จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 3

       ลิมชอลโฮ...ชายผู้นี้คือหัวหน้าทีมของกลุ่มนักวิจัย 33 คน  ที่เป็นผู้สร้างระบบเกมออนไลน์เสมือนจริงขึ้นมา   และเขาก็ยังเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาเกมซาทิสฟายแห่งกลุ่มบริษัท เอส เอ กรุ๊ป อีกด้วย

       ชายผู้นี้มีสมญานามอยู่มากมาย  :  ผู้มีปัญญาหยั่งรู้ระดับพระเจ้า,  ผู้สรรสร้างระบบเสมือนจริง,  ชายผู้เปลี่ยนโลก,  บิดาแห่งซาทิสฟาย,  ชายผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ,  หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลก,  ชายผู้ถูกเสนอเงื่อนไขให้โอนสัญชาตินับสิบครั้งในปีเดียว,  ความภาคภูมิใจแห่งเกาหลีใต้,  และอื่นๆ อีกมากมาย

       การที่ถูกขนานนามเอาไว้มากมายเช่นนี้  แน่นอนว่า  ในทุกๆ ครั้งที่เขาไปออกงานระดับนานาชาติ  สปอตไลท์จะต้องสาดแสงลงมาอย่างไม่ขาดสายแน่นอน  ว่ากันว่า อิ ทธิพลของชายผู้นี้เหนือกว่าประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเสียอีก  ทั่วโลกต่างต้องอิจฉาในตัวเขา

       แต่ในความเป็นจริง  ชีวิตของเขาไม่ได้สวยหรูอย่างที่ปรากฏตามหน้าสื่อ     หัวหน้าทีมพัฒนาซาทิสฟายและกลุ่มบริษัท เอส เอ กรุ๊ปผู้นี้ได้นอนเพียงวันละไม่ถึงสี่ชั่วโมงเท่านั้น   

     ทว่า...เขามีความสุขรึเปล่า?  แน่นอน  คำตอบคือใช่   นี่เป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง   ลิมชอลโฮมีความทุ่มเทและภาคภูมิใจกับโปรเจคซาทิสฟายนี้มาก  เกมที่เขาสร้างขึ้นได้กุมหัวใจของผู้เล่นนับสองพันล้านคนไว้ได้

...
       "อือออ..."

       ลิมชอลโฮถูกปลุกขึ้นมาโดยเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์   เขาเหลือบไปดูนาฬิกาเล็กน้อย   ในตอนนี้ในเป็นเวลาตีสองห้าสิบของช่วงเช้า...ซึ่งเขาเพิ่งจะได้นอนไปเพียงยี่สิบนาทีเท่านั้น   ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาตลอดทั้งเดือน  ได้ทำให้กระบวนการความคิดของเขาผิดแผกไปจากปรกติเล็กน้อย

       น้ำเสียงที่หงุดหงิดและเหนื่อยล้าถูกพ่นใส่สายโทรศัพท์อย่างไม่ใยดี  "มีอะไร? เกิดอะไรขึ้นรึไง?"     

       แต่เสียงปลายสายที่ตอบมากลับฟังดูร้อนรน   จนทำให้ลิมชอลโฮต้องหายงัวเงียและรีบตอบกลับไปว่า  "ผมจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้และ!  เตรียมรายงานให้พร้อมก่อนที่ผมจะไปถึงด้วย!"

       ลิมชอลโฮรีบแต่งตัวและลงลิฟท์มา  ชั้นใต้ดินของบ้านเขาเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่  ในนี้มีรถหรูราคาแพงมากมายถูกจอดเรียงรายกันเป็นตับ  ลิมชอลโฮเดินไปยังรถสปอร์ตคันหนึ่งที่มีประตูทรงปีกฝีเสื้อ  เขารีบเปิดประตูเข้าไปนั่งและบึ่งไปที่บริษัทด้วยความเร็วสูงสุด

...

       "เกิดอะไรขึ้น?"

       ณ ห้องปฏิบัติการของสำนักงานเกมซาทิสฟาย

       ลิมชอลโฮรีบวิ่งเข้าไปในห้องพร้อมกับเอ่ยปากถามอย่างเหนื่อยหอบ   ชเวนาฮีซึ่งเป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการก้มศีรษะให้กับลิมชอลโฮเล็กน้อย  ก่อนที่เธอจะขยับขาแว่นกรอบสีส้มพร้อมกับกล่าวว่า

       "เรื่องเกิดขึ้นเมื่อห้านาทีที่แล้ว"

       "รีบเล่ามาเร็ว!"

       ลิมชอลโฮผู้กำลังตื่นเต้นสุดๆ ค่อยๆ นั่งลงกับเก้าอี้   สายตาของเขาจ้องมองไปยังจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์บนกำแพง  ทันใดนั้น  วีดิโอที่หยุดนิ่งไปก็ได้เริ่มฉายใหม่อีกครั้ง   เป็นภาพของตัวละครเด็กหนุ่มชาวเอเชียคนหนึ่ง  คลาสนักรบ  เลเวล 73    วีดิโอดังกล่าวฉายตั้งแต่ตอนที่เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ค้นพบถ้ำสุดเขตแดนเหนือ   ไปจนถึงตอนที่เขาถือหนังสือหายากแห่งแพ็กม่าอยู่ในมือ...และใช้มัน

       ทีมงานได้ส่งเอกสารจำนวนสองฉบับให้ลิมชอลโฮอ่านในระหว่างที่เขาดูวีดิโอไปด้วย    ลิมชอลโฮอ่านมันพร้อมกับลูบปลายคางสองถึงสามหน

       "ทั้งในชีวิตจริงและในเกมซาทิสฟาย  เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่ได้โดนเด่นอะไรนัก"   

       "ในตอนแรกที่ได้สัมผัสกับเกมซาทิสฟาย  เขาขาดการยับยั้งชั่งใจเอาแต่เล่นเกมจนทำให้ชีวิตจริงต้องตกต่ำถึงขีดสุด    ทำไมคนแบบนี้ถึงค้นพบถ้ำสุดเขตแดนเหนือที่ถูกซ่อนเอาไว้ด้วยเงื่อนไขซับซ้อนที่สุดได้นะ?   หรือว่าเขาจะมีพรสวรรค์ในการสำรวจ  โดยที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว?"

       จากการคำนวนของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีชื่อว่า 'มอร์เฟียส'   ถ้ำสุดเขตแดนเหนือนั้นควรจะถูกค้นพบโดยผู้เล่นในอีก 1 ปีกับ 10 เดือนหลังจากนี้   หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ   การปรากฏตัวของ 'หนังสือหายากแห่งแพ็กม่า'  เดิมทีนั้นควรจะมีขึ้นในอีก 1 ปีกับ 10 เดือนข้างหน้า

       เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ทำลายระยะเวลาที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้อย่างราบคาบ     

       ในบรรดาผู้เล่นซาทิสฟายกว่าสองพันล้านคน  มีเพียงไม่ถึงหนึ่งร้อยคนเท่านั้นที่สามารถเลื่อนขั้นคลาสของตนให้ไปถึงระดับที่ 2 ได้     ทว่า  กลับมีเด็กหนุ่มปริศนาสามารถเปลี่ยนเป็นคลาสระดับลีเจนดารีได้แล้วหนึ่งคน

       ลิมชอลโฮได้ให้ความสนใจกับผู้เล่นที่เหนือความคาดหมายคนนี้เป็นอย่างมาก    แต่ชเวนาฮีไม่ได้คิดเช่นนั้น  เธอไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีอะไรที่พิเศษนัก

       "การที่เขาค้นพบถ้ำสุดเขตแดนเหนือได้  เพียงเพราะเขาโชคดีและบ้าบิ่นเท่านั้น"

       "ข้ารู้"

       เด็กหนุ่มคนดังกล่าวมีชื่อว่า ชินยองวู    โดยภายในเกมซาทิสฟาย  เขาใช้ชื่อว่า 'กริด'     เด็กหนุ่มที่แสนธรรมดาผู้นี้ใช้ช่วงเวลาตลอดหนึ่งปีเต็มที่ผ่านมา  ในการทำภารกิจภายในเมืองแพเทรี่ยนจนมีค่าชื่อเสียงของเมืองนี้สูงถึง 8,000 แต้ม    โดยที่ค่าสถานะสติปัญญาของเขายังคงน้อยกว่า 50 แต้มอยู่

       ความบังเอิญเหล่านี้ได้ทำให้เขาผ่านเงื่อนไขในการทำภารกิจ 'คำของร้องอย่างลับๆ ของขุนนางอัชเชอร์'   ภารกิจนั้นเป็นไปอย่างยากลำบากมาก   เด็กหนุ่มผู้นี้ต้องไปผจญภัยในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่า 200 ตลอดสามเดือนเต็ม    แต่เขาก็ไม่คิดย่อท้อ   แม้จะมีเลเวลตัวละครที่น้อยกว่า 80     และต้องเผชิญหน้ากับความตายอยู่หลายครั้งหลายหนก็ตาม

       จนในที่สุด  เขาค้นพบถ้ำสุดเขตแดนเหนือได้ด้วยลำพังตนเองอย่างน่าเหลือเชื่อ   เด็กหนุ่มได้พบกับหนังสือภารกิจ  แล้วก็เป็นอย่างที่คิด  เขาถูกครอบงำด้วยความโลภและเลือกที่จะล็อกเอาท์ออกจากเกม   การกระทำทั้งหมดดันไปตรงกับเงื่อนไขปลดล็อคการใช้งานหนังสือระดับลีเจนดารีเล่มนี้พอดิบพอดี

       'ยังมีวิธีอีกมากที่จะทำให้เงื่อนไขถูกเปิดใช้งาน...แต่การเลือกล็อคเอาท์ออกจากเกมถือเป็นวิธีที่บ้าบิ่นที่สุดในบรรดาทั้งหมด'

       ไม่ผิดจากที่ชเวนาฮีกล่าวนัก  ความบังเอิญที่ซ้อนทับกันหลายๆ ครั้ง  ได้ผสมผสานกับอุปนิสัยที่ดื้อรั้น   จึงก่อให้เกิดผลลัพธ์อันเหลือเชื่อขึ้นมา     เด็กหนุ่มผู้นี้ได้พิสูจน์แล้วว่า  หากเพียรพยายามอย่างหนัก  ถ้ามีโชคคอยช่วยเหลืออยู่บ้าง  สิ่งที่ตามมาย่อมคุ้มค่าอย่างแน่นอน 

       'ทั้งความโชคดีและความดื้อรั้นต่างก็ถือเป็นพรสวรรค์ทั้งคู่'

...

       ชเวนาฮีเอ่ยปากถามกับลิมชอลโฮที่กำลังจ้องมองเด็กหนุ่มอย่างไม่กระพริบตา     

       "แล้วเลเวลตัวละครเกิดการติดลบได้ยังไง?"

       "เจ้าหนูนั่นโชคดีมาก  โอกาสเกิดเรื่องแบบนี้มีเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้น"     

       "หืม?"     

       นักวิทยาศาสตร์กำลังพูดเรื่องโชคชะตาเนี่ยนะ? 

       ลิมชอลโฮยังคงอธิบายต่อไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ

       "เลเวลติดลบถือเป็น 'ระบบลับ' ของเกมนี้"

       "ก็ตามที่คุณรู้นั่นแหละ  ปรกติแล้วผู้เล่นที่มีเลเวลต่ำกว่า 10 จะได้รับข้อยกเว้นพิเศษ    พวกเขาจะตายได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าประสบการณ์    นั่นหมายความว่า  ผู้เล่นทั่วไปในช่วงเริ่มต้นจะไม่มีทางเลเวลลดอย่างแน่นอน" 

       "ทว่า...เกมนี้มีระบบภารกิจอยู่ด้วย   บางภารกิจนั้นสามารถทำให้เลเวลตัวละครลดลงได้หากล้มเหลว   เช่นเดียวกับที่เจ้าหนูนี่ได้ไปเจอมา"   

       "แต่ตามปรกติแล้ว  ภารกิจของผู้เล่นใหม่จะไม่มีของแบบนั้นอยู่  นี่จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากเอามากๆ...แต่มันก็ทำให้เจ้าหนูคนนี้ได้พบกับ 'ระบบลับ' ของเกมเข้าจนได้"

       ลิมชอลโฮค่อยๆ เล่าไปพร้อมกับท่าทางการนั่งจิบกาแฟอย่างดื่มด่ำ

       ( ผู้แปล : ค่าประสบการณ์ในเกมออนไลน์จะหมายถึงสิ่งที่ต้องสะสมไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มเลเวล  มีอีกคำหนึ่งที่นิยมใช้กันคือคำว่า EXP หากค่าประสบการณ์ลดลงจนถึงจุดหนึ่ง  เลเวลของผู้เล่นก็จะลดลงไปด้วย )

       "เป็นแบบนี้นี่เอง..."

       ชเวนาฮีแสดงสีหน้าที่ฉุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้

       "ทีมพัฒนาทำนายไว้ว่า  ถ้าหากเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างปรกติ  การที่จะมีผู้เล่นสักคนสามารถรับภารกิจ 'คำขอร้องอย่างลับๆ จากขุนนางอัชเชอร์' ได้นั้น   เขาควรจะมีเลเวลอย่างน้อย 350 แล้ว    ดังนั้น  ด้วยเลเวล 350    จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะสำเร็จภารกิจ 'ความโกรธแค้นของอัชเชอร์' พร้อมกับกลายเป็น 'ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า' ได้" 

       "หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ...ถ้าหากเล่นเกมไปตามปรกติ  ก็จะไม่มีทางทำภารกิจของอัชเชอร์ล้มเหลวแบบเจ้าหนูนี่เด็ดขาด...มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ค้นพบระบบลับของเกมนี้"

       ชเวนาฮีค่อยๆ แจกแจงอย่างชัดถ้อยชัดคำโดยละเอียด

...

       กริดได้ลงมือกระทำในสิ่งที่บ้าบิ่นขึ้น  เพียงเพราะเขากลัวว่าจะต้องสูญเสียหนังสือระดับเลเจนดารีไปอย่างเปล่าประโยชน์    ในจุดนี้  ทำให้เลเวลของเขาลดลงเหลือเพียงแค่ 1 ทันทีที่เปลี่ยนไปเป็นคลาสระดับเลเจนดารี

       การตายของตัวละครเลเวล 1 จะไม่เสียค่าประสบการณ์ก็จริง  แต่ว่าบทลงโทษจากภารกิจล้มเหลวนั้นไม่มีข้อยกเว้น  หลังจากที่เลเวลลดลงไปจนเหลือ 1   กริดยังคงถูกบทลงโทษจากภารกิจลดเลเวลซ้ำเข้าไปอีก 2 ระดับ    ทำให้เลเวลของเขาต้องกลายเป็น -1 ในที่สุด     

       นี่คือสิ่งที่ลิมชอลโฮเรียกว่า 'โอกาสหนึ่งในล้าน' งั้นหรือ...

       "แล้วผู้เล่นที่เลเวลติดลบ  จะได้รับค่าประสบการณ์และเลเวลอัพเหมือนผู้เล่นทั่วไปได้รึเปล่า?"     

       ลิมชอลโฮพยักหน้าเบาๆ  "ได้แน่นอน    ในตอนนี้  แม้เขาจะมีเลเวล -1 ก็จริง  แต่หากสะสมค่าประสบการณ์จนกระทั่งเลเวลอัพได้อีก 2 ครั้ง   เขาก็จะมีเลเวล 1 เหมือนผู้เล่นทั่วไป...พร้อมกับค่าสถานะติดตัวมาอีก 20 แต้ม"

       "...หมายความว่า  ค่าสถานะเริ่มต้นของเขาจะสูงกว่าตัวละครทั่วไปที่เลเวลเท่ากันเป็นจำนวน 20 แต้มสินะ?  "     

       "ถูกต้อง...เจ้าหนูนี่ได้กำไรในจุดที่คนทั่วไปไม่มีทางทำได้   โชคดีไม่เบาเลยล่ะ"

       สีหน้าของทีมพัฒนาดูเป็นกังวลในทันที  ชเวนาฮีเอ่ยปากถามอย่างตึงเครียดออกไปว่า  "คลาสลับระดับเลเจนดารีปรากฏขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงสองปี     คลาสระดับเลเจนดารีนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก   แถมเขายังมีค่าสถานะติดตัวสูงกว่าผู้เล่นอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันอีก     แบบนี้แล้ว...สมดุลย์ของเกมจะไม่เสียไปหรอคะ?"

       ลิมชอลโฮหยิบแผ่นกระดาษที่เป็นรายงานข้อมูลส่วนตัวของชินยองวูขึ้นมาให้เธอดู

       "กราฟนี้แสดงให้เห็นว่า   เจ้าหนูนี่แม้จะออกไปสู้กับมอนสเตอร์เป็นจำนวนไม่น้อย  แต่เลเวลของเขากลับต่ำกว่ามาตรฐานอย่างไม่น่าเชื่อ   หมายความว่าไงรู้มั้ย?    มันหมายความว่าเขาเป็นเพียงแค่ไอ้งั่งที่เอาแต่ทำภารกิจอยู่ในเมืองเดิมๆ ตลอดทั้งปีโดยไม่ยอมออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ เลยยังไงล่ะ      ผมไม่คิดว่าคนแบบนี้จะมีพรสวรรค์ในการเป็นผู้เล่นติดอันดับหรอกนะ   คุณไม่ต้องไปใส่ใจกับเขานักหรอก"     

       "นี่มันโอเคแล้วจริงๆ หรอคะ?    ในสายตาผู้เล่นคนอื่น   แบบนี้มันเอาเปรียบกันนะ"

       "ถึงมันไม่โอเค...แต่พวกเราจะทำอะไรอีกได้เล่า?   พวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตัวเกมโดยตรงอยู่แล้ว   ลองมองโลกในแง่ดีหน่อยสิ   โชคดีว่าเขาเป็นเพียงผู้เล่นธรรมดา  ไม่ใช่ว่าเป็นพวกติดอันดับซักหน่อยที่ได้หนังสือไป   แล้วอีกอย่าง   คลาสผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่านั้นค่อนข้างจะอ่อนแอในการต่อสู้  หากนำไปเทียบกับคลาสเลเจนดารีอื่นๆ ที่มีอยู่ล่ะนะ..."

       ลิมชอลโฮจ้องมองเด็กหนุ่มในจอมอนิเตอร์ไปเรื่อยๆ   แต่จู่ๆ เขาก็ผงะเล็กน้อยพร้อมเงียบไปเป็นเวลานาน... 

      จนในที่สุดเขาก็ส่ายหัวเบาๆ ให้กับชเวนาฮีที่กำลังยืนสับสนงุนงง

      "ไม่หรอกน่า...ไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหรอก   ผมขอตัวก่อนนะ   พวกคุณคงเหนื่อยไม่น้อยเลยที่ต้องทำงานกันจนดึกดื่นขนาดนี้   ไม่ต้องห่วง  เดี๋ยวผมจะขึ้นโบนัสให้   ช่วยทนเหนื่อยต่อไปอีกสักพักนะ"     

       บรรยากาศของทีมพัฒนาดูผ่อนคลายลงทันทีที่ได้ยินคำว่า 'โบนัส'    ลิมชอลโฮยิ้มเล็กๆ ให้กับทุกคน  ก่อนจะเดินออกจากห้องไป               

...

       'เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?'

       ในหมู่ทีมพัฒนา  มีเพียงชเวนาฮีคนเดียวที่คงยังนิ่งเงียบอยู่   เธอรู้สึกกังวลไม่น้อยกับท่าทีอันแปลกประหลาดเมื่อครู่ของลิมชอลโฮ   

       ส่วนอีกด้านหนึ่ง   ลิมชอลโฮกำลังยืนครุ่นคิดอยู่ภายในลิฟท์พร้อมกับพึมพำชื่อของชินยองวูออกมาเบาๆ

...

...

       ตัวเรานั้นสูญเสียที่พักไปเพราะถูกขับไล่ออกจากเมืองแพเทรี่ยนแล้ว    ดังนั้น  จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเกิดใหม่ในวิหารที่อยู่ใกล้กับจุดที่ตายล่าสุด    และช่างบังเอิญเสียจริง  ที่วิหารดังกล่าวคือวิหารเทพแห่งความืด...ยาธาน

       ห้องภายในวิหารที่เราเกิดมามีบรรยากาศของความมืดมิดอัดแน่นอยู่   เหล่าจอมเวทย์ในชุดคลุมสีดำเดินเพ่นพ่านไปมาด้วยสีหน้าที่ขุ่นมัว   ที่ด้านนอกวิหารมีเสียงโห่ร้องตะโกนดังอื้ออึง  บางส่วนก็เอาแต่ทุบอกชกตัวจนเกิดเสียงดังตลอดเวลา  เป็นภาพที่ไม่น่าดูยิ่งนัก

...

       กรี๊ดดดดด!

       เสียงกรีดร้องอันแหลมเล็กของหญิงสาวที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นจากใต้ดิน

       "...ให้ตายสิ  ไม่มีอะไรเหมือนกับเมืองแพเทรี่ยนเลยซักนิด"     

       ตัวเราในชีวิตจริงนั้นผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้ว   หากมีใครมายืนใกล้ๆ ก็คงจะสัมผัสได้ว่าเราไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรกับสถานที่แห่งนี้เลยสักนิด   มันให้ความรู้สึกเหมือนกับหนังสยองขวัญมากกว่า   เราไม่ใช่ผู้หญิงที่จะได้หวาดกลัวกับวิหารความมืด 'ยาธาน' แห่งนี้

...

       'นะ...นะ...หน้าต่างสถานะ!'

       เสียงของเราสั่นระริกเล็กน้อย  แต่เราก็พยายามข่มมันเอาไว้     รอบๆ ข้างจะเป็นอย่างไรเราไม่สนใจ     สิ่งเดียวที่ต้องให้ความสำคัญในตอนนี้ก็คือหน้าต่างค่าสถานะที่แสดงขึ้นมา

...

       ชื่อตัวละคร : กริด

       เลเวล : -1  (0/20)

       คลาส :  ผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า

       * เมื่อสร้างไอเท็ม  มีโอกาสได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มขึ้น

       * เมื่อเสริมพลังไอเท็ม  มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น

       * สามารถสวมใส่ไอเท็มทุกชิ้นภายในเกมได้โดยไม่สนใจเงื่อนไข  แต่จะมีผลข้างเคียงตามมา  ขึ้นอยู่ระดับของไอเท็มที่สวมใส่นั้นๆ

...

       สมญานาม :  ผู้ที่จะกลายเป็นตำนาน

       * สถานะผิดปรกติไม่ส่งผลกับท่านเท่าที่ควร

       * เมื่อพลังชีวิตหมดลง   ท่านจะยังไม่ตายในทันที

       * เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้ง่ายขึ้น

...

       พลังชีวิต:  14/14    มานา: 3/3

       พลังทางกายภาพ:  1   ความอดทน:  1  ความว่องไว:  1

       สติปัญญา:  1  ความชำนาญ:  1   ความเยือกเย็น: 1 

       ความทรหด: 1   ความหยิ่งทระนง:  1    วิสัยทัศน์:  1

       ค่าสถานะคงเหลือ : 0

       น้ำหนักสัมภาระ:  3,035/20

       * น้ำหนักสัมภาระเกินกว่า 200%   ส่งผลให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลง 100%

       ร่างกายของท่านหนักอึ้งจนไม่สามารถออกแรงกระทำสิ่งใดได้

       โอกาสที่จะตกอยู่ในสถานะ 'อ่อนแอ' เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก     

...

       หลากหลายอารมณ์ได้พรั่งพรูเข้ามาในหัวสมองทันที

       เราไม่เข้าใจเรื่องเลเวลติดลบเลยซักนิด   แล้วค่าสถานะอันแสนต่ำต้อยพวกนี้มันอะไรกัน...เราไม่อาจสู้ได้แม้กระทั่งกระต่ายตัวเล็กๆ ที่ถูกยั่วให้โมโห   

       ทว่า...โบนัสพิเศษต่างๆ รวมไปถึงสมญานามของคลาสผู้สืบทอดแห่งแพ็กม่า  ได้ทำให้ตัวเรารู้สึกพึงพอใจไม่น้อยทีเดียว




จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ ตอนที่ 3 - จบตอน

Comments

  1. ขอบคุณมากเลยนะคับ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณคครับ

    ReplyDelete
  3. เรื่องเดียวกันหรือปล่าว. ATG หายไปไหนแล้วอะเลิกแปรแล้วหรอ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ATG โดน LC ไปสักพักแล้วครับที่แปลมาจนถึง870 นี่เป็นเพราะผู้แปลเขาไม่อยากให้เราค้างกันมากเกินไปเลยจำเป็นต้องตัดจบกันตรงนั้น

      Delete
  4. ทนเก็บเวลใหม่ ยังไงก็มีข้อดีมากกว่าข้อเสียล่ะนะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00