จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 859
“อัญมณีเหล่านี้…หากพวกมันมีความแข็งที่มากพอ เราสามารถนำไปใส่ในอุปกรณ์สวมใส่จำพวกดาบและชุดเกราะได้ใช่ไหม?”
ถ้าใช่ หมายความว่ากริดสามารถเพิ่มแต้มสถานะและค่าต้านทานในอุปกรณ์สวมใส่ด้วยอัญมณีบีเลียลได้ สิ่งนี้จะเป็นนิยามใหม่ของคำว่าโอเวอร์เกียร์โดยแท้จริง
อลิซาเบธพยักหน้าให้กริดที่กำลังคาดหวัง
“แม้จะไม่ใช่ความคิดที่แย่ แต่มันเป็นได้เพียงมายาอุคมติ ช่างอัญมณีกับช่างเหล็กทั่วโลกเคยทดสอบเรื่องนี้กันแล้ว และผลลัพธ์คือความล้มเหลวไม่เป็นท่า”
ปัญหาสำคัญคือหลักพื้นฐาน
“ค่าความยืดหยุ่นของอัญมณีไม่สัมพันธ์กับค่าความแข็ง นอกจากอัญมณีพิเศษบางชนิดแล้ว อัญมณีส่วนใหญ่ง่ายต่อการแตกหักแม้ผิวสัมผัสจะแข็งมากก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่เพชรระดับสูง หากถูกแรงกระแทกเกินกว่าขีดจำกัด มันจะแหลกละเอียดโดยมิอาจคืนกลับสู่สภาพเดิม แม้แต่อัญมณีบีเลียลก็ไม่ถูกยกเว้น นั่นคือสาเหตุหลักที่ช่างเหล็กไม่นิยมนำอัญมณีติดตั้งในอุปกรณ์สวมใส่ นอกเสียจากทำไปเพื่อตกแต่ง การโจมตีที่มีแรงปะทะสูงจากดาบหรือหอกจะป่นพวกมันจนแหลกละเอียด”
“อัญมณีพิเศษที่เธอบอกว่าทนแรงปะทะได้ดีมีอะไรบ้าง?”
“เพชรทมิฬ แต่มันพิเศษจนฉันไม่สามารถเจียระไนได้เช่นกัน คงต้องเป็นช่างอัญมณีในตำนานเท่านั้นกระมัง…”
“หืม…”
กริดมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย น่าเสียดายที่ไอเดียใหม่ของตนไม่เกิดประโยชน์
แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น
‘เดี๋ยวก่อน…’
กริดพลันนึกถึงมงกุฏ
เหตุใดเขาถึงเลื่อนการผลิตมงกุฏมาตลอดนับแต่ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์คนแรก? คำตอบคือ มงกุฏใหม่ที่จะสร้างต้องมีอัญมณีจำนวนมากประดับประดา ซึ่งเขาไม่สามารถหาช่างอัญมณีมาเจียระไนได้
แผนการสร้างมงกุฏจึงต้องพับเก็บไปอย่างไม่มีกำหนด
สิ่งหนึ่งผุดขึ้นในหัวเลือนลาง
‘เราสามารถสวมมงกุฏและหมวกเหล็กพร้อมกันได้ และสามารถเลือกแสดงรูปลักษณ์ของสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามต้องการ’
ปัจจุบัน กริดครอบครองอัญมณีล้ำค่าจำนวนมากและมีช่างอัญมณีฝีมือเยี่ยมใกล้ตัว เขาสามารถสร้างมงกุฏซึ่งประดับด้วยอัญมณีสิบเม็ดได้แล้ว
เฉกเช่นมงกุฏที่มหาจักรพรรดิฮวนเดอร์สวม ไอเท็มใหม่ชนิดนี้จะช่วยส่งเสริมค่าสถานะปริมาณมหาศาล
บุคคลทั่วไปมิอาจสวมมงกุฏลงสู่สมรภูมิสนามรบได้ เนื่องจากแรงปะทะของปลายแหลมดาบและหอกฝ่ายศัตรูอาจทำลายอัญมณีล้ำค่าจนชำรุดถาวร
แต่กับกริดล่ะ?
‘เราสามารถสวมหมวกเหล็กครอบอีกชั้นได้ ประสิทธิภาพของมงกุฏจะยังคงเดิม และมันจะไม่ถูกทำลายจากอาวุธฝ่ายศัตรู’
หนึ่งในสิทธิพิเศษของ ‘กษัตริย์คนแรก’ ที่ไม่มีใครเหมือน การมีช่องสวมใส่ศีรษะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง
ผู้เล่นทั่วไปต้องเลือกสวมหนึ่งสิ่งบนศีรษะ ระหว่างหมวกเหล็ก หมวกฟาง หมวกจอมเวท มงกุฏ หรือหมวกชนิดอื่น ขณะที่กริดได้รับสิทธิให้สวมได้ถึงสอง โดยหนึ่งในสองจะถูกบังคับให้เป็นมงกุฏ
กริดเคยทดสอบโดยการสวมมงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้านในมาพักใหญ่ ส่วนด้านนอกสวมหมวกเหล็กใหญ่ปิดไว้
ผลการทดสอบคือ การสวมหมวกเหล็กปกคลุมไว้จะช่วยให้มงกุฏไม่สูญเสียค่าต้านทาน แต่ยังแสดงประสิทธิภาพของมงกุฏได้เต็มที่
แม้กริดจะยังหาทางฝังอัญมณีให้กับอุปกรณ์สวมใส่ไม่ได้ แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ ไอเดียใหม่ของกริดสามารถนำไปใช้กับมงกุฏที่มีหมวกเหล็กสวมทับ เขาจะได้รับแต้มสถานะเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเสี่ยงถูกทำลายอัญมณี
แต่ปัญหายังไม่หมด
‘หมวกเหล็กต้องใหญ่จนสามารถปกปิดมงกุฏได้มิดชิด’
ตลอดสามปีที่ผ่านมา กริดเลือกสวมหมวกเหล็กหนาที่สร้างขึ้นพร้อมกับสามชั้นและถุงมือเหล็ก
ซึ่งเป็นดังชื่อของมัน หมวกเหล็กหนาคือไอเท็มที่มีพลังป้องกันสูงลิบ มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่มหึมา ใหญ่พอจะปกปิดมงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ของสันตะปาปาได้มิดชิด
เช่นนั้นแล้ว มันนำมาใช้กับมงกุฏใหม่ได้หรือไม่?
คำตอบคือไม่ได้
กริดไม่เพียงต้องการติดอัญมณีมากถึงสิบเม็ดลงไปในมงกุฏใหม่ เขายังคำนึงถึงรูปลักษณ์ความงดงามของมงกุฏด้วย
มงกุฏใหม่จะเป็นเครื่องแสดงอำนาจบารมีและฐานะ ไม่แปลกที่ขนาดของมันจะใหญ่กว่ามงกุฏแสงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีจำนวนอัญมณีน้อยกว่า ดังนั้นหมวกเหล็กใบใหม่ต้องมีขนาดใหญ่พอจะปกปิดมันให้มิดชิด
‘หมวกเหล็ก…’
กริดหรี่ตาลงพลางครุ่นคิด
หากขนาดและน้ำหนักของหมวกมีมากเกินไป การมองเห็นจะถูกกำจัด หรือแม้กระทั่งอาจส่งผลให้ความเร็วลดลง
‘เดี๋ยวก่อน…
ทันใดนั้น ขณะกริดเห็นอลิซาเบธก้มหน้าเจียระไนอัญมณีชุดถัดไป เขาหวนนึงถึงบางสิ่ง มันคือหมวกที่ลิมชอลโฮเคยสวมในปาร์ตี้วันเกิดของตนที่ผ่านมา
‘หมวกทรงกรวย!’
อธิบายโดยสั้น มันคือหมวกเหล็กทรงกรวยปลายแหลมที่เหมือนกับกรวยจราจรสีส้ม
‘ถ้าเพิ่มความสูงให้หมวกเหล็ก อาจจะมีพื้นที่มากพอสำหรับปกป้องมงกุฏ แถมยังไม่บดบังการมองเห็นให้แคบลงอีกด้วย’
กริดครุ่นคิดเป็นจริงเป็นจังพลางนึกชื่นชมตัวเอง
‘เราอัจฉริยะที่สุด!’
กริดสนใจเพียงรูปลักษณ์ของมงกุฏ ซึ่งจะเป็นเครื่องหมายแสดงอำนาจบารมีกษัตริย์ โดยเขาไม่สนใจรูปทรงหรือความอัปลักษณ์ของหมวกเหล็กแม้แต่น้อย
สิ่งนี้มิได้เกิดจากความเบาปัญญาหรือขาดการไตร่ตรอง แต่เป็นเพราะกริดสามารถเลือก ‘แสดง’ รูปลักษณ์อุปกรณ์สวมใส่ศีรษะได้หนึ่งชนิด
แน่นอน ถึงเขาจะสวมหมวกเหล็กทรงกรวยจารจรสุดอัปลักษณ์เหนือศีรษะ แต่กริดต้องเลือกปิดมันและแสดงเพียงมงกุฏเพื่อความ ‘เท่’ ในสายตาคนรอบข้าง
เมื่อตัดสินใจได้ ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะคิกคักตามลำพัง ส่งผลให้อลิซาเบธถูกรบกวนสมาธิจนต้องหันมามอง
“มีอะไรน่าสนุกหรือ?”
กริดเอ่ยปากถามเธอ
“ฉันต้องการทราบว่า ไอเท็มหนึ่งชิ้นติดตั้งอัญมณีได้สูงสุดกี่เม็ด? เช่นแหวน แหวนหนึ่งวงมีอัญมณีได้เท่าไร?”
“นอกจากอัญมณีเม็ดหลัก แหวนหนึ่งวงสามารถติดตั้งอัญมณีขนาดเล็กได้มากมาย แต่พวกมันจะไม่แสดงผลใดพิเศษ”
“เพราะอะไร?”
“อัญมณีต้องมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับแสดงประสิทธิภาพ หากเล็กเกินไป มันจะไม่เกิดประโยชน์ใดนอกจากสิ่งตกแต่ง”
“หมายความว่า…แหวนหนึ่งวงใส่อัญมณีได้เพียงหนึ่งเม็ด?”
“ถูกต้อง”
“ถ้าอย่างนั้น มงกุฏสามารถประดับอัญมณีได้สูงสุดกี่เม็ด? นับเฉพาะเม็ดที่แสดงประสิทธิภาพ”
“สิบเม็ด นายเคยเห็นมงกุฏของมหาจักรพรรดิแล้วมิใช่หรือ? ชายคนนั้นสวมมุงกุฏที่มีสุดยอดอัญมณีสิบเม็ดประดับอยู่”
“อา…ใช่”
“นั่นคือจำนวนสูงสุดของมงกุฏ เมื่อเทียบกับสร้อยคอที่ประดับอัญมณีได้เพียงสามเม็ดแล้ว มงกุฏคือไอเท็มที่แสดงประสิทธิภาพของอัญมณีได้สูงที่สุด แต่บุคคลเดียวในโลกที่ต่อสู้โดยสวมมงกุฏได้คือมหาจักรพรรดิ”
‘ไม่จริงสักหน่อย…ยังมีอีกคนตรงนี้’
กริดแสยะยิ้ม เขาไม่ได้กล่าวออกไป
อลิซาเบธถามต่อ
“ขอเดาว่า อัญมณีชุดแรกที่ฉันเจียระไนจะถูกใช้กับสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่นที่ไม่ใช่นายสินะ?”
“เพราะอะไร?”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเคยเจียระไนอัญมณีบีเลียล ส่งผลให้อัญมณีชุดแรกจะมีคุณภาพต่ำกว่าอัญมณีชุดหลัง ออปชั่นและประสิทธิภาพย่อมด้อยกว่า ขอแนะนำว่า เครื่องประดับที่นายจะสวมควรใช้อัญมณีที่ฉันเจียระไนชุดหลังสุด”
“ไม่จำเป็น ของฉันใช้ชุดแรกนี่แหละ”
“ไม่ได้ยินที่อธิบายรึไง? ประสิทธิภาพของมันต่ำกว่ากว่าชุดหลังมาก ไม่เชื่อลองดูนี่”
อลิซาเบธยื่นอัญมณีบีเลียลที่เจียระไนตลอดทั้งคืนให้กริดชม
ชายหนุ่มอ่านรายละเอียด
[ อัญมณีบีเลียลสีดำที่ถูกเจียระไนอย่างหยาบ (C) ]
* สติปัญญา +6
* ต้านทานธาตุมืด +2%
อัญมณีดำที่ถูกเจียระไนโดย ‘อลิซาเบธ’ ช่างอัญมณีระดับช่างฝีมือ
เป็นผลงานที่ไม่เลว
“การเจียระไนชุดต่อไปจะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ชื่อของอัญมณีจะต่อท้ายด้วย ‘ถูกเจียระไนอย่างปราณีต’ และ ‘ถูกเจียระไนอย่างสมบูรณ์’ แต้มสถานะของมันจะเพิ่มขึ้นเม็ดละหนึ่งถึงสามหน่วย”
กริดไม่ใช่เด็กแล้วนะ ทำไมเธอต้องเสียแรงอธิบายมากขนาดนี้?
อลิซาเบธเคยพบลูกค้าหลายรูปแบบ เธอย่อมเห็นด้านละโมบของมนุษย์มากมาย โดยเฉพาะเหล่าแรงเกอร์แถวหน้าของโลกที่คาดหวังให้ทุกสิ่งออกมาสมบูรณ์แบบ
ถูกต้อง
อลิซาเบธคิดว่ากริดต้องเลือกใช้อัญมณีเม็ดที่ดีที่สุดกับเครื่องประดับตัวเอง และใช้อัญมณีเกรดรองลงมากับสมาชิกโอเวอร์เกียร์คนอื่น
แต่คำตอบจากปากกริดกลับผิดคาด
“นำอัญมณีเม็ดที่ดีให้พวกพ้องของฉันใช้งาน ต่อให้ไม่มีอัญมณีเหล่านี้ แต่ฉันก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว”
“อะไรนะ?”
ชื่อ ‘กริด’ มีความหมายพ้องกับ ‘กรีด’ (Greed) ที่แปลว่าละโมบ และกริดเคยแสดงความโลภอย่างไร้ยางอายต่อหน้าสื่อทั่วโลกนับครั้งไม่ถ้วน
หมายความว่า เขากำลังแสร้งเป็นคนดีต่อหน้าเธองั้นหรือ? ไม่เหมือนเลยสักนิด
อลิซาเบธมองไม่เห็นเศษเสี้ยวของการสวมหน้ากากเป็นคนดีจากสีหน้าที่กริดแสดงออก
ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้อลิซาเบธที่กำลังฉงน
“ยิ่งพวกพ้องของฉันแข็งแกร่ง นั่นก็ยิ่งดีกับตัวฉัน ความแข็งแกร่งของพวกเขาย่อมหมายถึงความแข็งแกร่งของอาณาจักร มันคือผลลัพธ์ที่ดีผลดีต่อทุกฝ่าย”
“นี่นาย…”
“ฉันอาจโลภกว่านี้ถ้าไม่มีอัญมณีเกรด S รอเจียระไนอยู่”
“…”
“เธอคงเจียระไนมันได้สักวันใช่ไหม? จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฉันจะรอนะ”
‘โลกนี้มีพวกเพี้ยนเต็มไปหมด’
อลิซาเบธเริ่มตระหนักว่า เธอไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก เด็กสาววัยยี่สิบตอนต้นที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยได้บรรลุสัจธรรมเพิ่มอีกหนึ่งข้อ
สายตาที่เธอจ้องมองกริดเริ่มแฝงความเชื่อใจทีละน้อย
‘กิลด์โอเวอร์เกียร์…อาจดีกว่าที่คิดก็ได้ อยู่ต่อไปอีกสักพักก็แล้วกัน’
***
“หืม…”
ผ่านมาแล้วสี่วันนับตั้งแต่อลิซาเบธเริ่มลงมือทำงาน
ยิ่งคุ้นชิน ความเร็วในการเจียระไนของเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เธอยินดีมากเมื่อค่าประสบการณ์ของทักษะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน
อลิซาเบธทำงานอย่างมีความสุขพลางหันไปมองกริดที่ยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง
“พี่ยังสุดยอดเหมือนเคย”
เธอไม่ประหลาดใจอีกแล้ว
ความอดทนแสนน่าทึ่งที่กริดแสดงให้เห็นตลอดสี่วันเต็ม อลิซาเบธคุ้นชินกับมัน
เธอเดินมานั่งข้างกริดด้วยสีหน้าสนใจ ชายหนุ่มผงกศีรษะให้เล็กน้อย
อลิซาเบธกล่าวชม
“หนูเข้าใจแล้ว พี่ไม่เคยเจอกับงานที่ง่ายเลยสักครั้ง กว่าพี่จะมีวันนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย”
“ถูกต้อง มีเรื่องง่ายบนโลกแสนโหดร้ายแห่งนี้ด้วยหรือ?”
อลิซาเบธเรียกกริดว่า ‘พี่’ อย่างเป็นกันเอง
ในฐานะชาวเกาหลีใต้เหมือนกัน กริดอายุมากกว่าเธอ และชายคนนี้ก็มีน้องสาวในวัยไล่เลี่ยกับเธอ อลิซาเบธจึงเรียกกริดว่าพี่
เธอเขินอายเกินกว่าจะเรียกกริดว่าชินยองวูโดยตรง
แต่สิ่งนี้กลับทำให้คนทั้งสองสนิทกันได้รวดเร็ว กริดใช้เวลาตลอดสี่วันขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานอลิซาเบธ
ส่วนเธอขจัดอคติในใจที่เคยมีทั้งหมด
ด้วยความที่มีอายุใกล้เคียงกับน้องสาวตน กริดจึงรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้นเมื่ออลิซาเบธเรียกขานในลักษณะนี้
ราวกับเขามีน้องสาวที่น่ารักเพิ่มอีกหนึ่งคน กริดเริ่มสนทนากับอลิซาเบธอย่างเป็นกันเองมากขึ้น
“ทำงานเหนื่อยรึเปล่า? ให้พี่นวดให้ไหม?”
แม้จะกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่ตัวกริดเองก็เริ่มออกอาการล้าไม่ต่างกัน
ตลอดสี่วันที่ผ่านมา เขาออกแบบมงกุฏและหมวกเหล็กใบใหม่พลางเฝ้ามองการทำงานของอลิซาเบธเป็นระยะ
ในช่วงที่เธอล็อกเอาต์ กริดจะออกไปเก็บเลเวลให้กับโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ในจุดที่ไม่ห่างจากไรนฮาร์ทนัก
เขาใช้เวลาสี่วันอย่างหักโหมราวกับมีร่างกายสำรองไว้คอยสับเปลี่ยน
และนั่นคือเหตุผลที่หัวสมองของชายหนุ่มกำลังเบลอสุดขีด ถึงขั้นออกตัวว่าจะนวดผ่อนคลายให้กับอลิซาเบธโดยหลงลืมพลัง ‘มือมาร’ จนหมดสิ้น
“จริงหรือ? แบบนั้นก็เยี่ยมเลย”
เธอขานรับข้อเสนอจากกริดพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
กริดยิ้มตอบ จากนั้นก็เลื่อนมือสัมผัสไหลและแผ่นหลังของสาวน้อยโดยปราศจากเจตนาร้ายแอบแฝง
“อ๊าง—”
ดวงตาสีดำกลมโตราวตุ๊กตาเริ่มกระตุก
หัวไหล่ขาวเนียนพลันสั่นระริกอย่างหยุดไม่ได้เมื่อปลายนิ้วกริดสัมผัสเข้า กริดที่เหนื่อยล้าย่อมไม่สังเกตเห็นถึงอาการแปลกประหลาด เขาเพียงออกแรงบีบนวดเพื่อหวังผ่อนคลายน้องสาวคนสำคัญ
“ฮ๊าง—!”
เมื่อฝ่ามือที่ใหญ่และหนาของกริดเริ่มเลื่อนขึ้นไปลูบไล้ต้นคอ อลิซาเบธรู้สึกราวกับพละกำลังทั่วร่างถูกสูบออกจนหมด เธอเอนหลังซบแผ่นอกกริดอย่างไร้เรี่ยวแรงทันที
ดวงตาพร่ามัวจ้องมองเพดานที่ขาวโพลน ความรู้สึกซาบซ่านแล่นทั่วร่างจนมิอาจอธิบายเป็นคำพูด
ขณะเดียวกัน สวามปามจกบัลเผ็ดเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาเยี่ยมเยียนหลานสาวก่อนจะไปเรียนทักษะปรุงอาหารตามปรกติ
“แกกำลังทำบ้าอะไร!!?”
สวาปามจกบัลเผ็ดแผดเสียงคำรามดังสั่นห้องทำงานอลิซาเบธ
“แกมันระยำยิ่งกว่าสัตว์ป่า! แกมีแฟนแล้วถึงสองคน! กล้าดียังไงถึงแตะต้องหลานสาวฉัน!!”
“ฉันยังไม่มีแฟนสักหน่อย...”
“อะไรนะ? ทั้งที่แกมียูร่ากับจิสึกะข้างกาย! อิจฉาจริงโว้ย! พวกเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้นสินะ? ไอ้บัดซบ! แกมันศัตรูของผู้ชายทั้งโลก!!”
“ด…เดี๋ยว! อึ๋ย!”
กริดถูกตะเพิดออกจากร้านด้วยฝีมือสวาปามจกบัลเผ็ดผู้เกรี้ยวกราด
เมื่อไม่มีทางเลือก กริดตัดสินใจเดินตรงไปยังโรงเหล็ก
‘หมอนั่นกินยาผิดมารึไงนะ? เฮ่อ…ช่างเถอะ ลงมือสร้างหมวกเหล็กกับมงกุฏดีกว่า’
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,263
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
อัพรัวๆ
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ🙏
ขอบคุณครับฟินมาก กับการอัพรัวๆ
ReplyDeleteเบลอจนลืมว่ามีมือมาร55555
ReplyDeleteศัตรูของผู้ชายทั่วโลก ทั้งที่กริดเป็นไอ้งั่งเรื่องผู้หญิง(ยกเว้นไอรีน(บ้างเรื่อง))
ReplyDeleteหมวกกับ มงกุฎ สามารถแสดงอย่างใดอย่างหนึ่งได้ แล้วทำไมยังต้องสร้างหมวกให้คุมมงกุฎอีก *คนแต่งเบลอรึเปล่า โดยทั่วไป..ควรจะเป็นแบบนั้น
ReplyDeleteคุณนั่นแหละเบลอรึเปล่าไม่เข้าใจตรงไหน กับคำว่าใส่ได้ทั้งสองแต่เลือกแสดงให้คนอื่นเห็นได้แค่อย่างเดียว ถ้าไม่ใส่หมวกให้มันคลุมมงกุฏก็ต้องใส่ไม่ได้อยู่แล้ว หรือถ้าใส่หมวกก่อนแล้วค่อยสวมมงกุฏทับเวลาโดนตีที่หัวดาเมจมันก็จะไปทำลายค่าความคงทนของมงกุฏหนะสิ ก็เลยจำเป็นต้องสร้างหมวกที่มันสามารถสวมทับให้ปิดมงกุฏทุกส่วน โง่ก็แค่อยู่เงียบๆไม่ต้องโชร์นะ
Delete