จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 865
[ ★ภารกิจลับ★ วาติกันเกิดวิกฤติ ]
[ ประวัติศาสตร์ของทวีปจะเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของเรื่องราวครั้งนี้ ]
[ ในฐานะผู้เข้าร่วม ‘★ภารกิจลับ★ วาติกันเกิดวิกฤติ’ ท่านได้รับค่าสถานะทุกชนิด 2 แต้มและความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 1% เป็นการถาวร ]
[ ท่านสามารถนำประสบการณ์ครั้งนี้ไปขายแก่นักกวีทั่วทั้งทวีปเพื่อทำเงินก้อนโต ]
[ ท่านกำลังอยู่ระหว่าง ★ภารกิจลับ★ หนีรอดจากความตาย ]
[ หนีรอดจากความตาย ]
★ภารกิจลับ★
หน้าที่ของท่านคือคุ้มกันไอรีนและลอร์ด
จงพาไอรีนและลอร์ดไปจากวาติกันที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นสนามรบโดยฝีมือวิหารยาธาน
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : คุ้มกันไอรีนและลอร์ดให้ออกนอกโถงจัดงานเลี้ยงอย่างปลอดภัย
รางวัลสำเร็จภารกิจ :
- ไอรีนจะไม่มีวันลืมความกล้าหาญของท่าน
- ชื่อเสียงในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ถูกก่อตั้งและปกครองโดยผู้เล่น ‘กริด’ ท่านจะได้รับรางวัลมูลค่าสูงจนมิอาจประเมินค่าได้ ขึ้นอยู่กับผลงานของท่าน
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว :
- ถูกปลดจากการเป็นอัศวินอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
- ถูกขับไล่จากอาณาจักรโอเวอร์เกียร์
- เลเวล -5
※ ภารกิจย่อย (1) ※
สังหารจอมเวทมืด (0/150)
รางวัลภารกิจย่อย : พละกำลัง +10
* เลเวลเฉลี่ยผู้เล่นในวาติกันคือ 301
* เลเวลเฉลี่ยจอมเวทมืดคือ 275
※ ภารกิจย่อย (2) ※
รอดชีวิตโดยเหลือพลังชีวิตต่ำกว่า 10%
รางวัลภารกิจย่อย : ค่าความอดทน +20
※ ภารกิจย่อย (3) ※
ปกป้องไอรีนให้มีพลังชีวิต 100% เต็ม
รางวัลภารกิจย่อย : ได้รับสมญานาม ‘ผู้ปกป้อง’
“แค่ก…”
ในสถานการณ์แสบบีบคั้น ภารกิจลับปรากฏต่อหน้าโค้กโดยไม่ทันตั้งตัว
รางวัลตอบแทนน่าสนใจมาก แต่โค้กกลับไม่ดีใจเลยสักนิด เขาอ่านมันด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
‘เราจะฝ่าออกไปยังไง?’
โค้กยังมองไม่เห็นหนทางที่จะฝ่าออกไปพร้อมไอรีนและลอร์ด
เขาย่อมต้องการให้คนทั้งสองปลอดภัย ไม่ใช่เพราะภารกิจ แต่ในฐานะอัศวิน
‘เราคงสู้สาวกยาธานจำนวนมากขนาดนี้ไม่ได้แน่’
พวกมันรบเป็นกลุ่มใหญ่ เตรียมกำลังพลมากมายเพื่อบดขยี้วาติกัน หนึ่งในขั้วอำนาจใหญ่บนทวีปตะวันตก เดาไม่ได้ยากเลยว่า NPC ฝ่ายวิหารยาธานจะแข็งแกร่งมากเพียงใด โค้กมิอาจฝ่าฝูงพวกมันออกไปได้ด้วยพลังของผู้เล่นคลาสระดับสามเพียงลำพัง
‘ทางเข้ามีแอ็กนัสและโรสเฝ้าอยู่…’
เหตุการณ์ไม่เป็นใจเลยสักนิด โค้กอาจเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของรุคกี้ยุคสมัยที่สาม แต่เขามิใช่แรงเกอร์แถวหน้าของโลก แต่ในทางกลับกัน โร้กและแอ็กนัสเป็น
พรสวรรค์ของทั้งสองเป็นที่หนึ่งในสายอาชีพของตน แถมยังมีเลเวลสูงกว่าโค้กมาก
เหนือสิ่งอื่นใด มีช่องว่างชนิดหนึ่งที่มิอาจกลบเกลื่อนได้ด้วยไอเท็ม—แอ็กนัสและโรสเริ่มเล่นซาทิสฟายตั้งแต่เปิดตัว
โค้กเดาว่า จำนวนภารกิจและบอสที่สองคนนี้เคยเผชิญหน้าต้องมีมากกว่าตนจนนับไม่หมด สิ่งนี้ทำให้เลเวลของโรสและแอ็กนัสสูงกว่า และยังมีไอเท็มและทักษะที่ดีกว่ามาก
‘แต่เราจะอยู่เฉยรอความตายไม่ได้’
โค้กชักดาบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพลางรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
เขาสามารถระบุหน้าที่และเป้าหมายของตนในวิกฤตินี้ได้แล้ว นั่นคือภารกิจสนับสนุนและปกป้อง ตนมิใช่ดาวเด่นหรือผู้กอบกู้ หน้าที่ของโค้กจึงเป็ฯการสนับสนุนขุนพลที่แข็งแกร่งเพื่อให้สถานการณ์ดำเนินผ่านไปด้วยดี
ชักสเล่ย์และรอยแมนกำลังปรึกษาหารือ
“บุตรีแห่งรีเบคก้ากำลังรับมือข้ารับใช้ยาธาน พวกเราต้องพึ่งพาพลังตัวเองเพื่อฝ่าวงล้อมอันเดดออกไป”
“ฉันก็คิดแบบเดียวกัน”
ความสนใจของชักสเล่ย์และรอยแมนมุ่งสู่แอ็กนัส
คาซิมเห็นด้วย เขาปรากฏกายจากเงาพลางกล่าวกับชักสเล่ย์
“กองทัพเงารายงานว่า มีกองทัพอันเดดจำนวนมากกำลังก่อความวุ่นวายนอกโถงจัดงานเลี้ยง หน่วยพาลาดินและเด็กสาวที่ถูกเลือกแห่งรีเบคคก้าเข้ามาช่วยไม่ได้เพราะเหตุนี้ บุคคลที่บงการอันเดดเหล่านั้นคือหมอผีที่ขวางทางออกไว้”
“หากบงการอันเดดจำนวนมากขนาดนี้ มันคงไม่เหลือพลังสำหรับปกป้องตัวเองแน่”
ขักสเล่ย์และพวกพ้องเริ่มประเมินสถานการณ์
ณ บันไดทางเข้าโถงหลัก อิสซาเบลกำลังปรี่เข้าโจมตีแอ็กนัสด้วยสายตาแน่วแน่
“เทพธิดาพิโรธ!”
เธอมีความคิดเหมือนกับชักสเล่ย์ แทบทุกคนในโถงใหญ่ล้วนเล็งจัดการแอ็กนัสเป็นลำดับแรก พวกเขาเชื่อมั่นว่าหมอผีที่กำลังบงการอันเดดจำนวนมากไม่มีทางปกป้องตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่น่าเสียดายที่ความจริงมิได้ง่ายขนาดนั้น
“คิคิก!”
แอ็กนัสหัวเราะเย้ยหยันบุตรีแห่งรีเบคก้าที่กำลังพุ่งใส่ มันไม่เกรงกลัวชื่อเสียงไร้เทียมทานของพวกหล่อนแม้แต่น้อย
ดาบในมือแอ็กนัสถูกยกเพื่อปัดป้องหอกไลฟาเอลอย่างแม่นยำ อิสซาเบลและคนในเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึง
เป็นเรื่องน่าฉงนไม่น้อยที่หมอผีใช้ดาบปัดป้องหนึ่งในสามศาสตราเทพไว้ได้
โค้กและผู้เล่นทุกคนในงานเลี้ยงต่างตะโกนประสานเสียง
“เจ้านั่นไม่ใช่หมอผีธรรมดา!”
“มันคือผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล!”
“ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล…?”
ขณะอิสซาเบลพึมพำ แอ็กนัสใช้ดาบเก่าสนิมเขรอะของมันฟาดฟันปะทะหอกไลฟาเอลในมือเธอ
ยิ่งเวลาผ่านไป พลังเทพจากหอกยิ่งถูกดูดกลืนจนเจือจาง
มีคำสาปที่สยบได้แม้กระทั่งพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดารีเบคก้าเชียว?
อิสซาเบลเริ่มมั่นใจว่าเป็นไปได้ เมื่อทราบว่าบุคคลผู้นี้คือผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล
“ความฝันหอมหวล”
โรส แรงเกอร์จอมเวทมืดอันดับหนึ่งและข้ารับใช้ยาธานลำดับแปด หล่อนงัดหนึ่งในทักษะไม้ตายออกมาใช้ เป็นมนตร์ดำที่สร้างความเสียหาย 10,000 หน่วยแบบคงที่แก่ทุกเป้าหมายในการมองเห็น แถมยังสร้างคำสาปใส่เป้าหมายที่ไม่มีพลังมนตร์ดำ ก่อให้เกิดอาการผิดปรกติจำพวกสับสน อ่อนแอ และเป็นใบ้
“อุก…อ๊ากกก!”
เสียงครวญครางดังจากทุกทิศ โดยเฉพาะบุคคลที่ไร้ค่าต้านทาน พวกเขาล้วนทรุดคุกเข่าลงกับพื้น
ขณะเดียวกัน ตระกูลราชวงศ์ที่เหลือ รวมถึงไอรีนและลอร์ด ยังคงปลอดภัยดี เหตุเพราะยังมีอัศวินโอเวอร์เกียร์จำนวนมากคอยยืนกำบังจนโรสมองไม่เห็นตัว
“ลูกจะปลอดภัย ลูกไม่เป็นอะไรแน่”
แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่น้ำเสียงของไอรีนกำลังสั่นระริกในยามโอบกอดบุตรชาย
เธอกังวลมาก แต่ก็ยิ้มอย่างงดงามและอบอุ่นมากเช่นกัน
“ท่านแม่…”
ลอร์ดสัมผัสถึงความกังวลและความรักจากมารดา เขาเปี่ยมด้วยความคิดแน่วแน่ที่จะปกป้องมารดาให้จงได้
โค้กที่เห็นลอร์ดลุกพรวดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์แสนโหดร้ายได้ขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล
‘เรานึกว่าเขาเป็นเด็กฉลาดเสียอีก’
โค้กเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับลอร์ดมากมาย ไม่ใช่ว่าเด็กคนนี้คืออัจฉริยะเหนืออัจฉริยะทั้งปวงหรอกหรือ?
ลอร์ดศึกษะทักษะลอบสังหารจากคาซิม ศึกษาพื้นฐานต่อสู้จากชาวนาในตำนานปิอาโร่ และศึกษาด้านวิชาการกับจอมปราชไฮเอลฟ์สติกส์
ว่ากันว่า พรสวรรค์ของลอร์ดสูงส่งกว่าผู้เป็นบิดาหลายเท่า แต่กระนั้น เด็กคนนี้ยังมีวัยเพียงหกขวบ ต่อให้ใช้ทักษะลอบสังหารได้ช่ำชอง แต่ค่าสถานะพื้นฐานอย่างพละกำลัง ความอดทน และความว่องไวก็ยังต่ำมากอยู่ดี
โค้กได้แต่ยืนฉงนเมื่อเห็นลอร์ดวิ่งตรงไปยังกลุ่มสาวกยาธานที่ยืนรายล้อมแอ็กนัสไว้
เขามองว่า ลอร์ดปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจิตใจจนขาดสติยั้งคิด
‘ช่วยไม่ได้ เด็กคนนี้อายุยังน้อย เราต้องคอยฉุดรั้งไม่ให้คลาดสายตาอีก’
โค้กรู้สึกกดดันยิ่งกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน คาซิมและชักสเล่ย์กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้เบื้องหน้า
ไม่มีใครกล่าวสิ่งใด ทั้งสองกำลังช่วยอิสซาเบลรับมือแอ็กนัสและโรส
ชักสเล่ย์เน้นโจมตีโรสเป็นพิเศษ หมายจะกีดกันเธอออกจากการทำร้ายอิสซาเบล ส่วนคาซิมลอบปรากฏตัวจากเงาด้านหลังแอ็กนัสพลางแทงมีดสั้นใส่
ฉึก—
“คิฮ่าฮ่าฮ่า!”
คงเป็นการยากที่จะระบุว่าแอ็กนัสกำลังหัวเราะหรือกรีดร้องกันแน่
แต่มีหนึ่งสิ่งที่ชัดเจน การโจมตีจากคาซิมสร้างความเสียหายปริมาณมากแน่นอน
นอกจากกริด แทบไม่มีผู้เล่นคนใดทนรับการโจมตีจาก NPC พิเศษเลเวลสูงกว่า 400 ไหว
เมื่อชักสเล่ย์และคาซิมดึงโรสกับแอ็กนัสออกจากทางเข้าโถงหลักสำเร็จ พวกเขาตะโกนขึ้นพร้อมกัน
“รอยแมน!”
“ขอรับ!”
กลุ่มอัศวินหนุ่มสาวที่มีรอยแมนและโค้ก ถึงเวลาแสดงฝีมือของพวกเขาแล้ว
ทุกคนพาไอรีนไปสมบทกับลอร์ดและล้อมกำบังเป็นวงกลม จากนั้นก็ช่วยกันปกป้องให้ทั้งสองวิ่งไปถึงประตูทางเข้าที่ว่างเปล่า
โรสและแอ็กนัสมิได้แยแสกลุ่มรอยแมนมากนัก ในสายตาพวกมัน ทั้งสองเป็นเพียงตระกูลราชวงศ์แสนธรรมดา เป้าหมายหลักของภารกิจครั้งนี้คือโบสถ์รีเบคก้าและวาติกัน
เนื้อหาภารกิจระบุไว้ชัดเจน ผลตอบแทนภารกิจจะขึ้นอยู่กับจำนวนสาวกรีเบคก้าที่สังหารได้ รวมถึงบุตรีรีเบคก้า สันตะปาปาดาเมี่ยน และหน่วยพาลาดิน
ทว่า ข้ารับใช้ยาธานที่เหลือมิได้คิดเช่นนั้น ข้ารับใช้ยาธานลำดับสาม อลิเบิร์น มันรีบตะโกนออกคำสั่ง
“อย่าปล่อยให้มีใครรอดกลับไปเด็ดขาด! พวกเราต้องฆ่าทิ้งให้เรียบเพื่อรักษาเกียรติยศของวิหารยาธานไว้!”
อลิเบิร์นเริ่มร่ายมนตร์ดำ ความพิเศษของมันคือ อลิเบิร์นสามารถเผาผลาญพลังใจและมานาของศัตรูให้สิ้นซาก
เหล่าสาวกรีเบคก้าที่ปราศจากมานาจึงตกสู่สถานการณ์สิ้นหวัง
“อ๊ากกก!”
นักบวชรีเบคก้าและพาลาดินต่างหน้าถอดสีพร้อมกันเมื่อพวกเขามิอาจร่ายเวทมนตร์ได้ด้วยมานาศูนย์หน่วย จอมเวทมืดเกือบพันคนที่กรูเข้ามาในโถงจัดงานเลี้ยงเริ่มเล็งโจมตีใส่ตระกูลราชวงศ์แต่ละอาณาจักร รวมถึงไอรีนและลอร์ด
“ศาสตร์มืด!”
“พวกแกคิดจะหนีไปไหน?”
เหล่าอัศวินหนุ่มสาวโอเวอร์เกียร์เริ่มตกที่นั่งลำบาก พวกเขาเล็งฟาดฟันอาวุธใส่ทุกคนที่เล็งโจมตีไอรีนกับลอร์ด
[ ท่านสังหารจอมเวทมืดของวิหารยาธาน ]
[ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 2,290,190 หน่วย ]
เลเวลเฉลี่ยของจอมเวทมืดจะเพิ่มขึ้นตามค่าเฉลี่ยเลเวลผู้เล่นทั่วโลกในปัจจุบัน โดยจะถูกเพิ่มระดับให้สูงกว่าเล็กน้อย
โค้กซึ่งห่างไกลจากค่าเฉลี่ยมากจึงสังหารพวกมันได้ไม่ยากเย็น
ทว่า ปัญหาคือจำนวน ไม่ว่าจะอัศวินโอเวอร์เกียร์จะฆ่าฟันมากเพียงใด แต่จอมเวทมืดยาธานจะผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับไม่มีวันหมด
เสียงร่ายมนตร์ดำอันน่าขนลุกดังก้องกังวาลทั่วห้อง
ลงเอยด้วย รอยแมนต้องคำสาปมนตร์ดำเข้าจนได้ เปลวเพลิงสีดำ โซ่พันธนาการ รวมถึงคำสาปนานาชนิดกระหน่ำโจมตีใส่กลุ่มของรอยแมนที่มีไอรีนและลอร์ดเป็นศูนย์กลาง
“องค์ราชินี! องค์ชาย!”
โค้กมีหน้าที่ต้องปกป้องพวกเขา ในหัวไม่คิดสิ่งอื่นนอกจากใช้ร่างกายเป็นกำบังให้ไอรีนและลอร์ด แผ่นหลังลูกผู้ชายของโค้กปะทะกับเวทมนตร์กลุ่มใหญ่โดยไร้สิ่งป้องกัน
หลอดพลังชีวิตโค้กลดฮวบลงเกินกว่าครึ่งในพริบตา แน่นอน ความเจ็บปวดจากคำสาปมิใช่เรื่องล้อเล่น
“แค่ก!”
“ป…เป็นอะไรรึเปล่า?”
ไอรีนพลันหน้าซีด เธอรีบไต่ถามโค้กที่ได้รับคำสาปเข้าไปเป็นจำนวนมาก
อัศวินหนุ่มฝืนยิ้มพลางกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด
“ผมจะตายไม่ได้จนกว่าพวกคุณทั้งสองจะปลอดภัย”
“เซอร์โค้ก…”
โลหิตไหลซึมจากร่องชุดเกราะด้านหลังและบริเวณเอว โค้กกังวลว่าไอรีนอาจเป็นห่วงตนเกินเหตุ จึงพยายามเก็บซ่อนบาดแผลบนแผ่นหลังไว้
โค้กรีบกลบเกลือนโดยการโจมตีใส่จอมเวทมืดอีกสองคนเพื่อเปิดเส้นทางหนี
“รีบหนีเร็วเข้า”
“อื้อ…”
ไอรีนไม่รีรอ เธอทราบดี อัศวินหนุ่มสาวเหล่านี้อาจตกที่นั่งลำบากหากตนไม่เร่งฝีเท้า
“ขอบคุณที่เข้าใจ”
โค้กอดทนต่อความเจ็บปวดขณะวิ่งไล่ตามไอรีนจากด้านหลัง ทันใดนั้น เสียงที่ตนคุ้นหูดังแว่วขึ้น
“องค์ราชินี!! องค์ชายลอร์ด!”
“องค์ชาย ท่านอยู่ที่ใด?”
เป็นเสียงของกลุ่มเด็กสาวที่ถูกเลือกแห่งรีเบคก้า ลอร์ดพยายามตอบกลับเพื่อให้พวกเธอสบายใจ แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ
“พวกแกจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่!”
ข้ารับใช้ยาธานลำดับสี่ ซิลเวนัส มันพุ่งโฉบมาหยุดตรงหน้าไอรีนและลอร์ดด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
ซิลเวนัสส่งเสียงหัวเราะชั่วร้ายพลางชักอาวุธออกมาถือ โดยเล็งปลายอาวุธนั้นไปยังปากทางเข้าโถงหลักซึ่งอยู่ด้านหลัง มนตร์ดำกลุ่มก้อนหนึ่งพุ่งจากอาวุธปะทะใส่กลุ่มเด็กสาวที่ถูกเลือกอย่างจัง
ท่ามกลามฝุ่นควันคละคลุ้งจากแรงระเบิด ดวงตาของซิลเวนัสจดจ้องไอรีนอย่างไม่กระพริบ
“ขณะซ่อนตัว ฉันจับตาดูเธอมานานแล้ว เธอเป็นหญิงสาวที่งดงามและมีสติปัญญายอดเยี่ยม หึหึ! แต่ฉันเกลียดคนหน้าตาดีเป็นที่สุด!”
ความกล้าหาญของไอรีนที่เคยเพิ่มขึ้นยามปกป้องลอร์ด บัดนี้ดับมอดลงในพริบตา
ร่างกายไอรีนสั่นระริกอีกครั้งด้วยความกลัวที่มีต่อข้ารับใช้ยาธาน ความทรงจำโหดร้ายในอดีตหวนคืนกลับมาอีกครั้ง
“ฮิฮ่าฮ่า! ใบหน้าหวาดกลัวของแกยอดเยี่ยมที่สุด!”
ซิลเวนัสแสดงสีหน้าเปี่ยมสุข แก้มของมันแดงระเรื่อ ปลายลิ้นเลียริมฝีปากที่แดงก่ำซึ่งตัดกับเส้นผมสีเทาเข้ม
ขณะเดียวกัน มันย่างกรายเข้าหาไอรีนอย่างเชื่องช้าและเลือดเย็น
“องค์ราชินี!”
โค้กรีบจัดการจอมเวทมืดตรงหน้า จากนั้นก็รีบไปช่วยไอรีนด้วยความเร็วสูงสุด
เขาไปขวางได้ทันเวลาก็จริง แต่ด้วยความเร็วของซิลเวนัส โค้กมิอาจใช้ดาบในมือปัดป้องการโจมตีสำเร็จ รัศมีดาบสีแดงฉานตัดผ่านชุดเกราะโค้กอย่างง่ายดาย หลอดพลังชีวิตอัศวินหนุ่มลดฮวบอีกระลอกแม้จะดื่มโพชั่นพื้นฟูขึ้นมาแล้ว
[ ท่านถูกโจมตีอย่างรุนแรง ]
[ ความคงทนของ งชุดเกราะกริดที่สร้างโดยช่างฝีมือง ลดลง 47 หน่วย ]
[ ท่านรอดชีวิตโดยเหลือระดับพลังชีวิตต่ำกว่า 10% ]
[ ผลจากรางวัลตอบแทนภารกิจย่อย ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น 20 แต้มเป็นการถาวร ]
“อั่กก…!! ยังหรอกโว้ย!!”
เขาจะตายไม่ได้ ภารกิจนี้จะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด โค้กรีบพยุงตัวขึ้นเพื่อหลบหลีกจากโจมตีซ้ำสอง
เขาต้องปกป้องไอรีนและลอร์ดจนกว่ารอยแมนจะเก็บกวาดจอมเวทมืดโดยรอบเสร็จและกลับมาช่วย
แต่นั่นย่อมไม่ง่าย การโจมตีจากซิลเวนัสแฝงด้วยผลเลือดออก สิ่งนี้ทำให้ศีรษะของโค้กเริ่มวิงเวียน ร่างกายโซเซโงนเงนจนล้มฟุบลงกับพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด
ซิลเวนัสจ้องมองเข้าไปในดวงตาไอรีน
“จะให้ฉันฉีกส่วนไหนทิ้งก่อนดีล่ะ? หือ?”
โรส แอ็กนัส และกลุ่มจอมเวทมืดกำลังตรึงศัตรูไว้ ส่งผลให้ซัลเวนัสมีเวลาว่างมากพอจะเล่นสนุกกับไอรีนและลอร์ดที่เป็นราวกับลูกแกะน้อยในกำมือ
…จนกระทั่งองค์ชายตัวน้อย คนที่มันคิดว่าเป็นเพียงลูกแกะ เริ่มแยกเขี้ยวคำราม
“พายุดาบ”
“…?!”
พายุปราณดาบจำนวนมากโอบล้อมซิลเวนัสไว้จากทุกทิศ
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,263
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ย๊ากกก😤
ReplyDelete👍
Oh oh oh yeah
ReplyDeleteดูยูโน๊ว ก็อดลอร์ด
ReplyDeleteลอดและไอรีนตาย กริดมาช่วยไม่ทัน
ReplyDeleteคิดว่าจะมีคนมาเชื่อคุณมั้ยครับ?ขอบคุณสำหรับการปั่นที่ดี(ผมเดาว่าไม่ตาย)
Deleteถึงไอรินและลอร์ดตาย กริดไม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นในตอนนี้ จะมาช่วยได้ไง
Deleteขนาดเอลโดนกินทั้งเปนยังเป็นแค่ภาพมายาเอง
Delete