือบแคลง


มหาโจรราตรีสีชาด


จอมโจรผู้น่ารังเกียจที่สามารถปล้นกริดจนสิ้นเนื้อประดาตัวได้ทุกเมื่อ


แต่ผิดคาด ชายหนุ่มย้อนกลับมายังหอคอยหลังจากประสบความสำเร็จในการ ‘แลกเปลี่ยน’ กับมหาโจรฯ


ไม่เพียงจะตรวจพบการมีอยู่ของอีกฝ่าย แต่กริดสามารถเจรจาต่อรองจนบรรลุผล


‘หรือจะใช้กำลังจัดการ? ไม่น่าใช่…’


โลกจินตภาพของมหาโจรฯ คือกระจกสะท้อนนิสัยขี้ขลาดของมัน


มหาโจรราตรีสีชาดสามารถซ่อนตัวภายในโลกจินตภาพได้ตามใจนึก นอกจากนั้นยังลบตัวตนได้อย่างสมบูรณ์แบบในยามที่ไม่ได้ใช้งานโลกจินตภาพ


กับคนที่สามารถหายตัวทุกเมื่อราวกับสายลมเช่นนี้ การเอาชนะด้วยกำลังแทบไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ


“สร้อยคอ… เป็นของจริง”


ลาร์ดวูล์ฟเคลือบแคลงว่า มหาโจรราตรีสีชาดอาจหลอกมอบของปลอมให้กริด


แต่หลังจากตรวจสอบจนมั่นใจ ลำดับสามแห่งหอคอยทำได้เพียงส่ายหน้า


สร้อยเส้นนี้เป็นของแท้แน่นอน


“เจ้าแลกเปลี่ยนกับมหาโจรฯ ด้วยวิธีไหน?”


ตามปรกติแล้ว มหาโจรราตรีสีชาดจะเป็นผู้ล่าเพียงฝ่ายเดียว


มันสามารถขโมยสมบัติของกริดจนหมดกรุได้ทุกเมื่อ แล้วไยต้องเจรจาแลกเปลี่ยนให้เสียเวลา?


“เรื่องนั้น…”


กริดเริ่มสาธยาย เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกให้ลาร์ดวูล์ฟที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องวิจัย


“หืม…”


ลาร์ดวูล์ฟค่อนข้างประหลาดใจหลังจากฟังเรื่องราวจบ


“เจ้าหัวขโมยนั่นคงชอบเจ้า”


“…นั่นสินะครับ”


อันที่จริง กริดไม่อยากยอมรับว่า ผู้ที่ช่วงชิงดาบสั้นเฮ็กเซเทียไปจากตนจะเป็นคนดี


แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า มหาโจรราตรีสีชาดทำตัวเป็นมิตรกับกริดมาตั้งแต่ต้น แถมยังชื่นชมเรื่องที่กริดกลายเป็นเหนือมนุษย์ได้ตั้งแต่ยังหนุ่ม


“แลกเปลี่ยนดาบสั้นกับมัน… เป็นทางเลือกที่ฉลาดมาก”


ตามที่มหาโจรฯ เคยกล่าว ดาบสั้นเฮ็กเซเทียคือวัตถุอันตราย


เจ้าของดาบจะถูกสาปให้อยู่ในสายตาของเทพตลอดเวลา และมนุษย์คนเดียวที่สามารถหลบเลี่ยงการจ้องมองจากเทพก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมหาโจรราตรีสีชาด


หากกริดยืนกรานจะเก็บดาบไว้กับตัว หอแห่งปัญญาคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตีตัวออกหาก


หอคอยมิได้เป็นศัตรูกับเทพโดยตรง แต่พวกมันก็ไม่ต้องการเปิดเผยตัวเองให้เทพเห็น


สมาชิกหอคอยบางคนเคลือบแคลงในเจตจำนงของเทพมานานแล้ว เพียงแต่ว่า ในสายตาพวกมัน มังกรยังถือเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งของมนุษย์


“ทำได้ดี… เจ้าผ่านอะไรมามากทีเดียว… หลังจากนี้ท่านฮายาเตะคงมีคำแนะนำดีๆ มอบให้ แต่ข้าขอพูดในฐานะผู้ที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน… ห้ามหลงระเริงไปกับสถานะเทพเด็ดขาด”


ลาร์ดวูล์ฟมีชีวิตอยู่มานาน เคยเห็นคนที่สถาปนาตัวเองเป็นเทพ รวมถึงคนที่ถูกนับถือเยี่ยงเทพมาแล้วมากมาย


เกือบทั้งหมดมีจุดจบไม่สวยหรูนัก ส่วนมากมักหลงมัวเมาในพลังอำนาจจนเลือกเดินบนเส้นทางที่ผิด จบชีวิตด้วยการถูกผู้ผดุงคุณธรรมสักคนสำเร็จโทษ


หรือต่อให้เดินไปบนเส้นทางที่ถูก แต่เทวตำนานก็ต้องจบลงภายในระยะเวลาสั้นๆ ด้วยฝีมือผู้ท้าชิงคนอื่น


แม้จะกลายเป็นตัวเอกของเทวตำนานบทใหม่ แต่กายาที่แสนอ่อนแอของมนุษย์นั้นถือเป็นอาหารแสนโอชะของสิ่งมีชีวิตบางประเภท ยกตัวอย่างเช่น ‘วิญญาณไร้ผู้สืบทอด’ ‘สายลมแห่งมหาพงไพร’ และ ‘ราชาขุนเขาเกรเนียร์’


ราชาขุนเขาเกรเนียร์กลายเป็นผู้สันโดษหลังจากถูกมุลเลอร์จู่โจมและพ่ายแพ้ แต่ทางด้านวิญญาณไร้ผู้สืบทอดและสายลมแห่งมหาพงไพรนั้นยังมีตัวตนอยู่


วิญญาณไร้ผู้สืบทอดคือ ‘ลิชคิง’ (Lich King) ที่มีอายุยืนยาวกว่าพันปี


ครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้และเลือกเดินบนเส้นทางแห่งความเป็นอมตะเพื่อไขว่คว้าสุดยอดเวทมนตร์


เหตุการณ์ทำนองนี้ถือเป็นเรื่องปรกติสำหรับลิชส่วนมาก แต่พฤติกรรมของวิญญาณไร้ผู้สืบทอดนั้นต่างออกไปเล็กน้อย มันชื่นชอบที่จะล่าเทวตำนาน


ถึงแม้จะเคยล่าเพียงเทวตำนานแรกเกิดจำนวนไม่มาก แต่หากเก่งกาจพอจะจัดการกับคนเหล่านั้น ฝีมือของมันย่อมเข้าขั้นสัตว์ประหลาด


เช่นเดียวกันกับ ‘สายลมแห่งมหาพงไพร’


มันคือภูตธาตุที่กลายพันธุ์จากความโกรธแค้นเมื่อครั้งไรเดอร์สเขมือบรากของต้นไม้โลก นับแต่นั้นเป็นต้นมา ภูตลมชนิดนี้เร่ร่อนไปในป่าด้วยสติปัญญาและเหตุผล จนกระทั่งวันหนึ่ง มันเริ่มออกล่าเทวตำนานด้วยเหตุผลบางประการ


จำนวนของเทวตำนานที่ล่าได้อาจไม่มากเท่าวิญญาณไร้ผู้สืบทอด แต่การรับมือก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแทบไม่เคยมีใครมองเห็นหรือจับต้องมันได้มาก่อน


“หลังจากได้พบสภาหอคอยและมหาโจรราตรีสีชาด เจ้าคงตระหนักแล้วว่า โลกนี้ยังมียอดฝีมืออีกมากมายที่เร้นกายอยู่ในเงามืด… เหนือสิ่งอื่นใด เกือบทั้งหมดเป็นพวกวิปริต ไม่ได้ทำตัวน่ารักเหมือนบีบัน… ส่วนใหญ่เป็นพวกระยำ จังไร ชั่วช้าและต่ำทราม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จงระวังวิญญาณไร้ผู้สืบทอด สายลมแห่งมหาพงไพร และผู้สันโดษแห่งเกรเนียร์ไว้ให้ดี หากเจ้าทำตัวโดดเด่นเกินไป อาจตกเป็นเป้าหมายของพวกมันในสักวัน”


“…”


แม้ภาพลักษณ์จะไม่ให้ แต่เนื้อแท้แล้ว ลาร์ดวูล์ฟคือนักวิทยาศาสตร์


มันสามารถจำแนกสิ่งต่างๆ ออกเป็นประเด็นและวิเคราะห์อย่างใจเย็นตามข้อมูลและหลักสามัญสำนึก โดยไม่เอนเอียงไปตามสัญชาตญาณหรืออารมณ์


เป็นคนที่พึ่งพาได้มากกว่าบีบันหลายเท่า


กริดรู้สึกผิดต่อบีบัน แต่นั่นคือความรู้สึกจากใจจริง


‘วิญญาณไร้ผู้สืบทอด สายลมแห่งมหาพงไพร และผู้สันโดษแห่งเกรเนียร์…’


หากลาร์ดวูล์ฟเตือนให้ระวัง ตนก็ต้องระวัง


กริดจดจำสามชื่อข้างต้นจนขึ้นใจ จากนั้นก็หันไปพยักหน้ารับ


ขณะเดียวกัน ลาร์ดวูล์ฟโยนสร้อยคอเนอวาร์ธานลงในลิ้นชักอย่างไม่ใส่ใจ


‘…ไม่ทะนุถนอมเลยแฮะ’


ลาร์ดวูล์ฟเคยกล่าวไว้ว่า สร้อยคอเนอวาร์ธานเป็นเพียงวัตถุทางใจ แต่กริดก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่แยแสขนาดนี้


ดูเหมือนว่า ความต้องการที่จะนำสร้อยคอเนอวาร์ธานกลับมา คงไม่มากไปกว่าการรักษาศักดิ์ศรีอันสูงส่ง


‘เฮ่อ… ดาบสั้น…’


เมื่อได้เห็นท่าทีของลาร์ดวูล์ฟ กริดคิดถึงดาบสั้นเฮ็กเซเทียขึ้นมาจับใจ


ชายหนุ่มกำลังหดหู่ ลำดับสามแห่งหอคอยหยิบของรางวัลออกมาวาง


“รับไป”


[ท่านได้รับไอเท็ม ‘เหล็กแสงจันทร์’ เป็นรางวัลจากภารกิจ]


[ค่าความสัมพันธ์กับลำดับสามแห่งหอคอย ลาร์ดวูล์ฟ เพิ่มขึ้น 50 หน่วย]


“อึก…”


เมื่อได้เห็นโลหะอันงดงามตรงหน้า ดวงตากริดพลันเบิกกว้าง หัวใจเต้นระรัว


สัญชาตญาณของช่างตีเหล็กกำลังกู่ร้อง


โลหะชนิดนี้มีสีเงิน แต่ไม่แวววาว ค่อนไปทางสีเงินหม่น


‘ดูดกลืนแสงสว่าง…?’


เหล็กแสงจันทร์เป็นแร่ที่สามารถผนึกระดับตัวตนของเป้าหมาย


สาเหตุที่กำปั้นของจักรกลเวทมนตร์สามารถชกทะลุเกล็ดมังกร ก็เพราะชุดเกราะบริเวณกำปั้นถูกเคลือบด้วยเหล็กแสงจันทร์


‘ถ้าเราผสมเหล็กแสงจันทร์เข้ากับศิลาศักดิ์สิทธิ์และละโมบ…’


โลหะสุดแกร่งที่เคลื่อนไหวได้เองจะถือกำเนิดขึ้น!


ขณะกริดยิ้มจนแก้มปริ เสียงหนึ่งดังแว่ว


“เลิกคิดจะดีกว่า”


ลาร์ดวูล์ฟอ่านเจตนากริดออก จึงปรามพร้อมกับส่ายหน้า


“เหตุผลที่ข้าไม่ปรึกษาเจ้าเรื่องการผสมเหล็กแสงจันทร์เข้ากับเหล็กมังกรคลั่ง ทั้งที่ทราบว่าเจ้าสามารถควบคุมเหล็กมังกรคลั่งได้อย่างสมบูรณ์ เพราะพวกมันไม่มีวันหลอมรวมเข้าด้วยกันได้”


เหล็กแสงจันทร์คือโลหะที่พบได้ในดินแดนคนยักษ์โบราณเท่านั้น


แต่ปัจจุบัน ดินแดนดังกล่าวถูกทำลายไปแล้ว จึงไม่มีแหล่งขุดเพิ่มเติม


ลาร์ดวูล์ฟถึงกับต้องทำลายจักรกลเวทมนตร์รุ่นก่อนเพื่อนำเหล็กแสงจันทร์กลับมาใช้งานใหม่


ปริมาณของเหล็กแสงจันทร์มีจำกัดถึงเพียงนั้น


ทั้งที่ปรารถนาจะให้เหล็กแสงจันทร์งอกเงยมากกว่าใคร แต่ลาร์ดวูล์ฟกลับปิดปากเงียบแม้จะทราบว่ากริดควบคุมเหล็กมังกรคลั่งได้อย่างสมบูรณ์


เหตุผลไม่ซับซ้อน ความเข้ากันได้ของโลหะทั้งสองชนิดต่ำมาก


เหล็กมังกรคลั่งคือแร่ที่ดูดซับจิตวิปริตของมังกรคลั่งเนอวาร์ธานจนเกิดเป็นโลหะที่สามารถงอกเงยได้ไม่มีวันหมด


หรือกล่าวได้ว่า เหล็กที่เกิดจากมังกรคลั่ง คือขั้วตรงข้ามของเหล็กแสงจันทร์


“อา…”


กริดเริ่มพบคำตอบ หลังจากสงสัยมานานว่า เหตุใดลาร์ดวูล์ฟถึงไม่เคยพูดกับตนเรื่องการผสานเหล็กแสงจันทร์เข้ากับเหล็กมังกรคลั่ง ทั้งที่อีกฝ่ายเคยออกปากชมละโมบซึ่งเป็นโลหะที่ผสานพาเฟรเนี่ยมเข้ากับเหล็กมังกรคลั่ง


หลังจากตระหนักถึงความจริง จิตใจกริดเริ่มหดหู่


แต่ความรู้สึกดังกล่าวก็คงอยู่ไม่นาน


ถึงจะเคยคาดหวังไว้บ้าง แต่กริดไม่ได้ฝากอนาคตไว้กับการผสานแร่สองชนิดนี้


เมื่อเห็นชายหนุ่มพยายามปรับอารมณ์ ลาร์ดวูล์ฟมอบคำแนะนำ


“เหล็กแสงจันทร์เป็นโหละที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในสถานะแร่บริสุทธิ์ (ไม่ผสมกับแร่อื่น) แต่ข้อเสียของมันคือความคงทน ถึงจะแข็งกว่าเหล็กกล้าหรือมิธริล แต่ก็มิได้คงทนอนันต์เหมือนกับพาเฟรเนี่ยมหรือศิลาศักดิ์สิทธิ์ ใช้งานไปสักพักก็สึกกร่อน”


นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เหล็กแสงจันทร์มีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป


แม้แต่บรรพบุรุษของลาร์ดวูล์ฟก็ยังเป็นกังวลกับปริมาณของเหล็กแสงจันทร์ในยามที่อารยธรรมคนยักษ์ยังไม่ถูกทำลาย


ดังนั้น เมื่อปัจจุบันไม่สามารถขุดเพิ่ม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลาร์ดวูล์ฟจะหวงแหนเป็นพิเศษ


“เหล็กแสงจันทร์ไม่เหมาะกับการสร้างชุดเกราะ ทำแบบนั้นมีแต่จะเสียของ”


ลาร์ดวูล์ฟหันไปมองจักรกลเวทมนตร์ทั้งแปดเครื่องที่ยืนเรียงรายด้านหลัง


ข้อศอก กำปั้น หัวเข่า เท้า หัวไหล่


มีเพียงส่วนเหล่านี้ที่ปกคลุมด้วยเหล็กแสงจันทร์


แม้กระทั่งลาร์ดวูล์ฟ ผู้ครอบครองเหล็กแสงจันทร์จำนวนมากที่สุด ก็ยังมิอาจฟุ่มเฟือยไปกับการปกคลุมจักรกลเวทมนตร์ทั้งตัวด้วยเหล็กแสงจันทร์


“เหล็กแสงจันทร์มีมูลค่าสูงและหายากมานานแล้ว ก่อนที่ข้าจะเกิด บรรพบุรุษของพวกเราคอยคิดหาวิธีใช้งานเหล็กแสงจันทร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”


ลาร์ดวูล์ฟวาดมืดในอากาศ


ท่วงท่าการขยับดูคล้ายจอมเวทกำลังร่ายคาถา


ทันใดนั้น จักรกลเวทมนตร์ทั้งแปดพลันตอบสนองต่อคำสั่ง ดวงตาทุกเครื่องส่องสว่างพร้อมเพรียง


แต่ละเครื่องจะมีสีของดวงตาแตกต่างออกไป ตามแต่ประเภทของมังกรที่ต้องรับมือ


จักรกลเวทมนตร์เคลื่อนตัวมาด้านหน้าตามคำสั่งพร้อมกับดึงอาวุธหลายชนิดออกมาถือ


ดาบ หอก คาตาน่า คันศร พลอง แส้โลหะ ปืน สนับมือ


ทั้งหมดคืออาวุธที่สร้างจากเหล็กแสงจันทร์


กริดเพิ่งฉุกคิดได้


ข้อศอก กำปั้น หัวเข่า เท้า หัวไหล่


ทั้งหมดคืออวัยวะที่สามารถใช้แทนอาวุธ


“บรรพบุรุษเลือกจะทำเหล็กแสงจันทร์มาสร้างเป็นอาวุธ และข้าเองก็เห็นด้วยในการตัดสินใจนั้น เจ้าไม่ควรผิดหวังที่เหล็กแสงจันทร์มิอาจผสานกับเหล็กมังกรคลั่ง แต่จงใช้มันในการสร้างอาวุธแทน แล้วสักวัน มันจะกลายเป็นศาสตราที่สามารถปลิดชีพได้แม้กระทั่งเทพ”


กริดลั่นวาจาว่าจะสร้างดาบศักดิ์สิทธิ์


อย่างไรก็ตาม จิตใจของชายหนุ่มเริ่มห่อเหี่ยวเมื่อได้เห็นประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของดาบสั้นเฮ็กเซเทีย


เราจะสร้างดาบที่สุดยอดแบบนั้นได้จริงหรือ?


มันถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า


แต่ในวินาทีนี้ แสงแห่งความหวังกำลังผุดขึ้นกึ่งกลางใจ


ดวงตากริดลุกโชนด้วยไฟแห่งความมุ่งมั่น


______________ ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,854 ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/ #จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ





Comments

  1. มันส์มากๆครับ อยากเห็นหน้าตาแร่ใหม่เร็วๆจัง

    ReplyDelete
  2. พลองของสโม๊กเกอร์ที่ติดหินไคโล 555+ คล้ายๆกัน

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00