จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 8
"อั่ก!"
"เจ้าโดรันบ้านั่น...มันบังคับให้เรารับภารกิจ แต่กลับหักหลังโดยการฆ่าเราเนี่ยนะ? ระยำเอ้ย!! ไอ้หัวขโมย! ไอ้สารเลว! ไม่ต้องห่วง ตูจำชื่อและหน้าพวกเอ็งได้หมดทุกคนแล้ว โดรัน...ตูขอสาปแช่งเอ็งไปตลอดกาล!!"
หลังจากที่ออกมาจากเครื่องเกมแคปซูล เราก็เปิดหน้าต่างห้องพร้อมกับตะโกนสาปแช่งออกไปอย่างเสียงดัง โชคดีที่ฝนตกหนักมากเสียจนกลบเสียงเหล่านั้นซะมิด ทำให้เราสามารถยืนระบายอยู่อย่างนั้นได้เป็นเวลานาน
นาฬิกาบอกเวลาเกือบจะตี 4 ในช่วงเช้า วันนี้เป็นวันหยุด ด้วยฝนที่ตกหนักขนาดนี้ ครอบครัวของเราคงจะนอนหลับพักผ่อนกันไปจนถึงยามบ่ายเพราะออกไปไหนไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่เราถูกแบนจากเกมเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ทำให้พลาดโอกาสทองในวันหยุดอันล้ำค่านี้ไป
"เลเวล -3 งั้นหรอ...ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นโว้ย!! โดรัน...โดรัน...เจ้าบ้าโดรัน!!"
เราพยายามทำให้หัวเย็นลงด้วยการไปเข้าห้องน้ำ ตัวเราเอาหน้าจุ่มน้ำเย็นๆ พร้อมกับใช้หูฟังเสียงน้ำก็อกที่กำลังไหลลงมา มันรู้สึกดีอย่างมากหลังจากที่ไม่ได้อาบน้ำมานานถึงสองวัน
"...ที่จริง เราจะไปโทษโดรันก็ไม่ถูกซะทีเดียว"
โดรันแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้มาก เขารับมือกับศัตรูทุกคนได้อย่างยอดเยี่ยม เราได้แต่ยืนมองดูอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยเหมือนกับเป็นเพียงเพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งเท่านั้น โดรันจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ โอกาสเดียวที่จะทำภารกิจนี้สำเร็จ มีแต่ต้องพึ่งพาโดรันเท่านั้น
ใช่แล้ว...โดรันทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก สิ่งเดียวที่คาดไม่ถึงก็คือ...การปรากฏตัวของผู้เล่นติดอันดับ
"นั่งแม่มดนั่น..."
ทำไมยูร่าถึงอยู่ที่นั่นได้น่ะหรอ? ไม่น่าแปลกใจเท่าไรหรอก เธอเป็นจอมเวทย์มืด วิหารยาธานนั้นถือเป็นฐานทัพสำคัญของคลาสจอมเวทย์มืดทั้งหมดอยู่แล้ว การปรากฏตัวของเธอที่นี่จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
แล้วทำไมยูร่าถึงได้มาขัดขวางเรางั้นหรอ? บางที ใครก็ตามที่คิดบุกรุกวิหารยาธานคงจะกลายเป็นศัตรูกับเธอไปโดยปริยาย นั่นทำให้เธอจำเป็นต้องจัดการกับเรา นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อีกเช่นกัน
'ทันทีที่เรารับภารกิจมา เหล่าเอ็นพีซีถือจะว่าเราเป็นศัตรูไปโดยปริยาย ทว่า...กลุ่มผู้ศรัทธาแห่งยาธานเหล่านั้นอ่อนแอเกินไป ศัตรูที่แท้จริงของภารกิจจึงกลายเป็นผู้เล่นด้วยกันเองไปซะได้ นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมโดรันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ภารกิจระดับ S ไม่ได้หมูที่เราคิดไว้ในตอนแรก'
ตัวเราค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหัว
'นั่งแม่มดนั่น...ต้องขอบคุณเราที่ทำให้มีภารกิจนี้ขึ้นมาไม่ใช่รึไง? หากไม่เพราะเรา เธอจะได้รับภารกิจที่มีรางวัลตอบแทนล้ำค่าได้ยังไงกัน? ทว่า...นอกจากจะหล่อนไม่ขอบคุณเราแล้ว นั่งนั่นยังพยายามจะฆ่าเราอีกด้วย...'
หลังจากที่เราตายไป ยูร่าจะต้องสำเร็จภารกิจอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะโดรันเหนื่อล้ามามากแล้ว แถมยูร่าเองก็แข็งแกร่งไม่ใช่เล่น ผลการต่อสู้ที่เหลือคงเดาได้ไม่ยาก
เป็นเพราะเรา...ยูร่าถึงได้ทำภารกิจนี้ และการที่โดรันต้องเหนื่อยล้าก็เป็นเพราะเราไร้ประโยชน์อีกเช่นกัน ยูร่าเป็นเพียงคนที่นั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรอคนมาป้อนอาหารเข้าไปในปากเท่านั้น...
และคนที่ป้อนให้เธอ...ก็คือเราเอง
"นังหัวขโมย..."
ผู้เล่นที่มีเลเวลมากกว่า 200 กลับมาแย่งชิงเควสจากคนที่เลเวลติดลบเนี่ยนะ!
เราตัดสินใจเข้าไปในแคปซูลอีกครั้งเพื่อต่ออินเทอเน็ตและค้นหาข้อมูลของยูร่า
'ยูร่า' หลังจากที่พิมพ์คำๆ นี้ลงไป ผลการค้นหานับร้อย...ไม่สิ นับพันนับหมื่น ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอในทันที เราเลือกที่จะคลิกเข้าไปดูเฉพาะลิงค์ที่ได้รับความนิยม และลิงค์ที่มาจากเว็บไซต์ใหญ่ๆ เท่านั้น ข้อมูลของยูร่าจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้ามาภายในหัวสมองของเราอย่างรวดเร็ว
ตรงกันข้ามกับฉายา 'แม่มดโลหิต' ที่น่าขยะแขยง เธอกลับเป็นที่รักของและเคารพของผู้คนจำนวนมาก แต่นั่นก็ทำให้มีคนอิจฉาเธออยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ด้วยความที่เธอมีรูปลักษณ์ภายนอกงดงามหมดจด มีทักษะการเล่นเกมเป็นเลิศ และมีภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อหน้าสื่ออันสมบูรณ์แบบ ทำให้เธอได้รับการยกย่องจากทั้งกลุ่มผู้เล่นชายและหญิงเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ชาวเกาหลีเท่านั้น ทั่วโลกต่างให้ความสนใจเกมเมอร์สาวสวยคนนี้อย่างล้นหลาม หากมองเผินๆ ล่ะก็ เธอน่าจะได้รับความนิยมมากกว่าดาราหญิงฮอลิวู้ดชั้นแนวหน้าเสียอีก
'โลกเราก็เป็นซะอย่างนี้ละนะ...'
ทิวทัศน์ภายในเกมซาทิสฟายนั้นน่าตื่นเต้นตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ฉากต่างๆ และบรรยากาศโดยรอบมีความสมจริงงดงามกว่าฉากในภาพยนต์หลายเท่าตัว ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่ผู้เล่นชั้นนำเด่นๆ ในเกมซาทิสฟายจะมีชื่อเสียงมากกว่าดาราภาพยนต์ หากใครได้ดูโทรทัศน์ช่วงนี้จะรู้ดี มีช่องนับร้อยที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเกมซาทิสฟาย แถมช่องเหล่านั้นยังมีเรทติ้งการชมที่สูงมาก ทำให้มีช่องเสนอข่าวอย่างมืออาชีพของเกมซาทิสฟายถือกำเนิดขึ้น
และย่อมเป็นที่แน่นอนว่า เราไม่ได้พูดถึงเฉพาะภายในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น ผู้เล่นเกมซาทิสฟายทั่วโลกมีมากกว่าสองพันล้านคน ตลาดโทรทัศน์จึงไม่จำกัดเฉพาะภายในเกาหลีใต้...แต่หมายถึงทั่วโลก ส่งผลให้เหล่าผู้เล่นติดอันดับที่มีชื่อเสียงของเกมซาทิสฟาย มีรายได้ที่สูงกว่าดาราภาพยนต์อย่างเทียบไม่ติด
โดยเฉพาะยูร่า...ไม่เพียงแต่เธอจะเป็นผู้เล่นชั้นแนวหน้า ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงาม ทำให้เธอครอบครองทั้งชื่อเสียงและเงินทองมหาศาลได้อย่างง่ายดาย ช่างตรงข้ามกับตัวเราซะเหลือเกิน...
ชินยองวูผู้ที่ต้องเป็นหนี้ก้อนโตเพราะเกมซาทิสฟาย...
'เราต้องใช้ชีวิตอย่างอดสูยากลำบากเพราะเกมนี้...แต่หล่อนกลับได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้ด้วยเกมเดียวกันเนี่ยนะ...ไม่ยุติธรรมเลยให้ตายสิ!'
ได้เล่นเกมที่ชอบอย่างมีความสุขไปพร้อมๆ กับการมีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาเดียวกันงั้นหรอ? เราอิจฉาเธอเป็นอย่างมาก หากเราเป็นยูร่า ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีอะไรให้เสียใจอีก
"...แล้วทำไมคนอย่างเธอ...ถึงต้องมาแย่งชิงภารกิจจากคนจนๆ อย่างเราด้วย...."
เธอไม่ใช่แม่มด...เธอมันก็แค่ผู้หญิงชั่วช้าคนหนึ่ง
ว๊ากกกก!
เราเปิดโฮโลแกรมคีย์บอร์ดขึ้นมาพร้อมกับกระหน่ำพิมพ์คอมเมนท์ในกระทู้ที่เกี่ยวกับยูร่า
'ยูร่า...นังสารเลว... นังนี่มันแย่งชิงภารกิจไปจากผู้เล่นเลเวลต่ำ หล่อนแตกต่างจากที่เห็นในโทรทัศน์อย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ...ต่ำทรามชิบ'
'ยูร่าตัวจริงก็ไม่ได้สวยอะไรนักหรอก ใบหน้าถูกศัลยกรรมมาจนตึง บนจมูกก็มีกระเต็มไปหมด หน้าของเธอไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังอมขี้หมาอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มของเธอมีไว้เพื่อตบตาผู้คนต่อหน้าสื่อเท่านั้น'
'ยูร่ามีดีตรงไหนกัน??? นังนี่นิสัยแย่มาก เธอทำลายชีวิตคนมาแล้วกี่คนกันแน่นะ? อย่างน้อยๆ เธอก็เคยทำลายชีวิตพี่เขยของตูจนย่อยยับก็แล้วกัน'
'ผู้เล่นติดอันดับที่จ้องจะแย่งชิงภารกิจของผู้อื่น!! อย่าได้โดนภาพที่ปรากฏอยู่บนสื่อหลอกเอาเชียว'
...
"คิกคิกคิก...! วะฮ่าฮ่าฮ่า!"
เราพยายามตีแผ่เรื่องแย่ๆ ของยูร่าออกมา ตัวเราในตอนนี้รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ประหนึ่งว่ากำลังเล่นบทเป็นนักข่าวที่ได้แพร่กระจายข้อมูลที่ถูกต้องให้กับกลุมคนที่ถูกสื่อชักจูงอย่างผิดๆ ความรู้สึกแย่เมื่อครู่ได้ค่อยๆ เลือนหายไปจากสมองทีละนิด
แกร๊ก..แกร๊กๆๆๆ
เรายังคงกระหน่ำคอมเมนท์อย่างไม่หยุดพัก นิ้วทั้งสิบค่อยๆ บรรจงกดลงไปบนคีย์บอร์ดโฮโลแกรมที่สว่างอยู่ท่ามกลางความมืด ภาพของคนผู้หนึ่งกำลังพิมพ์คีย์บอร์ดโฮโลแกรมอย่างบ้าคลั่งในความมืด...หากใครมาเป็นเข้าก็คงต้องรู้สึกแปลกใจไม่น้อยทีเดียว
'พี่...นี่พี่เสียสติไปแล้วหรอ?'
เปล่าเลย...เรากำลังป่าวประกาศความจริงให้โลกรู้ต่างหาก
เราผงะตกใจทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกแว่วขึ้นในหัว เรารีบหันหน้าไปมองต้นเสียงดังกล่าวอย่างรวดเร็ว แล้วก็พบว่า...เซฮีกำลังยืนมองเราอยู่ที่ประตู
"ฟู่ว...เธอทำให้พี่ตกใจนะ"
เรานำมือทาบอกอย่างใจหาย ในเวลาเดียวกันเซฮีก็เดินกอดอกเข้ามาในห้อง
"ในตอนที่ออกมาเข้าห้องน้ำ หนูได้ยินเสียงพี่กำลังหัวเราะคิกคักดังมาจากในห้อง พี่คลั่งในเกมยังไม่พอ ยังจะออกมาเสียสติในชีวิตจริงอีกงั้นหรอ? หนูเป็นห่วงพี่นะ ถึงได้เดินมาดู พี่เป็นบ้าไปแล้วรึไง? ช่วยบอกหนูทีว่าพี่ยังไม่ได้เป็น"
"...ทำไมเธอถึงพูดกับพี่แบบนี้เล่า? พี่ยังสติดีอยู่นะ"
"หนูดีใจนะที่พี่ยังไม่ได้เป็นบ้าไปแล้ว"
"อึก...นี่กลิ่นอะไรเนี่ย! พี่ควรสระผมให้สะอาดกว่านี้หน่อยนะ แล้วเอาชามข้าวนั่นมันอะไรกัน? รีบเอาไปล้างด้วย! ไม่สิ! ทำไมพี่ถึงกินข้าวในห้องกันล่ะ? ที่จริงพี่ควรลงมากินพร้อมหน้ากันกับครอบครัวมากกว่านะ...จริงสิ...พี่ไม่ต้องมานั่นแหละดีแล้ว"
เซฮีจ้องมองไปยังกองชามข้าวกับจานของว่างที่เราวางซ้อนกันทิ้งไว้ ก่อนที่เธอจะทนไม่ไหวแล้วเดินไปเก็บมาเพื่อจะนำไปล้าง
'เด็กคนนี้...เธอน่ารักและนิสัยดีมาก โชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้เป็นเหมือนเรา'
เราจ้องมองเซฮีเล็กน้อยด้วยสายตาที่ชื่นชม แต่เหมือนเธอจะรู้สึกได้ว่าเราจ้องมอง เซฮีจึงหันกลับมามองครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันหลังกลับไป
"อย่าเอาแต่นั่งดูสิ ถ้าพี่ไม่ได้ยุ่งอยู่ก็ควรจะมาช่วยกันไม่ใช่หรอ? ไม่สิ...ไม่ต้องดีกว่า พี่รีบไปอาบน้ำเถอะ หนูไม่ชอบเลยที่พี่ซกมกแบบนี้"
"ปล่อยพี่ไปเถอะน่า แล้วทำไมเธอถึงตื่นเร็วจัง? ยังไม่ทันจะเช้าเลยนะ รีบกลับไปนอนไม่ดีกว่าหรอ?"
"หนูหายง่วงตั้งแต่ได้ยินพี่หัวเราะเหมือนคนบ้าแล้ว พี่รีบไปอาบน้ำเถอะ ให้หนูได้เห็นใบหน้าที่สะอาดสะอ้านของพี่บ้าง...ไม่สิ ก่อนอื่น พี่รีบไปสระผมล้างกลิ่นพวกนี้ออกเป็นอย่างแรกเลย!"
ตอนเซฮีอายุได้ขวบเดียว ตอนนั้นเราก็แปดขวบแล้ว แล้วนี่น่ะหรือ...สิ่งที่น้องสาวกระทำกับพี่ชายที่อายุห่างกันถึงเจ็ดปี?
'ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้...เราน่าจะสระผมไปซะตั้งแต่แรกก็ดี ไม่น่าเปิดน้ำใส่หัวอย่างเดียวเลย'
เราเดินไปยังห้องน้ำพร้อมกับอารมณ์ที่บูดบึ้ง หลังจากนั้นก็เริ่มสระผมด้วยสบู่และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัว ทว่า...ทำไมผมของเราถึงยังรู้สึกแข็งๆ อยู่นะ?
"นี่มัน...น้ำยาปรับผ้านุ่มนี่หว่า..."
เราเดินกลับห้องมาทั้งๆ ที่ผมยังแข็งอยู่ เมื่อมาถึงห้อง มีกลิ่นบางอย่างได้ลอยมาเตะจมูกเราในทันที มันเป็นกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกหอมและสดชื่นมากกว่าเดิม...เซฮีเป็นคนฉีดงั้นหรอ? เธอช่างละเอียดอ่อนจังเลยนะ ห้องของเราถูกทำให้สะอาดเหมือนใหม่ในตอนที่เราไปสระผม เซฮีเป็นเด็กสาวที่สมบูรณ์แบบ เธอจะต้องเป็นเจ้าสาวที่ดีได้แน่
เราหันไปเห็นเซฮีกำลังนั่งอยู่ในแค็ปซูลของเรา
"จะเล่นเน็ตก็ได้นะ พี่ไม่ว่า"
ในเมื่อเข้าเกมไม่ได้ งั้นก็ให้น้องสาวเล่นเน็ตซักหน่อยจะเป็นไรไป
เซฮีห่อตัวเล็กน้อยก่อนจะหันมามองเราด้วยสายตาเหยียดหยาม "พี่...นี่พี่เป็นเกรียนคีย์บอร์ดหรอ?"
"เกรียนคีย์บอร์ด?"
เธอหมายถึงอะไรกันล่ะนั่น? เมื่อเราหันหน้าไปมอง เซฮีกำลังชี้นิ้วไปทางหน้าจอที่ลอยอยู่ในแคปซูล
"ทำไมพี่ถึงต้องแพร่กระจายข่าวลือผิดๆ เกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าพี่ด้วย? ถึงจะด้วยเหตุผลบางอย่างก็เถอะ แต่นิสัยแบบนี้น่ารังเกียจที่สุดเลย หนูผิดหวังในตัวพี่จริงๆ"
เซฮีพูดออกมาด้วยถ้อยคำที่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก ตัวเราพลันนึกได้ถึงความผิดพลาดที่ก่อขี้น จึงรีบมองเข้าไปดูบนหน้าจอทันที คอมเมนท์ทั้งหมดของเราที่เกี่ยวกับยูร่ายังคงแสดงหราอยู่...
ชิ! ดันลืมปิดไปซะได้!
"ซะ...เซฮี...เรื่องนี้พี่อธิบายได้..."
"พี่แย่ที่สุดเลย!"
เราพยายามอธิบายกับเซฮี แต่เธอก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วล็อคประตูโดยไม่ยอมรับฟังอะไรจากเรา ไม่ว่าเราจะพยายามทำตัวน่าสมเพชมากขนาดไหน แต่เซฮีก้ไม่ยอมเปิดประตูออกมาคุยด้วยเลยซักนิด เรารู้สึกได้ว่า ภาพความดีของเราได้หายไปจากสายตาของน้องสาวคนนี้จนหมดสิ้นแล้ว
นี่มันบ้าอะไรกันฟะเนี่ย!
"เพราะนังแม่มดนั่นคนเดียว!"
เราอ้อนวอนเซฮีอยู่หน้าห้องจนเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น จนกระทั่งแม่ของเรามาปลุกให้ตื่น ร่างกายที่นอนผิดท่ามานานก็รู้สึกปวดขึ้นมาทันใด...
เราแปะแผ่นแก้ปวดแล้วกลับไปนอนต่อที่ห้องตัวเองอีกครั้ง...
"ฮ้าววว~~"
เป็นเวลา 11 โมงในตอนเช้า พ่อกับแม่ของเราออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ส่วนเซฮีก็คงไปเรียนได้สามชั่วโมงแล้ว
"เพิ่งจะได้นอนไปหกชั่วโมงเองหรอเนี่ย...เราเป็นพวกนอนน้อยเพราะเป็นคนขยันมาตั้งแต่เกิด...ทำไมพระเจ้าต้องให้เราเกิดมาขยันด้วยเนี่ย? ไม่เข้าใจเลย"
แกร่ก...แกร่ก
เราเกาไปที่เอวเล็กน้อยในขณะที่กำลังเดินไปยังห้องครัว ที่จริงก็หิวนะ...แต่ขี้เกียจทำกับข้าวจังเลย
"ช่างแม่ม..."
เราเลิกสนใจกระเพาะที่กำลังร้องโหยหวนและเดินตรงมาที่ห้องนั่งเล่น เราเอนตัวลงไปนอนบนโซฟานุ่มๆ พร้อมกับเปิดโทรทัศน์ขึ้นมา...ช่องแรกที่ปรากฏ ดันเป็นช่องที่เกี่ยวกับซาทิสฟายพอดิบพอดี
เกมซาทิสฟายนั้นแผ่อิทธิพลครอบคลุมไปถึงช่องประจำของเหล่าแม่บ้าน โดยใช้ชื่อรายการว่า '108 วิธีจีบเด็กหนุ่มภายในซาทิสฟาย!' เนื้อหาของรายการจะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับการสร้างตัวละครภายในเกมให้สาวและสวยมากที่สุด
'...โปรดิวเซอร์ ชอนแจเตงั้นหรอ?'
ดูเหมือนจะมีเรทติ้งรายการที่สูงไม่น้อย เรากดข้ามช่องไปเรื่อยๆ จนหยุดลงที่ช่องหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า 'ข่าวเด่นซาทิสฟาย'
ผู้รายงานข่าวสาวสวยกำลังทักทายอยู่กับเด็กหนุ่มชาวเอเชียที่อายุไล่เลี่ยกับเรา มีการซูมเข้าไปให้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างชัดเจน ที่ด้านล่างของหน้าจอ มีข้อความบรรยายขึ้นมาว่า
[ ID : 'แค็ทซ์', เลเวล 203 ]
"แค็ทซ์...หมอนั่นเลเวลเกิน 200 แล้วหรอเนี่ย?"
แค็ทซ์ถือเป็นคนที่โด่งดังพอตัว แม้จะเรื่องฉาวโฉ่อยู่บ้างจากนิสัยที่เย่อหยิ่ง แต่เขาก็ถือเป็นคลาสนักรบชั้นแนวหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ เมื่อสามเดือนก่อน เขายังมีเลเวลเพียง 170 เท่านั้น แต่ตอนนี้กลับเพิ่มเป็น 203 ไปแล้ว? หมอนี่จะต้องกลายเป็นผู้เล่นลำดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
'30 เลเวลใน 3 เดือน...มันทำได้ยังไงกันนะ?'
ผู้รายงานข่าวสาวในโทรทัศน์เองก็ถามคำถามแบบเดียวกับเรา
---แค็ทซ์คะ คุณรู้ตัวรึเปล่า? ว่าในชั่วโมงนี้ คุณกำลังถูกกล่าวถึงอย่างมากในซาทิสฟาย โปรดิวเซอร์ของเราเองก็ประหลาดใจไม่น้อย เพียงสามเดือนเท่านั้น คุณแค็ทซ์สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 53 ได้สำเร็จ ไม่ทราบว่าคุณใช้เคล็ดลับใดในการอัพเลเวลอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้...พอจะบอกกับพวกเราได้รึเปล่าคะ?
แค็ทซ์ใช้มือเสยผมที่ถูกจัดทรงมาเป็นอย่างดีพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันแสนพึงพอใจ
---ผมได้ค้นพบคลาสระดับอีปิกเข้าเมื่อสามเดือนก่อน การที่ผมยินยอมให้สัมภาษณ์ในวันนี้ ก็เพื่อที่จะเปิดเผยข้อมูลคลาสระดับอีปิกนั่นต่อหน้าทุกคน
---อะ...อะไรนะคะ?
ผู้รายงานข่าวสาวเผยใบหน้าตกตะลึงอย่างสุดขีด ส่วนตัวเรานั้นถึงกับหยุดเกาที่เป้ากางเกงในทันที ข่าวของคลาสระดับอีปีกย่อมเป็นที่ให้ความสนใจของผู้คนอยู่แล้ว ในหนึ่งปีที่ผ่านมา มีคลาสระดับอีปีกปรากฏขึ้นในเกมซาทิสฟายเพียง 2 ครั้งเท่านั้น มูลค่าของมันมหาศาลเกิดกว่าจะจินตนาการได้ แต่แค็ทซ์ก็เลือกที่จะเปลี่ยนเป็นคลาสนั้นมากกว่าที่จะขายหนังสือไป
(ผู้แปล : ระดับของคลาสในตอนนี้เท่าที่รู้ แรร์ < อีปิก < เลเจนดารี่ < ยูนีค)
'การปรากฏตัวครั้งที่ 3 ของคลาสระดับอีปิก...'
คลาสระดับอีปิกทั้งสองคลาสก่อนหน้านี้แทบไม่เคยถูกเผยข้อมูลออกมาเลยสักครั้ง หนังสือเปลี่ยนคลาสอีปิกเล่มแรกถูกประมูลไปในราคาที่สูงลิบ และยังไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้ใดที่เป็นคนครอบครองมัน
ส่วนคลาสระดับอีปิกครั้งที่สองเป็นของ 'แอ็กนัส' ลำดับที่ 7 จากผู้เล่นทั้งหมดสองพันล้านคน แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า 'แอ็กนัส' เป็นคลาสอะไรกันแน่
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่แอ็กนัสจะเก็บเงียบไว้ การเป็นผู้เล่นอันดับสูง ข้อมูลและรายละเอียดของคลาสตนเองย่อมถือเป็นความลับสูงสุด...ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารคือพลังแบบนี้
ความอยู่รอดในซาทิสฟายถือเป็นเรื่องสำคัญ ข้อมูลล้ำค่าต่างๆ จะไม่ถูกเปิดเผยที่ใดแม้จะเป็นเว็บไซต์ใหญ่ก็ตาม ผู้เล่นส่วนมากเลือกจะเก็บสิ่งที่ตนเองรู้เอาไว้เพียงคนเดียว...เราเองก็เช่นกัน
แต่แค็ทซ์กลับกำลังจะเปิดเผยข้อมูลของคลาสตนต่อหน้าสื่อ เขาขึ้นชื่อในเรื่องการทำให้ตนเองตกเป็นเป้าสนใจอยู่แล้ว
แน่ล่ะ นี่ถือเป็นช่วงตักตวงผลประโยชน์ของเขา เขาเลือกที่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ดูเหมือนการเปิดเผยในครั้งนี้อาจทำให้การจัดอันดับผู้เล่นต้องสั่นคลอน
เราหยุดอยู่ที่ช่องนี้โดยไม่คิดเปลี่ยนไปไหน ส่วนทางด้านผู้รายงานสาวเองก็กำลังมีแววตาที่ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
---คลาสใหม่ของคุณคืออะไรคะ?
---ชื่อมันก็คือ 'นักรบโลหิต'
---เป็นคลาสที่พิเศษและน่ากลัวตามชื่อของมันรึเปล่าคะ?
อันที่จริง มันไม่ได้ฟังดูพิเศษหรือน่ากลัวเลยซักนิด ชื่อของมันฟังดูธรรมดาเกินกว่าจะเป็นคลาสระดับอีปิกซะด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนแค็ทซ์จะชอบชื่อนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
---ถึงชื่อของมันจะไม่ได้ฟังดูเท่ห์มากเท่าที่ควร แต่มันก็ถือเป็นคลาสที่สุดยอดมาก ผมจะบอกคุณสมบัติเด่นของมันให้ข้อนึงก็แล้วกันนะ...
แค็ทซ์หยิบดาบที่เหน็บอยู่ตรงเอวขึ้นมา ออร่าของดาบเล่มนี้ดุดันและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
มูลค่าของดาบเล่มนี้...บางที หากเรานำไปขาย อาจจะปลดหนี้ทั้งหมดของเราได้เลยทีเดียว
---คอยดูนะ
ดวงตาของแค็ทซ์แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดุจดั่งโลหิต ในเวลาเดียวกัน ดาบของเขาก็เกิดการกระเพื่อมไปมาอย่างรุนแรง
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 8 - จบตอน
"เจ้าโดรันบ้านั่น...มันบังคับให้เรารับภารกิจ แต่กลับหักหลังโดยการฆ่าเราเนี่ยนะ? ระยำเอ้ย!! ไอ้หัวขโมย! ไอ้สารเลว! ไม่ต้องห่วง ตูจำชื่อและหน้าพวกเอ็งได้หมดทุกคนแล้ว โดรัน...ตูขอสาปแช่งเอ็งไปตลอดกาล!!"
หลังจากที่ออกมาจากเครื่องเกมแคปซูล เราก็เปิดหน้าต่างห้องพร้อมกับตะโกนสาปแช่งออกไปอย่างเสียงดัง โชคดีที่ฝนตกหนักมากเสียจนกลบเสียงเหล่านั้นซะมิด ทำให้เราสามารถยืนระบายอยู่อย่างนั้นได้เป็นเวลานาน
นาฬิกาบอกเวลาเกือบจะตี 4 ในช่วงเช้า วันนี้เป็นวันหยุด ด้วยฝนที่ตกหนักขนาดนี้ ครอบครัวของเราคงจะนอนหลับพักผ่อนกันไปจนถึงยามบ่ายเพราะออกไปไหนไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่เราถูกแบนจากเกมเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ทำให้พลาดโอกาสทองในวันหยุดอันล้ำค่านี้ไป
"เลเวล -3 งั้นหรอ...ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นโว้ย!! โดรัน...โดรัน...เจ้าบ้าโดรัน!!"
เราพยายามทำให้หัวเย็นลงด้วยการไปเข้าห้องน้ำ ตัวเราเอาหน้าจุ่มน้ำเย็นๆ พร้อมกับใช้หูฟังเสียงน้ำก็อกที่กำลังไหลลงมา มันรู้สึกดีอย่างมากหลังจากที่ไม่ได้อาบน้ำมานานถึงสองวัน
"...ที่จริง เราจะไปโทษโดรันก็ไม่ถูกซะทีเดียว"
โดรันแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้มาก เขารับมือกับศัตรูทุกคนได้อย่างยอดเยี่ยม เราได้แต่ยืนมองดูอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยเหมือนกับเป็นเพียงเพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งเท่านั้น โดรันจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ โอกาสเดียวที่จะทำภารกิจนี้สำเร็จ มีแต่ต้องพึ่งพาโดรันเท่านั้น
ใช่แล้ว...โดรันทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก สิ่งเดียวที่คาดไม่ถึงก็คือ...การปรากฏตัวของผู้เล่นติดอันดับ
"นั่งแม่มดนั่น..."
ทำไมยูร่าถึงอยู่ที่นั่นได้น่ะหรอ? ไม่น่าแปลกใจเท่าไรหรอก เธอเป็นจอมเวทย์มืด วิหารยาธานนั้นถือเป็นฐานทัพสำคัญของคลาสจอมเวทย์มืดทั้งหมดอยู่แล้ว การปรากฏตัวของเธอที่นี่จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
แล้วทำไมยูร่าถึงได้มาขัดขวางเรางั้นหรอ? บางที ใครก็ตามที่คิดบุกรุกวิหารยาธานคงจะกลายเป็นศัตรูกับเธอไปโดยปริยาย นั่นทำให้เธอจำเป็นต้องจัดการกับเรา นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อีกเช่นกัน
'ทันทีที่เรารับภารกิจมา เหล่าเอ็นพีซีถือจะว่าเราเป็นศัตรูไปโดยปริยาย ทว่า...กลุ่มผู้ศรัทธาแห่งยาธานเหล่านั้นอ่อนแอเกินไป ศัตรูที่แท้จริงของภารกิจจึงกลายเป็นผู้เล่นด้วยกันเองไปซะได้ นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมโดรันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ภารกิจระดับ S ไม่ได้หมูที่เราคิดไว้ในตอนแรก'
ตัวเราค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหัว
'นั่งแม่มดนั่น...ต้องขอบคุณเราที่ทำให้มีภารกิจนี้ขึ้นมาไม่ใช่รึไง? หากไม่เพราะเรา เธอจะได้รับภารกิจที่มีรางวัลตอบแทนล้ำค่าได้ยังไงกัน? ทว่า...นอกจากจะหล่อนไม่ขอบคุณเราแล้ว นั่งนั่นยังพยายามจะฆ่าเราอีกด้วย...'
หลังจากที่เราตายไป ยูร่าจะต้องสำเร็จภารกิจอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะโดรันเหนื่อล้ามามากแล้ว แถมยูร่าเองก็แข็งแกร่งไม่ใช่เล่น ผลการต่อสู้ที่เหลือคงเดาได้ไม่ยาก
เป็นเพราะเรา...ยูร่าถึงได้ทำภารกิจนี้ และการที่โดรันต้องเหนื่อยล้าก็เป็นเพราะเราไร้ประโยชน์อีกเช่นกัน ยูร่าเป็นเพียงคนที่นั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรอคนมาป้อนอาหารเข้าไปในปากเท่านั้น...
และคนที่ป้อนให้เธอ...ก็คือเราเอง
"นังหัวขโมย..."
ผู้เล่นที่มีเลเวลมากกว่า 200 กลับมาแย่งชิงเควสจากคนที่เลเวลติดลบเนี่ยนะ!
เราตัดสินใจเข้าไปในแคปซูลอีกครั้งเพื่อต่ออินเทอเน็ตและค้นหาข้อมูลของยูร่า
'ยูร่า' หลังจากที่พิมพ์คำๆ นี้ลงไป ผลการค้นหานับร้อย...ไม่สิ นับพันนับหมื่น ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอในทันที เราเลือกที่จะคลิกเข้าไปดูเฉพาะลิงค์ที่ได้รับความนิยม และลิงค์ที่มาจากเว็บไซต์ใหญ่ๆ เท่านั้น ข้อมูลของยูร่าจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้ามาภายในหัวสมองของเราอย่างรวดเร็ว
ตรงกันข้ามกับฉายา 'แม่มดโลหิต' ที่น่าขยะแขยง เธอกลับเป็นที่รักของและเคารพของผู้คนจำนวนมาก แต่นั่นก็ทำให้มีคนอิจฉาเธออยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ด้วยความที่เธอมีรูปลักษณ์ภายนอกงดงามหมดจด มีทักษะการเล่นเกมเป็นเลิศ และมีภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อหน้าสื่ออันสมบูรณ์แบบ ทำให้เธอได้รับการยกย่องจากทั้งกลุ่มผู้เล่นชายและหญิงเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ชาวเกาหลีเท่านั้น ทั่วโลกต่างให้ความสนใจเกมเมอร์สาวสวยคนนี้อย่างล้นหลาม หากมองเผินๆ ล่ะก็ เธอน่าจะได้รับความนิยมมากกว่าดาราหญิงฮอลิวู้ดชั้นแนวหน้าเสียอีก
'โลกเราก็เป็นซะอย่างนี้ละนะ...'
ทิวทัศน์ภายในเกมซาทิสฟายนั้นน่าตื่นเต้นตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ฉากต่างๆ และบรรยากาศโดยรอบมีความสมจริงงดงามกว่าฉากในภาพยนต์หลายเท่าตัว ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่ผู้เล่นชั้นนำเด่นๆ ในเกมซาทิสฟายจะมีชื่อเสียงมากกว่าดาราภาพยนต์ หากใครได้ดูโทรทัศน์ช่วงนี้จะรู้ดี มีช่องนับร้อยที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเกมซาทิสฟาย แถมช่องเหล่านั้นยังมีเรทติ้งการชมที่สูงมาก ทำให้มีช่องเสนอข่าวอย่างมืออาชีพของเกมซาทิสฟายถือกำเนิดขึ้น
และย่อมเป็นที่แน่นอนว่า เราไม่ได้พูดถึงเฉพาะภายในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น ผู้เล่นเกมซาทิสฟายทั่วโลกมีมากกว่าสองพันล้านคน ตลาดโทรทัศน์จึงไม่จำกัดเฉพาะภายในเกาหลีใต้...แต่หมายถึงทั่วโลก ส่งผลให้เหล่าผู้เล่นติดอันดับที่มีชื่อเสียงของเกมซาทิสฟาย มีรายได้ที่สูงกว่าดาราภาพยนต์อย่างเทียบไม่ติด
โดยเฉพาะยูร่า...ไม่เพียงแต่เธอจะเป็นผู้เล่นชั้นแนวหน้า ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงาม ทำให้เธอครอบครองทั้งชื่อเสียงและเงินทองมหาศาลได้อย่างง่ายดาย ช่างตรงข้ามกับตัวเราซะเหลือเกิน...
ชินยองวูผู้ที่ต้องเป็นหนี้ก้อนโตเพราะเกมซาทิสฟาย...
'เราต้องใช้ชีวิตอย่างอดสูยากลำบากเพราะเกมนี้...แต่หล่อนกลับได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้ด้วยเกมเดียวกันเนี่ยนะ...ไม่ยุติธรรมเลยให้ตายสิ!'
ได้เล่นเกมที่ชอบอย่างมีความสุขไปพร้อมๆ กับการมีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาเดียวกันงั้นหรอ? เราอิจฉาเธอเป็นอย่างมาก หากเราเป็นยูร่า ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีอะไรให้เสียใจอีก
"...แล้วทำไมคนอย่างเธอ...ถึงต้องมาแย่งชิงภารกิจจากคนจนๆ อย่างเราด้วย...."
เธอไม่ใช่แม่มด...เธอมันก็แค่ผู้หญิงชั่วช้าคนหนึ่ง
ว๊ากกกก!
เราเปิดโฮโลแกรมคีย์บอร์ดขึ้นมาพร้อมกับกระหน่ำพิมพ์คอมเมนท์ในกระทู้ที่เกี่ยวกับยูร่า
'ยูร่า...นังสารเลว... นังนี่มันแย่งชิงภารกิจไปจากผู้เล่นเลเวลต่ำ หล่อนแตกต่างจากที่เห็นในโทรทัศน์อย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ...ต่ำทรามชิบ'
'ยูร่าตัวจริงก็ไม่ได้สวยอะไรนักหรอก ใบหน้าถูกศัลยกรรมมาจนตึง บนจมูกก็มีกระเต็มไปหมด หน้าของเธอไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังอมขี้หมาอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มของเธอมีไว้เพื่อตบตาผู้คนต่อหน้าสื่อเท่านั้น'
'ยูร่ามีดีตรงไหนกัน??? นังนี่นิสัยแย่มาก เธอทำลายชีวิตคนมาแล้วกี่คนกันแน่นะ? อย่างน้อยๆ เธอก็เคยทำลายชีวิตพี่เขยของตูจนย่อยยับก็แล้วกัน'
'ผู้เล่นติดอันดับที่จ้องจะแย่งชิงภารกิจของผู้อื่น!! อย่าได้โดนภาพที่ปรากฏอยู่บนสื่อหลอกเอาเชียว'
...
"คิกคิกคิก...! วะฮ่าฮ่าฮ่า!"
เราพยายามตีแผ่เรื่องแย่ๆ ของยูร่าออกมา ตัวเราในตอนนี้รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ประหนึ่งว่ากำลังเล่นบทเป็นนักข่าวที่ได้แพร่กระจายข้อมูลที่ถูกต้องให้กับกลุมคนที่ถูกสื่อชักจูงอย่างผิดๆ ความรู้สึกแย่เมื่อครู่ได้ค่อยๆ เลือนหายไปจากสมองทีละนิด
แกร๊ก..แกร๊กๆๆๆ
เรายังคงกระหน่ำคอมเมนท์อย่างไม่หยุดพัก นิ้วทั้งสิบค่อยๆ บรรจงกดลงไปบนคีย์บอร์ดโฮโลแกรมที่สว่างอยู่ท่ามกลางความมืด ภาพของคนผู้หนึ่งกำลังพิมพ์คีย์บอร์ดโฮโลแกรมอย่างบ้าคลั่งในความมืด...หากใครมาเป็นเข้าก็คงต้องรู้สึกแปลกใจไม่น้อยทีเดียว
'พี่...นี่พี่เสียสติไปแล้วหรอ?'
เปล่าเลย...เรากำลังป่าวประกาศความจริงให้โลกรู้ต่างหาก
เราผงะตกใจทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกแว่วขึ้นในหัว เรารีบหันหน้าไปมองต้นเสียงดังกล่าวอย่างรวดเร็ว แล้วก็พบว่า...เซฮีกำลังยืนมองเราอยู่ที่ประตู
"ฟู่ว...เธอทำให้พี่ตกใจนะ"
เรานำมือทาบอกอย่างใจหาย ในเวลาเดียวกันเซฮีก็เดินกอดอกเข้ามาในห้อง
"ในตอนที่ออกมาเข้าห้องน้ำ หนูได้ยินเสียงพี่กำลังหัวเราะคิกคักดังมาจากในห้อง พี่คลั่งในเกมยังไม่พอ ยังจะออกมาเสียสติในชีวิตจริงอีกงั้นหรอ? หนูเป็นห่วงพี่นะ ถึงได้เดินมาดู พี่เป็นบ้าไปแล้วรึไง? ช่วยบอกหนูทีว่าพี่ยังไม่ได้เป็น"
"...ทำไมเธอถึงพูดกับพี่แบบนี้เล่า? พี่ยังสติดีอยู่นะ"
"หนูดีใจนะที่พี่ยังไม่ได้เป็นบ้าไปแล้ว"
"อึก...นี่กลิ่นอะไรเนี่ย! พี่ควรสระผมให้สะอาดกว่านี้หน่อยนะ แล้วเอาชามข้าวนั่นมันอะไรกัน? รีบเอาไปล้างด้วย! ไม่สิ! ทำไมพี่ถึงกินข้าวในห้องกันล่ะ? ที่จริงพี่ควรลงมากินพร้อมหน้ากันกับครอบครัวมากกว่านะ...จริงสิ...พี่ไม่ต้องมานั่นแหละดีแล้ว"
เซฮีจ้องมองไปยังกองชามข้าวกับจานของว่างที่เราวางซ้อนกันทิ้งไว้ ก่อนที่เธอจะทนไม่ไหวแล้วเดินไปเก็บมาเพื่อจะนำไปล้าง
'เด็กคนนี้...เธอน่ารักและนิสัยดีมาก โชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้เป็นเหมือนเรา'
เราจ้องมองเซฮีเล็กน้อยด้วยสายตาที่ชื่นชม แต่เหมือนเธอจะรู้สึกได้ว่าเราจ้องมอง เซฮีจึงหันกลับมามองครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันหลังกลับไป
"อย่าเอาแต่นั่งดูสิ ถ้าพี่ไม่ได้ยุ่งอยู่ก็ควรจะมาช่วยกันไม่ใช่หรอ? ไม่สิ...ไม่ต้องดีกว่า พี่รีบไปอาบน้ำเถอะ หนูไม่ชอบเลยที่พี่ซกมกแบบนี้"
"ปล่อยพี่ไปเถอะน่า แล้วทำไมเธอถึงตื่นเร็วจัง? ยังไม่ทันจะเช้าเลยนะ รีบกลับไปนอนไม่ดีกว่าหรอ?"
"หนูหายง่วงตั้งแต่ได้ยินพี่หัวเราะเหมือนคนบ้าแล้ว พี่รีบไปอาบน้ำเถอะ ให้หนูได้เห็นใบหน้าที่สะอาดสะอ้านของพี่บ้าง...ไม่สิ ก่อนอื่น พี่รีบไปสระผมล้างกลิ่นพวกนี้ออกเป็นอย่างแรกเลย!"
ตอนเซฮีอายุได้ขวบเดียว ตอนนั้นเราก็แปดขวบแล้ว แล้วนี่น่ะหรือ...สิ่งที่น้องสาวกระทำกับพี่ชายที่อายุห่างกันถึงเจ็ดปี?
'ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้...เราน่าจะสระผมไปซะตั้งแต่แรกก็ดี ไม่น่าเปิดน้ำใส่หัวอย่างเดียวเลย'
เราเดินไปยังห้องน้ำพร้อมกับอารมณ์ที่บูดบึ้ง หลังจากนั้นก็เริ่มสระผมด้วยสบู่และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัว ทว่า...ทำไมผมของเราถึงยังรู้สึกแข็งๆ อยู่นะ?
"นี่มัน...น้ำยาปรับผ้านุ่มนี่หว่า..."
เราเดินกลับห้องมาทั้งๆ ที่ผมยังแข็งอยู่ เมื่อมาถึงห้อง มีกลิ่นบางอย่างได้ลอยมาเตะจมูกเราในทันที มันเป็นกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกหอมและสดชื่นมากกว่าเดิม...เซฮีเป็นคนฉีดงั้นหรอ? เธอช่างละเอียดอ่อนจังเลยนะ ห้องของเราถูกทำให้สะอาดเหมือนใหม่ในตอนที่เราไปสระผม เซฮีเป็นเด็กสาวที่สมบูรณ์แบบ เธอจะต้องเป็นเจ้าสาวที่ดีได้แน่
เราหันไปเห็นเซฮีกำลังนั่งอยู่ในแค็ปซูลของเรา
"จะเล่นเน็ตก็ได้นะ พี่ไม่ว่า"
ในเมื่อเข้าเกมไม่ได้ งั้นก็ให้น้องสาวเล่นเน็ตซักหน่อยจะเป็นไรไป
เซฮีห่อตัวเล็กน้อยก่อนจะหันมามองเราด้วยสายตาเหยียดหยาม "พี่...นี่พี่เป็นเกรียนคีย์บอร์ดหรอ?"
"เกรียนคีย์บอร์ด?"
เธอหมายถึงอะไรกันล่ะนั่น? เมื่อเราหันหน้าไปมอง เซฮีกำลังชี้นิ้วไปทางหน้าจอที่ลอยอยู่ในแคปซูล
"ทำไมพี่ถึงต้องแพร่กระจายข่าวลือผิดๆ เกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าพี่ด้วย? ถึงจะด้วยเหตุผลบางอย่างก็เถอะ แต่นิสัยแบบนี้น่ารังเกียจที่สุดเลย หนูผิดหวังในตัวพี่จริงๆ"
เซฮีพูดออกมาด้วยถ้อยคำที่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก ตัวเราพลันนึกได้ถึงความผิดพลาดที่ก่อขี้น จึงรีบมองเข้าไปดูบนหน้าจอทันที คอมเมนท์ทั้งหมดของเราที่เกี่ยวกับยูร่ายังคงแสดงหราอยู่...
ชิ! ดันลืมปิดไปซะได้!
"ซะ...เซฮี...เรื่องนี้พี่อธิบายได้..."
"พี่แย่ที่สุดเลย!"
เราพยายามอธิบายกับเซฮี แต่เธอก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วล็อคประตูโดยไม่ยอมรับฟังอะไรจากเรา ไม่ว่าเราจะพยายามทำตัวน่าสมเพชมากขนาดไหน แต่เซฮีก้ไม่ยอมเปิดประตูออกมาคุยด้วยเลยซักนิด เรารู้สึกได้ว่า ภาพความดีของเราได้หายไปจากสายตาของน้องสาวคนนี้จนหมดสิ้นแล้ว
นี่มันบ้าอะไรกันฟะเนี่ย!
"เพราะนังแม่มดนั่นคนเดียว!"
เราอ้อนวอนเซฮีอยู่หน้าห้องจนเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น จนกระทั่งแม่ของเรามาปลุกให้ตื่น ร่างกายที่นอนผิดท่ามานานก็รู้สึกปวดขึ้นมาทันใด...
เราแปะแผ่นแก้ปวดแล้วกลับไปนอนต่อที่ห้องตัวเองอีกครั้ง...
"ฮ้าววว~~"
เป็นเวลา 11 โมงในตอนเช้า พ่อกับแม่ของเราออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ส่วนเซฮีก็คงไปเรียนได้สามชั่วโมงแล้ว
"เพิ่งจะได้นอนไปหกชั่วโมงเองหรอเนี่ย...เราเป็นพวกนอนน้อยเพราะเป็นคนขยันมาตั้งแต่เกิด...ทำไมพระเจ้าต้องให้เราเกิดมาขยันด้วยเนี่ย? ไม่เข้าใจเลย"
แกร่ก...แกร่ก
เราเกาไปที่เอวเล็กน้อยในขณะที่กำลังเดินไปยังห้องครัว ที่จริงก็หิวนะ...แต่ขี้เกียจทำกับข้าวจังเลย
"ช่างแม่ม..."
เราเลิกสนใจกระเพาะที่กำลังร้องโหยหวนและเดินตรงมาที่ห้องนั่งเล่น เราเอนตัวลงไปนอนบนโซฟานุ่มๆ พร้อมกับเปิดโทรทัศน์ขึ้นมา...ช่องแรกที่ปรากฏ ดันเป็นช่องที่เกี่ยวกับซาทิสฟายพอดิบพอดี
เกมซาทิสฟายนั้นแผ่อิทธิพลครอบคลุมไปถึงช่องประจำของเหล่าแม่บ้าน โดยใช้ชื่อรายการว่า '108 วิธีจีบเด็กหนุ่มภายในซาทิสฟาย!' เนื้อหาของรายการจะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับการสร้างตัวละครภายในเกมให้สาวและสวยมากที่สุด
'...โปรดิวเซอร์ ชอนแจเตงั้นหรอ?'
ดูเหมือนจะมีเรทติ้งรายการที่สูงไม่น้อย เรากดข้ามช่องไปเรื่อยๆ จนหยุดลงที่ช่องหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า 'ข่าวเด่นซาทิสฟาย'
ผู้รายงานข่าวสาวสวยกำลังทักทายอยู่กับเด็กหนุ่มชาวเอเชียที่อายุไล่เลี่ยกับเรา มีการซูมเข้าไปให้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างชัดเจน ที่ด้านล่างของหน้าจอ มีข้อความบรรยายขึ้นมาว่า
[ ID : 'แค็ทซ์', เลเวล 203 ]
"แค็ทซ์...หมอนั่นเลเวลเกิน 200 แล้วหรอเนี่ย?"
แค็ทซ์ถือเป็นคนที่โด่งดังพอตัว แม้จะเรื่องฉาวโฉ่อยู่บ้างจากนิสัยที่เย่อหยิ่ง แต่เขาก็ถือเป็นคลาสนักรบชั้นแนวหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ เมื่อสามเดือนก่อน เขายังมีเลเวลเพียง 170 เท่านั้น แต่ตอนนี้กลับเพิ่มเป็น 203 ไปแล้ว? หมอนี่จะต้องกลายเป็นผู้เล่นลำดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
'30 เลเวลใน 3 เดือน...มันทำได้ยังไงกันนะ?'
ผู้รายงานข่าวสาวในโทรทัศน์เองก็ถามคำถามแบบเดียวกับเรา
---แค็ทซ์คะ คุณรู้ตัวรึเปล่า? ว่าในชั่วโมงนี้ คุณกำลังถูกกล่าวถึงอย่างมากในซาทิสฟาย โปรดิวเซอร์ของเราเองก็ประหลาดใจไม่น้อย เพียงสามเดือนเท่านั้น คุณแค็ทซ์สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 53 ได้สำเร็จ ไม่ทราบว่าคุณใช้เคล็ดลับใดในการอัพเลเวลอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้...พอจะบอกกับพวกเราได้รึเปล่าคะ?
แค็ทซ์ใช้มือเสยผมที่ถูกจัดทรงมาเป็นอย่างดีพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันแสนพึงพอใจ
---ผมได้ค้นพบคลาสระดับอีปิกเข้าเมื่อสามเดือนก่อน การที่ผมยินยอมให้สัมภาษณ์ในวันนี้ ก็เพื่อที่จะเปิดเผยข้อมูลคลาสระดับอีปิกนั่นต่อหน้าทุกคน
---อะ...อะไรนะคะ?
ผู้รายงานข่าวสาวเผยใบหน้าตกตะลึงอย่างสุดขีด ส่วนตัวเรานั้นถึงกับหยุดเกาที่เป้ากางเกงในทันที ข่าวของคลาสระดับอีปีกย่อมเป็นที่ให้ความสนใจของผู้คนอยู่แล้ว ในหนึ่งปีที่ผ่านมา มีคลาสระดับอีปีกปรากฏขึ้นในเกมซาทิสฟายเพียง 2 ครั้งเท่านั้น มูลค่าของมันมหาศาลเกิดกว่าจะจินตนาการได้ แต่แค็ทซ์ก็เลือกที่จะเปลี่ยนเป็นคลาสนั้นมากกว่าที่จะขายหนังสือไป
(ผู้แปล : ระดับของคลาสในตอนนี้เท่าที่รู้ แรร์ < อีปิก < เลเจนดารี่ < ยูนีค)
'การปรากฏตัวครั้งที่ 3 ของคลาสระดับอีปิก...'
คลาสระดับอีปิกทั้งสองคลาสก่อนหน้านี้แทบไม่เคยถูกเผยข้อมูลออกมาเลยสักครั้ง หนังสือเปลี่ยนคลาสอีปิกเล่มแรกถูกประมูลไปในราคาที่สูงลิบ และยังไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้ใดที่เป็นคนครอบครองมัน
ส่วนคลาสระดับอีปิกครั้งที่สองเป็นของ 'แอ็กนัส' ลำดับที่ 7 จากผู้เล่นทั้งหมดสองพันล้านคน แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า 'แอ็กนัส' เป็นคลาสอะไรกันแน่
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่แอ็กนัสจะเก็บเงียบไว้ การเป็นผู้เล่นอันดับสูง ข้อมูลและรายละเอียดของคลาสตนเองย่อมถือเป็นความลับสูงสุด...ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารคือพลังแบบนี้
ความอยู่รอดในซาทิสฟายถือเป็นเรื่องสำคัญ ข้อมูลล้ำค่าต่างๆ จะไม่ถูกเปิดเผยที่ใดแม้จะเป็นเว็บไซต์ใหญ่ก็ตาม ผู้เล่นส่วนมากเลือกจะเก็บสิ่งที่ตนเองรู้เอาไว้เพียงคนเดียว...เราเองก็เช่นกัน
แต่แค็ทซ์กลับกำลังจะเปิดเผยข้อมูลของคลาสตนต่อหน้าสื่อ เขาขึ้นชื่อในเรื่องการทำให้ตนเองตกเป็นเป้าสนใจอยู่แล้ว
แน่ล่ะ นี่ถือเป็นช่วงตักตวงผลประโยชน์ของเขา เขาเลือกที่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ดูเหมือนการเปิดเผยในครั้งนี้อาจทำให้การจัดอันดับผู้เล่นต้องสั่นคลอน
เราหยุดอยู่ที่ช่องนี้โดยไม่คิดเปลี่ยนไปไหน ส่วนทางด้านผู้รายงานสาวเองก็กำลังมีแววตาที่ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
---คลาสใหม่ของคุณคืออะไรคะ?
---ชื่อมันก็คือ 'นักรบโลหิต'
---เป็นคลาสที่พิเศษและน่ากลัวตามชื่อของมันรึเปล่าคะ?
อันที่จริง มันไม่ได้ฟังดูพิเศษหรือน่ากลัวเลยซักนิด ชื่อของมันฟังดูธรรมดาเกินกว่าจะเป็นคลาสระดับอีปิกซะด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนแค็ทซ์จะชอบชื่อนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
---ถึงชื่อของมันจะไม่ได้ฟังดูเท่ห์มากเท่าที่ควร แต่มันก็ถือเป็นคลาสที่สุดยอดมาก ผมจะบอกคุณสมบัติเด่นของมันให้ข้อนึงก็แล้วกันนะ...
แค็ทซ์หยิบดาบที่เหน็บอยู่ตรงเอวขึ้นมา ออร่าของดาบเล่มนี้ดุดันและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
มูลค่าของดาบเล่มนี้...บางที หากเรานำไปขาย อาจจะปลดหนี้ทั้งหมดของเราได้เลยทีเดียว
---คอยดูนะ
ดวงตาของแค็ทซ์แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดุจดั่งโลหิต ในเวลาเดียวกัน ดาบของเขาก็เกิดการกระเพื่อมไปมาอย่างรุนแรง
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 8 - จบตอน
เกมเมอรหัวร้อน
ReplyDeleteกว่าจะไต่ขึ้นอันดับท็อปของโลกคงอีกนาน แต่พระเอกคงสนใจเรื่องเงินทองมากกว่า
ReplyDeleteปกติแล้ว ระดับของ legend น่าจะสูงกว่า unique นะครับ ฝากลองเชคดูอีกที
ReplyDeleteปัฐญาอ่อนเกินไปงี่เง่าด้วยโง่ด้วย
ReplyDeleteหิว ขี้เกียจทำกับข้าว ช่างแม่ม.... กุลั้นเลย 😂😂😂
ReplyDeleteไม่เคยอ่านนิยายแล้วลากผ่านๆแบบนี้มาก่อนโล้ยยย
ReplyDelete