จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 850
อัสโมเฟลและเฮสเตอร์มิได้ไล่ตามทหารที่แตกทัพหนีไป พวกเขาแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของชาวบ้าน และทหารกลุ่มดังกล่าวคงไม่ย้อนกลับมาอีกแล้ว
“นายจะช่วยฉันตามหาอดีตอัศวินสีชาด? นายไปจากที่นี่ได้หรือ? ไม่ใช่ว่าต้องปกป้องกระท่อมหลังนั้นเพราะมีเหตุผลจำเป็นรึไง?”
อัสโมเฟลเอ่ยปากถามเฮสเตอร์ที่กำลังถอดหมวกเหล็กคืน
อันที่จริง เหตุผลการเฝ้ากระท่อมของเฮสเตอร์มิได้ซับซ้อน หนึ่งในทักษะที่ร่ำเรียนจากวินฟรีดเกี่ยวข้องกับการ ‘ทำสมาธิ’ ซึ่งยอดเขาเปลี่ยวผู้คนถือเป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับการฝึก ยิ่งไปกว่านั้น คำสั่งเสียของวินฟรีดได้กล่าวไว้ชัดเจนว่า บุคคลที่ยิ่งใหญ่จะเดินทางมาเยือนยอดเขาแห่งนี้ในอนาคต
เฮสเตอร์จึงปกป้องกระท่อมและรอคอยโอกาสเสมอมา
แต่ปัจจุบัน ถึงเวลาที่มันต้องไปแล้ว เลเวลของทักษะมีมากเพียงพอ และบุคคลในคำทำนายคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอัสโมเฟล
“ลาก่อน…ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง”
เฮสเตอร์บอกลาชาวบ้านที่เคยมีความทรงจำล้ำค่าร่วมกัน รวมถึงสถานที่แห่งความผูกพันธ์ระหว่างตนและอาจารย์
ทันใดนั้น มันฉีกยิ้มกว้างเมื่อข้อความระบบหนึ่งแสดงขึ้น
[ ค่าความสัมพันธ์กับอัสโมเฟลเพิ่มขึ้น 10 หน่วย ]
อัสโมเฟลยินดีต้อนรับศิษย์เอกของเพื่อนเก่าโดยไม่เคลือบแคลง
“ได้เดินทางร่วมกับศิษย์วินฟรีดก็ไม่เลว หวังว่าพวกเราจะเป็นประโยชน์ต่อกัน”
“เช่นกัน”
ขณะขานรับ บาเรียคุ้มกายสีส้มสว่างกำลังก่อตัวคลุมร่างเฮสเตอร์
[ ทรัพยากรทุกชนิดถูกฟื้นฟูจากผลของทักษะติดตัว ‘ตำนานวีรบุรุษ’ ]
[ หลักจากนี้หนึ่งนาที พลังป้องกันของท่านจะเพิ่มขึ้นแปรผันตามปริมาณทรัพยากรที่ใช้ไปในช่วงสองนาทีก่อนหน้า ]
[ บาเรียคุ้มกายที่สามารถสลายการทักษะและเวทมนตร์ทุกชนิดจะคงอยู่นาน 10 วินาที ]
***
[ สูตรสร้าง : เจียงซือ ]
ประเภท : ตำราเวทมนตร์ (ยูนีค)
ตำราเก่าแก่ที่บรรจุสูตรการสร้างเจืองซือโลหะ
เงื่อนไขการใช้งาน : นักพรต, หมอผี
ทักษะส่วนใหญ่จะแบ่งได้เป็นสองชนิด หนึ่งคือ ชนิดที่เรียนได้เมื่อเลเวลและคลาสสัมพันธ์กัน และสอง ชนิดลับที่มีตำราให้เรียนเพิ่มเติมภายหลัง
แน่นอนว่าแบบที่สองย่อมมีมูลค่าสูงกว่ามาก
แตกต่างจากทักษะประจำคลาสที่ดาษดื่น ตำราทักษะลับถือเป็นไอเท็มที่ขลาดแคลนและหาได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อทักษะมีเกรดสูงและมีประสิทธิภาพมาก ราคาตำราจะยิ่งพุ่งทยานประหนึ่งติดจรวดขึ้นฟ้า
ตัวอย่างเช่น ตำราทักษะเกรดยูนีค หากนำไปวางขายในโรงประมูล ราคาขั้นต่ำที่ได้รับคือหนึ่งพันล้านวอน และหากเป็นตำราที่เรียนได้หลายคลาส ราคาของมันจะยิ่งสูงเพราะมีความต้องการมาก แต่ฝ่ายวางขายกลับมีเพียงน้อยนิด
ปัจจุบัน ราคาของไอเท็มหายากในซาทิสฟายเพิ่มขึ้นจากหลายปีก่อนมาก
“จะยกให้ฉันจริงหรือ?”
หมอผีอันดับสองของโลก บุลเล็ต หลังจากถูกแอ็กนัสทอดทิ้ง เขาประกาศถอนตัวจากอิมมอทัลที่ล่มสลายเพราะฝีมือไอ้บัดซบเวอราดิน
บุลเล็ตกำลังทึ่ง
เขาไม่ทราบมาก่อนว่า เจียงซือที่กริดพูดถึงในวันนั้นจะหมายถึงตำราเรียนทักษะเกรดยูนีค บุลเล็ตคิดเพียงว่า คงเป็นไอเท็มชนิดหนึ่งจำพวกกดใช้แล้วจะอัญเชิญมอนสเตอร์ประเภทเจียงซือได้ชั่วคราว
และอันที่จริง ความสนใจของบุลเล็ตมิได้อยู่ที่เจียงซือตั้งแต่ต้น เขาเดินทางมายังไรนฮาร์ทเพราะสัมผัสถึงความห่วงใยที่กริดมอบให้ผ่านสายตาในวันก่อน เรื่องของเจียงซือแทบไม่มีอยู่ในหัวสมอง
“ทำไมถึงเป็นฉัน?”
บุลเล็ตถามซ้ำด้วยนัยน์ตาสั่นระริก เขากังวลว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นลางบอกเหตุของความสัมพันธ์ที่ตนมิได้ต้องการ
“ขอเตือนไว้ก่อน ฉันจะไม่บอกข้อมูลเกี่ยวกับแอ็กนัสเด็ดขาด ส่วนหนึ่งเพราะฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย หรือต่อให้รู้ก็ไม่มีวันบอกนาย ฉันไม่ต้องการตกเป็นเป้าจองล้างจากหมอนั่น ขอโทษด้วยที่เป็นประโยชน์ให้ไม่ได้”
บุลเล็ตกล่าวพลางก้มศีรษะ เขากังวลว่าตนอาจทำให้กริดไม่พอใจ ทั้งที่กริดหยิบยื่นโอกาสล้ำค่าให้แม้จะกลายเป็นศัตรู
‘เราพลาดโอกาสมีเพื่อนอีกแล้วสินะ’
สีหน้าของบุลเล็ตเผยความขื่นขมชัดเจน เขาก้มหน้ามองพื้นด้วยบรรยากาศหม่นหมอง บุลเล็ตมั่นใจหลายส่วนว่ากริดต้องโกรธแน่ โดยเฉพาะการที่เขาปกป้องแอ็กนัสซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของกริด
แต่ท่าทีจากกริดนั้นตรงกันข้าม
“หยุดพูดจาเหลวไหลสักที ฉันไม่ได้ต้องการของแบบนั้นเลยสักนิด”
“…?”
“ฉันแค่ต้องการให้นายเป็นพวกพ้อง ตำราเล่มนี้ถือเป็นสินบนก็แล้วกัน”
กริดทราบดีว่าบุลเล็ตคือหมอผีที่แข็งแกร่ง เฉกเช่นเหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่ทรงพลังในแต่ละสาขาของตัวเอง
แต่ถึงจะมีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ก็ไม่มีวันเพียงพอสำหรับสงครามแสนโหดร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่มีทางที่กริดจะวางใจลง
กริดจึงเกิดแผนจ้องทำลายเคียร์ มิใช่เพราะกังวลว่าเคียร์จะเป็นศัตรูตัวฉกาจในอนาคตเพียงอย่างเดียว แต่กริดกำลังกังวลถึงจุดยืนอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในอนาคต
ไม่ช้าก็เร็ว อาณาจักรของตนจะถูกโดดเดี่ยวโดยกลุ่มผู้เล่น เพื่อการนั้น เขาต้องการพลังและความมั่งคั่งสำหรับความอยู่รอดของอาณาจักร
การยืดครองธรุกิจเคียร์คือหนึ่งในแผนที่ถูกวางไว้ รวมถึงการรวบรวมบุคคลพรสวรรค์เช่นบุลเล็ต ชายคนนี้สามารถตอบสนองสิ่งที่กริดต้องการได้ ต้องอย่าลืมว่า ตำราสูตรสร้างเจียงซือได้ถูกเก็บไว้ในช่องสัมภาระกริดมานานจนหยากไย่แทบขึ้น ไม่ช้าก็เร็ว เขาต้องการตัวผู้เล่นคลาสหมอผีเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์สักคนหรือสองคนอยู่ดี
ในเมื่อหมอผีอันดับหนึ่งคือไอ้บัดซบเวอราดิน การคว้าตัวบุลเล็ตซึ่งเป็นอันดับสองจึงนับว่าเหมาะสม
“ได้ยินเรื่องของอิมมอทัลกับเวอราดินมาแล้ว แอ็กนัสไม่เคยปรากฏตัวในตอนที่อิมมอทัลตกที่นั่งลำบากเลยสินะ”
“…”
กริดได้ยินบทสนทนาระหว่างบุลเล็ตและเวอราดินโดยบังเอิญ อุดมคติของบุลเล็ตสอดคล้องกับบรรยากาศภายในกิลด์โอเวอร์เกียร์มาก และนั่นคือสาเหตุที่กริดเชื่อใจ
“เข้าร่วมโอเวอร์เกียร์ซะ พวกเราทุกคนต้องการนาย ฉันเองก็ต้องการนาย”
“…”
ชายหนุ่มจดจ้องบุลเล็ตด้วยดวงตาที่ไม่สั่นคลอน
ช่างแตกต่างจากพวกที่หวังพึงพาพลังของบุลเล็ต รวมถึงพวกพ้องที่จิกหัวใช้และเตรียมเขี่ยทิ้งในภายหลัง
มาดแสนองอาจของกริดได้ตอกย้ำความเชื่อใจที่บุลเล็ตรู้สึก เมื่อได้รับรู้ว่าพลังของตนเป็นที่ต้องการจากศัตรู จากผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลก หัวใจบุลเล็ตจึงถูกโยกคลอนอย่างรุนแรง
ความรู้สึกนับถือและชื่นชมในตัวกริดเป็นคนละบรรยากาศกับแอ็กนัส
“ขอบคุณมาก ในอนาคต ฉันจะตอบแทนกิลด์โอเวอร์เกียร์…ไม่สิ กริด ฉันจะตอบแทนความเชื่อใจที่นายมอบให้”
แต่ก่อนอื่น มีสิ่งหนึ่งที่บุลเล็ตต้องทำให้ชัดเจน
“ฉันจะซื้อตำราเล่มนี้ในราคาสมเหตุสมผล การรับมาฟรีจะทำให้ตัวฉันติดค้างนายมากเกินไป”
บุลเล็ตเคยเห็นความสัมพันธ์ที่พังลงเพราะเรื่องเงินมานักต่อนัก จึงไม่ต้องการให้ตัวเองเดินซ้ำรอยดังกล่าว เขาตัดสินใจโดยมีประสบการณ์ในอดีตรองรับ
แต่กริดตอบปฏิเสธ
“ของแบบนั้นไม่จำเป็น นายรู้รึเปล่าว่าฉันได้ตำราเล่มนี้มาจากทวีปตะวันออก”
ไอเท็มที่ได้รับระหว่างภารกิจช่วยสองพ่อลูกตระกูลฮาน ดรอปจากบอสใหญ่สุดของคุกลาวา คุกหลวงที่มีระดับการอารักขาสูงสุดของอาณาจักรโช
มันคือตำราที่มิอาจหาได้อีกแล้ว
“นายคิดว่าตำรานี้มีมูลค่าเท่าไรกัน?”
“…”
แล้วตนต้องทำอย่างไร? บุลเล็ตสับสนจนทำได้เพียงนิ่งเงียบ
กริดเริ่มแสยะยิ้ม
“ฉันขอซื้อความเป็นเพื่อนจากนายด้วยตำราเล่มนี้ นายต้องอยู่กิลด์โอเวอร์เกียร์ไปจนกว่าจะเลิกเล่น”
“ถ้าฉันกดเรียนมันแล้วรีบหนีไปล่ะ?”
“เคยเห็นชะตากรรมของเหยื่อที่ถูกประกาศค่าหัวแล้วไม่ใช่รึไง? ฉันจะตามล่าไปจนสุดขอบขุมนรก”
“ฮะฮะ…”
เขาควรปฏิเสธดีไหม? บุลเล็ตครุ่นคิดอย่างจริงจัง
แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเย้ายวนเกินกว่าจะห้ามใจไหว สิ่งนั้นมิใช่ตำรา หากแต่เป็น ‘สายสัมพันธ์พวกพ้อง’ ที่ถวิลหามาแสนนาน
[ หมอผี ‘บุลเล็ต’ เข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์หนึ่ง ]
***
[ ท่านได้รับไอเท็ม ‘สูตรสร้าง : เจียงซือ’ ]
[ ท่านใช้งาน ‘สูตรสร้าง : เจียงซือ’ ]
[ ท่านได้รับทักษะ ‘สร้างเจียงซือ’ ]
[ ท่านได้รับทักษะ ‘สร้างโลงศพ’ ]
[ ท่านได้รับทักษะ ‘บงการเจียงซือ’ ]
[ สร้างเจียงซือ Lv.1 ]
* ท่านสามารถเปลี่ยนซากศพของมนุษย์ให้กลายเป็นเจียงซือได้
( ไม่สามารถสร้างจากซากศพสิ่งสีมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น )
* ท่านไม่สามารถสร้างเจียงซือได้หากเลเวลของศากซพมีระดับสูงกว่าเลเวลผู้สร้าง
เลเวลขั้นต่ำของเจียงซือคือ 100 และสูงที่สุดคือ 100 เลเวลต่ำกว่าผู้สร้าง
( ยิ่งเลเวลทักษะมากขึ้น ความหลากหลายของเจียงซือก็ยิ่งมีมาก )
ทรัพยากรที่ใช้ : 100% มานาสูงสุด
ระยะหน่วง : ไม่มี
[ สร้างโลงศพ ]
* สร้างโลงศพสำหรับเก็บเจียงซือ
( โลงศพจำเป็นต้องใช้เพื่อบงการเจียงซือ )
อัตราการใช้ง่านระหว่างเจียงซือและโลงศพคือ 1:1
ทรัพยากรที่ใช้ : 1,000 มานา
วัถตุดิบที่ใช้ :
- หนามแหลม 12 ชิ้น
- ไม้เบิร์ช 3 ท่อน
ระยะเวลาการสร้างโลงศพ : 1 ชั่วโมง 30 นาที
[ บงการเจียงซือ Lv.1 ]
(ทักษะติดตัว)
ท่านสามารถบงการเจียงซือได้สองตนพร้อมกัน
เมื่อนำออกจากโลงศพ เจียงซือสามารถใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง หลังจากครบ 3 ชั่วโมง เจียงซือต้องกลับไปพักผ่อนในโลกเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
หากเจียงซือเสียชีวิต ระยะเวลาพักผ่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 12 ชั่วโมง
‘สุดยอด…’
เมื่อบุลเล็ตได้เห็นรายละเอียดทักษะใหม่และเริ่มเข้าใจธรรมชาติของเจียงซือมากขึ้น เขาอดรู้สึกทึ่งไม่ได้
‘พวกมันพัฒนาไปเป็นตัวตนพิเศษได้เหมือนอัศวินความตายงั้นหรือ?’
ข้อเสียเดียวที่เห็นคือ เลเวลสูงสุดของเจียงซือจะถูกกำจัดไว้ต่ำกว่าผู้ใช้งานหนึ่งร้อยระดับ แต่ขีดจำกัดอาจลดลงเมื่อเลเวลทักษะเพิ่มขึ้น
หรืออีกความหมายหนึ่ง เจียงซือถือเป็นสัตว์อัญเชิญระดับท็อป
“สุดยอดสัตว์อัญเชิญ…”
“ฉันบอกนายแล้ว ตำราเล่มนี้ดรอปจากทวีปตะวันออกอย่างยากลำบาก”
กริดยังจดจำความแข็งแกร่งของเจียงซืออาชาทมิฬในคุกลาวาได้ดี มันคือสัตว์ประหลาดที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางรับมือไหว
หากบุลเล็ตบงการกองทัพเจียงซืออาชาทมิฬได้ในอนาคต…
“บุลเล็ต ช่วยพัฒนาและวิจัยมันอย่างเต็มที่ ขาดเหลือสิ่งใดสามารถแจ้งฉันหรือลอเอลได้ทุกเมื่อ”
“จะไม่ทำให้นายผิดหวังแน่นอน!”
บุลเล็ตกำลังตื่นเต้น
เขามั่นใจว่า เมื่อตนเองทำการอัญเชิญอันเดดปรกติพร้อมกับอัญเชิญเจียงซือที่ไม่สิ้นเปลือง ‘ค่าพลังปกครอง’ กองทัพสัตว์อัญเชิญของตนอาจมีระดับทัดเทียมแอ็กนัสได้ในสักวัน
บุลเล็ตรู้สึกว่าขีดจำกัดของตัวเองถูกปลดปล่อย เขามีท่าทีรีบร้อนโดยไม่รู้ตัว
“ต้องรีบเปลี่ยนสร้อยคอแล้ว”
สร้อยคอเส้นปัจจุบันทำจากกระดูกอีกา กึ่งกลางสร้อยมีอัญมณีที่ช่วยเพิ่มค่าพลังปกครองฝั่งอยู่ ยิ่งสร้อยเกรดสูง ระดับพลังปกครองก็ยิ่งมาก
“สร้อย? นายรู้จักช่างอัญมณีฝีมือดีงั้นหรือ?”
กริดเอ่ยปากถามบุลเล็ตผู้ซึ่งเตรียมถลุงเงินจำนวนมากไปกับสร้อยคอเส้นใหม่
อัญมณีบีเลียลจำนวนมากยังคงหลับไหลในช่องสัมภาระโดยปราศจากการรบกวน สาเหตุที่สุดยอดอัญมณีถูกทอดทิ้งอย่างไร้ค่า เพราะกริดยังมิอาจหาช่างอัญมณีฝีมือเยี่ยมได้
บุลเล็ตพยักหน้าโดยไม่ลังเล
“ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์หญิง”
“องค์หญิง?”
เหตุใดคำว่าองค์หญิงถึงถูกเอ่ยขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้? บุลเล็ตรีบอธิบาย
“อ้อ…เธอค่อนข้างโด่งดังในแวดวงผู้เล่นหมอผี ช่างอัญมณีฝีมือเยี่ยมที่อาศัยอยู่ในดันเจี้ยนลึกทางเข้าภูเขาเจรัด เธอมักรับแต่งานผลิตสร้อยคอ ทั้งทรงผมและท่าทีคล้ายคลึงกับพวกองค์หญิงของอาณาจักร พวกเราจึงเรียกเธอว่าองค์หญิง”
“แนะนำให้ฉันรู้จักด้วยสิ”
“อาจจะยากหน่อยนะ”
***
ในวันที่บุลเล็ตเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์ ทั่วโลกเกิดเสียงฮือฮาอีกคำรบ
- อันดับผู้เล่นคลาสหมอผี -
1. เวอราดิน (ไม่มีกิลด์)
2. บุลเล็ต (โอเวอร์เกียร์)
=== หลังจากมุโต้ก็เป็นบุลเล็ต?
=== หมอผีอันดับสองเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์…บ้าไปแล้ว
=== บุลเล็ตเคยอยู่อิมมอทัลไม่ใช่รึไง?
=== เจ้านั่นคงถูกฆ่าจนตัวเปื่อย จึงยกธงขาวยอมแพ้และเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์…
=== ไม่มีศักดิ์ศรีสักนิด! ในสายตาอิมมอทัล หมอนี่คงเป็นคนทรยศที่น่ารังเกียจ
=== พวกนายกำลังวิจารณ์คนที่เลือกทางเดินสงบสุขเนี่ยนะ? ไปยุ่งอะไรกับเขา?
=== กองทัพโอเวอร์เกียร์ + กองทัพอันเดด…
=== ต่อให้เจ็ดกิลด์ใหญ่ร่วมมือกัน คนเหล่านั้นก็หมดสิทธิ์ต่อต้านโอเวอร์เกียร์
=== ไม่เห็นจะแปลกนี่? เจ็ดกิลด์ใหญ่เคยพังพินาศเพราะชาวนาเรย์ดันเพียงคนเดียวมาแล้ว
=== นั่นสินะ…เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น
=== ซีบาลกับซิวรอนไปไหนแล้ว?
=== คงหาทางประจบโอเวอร์เกียร์อยู่มั้ง?
=== แอ็กนัสล่ะ
=== ไม่มีใครเดาการกระทำแอ็กนัสได้…
ทั้งขั้วอำนาจปัจจุบัน อดีต และขั้วอำนาจใหม่ ทั้งหมดต่างถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นสนทนาร้อนแรง โดยเฉพาะแอ็กนัสที่ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากกลายเป็นตำนาน
***
“คิคิคิก!”
ชายคนหนึ่งเดินทางมาถึงปากทางเข้าภูเขาลูกใหญ่—ภูเขาเจรัด ซึ่งด้านในมีดันเจี้ยนมากมายถึงหกแห่ง
สวาปามจกบัลเผ็ดเริ่มเหงื่อตกเมื่อดันเจี้ยนสุดทรงพลังของตนถูกทำลายลงห้องแล้วห้องเล่า
“ฝีมือกริดงั้นหรือ?”
เป็นไปไม่ได้แน่ ความเร็วระดับนี้ แม้แต่กริดก็ทำไม่ได้
“หรือว่ามังกร?”
เรื่องใหญ่ล่ะสิ…
สวาปามจกบัลเผ็ดละทิ้งทุกสิ่งเพื่อรีบมุ่งหน้าไปยังภูเขาเจรัด
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,260
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
เมนท์แรก
ReplyDeleteขอบคุณครับ
Deleteตอนต่อไปตามมาติดๆ
Deleteขอบคุณที่แปลครับ นึกว่าไม่อัพแล้ว 🙏😅
ReplyDeleteปูบทให้แอ็กนัสดูน่าเกรงข่ามเกิ้นนนน
ReplyDeleteแอสนัสมันรู้จุดเก็บดีเกิ๊นนน พลังของแอสนัสคือ แผนที่โลกอ๋อ หรือมันเป็นผู้หวนคึน
Delete