จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,369
“ที่นี่เป็นแห่งสุดท้ายแล้วหรือ”
“…ใช่”
การพูดคำว่า ‘มีความสุข’ ของไรเดอร์สจบลงเพียงสองครั้ง
นับตั้งแต่ร้านที่สี่สิบเอ็ดเป็นต้นมา มีหลายครั้งที่ไรเดอร์สวางมีดส้อมลงโดยไม่กล่าวคำใด
ร้านอาหารทั้งหกสิบหกแห่งที่เหลือมีคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าสี่สิบร้านแรกมากนัก กริดสามารถยืนยันได้ว่าทุกร้านเสิร์ฟแต่ของดี ทว่า มาตรฐานด้านรสชาติของไรเดอร์สไม่เหมือนกับกริด อีกฝ่ายเป็นมังกรอายุหลายหมื่นปี ตลอดชีวิตขวนขวายกินแต่ของอร่อย ไม่แปลกที่จะจุกจิกเรื่องการกินมากกว่ากริด
‘ไม่ง่ายเลยที่จะให้ไรเดอร์สพูดว่าอร่อยยี่สิบครั้งติดกัน’
การทำให้ไรเดอร์สมีความสุขได้เพียงหนึ่งครั้งก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว
ขณะกริดค้นพบสัจธรรม ไรเดอร์สหันมากล่าว
“ตลอดสี่วันที่ผ่านมา ข้ารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ช่วงเวลาแห่งความเพลิดเพลินมักผ่านไปเร็วเสมอ”
“ผมดีใจที่คุณชอบ”
จากมุมมองของกริด สี่วันที่ผ่านมาคือช่วงเวลาแสนยาวนาน
ความกดดันถาโถมจิตใจทุกวินาทีที่ต้องเดินไปไหนมาไหนกับมังกรดุร้ายซึ่งไม่รู้ว่าจะอาละวาดตอนไหน
กริดรู้สึกราวกับตนต้องเดินบนหนามด้วยเท้าเปล่าตลอดสี่วันเต็ม
แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งกำลังจะได้รับการปลดปล่อย
ภารกิจอันยาวนานถึงคราวสิ้นสุดลงเสียที
ทว่า ใบหน้าเจือรอยยิ้มของชายหนุ่มมีอันต้องดำมืด
“อา… ข้ารู้สึกว่าพวกเราไม่ควรจากกันทั้งอย่างนี้”
“…”
“จากที่ข้าทราบ เจ้าสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาแทนอาณาจักรอีเทอนัลเดิมใช่ไหม?”
“…ใช่”
“ก่อนจะกลับ ข้าอยากแวะชมอาณาจักรของเจ้าสักหน่อย”
“ทำไม…?”
หัวใจกริดพลันดำดิ่ง
มันไม่เคยมีความคิดที่จะพามังกรดุร้ายเข้ามาในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
ความรู้สึกจากก้นบึ้งของกริดในตอนนี้คือ มันอยากตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับไรเดอร์สและแยกทางกันที่นี่
ทว่า ชายหนุ่มไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
“อาณาจักรของเจ้ายังเพิ่งตั้งไข่ คงมีวัฒนธรรมแปลกใหม่และอาหารหลากชนิดที่ข้าไม่เคยลิ้มลอง… ข้าต้องการสัมผัสสิ่งเหล่านั้น”
ไรเดอร์สจะตื่นขึ้นในทุกหนึ่งร้อยปี
หมายความว่า หากตอนนี้มันกลับไปที่รังและจำศีล มันจะไม่ได้กินอะไรอีกเลยในอีกร้อยปีถัดไป
ถ้าไรเดอร์สอยากกินอีกสักมื้อสองมื้อก่อนกลับ กริดมีสิทธิ์อะไรไปห้าม?
‘หากเราบ่ายเบี่ยง มันต้องโมโหแน่…’
คำขอของไรเดอร์สไม่ต่างอะไรกับการรุกฆาต กริดถูกบีบให้ไม่มีทางเลือกอื่น
มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตระดับทัดเทียมเทพ การปฏิเสธไม่ใช่เรื่องฉลาด
กริดถอนหายใจเงียบๆ พลางตอบอย่างนอบน้อม
“ตกลง ผมจะนำทางคุณไป แต่ว่า… อาณาจักรโอเวอร์เกียร์มิได้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารสักเท่าไร อย่าได้คาดหวังมากนัก”
นิสัยด้านดีของไรเดอร์สก็คือ มันมิได้หงุดหงิดเพียงเพราะอาหารมีรสชาติห่วยแตก
หากอาหารไม่ถูกปาก ไรเดอร์สจะทำเพียงเดินออกจากร้านทันทีอย่างเงียบงัน ปล่อยให้พ่อครัวหัวใจแตกสลายและเต็มไปด้วยคำถาม
แต่เพราะอย่างนั้น
‘เราคงต้องเลือกร้านให้ดี… ต้องบอกให้เจ้าของร้านกับพ่อครัวเตรียมใจล่วงหน้า… เหนือสิ่งอื่นใด ไรเดอร์สรู้ว่าเรากำลังปกป้องเนเฟลิน่า’
‘เนอวาร์ธาน… เจ้านั่นอาจยอมลดศักดิ์ศรีและร่วมมือกับใครก็ตามที่รักษาอาการคลุ้มคลั่งของมันได้ โดยเฉพาะเจ้าที่คอยดูแลลูกสาวของมัน…’
หลังจากนึกถึงคำพูดของไรเดอร์ส กริดลดความระแวงต่ออีกฝ่ายลง
ชายหนุ่มค่อนข้างมั่นใจว่า ไรเดอร์สจะไม่ก่อปัญหาขึ้นภายในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
สิ่งเดียวที่ยังเป็นห่วงก็คือ สติกส์อาจไม่พอใจกับเรื่องนี้
แต่นั่นก็ไม่มีน้ำหนักมากพอจะทำให้กริดกล้าขัดใจมังกร
สายเลือดที่ยิ่งใหญ่อย่างไฮเอลฟ์และสมญานาม ‘จอมปราชญ์’ ไม่ใช่ไพ่ที่สามารถใช้ต่อกรกับไรเดอร์ส
“…ไปกันเถอะ”
ในที่สุด กริดพาไรเดอร์สกลับมายังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
โชคดีที่ไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นตามที่กังวล
“นี่มัน… อาหารที่จำลองสภาพแวดล้อมในรังทราวก้า? เจ้ากำลังเล่นตลกกับข้าอยู่หรือ?”
ไรเดอร์สแผ่จิตสังหารเล็กๆ หลังจากได้เห็นจาน ‘หม่าโผวโต้วฟุ’ (เต้าหู้อ่อนผัดน้ำมันพริก) ที่พีคซอร์ดแนะนำ
อย่างไรก็ตาม มื้อดังกล่าวผ่านไปด้วยดีเนื่องจากอาหารมีรสชาติค่อนข้างอร่อย ไรเดอร์สเอ่ยปากชมความนุ่มหนึบของข้าวที่ปลูกโดยอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ นอกจากนั้นยังกล่าวชมมันฝรั่งสายรุ้ง
ภาพดังกล่าวทำให้ปิอาโร่ยึดอกภาคภูมิใจ
ภายในวันเดียวกัน หลังจากเสร็จการตระเวนกิน ไรเดอร์สเดินทางออกจากโอเวอร์เกียร์ทันที
การที่มันไม่สนใจเนเฟลิน่าและสติกส์ ตลอดจนเมอร์เซเดสและปิอาโร่ คือเครื่องพิสูจน์ว่าอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยังต้องพัฒนาตัวเองอีกมาก
***
‘หกเท่า… ไม่สิ อ่อนแอกว่าเดิมแปดเท่า’
ดาเมี่ยน
ว่ากันตามตรง ดาเมี่ยนสูญสิ้นทุกสิ่ง
ถูกปลดจากคลาสอัครทูตแห่งเทพธิดาเนื่องจากไม่ยอมทำตามวิวรณ์ที่รีเบคก้ามอบให้ นอกจากนั้นยังเปลี่ยนศาสนาและสละตำแหน่งสันตะปาปา
รวมไปถึงการสูญเสียดาบศักดิ์สิทธิ์และคลาสรอง
ดาเมี่ยนอาจได้รับสมญานามใหม่เป็น ‘สันตะปาปาแห่งโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์’ ก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นสักเท่าไร
โบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ยังคงเป็นเพียงศาสนา Lv.1เนื่องจากเพิ่งก่อตั้งและมีจำนวนสาวกไม่มาก อำนาจและอิทธิพลของศาสนาจึงยังต่ำ
เป็นไม่ได้ที่สันตะปาปาของศาสนาเล็กๆ แห่งนี้จะมีพลังยิ่งใหญ่ในมือ
ปัจจุบัน ดาเมี่ยนไม่มีแม้แต่ทักษะพิเศษของสันตะปาปาโดยเฉพาะ
ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า มันไม่ต่างอะไรกับสมาชิกทั่วไป
“เฮ่อ…”
ณ จุดเก็บเลเวลใกล้กับไรน์ฮาร์ท
ดาเมี่ยนขมวดคิ้วขณะเก็บเลเวลด้วยอาวุธที่กริดมอบให้
ค่าสถานะหายไปเป็นจำนวนมาก สูญเสียทักษะสำคัญหลายชนิด และไม่มีดาบศักดิ์สิทธิ์ให้ใช้งาน
ด้วยเหตุผลข้างต้น ดาเมี่ยนสร้างความเสียหายแก่มอนสเตอร์ต่ำลงจากปรกติราวสามเท่า แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือการหายไปของพลังป้องกัน
สรุปโดยสั้น ดาเมี่ยนพบว่าตนอ่อนแอลงราวแปดเท่า
แม้กระทั่งแรงเกอร์ทั่วไปในเลเวลใกล้เคียงกัน ดาเมี่ยนก็ยากจะดวลให้ชนะอย่างขาดลอยเหมือนเมื่อก่อน
‘…โชคดีที่ทักษะติดตัวค่อนข้างดี’
ดาเมี่ยนเปิดหน้าต่างรายการทักษะ
<พรคุ้มครองจากเทพโอเวอร์เกียร์> Lv.1
ทักษะติดตัว
ลดเงื่อนไขการสวมใส่ไอเท็มลง 5%
ลดเงื่อนไขการสวมใส่ไอเท็มที่สร้างโดยเทพโอเวอร์เกียร์ลง 10% เป็นการชั่วคราว
เมื่อสวมใส่ไอเท็มที่สร้างโดยเทพโอเวอร์เกียร์กริด ประสิทธิภาพของไอเท็มจะสูงขึ้น 5% เอฟเฟคนี้จะส่งผลไปถึงทักษะที่แนบมากับไอเท็ม
นี่คือทักษะติดตัวขั้นพื้นฐานที่นักบวชและพาลาดินของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ทุกคนต้องมี ประสิทธิภาพนับว่าสูงทีเดียว
ไอเท็มเลเวล 400 สามารถสวมใส่ได้ตั้งแต่เลเวล 380 หรือ 360 ในกรณีที่เป็นไอเท็มจากกริด นอกจากนั้นยังจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นจากปรกติ
อาจเพิ่มเพียง 5% แต่ 5% ตรงนี้ถือว่าไม่น้อยเมื่อพิจารณาว่า ไอเท็มที่ผลิตโดยกริดจะมีคุณภาพสูงกว่าท้องตลาดเป็นทุนเดิม
‘ลำพังศาสนาเลเวลหนึ่งยังเพิ่มเยอะขนาดนี้…’
ดาเมี่ยนมั่นใจมาก
ในอีกไม่ช้าก็เร็ว ตลาดไอเท็มจะเกิดการผันผวนอย่างหนัก ไอเท็มที่เคยราคาตกเพราะมีเงื่อนไขการสวมใส่สูงเกินไป ราคาจะกลับมาดีดตัวอีกครั้งจนสินค้าขาดแคลน
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้จะเป็นจริงก็ต่อเมื่อ ผู้เล่นจำนวนมากตัดสินใจย้ายมานับถือศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์
‘แต่น่าเสียดาย… ทักษะที่เหลือค่อนไปทางห่วย…’
ดาเมี่ยนขยับขาหนึ่งก้าว
ท่วงท่าเป็นไปอย่างไหลลื่นจนดูเหมือนกำลังเต้นรำ
“สังหาร”
แสงดาบพุ่งเป็นเส้นตรงทางยาว แทงทะลวงหัวใจมอนสเตอร์พร้อมกับเปลี่ยนให้กลายเป็นละอองแสง
ถือเป็นทักษะที่มีพลังทำลายล้างสูง แต่ดาเมี่ยนกลับไม่เผยสีหน้ายินดี
‘ตัวคูณดาเมจสูงก็จริง แต่เสียเวลาร่ายนานเกินไป’
<ท่ารำดาบโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์> Lv.1
ท่ารำดาบเพื่อลำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของเทพโอเวอร์เกียร์กริด
เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 20% พลังโจมตีเวทมนตร์ 10% เพิ่มอัตราคริติคอล 30% และเพิ่มความเสียหายคริติคอล 30%
* จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อสวมใส่อาวุธประเภทดาบ
* หากสวมใส่ไม้เท้าหรือลูกแก้ว ท่านจะได้รับเพียงเอฟเฟคเพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์
★ทุกครั้งที่เลเวลของท่ารำดาบเพิ่มขึ้น ท่านสามารถสร้างวิชาดาบผสานเพิ่มขึ้นจากเดิมหนึ่งชนิด
★ทุกครั้งที่ความศรัทธาในตัวเทพโอเวอร์เกียร์เพิ่มขึ้น ท่ารำดาบจะเพิ่มเอฟเฟคในเชิงเวทมนตร์
<สังหาร> Lv.1
รำดาบเพื่อสำแดงความโกรธเกรี้ยวของเทพโอเวอร์เกียร์พร้อมกับมอบการลงทัณฑ์แก่ศัตรู
สร้างความเสียหาย 1,300% ทางกายภาพหรือเวทมนตร์แก่ศัตรูหนึ่งเป้าหมาย
* ยังไม่มีเอฟเฟคเวทมนตร์
ทรัพยากร : พลังศักดิ์สิทธิ์ 1,200 หน่วย
ระยะหน่วง : 10 นาที
แม้จะแค่เลเวลหนึ่ง แต่ตัวแปรการคูณความเสียหายนับว่าสูงมาก
นอกจากนั้นยังมีศักยภาพยอดเยี่ยม เพราะในอนาคตจะมีเอฟเฟคเชิงเวทมนตร์เพิ่มเข้ามาในท่ารำดาบ
ดาเมี่ยนมิได้ติดใจกับระยะหน่วงสิบนาที นอกจากนั้น ท่ารำดาบชนิดอื่นๆ เช่น ‘ร่ายรำ’ ‘คลื่น’ ‘หน่วง’ ‘วังวน’ และ ‘มายา’ ก็มีประสิทธิภาพสูงพอๆ กับ ‘สังหาร’ รวมไปถึงทักษะที่ยังไม่ได้รับอย่าง ‘สะพรั่ง’ ‘ทำลายล้าง’ ‘สยบ’ และ ‘นภา’ ก็คงมีความยอดเยี่ยมไม่ต่างกัน
ทว่า ปัญหาอยู่ที่การต้องเสียเวลา ‘รำดาบ’ ไม่ต่ำกว่าสี่ก้าว
ช่วงเวลาในการร่ายก่อนที่ทักษะจะแสดงผลถือว่านานเกินไป
ดาเมี่ยนเชื่อว่า นี่คงเป็นการลดทอนประสิทธิภาพของวิชาดาบที่เกิดจากการ ‘ลอกเลียนแบบพลังเทพ’ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามนุษย์มิอาจเลียนแบบเทพได้สมจริง
‘ในช่วงแรก… กริดเองก็เผชิญความยากลำบากไม่น้อยเมื่อต้องรำดาบอย่างเชื่องช้า’
มีบ่อยครั้งที่กริดสบถหยาบคายขณะรำดาบ เนื่องจากศัตรูอาศัยจังหวะดังกล่าวเพื่ออ่านทางหลบหลีก หรือบางคนสามารถยกเลิกการรำดาบด้วยการขัดขวางการขยับเท้า
สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ ท่ารำดาบโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์กลับต้องใช้จังหวะเท้ามากกว่าท่ารำดาบของกริดในตอนแรก (วิชาดาบแพ็กม่า)
นั่นเป็นข้อเสียร้ายแรง
อาจไม่เห็นความแตกต่างในยามที่ล่ามอนสเตอร์สติปัญญาต่ำ แต่จะแทบไม่เกิดประโยชน์อันใดเมื่อนำไปใช้ในการ PVP
‘จากการประเมินของเรา ยิ่งเลเวลของท่ารำดาบสูงขึ้น ย่างก้าวจะลดลง หรือไม่ก็มีเอฟเฟคเชิงเวทมนตร์เพิ่มเข้ามากลบจุดอ่อน’
แน่นอน ดาเมี่ยนอาจอาศัยจังหวะการรำดาบเพื่อหลบหลีก แต่จากบรรดาผู้เล่นกว่าสองพันล้าน จะมีสักกี่คนที่สามารถควบคุมตัวละครได้เก่งกาจเท่าดาเมี่ยน?
สมาชิกโบสถ์คนอื่นๆ ล้วนเผชิญกับข้อบกพร่องของท่ารำดาบจนพากันถอดใจไปหลายครั้ง และในไม่ช้า ข่าวลือด้านแย่ๆ ของท่ารำดาบเทพโอเวอร์เกียร์ก็จะแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ขณะดาเมี่ยนกำลังกังวล
“คลื่นสังหาร”
ในจุดห่างออกไป อิสซาเบลใช้ท่ารำดาบสังหารหมู่มอนสเตอร์กลุ่มใหญ่
แม้จะเรียกว่าสังหารหมู่ แต่ฉากดังกล่าวกลับวิจิตรงดงามจนดาเมี่ยนมิอาจละสายตา
แขนขาที่เพรียวบางแต่แข็งแรง ถูกขยับด้วยท่วงท่าสุขุมเยือกเย็น
อิสซาเบลสามารถสานต่อสองท่ารำดาบได้อย่างไร้จุดบอด
เหนือสิ่งอื่นใด เอฟเฟคของทักษะช่างยิ่งใหญ่อลังการ
คลื่นแสงสีดำถูกกระหน่ำยิงออกไปทุกทิศทาง
ทักษะที่มีเอฟเฟคยอดเยี่ยมเช่นนี้ ตามปรกติแล้วควรมีเกรดไม่ต่ำกว่ายูนีค
“สุดยอด…”
อิสซาเบลยอดเยี่ยมเกินไป
เพียงไม่นาน หญิงสาวสามารถครอบครองท่ารำดาบผสาน
เดิมที อิสซาเบลเป็นเด็กสาวเปี่ยมพรสวรรค์ที่ถูกรับเลือกให้เป็นบุตรีแห่งรีเบคก้า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีพัฒนาการสูงกว่าผู้เล่นปรกติ
ด้วยค่าสถานะพื้นฐานที่สูงลิบ อิสซาเบลสามารถสำแดงประสิทธิภาพของวิชาดาบผสานได้อย่างเต็มที่
‘เราเองก็ต้องเร่งมือเหมือนกัน!’
ดาเมี่ยนตัดสินใจเพิ่มสปีดในการเก็บเลเวล
มันถึงกับยอมดื่มโพชันบัฟ EXP ราคาแพงที่คนทั่วไปยากจะเอื้อมถึง
นับตั้งแต่วินาทีที่กลายเป็นสันตะปาปาแห่งศาสนจักรเทพโอเวอร์เกียร์ ดาเมี่ยนได้รับการสนับสนุนจากโรงแปรธาตุเรย์ดันเต็มกำลัง
มันวางแผนเร่งอัปเลเวลให้กับท่ารำดาบ เพื่อจะได้ครอบครองท่ารำดาบผสานเหมือนกับอิสซาเบล
หลังจากมีตัวอย่างให้เห็นตรงหน้า ดาเมี่ยนเลิกท้อแท้กับข้อบกพร่องของทักษะในปัจจุบัน
มันเพิ่งตระหนักได้
ถึงสัจธรรมที่ว่า ในเมื่อท่ารำดาบของโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์มีพื้นฐานมาจากวิชาดาบกริด ศักยภาพของพลังนี้ย่อมไร้ขีดกำจัดเช่นเดียวกับตัวกริด
ในอนาคต ผู้คนจำนวนมากจะย้ายมาสังกัดโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์อย่างไม่ต้องสงสัย นั่นยิ่งทำให้ศาสนาเกิดการพัฒนาได้รวดเร็วราวกับติดปีก
ไม่มีความจำเป็นต้องมัวกังวลกับข้อเสียในปัจจุบันที่อีกเดี๋ยวก็ผ่านไป
Comments
Post a Comment