จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 867
[ ท่านละทิ้ง ★ ภารกิจลับ ★ บุกถล่มวาติกัน ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับวิหารยาธานลดลง 100 หน่วย ]
[ สถานะความสัมพันธ์กับวิหารยาธานเปลี่ยนจาก ‘มิตร’ เป็น ‘หวาดระแวง’ ]
บุกถล่มวาติกัน—ภารกิจลับที่มีรางวัลตอบแทนมหาศาล และหากทำสำเร็จ เรื่องราวหลังจากนี้จะดำเนินไปในทิศทางที่เกิดประโยชน์แก่ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลมาก
แต่แอ็กนัสกลับละทิ้งมันทั้งที่ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม เป็นความบ้าบิ่นที่ไม่มีใครทำความเข้าใจได้
“นายบ้าไปแล้วรึไง!!”
โรสแผดเสียงตวาด แต่สายเกินไปแล้วที่จะหยุดแอ็กนัส
ลิชมูมัดร่ายเวทโจมตีใส่ซิลเวนัส ส่วนแอ็กนัสฉวยโอกาสพุ่งเข้าหาไอรีน
“แอ็กนัส…!”
ชายคนนี้มักถูกเรียกว่าหมาบ้า โค้กพลันลนลานเมื่อบุคคลเสียสติกำลังเข้าประชิดตัวองค์ราชินีและองค์ชาย
เนื่องจากสูญเสียการได้ยินไปชั่วขณะ อัศวินหนุ่มจึงไม่ทราบว่าแอ็กนัสคือบุคคลที่หยุดยั้งเสียงกรีดร้องซิลเวนัส โค้กกำดาบในมือแน่นหมายปกป้องสองแม่ลูก ภาพการกระทำของชายแสนอ่อนแอที่ฝืนตัวเองเพื่อช่วยหญิงสาวไร้ทางสู้
สิ่งนี้กระตุ้นให้ความจำทรงในอดีตของแอ็กนัสเข้มข้นยิ่งขึ้น
ในตอนนั้น ตัวมันเป็นเพียงบุคคลอ่อนแอไร้พลัง มิอาจปกป้องหญิงสาวที่ตนรักจากความชั่วร้ายเบื้องหน้า
ด้วยความรู้สึกเช่นนี้ แอ็กนัสเกลียดชัง โมโห และอยากฉีกกระชากตัวตนแสนอ่อนแอในอดีตให้แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ใบหน้าแอ็กนัสเริ่มบิดเบี้ยว มันต้องการลบอดีตแสนเจ็บปวดให้หายไปจากความทรงจำเป็นการถาวร
ใบหน้าปัจจุบันของแอ็กนัสได้มอบความรู้สึกสงสารให้แก่ผู้พบเห็น มากกว่าจะเป็นความรู้สึกหวาดกลัว
“คุณเป็นใคร?”
องค์ชายตัวน้อยเอ่ยปากถาม
เขาต้องการทราบถึงตัวตนของบุคคลใบหน้าเศร้าหมองที่ปกป้องชีวิตมารดาตนไว้
แอ็กนัสพยายามข่มความโกรธที่มีต่อตัวเองในอดีต
“ฉันเป็นแค่ไอ้งั่ง”
“…”
แอ็กนัสยึดติดกับอดีตที่ย้อนกลับแก้ไขไม่ได้ ปัจจุบันกำลังจมอยู่กับห้วงอารมณ์แสนเจ็บแปลบ มือไม้สั่นระริกอย่างมิอาจควบคุม
มันคือไอ้งั่ง ไอ้งั่งตัวจริงเสียงจริง
แอ็กนัสย่อมทราบถึงผลร้ายที่จะตามมาหากละทิ้งภารกิจลับกลางคัน แต่มันกลับปล่อยให้ความรู้สึกจากอดีตครอบงำ
แอ็กนัสมั่นใจ ตัวมันจะต้องนึกเสียดายเหตุการณ์ในวันนี้ไปชั่วชีวิต
ขณะเดียวกัน อลิเบิร์น ข้ารับใช้ยาธานลำดับสาม มันเริ่มหันคมเขี้ยวใส่แอ็กนัส
“ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล!! นายลืมบุญคุณศิลาแห่งชีวิตที่พวกเรามอบให้แล้วหรือ? แล้วนายจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต!”
อลิเบิร์นกำลังเดือดดาลเมื่อเข้าใจผิดว่า ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคิดทรยศวิหารยาธาน
แต่ในความเป็นจริง แอ็กนัสมิได้คิดทรยศ มันเพียงต้องการปกป้องไอรีนที่ไม่มีทางสู้จากซิลเวนัส
“ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลอีกแล้วสินะ พวกแกเอาแต่หลอกใช้เราอยู่เรื่อย!!”
วิหารยาธานรับใช้เทพมาร ‘ยาธาน’ รวมถึงจอมอสูรซึ่งเป็นบุตรแห่งยาธาน
เดิมที พวกมันเคารพบูชาจอมอสูรลำดับหนึ่ง บาเอล เป็นที่สองรองเพียงเทพยาธานเท่านั้น
ทว่า การมีตัวตนของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลได้ทำให้ความคิดนี้เริ่มแปรเปลี่ยน
ราวร้อยปีก่อน บาเอลสำพันธสัญญากับแพ็กม่า ช่างตีเหล็กในตำนาน และมอบพลังที่ยิ่งใหญ่ให้แพ็กม่าใช้ส่อตู้กับจอมอสูรที่รุกรานหมู่เกาะเบเฮ็น
แม้เจตนายังไม่ชัดเจน แต่อลิเบิร์นอดเคลือบแคลงในตัวบาเอลไม่ได้ บางที จอมอสูรตนนี้อาจมิได้รับใช้เทพยาธานอย่างซื่อสัตย์ตามที่ตนเข้าใจ
“บาเอลคิดทรยศเทพยาธานสินะ!”
อลิเบิร์นทราบดี จอมอสูรทุกคนมีความละโมบไม่รู้จบสิ้น มันจึงคาดเดาว่า บาเอลหมายโค่นยาธานเพื่อให้ตนกลายเป็นเทพองค์ใหม่เสียเอง
แอ็กนัสหัวเราะ
“ฉันไม่สนว่าไอ้บัดซบนั่นจะคิดยังไงกับเทพยาธาน”
“อะไรนะ? ก็ในเมื่อนาย…?”
“ฉันก็เป็นฉัน! คิดหรือว่าคนอย่างฉันจะทำเพื่อใคร? คิคิก!”
แอ็กนัสไม่สนว่าการกระทำของตนจะผิดหรือไม่ มันชี้นิ้วไปทางโค้กที่ยืนเป็นกำบังให้ไอรีนและลอร์ด
“ฉันต้องการช่วยพวกมัน นั่นคือความปรารถนาของฉันในตอนนี้”
สำหรับลอร์ดและไอรีน แอ็กนัสเป็นราวกับผู้มีพระคุณที่สวรรค์ประทานให้ แต่สำหรับโค้ก เขายังไม่วางใจชายเสียสติผู้นี้
อลิเบิร์นหมดคำพูดหลังจากได้ยินสิ่งที่แอ็กนัสกล่าว
มันเริ่มข่มขู่
“นายไม่สามารถปกป้องคนเหล่านี้ไปได้ตลอดแน่! หากตอนนั้นมาถึง นายจะพ่ายแพ้และเสียชีวิต!”
“…"”
“ศิลาแห่งชีวิตที่นายครอบครองจะถูกใครบางคนช่วงชิงไป!”
นี่คือโอกาสสุดท้ายที่อลิเบิร์นจะมอบให้แอ็กนัส
“ตาสว่างได้แล้ว! ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล!”
อลิเบิร์นย่างกรายเข้าไปหาแอ็กนัสอย่างเชื่องช้า ข้อความระบบเชื้อเชิญให้กับเข้าร่วมภารกิจปรากฏขึ้นต่อหน้าแอ็กนัสอีกครั้ง
และแน่นอน รางวัลตอบแทนยังคงล่อตาล่อใจเช่นเดิม มันจะได้รับพลังอสูร ค่าสติปัญญา และค่าพลังปกครองจำนวนมาก รวมถึงจะได้รับค่าตานทานธาตุศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้น 50% เป็นภารกิจที่ช่วยกลบจุดอ่อนทั้งหมดของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
เป็นแรงจูงใจที่แอ็กนัสไม่มีทางปฏิเสธได้ นอกเสียจากมันจะเป็นไอ้งั่ง…
แต่แอ็กนัสเป็นไอ้งั่ง
“ฉันขอยืนยันคำเดิม คิคิก!”
แรงปรารถนาของแอ็กนัสแตกต่างจากคนปรกติมาก มันมิได้ต้องการความแข็งแกร่ง อำนาจ หรือความมั่งคั่ง
แอ็กนัสต้องการเพียงย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต และนั่นคือเหตุผลที่ชายคนนี้ไม่ถูกสิ่งเย้ายวนใจทำให้ไขว้เขว มันขอเลือกทำในสิ่งที่อดีตไม่มีโอกาสได้ทำ มันต้องการสัมผัสความรู้สึกที่ได้ช่วยหญิงสาวอ่อนแอสำเร็จสักครั้งในชีวิต
แม้ต้องแลกมากับสิ่งที่ไม่คุ้มค่าเลยสักนิดก็ตาม
[ ท่านปฏิเสธ ★ภารกิจลับ★ บุกถล่มวาติกัน ]
[ อลิเบิร์น ข้ารับใช้ยาธานลำดับสาม มันกำลังโกรธจัด ]
[ สถานะความสัมพันธ์ระหว่างวิหารยาธานเปลี่ยนจาก ‘หวาดระแรง’ เป็น ‘ศัตรู’ ]
ทันใดนั้น…
[ ภารกิจลับ ‘เจตจำนงของรุ่นก่อน’ ถูกสร้างขึ้น ]
[ เจตจำนงของรุ่นก่อน ]
ระดับความยาก : ภารกิจประจำคลาส
ท่านกลายเป็นศัตรูกับวิหารยาธาน สิ่งนี้หมายความว่า ท่านคือศัตรูของเทพยาธานและจอมอสูรทุกตน
ท่านเลือกเดินบนเส้นทางเดียวกับ ‘แพ็กม่า’ ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลรุ่นก่อน
จงเดินทางไปยังหอเกียรติยศ
จงทำความเข้าใจเจตจำนงแห่งแพ็กม่า
เศษเสี้ยวที่แพ็กม่าเหลือทิ้งไว้จะเป็นพลังให้ท่านต่อกรกับจอมอสูร
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ผ่านบททดสอบในหอเกียรติยศ
รางวัลสำเร็จภารกิจ : พลังของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลที่แพ็กม่าทิ้งไว้
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว : รางวัลจะหายไปตลอดกาล
ท้ายที่สุด เรื่องราวดำเนินให้มันต้องเกี่ยวพันกับแพ็กม่างั้นหรือ?
สายสัมพันธ์ใหม่สร้างความสนใจแก่แอ็กนัสไม่น้อย เป็นอีกครั้งที่หนึ่งในห้าบุคคลปาฏิหาริย์เลือกเส้นบนทางผิดแผกจากที่มอร์เฟียสทำนายไว้
“คิคิก!”
แอ็กนัสระเบิดเสียงหัวเราะ
“ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลต่ำช้าเหมือนกันหมดทุกคน!!”
อลิเบิร์นคำรามด้วยโทสะ มันเริ่มรวบรวมพลังเวทปริมาณมหาศาลอีกครั้ง พื้นโถงหลักวาตกิันเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกระลอก
แต่แอ็กนัสหาได้หวาดกลัวการเผชิญหน้า
“อัญเชิญอัศวินความตาย!”
ลิชมูมัดกำลังสยบซิลเวนัส ขณะที่อัศวินความตายตัวใหม่ผุดขึ้นจากพื้นดิน
“พลังเฟอร์ฟู!”
ท่ามกลางโถงจัดงานเลี้ยงที่พังครืน หลังคาเพดานถล่มลงจนมองเห็นท้องฟ้ามืดมิดยามราตรี
เพียงไม่นาน ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวประกายหิมะระยิบระยับ เม็ดฝนที่กระหน่ำลงเริ่มแข็งตัวและกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งสีใส
นี่คือพลังของจอมอสูรเฟอร์ฟู
พลังจอมอสูรกำลังถูกสำแดงผ่านมนุษย์นามแอ็กนัส พลังนี้ส่งผลให้บริวารทุกตนของมัน รวมถึงอัศวินความตายและลิช ทรงพลังขึ้นทันตาเห็น
ซิลเวนัสพยายามรับมือกลุ่มก้อนเวทมนตร์จากมูมัดอย่างเต็มกลืน จนกระทั่งหล่อนเสียท่าและส่งเสียงกรีดร้อง
“กรี๊ดดดด!”
ลำพังลิชมูมัดสามารถคุกคามข้ารับใช้ยาธานลำดับสี่ในร่างอสูรได้ไม่ยาก
เมื่อแอ็กนัสล้ำเส้นที่ไม่ควรข้าม ดวงตาอลิเบิร์นพลันแดงก่ำ นัยน์ตาดำสั่นระริกอย่างโกรธแค้น
“บังอาจ!!”
อลิเบิร์นทระนงตนว่ามันคือจอมเวทมืดอันดับหนึ่งของทวีปหลังจากหมดยุคสมัยของทัลลอส ศักดิ์ศรีของมันกำลังถูกย่ำยีเมื่อแอ็กนัสไม่เห็นหัวแม้แต่น้อย
“ความมืดมิดเปี่ยมมลทินจงแผ่ขยาย! ฟ้าดินจงถูกกัดกร่อนจนพินาศสิ้น!!”
ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เคยแปรเปลี่ยเป็นสีขาวโพลนด้วยพลังเฟอร์ฟู ยามนี้ถูกย้อมกลับเป็นสีดำอีกครั้ง ฝนเกล็ดน้ำแข็งที่เคยสาดเทลงมาสนับสนุนบริวารแอ็กนัสพลันสลายในพริบตา
บรรยากาศโดยรอบถูกแทนที่ด้วยคำสาปปริมาณมหาศาล ผู้คนจำนวนมากถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำจิตใจ
“อย่าฝัน!”
ขณะเดียวกัน สภาอาวุโสรีเบคก้าที่พยายามทำลายม่านทมิฬเพื่อช่วยสันตะปาปาดาเมี่ยน บัดนี้หันมาร่วมมือร่วมใจปลดปล่อยพลังชำระล้างแห่งเทพธิดา
อาวุโสรีเบคก้าล้วนมีค่าต้านทานธาตุมืดสูง พวกเขาไม่ได้รับผลจากเวทเผาผลาญมานาของอลิเบิร์น แสงศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากพลังของอาวุโสสิบสามคนได้ชำระล้างให้ท้องฟ้ากลับมาใสสะอาดอีกครั้ง
“หากฉันไม่ลงมือด้วยตัวเอง สถานการณ์คงไม่ดีขึ้นแน่”
เป็นเสียงของดูรันดัล องค์ชายลำดับสองแห่งจักรวรรดิ
มันเริ่มรวมรวบปราณสีชาดเข้มข้นไว้ที่ปลายดาบ จากนั้นร่ายรำฟาดฟันใส่กลุ่มจอมเวทมืดยาธานหลายสิบคนในคราเดียว
เหยื่อทั้งหมดถูกดับลมหายใจในพริบตา
“อะไรกัน?”
ดวงตาของข้ารับใช้ยาธานลำดับหก ‘คาดิโอร่า’ พลันเบิกโพลง
ปัจจุบัน เธอกำลังพัวพันอยู่กับอัศวินสีชาดหลักเดียวซึ่งเป็นองครักษ์ส่วนตัวขององค์ชายดูรันดัล
คาดิโอร่าไม่เคยคิดมาก่อนว่า องค์ชายแห่งจักรวรรดิผู้เติบโตและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตลอด จะมีพลังทำลายมหาศาลเก็บซ่อนไว้เป็นไพ่ตาย
ไม่เพียงคาดิโอร่า แม้แต่คาซิมที่กำลังเล็งสังหารอลิเบิร์น รวมถึงทุกคนในงานเลี้ยง พวกเขาต่างตกตะลึงในฝีมือที่น่าเหลือเชื่อของดูรันดัล
‘พลังต้องสาป!’
แน่นอน คาซิมย่อมทราบถึงเนื้อแท้ความแข็งแกร่งของราชวงศ์ซาฮารัน เขาไม่มีวันลืมเหลือปราณสีชาดที่กว้างล้างทุกชีวิตในหมู่บ้านนีโรแน่
ซิลเวนัสกำลังถูกแอ็กนัสตรึง
โรสกำลังเผชิญหน้าการรุกโจมตีอย่างหนักจากชักสเล่ย์และอิสซาเบล
อลิเบิร์นถูกกลุ่มสิบสามอาวุโสและบุตรีรีเบคก้าอีกสองคนรุมล้อม
คาดิโอร่าต้องรับมือกับอัศวินสีชาดและดูรันดัล
ขณะเดียวกัน จอมเวทมืดด้านนอกโถงหลักคอยตรึงอัศวินอาณาจักรอื่นรวมถึงกลุ่มเด็กสาวที่ถูกเลือกของรีเบคก้าไว้
การทรยศของแอ็กนัสและความแข็งแกร่งที่ไม่คาดฝันจากดูรันดัล สองสิ่งนี้คือปัจจัยที่ทำให้แผนการของวิหารยาธานเริ่มคลาดเคลื่อนไปจากเดิม
‘พวกเรายังพอมีหวัง!’
ตระกูลราชวงศ์ที่มีค่าวิสัยทัศน์ค่อนข้างสูงเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
พวกเขาประเมินว่า หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างสามัคคี ยังพอจะเหลือช่องทางให้ฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ ด้วยความคิดเช่นนี้ ทุกอาณาจักรจึงสั่งการอัศวินของตนให้รีบกำจัดจอมเวทมืดที่อยู่ใกล้
ทว่า บุคคลเดียวที่พลิกผันสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ปรากฏตัว
ข้ารับใช้ยาธานลำดับเจ็ด ฮิลล์
ความสิ้นหวังถูกสลักบนใบหน้าทุกคนเมื่อชายร่างท้วมวัยกลางคนปรากฏตัว ณ ใจกลางสนามรบแสนดุเดือด
“ฮิฮิ! คิฮิฮิ! อลิเบิร์น! ฉันทำสำเร็จแล้ว!”
ฮิลล์หัวเราะอย่างชั่วร้ายพลางหินก้อนใหญ่ที่มีดาบปักอยู่ลงบนพื้น
ทั้งสันตะปาปาดาเมี่ยน เหล่าอาวุโสรีเบคก้า รวมถึงบุตรีแห่งรีเบคก้า ดวงตาของทุกคนพลันเบิกโพลงอย่างพร้อมเพรียง
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะดาบศักดิ์สิทธิ์ที่เทพธิดารีเบคก้าทรงประทานให้สันตะปาปาคนแรกกำลังตกอยู่ในมือวิหารยาธานแสนชั่วช้า
ดาเมี่ยนได้รับภารกิจใหม่ทันที
[ ทวงคืนดาบศักดิ์สิทธิ์ ]
ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกผนึกไว้ ดาบเล่มที่เทพธิดารีเบคก้าประทานให้แก่สันตะปาปาคนแรก ปัจจุบันตกอยู่ในเงื้อมมือของวิหารยาธานแสนชั่วร้าย
ดาบศักดิ์สิทธิ์คือสัญลักษณ์ของเทพธิดารีเบคก้าและเป็นสิ่งพิสูจน์ตัวตนสันตะปาปา ท่านต้องนำมันกลับคืนมาให้ได้!
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : นำดาบศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมา
รางวัลสำเร็จภารกิจ :
- พรจากเทพธิดารีเบคก้าหนึ่งข้อ
- ความสัมพันธ์กับอาวุโสรีเบคก้าเพิ่มขึ้นถึงค่าสูงสุด
- สาวกทุกคนจะยอมรับนับถือในตัวท่าน
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :
- สาวกจำนวนมากจะเสื่อมศรัทธาที่มีต่อโบสถ์รีเบคก้าและขอถอนตัว
- ท่านจะหมดสิทธิ์ในการดำรงตำแหน่งสันตะปาปาเป็นการถาวร
- เทพธิดารีเบคก้าจะผิดหวังในตัวท่าน
- เลเวล -5
ตัวเขาจะทำอะไรได้อีกในสภาพถูกกักขังเช่นนี้?
ท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหล ดาเมี่ยนสวดภาวนาเพื่อให้เทพธิดาช่วยชี้ทางสว่าง
ทว่า เทพธิดารีเบคก้ายังคงเงียบงัน
“อึก…”
แม้กำลังกังวลว่าภารกิจอาจล้มเหลว แต่สายตาดาเมี่ยนกลับเอาแต่จ้องมองอิสซาเบลกับไอรีนตลอดเวลา เขาหวังจากก้นบึ้งของหัวใจให้บุคคลสำคัญของตนและกริดรอดกลับไปอย่างมีชีวิต
ฝ่ายโบสถ์จะทนการบุกถล่มจากวิหารยาธานได้อีกนานแค่ไหนกัน?
ทุกสิ่งยิ่งแย่ลงเมื่ออลิเบิร์นเริ่มพิธีร่ายคำสาปใส่ดาบศักดิ์สิทธิ์
เพียงพริบตาเดียว นักบวชรีเบคก้า พาลาดิน อาวุโส รวมถึงบุตรีแห่งรีเบคก้าด้านนอกม่านทมิฬทุกคน พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราเริ่มถูกดูดกลืนออกจากร่าง
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,264
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😊😄😆
กริด วาปมาได้แล้ว🚀
ReplyDeleteใช่ๆ มันเริ่มจะยุ่งเหยิงขึ้นทุกทีแล้วว
Deleteโดยส่วนตัวแอ็กนัสไม่ใช่คนเลวและไม่ใช่คนดี แต่เขาแค่โทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องแฟนสุดที่รักได้เขาโกธรความอ่อนแอของตัวเองแอ็กนัสต้องการลืมสิ่งที่เจ็บปวดเหมือนกับการหลอกตัวเองอยู่ทุกวัน
ReplyDeleteใช่
Deleteแอกนัสมันต้องการหินคึนชีพ มันก็เลยต้องเข้าฝ่ายยาธารไง ถ้าที่โบสมีหินคึนชีพ มันคงเข้าโบสไปแล้ว
Delete