จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,451
“ตอนแรกก็ยังไม่ชัด แต่ตอนนี้มั่นใจแล้ว… นายเปลี่ยนไปมาก”
ณ ลานฝึกด้านในวังหลวงโอเวอร์เกียร์
ในอดีตลอร์ดชอบใช้ที่นี่สำหรับฝึกฝนตัวเอง และเมื่อไม่นานมานี้ ไอรีนใช้มันเป็นที่ฝึกดาบ
แต่ในปัจจุบัน กริดและบราฮัมกำลังยืนเผชิญหน้า
“พลังงานในตัวนาย… เริ่มเหมาะกับการใช้เวทมนตร์ขึ้นมาบ้างแล้ว”
ถ้อยคำของบราฮัมเต็มไปด้วยความหมาย
มหาจอมเวทในตำนานรายนี้ก้าวข้ามระดับที่ทำได้เพียง ‘สัมผัส’ เวทมนตร์จากทุกสรรพสิ่งไปแล้ว
มันสามารถอ่านและแทรกแซงเวทมนตร์ จึงช่วยให้มีความเร็วในการร่ายเวทสูงมาก
ขณะใช้เวททั่วไป (ในสายตาบราฮัม) มันสามารถลัดขั้นตอนการควบแน่นและปลดปล่อยพลังเวท
บราฮัมสามารถแทรกแซงกระแสมานาในบรรยากาศรอบๆ ตัวและเปลี่ยนให้พวกมันกลายเป็นเวทมนตร์จากความว่างเปล่า
โลกของบราฮัมแตกต่างจากโลกที่มนุษย์ปุถุชนทุกคนเห็น
วิสัยทัศน์ในการตรวจสอบผู้คนย่อมแตกต่างจากปรกติ จึงมองเห็นพัฒนาการในตัวกริด
‘เริ่มเหมาะกับการใช้เวทมนตร์?’
กริดพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เทคนิคของเทพโอเวอร์เกียร์กริด
ชายหนุ่มเชื่อว่าทักษะชนิดนี้ - ทักษะที่สามารถช่วยให้ตนฝังเวทมนตร์ลงไปในไอเท็มการผลิต คือสิ่งที่ยกระดับความเข้ากันได้กับเวทมนตร์ภายในร่างกาย
“สองชนิด”
บราฮัมเปิดประตูโลกจินตภาพและดึงหนังสือออกมาสองเล่ม
พวกมันคือตำราเวท
“ตอนนี้นายสามารถเรียนเวทมนตร์สองชนิดนี้”
“ถึงเวลาของเวทอุกกาบาตแล้วใช่ไหม?”
“…?”
“…แค่ล้อเล่นน่ะ”
กริดตัดสินใจหยั่งเชิงด้วยคำพูดทีเล่นทีจริง แต่ไม่คิดว่าจะถูกบราฮัมจ้องด้วยสายตาแบบนี้
ตำราเวทสองเล่มลอยเข้าหากริดที่กำลังกระอักกระอ่วน
[ท่านได้รับ ‘ตำราเวทมนตร์เสริมแกร่งสายสนับสนุนของบราฮัม: ประสานเวท’]
[ท่านได้รับ ‘ตำราเวทมนตร์เสริมแกร่งสายสนับสนุนของบราฮัม: สเปรย์’]
“…อำกันเล่นหรือ?”
ดวงตากริดที่เคยส่องประกายราวกับดวงดาว ปัจจุบันพลันอับแสงประหนึ่งปลาตาย
ดวงตาสีดับสิ้นประกายโดยสมบูรณ์ สิ่งเดียวที่แสดงออกคือ ‘ความว่างเปล่า’
แม้แต่อริยดาบก็มิได้ดวลชนะกริดในตอนนี้ เนื่องจากมิอาจคาดเดาวิถีและทำนายการเคลื่อนไหว
บราฮัมคิดไว้แล้ว จึงทำเพียงส่ายหน้า
‘ต่อให้กำลังมีความรัก แต่เราก็จะไม่แสดงอารมณ์ทางสายตาประเจิดประเจ้อเช่นนี้’
ณ ปัจจุบัน ไม่ว่ากริดจะหยิบจับสิ่งใด มันต้องเป็นเรื่องที่สำคัญและยิ่งใหญ่เสมอ
ถูกต้อง กริดควรได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น แต่ว่า
บราฮัมทำหน้านิ่งพลางตั้งคำถาม
“ส่วนไหนที่นายคิดว่าเป็นเรื่องตลก?”
“พวกมันคือเวทมนตร์สายสนับสนุน”
หลังจากนี้ มันต้องไปฆ่าสัตว์อสูร สังหารจอมอสูรในนรก บรรลุภารกิจประจำคลาส และอีกมากมาย
ตลอดหกเดือนที่ผ่านมา เลเวลของกริดเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนทัดเทียมกับสถิติสูงสุด
ปัจจุบัน เลเวลของกริดคือ 455
นับตั้งแต่ก้าวผ่านเลเวล 399 ซึ่งถูกเรียกขานว่ากำแพงแห่งการโหยหวน ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ในแต่ละเลเวลมิได้เพิ่มทวีคูณอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้อัตราการเพิ่มเลเวลค่อนข้างคงที่
ลงเอยด้วย ค่าสติปัญญาของกริดในปัจจุบันสูงถึง 5,303 หน่วย สูงกว่าเซ็ดนอสที่เป็นอันดับหนึ่งหรือสองของคลาสจอมเวท ราวสองพันแต้มเลยทีเดียว
แน่นอน ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ใช่ความตั้งใจของกริด แต่เป็นอิทธิพลจากสมญานามดยุคแห่งปัญญา
กริดจะได้รับค่าสถานะ 18 แต้มในทุกครั้งที่เลเวลอัป โดย 8 แต้มจะถูกบังคับนำไปลงกับค่าสติปัญญา
นอกจากนั้น ยังมีผลของสมญานามอีกกว่าห้าสิบประเภท ผลจากไอเท็ม โบนัสค่าสถานะที่ได้รับหลังจากผลิตไอเท็มเกรดมิธ ค่าสถานะที่ได้รับจากกระดองเต่าดำ และอีกมากมาย
ทั้งหมดรวมกันและกลายเป็น 5,303
หากพิจารณาจากค่าสติปัญญาเพียงอย่างเดียว กริดจะกลายเป็นแรงค์หนึ่งของผู้เล่นคลาสจอมเวท แถมยังจะได้รับสมญานามมหาจอมเวท
จึงไม่แปลกที่กริดตั้งตารอเรียนเวทมนตร์ซึ่งมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
นอกจากนั้น บราฮัมยังบอกว่า ร่างกายกริดเริ่มเหมาะแก่การเรียนเวทมนตร์แล้ว
มันพูดเองจากปากไม่ใช่หรือ?
แล้วแปลกตรงไหนที่กริดจะเพิ่มความคาดหวัง?
“ฉันคิดว่าอย่างน้อยก็ควรจะเป็นกีก้าไลท์นิ่ง หรือไม่ก็ระเบิดกัมปนาท…”
กริดเปิดเผยในสิ่งที่คิด
ปัจจุบัน มันสามารถฝังเวทมนตร์ลงไปในไอเท็มการผลิต จึงไม่เก็บซ่อนเรื่องที่ต้องการเรียนเวทมนตร์ประเภทโจมตี
ทว่า สีหน้าของบราฮัมยังคงสงบนิ่ง
“นายสามารถฝังเวทมนตร์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาวัสดุพิเศษสินะ? น่าทึ่งมากทีเดียว… คงเป็นผลมาจากการผสานองค์ความรู้ของดยุคแห่งปัญญาและเทคนิคของแพ็กม่าเข้าด้วยกัน”
“เป็นเหตุผลที่ฉันต้องการเรียนเวทมนตร์ให้หลากหลาย… ไอเท็มที่ผลิตขึ้นจะได้มีประสิทธิภาพสูงสุดจากการเลือกใช้เวทมนตร์ที่เหมาะสม”
“ผิดแล้ว… นั่นยิ่งเป็นสาเหตุว่าทำไม นายถึงต้องเรียนเวทมนตร์สองชนิดนี้”
ครืนนนน
บราฮัมใช้เวทกำแพงหินเพื่อสร้างแนวกำแพงห่างออกไปสิบเมตร
เป็นระยะห่างที่ศรเวทสามารถแสดงผลได้ดีที่สุด
“ฉันรู้ว่าสติปัญญาของนายสูงมาก… อาจสูงกว่าเจ้าเด็กอมมือที่แพเทรี่ยนเล็กน้อยด้วยซ้ำ”
มันกำลังหมายถึง มหาจอมเวทอัชเชอร์
หนึ่งในสิบมหาจอมเวทแห่งทวีปยังเป็นได้เพียงเด็กอมมือในสายตาบราฮัม
“อย่างไรก็ตาม สติปัญญามิได้แปรผันตรงกับทักษะเวทมนตร์… ลองคิดดูให้ดี นายแตกต่างจากช่างตีเหล็กช่างฝีมือของไรน์ฮาร์ทในจุดไหน? แค่ความชำนาญมือ?”
“…ไม่ใช่”
“เวทมนตร์ก็เช่นกัน… สติปัญญามิใช่ปัจจัยเดียวที่กำหนดพลังทำลาย ความเร็ว ความแม่นยำ และรูปทรงของเวทมนตร์… ทั้งหมดต้องถูกสนับสนุนด้วยเทคนิค”
ต้องยอมรับว่า กริดยังขาดทักษะติดตัวและสมญานามที่ช่วยผลักดันพลังทำลายของเวทมนตร์
หากกริดและเซ็ดนอสใช้เวทมนตร์ระดับเดียวกัน มีโอกาสมากที่พลังทำลายหรืออรรถประโยชน์การใช้งานจะด้อยกว่า
ค่าสติปัญญาจะส่งผลต่อพลังทำลายเพียงอย่างเดียว หากต้องการให้เวทมนตร์สมบูรณ์ จำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากทักษะอื่น
“อา…”
กริดเริ่มฉุกคิดได้
นี่คือเหตุผลที่บราฮัมเน้นย้ำความสำคัญของเวทมนตร์สายสนับสนุน
บราฮัมมองขาด และตั้งใจเสริมในสิ่งที่กริดขาด
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันคอยเฝ้ามองกริดเสมอ
“ดูให้ดี”
บราฮัมยกมือเล็งไปทางกำแพงหิน ทันใดนั้น พลังเวทสีขาวเริ่มรวมตัวบริเวณปลายฝ่ามือ
เป็นท่าเริ่มต้นการใช้งาน ‘ศรเวทยกระดับของบราฮัม’ ที่กริดคุ้นเคย ไม่มีสิ่งใดพิเศษ
แต่เพียงไม่นาน การเปลี่ยนแปลงก็เริ่มขึ้น
สองวินาทีหลังจากกลุ่มแสงควบแน่น สีของแสงสว่างทวีความเข้มข้น
ในวินาทีที่สาม ขนาดของเวทมนตร์ใหญ่ขึ้น
“นี่คือประสานเวท… ขณะกำลังร่าย มานาในบรรยากาศจะถูกรวมเข้ากับเวทมนตร์และเพิ่มอานุภาพ… เป็นสาเหตุว่าทำไม ศรเวทของนายถึงเหมือนกับอึหมา โดยที่ศรเวทของฉันเหมือนกับอุกกาบาต”
“…”
อึหมา?
นี่เราสูญเสียค่าความสัมพันธ์กับบราฮัมไปแล้ว?
เหตุผลที่อีกฝ่ายไม่ยอมสอนมหาเวท แท้จริงแล้วเป็นการกลั่นแกล้ง?
กริดผุดความสงสัย แต่ก็เพียงไม่นาน
เพราะมันเห็นความปรารถนาดีที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีแดงแสนเย็นชาของบราฮัม
ดวงตาที่ส่องแสงราวกับอัญมณี
“ประสานเวทแบบธรรมดาจะทำให้ระยะเวลาในการร่ายเพิ่มขึ้นสองเท่า และเพิ่มอานุภาพของเวทมนตร์ 1.5 เท่า… แต่ในทางกลับกัน ประสานเวทเสริมแกร่งของฉันจะทำให้ร่ายเวทนานขึ้นสามเท่า แต่เพิ่มอานุภาพถึงสี่เท่า”
ยกตัวอย่างเช่น ระยะเวลาในการร่ายศรเวทยกระดับคือหนึ่งวินาที
หากใช้ประสานเวทและเพิ่มเวลาร่ายเป็นสามวินาที อานุภาพของศรเวทจะเพิ่มขึ้นสี่เท่า
ศรเวทบินกระทบกำแพงหินและเกิดรอยร้าว
ศรเวทเป็นฝีมือของบราฮัม และกำแพงหินก็เป็นฝีมือของบราฮัม
แน่นอน กำแพงหินคือเวทมนตร์ระดับสูงกว่า
ตามปรกติแล้ว ศรเวทจะไม่ควรสร้างรอยขีดข่วนบนกำแพงหิน แต่บราฮัมสามารถทำได้ด้วยประสานเวท
“ถัดไปคือสเปรย์”
บราฮัมใช้ศรเวทอีกครั้ง
เหมือนเดิม คราวนี้ใช้เวลาร่ายทั้งสิ้นสามวินาที อานุภาพของศรเวทกำลังเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด
จากนั้นก็แบ่งออกเป็นสิบนัดและยิงตรงไป
ดูราวกับเม็ดฝนสิบเม็ดที่ตกในแนวนอน
หากเป้าหมายเป็นเหนือมนุษย์ อีกฝ่ายจะถูกบังคับให้เข้าสู่โลกแห่งเหนือมนุษย์ที่แท้จริง
รอยขีดข่วนสิบจุดเกิดขึ้นบนกำแพงหิน
“สเปรย์จะช่วยให้การโจมตีกระจายได้สูงสุดสิบนัด… ช่วยเพิ่มปริมาณการโจมตีและรัศมีการทำลาย แต่ก็มิได้ครอบจักรวาล การกระจายพลังเวทจะทำให้เวทมนตร์ถูกลดทอนประสิทธิภาพลง แต่ถึงอย่างนั้น ประโยชน์การใช้งานก็สูงมาก”
“…แบบนี้นี่เอง”
ทักษะที่ช่วยเปลี่ยนให้เวทเป้าเดียวกลายเป็นเวทหมู่
ยิ่งมีค่าสติปัญญาสูงเพียงใด โอกาสฆ่าเป้าหมายก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
โชคดีที่กริดมีค่าสติปัญญาสูงเป็นต้นทุน
บราฮัมมิได้เสนอเวทมนตร์สองชนิดนี้ให้กริดส่งเดช
มันมองไปยังอนาคต ไม่ใช่ปัจจุบัน
แทนที่จะสอนเวทมนตร์สายโจมตีที่ทรงพลัง มันเลือกจะสอนทักษะที่ช่วยยกระดับเวทมนตร์อ่อนแอ เป็นการพัฒนาไปทีละขั้นอย่างมั่นคง
‘ชอบประสานเวทแฮะ…’
ถ้าฝังศรเวทที่มีอานุภาพสูงขึ้นสี่เท่าลงในไอเท็ม…
ถึงจะยังไม่เท่ากีก้าไลท์นิ่งหรือระเบิดกัมปนาทที่คาดหวัง แต่ก็มีประโยชน์ในแบบฉบับของมัน
ไม่สิ อาจมีกว่าเวทมนตร์สองชนิดข้างต้นด้วยซ้ำ เพราะระยะหน่วงของศรเวทสั้นกว่ากีก้าไลท์นิ่งและระเบิดกัมปนาทนับสิบเท่า
“ขอบคุณ… ฉันจะตั้งใจศึกษามัน”
กริดซาบซึ้งในสิ่งที่บราฮัมมอบให้ พลางเปิดตำราเวทใหม่ทั้งสองชนิดเพื่อเรียน
จากนั้น มันนำเตาหลอมรุ่นพกพาออกมาวาง สร้างไอเท็มใหม่และฝังศรเวทที่ใช้ประสานเวทลงไป
เพียงแปดนาที ดาบมือเดียวที่มีเลเวลขั้นต่ำสี่ร้อยได้ถือกำเนิด
หากต้องการสร้างมีดที่มีเลเวลขั้นต่ำสามร้อย กริดสามารถทำให้เสร็จภายในห้านาที
<ดาบซ่อนเขี้ยว>
เกรด: ยูนีค
พลังโจมตี: 1,830
ความคงทน: 890/890
* เนื่องจากหนึ่งในเวทมนตร์ของเทพโอเวอร์เกียร์ถูกฝังลงในอาวุธ พลังโจมตีของอาวุธเพิ่มขึ้นจากเดิม 10.6%
* จะทำการยิงศรเวทที่รุนแรงขณะโจมตี
ระยะหน่วง: 5 นาที
มานา: 600
สามารถเปิดปิดการใช้งาน
ดาบที่สร้างขึ้นโดยเทพโอเวอร์เกียร์
ทุกครั้งที่ดาบสั่งสมพลังเวทสีขาวโพลนถึงระดับหนึ่ง จะทำการยิงศรเวทยกระดับที่ผ่านการประสานเวท
เงื่อนไขการใช้งาน:
-ทักษะความชำนาญดาบขั้นสูง
-เลเวล: 400
‘ระยะหน่วงเท่ากับศรเวท’
ประสานเวทเพิ่มอานุภาพขึ้นสี่เท่า แต่ระยะหน่วงหลังใช้ยังคงเท่าเดิม อัตราการสิ้นเปลืองมานาสูงกว่าปรกติเพียงสองร้อยหน่วย นั่นเพราะการใช้ประสาทเวทต้องเสียมานา 200
‘เทคนิคของเทพโอเวอร์เกียร์… ไม่เลวทีเดียว’
นอกจากศรเวท กริดยังสังเกตเห็นพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นจากการฝังเวท
ฝังเวทมนตร์ - ด้วยตรรกะที่ว่า ‘มีการฝังพลังเวทของเทพโอเวอร์เกียร์ลงไป’ ศักยภาพของอาวุธจึงเพิ่มขึ้นจากปรกติ เป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพของไอเท็ม
‘ค่าสติปัญญาของเราคือ 5,300 โบนัสพลังโจมตีจึงเป็น 10.6%…’
ถ้าค่าสติปัญญาหนึ่งหมื่นหน่วย พลังโจมตีของอาวุธจะเพิ่มขึ้น 20% ใช่ไหม?
แถมนี่ยังเกิดจากการฝังเวทมนตร์ระดับล่างสุดอย่างศรเวท
‘ถ้าเวทมนตร์ที่ฝังลงไปมีคุณภาพสูงขึ้น โบนัสพลังโจมตีก็อาจเพิ่มขึ้นเช่นกัน’
นอกจากนั้น ยังมีโอกาสที่โบนัสพลังโจมตีจะทวีคูณเป็นสองเท่าหรือสามเท่า หากกริดสามารถเวทมนตร์ลงไปในอาวุธได้สองหรือสามชนิด
แต่ไหนแต่ไร มันมักหัวเสียที่ต้องถูกยึดค่าสถานะกว่าครึ่งไปบังคับอัปค่าสติปัญญา แต่ปัจจุบันเลิกคิดแบบนั้นแล้ว
บราฮัมแจ้งข่าวดีเพิ่มเติม
“ขอเพียงยกระดับสติปัญญาอีกสักนิด นายจะสามารถเรียนเวทมนตร์ชนิดใหม่… ฉันคิดว่าช่วงนี้นายควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตัวเอง”
“อา… เข้าใจแล้ว”
อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น กริดต้องมีค่าสติปัญญา 5,500 หน่วย
ชายหนุ่มบอกลาบราฮัมพร้อมกับตะโกนในใจว่า ‘อุกกาบาต!’
ใจจริง มันอยากตรงไปนรกทันที แต่ก่อนหน้านั้นต้องแวะไปรวบรวมไอเท็มดรอปจากกัลกุนอสเสียก่อน
ไอเท็มดรอปที่จิสึกะและยูเฟอมิน่าได้รับ - กริดต้องการซื้อต่อจากพวกเธอและยกระดับฝีมือให้โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ทั้งสอง
‘เหนือสิ่งอื่นใด แก่นของกัลกุนอส…’
บางที นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์วิวัฒนาการไปเป็นลิช
‘ถ้าเป็นลิช เราจะคุยกับมันได้… และนั่นอาจช่วยให้อ่านไดอารีมาดราออก’
ไดอารีที่เขียนโดยอัศวินความตายมาดรา เป็นการเขียนในช่วงบั้นปลายซึ่งสูญเสียสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์
หากพิจารณาดูให้ดี โอกาสที่เนื้อหาส่วนดังกล่าวจะเกี่ยวกับวิชาดาบมีน้อยมาก แต่ถึงอย่างนั้น กริดก็ยังคาดหวังการเติบโตของเหล่าโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์
Comments
Post a Comment