จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 8

       "อั่ก!" 

       "เจ้าโดรันบ้านั่น...มันบังคับให้เรารับภารกิจ  แต่กลับหักหลังโดยการฆ่าเราเนี่ยนะ?   ระยำเอ้ย!!  ไอ้หัวขโมย!  ไอ้สารเลว!     ไม่ต้องห่วง    ตูจำชื่อและหน้าพวกเอ็งได้หมดทุกคนแล้ว   โดรัน...ตูขอสาปแช่งเอ็งไปตลอดกาล!!"

        หลังจากที่ออกมาจากเครื่องเกมแคปซูล  เราก็เปิดหน้าต่างห้องพร้อมกับตะโกนสาปแช่งออกไปอย่างเสียงดัง   โชคดีที่ฝนตกหนักมากเสียจนกลบเสียงเหล่านั้นซะมิด   ทำให้เราสามารถยืนระบายอยู่อย่างนั้นได้เป็นเวลานาน

       นาฬิกาบอกเวลาเกือบจะตี 4 ในช่วงเช้า   วันนี้เป็นวันหยุด  ด้วยฝนที่ตกหนักขนาดนี้  ครอบครัวของเราคงจะนอนหลับพักผ่อนกันไปจนถึงยามบ่ายเพราะออกไปไหนไม่ได้    แต่น่าเสียดายที่เราถูกแบนจากเกมเป็นเวลา 12 ชั่วโมง   ทำให้พลาดโอกาสทองในวันหยุดอันล้ำค่านี้ไป

       "เลเวล -3 งั้นหรอ...ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นโว้ย!!   โดรัน...โดรัน...เจ้าบ้าโดรัน!!"

       เราพยายามทำให้หัวเย็นลงด้วยการไปเข้าห้องน้ำ    ตัวเราเอาหน้าจุ่มน้ำเย็นๆ พร้อมกับใช้หูฟังเสียงน้ำก็อกที่กำลังไหลลงมา   มันรู้สึกดีอย่างมากหลังจากที่ไม่ได้อาบน้ำมานานถึงสองวัน

       "...ที่จริง   เราจะไปโทษโดรันก็ไม่ถูกซะทีเดียว"

       โดรันแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้มาก   เขารับมือกับศัตรูทุกคนได้อย่างยอดเยี่ยม  เราได้แต่ยืนมองดูอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลยเหมือนกับเป็นเพียงเพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งเท่านั้น    โดรันจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ   โอกาสเดียวที่จะทำภารกิจนี้สำเร็จ  มีแต่ต้องพึ่งพาโดรันเท่านั้น

       ใช่แล้ว...โดรันทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก   สิ่งเดียวที่คาดไม่ถึงก็คือ...การปรากฏตัวของผู้เล่นติดอันดับ

       "นั่งแม่มดนั่น..."

       ทำไมยูร่าถึงอยู่ที่นั่นได้น่ะหรอ?   ไม่น่าแปลกใจเท่าไรหรอก  เธอเป็นจอมเวทย์มืด   วิหารยาธานนั้นถือเป็นฐานทัพสำคัญของคลาสจอมเวทย์มืดทั้งหมดอยู่แล้ว   การปรากฏตัวของเธอที่นี่จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ 

       แล้วทำไมยูร่าถึงได้มาขัดขวางเรางั้นหรอ?   บางที  ใครก็ตามที่คิดบุกรุกวิหารยาธานคงจะกลายเป็นศัตรูกับเธอไปโดยปริยาย   นั่นทำให้เธอจำเป็นต้องจัดการกับเรา   นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อีกเช่นกัน

       'ทันทีที่เรารับภารกิจมา   เหล่าเอ็นพีซีถือจะว่าเราเป็นศัตรูไปโดยปริยาย    ทว่า...กลุ่มผู้ศรัทธาแห่งยาธานเหล่านั้นอ่อนแอเกินไป     ศัตรูที่แท้จริงของภารกิจจึงกลายเป็นผู้เล่นด้วยกันเองไปซะได้    นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมโดรันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้   ภารกิจระดับ S ไม่ได้หมูที่เราคิดไว้ในตอนแรก'

       ตัวเราค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหัว

       'นั่งแม่มดนั่น...ต้องขอบคุณเราที่ทำให้มีภารกิจนี้ขึ้นมาไม่ใช่รึไง?   หากไม่เพราะเรา  เธอจะได้รับภารกิจที่มีรางวัลตอบแทนล้ำค่าได้ยังไงกัน?    ทว่า...นอกจากจะหล่อนไม่ขอบคุณเราแล้ว   นั่งนั่นยังพยายามจะฆ่าเราอีกด้วย...'

       หลังจากที่เราตายไป  ยูร่าจะต้องสำเร็จภารกิจอย่างไม่ต้องสงสัย   เพราะโดรันเหนื่อล้ามามากแล้ว  แถมยูร่าเองก็แข็งแกร่งไม่ใช่เล่น   ผลการต่อสู้ที่เหลือคงเดาได้ไม่ยาก

       เป็นเพราะเรา...ยูร่าถึงได้ทำภารกิจนี้    และการที่โดรันต้องเหนื่อยล้าก็เป็นเพราะเราไร้ประโยชน์อีกเช่นกัน     ยูร่าเป็นเพียงคนที่นั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรอคนมาป้อนอาหารเข้าไปในปากเท่านั้น...

       และคนที่ป้อนให้เธอ...ก็คือเราเอง

       "นังหัวขโมย..."             

       ผู้เล่นที่มีเลเวลมากกว่า 200 กลับมาแย่งชิงเควสจากคนที่เลเวลติดลบเนี่ยนะ! 

       เราตัดสินใจเข้าไปในแคปซูลอีกครั้งเพื่อต่ออินเทอเน็ตและค้นหาข้อมูลของยูร่า

       'ยูร่า'  หลังจากที่พิมพ์คำๆ นี้ลงไป   ผลการค้นหานับร้อย...ไม่สิ  นับพันนับหมื่น  ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอในทันที   เราเลือกที่จะคลิกเข้าไปดูเฉพาะลิงค์ที่ได้รับความนิยม  และลิงค์ที่มาจากเว็บไซต์ใหญ่ๆ เท่านั้น   ข้อมูลของยูร่าจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้ามาภายในหัวสมองของเราอย่างรวดเร็ว

       ตรงกันข้ามกับฉายา 'แม่มดโลหิต'  ที่น่าขยะแขยง   เธอกลับเป็นที่รักของและเคารพของผู้คนจำนวนมาก   แต่นั่นก็ทำให้มีคนอิจฉาเธออยู่ไม่น้อยเช่นกัน       

       ด้วยความที่เธอมีรูปลักษณ์ภายนอกงดงามหมดจด   มีทักษะการเล่นเกมเป็นเลิศ  และมีภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อหน้าสื่ออันสมบูรณ์แบบ    ทำให้เธอได้รับการยกย่องจากทั้งกลุ่มผู้เล่นชายและหญิงเป็นจำนวนมาก   ไม่เพียงแต่ชาวเกาหลีเท่านั้น   ทั่วโลกต่างให้ความสนใจเกมเมอร์สาวสวยคนนี้อย่างล้นหลาม    หากมองเผินๆ ล่ะก็   เธอน่าจะได้รับความนิยมมากกว่าดาราหญิงฮอลิวู้ดชั้นแนวหน้าเสียอีก

       'โลกเราก็เป็นซะอย่างนี้ละนะ...'

       ทิวทัศน์ภายในเกมซาทิสฟายนั้นน่าตื่นเต้นตระการตาเป็นอย่างยิ่ง   ฉากต่างๆ และบรรยากาศโดยรอบมีความสมจริงงดงามกว่าฉากในภาพยนต์หลายเท่าตัว   ดังนั้น  จึงไม่แปลกเลยที่ผู้เล่นชั้นนำเด่นๆ ในเกมซาทิสฟายจะมีชื่อเสียงมากกว่าดาราภาพยนต์     หากใครได้ดูโทรทัศน์ช่วงนี้จะรู้ดี    มีช่องนับร้อยที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเกมซาทิสฟาย  แถมช่องเหล่านั้นยังมีเรทติ้งการชมที่สูงมาก    ทำให้มีช่องเสนอข่าวอย่างมืออาชีพของเกมซาทิสฟายถือกำเนิดขึ้น

       และย่อมเป็นที่แน่นอนว่า  เราไม่ได้พูดถึงเฉพาะภายในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น   ผู้เล่นเกมซาทิสฟายทั่วโลกมีมากกว่าสองพันล้านคน    ตลาดโทรทัศน์จึงไม่จำกัดเฉพาะภายในเกาหลีใต้...แต่หมายถึงทั่วโลก     ส่งผลให้เหล่าผู้เล่นติดอันดับที่มีชื่อเสียงของเกมซาทิสฟาย   มีรายได้ที่สูงกว่าดาราภาพยนต์อย่างเทียบไม่ติด

       โดยเฉพาะยูร่า...ไม่เพียงแต่เธอจะเป็นผู้เล่นชั้นแนวหน้า  ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงาม   ทำให้เธอครอบครองทั้งชื่อเสียงและเงินทองมหาศาลได้อย่างง่ายดาย    ช่างตรงข้ามกับตัวเราซะเหลือเกิน...

       ชินยองวูผู้ที่ต้องเป็นหนี้ก้อนโตเพราะเกมซาทิสฟาย...

       'เราต้องใช้ชีวิตอย่างอดสูยากลำบากเพราะเกมนี้...แต่หล่อนกลับได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้ด้วยเกมเดียวกันเนี่ยนะ...ไม่ยุติธรรมเลยให้ตายสิ!'     

       ได้เล่นเกมที่ชอบอย่างมีความสุขไปพร้อมๆ กับการมีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาเดียวกันงั้นหรอ?    เราอิจฉาเธอเป็นอย่างมาก    หากเราเป็นยูร่า  ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีอะไรให้เสียใจอีก

       "...แล้วทำไมคนอย่างเธอ...ถึงต้องมาแย่งชิงภารกิจจากคนจนๆ อย่างเราด้วย...."

       เธอไม่ใช่แม่มด...เธอมันก็แค่ผู้หญิงชั่วช้าคนหนึ่ง

       ว๊ากกกก!

       เราเปิดโฮโลแกรมคีย์บอร์ดขึ้นมาพร้อมกับกระหน่ำพิมพ์คอมเมนท์ในกระทู้ที่เกี่ยวกับยูร่า

       'ยูร่า...นังสารเลว...  นังนี่มันแย่งชิงภารกิจไปจากผู้เล่นเลเวลต่ำ   หล่อนแตกต่างจากที่เห็นในโทรทัศน์อย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ...ต่ำทรามชิบ'     

       'ยูร่าตัวจริงก็ไม่ได้สวยอะไรนักหรอก   ใบหน้าถูกศัลยกรรมมาจนตึง   บนจมูกก็มีกระเต็มไปหมด  หน้าของเธอไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังอมขี้หมาอยู่ตลอดเวลา    รอยยิ้มของเธอมีไว้เพื่อตบตาผู้คนต่อหน้าสื่อเท่านั้น'

       'ยูร่ามีดีตรงไหนกัน???   นังนี่นิสัยแย่มาก   เธอทำลายชีวิตคนมาแล้วกี่คนกันแน่นะ?   อย่างน้อยๆ เธอก็เคยทำลายชีวิตพี่เขยของตูจนย่อยยับก็แล้วกัน'

       'ผู้เล่นติดอันดับที่จ้องจะแย่งชิงภารกิจของผู้อื่น!!  อย่าได้โดนภาพที่ปรากฏอยู่บนสื่อหลอกเอาเชียว'

...

       "คิกคิกคิก...!  วะฮ่าฮ่าฮ่า!"

       เราพยายามตีแผ่เรื่องแย่ๆ ของยูร่าออกมา    ตัวเราในตอนนี้รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก  ประหนึ่งว่ากำลังเล่นบทเป็นนักข่าวที่ได้แพร่กระจายข้อมูลที่ถูกต้องให้กับกลุมคนที่ถูกสื่อชักจูงอย่างผิดๆ    ความรู้สึกแย่เมื่อครู่ได้ค่อยๆ เลือนหายไปจากสมองทีละนิด

       แกร๊ก..แกร๊กๆๆๆ

       เรายังคงกระหน่ำคอมเมนท์อย่างไม่หยุดพัก    นิ้วทั้งสิบค่อยๆ บรรจงกดลงไปบนคีย์บอร์ดโฮโลแกรมที่สว่างอยู่ท่ามกลางความมืด      ภาพของคนผู้หนึ่งกำลังพิมพ์คีย์บอร์ดโฮโลแกรมอย่างบ้าคลั่งในความมืด...หากใครมาเป็นเข้าก็คงต้องรู้สึกแปลกใจไม่น้อยทีเดียว

       'พี่...นี่พี่เสียสติไปแล้วหรอ?'

       เปล่าเลย...เรากำลังป่าวประกาศความจริงให้โลกรู้ต่างหาก

       เราผงะตกใจทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกแว่วขึ้นในหัว   เรารีบหันหน้าไปมองต้นเสียงดังกล่าวอย่างรวดเร็ว   แล้วก็พบว่า...เซฮีกำลังยืนมองเราอยู่ที่ประตู

       "ฟู่ว...เธอทำให้พี่ตกใจนะ"     

       เรานำมือทาบอกอย่างใจหาย   ในเวลาเดียวกันเซฮีก็เดินกอดอกเข้ามาในห้อง

       "ในตอนที่ออกมาเข้าห้องน้ำ   หนูได้ยินเสียงพี่กำลังหัวเราะคิกคักดังมาจากในห้อง    พี่คลั่งในเกมยังไม่พอ  ยังจะออกมาเสียสติในชีวิตจริงอีกงั้นหรอ?    หนูเป็นห่วงพี่นะ  ถึงได้เดินมาดู   พี่เป็นบ้าไปแล้วรึไง?   ช่วยบอกหนูทีว่าพี่ยังไม่ได้เป็น"

       "...ทำไมเธอถึงพูดกับพี่แบบนี้เล่า?   พี่ยังสติดีอยู่นะ"

       "หนูดีใจนะที่พี่ยังไม่ได้เป็นบ้าไปแล้ว" 

       "อึก...นี่กลิ่นอะไรเนี่ย!    พี่ควรสระผมให้สะอาดกว่านี้หน่อยนะ   แล้วเอาชามข้าวนั่นมันอะไรกัน?   รีบเอาไปล้างด้วย!   ไม่สิ!  ทำไมพี่ถึงกินข้าวในห้องกันล่ะ?    ที่จริงพี่ควรลงมากินพร้อมหน้ากันกับครอบครัวมากกว่านะ...จริงสิ...พี่ไม่ต้องมานั่นแหละดีแล้ว"             

       เซฮีจ้องมองไปยังกองชามข้าวกับจานของว่างที่เราวางซ้อนกันทิ้งไว้    ก่อนที่เธอจะทนไม่ไหวแล้วเดินไปเก็บมาเพื่อจะนำไปล้าง

       'เด็กคนนี้...เธอน่ารักและนิสัยดีมาก    โชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้เป็นเหมือนเรา'

       เราจ้องมองเซฮีเล็กน้อยด้วยสายตาที่ชื่นชม    แต่เหมือนเธอจะรู้สึกได้ว่าเราจ้องมอง  เซฮีจึงหันกลับมามองครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันหลังกลับไป

       "อย่าเอาแต่นั่งดูสิ   ถ้าพี่ไม่ได้ยุ่งอยู่ก็ควรจะมาช่วยกันไม่ใช่หรอ?    ไม่สิ...ไม่ต้องดีกว่า  พี่รีบไปอาบน้ำเถอะ  หนูไม่ชอบเลยที่พี่ซกมกแบบนี้"

       "ปล่อยพี่ไปเถอะน่า   แล้วทำไมเธอถึงตื่นเร็วจัง?   ยังไม่ทันจะเช้าเลยนะ   รีบกลับไปนอนไม่ดีกว่าหรอ?"

       "หนูหายง่วงตั้งแต่ได้ยินพี่หัวเราะเหมือนคนบ้าแล้ว    พี่รีบไปอาบน้ำเถอะ   ให้หนูได้เห็นใบหน้าที่สะอาดสะอ้านของพี่บ้าง...ไม่สิ   ก่อนอื่น  พี่รีบไปสระผมล้างกลิ่นพวกนี้ออกเป็นอย่างแรกเลย!"

       ตอนเซฮีอายุได้ขวบเดียว  ตอนนั้นเราก็แปดขวบแล้ว    แล้วนี่น่ะหรือ...สิ่งที่น้องสาวกระทำกับพี่ชายที่อายุห่างกันถึงเจ็ดปี?

       'ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้...เราน่าจะสระผมไปซะตั้งแต่แรกก็ดี  ไม่น่าเปิดน้ำใส่หัวอย่างเดียวเลย'

       เราเดินไปยังห้องน้ำพร้อมกับอารมณ์ที่บูดบึ้ง   หลังจากนั้นก็เริ่มสระผมด้วยสบู่และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัว   ทว่า...ทำไมผมของเราถึงยังรู้สึกแข็งๆ อยู่นะ?

       "นี่มัน...น้ำยาปรับผ้านุ่มนี่หว่า..."

       เราเดินกลับห้องมาทั้งๆ ที่ผมยังแข็งอยู่     เมื่อมาถึงห้อง   มีกลิ่นบางอย่างได้ลอยมาเตะจมูกเราในทันที   มันเป็นกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกหอมและสดชื่นมากกว่าเดิม...เซฮีเป็นคนฉีดงั้นหรอ?   เธอช่างละเอียดอ่อนจังเลยนะ     ห้องของเราถูกทำให้สะอาดเหมือนใหม่ในตอนที่เราไปสระผม   เซฮีเป็นเด็กสาวที่สมบูรณ์แบบ  เธอจะต้องเป็นเจ้าสาวที่ดีได้แน่

       เราหันไปเห็นเซฮีกำลังนั่งอยู่ในแค็ปซูลของเรา

       "จะเล่นเน็ตก็ได้นะ  พี่ไม่ว่า"

       ในเมื่อเข้าเกมไม่ได้  งั้นก็ให้น้องสาวเล่นเน็ตซักหน่อยจะเป็นไรไป

       เซฮีห่อตัวเล็กน้อยก่อนจะหันมามองเราด้วยสายตาเหยียดหยาม  "พี่...นี่พี่เป็นเกรียนคีย์บอร์ดหรอ?"         
       "เกรียนคีย์บอร์ด?"

       เธอหมายถึงอะไรกันล่ะนั่น?    เมื่อเราหันหน้าไปมอง  เซฮีกำลังชี้นิ้วไปทางหน้าจอที่ลอยอยู่ในแคปซูล

       "ทำไมพี่ถึงต้องแพร่กระจายข่าวลือผิดๆ เกี่ยวกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าพี่ด้วย?   ถึงจะด้วยเหตุผลบางอย่างก็เถอะ    แต่นิสัยแบบนี้น่ารังเกียจที่สุดเลย   หนูผิดหวังในตัวพี่จริงๆ"

       เซฮีพูดออกมาด้วยถ้อยคำที่โกรธเคืองเป็นอย่างมาก    ตัวเราพลันนึกได้ถึงความผิดพลาดที่ก่อขี้น  จึงรีบมองเข้าไปดูบนหน้าจอทันที    คอมเมนท์ทั้งหมดของเราที่เกี่ยวกับยูร่ายังคงแสดงหราอยู่...

       ชิ! ดันลืมปิดไปซะได้!             

       "ซะ...เซฮี...เรื่องนี้พี่อธิบายได้..."

       "พี่แย่ที่สุดเลย!"

       เราพยายามอธิบายกับเซฮี  แต่เธอก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วล็อคประตูโดยไม่ยอมรับฟังอะไรจากเรา    ไม่ว่าเราจะพยายามทำตัวน่าสมเพชมากขนาดไหน    แต่เซฮีก้ไม่ยอมเปิดประตูออกมาคุยด้วยเลยซักนิด   เรารู้สึกได้ว่า  ภาพความดีของเราได้หายไปจากสายตาของน้องสาวคนนี้จนหมดสิ้นแล้ว

       นี่มันบ้าอะไรกันฟะเนี่ย!

       "เพราะนังแม่มดนั่นคนเดียว!"

       เราอ้อนวอนเซฮีอยู่หน้าห้องจนเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น   จนกระทั่งแม่ของเรามาปลุกให้ตื่น   ร่างกายที่นอนผิดท่ามานานก็รู้สึกปวดขึ้นมาทันใด...             

       เราแปะแผ่นแก้ปวดแล้วกลับไปนอนต่อที่ห้องตัวเองอีกครั้ง...

       "ฮ้าววว~~"

       เป็นเวลา 11 โมงในตอนเช้า   พ่อกับแม่ของเราออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดแล้ว  ส่วนเซฮีก็คงไปเรียนได้สามชั่วโมงแล้ว

       "เพิ่งจะได้นอนไปหกชั่วโมงเองหรอเนี่ย...เราเป็นพวกนอนน้อยเพราะเป็นคนขยันมาตั้งแต่เกิด...ทำไมพระเจ้าต้องให้เราเกิดมาขยันด้วยเนี่ย?  ไม่เข้าใจเลย"

       แกร่ก...แกร่ก

       เราเกาไปที่เอวเล็กน้อยในขณะที่กำลังเดินไปยังห้องครัว   ที่จริงก็หิวนะ...แต่ขี้เกียจทำกับข้าวจังเลย     

       "ช่างแม่ม..."

       เราเลิกสนใจกระเพาะที่กำลังร้องโหยหวนและเดินตรงมาที่ห้องนั่งเล่น    เราเอนตัวลงไปนอนบนโซฟานุ่มๆ พร้อมกับเปิดโทรทัศน์ขึ้นมา...ช่องแรกที่ปรากฏ  ดันเป็นช่องที่เกี่ยวกับซาทิสฟายพอดิบพอดี

       เกมซาทิสฟายนั้นแผ่อิทธิพลครอบคลุมไปถึงช่องประจำของเหล่าแม่บ้าน   โดยใช้ชื่อรายการว่า '108 วิธีจีบเด็กหนุ่มภายในซาทิสฟาย!'     เนื้อหาของรายการจะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับการสร้างตัวละครภายในเกมให้สาวและสวยมากที่สุด

       '...โปรดิวเซอร์  ชอนแจเตงั้นหรอ?'

       ดูเหมือนจะมีเรทติ้งรายการที่สูงไม่น้อย    เรากดข้ามช่องไปเรื่อยๆ จนหยุดลงที่ช่องหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า 'ข่าวเด่นซาทิสฟาย'

       ผู้รายงานข่าวสาวสวยกำลังทักทายอยู่กับเด็กหนุ่มชาวเอเชียที่อายุไล่เลี่ยกับเรา   มีการซูมเข้าไปให้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างชัดเจน   ที่ด้านล่างของหน้าจอ  มีข้อความบรรยายขึ้นมาว่า 

       [ ID : 'แค็ทซ์',  เลเวล 203 ]

       "แค็ทซ์...หมอนั่นเลเวลเกิน 200 แล้วหรอเนี่ย?"

       แค็ทซ์ถือเป็นคนที่โด่งดังพอตัว   แม้จะเรื่องฉาวโฉ่อยู่บ้างจากนิสัยที่เย่อหยิ่ง  แต่เขาก็ถือเป็นคลาสนักรบชั้นแนวหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้     เมื่อสามเดือนก่อน  เขายังมีเลเวลเพียง 170 เท่านั้น   แต่ตอนนี้กลับเพิ่มเป็น 203 ไปแล้ว?   หมอนี่จะต้องกลายเป็นผู้เล่นลำดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

       '30 เลเวลใน 3 เดือน...มันทำได้ยังไงกันนะ?'

       ผู้รายงานข่าวสาวในโทรทัศน์เองก็ถามคำถามแบบเดียวกับเรา

       ---แค็ทซ์คะ  คุณรู้ตัวรึเปล่า?  ว่าในชั่วโมงนี้  คุณกำลังถูกกล่าวถึงอย่างมากในซาทิสฟาย   โปรดิวเซอร์ของเราเองก็ประหลาดใจไม่น้อย     เพียงสามเดือนเท่านั้น  คุณแค็ทซ์สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 53 ได้สำเร็จ   ไม่ทราบว่าคุณใช้เคล็ดลับใดในการอัพเลเวลอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้...พอจะบอกกับพวกเราได้รึเปล่าคะ?

       แค็ทซ์ใช้มือเสยผมที่ถูกจัดทรงมาเป็นอย่างดีพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันแสนพึงพอใจ

       ---ผมได้ค้นพบคลาสระดับอีปิกเข้าเมื่อสามเดือนก่อน   การที่ผมยินยอมให้สัมภาษณ์ในวันนี้  ก็เพื่อที่จะเปิดเผยข้อมูลคลาสระดับอีปิกนั่นต่อหน้าทุกคน 

       ---อะ...อะไรนะคะ?

       ผู้รายงานข่าวสาวเผยใบหน้าตกตะลึงอย่างสุดขีด   ส่วนตัวเรานั้นถึงกับหยุดเกาที่เป้ากางเกงในทันที   ข่าวของคลาสระดับอีปีกย่อมเป็นที่ให้ความสนใจของผู้คนอยู่แล้ว     ในหนึ่งปีที่ผ่านมา  มีคลาสระดับอีปีกปรากฏขึ้นในเกมซาทิสฟายเพียง 2 ครั้งเท่านั้น    มูลค่าของมันมหาศาลเกิดกว่าจะจินตนาการได้    แต่แค็ทซ์ก็เลือกที่จะเปลี่ยนเป็นคลาสนั้นมากกว่าที่จะขายหนังสือไป

       (ผู้แปล :  ระดับของคลาสในตอนนี้เท่าที่รู้  แรร์ < อีปิก < เลเจนดารี่ < ยูนีค)

       'การปรากฏตัวครั้งที่ 3 ของคลาสระดับอีปิก...'

       คลาสระดับอีปิกทั้งสองคลาสก่อนหน้านี้แทบไม่เคยถูกเผยข้อมูลออกมาเลยสักครั้ง   หนังสือเปลี่ยนคลาสอีปิกเล่มแรกถูกประมูลไปในราคาที่สูงลิบ  และยังไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้ใดที่เป็นคนครอบครองมัน

       ส่วนคลาสระดับอีปิกครั้งที่สองเป็นของ 'แอ็กนัส'    ลำดับที่ 7 จากผู้เล่นทั้งหมดสองพันล้านคน   แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า 'แอ็กนัส'  เป็นคลาสอะไรกันแน่

       มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่แอ็กนัสจะเก็บเงียบไว้   การเป็นผู้เล่นอันดับสูง   ข้อมูลและรายละเอียดของคลาสตนเองย่อมถือเป็นความลับสูงสุด...ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารคือพลังแบบนี้

       ความอยู่รอดในซาทิสฟายถือเป็นเรื่องสำคัญ  ข้อมูลล้ำค่าต่างๆ จะไม่ถูกเปิดเผยที่ใดแม้จะเป็นเว็บไซต์ใหญ่ก็ตาม   ผู้เล่นส่วนมากเลือกจะเก็บสิ่งที่ตนเองรู้เอาไว้เพียงคนเดียว...เราเองก็เช่นกัน

       แต่แค็ทซ์กลับกำลังจะเปิดเผยข้อมูลของคลาสตนต่อหน้าสื่อ   เขาขึ้นชื่อในเรื่องการทำให้ตนเองตกเป็นเป้าสนใจอยู่แล้ว

       แน่ล่ะ  นี่ถือเป็นช่วงตักตวงผลประโยชน์ของเขา   เขาเลือกที่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น    ดูเหมือนการเปิดเผยในครั้งนี้อาจทำให้การจัดอันดับผู้เล่นต้องสั่นคลอน

       เราหยุดอยู่ที่ช่องนี้โดยไม่คิดเปลี่ยนไปไหน   ส่วนทางด้านผู้รายงานสาวเองก็กำลังมีแววตาที่ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน

       ---คลาสใหม่ของคุณคืออะไรคะ?

        ---ชื่อมันก็คือ 'นักรบโลหิต'

       ---เป็นคลาสที่พิเศษและน่ากลัวตามชื่อของมันรึเปล่าคะ?

       อันที่จริง  มันไม่ได้ฟังดูพิเศษหรือน่ากลัวเลยซักนิด  ชื่อของมันฟังดูธรรมดาเกินกว่าจะเป็นคลาสระดับอีปิกซะด้วยซ้ำ    แต่ดูเหมือนแค็ทซ์จะชอบชื่อนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว

       ---ถึงชื่อของมันจะไม่ได้ฟังดูเท่ห์มากเท่าที่ควร   แต่มันก็ถือเป็นคลาสที่สุดยอดมาก   ผมจะบอกคุณสมบัติเด่นของมันให้ข้อนึงก็แล้วกันนะ...

       แค็ทซ์หยิบดาบที่เหน็บอยู่ตรงเอวขึ้นมา   ออร่าของดาบเล่มนี้ดุดันและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก   

       มูลค่าของดาบเล่มนี้...บางที  หากเรานำไปขาย  อาจจะปลดหนี้ทั้งหมดของเราได้เลยทีเดียว

       ---คอยดูนะ

       ดวงตาของแค็ทซ์แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดุจดั่งโลหิต    ในเวลาเดียวกัน  ดาบของเขาก็เกิดการกระเพื่อมไปมาอย่างรุนแรง



จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์  ตอนที่ 8 - จบตอน

Comments

  1. เกมเมอรหัวร้อน

    ReplyDelete
  2. กว่าจะไต่ขึ้นอันดับท็อปของโลกคงอีกนาน แต่พระเอกคงสนใจเรื่องเงินทองมากกว่า

    ReplyDelete
  3. ปกติแล้ว ระดับของ legend น่าจะสูงกว่า unique นะครับ ฝากลองเชคดูอีกที

    ReplyDelete
  4. ปัฐญาอ่อนเกินไปงี่เง่าด้วยโง่ด้วย

    ReplyDelete
  5. หิว ขี้เกียจทำกับข้าว ช่างแม่ม.... กุลั้นเลย 😂😂😂

    ReplyDelete
  6. ไม่เคยอ่านนิยายแล้วลากผ่านๆแบบนี้มาก่อนโล้ยยย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00