จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 7

       เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นคลาสจอมเวทย์มืดนั้นอยู่ที่ 53 เท่านั้น   ในบรรดา 120,000 คลาสในเกมซาทิสฟาย   จอมเวทย์มืดถือเป็นคลาสที่มีเลเวลเฉลี่ยต่ำสุด    แม้จอมเวทย์มืดจะเป็นคลาสที่เน้นหนักไปทางการต่อสู้  แต่ทั้งทักษะการโจมตีและทักษะการป้องกันยังนับว่ายังอ่อนแอกว่าคลาสอื่นอยู่มาก

       ทว่า  ยูร่านั้นแตกต่างออกไป  นับตั้งแต่เล่นเกมนี้  เธอลุยเดี่ยวมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันโดยแทบไม่เคยพึ่งพาปาร์ตี้   ทำให้ความสามารถในการควบคุมเวทย์มนต์ของเธออยู่ในระดับอัจฉริยะ    แถมเธอยังเป็นคนเลือกสถานที่ต่อสู้ได้เหมาะสมกับตนเองอยู่เสมอ   ส่งผลให้ยูร่าสามารถก้าวมายืนอยู่ในลำดับที่ 5 ของการจัดอันดับผู้เล่นทั้งหมดได้ไม่ยากนัก

       ( ผู้แปล : ปาร์ตี้  หมายถึงกลุ่มคนหลายๆ คนที่ร่วมกันทำภารกิจ  ล่าบอส  สังหารมอนสเตอร์   คนในปาตี้จะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันจนกว่าจะแยกย้ายกันไป )

       เมื่อสามชั่วโมงก่อน  ในที่สุดยูร่าก็มีเลเวล 230 ตามที่เธอหวัง    คลาสจอมเวทย์มืดของเธอจึงได้รับทักษะใหม่ที่ทำให้เก่งขึ้นราวกับติดปีกเข้ามา

       'ในที่สุดก็มีเวทย์มนต์ด้านป้องกันซะที...'

       ยูร่ายืนอ่านความสามารถของทักษะระดับ A ที่เธอเพิ่งจะได้รับมาอย่างยากลำบาก

       'บาเรียเพชร'

       มันคือเวทย์มนบาเรียที่ใช้มานาสร้างขึ้น   มีความแข็งแกร่งดุจดั่งเพชร  เป็นเวทย์มนต์สายป้องกันเพียงชนิดเดียวที่จอมเวทย์มืดมี  แถมกว่าจะได้มาครอบครอง  ยังต้องมีเลเวลที่สูงถึง 230 อีก

       หลังจากที่เงื่อนไขการเรียนรู้ทักษะบาเรียเพชรทั้งหมดพร้อมแล้ว   ยูร่าก็รีบตรงดิ่งมายังวิหารยาธานโดยไม่รีรอ   แน่นอนว่าเพื่อนร่วมทางที่ตามมาด้วยมีไม่มาก  จึงทำให้ระหว่างทางที่มาเกิดปัญหาขึ้นอยู่บ่อยครั้ง    แต่มันก็ช่วยไม่ได้   ยิ่งคนเยอะเท่าไร  ก็ยิ่งน่ารำคานมากเท่านั้น  ตัวละครของเธอมีชื่อเสียงโด่งดังมากเกินไป   แม้จะปิดบังหน้าตาและไอดีไว้  ก็ยังมีคนไม่น้อยที่ยังสามารถจดจำเธอได้อยู่ดี     

       หลังจากการเดินทางอันยาวนานกว่าสองชั่วโมงจบลง  ยูร่าได้เข้ามาภายในวิหารยาธานพร้อมกับนำหนังสือทักษะเวทย์มนต์วางไว้ที่แท่นบูชา   แต่ในระหว่างที่เธอกำลังทำการเรียนรู้ทักษะใหม่   ข้อความระบบก็ได้ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้า

...

       [ กลุ่มคนโง่ที่เป็นปรปักษ์กับเทพยาธานได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านในวิหาร  ]

       [ ภารกิจ : ผู้พิทักษ์วิหารยาธาน ]

       ระดับความยากของภารกิจ : S

       มีกลุ่มของคนโง่พยายามจะมาชิงตัวเครื่องสังเวยไป  ท่านจะต้องปกป้องเกียรติยศขององค์เทพยาธานเอาไว้ให้ได้   โดยการจัดการกับผู้บุกรุกที่เข้ามาทั้งหมด

       เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ :  ขับไล่ผู้บุกรุกกลับไป,  หรือปกป้องเครื่องสังเวยเอาไว้ให้ได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง

       ของรางวัลภารกิจ :  สมญานาม 'ผู้พิทักษ์แห่งวิหารยาธาน'

       * ผู้พิทักษ์แห่งวิหารยาธาน :  ค่าความศรัทธา +300,   พลังชีวิต +1,000,  ค่าสติปัญญา +60

       ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ศรัทธาคนอื่นๆ ในการปกป้องเกียรติยศขององค์เทพยาธานไว้ได้    เทพยาธานจะอวยพรท่านมากขึ้น   ผู้ศรัทธาคนอื่นๆ จะเคารพบูชาในตัวท่านมากขึ้น

       บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว :   เลเวลลดลง 2 ระดับ,  ค่าความศรัทธาลดลง 250 แต้ม

...     

        ยูร่าประหลาดใจไม่น้อยทีเดียว  เพราะนับตั้งแต่ที่เล่นเกมนี้มา  เธอเพิ่งจะเคยทำภารกิจระดับ S เพียงแค่สามครั้งเท่านั้น 

       แต่ทันใดนั้นเอง...ได้เกิดเสียงโหวกเหวกดังขึ้นจากภายในวิหาร

       'หรือนี่จะเป็นภารกิจอัตโนมัติ...ที่สามารถทำได้เฉพาะช่วงเวลาที่มีผู้บุกรุกเข้ามาเท่านั้น?   โชคดีจริงๆ ที่เรามาวิหารได้ถูกเวลา'

       ยูร่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก  เธอต้องการที่จะครอบครองสมญานาม 'ผู้พิทักษ์แห่งวิหารยาธาน' ยิ่งกว่าใคร   เพราะค่าสถานะที่จะได้รับทั้งหมด  ล้วนเป็นค่าสถานะที่สำคัญต่อจอมเวทย์มืดอย่างเธอ

       เริ่มแรก  ยูร่าได้พยายามค้นหาจุดที่ผู้บุกรุกเริ่มต้นก่อความวุ่นวาย   เมื่อมาถึง  เธอก็ได้เห็นเอ็นพีซีคนหนึ่งในชุดหนัง  กำลังสังหารเหล่าผู้ศรัทธาแห่งยาธานไปเป็นจำนวนมาก

       'เอ็นพีซีคลาสแอสซาซินขั้นที่ 3 งั้นหรอ...'

       ก็แน่ล่ะนะ  ภารกิจระดับ S ก็ต้องยากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว  เอ็นพีซีที่ชื่อโดรันตัวนี้นับเป็นปัญหากับยูร่ามากทีเดียว

       'แม้จะยืมพลังจากกลุ่มผู้ศรัทธาเหล่านี้ช่วย   แต่ก็คงจะไม่ง่ายแล้วสินะ'

       ภารกิจระดับ S ที่เธอโหยหามานาน  แต่กลับกลายเป็นว่า  โอกาสสำเร็จช่างต่ำซะเหลือเกิน

       'ไม่มีเวลามัวลังเลแล้ว'

       ยูร่าสงบสติลงพร้อมกับแผ่ขยายมานาออกไปจนทั่ววิหาร   นี่ไม่ใช่ทักษะทั่วไปของจอมเวทย์มืด  มันเป็นทักษะที่มีไว้สำหรับการตรวจจับเป็นวงกว้าง  เป็นทักษะที่ต้องใช้มานาจำนวนมหาศาล  แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับยูร่าแต่อย่างใด

       'หากรวมโดรันไปด้วยแล้ว...ผู้บุกรุกมีเพียงแค่สองคนเท่านั้นหรอ?'

       ยูร่าพึมพำจำนวนผู้บุกรุกพร้อมกับตรวจสอบไปยังผู้เล่นที่มากับโดรัน

       [ ID: กริด ]

       หากดูจากของสวมใส่  ผู้เล่นคนนี้คงมีเลเวลอยู่ที่ราวๆ 80 เท่านั้น   น่าประหลาดใจจริงๆ ที่คนเลเวลน้อยขนาดนี้สามารถรับภารกิจระดับ S ได้

       ดังนั้น  ปัญหาเดียวของยูร่าในตอนนี้คือโดรัน  หากจัดการกับเขาได้  ภารกิจของเธอก็จะสำเร็จ

       ในขณะที่โดรันเอาแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือเหล่าผู้ศรัทธาแห่งยาธาน    ยูร่าใช้โอกาสนั้นค่อยๆ สำรวจภายในวิหารอย่างละเอียด    จนในที่สุด  เธอก็ตัดสินใจเดินลงไปยังห้องใต้ดินที่มีเหยื่อสังเวยถูกตรึงอยู่

       ภายในวิหารแห่งนี้มีที่กำบังมากเกินไป  ซึ่งจะส่งผลให้โดรันได้เปรียบ  และเป็นเธอเองสีเสียเปรียบ    ดังนั้น  ยูร่าจึงคิดจะใช้ตัวประกันและห้องที่คับแคบเป็นสถานที่ต่อสู้    ภายในห้องนี้  เวทย์มนต์ของเธอจะสามารถโจมตีโดนเป้าหมายได้ง่าย   และเป็นการจำกัดการเคลื่อนไหวของโดรันไปในตัว

       ไม่นานนัก  โดรันกับกริดก็สามารถลงมายังห้องใต้ดินได้สำเร็จ    ดูเหมือนโดรันจะอ่อนแรงลงไปไม่น้อยในการรับมือกับกลุ่มผู้ศรัทธาแห่งยาธานจากด้านบน

       "ไอ้พวกโง่เอ้ย!  จะมาเป็นศัตรูกับเรางั้นหรอ?   แค่นี้มันไม่พอหรอกเฟ่ย!    โดรัน!  จัดการพวกมันซะ!"

       ทันทีที่ผู้เล่นนามว่ากริดตะโกนขึ้น  โดรันก็พยักหน้าพร้อมกับซัดอาวุธลับเข้าใส่กลุ่มผู้ศรัทธาอย่างรวดเร็ว

       "ตูขอรับไปละนะ  ทั้ง 3,600,000 วอนและบุตรสาวแห่งเอิร์ล!"

       ท่าทางของกริดดูมั่นใจมากว่าจะสำเร็จ   ทำให้ยูร่าอดนึกสงสารเขาไม่ได้จริงๆ  แต่ช่วยไม่ได้  เพราะตัวเธอเองก็จำเป็นต้องสำเร็จภารกิจนี้ให้ได้เช่นกัน

       เคร้ง!

       ยูร่ากำราบอาวุธลับของโดรันได้ด้วยทักษะบาเรียเพชรที่เพิ่งเรียนรู้มาเมื่อครู่   การกระทำดังกล่าว  ส่งผลให้กริดเผยสีหน้าตกตะลึงออกมาเป็นอย่างมาก

       "ต้องขอโทษด้วยนะ...แต่ชั้นคงยอมปล่อยเหยื่อบูชายัญให้ไม่ได้จริงๆ"

       โดรันแข็งแกร่งเกินไป   เพื่อที่จะได้มุ่งเป้าไปที่เขาคนเดียว   ยูร่าจึงต้องสังหารผู้ที่อ่อนแอกว่าอย่างกริดเสียก่อน   เธอเรียกเปลวเพลิงรูปร่างดาบขึ้นมาบนฝ่ามือพร้อมกับโจมตีใส่กริดโดยไม่ลังเล

       [ คริติคอล! ]

       ดาบใหญ่ที่เขาถืออยู่เป็นอาวุธเฉพาะตัวของคลาสนักรบ   หมายความว่ากริดคือคลาสนักรบอย่างไม่ต้องสงสัย   ถ้าหากเขามีเลเวลอยู่ที่ 80 ล่ะก็   ต่อให้สวมใส่ของดีขนาดไหนก็ไม่น่าจะมีพลังชีวิตเกิน 4,000 หน่วยไปได้    แล้วยิ่งจากที่ดูด้วยตาเปล่า   อุปกรณ์สวมใส่ของกริดเป็นแบบธรรมดาทั่วไป   พลังชีวิตจึงน่าจะอยู่ที่ราวๆ  3,000 หน่วยเท่านั้น   ยังไม่รวมถึงเรื่องที่คลาสนักรบมีพลังป้องกันเวทย์มนต์ที่ต่ำกว่าคลาสอื่นอย่างมาก

       ยูร่าคำนวนในหัวเสร็จสรรพ   การจะสังหารกริดให้ได้ในการโจมตีเดียวครั้งเดียวนั้น   จำเป็นจะต้องใช้มานาราวๆ 1/5 ของทั้งหมด 

       เมื่อเธอโจมตีออกไป   แถมยังเป็นการโจมตีแบบคริติคอลอีกด้วย   ดังนั้น  กริดจึงไม่มีทางเอาชีวิตรอดไปได้แน่นอน   ทว่า...ผลที่เกิดขึ้นกลับ...

       กริดยังคงมีชีวิตอยู่... 

       'ได้ไงกัน?'

       สมมติว่ากริดมีค่าความโชคดีที่สูงมาก  จนทำให้รอดพ้นจากการโจมตีแบบคริติคอลไปได้    แต่การที่ต้องสูญเสียพลังชีวิตไปเกินกว่า 40% ในการโจมตีครั้งเดียว  ตามปรกติแล้วตัวละครนั้นจะต้องติดสถานะ 'มึนงง' ในทันที   แต่กริดก็ยังสามารถยืนอยู่ได้เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

       "เมื่อครู่  เป็นการโจมตีแบบคริติคอลไม่ผิดแน่...หากดูจากของสวมใส่  นายน่าจะมีเลเวลประมาน 80 เท่านั้น    แล้วทำไมถึงยังยืนอยู่ได้อีก?"

       ในบรรดาผู้เล่มเกมซาทิสฟายกว่าสองพันล้านคน   ยูร่าถูกจัดอยู่ลำดับที่ 5 ในด้านความแข็งแกร่ง    และเธอกำลังพยายามไล่จี้อันดับที่ 4 อย่างเอาเป็นเอาตาย      ทักษะในการเล่นเกมของเธอนับว่าเป็นเลิศ   นับตั้งแต่ที่เริ่มเล่นเกมซาทิสฟายมา  การคำนวนพลังโจมตีให้สอดคล้องกับมานาที่ใช้ของเธอ   ไม่เคยผิดพลาดมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว    การรอดชีวิตของกริดในครั้งนี้ได้ทำให้เธอต้องตกตะลึงไม่น้อย

       ความสับสนที่เกิดขึ้นได้ส่งผลอย่างมากกับการความสามารถในต่อสู้ของเธอ     

       'เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ไงกัน?   หรือที่จริงแล้วเขามีเลเวลสูง...แต่แกล้งใส่อุปกรณ์ระดับต่ำเพื่อหลอกเรา?   ไม่มีทาง...เป็นไปไม่ได้   จะมีคนโง่ที่ไหนกล้าใส่อุปกรณ์ระดับต่ำเพื่อทำภารกิจระดับ S กัน...เรามองข้ามอะไรไปรึเปล่านะ?'

       เธอพยายามวิเคราะห์เหตุการณ์อย่างใจเย็น...แต่กริดกลับกำลังย่างสามขุมเข้ามาหาอย่างไม่เกรงกลัว

       ตึก...ตึก...

       เป็นก้าวเดินที่เชื่องช้าอย่างน่าประหลาด  ทั้งๆ ที่เขาเป็นคลาสนักรบซึ่งมีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงแท้ๆ...

       ราวกับว่า  ชายผู้นี้มิได้เห็นจอมเวทย์มืดลำดับ 1 อย่างเธออยู่ในสายตาเลย   แถมการก้าวย่างอย่างเชื่องช้ายังเหมือนกับการสื่อเป็นนัยๆ ให้ยูร่ารับรู้ว่า  'เอาเลย...ไหนขอดูหน่อยซิ...ว่าเวทย์มนต์ที่แรงที่สุดของแกจะซักขนาดไหนกันเชียว...'

       นี่มันหยามหน้ากันชัดๆ !!   มันกำลังดูถูกเราอยู่งั้นหรอ?    ยูร่าผู้ซึ่งมั่นใจในตนเองยิ่งกว่าใครได้โกรธเป็นฟืนไฟในบันดล...

       ในเมื่อท้าทายกันถึงขนาดนี้...ได้เลยเจ้ากริด...

        เธอเริ่มท่องมนต์ร่ายเวทย์ชั้นสูงออกมา  โดยหวังจะทำลายล้างทั้งกริดและโดรันให้กลายเป็นขี้เถ้าถูกฝังอยู่ภายในห้องใต้ดินแห่งนี้

       "แด่องค์เทพแห่งความมืดผู้ยิ่งใหญ่   ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่านกำลังเรียกหา   ได้โปรดช่วยเติมเต็มสถานที่แห่งนี้ไปด้วยความมืดมิด    ได้โปรดช่วยเติมเต็มความหวาดกลัวภายในจิตใจศัตรู   ได้โปรดสำแดงพลังอันยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องเหล่าผู้ศรัทธาในตัวท่าน!"

       ทันทีที่เวทย์มนต์สำแดงพลังออกมา  เปลวไฟบนคบเพลิงภายในห้องเกิดการวูบวาปพริ้วไสวทันที   แม้ไฟจะยังไม่ดับลง  แต่มันได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นสีดำสนิท   จนทำให้ภายในห้องมืดลงอย่างรวดเร็ว

       เมื่อสูญเสียการมองเห็น  รวมไปถึงการถูกสถานะ 'หวาดกลัว' เข้าครอบงำ  หากเป็นศัตรูทั่วไปก็คงจะหยุดการเคลื่อนที่ไปนานแล้ว    ซึ่งแม้แต่โดรันเองก็ยังต้องชะงักไปเล็กน้อย   ทว่า...กริดกลับยังคงย่ำเท้าต่อไปโดยไม่ยอมหยุด  ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น    ไม่น่าเชื่อเลยว่า  ชายหนุ่มที่ชื่อกริดคนนี้  จะมีค่าทนทานต่อความ 'หวาดกลัว'  สูงกว่าเอ็นพีซีคลาสแอสซาซิสขั้น 3 อีกงั้นหรอ?

       'เขาเป็นใครกันแน่นะ...'

       มีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับชายคนนี้   ทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่ผู้เล่นติดอันดับ  แต่ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ได้?   ความสับสนของยูร่ายังคงไม่จางหายไปง่ายๆ   แต่เธอก็มีสมาธิในการร่ายเวทย์มนต์ออกมาจนเสร็จ

       "พายุทมิฬ!"

       ซู่ว ซู่ว ซู่ว!

       เกิดพายุสีดำอันบ้าคลั่งขึ้นในห้องใต้ดินที่แสนคับแคบ   พายุทมิฬเกรี้ยวกราดได้หมุนวนล้อมรอบตัวของกริดเอาไว้     เสาหินที่ค้ำยันห้องเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง   พื้นห้องและผนังเกิดรอยแตกร้าวเป็นวงกว้าง  อานุภาพอันทรงพลังของพายุทมิฬได้ทำให้ทั่วทั้งวิหารสั่นสะเทือน!   นี่คือเวทย์มนต์ระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

       ซู่ววว!

       ร่างกายของกริดกำลังโดนโจมตีอย่างหนักหน่วง   ทั้งจากเหล่าผู้ศรัทธาแห่งยาธาน   รวมไปถึงพายุทมิฬจากยูร่า    เธอมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่ากริดจะต้องตายไปและกลายเป็นแสงสีเทาเหมือนคนอื่นๆ แน่นอน     ทว่า...กริดยังคงย่างก้าวผ่านพายุทมิฬเข้ามาอย่างดุดันโดยไม่ลดความเร็วลงเลยสักนิด

       กลับกัน  ทางด้านโดรันนั้นสะบักสะบอมอย่างหนัก   ก่อนที่แสงสีเขียวจางๆ จะสว่างขึ้นมาจากแหวนของเขา  โดรันสามารถฝืนตนเองเดินตามกริดมาในสภาพอ่อนแรง...แม้กระทั่งเอ็นพีซีคลาสแอสซาซินขั้นที่ 3  ยังไม่อาจทนทานต่อเวทย์มนต์ของเราได้    แล้วทำไมหมอนี่ถึงไม่เป็นอะไรเลย?

       "นาย...เป็นใครกันแน่?"

       ยูร่าไม่ใช่คนโง่   ไม่สิ่งใดสามารถหลุดรอดสายตาที่เปี่ยมไปด้วยหลักการและเหตุผลของเธอไปได้   ตลอดชีวิตที่ผ่านมา 21 ปีของเธอ  ผู้คนรอบกายต่างยกย่องในความงามและความเฉลียวฉลาดของเธอทั้งนั้น   ยูร่าใช้มันเป็นใบเบิกทางในการสร้างชื่อเสียงขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก

       และทางเดินที่ว่านั้นก็คือ...เกมซาทิสฟาย...

       แต่ถึงกระนั้น  อัจฉริยะอย่างยูร่าก็ยังไม่อาจเข้าใจได้...ว่าชายที่ชื่อกริดผู้นี้ใช้วิธีใดกันแน่           

       'เป็นไปไม่ได้...ในเกมซาทิสฟายไม่มีทางที่จะมีใครทำแบบนี้ได้แน่   ศัตรูอันน่าเกรงกลัวในตอนนี้ไม่ใช่เอ็นพีซี...แต่เป็นผู้เล่นด้วยกันเองเนี่ยนะ?     เขาใช้ข้อผิดพลาดของเกมงั้นหรอ?   ไม่...เป็นไปไม่ได้   เกมซาทิสฟายถูกควบคุมโดยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้อย่าง [ มอร์เฟียส ]    ไม่มีทางที่เกมนี้จะมีข้อผิดพลาดได้   มันจะต้องมีวิธีที่เขาสามารถแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ด้วยตัวเองแน่...'

       'เขาใช้วิธีใดกันนะ?'

       นี่นับเป็นครั้งแรกที่ยูร่าได้พบกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการคำนวนของตน    เธอเอาแต่ครุ่นคิดอย่างสับสน   ผู้เล่นที่มีนามว่ากริดคนนี้ได้สลักภาพติดตาลงในหัวใจของยูร่าเอาไว้อย่างลบไม่ออก

       อีกด้านหนึ่ง  เด็กหนุ่มนามว่ากริดกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง  ยูร่าไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ  เธอจึงตัดสินใจเตรียมรับการโจมตี    ทันใดนั้นเอง  โดรันได้กระโดดเหยียบหลังของกริดขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับโจมตีใส่เธอ

       เคร้ง!

       ยูร่าปัดป้องการโจมตีของโดรันเอาไว้ได้   เธอรีบหันไปมองทางกริดอย่างรวดเร็ว  โดยคำนวนว่ากริดจะต้องโจมตีซ้ำเข้ามาอย่างแน่นอน   ทว่า...ภาพที่เกิดขึ้นกลับทำให้ดวงตาของยูร่าต้องเบิกโพลง  ร่างของกริดที่ดูสบายดีเมื่อครู่  ได้กลายเป็นเพียงลำแสงสีเทาและสลายไปหลังจากที่ถูกโดรันเหยียบหลังเข้า

       "......?"

       หลังจากนั้น  ยูร่าบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโจมตีของโดรัน  แต่ในที่สุดเธอก็สามารถจัดการกับโดรันได้... 

       ยูร่าจ้องมองไปยังจุดที่กริดหายตัวไปอย่างไม่กระพริบตา...โดยเธอไม่ได้สนใจข้อความสำเร็จภารกิจที่แจ้งเตือนขึ้นมาเลยสักนิด

       'ทั้งๆ ที่โดนพายุทมิฬเข้าไปขนาดนั้นยังไม่เป็นไรเลยแท้ๆ...แต่ทำไมจู่ๆ เขาถึงตายไปโดยไม่มีเหตุผลกันนะ...'

       'ดูเหมือน...เขาน่าจะฝืนล็อกเอาท์ออกจากเกมจนทำให้ได้รับบทลงโทษเป็นความตาย...'

       'แต่ว่า...ทำไมกันล่ะ?'

       ยิ่งครุ่นคิด  ยูร่าก็ยิ่งมีสีหน้าที่บิดเบี้ยว...

       "อย่าบอกนะว่า...เขายอมตาย...เพื่อปล่อยให้เราสำเร็จภารกิจนี้?"

       ยูร่าจำยอมรับความเห็นใจของกริดไปแต่โดยดี   วันนี้ได้กลายเป็นวันที่แย่ที่สุดของยูร่าในเกมซาทิสฟายอย่างไม่ต้องสงสัย

       ความหยิ่งทระนงและความภาคภูมิใจที่สั่งสมมาทั้งหมดของยูร่า...ได้แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ไปในพริบตา



จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์  ตอนที่ 7 - จบตอน

Comments

  1. สนุกมากครับ

    ReplyDelete
  2. ได้สาวมโนเป็นเพื่อนแหง

    ReplyDelete
  3. ไม่ได้หยามหรอก แต่ของมันหนักเดินเร็วไม่ได้

    ReplyDelete
  4. อย่างนี้นี่เองพระเอกโง่สินะ


    ReplyDelete
  5. ถ้าเจออีกประเภทก็จะพูดว่า Hack Report 55555555

    ReplyDelete
  6. เดี๋ยวๆ มันไม่ได้หยาม ของมันหนัก!!

    ReplyDelete
  7. ของมันหนักเฟ้ย เจ้ มโนไปโน่นเลย

    ReplyDelete
  8. ความมโนนี้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00