จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 4
(ผู้แปล : ขอแก้ไขการแปลของตอนที่แล้วด้วยนะครับ อันนี้ทาง Eng แปลมางงจริงๆ ตรงที่ว่า "You won’t die when health is at the minimum." ตรงนี้คราวก่อนผมแปลว่าจะไม่ตายถึงแม้เลือดเหลือน้อย
ขอแก้ไขเป็น "เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที" ขออภัยด้วยครับ)
...
เลเวลตัวละคร: -1 (0/20)
...
'เลเวลติดที่ลบไม่ใช่ข้อผิดพลาดของเกมงั้นหรอกหรอ?'
ตัวเลขที่อยู่ในวงเล็บหลังเลเวลหมายถึงค่าประสบการณ์ ที่ต้องการเพื่อจะเพิ่มเลเวลขึ้นไปหนึ่งระดับ ในที่นี้ ตัวเราจึงต้องการค่าประสบการณ์อีก 20 แต้มในการเพิ่มเป็นเลเวลถัดไป การที่ยังมีหลอดค่าประสบการณ์บ่งบอกอยู่ก็หมายความว่า ตัวละครของเรายังสามารถเพิ่มเลเวลได้อยู่ โชคยังดีที่ไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดขึ้น ไม่อย่างนั้นตัวเราอาจจะไม่สามารถเพิ่มเลเวลได้อีกเลยตลอดกาล
'โชคยังดีที่มันไม่ใช่ข้อผิดพลาดของเกม...'
ทว่า...เราก็ยังคงรู้สึกหดหู่อยู่ดี ลองคิดดูสิ: ก่อนหน้านี้ตัวละครของเรามีเลเวล 70 กว่าๆ แต่ในตอนนี้กลับลดลงเหลือน้อยกว่าผู้เล่นที่เพิ่งจะสร้างตัวละครใหม่เสียอีก
'คงมีแต่ต้องอดทนไปก่อนสินะ'
เราพยายามปลอบใจตัวเอง แม้มันอาจต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่สุดท้ายเราจะกลับมาเก็บเลเวลได้เหมือนเดิม เหตุผลเดียวที่เรายังมองโลกในแง่ดีได้ เป็นเพราะสมญานามและคลาสระดับเลเจนดารีที่ได้รับมา เราก็ไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการผลิตไอเท็มนัก จึงไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่ แต่การที่มีก็คงดีกว่าไม่มีล่ะนะ
...
'เมื่อเสริมพลังไอเท็ม โอกาสสำเร็จมีมากขึ้น'
...
ในเกมซาทิสฟาย ไอเท็มต่างๆ สามารถเสริมพลังได้ถึงระดับ +10
ทว่า...ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการเสริมพลังนั้นมีมูลค่าสูงมาก ยังไม่รวมถึงเรื่องที่ว่า ยิ่งไอเท็มหายาก ยิ่งระดับการเสริมพลังสูง โอกาสเสริมพลังสำเร็จก็ยิ่งต่ำลง
ถ้าหากเสริมพลังสำเร็จ ไอเท็มก็จะมีระดับการเสริมพลังเพิ่มขึ้น +1 แต่ถ้าหากล้มเหลว ระดับเสริมพลังก็จะลดลงมาถึง -3 ดังนั้น ไอเท็มที่มีการเสริมพลังในระดับ +6 ขึ้นไป จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
'เราเองก็ไม่รู้ว่าโอกาสสำเร็จที่ว่านั่น มันเพิ่มขึ้นจากเดิมมากขนาดไหน...แต่นี่มันเป็นหนทางหาเงินชั้นยอดเลยไม่ใช่รึไง?'
สิ่งต่างๆ ที่เราได้อธิบายไปแล้วนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เราพึงพอใจในคลาสนี้ ทว่า...ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราสนใจกับมันมากที่สุด...
การสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข...
นี่เป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมไม่ผิดแน่ ส่วนผลข้างเคียงที่ตามมานั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับของไอเท็ม ก็แน่ล่ะ ไม่งั้นเกมคงเสียสมดุลย์แน่นอน
'มันไม่โกงไปหน่อยหรอ?'
อุปกรณ์สวมสวมใส่ภายในเกมซาทิสฟายนั้น เกือบทั้งหมดจะมีเงื่อนไขในการสวมใส่อยู่ ถ้าหากเงื่อนไขไม่ตรง ผู้เล่นก็ไม่สามารถสวมใส่ไอเท็มนั้นๆ ได้ สิ่งนี้จึงเป็นข้อจำกัดที่ทำให้แต่ละคลาสมีความสมดุลย์อย่างมาก ทว่า...สิ่งเหล่านั้นกับไม่มีผลต่อเราเลย เพราะถือเป็นข้อยกเว้นเฉพาะคลาสของเราเท่านั้น
'จะจริงรึเปล่านะ?'
เราตัดสินใจเปิดช่องสัมภาระขึ้นมาดู
...
[ ดาบใหญ่แห่งมาม่อน ]
ระดับไอเท็ม: อีปิก
ความทนทาน: 88/204, พลังโจมตี: 178~301, ความเร็วในการโจมตี: -16%
-เมื่อโจมตีติดคริติคอล ความเสียหายธาตุน้ำจะถูกเพิ่มเข้าไปเล็กน้อย
( ผู้แปล : ติดคริติคอล หมายถึงการโจมตีที่แรงกว่าปรกติ โดยมากจะหมายถึงการโจมตีโดนจุดอ่อน เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก ขึ้นอยู่กับเลเวลตัวละครและคลาส)
ดาบใหญ่เล่มนี้เป็นของผู้พิทักษ์แห่งทะเลสาปพาเมี่ยนที่มีนามว่า...'มาม่อน' ด้วยอิทธิพลจากทะเลสาป ทำให้ดาบใหญ่เล่มนี้มีออร่าของธาตุน้ำอัดแน่นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
เงื่อนไขการสวมใส่: ต้องมีเลเวล 65 หรือสูงกว่า, ต้องมีค่าพลังทางกายภาพอย่างน้อย 260 แต้ม, ต้องมีค่าความอดทนอย่างน้อย 150 แต้ม
น้ำหนัก: 1,050
...
[เกราะหนักแห่งเมนเกล]
ระดับไอเท็ม: แรร์
ความทนทาน: 51/180, พลังป้องกัน: 165, ความเร็วในการเคลื่อนที่: -2%
* พลังทางกายภาพ +10
เกราะหนักที่ถูกสร้างขึ้นโดย 'เมนเกล' ช่างตีเหล็กแห่งป้อมปราการเมืองแพเทรี่ยน ส่งผลให้ชุดเกราะมีน้ำหนักเบาลงโดยที่พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ผู้สวมใส่สามารถสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณอันแรงกล้าของเมนเกลที่ทุ่มเทให้กับชุดเกราะนี้
เงื่อนไขการสวมใส่: ต้องมีเลเวล 60 หรือสูงกว่า, ต้องมีค่าพลังทางกายภาพอย่างน้อย 180 แต้ม
น้ำหนัก: 1,203
...
ค่าสถานะของเราไม่มีสิ่งใดตรงตามเงื่อนไขการสวมใส่ทั้ง 'ดาบใหญ่แห่งมาม่อน' และ 'เกราะหนักแห่งเมนเกล' เลย นั่นแปลว่า หากเราเป็นเพียงคลาสทั่วไป เราก็จะไม่สามารถสวมใส่พวกมันได้ ทว่า...คลาสลับของเราถือเป็นข้อยกเว้น
...
[ ดาบใหญ่แห่งมาม่อนถูกสวมใส่, คลาสของท่านได้รับการยกเว้นตามเงื่อนไข ]
[ ผลข้างเคียงถูกเปิดใช้งานเนื่องจากการเงื่อนไขการสวมใส่ไม่ตรง ]
[ พลังโจมตีของดาบใหญ่มาม่อนลดลง 30% ]
[ คุณสมบัติพิเศษของไอเท็มนี้จะแสดงผลเพียงครึ่งเดียว ]
[ ผลข้างเคียงจะลดลงถ้าหากท่านมี 'ความเข้าใจ' ในดาบใหญ่แห่งมาม่อนเพิ่มขึ้น ]
...
[ เกราะหนักแห่งเมนเกลถูกสวมใส่, คลาสของท่านได้รับการยกเว้นตามเงื่อนไข ]
[ ผลข้างเคียงถูกเปิดใช้งานเนื่องจากการเงื่อนไขการสวมใส่ไม่ตรง ]
[ พลังป้องกันของเกราะหนักแห่งเมนเกลลดลง 20% ]
[ คุณสมบัติพิเศษของไอเท็มนี้จะแสดงผลเพียงครึ่งเดียว ]
[ ผลข้างเคียงจะลดลงถ้าหากท่านมี 'ความเข้าใจ' ในเกราะหนักแห่งเมนเกลเพิ่มขึ้น ]
...
"สุดยอด..."
ในเกมซาทิสฟาย มีไอเท็มเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่ไม่มีเงื่อนไขในการสวมใส่ หากจำไม่ผิด เซ็ตไอเท็มของผู้เริ่มต้นเองก็ไม่มีเงื่อนไขการสวมใส่เช่นกัน แม้จะไม่มั่นใจในรายละเอียดนัก แต่ดาบใหญ่ของผู้เริ่มต้นที่ได้รับมาตอนเลเวล 1 นั้น มีพลังโจมตีเพียง 5~13 หน่วย และชุดเกราะของผู้เริ่มต้นก็มีพลังป้องกันเพียงแค่ 7 หน่วยเท่านั้น
( ผู้แปล : ไอเท็มเซ็ต / เซ็ตไอเท็ม หมายถึงอุปกรณ์สวมใส่ที่มีชื่อคล้ายคลึงกัน เมื่อสวมใส่พร้อมกันครบจำนวน จะได้รับโบนัสพิเศษขึ้นมา )
แต่ในตอนนี้ ตัวเราสามารถใส่อาวุธที่มีพลังโจมตีสูงถึง 124~210 และชุดเกราะที่มีพลังป้องกัน 132 ได้ตั้งแต่เลเวล -1
'ดูเหมือนการที่ต้องเก็บเลเวลใหม่อีกครั้ง จะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดสินะ'
ไม่สนว่าเราจะมีเลเวลที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดไหน แต่ตัวเราในตอนนี้สามารถออกล่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวล 20 ได้อย่างสบายด้วยดาบใหญ่แห่งมาม่อนเล่มนี้ แล้วก็ต้องขอบคุณเกราะหนักแห่งเมนเกลด้วย ที่ทำให้มอนสเตอร์เลเวลต่ำๆ ไม่สามารถทำอันตรายกับเราได้
หมายความว่า ถ้าเทียบกับผู้เล่นในระดับใกล้เคียงกัน เราสามารถสังหารมอนสเตอร์ได้เป็นจำนวนมากในพริบตา ต้องขอบคุณไอเท็มสุดเจ๋งเหล่านี้ การเพิ่มเลเวลของเราจะต้องรวดเร็วราวกับจรวดพุ่งทะยานอย่างแน่นอน
'ดูเหมือนว่า...ผลข้างเคียงจากไอเท็มระดับแรร์จะอยู่ที่ 20% สินะ ส่วนผลข้างเคียงจากไอเท็มระดับอีปิกจะอยู่ที่ 30% แต่ด้านคุณสมบัติพิเศษกลับลดลงเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่ากัน... '
ผลข้างเคียงน้อยกว่าที่คิดไว้มาก แต่ไอเท็มระดับยูนีคและเลเจนดารีจะต้องได้รับผลข้างเคียงมากกว่านี้แน่ ถึงกระนั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเรียกมันว่า...ความสามารถสุดโกง
'ก็แน่ล่ะนะ...คลาสของเราเป็นถึงระดับเลเจนดารีเลยนี่นา...'
'แต่เดี๋ยวก่อน...แล้วไอ้ 'ความเข้าใจ' ที่เขียนเอาไว้ในเงื่อนไขของผลข้างเคียง มันหมายถึงอะไรกันแน่นะ'
ในระหว่างที่กำลังตื่นเต้นดีใจอยู่ สายตาของเราก็ชำเลืองไปเห็นคำที่เขียนว่า 'ความเข้าใจ' ในหน้าต่างค่าสถานะ เราตัดสินใจตรวจสอบรายละเอียดของมันอย่างถี่ถ้วน
...
[ ความเข้าใจในไอเท็ม ]
ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าสามารถทำความเข้าใจในวัตถุดิบและหลักการได้ด้วยวิธีการต่างๆ มากมาย เช่นการใช้งาน การแยกส่วน หรือรวมไปถึงการซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่นั้นๆ ยิ่งระดับของความเข้าใจมีมากขึ้น ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าก็จะยิ่งใช้งานไอเท็มเหล่านั้นได้ช่ำชองขึ้น ถ้าหากค่าความเข้าใจในไอเท็มสูงถึง 100% เมื่อใด ท่านสามารถเรียนรู้วิธีที่จะผลิตมันขึ้นมาเองได้
...
"อื้อหือ..."
ยิ่งค่าความเข้าใจสูง ผลข้างเคียงก็ยิ่งลดลง
"จนกระทั่งข้าสามารถผลิตมันขึ้นมาได้เองเลยงั้นหรอ? สุดยอดไปเลยแฮะ..."
โดยทั่วไปแล้ว คลาสการผลิตทั้งหมดจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก หรือไม่ก็การทำภารกิจอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ได้วิธีการผลิตมาครอบครอง แต่กับเรา ของแบบนั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด ที่เราต้องทำ คือการเพิ่มค่า 'ความเข้าใจ' ไปเรื่อยๆ เท่านั้น
'ในตอนนี้เรามีทักษะการซ่อมแซมแล้ว และไอเท็มของเราก็กำลังมีค่าความทนทานที่ต่ำอยู่ เพราะงั้นเดี๋ยวเราจะทำการซ่อมแซมมันทีหลัง'
หลังจากนั้น เราก็มองไปที่คุณสมบัติพิเศษของสมญานาม 'ผู้ที่จะเป็นตำนาน' ในการต่อสู้ สิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างหวาดกลัวมากที่สุดคงหนีไม่พ้น 'สถานะผิดปรกติ' เพราะสิ่งนี้สามารถพลิกผันผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ในพริบตา
ดูเหมือนว่า สมญานามของเราจะทำให้ติดสถานะผิดปรกติยากขึ้นงั้นสินะ แถมมันยังเขียนเอาไว้ด้วยว่า เราจะไม่ตายในทันทีที่พลังชีวิตหมดลง แปลว่าเราจะเป็นอมตะได้ชั่วคราวงั้นหรอ?
ส่วน 'เป็นที่รู้จักได้ง่ายขึ้น'...หมายความว่า ค่าความสัมพันธ์ของเรากับเอ็นพีซีจะเพิ่มได้ง่ายขึ้นงั้นหรอ?
"คิกคิกคิก..."
ตัวเราดีใจเป็นอย่างมากจนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ทั้งคลาสและสมญานาม ได้ทำให้เราถือไพ่เหนือกว่าผู้เล่นอื่นอย่างชัดเจน เราจะกลายเป็นคนพิเศษอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ดูเหมือนผลตอบแทนที่ได้รับจากความยากลำบากตลอดสามเดือนที่ผ่านมา...ก็ไม่ได้แย่ซักทีเดียวล่ะนะ
"ทว่า..."
เราคงจะดีใจมากกว่านี้ ถ้าหากสามารถนำหนังสือหายากแห่งแพ็กม่าไปขายได้จริงๆ
"เราต้องสูญเสียโอกาสในการจ่ายหนี้ก้อนโตและขับรถหรูไปในพริบตา!"
ไม่รู้ทำไม...อยู่ดีๆ เราก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาอีกครั้ง
“~#@….!^%*@…. ไอ้สารเลวอัชเชอร์!!”
ความผิดรู้สึกผิดหวังและความรู้สึกเจ็บแค้นได้ทำให้เราชกกำปั้นลงไปที่พื้นอย่างแรง ความเกลียดชังทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่อัชเชอร์แต่เพียงผู้เดียว ทว่า...ไม่นานนัก จิตใจของเรากลับรู้สึกเย็นลงอย่างน่าประหลาด มันจะต้องเป็นเพราะค่าสถานะที่ไม่คุ้นเคยพวกนั้นแน่ เราจึงตัดสินใจตรวจสอบค่าสถานะทั้งหมดอีกครั้ง
...
[ ความเยือกเย็น ]
โอกาสติดสถานะผิดปรกติลดลง, ถ้าหากติดสถานะผิดปรกติเข้า ท่านสามารถหายจากสถานะนั้นด้วยระยะเวลาที่สั้นลง
* ยิ่งมีค่าความเยือกเย็นมาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
[ ความทรหด ]
มีโอกาสยกเลิกความเสียหายที่ได้รับบางส่วน ยิ่งพลังชีวิตเหลือน้อยก็จะยิ่งมีโอกาสสูงขึ้น
* ยิ่งมีค่าความทรหดมาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
[ ความหยิ่งทระนง ]
ไม่สามารถถูกผู้อื่นทำให้รู้สึกต่ำต้อยได้ มีโอกาสเล็กน้อยที่ศัตรูจะยอมจำนนแต่โดยดี
* ยิ่งมีค่าความหยิ่งทระนงมาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
[ วิสัยทัศน์ ]
ค้นหาเป้าหมาย ทำนายความเสี่ยง
* ยิ่งมีค่าวิสัยทัศน์มาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
ทุกค่าสถานะล้วนส่งผลสุดยอดทั้งสิ้น
'แต่ถ้าไม่สามารถนำแต้มไปอัพเกรดได้ แล้วเราจะเพิ่มค่าสถานะเหล่านี้ได้ยังไงกันล่ะ?'
คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูเหมือนจะยาวมาก ค่าสถานะเหล่านี้คงไม่ใช่ค่าสถานะปรกติ แต่ทันทีที่เรากำลังจะเปิดหน้าต่างทักษะขึ้นมานั้น...
"เห้ย!"
เราตะโกนออกมาอย่างตกใจ มีอะไรบางอย่างสัมผัสเข้าที่ด้านหลัง เรานึกขึ้นมาได้ในทันทีว่า ตอนนี้ตัวละครของเรากำลังอยู่ที่วิหารยาธานแห่งความมืด
"จะทำอะไร!!!"
ดาบใหญ่แห่งมาม่อนถูกเหวี่ยงออกไปโดยไม่รู้ตัว ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังเราเอี้ยวตัวหลบดาบพร้อมกับชูสองมือขึ้น
"เฮ้! ใจเย็นก่อน คิดจะฆ่ากันรึไง?"
ชายที่พูดขึ้นมานั้น รูปลักษณ์ภายนอกเป็นชาวยุโรปผิวขาว คลาสของเขาดูเหมือนจะเป็นแอสซาซิน เพราะชุดที่สวมใส่อยู่ เป็นชุดเบาที่ความคล่องตัวสูง
เมื่อครู่ มันเอานิ้วมาสะกิดที่หลังเรา...
แต่เราดันไปกรีดร้องอย่างตกใจเพียงเพราะนิ้วมือที่มาสะกิดเสียได้...
...
"อะไรล่ะนั่น?"
ชายคนดังกล่าวแสดงท่าทางยักไหล่เล็กน้อย
"แย่จังเลยนะ ไม่ใช่ว่าคุณต้องเอ่ยคำขอโทษหรอกหรือ ที่พยายามจะฆ่าผมน่ะ?"
ชายคนเดิมพูดพร้อมกับยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก...เราเกลียดคนแบบนี้ที่สุด
'เพิ่งจะเจอหน้ากันครั้งแรก แต่ดันพูดจากวนประสาทซะแล้ว'
รูปลักษณ์ภายนอกของชายคนนี้ดูแก่กว่าเรา หากดูเผินๆ คงมีอายุราว 30 แต่ประสบการณ์หนึ่งปีในเกมซาทิสฟายได้สอนเราว่า ไม่ควรเชื่อในรูปร่างหน้าตาตัวละครเด็ดขาด เราเคยเรียกคนๆ นึงว่า 'น้องชาย' จนกระทั่งไปรู้มาว่า...มันแก่กว่าเราถึง 7 ปี
หมอนี่...อายุของมันดูเหมือน 30 ก็จริง แต่ว่า...
"อะแฮ่ม" กำปั้นของเรายังคงสั่นระริกอยู่ มันยากนักที่จะลืมเลือนความน่าอับอายเมื่อครู่ไปได้ "ขอโทษด้วยก็แล้วกัน แต่ไม่ใช่ว่าฝ่ายที่ต้องขอโทษ คือฝ่ายที่แอบมาสะกิดข้างหลังเงียบๆ หรอกหรอ?"
ชายคนดังกล่าวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะยื่นแขนออกมาเพื่อขอจับมือ
"ผมเรียกคุณตั้งนานแล้วนะ แต่ดูเหมือนคุณกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ก็เลยไม่ได้ยิน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผมเดินเข้ามาสะกิดคุณ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ"
แต่เราก็ตัดสินใจไม่จับมือกับมัน
"แล้วมีเรื่องอะไร?"
ชายคงดังกล่าวเกาหัวพร้อมกับยักไหล่เบาๆ
"อย่างที่คุณรู้ วิหารยาธานเต็มไปด้วยพลังความมืด หากเป็นคนทั่วไปล่ะก็ ถ้าอยู่ที่นี่นานๆ ก็คงต้องรู้สึกสั่นกลัวแน่ แต่ผมกลับสังเกตว่าคุณไม่มีท่าเหล่านั้นเลย ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนคุณก็ยังดูทำตัวตามสบายได้อยู่ แถมยังหัวเราะคนเดียวได้ด้วย คุณจะต้อง...เก่งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ?"
'ก็อาจจะใช่ล่ะนะ...'
แต่จู่ๆ เราเกิดลางสังหรณ์ขึ้นอย่างน่าประหลาด จึงตัดสินใจเหลือบสายตาขึ้นไปมองเหนือศีรษะของชายผู้นั้น ทำให้ดวงตาของมันเป็นประกายในทันที
"ผมชื่อโดรัน เป็นเงาที่คอยคุ้มครองท่านเอิร์ลที่มีนามว่า 'สไตม' วันสองวันก่อนหน้านี้ผมได้ขอลาพักผ่อน แต่ดูเหมือนในระหว่างนั้น บุตรสาวที่น่านับถือของท่านเอิร์ลจะถูกลักพาตัวไป ผมได้ทำการแกะรอยอยู่นาน จนในที่สุดก็พบว่าเธอถูกขังอยู่ในห้องใต้ตินของวิหารแห่งนี้ ไม่ทราบว่าคุณจะให้ผมยืมแรงจะได้รึไม่? รับรองว่า ผลตอบแทนนั้นคุ้มค่าแน่นอน"
"ไม่เอาด้วยหรอก..."
ในตอนแรก เราคิดว่าชายคนนี้คือผู้เล่นคนหนึ่ง แต่กลายเป็นว่ามันคือเอ็นพีซีซะอย่างนั้น ด้วยระบบที่เสมือนจริงมากเกินไปของปัญญาประดิษฐ์ จึงมีบ่อยครั้งที่ผู้เล่นแยกไม่ออกระหว่างผู้เล่นด้วยกันและเอ็นพีซี แต่ชื่อบนหัวของชายคนนี้มีสีเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของเอ็นพีซีเท่านั้น...
หน้าต่างภารกิจได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเราอย่างรวดเร็ว
...
[ ช่วยเหลือบุตรสาวที่น่านับถือของเอิร์ล ]
ระดับความยาก: S
บุตรสาวคนเดียวของท่านเอิร์ลสไตมมีนามว่า 'ไอรีน' เธอเป็นสตรีไร้เดียงสาผู้งดงามและถือพรหมจรรย์ วันหนึ่ง อาวุโสแห่งวิหารยาธานได้ลักพาตัวเธอไป เพื่อที่จะประกอบพิธีบูชายัญด้วยเลือดสาวพรหมจรรย์อย่างเธอ
เงื่อนไขการสำเร็จภารกิจ: ช่วยเหลือไอรีนให้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากรับภารกิจ
ของรางวัลภารกิจ: 3,000 ทอง และมีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้เป็นบุตรเขยของท่านเอิร์ล
...
สมญานามบุตรเขยแห่งเอิร์ล: ค่าสถานะชนชั้นสูงจะถูกเปิดใช้, ค่าสถานะทั้งหมด +20 แต้ม
หลังจากที่แต่งงานกับบุตรสาวที่น่านับถือของท่านเอิร์ลแล้ว ผู้คนจำนวนมากจะเคารพนับถือท่านประหนึ่งเป็นวิสเคาท์ อำนาจและชื่อเสียงจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล ท่านจะได้รับการยกระดับให้อยู่ในชนชั้นขุนนาง ท่านจะได้รับค่าตอบแทนรายเดือน ถือเป็นทางลัดในการไต่เต้าขึ้นไปเป็นลอร์ดระดับสูง หรือไม่ก็ขุนนางระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว
...
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว: เลเวลลดลง 2 ระดับ
[ ท่านจะรับทำภารกิจนี้หรือไม่? ]
...
นี่มัน...บ้าชัดๆ...
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 4 - จบตอน
ขอแก้ไขเป็น "เมื่อพลังชีวิตหมดลง ท่านจะยังไม่ตายในทันที" ขออภัยด้วยครับ)
...
เลเวลตัวละคร: -1 (0/20)
...
'เลเวลติดที่ลบไม่ใช่ข้อผิดพลาดของเกมงั้นหรอกหรอ?'
ตัวเลขที่อยู่ในวงเล็บหลังเลเวลหมายถึงค่าประสบการณ์ ที่ต้องการเพื่อจะเพิ่มเลเวลขึ้นไปหนึ่งระดับ ในที่นี้ ตัวเราจึงต้องการค่าประสบการณ์อีก 20 แต้มในการเพิ่มเป็นเลเวลถัดไป การที่ยังมีหลอดค่าประสบการณ์บ่งบอกอยู่ก็หมายความว่า ตัวละครของเรายังสามารถเพิ่มเลเวลได้อยู่ โชคยังดีที่ไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดขึ้น ไม่อย่างนั้นตัวเราอาจจะไม่สามารถเพิ่มเลเวลได้อีกเลยตลอดกาล
'โชคยังดีที่มันไม่ใช่ข้อผิดพลาดของเกม...'
ทว่า...เราก็ยังคงรู้สึกหดหู่อยู่ดี ลองคิดดูสิ: ก่อนหน้านี้ตัวละครของเรามีเลเวล 70 กว่าๆ แต่ในตอนนี้กลับลดลงเหลือน้อยกว่าผู้เล่นที่เพิ่งจะสร้างตัวละครใหม่เสียอีก
'คงมีแต่ต้องอดทนไปก่อนสินะ'
เราพยายามปลอบใจตัวเอง แม้มันอาจต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่สุดท้ายเราจะกลับมาเก็บเลเวลได้เหมือนเดิม เหตุผลเดียวที่เรายังมองโลกในแง่ดีได้ เป็นเพราะสมญานามและคลาสระดับเลเจนดารีที่ได้รับมา เราก็ไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการผลิตไอเท็มนัก จึงไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่ แต่การที่มีก็คงดีกว่าไม่มีล่ะนะ
...
'เมื่อเสริมพลังไอเท็ม โอกาสสำเร็จมีมากขึ้น'
...
ในเกมซาทิสฟาย ไอเท็มต่างๆ สามารถเสริมพลังได้ถึงระดับ +10
ทว่า...ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการเสริมพลังนั้นมีมูลค่าสูงมาก ยังไม่รวมถึงเรื่องที่ว่า ยิ่งไอเท็มหายาก ยิ่งระดับการเสริมพลังสูง โอกาสเสริมพลังสำเร็จก็ยิ่งต่ำลง
ถ้าหากเสริมพลังสำเร็จ ไอเท็มก็จะมีระดับการเสริมพลังเพิ่มขึ้น +1 แต่ถ้าหากล้มเหลว ระดับเสริมพลังก็จะลดลงมาถึง -3 ดังนั้น ไอเท็มที่มีการเสริมพลังในระดับ +6 ขึ้นไป จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
'เราเองก็ไม่รู้ว่าโอกาสสำเร็จที่ว่านั่น มันเพิ่มขึ้นจากเดิมมากขนาดไหน...แต่นี่มันเป็นหนทางหาเงินชั้นยอดเลยไม่ใช่รึไง?'
สิ่งต่างๆ ที่เราได้อธิบายไปแล้วนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เราพึงพอใจในคลาสนี้ ทว่า...ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราสนใจกับมันมากที่สุด...
การสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข...
นี่เป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมไม่ผิดแน่ ส่วนผลข้างเคียงที่ตามมานั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับของไอเท็ม ก็แน่ล่ะ ไม่งั้นเกมคงเสียสมดุลย์แน่นอน
'มันไม่โกงไปหน่อยหรอ?'
อุปกรณ์สวมสวมใส่ภายในเกมซาทิสฟายนั้น เกือบทั้งหมดจะมีเงื่อนไขในการสวมใส่อยู่ ถ้าหากเงื่อนไขไม่ตรง ผู้เล่นก็ไม่สามารถสวมใส่ไอเท็มนั้นๆ ได้ สิ่งนี้จึงเป็นข้อจำกัดที่ทำให้แต่ละคลาสมีความสมดุลย์อย่างมาก ทว่า...สิ่งเหล่านั้นกับไม่มีผลต่อเราเลย เพราะถือเป็นข้อยกเว้นเฉพาะคลาสของเราเท่านั้น
'จะจริงรึเปล่านะ?'
เราตัดสินใจเปิดช่องสัมภาระขึ้นมาดู
...
[ ดาบใหญ่แห่งมาม่อน ]
ระดับไอเท็ม: อีปิก
ความทนทาน: 88/204, พลังโจมตี: 178~301, ความเร็วในการโจมตี: -16%
-เมื่อโจมตีติดคริติคอล ความเสียหายธาตุน้ำจะถูกเพิ่มเข้าไปเล็กน้อย
( ผู้แปล : ติดคริติคอล หมายถึงการโจมตีที่แรงกว่าปรกติ โดยมากจะหมายถึงการโจมตีโดนจุดอ่อน เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก ขึ้นอยู่กับเลเวลตัวละครและคลาส)
ดาบใหญ่เล่มนี้เป็นของผู้พิทักษ์แห่งทะเลสาปพาเมี่ยนที่มีนามว่า...'มาม่อน' ด้วยอิทธิพลจากทะเลสาป ทำให้ดาบใหญ่เล่มนี้มีออร่าของธาตุน้ำอัดแน่นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
เงื่อนไขการสวมใส่: ต้องมีเลเวล 65 หรือสูงกว่า, ต้องมีค่าพลังทางกายภาพอย่างน้อย 260 แต้ม, ต้องมีค่าความอดทนอย่างน้อย 150 แต้ม
น้ำหนัก: 1,050
...
[เกราะหนักแห่งเมนเกล]
ระดับไอเท็ม: แรร์
ความทนทาน: 51/180, พลังป้องกัน: 165, ความเร็วในการเคลื่อนที่: -2%
* พลังทางกายภาพ +10
เกราะหนักที่ถูกสร้างขึ้นโดย 'เมนเกล' ช่างตีเหล็กแห่งป้อมปราการเมืองแพเทรี่ยน ส่งผลให้ชุดเกราะมีน้ำหนักเบาลงโดยที่พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ผู้สวมใส่สามารถสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณอันแรงกล้าของเมนเกลที่ทุ่มเทให้กับชุดเกราะนี้
เงื่อนไขการสวมใส่: ต้องมีเลเวล 60 หรือสูงกว่า, ต้องมีค่าพลังทางกายภาพอย่างน้อย 180 แต้ม
น้ำหนัก: 1,203
...
ค่าสถานะของเราไม่มีสิ่งใดตรงตามเงื่อนไขการสวมใส่ทั้ง 'ดาบใหญ่แห่งมาม่อน' และ 'เกราะหนักแห่งเมนเกล' เลย นั่นแปลว่า หากเราเป็นเพียงคลาสทั่วไป เราก็จะไม่สามารถสวมใส่พวกมันได้ ทว่า...คลาสลับของเราถือเป็นข้อยกเว้น
...
[ ดาบใหญ่แห่งมาม่อนถูกสวมใส่, คลาสของท่านได้รับการยกเว้นตามเงื่อนไข ]
[ ผลข้างเคียงถูกเปิดใช้งานเนื่องจากการเงื่อนไขการสวมใส่ไม่ตรง ]
[ พลังโจมตีของดาบใหญ่มาม่อนลดลง 30% ]
[ คุณสมบัติพิเศษของไอเท็มนี้จะแสดงผลเพียงครึ่งเดียว ]
[ ผลข้างเคียงจะลดลงถ้าหากท่านมี 'ความเข้าใจ' ในดาบใหญ่แห่งมาม่อนเพิ่มขึ้น ]
...
[ เกราะหนักแห่งเมนเกลถูกสวมใส่, คลาสของท่านได้รับการยกเว้นตามเงื่อนไข ]
[ ผลข้างเคียงถูกเปิดใช้งานเนื่องจากการเงื่อนไขการสวมใส่ไม่ตรง ]
[ พลังป้องกันของเกราะหนักแห่งเมนเกลลดลง 20% ]
[ คุณสมบัติพิเศษของไอเท็มนี้จะแสดงผลเพียงครึ่งเดียว ]
[ ผลข้างเคียงจะลดลงถ้าหากท่านมี 'ความเข้าใจ' ในเกราะหนักแห่งเมนเกลเพิ่มขึ้น ]
...
"สุดยอด..."
ในเกมซาทิสฟาย มีไอเท็มเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่ไม่มีเงื่อนไขในการสวมใส่ หากจำไม่ผิด เซ็ตไอเท็มของผู้เริ่มต้นเองก็ไม่มีเงื่อนไขการสวมใส่เช่นกัน แม้จะไม่มั่นใจในรายละเอียดนัก แต่ดาบใหญ่ของผู้เริ่มต้นที่ได้รับมาตอนเลเวล 1 นั้น มีพลังโจมตีเพียง 5~13 หน่วย และชุดเกราะของผู้เริ่มต้นก็มีพลังป้องกันเพียงแค่ 7 หน่วยเท่านั้น
( ผู้แปล : ไอเท็มเซ็ต / เซ็ตไอเท็ม หมายถึงอุปกรณ์สวมใส่ที่มีชื่อคล้ายคลึงกัน เมื่อสวมใส่พร้อมกันครบจำนวน จะได้รับโบนัสพิเศษขึ้นมา )
แต่ในตอนนี้ ตัวเราสามารถใส่อาวุธที่มีพลังโจมตีสูงถึง 124~210 และชุดเกราะที่มีพลังป้องกัน 132 ได้ตั้งแต่เลเวล -1
'ดูเหมือนการที่ต้องเก็บเลเวลใหม่อีกครั้ง จะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดสินะ'
ไม่สนว่าเราจะมีเลเวลที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดไหน แต่ตัวเราในตอนนี้สามารถออกล่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวล 20 ได้อย่างสบายด้วยดาบใหญ่แห่งมาม่อนเล่มนี้ แล้วก็ต้องขอบคุณเกราะหนักแห่งเมนเกลด้วย ที่ทำให้มอนสเตอร์เลเวลต่ำๆ ไม่สามารถทำอันตรายกับเราได้
หมายความว่า ถ้าเทียบกับผู้เล่นในระดับใกล้เคียงกัน เราสามารถสังหารมอนสเตอร์ได้เป็นจำนวนมากในพริบตา ต้องขอบคุณไอเท็มสุดเจ๋งเหล่านี้ การเพิ่มเลเวลของเราจะต้องรวดเร็วราวกับจรวดพุ่งทะยานอย่างแน่นอน
'ดูเหมือนว่า...ผลข้างเคียงจากไอเท็มระดับแรร์จะอยู่ที่ 20% สินะ ส่วนผลข้างเคียงจากไอเท็มระดับอีปิกจะอยู่ที่ 30% แต่ด้านคุณสมบัติพิเศษกลับลดลงเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่ากัน... '
ผลข้างเคียงน้อยกว่าที่คิดไว้มาก แต่ไอเท็มระดับยูนีคและเลเจนดารีจะต้องได้รับผลข้างเคียงมากกว่านี้แน่ ถึงกระนั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเรียกมันว่า...ความสามารถสุดโกง
'ก็แน่ล่ะนะ...คลาสของเราเป็นถึงระดับเลเจนดารีเลยนี่นา...'
'แต่เดี๋ยวก่อน...แล้วไอ้ 'ความเข้าใจ' ที่เขียนเอาไว้ในเงื่อนไขของผลข้างเคียง มันหมายถึงอะไรกันแน่นะ'
ในระหว่างที่กำลังตื่นเต้นดีใจอยู่ สายตาของเราก็ชำเลืองไปเห็นคำที่เขียนว่า 'ความเข้าใจ' ในหน้าต่างค่าสถานะ เราตัดสินใจตรวจสอบรายละเอียดของมันอย่างถี่ถ้วน
...
[ ความเข้าใจในไอเท็ม ]
ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าสามารถทำความเข้าใจในวัตถุดิบและหลักการได้ด้วยวิธีการต่างๆ มากมาย เช่นการใช้งาน การแยกส่วน หรือรวมไปถึงการซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่นั้นๆ ยิ่งระดับของความเข้าใจมีมากขึ้น ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่าก็จะยิ่งใช้งานไอเท็มเหล่านั้นได้ช่ำชองขึ้น ถ้าหากค่าความเข้าใจในไอเท็มสูงถึง 100% เมื่อใด ท่านสามารถเรียนรู้วิธีที่จะผลิตมันขึ้นมาเองได้
...
"อื้อหือ..."
ยิ่งค่าความเข้าใจสูง ผลข้างเคียงก็ยิ่งลดลง
"จนกระทั่งข้าสามารถผลิตมันขึ้นมาได้เองเลยงั้นหรอ? สุดยอดไปเลยแฮะ..."
โดยทั่วไปแล้ว คลาสการผลิตทั้งหมดจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก หรือไม่ก็การทำภารกิจอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ได้วิธีการผลิตมาครอบครอง แต่กับเรา ของแบบนั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด ที่เราต้องทำ คือการเพิ่มค่า 'ความเข้าใจ' ไปเรื่อยๆ เท่านั้น
'ในตอนนี้เรามีทักษะการซ่อมแซมแล้ว และไอเท็มของเราก็กำลังมีค่าความทนทานที่ต่ำอยู่ เพราะงั้นเดี๋ยวเราจะทำการซ่อมแซมมันทีหลัง'
หลังจากนั้น เราก็มองไปที่คุณสมบัติพิเศษของสมญานาม 'ผู้ที่จะเป็นตำนาน' ในการต่อสู้ สิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างหวาดกลัวมากที่สุดคงหนีไม่พ้น 'สถานะผิดปรกติ' เพราะสิ่งนี้สามารถพลิกผันผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้ในพริบตา
ดูเหมือนว่า สมญานามของเราจะทำให้ติดสถานะผิดปรกติยากขึ้นงั้นสินะ แถมมันยังเขียนเอาไว้ด้วยว่า เราจะไม่ตายในทันทีที่พลังชีวิตหมดลง แปลว่าเราจะเป็นอมตะได้ชั่วคราวงั้นหรอ?
ส่วน 'เป็นที่รู้จักได้ง่ายขึ้น'...หมายความว่า ค่าความสัมพันธ์ของเรากับเอ็นพีซีจะเพิ่มได้ง่ายขึ้นงั้นหรอ?
"คิกคิกคิก..."
ตัวเราดีใจเป็นอย่างมากจนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ทั้งคลาสและสมญานาม ได้ทำให้เราถือไพ่เหนือกว่าผู้เล่นอื่นอย่างชัดเจน เราจะกลายเป็นคนพิเศษอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ดูเหมือนผลตอบแทนที่ได้รับจากความยากลำบากตลอดสามเดือนที่ผ่านมา...ก็ไม่ได้แย่ซักทีเดียวล่ะนะ
"ทว่า..."
เราคงจะดีใจมากกว่านี้ ถ้าหากสามารถนำหนังสือหายากแห่งแพ็กม่าไปขายได้จริงๆ
"เราต้องสูญเสียโอกาสในการจ่ายหนี้ก้อนโตและขับรถหรูไปในพริบตา!"
ไม่รู้ทำไม...อยู่ดีๆ เราก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาอีกครั้ง
“~#@….!^%*@…. ไอ้สารเลวอัชเชอร์!!”
ความผิดรู้สึกผิดหวังและความรู้สึกเจ็บแค้นได้ทำให้เราชกกำปั้นลงไปที่พื้นอย่างแรง ความเกลียดชังทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่อัชเชอร์แต่เพียงผู้เดียว ทว่า...ไม่นานนัก จิตใจของเรากลับรู้สึกเย็นลงอย่างน่าประหลาด มันจะต้องเป็นเพราะค่าสถานะที่ไม่คุ้นเคยพวกนั้นแน่ เราจึงตัดสินใจตรวจสอบค่าสถานะทั้งหมดอีกครั้ง
...
[ ความเยือกเย็น ]
โอกาสติดสถานะผิดปรกติลดลง, ถ้าหากติดสถานะผิดปรกติเข้า ท่านสามารถหายจากสถานะนั้นด้วยระยะเวลาที่สั้นลง
* ยิ่งมีค่าความเยือกเย็นมาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
[ ความทรหด ]
มีโอกาสยกเลิกความเสียหายที่ได้รับบางส่วน ยิ่งพลังชีวิตเหลือน้อยก็จะยิ่งมีโอกาสสูงขึ้น
* ยิ่งมีค่าความทรหดมาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
[ ความหยิ่งทระนง ]
ไม่สามารถถูกผู้อื่นทำให้รู้สึกต่ำต้อยได้ มีโอกาสเล็กน้อยที่ศัตรูจะยอมจำนนแต่โดยดี
* ยิ่งมีค่าความหยิ่งทระนงมาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
[ วิสัยทัศน์ ]
ค้นหาเป้าหมาย ทำนายความเสี่ยง
* ยิ่งมีค่าวิสัยทัศน์มาก ก็จะยิ่งส่งผลมากขึ้น
* ไม่สามารถนำแต้มค่าสถานะมาอัพเกรดได้
...
ทุกค่าสถานะล้วนส่งผลสุดยอดทั้งสิ้น
'แต่ถ้าไม่สามารถนำแต้มไปอัพเกรดได้ แล้วเราจะเพิ่มค่าสถานะเหล่านี้ได้ยังไงกันล่ะ?'
คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูเหมือนจะยาวมาก ค่าสถานะเหล่านี้คงไม่ใช่ค่าสถานะปรกติ แต่ทันทีที่เรากำลังจะเปิดหน้าต่างทักษะขึ้นมานั้น...
"เห้ย!"
เราตะโกนออกมาอย่างตกใจ มีอะไรบางอย่างสัมผัสเข้าที่ด้านหลัง เรานึกขึ้นมาได้ในทันทีว่า ตอนนี้ตัวละครของเรากำลังอยู่ที่วิหารยาธานแห่งความมืด
"จะทำอะไร!!!"
ดาบใหญ่แห่งมาม่อนถูกเหวี่ยงออกไปโดยไม่รู้ตัว ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังเราเอี้ยวตัวหลบดาบพร้อมกับชูสองมือขึ้น
"เฮ้! ใจเย็นก่อน คิดจะฆ่ากันรึไง?"
ชายที่พูดขึ้นมานั้น รูปลักษณ์ภายนอกเป็นชาวยุโรปผิวขาว คลาสของเขาดูเหมือนจะเป็นแอสซาซิน เพราะชุดที่สวมใส่อยู่ เป็นชุดเบาที่ความคล่องตัวสูง
เมื่อครู่ มันเอานิ้วมาสะกิดที่หลังเรา...
แต่เราดันไปกรีดร้องอย่างตกใจเพียงเพราะนิ้วมือที่มาสะกิดเสียได้...
...
"อะไรล่ะนั่น?"
ชายคนดังกล่าวแสดงท่าทางยักไหล่เล็กน้อย
"แย่จังเลยนะ ไม่ใช่ว่าคุณต้องเอ่ยคำขอโทษหรอกหรือ ที่พยายามจะฆ่าผมน่ะ?"
ชายคนเดิมพูดพร้อมกับยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก...เราเกลียดคนแบบนี้ที่สุด
'เพิ่งจะเจอหน้ากันครั้งแรก แต่ดันพูดจากวนประสาทซะแล้ว'
รูปลักษณ์ภายนอกของชายคนนี้ดูแก่กว่าเรา หากดูเผินๆ คงมีอายุราว 30 แต่ประสบการณ์หนึ่งปีในเกมซาทิสฟายได้สอนเราว่า ไม่ควรเชื่อในรูปร่างหน้าตาตัวละครเด็ดขาด เราเคยเรียกคนๆ นึงว่า 'น้องชาย' จนกระทั่งไปรู้มาว่า...มันแก่กว่าเราถึง 7 ปี
หมอนี่...อายุของมันดูเหมือน 30 ก็จริง แต่ว่า...
"อะแฮ่ม" กำปั้นของเรายังคงสั่นระริกอยู่ มันยากนักที่จะลืมเลือนความน่าอับอายเมื่อครู่ไปได้ "ขอโทษด้วยก็แล้วกัน แต่ไม่ใช่ว่าฝ่ายที่ต้องขอโทษ คือฝ่ายที่แอบมาสะกิดข้างหลังเงียบๆ หรอกหรอ?"
ชายคนดังกล่าวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะยื่นแขนออกมาเพื่อขอจับมือ
"ผมเรียกคุณตั้งนานแล้วนะ แต่ดูเหมือนคุณกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ก็เลยไม่ได้ยิน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผมเดินเข้ามาสะกิดคุณ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ"
แต่เราก็ตัดสินใจไม่จับมือกับมัน
"แล้วมีเรื่องอะไร?"
ชายคงดังกล่าวเกาหัวพร้อมกับยักไหล่เบาๆ
"อย่างที่คุณรู้ วิหารยาธานเต็มไปด้วยพลังความมืด หากเป็นคนทั่วไปล่ะก็ ถ้าอยู่ที่นี่นานๆ ก็คงต้องรู้สึกสั่นกลัวแน่ แต่ผมกลับสังเกตว่าคุณไม่มีท่าเหล่านั้นเลย ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนคุณก็ยังดูทำตัวตามสบายได้อยู่ แถมยังหัวเราะคนเดียวได้ด้วย คุณจะต้อง...เก่งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ?"
'ก็อาจจะใช่ล่ะนะ...'
แต่จู่ๆ เราเกิดลางสังหรณ์ขึ้นอย่างน่าประหลาด จึงตัดสินใจเหลือบสายตาขึ้นไปมองเหนือศีรษะของชายผู้นั้น ทำให้ดวงตาของมันเป็นประกายในทันที
"ผมชื่อโดรัน เป็นเงาที่คอยคุ้มครองท่านเอิร์ลที่มีนามว่า 'สไตม' วันสองวันก่อนหน้านี้ผมได้ขอลาพักผ่อน แต่ดูเหมือนในระหว่างนั้น บุตรสาวที่น่านับถือของท่านเอิร์ลจะถูกลักพาตัวไป ผมได้ทำการแกะรอยอยู่นาน จนในที่สุดก็พบว่าเธอถูกขังอยู่ในห้องใต้ตินของวิหารแห่งนี้ ไม่ทราบว่าคุณจะให้ผมยืมแรงจะได้รึไม่? รับรองว่า ผลตอบแทนนั้นคุ้มค่าแน่นอน"
"ไม่เอาด้วยหรอก..."
ในตอนแรก เราคิดว่าชายคนนี้คือผู้เล่นคนหนึ่ง แต่กลายเป็นว่ามันคือเอ็นพีซีซะอย่างนั้น ด้วยระบบที่เสมือนจริงมากเกินไปของปัญญาประดิษฐ์ จึงมีบ่อยครั้งที่ผู้เล่นแยกไม่ออกระหว่างผู้เล่นด้วยกันและเอ็นพีซี แต่ชื่อบนหัวของชายคนนี้มีสีเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของเอ็นพีซีเท่านั้น...
หน้าต่างภารกิจได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเราอย่างรวดเร็ว
...
[ ช่วยเหลือบุตรสาวที่น่านับถือของเอิร์ล ]
ระดับความยาก: S
บุตรสาวคนเดียวของท่านเอิร์ลสไตมมีนามว่า 'ไอรีน' เธอเป็นสตรีไร้เดียงสาผู้งดงามและถือพรหมจรรย์ วันหนึ่ง อาวุโสแห่งวิหารยาธานได้ลักพาตัวเธอไป เพื่อที่จะประกอบพิธีบูชายัญด้วยเลือดสาวพรหมจรรย์อย่างเธอ
เงื่อนไขการสำเร็จภารกิจ: ช่วยเหลือไอรีนให้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากรับภารกิจ
ของรางวัลภารกิจ: 3,000 ทอง และมีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้เป็นบุตรเขยของท่านเอิร์ล
...
สมญานามบุตรเขยแห่งเอิร์ล: ค่าสถานะชนชั้นสูงจะถูกเปิดใช้, ค่าสถานะทั้งหมด +20 แต้ม
หลังจากที่แต่งงานกับบุตรสาวที่น่านับถือของท่านเอิร์ลแล้ว ผู้คนจำนวนมากจะเคารพนับถือท่านประหนึ่งเป็นวิสเคาท์ อำนาจและชื่อเสียงจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล ท่านจะได้รับการยกระดับให้อยู่ในชนชั้นขุนนาง ท่านจะได้รับค่าตอบแทนรายเดือน ถือเป็นทางลัดในการไต่เต้าขึ้นไปเป็นลอร์ดระดับสูง หรือไม่ก็ขุนนางระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว
...
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว: เลเวลลดลง 2 ระดับ
[ ท่านจะรับทำภารกิจนี้หรือไม่? ]
...
นี่มัน...บ้าชัดๆ...
จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 4 - จบตอน
ขิบคุณมากเลยนะคับ มาถึงก็ได้รับเควสระดับS อีกแล้ว
ReplyDeleteเฮอเวลลดอีกละ
ReplyDeleteถ้าเวลลดอีกก็เท่ากับว่าได้สเตตัสฟรีอีก20
ReplyDeleteเลเวลจะติดลบเพิ่มไหม
ReplyDeleteพี่คับหยุนเซ่อไม่แปลแล้วหรือคับ
ReplyDeleteมีคนซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วครับ คงต้องไปอ่าน eng ต่อละครับ
Deleteมีคนซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วครับ คงต้องไปอ่าน eng ต่อละครับ
Deleteงานนี้อาจได้แต้มฟรีเป็น 40
ReplyDeleteเวลลดลงอีกแหง น่าไปซ้อมมือกับพวกลูกกระจ๊อกก่อน มาเจอของใหญ่ทันที
ReplyDeleteมึงยังคิดจะขายหนังสืออาชีพทิ้งอยู่อีกไอ้เวร จะโง่ก้ให้มันพอดีมั่งนี่แม่งโง่จนกู่ไม่กลับละ
ReplyDelete