จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 858
สงครามรุกรานอาณาจักรอุลทาน่าที่วัลฮัลล่าก่อขึ้น ในที่สุดได้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย
หัวเมืองรอบนอกถูกยึดครองทั้งหมด กำแพงเมืองหลวงถูกรถศึกกระทุ้งจนพังครืน
เมื่อปราการด่านสุดท้ายไม่หลงเหลือ กองทัพแสนเกรียงไกรของวัลฮัลล่าได้บดขยี้กองทัพอุลทาน่าแสนอ่อนแอจนราบคาบ
สาเหตุเดียวที่อุลทาน่ายื้อสงครามได้นาน เพราะพวกมันมีหน่วยอัศวินผู้พิทักษ์แสนทรงพลังซึ่งเป็น NPC คลาสระดับสี่
ป็อนคอยติดตามข่าววัลฮัลล่าเสมอในยามล็อกเอาต์ และเมื่อล็อคอินกลับเข้าซาทิสฟาย เขาจำเป็นต้องนำเรื่องนี้มาปรึกษาลอเอล
“พวกเราจะปล่อยไว้แบบนี้จริงหรือ?”
เฉกเช่นขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่เหลือ ป็อนเป็นกังวลกับสถานการณ์วัลฮัลล่ามาก
ปัจจุบัน โอเวอร์เกียร์และวัลฮัลล่าแอบร่วมมือกันก็จริง นั่นเพราะพวกเขามีศัตรูร่วมกันคือจักรวรรดิ
แต่หากวัลฮัลล่ากลายเป็นศัตรูเข้า…
เสริมแกร่งทหารกล้า—ทักษะสุดโกงของอาเรสที่จะเปลี่ยนชาวเมืองแสนธรรมดาให้กลายเป็นกองทัพเกรียงไกรในเวลาอันสั้น
สิ่งนี้เป็นภัยคุกคามอาณาจักรโอเวอร์เกียร์อย่างไร้ข้อกังขา แต่ลอเอลกลับใจเย็นผิดคาด
“นายไม่ต้องกังวล ปล่อยไว้แบบนี้แหละ”
“ทำไมกัน? นายไม่ได้ยินข้อมูลจากคนที่ถูกส่งไปช่วยศึกก่อตั้งวัลฮัลล่ารึไง? กองทัพอาเรสจะก้าวข้ามกองทัพโอเวอร์เกียร์ในอนาคต และยิ่งพวกมันยึดอาณาจักรได้มากขึ้น จำนวนทหารก็จะยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ…”
ลอเอลกล่าวขัดความร้อนรนของป็อน
“นายเข้าใจถูกแล้ว วัลฮัลล่าจะแข็งแกร่งกว่านี้แน่ ไม่สิ พวกเขาต้องแข็งแกร่งกว่านี้ให้ได้ และนั่นจะเป็นประโยชน์กับเรา”
“อะไรนะ?”
ลอเอลลืมกินยาระงับจูนิเบียวรึไง?
คำประกาศของลอเอลที่ต้องการให้วัลฮัลล่าแกร่งขึ้น ป็อนมิอาจไตร่ตรองให้เข้าใจได้เลย
มีเหตุผลใดเบื้องหลังงั้นหรือ?
ป็อนคิดออกแค่หนึ่งข้อ
“นายหวังให้วัลฮัลล่าแข็งแกร่งขึ้น เพื่อให้มันกับเราร่วมมือกันทำลายจักรวรรดิ?”
“เฮ่อ…ความเศร้าโศกที่ระอุในใจฉันกำลังจมดิ่งลึกลงยิ่งกว่าก้นมหาสมุทร มนุษย์เราอาศัยในโลกสามมิติ แต่เหตุไฉนถึงมีสติปัญญาไตร่ตรองได้เพียงมิติเดียว…”
“…???”
“ป็อน สาเหตุที่นายหวาดกลัววัลฮัลล่า เพราะนายคิดว่าพวกนั้นจะกลายเป็นศัตรูเข้าสักวันใช่ไหม?”
“อา…ใช่”
“เป็นเรื่องดีที่นายเข้าใจหลักพื้นฐาน หลักการที่ว่า…ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร”
ลอเอลแสยะยิ้ม
“แต่นายหลงลืมอะไรไปรึเปล่า? หากนายกล่าวว่าไม่มีมิตรไม่ถาวร ถ้าอย่างนั้น…ศัตรูก็เช่นกันมิใช่หรือ?”
“เอ่อ…”
ลอเอลกำลังพูดอะไร?
ถ้อยคำประหลาดจากปากลอเอลทำให้ป็อนสับสนชั่วขณะ
จนกระทั่งเขาเกิดปัญญาฉุกคิดบางสิ่งได้ ดวงตาของป็อนเริ่มลุกวาวอีกครั้ง
เมื่อเห็นท่าทีดังกล่าว ลอเอลเลื่อนมือขึ้นมาปิดครึ่งหน้าก่อนจะเริ่มหัวเราะไหล่สั่น
ป็อนกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางเอ่ยปากถาม
“ศัตรูไม่ถาวร…หมายถึงจักรวรรดิ? นายคิดจะจับมือกับจักรวรรดิงั้นหรือ?”
“มีกฏข้อไหนที่ห้ามทำ?”
กริดเดินทางไปยังจักรวรรดิและมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับฮวนเดอร์ ดังนั้นการจับมือกับจักรวรรดิมิใช่เรื่องเหนือจินตนาการ
จักรวรรดิไม่เหมือนกับจอมอสูรที่เป็นศัตรูชั่วนิรันดร์ของมนุษย์ นอกเสียจากพวกมันจะทำเรื่องชั่วช้าเกินอภัย ในฐานะมนุษย์ด้วยกัน ลอเอลไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จักรวรรดิอาจกลายเป็นมิตรในวันข้างหน้า
ความสัมพันธ์ทางการเมืองสามารถแปรเปลี่ยนได้ทุกขณะขึ้นกับสถานการณ์
“เชื่อฉันสิ หากแม้แต่นายยังไม่นิ่งเฉยกับวัลฮัลล่า แล้วจักรวรรดิจะทนได้เชียวหรือ? อย่าลืมว่าพวกเราเลือกจับมืออยู่ฝ่ายใดก็ได้ อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังถือไพ่เหนือกว่าทุกฝ่าย ดังนั้นไม่ต้องกังวล”
“เข้าใจแล้ว”
ป็อนหวนนึกถึงบางสิ่งขึ้นได้—อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะไม่มีวันนี้หากปราศจากลอเอล
ถ้ากริดไม่ดึงดูดสายตาลอเอลในอดีต หากลอเอลกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจในสถานการณ์ปัจจุบัน
กิลด์โอเวอร์เกียร์จะเป็นอย่างไร?
กิลด์เซดากาห์จะกำลังทำอะไรอยู่?
แค่คิดก็เย็นสันหลังวาบ
ขณะเสียงหัวเราะน่าขนลุกของลอเอลดังก้องไปทั่วห้องทำงาน…
ก็อก! ก็อก!
ใครบางคนเคาะประตูห้อง
ลอเอลตรวจสอบเวลาก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง บุคคลที่มาเยือนไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก…
“ยินดีต้อนรับสวาปามจกบัลเผ็ด เชิญเข้ามาได้”
“สวัสดี”
นักสร้างดันเจี้ยน—สวาปามจกบัลเผ็ด
ดันเจี้ยนของชายคนนี้สามารถปกป้องบางสิ่งจากศัตรู และยังช่วยเหลือให้ผู้เล่นด้วยกันเองพัฒนาเลเวลได้รวดเร็ว
ความแข็งแกร่งส่วนบุคคลถูกประเมินว่าอยู่ระดับดวงอาทิตย์ ส่งผลให้ทั้งลอเอลและป็อนต่างยินดีที่ชายคนนี้จะกลายเป็นพวกพ้องในอนาคต ทั้งสองฉีกยิ้มกว้าง
“…นายต้องการอะไร?”
กลับกัน สวาปามจกบัลเผ็ดยังคงแสดงสีหน้าหน้าเย็นชา
เขาจำเป็นต้องพักอาศัยในไรนฮาร์ทชั่วคราวเพราะหลานสาวตัดสินใจเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์ แต่ตัวสวาปามจกบัลเผ็ดยังไม่มีความคิดจะเข้าร่วมแต่อย่างใด
คงเป็นการยากที่จะยกโทษให้กริด ชายโฉดผู้ทำลายบลัดคาร์นิวัล(?)และขโมยไข่มังกรคลั่งไปต่อหน้า
“ถ้าต้องการให้ฉันเข้ากิลด์ ช่วยหยุดความคิดนั้นไว้เลย ฉันไม่มีแผนจะเข้าร่วมโอเวอร์เกียร์ หรือถ้านายต้องการให้ฉันสร้างดันเจี้ยน ก็ควรหยุดความคิดนั่นไว้เช่นกัน เพราะฉันจะไม่ทำอะไรให้พวกนายฟรีเด็ดขาด! เฮ่อะ!”
สวาปามจกบัลเผ็ดเค้นเสียงเย็นชาพลางหันหลังเตรียมเดินกลับ
“นายมีทักษะปรุงอาหารใช่ไหม?”
ลอเอลเอ่ยปากถามในสิ่งที่ไม่สัมพันธ์กันเลยสักนิด
“หือ?”
“อะไรนะ…”
ทั้งป็อนและสวาปามจกบัลเผ็ดต่างฉงนกับคำถามประหลาด
ลอเอลถามย้ำ
“นายเป็นพ่อครัวในชีวิตจริงใช่ไหม? ฉันจึงเดาว่านายมีทักษะปรุงอาหารในซาทิสฟายด้วย”
“อา…ถูกต้อง แล้วมันแปลกตรงไหน? ผู้เล่นจำนวนมากมักเรียนทักษะปรุงอาหารติดตัว”
ทักษะปรุงอาหารถือเป็นสิ่งพื้นฐานสำหรับผู้เล่น ไม่จำเป็นว่าต้องประกอบอาชีพพ่อครัวในชีวิตจริง
แต่แน่นอน ทักษะปรุงอาหารจะอัพเลเวลได้ยากหากผู้เล่นไม่มีความรู้พื้นฐานด้านทำอาหารมาก่อน
ถึงกระนั้น ผู้เล่นก็พึงพอใจกับทักษะปรุงอาหารขั้นต้นที่ช่วยแก้ขัดในเวลาออกเดินทางไกล
สวาปามจกบัลเผ็ดก็ไม่ต่างกัน เขาคือบุคคลคลั่งไคล้จกบัลที่มีความคิดจะปรุงจกบัลในซาทิสฟายตลอดเวลา
ลอเอลได้แนะนำให้สิ่งที่เหนือความคาดหมาย
“ใต้ปราสาทหลังนี้มีพ่อครัวฉายาเจ้าแห่งพิษอาศัยอยู่ นายอยากศึกษาทักษะปรุงอาหารจากเขาไหม?”
“เจ้าแห่ง…อะไรนะ? นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”
คิดให้ตนเรียนปรุงอาหารจากพ่อครัว NPC ในเกม? แล้วพ่อครัวประสาอะไรถึงมีฉายาเจ้าแห่งพิษ?
สวาปามจกบัลเผ็ดมึนงงกับเรื่องไม่คาดฝันมากมายที่เกิดขึ้น
จนกระทั่งเขาฉุกคิดบางสิ่งได้
“นายพยายามยื้อเวลาให้ฉันอยู่ในเมืองนี้นานที่สุดใช่ไหม?”
“ถูกต้อง ถ้านายอยู่กับพวกเรานานขึ้น อาจรู้สึกชอบพวกเรามากขึ้นก็ได้ และอาจถึงขั้นเข้าร่วมกิลด์โอเวอร์เกียร์ในอนาคต”
“เหลวไหล! ฉันจะได้อะไรถ้าเรียนทักษะปรุงอาหารจากพ่อครัว?”
“เขาคือพ่อครัวจากทวีปตะวันออก แม้อาจมีรสมือประหลาดไปบ้าง แต่ระดับทักษะปรุงอาหารคือของจริง หากนายเพิ่มค่าความสัมพันธ์สำเร็จ บางทีนายอาจทำอาหารเก่งขึ้นก็ได้”
“นายอยากให้ฉันทำอาหารเก่งขึ้น? นายรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันรู้ นายมีชื่อว่าจางด๊อกซู ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่คนปัจจุบันของร้านสวาปามจกบัลเผ็ดสาขาแฮนัม ในอดีต นายเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของร้านสวาปามจกบัลเผ็ดสาขาหลักมาก่อน”
ลอเอลแสยะยิ้ม
“นายไม่อยากแสดงความสุดยอดของจกบัลให้โลกรับรู้ผ่านอาณาจักรโอเวอร์เกียร์หรือ? หากผู้คนติดใจในรสชาติ บางทีอาจมีสาขาร้านสวาปามจกบัลเผ็ดเพิ่มขึ้นอีกมากทั่วโลก ไม่อยากกลับไปทำงานบริหารที่สาขาหลักแล้วรึไง?”
“…”
“นายคิดจะจมปลักอยู่กับสาขาแฮนัมไปอีกนานแค่ไหน? ลองนึกดูให้ดีว่านายรวมรวบเงินมากมายจากบลัดคาร์นิวัลไปเพื่ออะไร หรือคิดยอมแพ้คนทรยศพวกนั้นแล้ว?”
“…”
ข้อมูลคือสิ่งที่น่ากลัวเสมอ
***
“หืม? นายอยากดู?”
ดวงตากลมโตของอลิซาเบธเริ่มหรี่ลง เธอสับสนเพราะเรื่องราวเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อลิซาเบธไม่เคยพบลูกค้าที่ต้องการเฝ้าดูกระบวนการผลิตอัญมณี
งานฝีมือที่ปราณีตบรรจงนั้นน่าเบื่อและไม่มีสิ่งใดให้ตื่นเต้น คลาสสายผลิตประเภทอื่นอาจสร้างไอเท็มสำเร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่งานของเธอต้องใช้เวลาหลายวัน
ห่างไกลจากความน่าตื่นเต้นและสีสันฉูดฉาดวูบวาบของงานช่างตีเหล็กมาก
อลิซาเบธสับสนเล็กน้อย จากนั้นจึงถอนหายใจเบา
‘ชายคนนี้คิดอะไรง่ายเกินไป’
ช่างอัญมณีระดับช่างฝีมือจะใช้เวลานานหลายสิบชั่วโมงถึงหลายวันเพื่อสร้างไอเท็มหนึ่งชิ้น สำหรับอลิซาเบธ ค่าเฉลี่ยของเธอคือสี่วัน
ช่างตีเหล็กในตำนานคงไม่มีวันเข้าถึงความยากลำบากนี้แน่
ทำไมน่ะหรือ? เพราะกริดสามารถสร้างไอเท็มได้ง่ายดายโดยไม่ต้องใส่ความพยายามเข้าไปมาก ทั้งหมดจะถูกผลของคลาสและระบบช่วยสนับสนุนให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ไม่แปลกที่กริดจะมองว่าคลาสอื่นสร้างไอเท็มได้ง่ายเหมือนตน
‘ถึงเขาจะแสดงทักษะตีเหล็กที่ดีในงานแข่งนานาชาติก็เถอะ’
ใช่แล้ว อลิซาเบธมิได้ ‘ดูแคลน’ กริด ฝีมือที่กริดแสดงให้เห็นในงานแข่งควรค่าแก่การยกย่องชื่นชม เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า กริดพายามอย่างหนักกว่าจะก้าวมาถึงจุดสูงสุด
แต่ขณะเดียวกัน อลิซาเบธก็ไม่คิดว่ามีใครใช้ความพยายามมากไปกว่าเธออีกแล้ว กริดประสบความสำเร็จได้เพราะมีปัจจัยหลักอย่าง ‘คลาส’ คอยช่วยเหลือ
เป็นการคาดเดาที่สมเหตุสมผล เพราะพื้นฐานซาทิสฟายคือเกม และระบบเลเวลทักษะคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี
กริดเป็นช่างตีเหล็กในตำนาน ชีวิตในช่วงต้นจึงไม่ยากลำบากเท่ากับผู้เล่นคลาสทั่วไปที่ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนอย่างหนัก
‘แต่ไม่ใช่ความผิดของเขา’
อลิซาเบธแสดงสีหน้าเห็นใจขณะจ้องมองกริด ชายคนนี้คงคิดว่างานของเธอจะเสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง
อลิซาเบธมิได้เกลียดชังกริด เธอกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของ SA กรุ๊ปที่สร้างคลาสระดับตำนานให้มีประสิทธิภาพสูงเกินไป
“ไม่มีปัญหา เชิญดูได้ตามใจชอบ แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะอดทนได้กี่ชั่วโมง”
…
ณ ใจกลางย่านการค้าของกรุงไรนฮาร์ทที่มีผู้คนพลุกพล่าน ร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งถูกตกแต่งด้วยสีสันสวยงามและหรูรา เป็นร้านขนาดเล็กที่มีป้ายเขียนไว้ว่า ‘ห้องทำงานอลิซาเบธ’
กริดตอบแทนการเข้าร่วมกิลด์ของเธอด้วยบริการพิเศษสุด นี่คือสิ่งที่ช่างอัญมณีระดับช่างฝีมือควรได้รับ
อลิซาเบธเดินเข้ามาในร้านใหม่เอี่ยมพร้อมกริดด้วยสีหน้าตื่นเต้น เธอกวาดสายตามองรอบร้านอย่างมีความสุข
“อุปกรณ์และการตกแต่งภายในสมบูรณ์แบบมาก…นายทำตามที่ฉันขอร้องไว้ทุกเรื่อง และใส่ใจแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยที่ฉันไม่เคยพูดถึง”
กริดเป็นชายที่ละเอียดอ่อน ตรงข้ามกับภาพลักษณ์ดิบเถื่อนภายนอกโดยสิ้นเชิง
‘ใช่แล้ว ต้องเป็นบุคคลระดับนี้ ถึงสามารถดึดดูดแรงเกอร์โอเวอร์เกียร์และกุมหัวใจยูร่าได้อยู่หมัด’
สายตาที่อลิซาเบธมองกริดเปลี่ยนไปจากช่วงแรกมาก เธอนึกชื่นชม แต่นั่นต้องแยกแยะระหว่างนิสัยส่วนตัวกับฐานะช่างตีเหล็กในตำนาน
ในสายตาของผู้เล่นคลาสผลิตทั่วโลก กริดคือบุคคลที่ถูกประเมินให้มีฝือการผลิตไอเท็มต่ำกว่าความเป็นจริงเสมอ
“จะเริ่มละนะ”
“อื้อ”
อลิซาเบธนั่งลงหน้าโต๊ะทำงานพลางกล่าวเตือนกริดขณะสวมแว่นขยาย
“ขอเตือนไว้ก่อน มันไม่ใช่เรื่องน่าสนุกหรอกนะ การเฝ้ามองจะไม่ทำให้นายเกิดประโยชน์อันใด หากรู้สึกเบื่อ เชิญออกไปได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องรบกวนฉัน”
“ใจดีจังนะ”
กริดย่อมไม่ทราบว่าอลิซาเบธคิดกับตนในแง่ลบ เขาจึงมองว่าเธอเป็นกำลังห่วง ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างเพื่อตอบแทนความหวังดี
เมื่อเห็นรอยยิ้มกริด อลิซาเบธเริ่มเกิดอาการกระสับกระส่าย
ท่าทีที่กริดเคยแสดงออกต่อหน้าสื่อทั่วโลก ทั้งโอหังและเย่อหยิ่ง แถมยังมั่นใจตัวเองจนออกนอกหน้า
แต่ความจริงแล้ว ทั้งหมดนั่นเป็นเพียงตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบิดเบือนศัตรูงั้นหรือ?
แท้จริงแล้วกริดเป็นคนยังไงกันแน่?
รอยยิ้มจากชายหนุ่มที่กำลังย่างเข้าวัยสามสิบ สิ่งนี้เกิดเสน่ห์อย่างแปลกประหลาดต่ออลิซาเบธ
เธอเพิ่งฉุกคิดได้ว่า ตนกำลังอาศัยอยู่ในห้องขนาดไม่ใหญ่มากร่วมกับผู้เล่นเพศตรงข้ามตามลำพัง
ใบหน้าของสาวน้อยเริ่มแดงก่ำเมื่อหวนนึกถึงความรู้สึกเสียวซ่านในยามได้สัมผัสมือกริด
“หือ…มีอะไรรึเปล่า?”
“ม…ไม่มี! ไม่มี!!”
อลิซาเบธหลับตาลงและพยายามสลัดกริดออกจากหัว เธอเริ่มจัดแจงถุงอัญมณีที่กริดรวบรวมให้
ประการแรก เริ่มจากอัญมณีเกรด C จำนวน 400 เม็ด
แม้จะได้ชื่อว่าเกรด C แต่ความงามและความแข็งกลับยอดเยี่ยมยิ่งกว่าทับทิมหรือมรกตเกรดสูงสุดที่เคยพบ
ระดับของมันเทียบเท่าเพชรชั้นเลิศเลยทีเดียว
แทบไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นเพียงอัญมณีดิบ อลิซาเบธจินตนาการไม่ออกว่ามันจะยอดเยี่ยมเพียงใดหากเธอเจียระไนพวกมันเสร็จสิ้น
“เฮ่อ…”
ลมหายใจถูกสูดเข้าปอดหนึ่งฟอดใหญ่ สมาธิปริมาณมหาศาลถูกรวบรวมอย่างแน่วแน่
เธอลงมือทำงานของตัวเองอย่างปราณีบรรจง
เริ่มด้วยการทำสัญลักษณ์
กะเทาะเศษออกอย่างหยาบ
ใช้เครื่องตัดความละเอียดสูง
และสุดท้ายคือการตกแต่งรูปทรง
มือของเธอนิ่งจนน่าทึ่ง นิ่งมาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อครั้งสอบผ่านด่านสุดท้ายของการเลื่อนระดับเป็นช่างฝีมือ
สมาธิถูกคงสภาพไว้ตลอดทั้งคืน
…
จนกระทั่งเช้าวันถัดมา…
“งดงามมาก…”
อัญมณีแสนล้ำค่าที่เพิ่งเจียระไนเสร็จถูกวางเบื้องหน้าอลิซาเบธ
เธอฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขพลางนึกถึงกริด บุคคลที่เธอหลงลืมเสียสนิทตลอดหนึ่งคืนที่ผ่านมา
‘เขาออกไปตอนไหนกันนะ?’
อลิซาเบธเกือบจำไม่ได้แล้วว่ากริดเคยอยู่ที่นี่ เป็นผลจากสมาธิที่จดจ่อจนเกินไป
‘คงกลับไปแล้วล่ะมั้ง?’
ขณะคิดเช่นนี้ เธอลุกขึ้นบิดขี้เกียจพลางหันไปมองด้านหลัง
จากนั้นก็กรี๊ดออกมาสุดเสียง
“ก…กรี๊ดดดด?!”
กริดยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมท่าเดิมโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบท
“ท…ทำไมนายถึงยังอยู่?”
กริดเกาหลังมือพลางตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ก็บอกไปแล้วว่าจะนั่งดู”
หลังจากเห็นอลิซาเบธทำงานหนักทั้งคืน ชายหนุ่มเริ่มได้เค้าลางของไอเดียใหม่
“อัญมณีเหล่านี้…หากพวกมันมีความแข็งที่มากพอ เราสามารถนำไปใส่ในอุปกรณ์สวมใส่จำพวกดาบและชุดเกราะได้ใช่ไหม?”
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,263
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
ตอนนี้ก็สนุก
ReplyDeleteชอบๆ จิ้นดี😁
คุณรู้จักฮาเร็มก็อดกริดใหม ?😂😂
ReplyDeleteหลังจากวันนั้นที่แต่งงานกับไอรีน กริดก็ได้ฉายาใหม่ "ผู้ใช้วิชาที่สาปสูญ ฝ่ามือสยบนาง"
ReplyDeleteดัดแปลงจนกลายเป็น"ฝ่ามือมาร" แล้ว
ReplyDelete