จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 852
สวาปามจกบัลเผ็ดมีเครือข่ายข้อมูลจำนวนมากจากแรงเกอร์ในแต่ละคลาส
ข้อมูลคือปัจจัยสำคัญในการเป็นหัวหน้าใหญ่ของบลัดคาร์นิวัล และด้วยข้อมูลมหาศาลที่เขาครอบครอง สวาปามจกบัลเผ็ดจึงทรงพลังยิ่งกว่าที่หลายคนคาดคิด
“ไอ้เวรตะไล! ปล่อยมือจากเด็กคนนั้นเดี๋ยวนี้!”
วาบ!
ร่างของสวาปามจกบัลเผ็ดอาบด้วยแสงสีเขียวสว่างขณะพรุ่งปรี่เข้าหาแอ็กนัส
ดาบยาวและชุดเกราะมิธริลส่องประกายเงางามท่ามกลางจุดกำเนิดแสงที่ถูกติดไว้ทั่วดันเจี้ยน
ใช่แล้ว มิธริลคือโลหะศักดิ์สิทธิ์ สวาปามจกบัลเผ็ดกำลังสวมใส่ยุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับรับมืออันเดดเต็มรูปแบบ
เขาเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อทราบว่าผู้บุกรุกคือแอ็กนัส การเป็นหัวหน้าบลัดคาร์นิวัลได้มอบความมั่งคั่งและไอเท็มสวมใส่คุณภาพสูงหลากหลายชิ้น
ด้วยดาบ ‘ลัวร์เบลสซิ่ง’ ในมือ รวมถึงชุดเกราะเกรดยูนีคที่สร้างจากมิธริล สวาปามจกบัลเผ็ดทำลายกองทัพอันเดดของแอ็กนัสที่ยืนขวางทางอย่างง่ายดาย
ลักษณะพิเศษของนักสร้างดันเจี้ยนที่จะแข็งแกร่งเมื่อต่อสู้ในถิ่นตนเอง ถูกหลอมรวมเข้ากับสุดยอดไอเท็มที่ชนะทางศัตรู ก่อเกิดเป็นพลังคุกคามมหาศาลระเบิดใส่แอ็กนัส
“คิคิก! ไปทางไหนก็เจอแต่พวกน่ารำคาญ…”
แอ็กนัสตัดพ้อเล็กน้อย แต่รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงไม่จางหาย มันแสดงสีหน้าผ่อนคลายราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่ สิ่งนี้ได้กระตุ้นต่อมโทสะสวาปามจกบัลเผ็ดอย่างจัง
“หุบปาก!”
สวาปามจกบัลเผ็ดแผ่จิตสังหารรุนแรง ไม่ว่ายังไง วันนี้มันต้องเอาชีวิตแอ็กนัสให้จงได้ เขารีบพุ่งลดระยะเพื่อเข้าประชิดตัวแอ็กนัสที่ไม่ยอมปล่อยมือจากอลิซาเบธ
สวาปามจกบัลเผ็ดต้องการให้ใบหน้าเอ้อระเหยนั่นถูกสลักด้วยความหวาดกลัว
แต่ในความเป็นจริง การประชิดตัวแอ็กนัสไม่ใช่เรื่องง่าย
แกร่ก! แกร่ก!
ฝูงโครงกระดูกผุดขึ้นจากพื้นดินไม่หยุดหย่อน คอยเกี่ยวแข้งพันขาสวาปามจกบัลเผ็ดอย่างต่อเนื่อง
แถมไม่ใช่โครงกระดูกธรรมดา แต่เป็นถึงโครงกระดูกนักรบ ศัตรูตัวฉกาจที่รับมือได้ยากในสายตาแรงเกอร์หลายคน
เนื่องด้วยความเป็นสัตว์อัญเชิญที่แข็งแกร่งและทนทาน โครงกระดูกนักรบจึงสิ้นเปลืองค่าพลังปกครองมาก หมอผีแรงเกอร์ส่วนใหญ่อัญเชิญได้ไม่เกินสองตนในคราวเดียว แต่แอ็กนัสกลับเสกได้มากถึงสี่ ส่งผลให้สวาปามจกบัลเผ็ดถูกลุมร้อมจากทุกทิศ
หากบุคคลที่เคยเห็นฝีมือสวาปามจกเผ็ดในงานแข่งนานาชาติผ่านมาเห็นภาพนี้เข้า พวกเขาคงงงเป็นไก่ตาแตก เหตุใดตัวตนที่ทรงพลังเช่นนั้นถึงตกที่นั่งลำบากเอาได้
แต่ขณะเดียวกัน ฝ่ายที่วิกฤติมิได้มีเพียงสวาปามจกบัลเผ็ด แอ็กนัสเริ่มสัมผัสถึงลางร้าย มันรีบปล่อยมือจากคอเสื้ออลิซาเบธโดยพลัน
“โปรยซีเมนต์!”
สวาปามจกบัลเผ็ดพันธนาการฝูงโครงกระดูกนักรบด้วยหนึ่งทักษะ จากนั้นก็พุ่งเข้าหาแอ็กนัสพลางฟันใส่ด้วยท่า ‘ผ่าอิฐ’
หากแอ็กนัสยังคว้าคอเสื้ออลิซบาเบธไว้เช่นเดิม แขนของมันอาจถูกหั่นเป็นสองท่อนไปแล้ว
เมื่อแอ็กนัสเลือกความปลอดภัยเป็นอันดับแรก การโจมตีจากสวาปามจกบัลเผ็ดจึงพลาดเป้า
มันหัวเราะด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“คิคิก! คิฮ่าฮ่าฮ่า! แกเองก็เป็นหนึ่งในพวกมันงั้นหรือ?”
“พวกมัน?”
“สวาปามจกบัลเผ็ดขมวดคิ้ว
“พวกสัตว์ประหลาดที่พลิกสถานการณ์ได้ด้วยเวลาเพียง 0.1 วินาที คิคิคิก!”
แอ็กนัสอธิบายอย่างใจเย็นพลางชักดาบฟาดฟัน
มันกำลังหวังให้หนึ่งในสามสุดยอดทักษะติดตัวสายโจมตีอย่าง ‘อำนาจปกครอง’ ทำงาน
[ อำนาจปกครอง ]
เกรด : SSS
หนึ่งในทักษะติดตัวสายโจมตี เคียงคู่มากับ ‘บัญชาแห่งเทพ’ และ ‘เขตแดน’
พลังโจมตีทางกายภาพเพิ่มขึ้น 20% ถาวร ความรุนแรงทักษะและเวทมนตร์เพิ่มขึ้น 10% ถาวร
การโจมตีธรรมดามีโอกาส 30% ที่จะโจมตีรุนแรงเป็นสองเท่า
สวาปามจกบัลเผ็ดต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลเมื่อแอ็กนัสเริ่มเอาจริง
‘เหมือนกับในข่าวลือไม่มีผิด!’
สีหน้าสวาปามจกบัลเผ็ดเริ่มดำมืดลงขณะใช้ดาบปัดป้องการโจมตีจากแอ็กนัส
เขาสัมผัสถึงความทรงพลังของอีกฝ่าย ทั้งที่เป็นผู้เล่นคลาสสายเวทมนตร์อย่างหมอผี แต่กลับมีพลังโจมตีระดับนักรบ
กระนั้น จิตใจสวาปามจกบัลเผ็ดมิได้ถูกสั่นคลอน ข้อมูลเกี่ยวกับสุดยอดทักษะติดตัวสายโจมตีคือสิ่งที่เขารับรู้ล่วงหน้า
นี่คือความแตกต่างของผู้ที่ ‘รู้’ กับ ‘ไม่รู้’
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนพ่ายแพ้ต่อแอ็กนัสราบคาบ เพราะพลังของมันมิอาจคาดเดาได้ด้วยสามัญสำนึกปรกติ และถึงสวาปามจกบัลเผ็ดจะทราบล่วงหน้า แต่ใช่ว่าการรับมือจะทำได้ง่าย
ข้อมูลที่มีนั้นเป็นของเก่า
‘อะไรกัน?’
สีหน้าของสวาปามจกบัลเผ็ดเริ่มขาวซีดเมื่อการดวลดำเนินไปถึงดาบที่สี่
[ ‘ลัวร์เบลสซิ่ง’ ติดคำสาปอสูร ]
[ พลังศักดิ์สิทธิ์ภายในลัวร์เบลสซิ่งถูกระงับชั่วคราว ]
[ ความคงทนของลัวร์เบลสซิ่งลดลง 27 หน่วย ]
[ พลังโจมตีของลัวร์เบลสซิ่งลดลง 50% เป็นเวลา 20 วินาที ]
อะไรอีก?
คำสาปที่เสื่อมประสิทธิภาพอาวุธ?
นัยน์ตาสวาปามจกบัลเผ็ดเริ่มสั่นระริกขณะใช้ดาบปัดป้องอย่างเต็มกลืน ลัวร์เบลสซิ่งกำลังเสื่อมประสิทธิภาพลงในทุกวินาที
เสียงแอ็กนัสดังกังวาลก้องดันเจี้ยน
“คิดว่าแกมีอาวุธแก้ทางคนเดียวรึไง?”
เป็นที่แน่ชัดแล้ว แอ็กนัสทราบถึงวิธีรับมือกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์
ดาบในมือสวาปามจกบัลเผ็ดที่อ่อนแรงลงลงทุกขณะ พุ่งแทงเสียบช่องท้องแอ็กนัสอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพนัก กลับกัน ดาบทรงพลังจากแอ็กนัสได้ฟันสับใส่หัวไหล่อย่างรุนแรง
หากมองผิวเผิน สวาปามจกบัลเผ็ดคงเป็นฝ่ายได้รับบาดเจ็บมากกว่า แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ อาการบาดเจ็บเกิดขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน
พลังของทักษะติดตัว ‘อำนาจปกครอง’ ช่วยส่งเสริมให้วิชาดาบเฉียบคมขึ้นหลายระดับก็จริง แต่ทุกคลาสย่อมมีพื้นฐานแตกต่างกัน หมอผีที่เป็นคลาสจอมเวทย่อมมีพลังโจมตีทางกายภาพไม่สูงนัก ส่งผลให้ความเสียหายมิอาจทะลวงผ่านพลังป้องกันของนักสร้างดันเจี้ยนที่ต่อสู้ในถิ่นถนัด
นักสร้างดันเจี้ยนคือคลาสชนชั้นกรรมกรเหมือนกับผู้สืบทอดแพ็กม่า ค่าความอดทนและพละกำลังย่อมสูงระดับสัตว์ประหลาดเหมือนกริด ถึงดาบจะเสื่อมประสิทธิภาพลง แต่พละกำลังดิบก็มากพอจะสร้างความเสียหายในปริมาณมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ชุดเกราะมิธริลยังมีเอฟเฟคศักดิ์สิทธิ์คงเดิมทุกประการ
ทว่า ปัญญาหาของสวาปามจกบัลเผ็ดในตอนนี้ก็คือ…แอ็กนัสมิได้ต่อสู้ตามลำพัง
“…!”
สวาปามจกบัลเผ็ดสัมผัสถึงบางสิ่งได้จากด้านหลัง เขาพลันขนลุกไปทั่วร่างขณะเหลียวกลับไปมอง
อัศวินความตายกำลังปรี่เข้ามาหาด้วยความเร็วสูง
เพื่อเตรียมรับมือการโจมตีสุดทรงพลังจากอัศวินความตาย สวาปามจกบลเผ็ดมิได้คิดปัดป้องหรือหลบหลีกดาบจากแอ็กนัสแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นเป็นความผิดพลาดที่ถูกแอ็กนัสลงโทษ
ข้อความระบบจำนวนมากไหลผ่านเป็นสายน้ำ
[ ชุดเกราะมิธริลโซเซียวซันติดคำสาปอสูร ]
[ เกราะกางเกงมิธริลโซเซียวซันติดคำสาปอสูร ]
[ พลังศักดิ์สิทธิ์ภายในชุดเกราะมิธริลโซเซียวซันถูกระงับชั่วคราว ]
[ พลังศักดิ์สิทธิ์ภายในเกราะกางเกงมิธริลโซเซียวซัน… ]
[ ความคงทนของชุดเกราะมิธริลโซเซียวซันลดลง 47 หน่วย ]
[ ความคงทนของเกราะกางเกงมิธริลโซเซียวซัน… ]
[ พลังป้องกันของชุดเกราะโซเซียวซันลดลง 20% เป็นเวลา 20 วินาที ]
[ พลังป้องกันของเกราะกางเกงมิธริลโซเซียวซัน… ]
“อะไรกัน…”
คำสาปไม่ได้มีผลแค่อาวุธ แต่รวมถึงชุดเกราะด้วย?
ขณะเดียวกัน อัศวินความตายฉวยโอกาสโจมตีใส่สวาปามจกบัลเผ็ดที่กำลังผงะ
“อั่ก!”
เกิดระเบิดทรงอานุภาพขึ้นเมื่อดาบของสวาปามจกบัลเผ็ดปะทะอาวุธอัศวินความตาย ดันเจี้ยนเจรัดที่หกเกิดแรงสั่นสะเทือนระลอกใหญ่
อัศวินความตายไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย มันโหมกระหน่ำโจมตีโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ลืมตาอ้าปาก คมดาบจากสองทิศทางรุมเสียดแทงจนพลังชีวิตของสวาปามจกบัลลดลงถึงระดับอันตราย
แม้จิตใจต้องการโจมตีตอบโต้ แต่ดีบัฟคำสาปอสูรที่น่ารำคาญคอยปั่นป่วนจนเขาเริ่มท้อแท้
“คุณลุง!”
ลุงคนนี้เลี้ยงดูเธอตั้งแต่ยังเล็ก เปรียบประหนึ่งบิดามารดาบังเกิดเกล้า
ถึงภายนอกเธอจะปฏิบัติตัวเหมือนเพื่อนสนิท แต่ความจริงแล้ว เธอคอยเฝ้ามองแผ่นหลังด้วยความเคารพมาตลอด อลิซาเบธไม่ต้องการเห็นคุณลุงที่สุขุมเยือกเย็นต้องตกที่นั่งลำบากขนาดนี้
นี่อาจเป็นแค่เกม แต่สีหน้าเจ็บปวดของคุณลุงได้ระคายเคืองหัวใจเธออย่างมาก และยังมีบทลงโทษความตายที่รุนแรงนั่นอีก
อลิซาเบธตะโกนขึ้น
“เข้าใจแล้ว! ฉันจะเจียระไนศิลาแห่งชีวิตให้นาย! หยุดทำร้ายคุณลุงเดี๋ยวนี้!”
ได้ผล แอ็กนัสชะงักงันไปทันที แต่ทางสวาปามจกบัลเผ็ดกลับมิได้หยุดมือ
“กล้ามองไปทางอื่นขณะสู้กับฉันเชียวหรือ? แย่หน่อยนะที่ฉันเป็นพวกไร้ศักดิ์ศรี!”
“…!”
ครืนนนนน!
เกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น
ดันเจี้ยนสั่นสะเทือนอย่างหนักราวกับแผ่นดินไหว ผนังและเพดานเริ่มเคลื่อนที่และสลับสับเปลี่ยนรูปร่าง นี่คือทักษะ ‘เปลี่ยนโครงสร้างดันเจี้ยนฉับพลัน’ ที่สวาปามจกบัลเผ็ดได้รับเมื่อเลเวลอัพถึง 325
[ เปลี่ยนโครงสร้างดันเจี้ยนฉับพลัน Lv.1 ]
เปลียนโครงสร้างดันเจี้ยนที่ท่านสร้างเป็นการชั่วคราว
โครงสร้างดันเจี้ยนจะถูกเปลี่ยนแบบสุ่ม ทุกสิ่งมีชีวิตในดันเจี้ยนจะมิอาจต้านทานอาการ ‘สับสน’ และ ‘โดดเดี่ยว’
แม้แต่ผู้ใช้งานก็ไม่รอดพ้นอาการผิดปรกติ
* สามารถกดหนดบางจุดให้ไม่ถูกเปลี่ยนได้
* สามารถสั่งให้ดันเจี้ยนคืนสภาพได้ทันที
ทรัพยากรที่ใช้ : 20% ของมานาปัจจุบัน
ระยะหน่วงหลังใช้ : 6 ชั่วโมง
ทักษะสุดอันตรายที่แม้แต่ผู้ร่ายก็ไม่ปลอดภัย
มีหลายปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่เหมาะสำหรับใช้ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้
“ค…คุณลุง…!”
“อึก!”
ภาพการมองเห็นของแอ็กนัส สวาปามจกบัล และอลิซาเบธเริ่มพร่ามัว
ทักษะติดตัวคลาสระดับตำนานของแอ็กนัสก็ไม่ช่วยเหลือ แต่ฝ่ายสวาปามจกบัลเผ็ดและอลิสซาเบธต่างหลุดพ้นจากอาการผิดปรกติได้รวดเร็วเพราะเอฟเฟคของแหวน ‘เจล·ดีน่า’ ที่ทั้งสองสวมอยู่
เป็นแหวนมูลค่าสูงที่อลิซาเบธสร้างขึ้นเองกับมือ
“บ๊กจา!”
“คุณลุง!”
สวาปามจกบัลเผ็ดและอลิซาเบธจับคว้าแขนซึ่งกันและกันหลังจากหลุดพ้นอาการผิดปรกติได้เร็วกว่าแอ็กนัส
พวกเขาวิ่งหนีสุดชีวิตโดยไม่เหลียวหลังกลับไปมอง ปล่อยให้แอ็กนัสถูกโครงสร้างใหม่ของดันเจี้ยนกักขังไว้ชั่วคราว
จุดหมายคือทางออกดันเจี้ยน
อลิซาเบธไม่ดึงดันจะอยู่ที่ห้องทำงานอีกต่อไป แม้การสูญเสียห้องทำงานจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตของคุณลุงอีกแล้ว
ทั้งสองมั่นใจว่าสามารถหลุดพ้นจากการตามล่าของแอ็กนัสได้
แต่น่าเสียดายที่นั่นไม่เป็นจริง
“คิคิก! คิคิคิ!”
แอ็กนัสหลุดพ้นจากอาการผิดปรกติในเวลาถัดมา
เมื่อเห็นอลิซาเบธและสวาปามจกบัลเผ็ดหันหลังวิ่งหนี มันรีบตะโกนขึ้น
“อัญเชิญอสูร!”
ตามชื่อของคลาส ‘ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล’ แอ็กนัสคือผู้เล่นที่ได้ทำสัญญากับ ‘บาเอล’ จอมอสูรลำดับหนึ่ง
“ดิวเลบุล”
พลังที่แท้จริงของผู้ทำพันธสัญญากับบาเอลคือการอัญเชิญและควบคุมอสูร มิใช่อันเดด
แต่ทักษะที่เกี่ยวข้องกับอสูรจะปรากฏหลังจากกลายเป็นคลาสเกรดเลเจนดารีแล้วเท่านั้น อสูรตนใหม่ของแอ็กนัสอ้าปากกว้างพลางสะสมพลังไว้ในปาก จากนั้นก็ยิงลำแสงใส่แผ่นหลังสองลุงหลานเป็นเส้นตรง
“บ๊กจา!”
หลานของตนตกกำลังอยู่ในอันตราย
สวาปามจกบัลเผ็ดใช้ตัวเองเป็นกำบังโอบกอดอลิซาเบธไว้อย่างแนบแน่น ร่างกายของนักสร้างดันเจี้ยนผู้ถึกทนพลันต้องหมดสภาพและเปี่ยมด้วยบาดแผลทันที
***
‘ยองวูจะรู้รึยังนะ?’
ยูร่าครุ่นคิดขณะเดินทางกลับจากขุมนรก
NPC ที่เหมือนกริดต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับกริดแน่ แต่ยูร่าประเมินว่า กริดคงไม่ทราบถึงตัวตนอีกฝ่ายในขุมนรก ไม่อย่างนั้น กริดคงออกปากเตือนเธอตั้งแต่ก่อนจะเดินทางลงสู่ขุมนรกแล้ว
ซึ่งกริดไม่เคยพูดถึงมันเลย
‘ต้องรีบไปบอกยองวู’
เธอไม่ต้องการคำอธิบาย ไม่ต้องการเข้าใจเรื่องราว ยูร่าเพียงต้องการบอกให้กริดทราบถึงตัวตน NPC ร่างมืดแปลกประหลาดในขุมนรก
'จากนั้นจะขอพักผ่อนสักสองสามวัน'
อาการล้าของยูร่าสะสมติดต่อกันนานหลายเดือนแล้ว เป็นผลจากการเก็บเลเวลอย่างบ้าคลั่งในขุมนรก
ถึงร่างกายจะพักฟื้นได้จากการกินอาหาร แต่จิตใจของผู้เล่นมิอาจฟื้นฟูได้ด้วยปัจจัยในเกม
วิวทิวทัศน์อันรกร้างแห้งแล้งของขุมนรกได้ฝังลงในใจเธอนานหลายเดือน บรรยากาศที่น่าอึดอัดและขยะแขยง สิ่งนี้คือเหตุผลที่จิตใจต้องได้รับการเยี่ยวยาโดยด่วน
แต่เธอมีปัญหาที่ใหญ่กว่าในตอนนี้
นักล่าอสูรจะไม่เฉิดฉายเท่าที่ควรหากเลเวลยังเพิ่มไม่ถึงระดับ 320 ยูร่าน้อยเนื้อต่ำใจที่คลาสของเธอแสดงพลังได้ไม่น่าพึงพอใจแม้จะอยู่ในขุมนรก เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้สภาพจิตใจถดถอย การนำตัวเองไปเปรียบกับตำนานอื่นรังแต่จะทำให้ทุกสิ่งแย่ลง
'เราอาจมีพลังทัดเทียมอริยดาบหรือผู้สืบทอดแพ็กม่าในขุมนรก แต่ว่า…'
ซาทิสฟายมิได้มีเพียงขุมนรก ยูร่าไม่สามารถจมปลักอยู่กับขุมนรกได้ชั่วชีวิต
สิ่งนี้ทำให้เธอท้อแท้เมื่อมองว่าตำนานที่เหลือสามารถแสดงพลังเต็มประสิทธิภาพได้ทุกสภาพแวดล้อม
‘ทุกสิ่งจะดีขึ้นหลังจากเราทำภารกิจประจำคลาสเสร็จรึเปล่านะ? แต่ยองวูก็ยังทำภารกิจคลาสไม่เสร็จเหมือนกัน…และครอเกลก็คงไม่ หรือเรามองข้ามอะไรไป?’
ขณะเดินทางกลับไรนฮาร์ท ฝีเท้าของยูร่าหนักแน่นและเปี่ยมด้วยความกังวล
แต่ความงดงามที่ทำให้บรรยากาศรอบข้างมัวหมองและกลายเป็นสีเทายังคงอยู่ ทุกคนที่ผ่านไปมาต่างเหลียวมองด้วยความชื่นชม
กระนั้น ยูร่าไม่ต้องการให้ผู้อื่นชื่นชมเธอด้านความงาม ฝีมือต่อสู้ต่างหากที่เธอต้องการ
จนกระทั่งโอกาสมาถึงอย่างไม่คาดฝัน
[ อสูรปรากฏตัวบนโลกมนุษย์! เป็นอสูรระดับสูงที่มีมนตร์ดำทรงพลัง ]
[ ท่านได้รับทักษะใหม่ ‘แกะรอยอสูร’ ]
[ภารกิจประจำคลาสที่สี่ ‘อริเก่า’ ถูกสร้างขึ้น]
[ จงเอาชนะผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล ]
“ภูเขาเจรัด!”
เป็นโชคจากฟากฟ้างั้นหรือ?
พิกัดของอสูรอยู่ใกล้กับเธอมาก ยูร่ารีบมุ่งหน้าตรงไปยังภูเขาเจรัดด้วยสีหน้ามั่นใจ
แม้แอ็กนัสจะแข็งแกร่งเทียบเท่ากริด แต่ในฐานะนักล่าอสูร เธอจัดการแอ็กนัสได้ง่ายกว่ากริดมาก
โอกาสได้รับชัยชนะมีไม่น้อยในศึกนี้
...
ขณะเดียวกัน
“ทางนี้แน่นะ?”
“นายจะถามย้ำทำไมตั้งสามรอบ? ใจเย็นน่า อีกเดี๋ยวพวกเราก็ถึงที่หมายแล้ว”
“…”
“ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ฉันเสียใจ”
“…ถูกต้อง นายต้องเสียใจ! ทำหน้าสำนึกผิดกว่านี้อีก! ไม่อย่างนั้นฉันจะด่านาย”
“…”
กริดและบุลเล็ตยังคงเตร็ดเตร่บนถนน
ชายหนุ่มมิได้หงุดหงิดใจหลังจากเสียเวลาเดินทางไปมากกว่าที่คิด
ระหว่างทางที่เดินผ่านมา เขาสร้างกางเกงในได้หลายตัว แถมการสนทนากับบุลเล็ตยังทำให้ได้ทราบสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง
ความสัมพันธ์คนทั้งสองดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,261
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เม้นแรก(ยังไม่ทันอ่าน เม้นก่อน)
ReplyDeleteขอบคุณครับ🙏
5555 เอาที่สบายใจ ขอเพียงได้อ่าน ก็อารมณ์ดีแล้ว ขอบคุณครับแอด
Delete🤭
Delete👍
สนุกมากขอบคุณครับ🙏😆
ReplyDeleteมีแย่งกันเม้นด้วย
ReplyDeleteยูร่าสู้ๆถึงจะสู้ไม่ได้ก็เถอะ แต่กริดได้เป็นพระเอกขี่ม้าขาวในฉากต่อไปแน่ละแบบนี้
ReplyDelete