จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,452



โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์แตกต่างจากอันเดดทั่วไปมาก


ระบบการเพิ่มเลเวลและค่าสถานะย่อมหมายถึง พวกมันสามารถเปลี่ยนคลาสและเรียนทักษะ


พวกมันสามารถพัฒนาตัวเองได้เหมือนผู้เล่น


นอกจากนั้น กระดูกยังสามารถถูกทดแทนได้ด้วยสิ่งอื่น เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์


กล่าวอีกนัยหนึ่ง โครงสร้างพื้นฐานของพวกมันสามารถถูกยกระดับได้โดยไม่สนใจค่าสถานะ


กริดเคยฝันให้โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์พัฒนาไปเป็นอัศวินความตายและลิช และนั่นก็มิใช่แค่จินตนาการ


ชายหนุ่มตัดสินใจลงทุนหลายร้อยล้านเหรียญทองไปกับโครงกระดูก


ความสามารถอันหลากหลายที่ ‘คนตาย’ ของแอ็กนัสแสดงให้เห็น ยังคงฉายในความทรงจำกริด


อันเดดที่ไม่ตายและไม่รู้จักความกลัว ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไร ศัตรูก็ยิ่งหวาดหวั่นมากเท่านั้น นี่คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะทำสงครามในเขตปกครองตัวเอง


‘เงินทองจะหาเมื่อไรก็ได้’


ปัจจัยที่จะส่งผลกับการผลิตอัตโนมัติประกอบด้วย ขนาด รูปทรง โครงสร้าง วัสดุ และเลเวลขั้นต่ำของไอเท็ม


ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่ โครงสร้างซับซ้อน ต้องการเลเวลสวมใส่มาก ความเร็วในการผลิตก็ยิ่งช้าลง


จากบรรดาทั้งหมด ปัจจัยที่ส่งผลมากที่สุดคือวัสดุและเลเวลขั้นต่ำ


แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ไอเท็มที่อยู่ในความต้องการของตลาด มีเลเวลเฉลี่ยไม่สูงขนาดนั้น


อย่างมากก็ไม่เกินเลเวลสามร้อย


และเนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่มีทรัพยากรทางการเงินจำกัด พวกมันจึงชอบไอเท็มที่ผลิตจากวัสดุกลางๆ มากกว่าวัสดุคุณภาพเยี่ยม


ไอเท็มที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด กริดสามารถผลิตอัตโนมัติได้ในสิบนาที


หากยอมเสียสละเวลาสักหนึ่งวันเพื่อสร้างไอเท็มหนึ่งร้อยชิ้น มันสามารถนั่งบนกองเงินกองทองได้โดยการทำงานแค่หนึ่งวัน


‘ถ้าโชคดีเกิดออกมาเป็นเกรดเลเจนดารีหรือมิธ เราก็สามารถยกให้สมาชิกโอเวอร์เกียร์’


นี่มัน… ไม่ว่าจะมองมุมใดก็น่าตื่นเต้น


กริดกำลังอารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายปี


มันกำลังคาดหวังประสิทธิภาพของทักษะการผลิตที่สมบูรณ์แบบ


ตลอดปลายปีที่ผ่านมา กริดต้องใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับการผลิตกางเกงใน แต่ตอนนี้ได้เป็นอิสระจากพันธนาการนั้นเรียบร้อยแล้ว


หัวใจชายหนุ่มเบาหวิวประหนึ่งขนนก อดไม่ได้ที่ดื่มด่ำไปกับความสุข


แน่นอน มันมิได้ตื่นเต้นจนทำอะไรโง่ๆ


กริดไม่อยากให้ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมา ถูกทำลายง่ายๆ ราวกับปราสาททราย


‘แต่ไม่ว่าจะร้อนเงินแค่ไหน ก็ห้ามปล่อยสินค้าจำนวนมากเข้าสู่ตลาดในคราวเดียวเด็ดขาด… เพราะถ้าราคาสินค้าตก คนเดียวที่จะได้รับผลกระทบคือเรา… ต้องทำตามคำแนะนำของลอเอล ค่อยๆ กระจายสินค้าอย่างใจเย็น’


ไม่กี่วินาทีถัดมา กริดมาถึงจุดนัดหมาย พบกับยูเฟอมิน่าและโบกมือเรียก


ที่นี่คือห้องฝึกใต้หอคอยเวทมนตร์


ยูเฟอมิน่ายิงพลังเวทสีรุ้งใส่โกเล็มเลเวล 450 ที่อยู่ด้านในสุด จากนั้นก็เสร็จสิ้นการฝึกและเดินมาหากริด


ยูเฟอมิน่าถาม


“การเรียนเวทมนตร์เป็นยังไงบ้าง? ผ่านไปด้วยดีไหม?”


“อา… อยากเห็นไหม? เธอกำลังสนใจเวทมนตร์บราฮัมอยู่นี่”


ยูเฟอมิน่ายังคงหลงเหลือเอกลักษณ์ของนักคัดลอก


ขอเพียงทักษะของเป้าหมายอยู่ในหมวดหมู่ ‘เวทมนตร์’ มีโอกาสเป็นบางครั้งที่จะคัดลอกด้วยพลังทำลายที่สูงกว่า


หลังจากซึมซับเทคนิคและความรู้ของมูมัด จอมเวทที่อัจฉริยะที่สุดของโลก เธอสามารถวิเคราะห์เวทมนตร์ของผู้อื่นจนแตกฉานและย้อมมันให้กลายเป็นสีของตัวเอง


ลิช กัลกุนอส


นี่คือเหตุผลที่บอสสุดแกร่งซึ่งแม้แต่กริดยังหวาดหวั่น เสร็จยูเฟอมิน่าเป็นที่เรียบร้อย


ไม่ผิดนักหากจะกล่าวว่า การผสมผสานระหว่างนักคัดลอกและผู้สืบทอดมูมัด มีศักยภาพในเชิงเวทมนตร์สูงกว่ากริดและสมญานามดยุคแห่งปัญญาของบราฮัม


ในวินาทีที่ศรปราบมารของจิสึกะซึ่งถูกฉาบด้วย ‘เวทสีรุ้ง’ ของมูมัด ทะลวงผ่านผิวหนังและระเบิดทำลายร่างกายจากภายใน กัลกุนอสก็เผชิญกับหายนะทันที


“ไม่ดีกว่า… นั่นถือเป็นการเสียมารยาทต่อท่านบราฮัม”


ยูเฟอมิน่าตอบคำถามกริด


การที่บราฮัมโปรดปรานยูเฟอมิน่า เหตุผลหลักก็คือความสำนึกผิดในอดีต


บราฮัมมิได้นึกห่วงใยยูเฟอมิน่าด้วยสาเหตุพิเศษ สิ่งเดียวที่มันอยากทะนุถนอมก็คือ เจตจำนงและความทั้งใจสุดท้ายของมูมัดที่เหลืออยู่บนโลก


ยูเฟอมิน่าตระหนักถึงสิ่งนี้ จึงขีดเส้นระยะห่างระหว่างตนและบราฮัม


เธอไม่อยากพึ่งพาความใจดีของอีกฝ่ายมากจนเกินไป


“ในสักวัน… บราฮัมจะเห็นเธอเป็นเธอ ไม่ใช่มูมัด”


กริดเผยรอยยิ้มขื่นขมเมื่อยืนยันสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างบราฮัมและยูเฟอมิน่า


จากนั้น มันเดินเข้าไปลูบหัวหญิงสาวเหมือนทุกที


แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่ดูเหมือนนักเรียนมัธยมต้น ยูเฟอมิน่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่กริดก็อดมองอีกฝ่ายเป็นน้องสาวที่น่ารักไม่ได้


ยูเฟอมิน่าเองก็มิได้รังเกียจ


นักคัดลอกที่คอยแอบมองและขโมยพลังผู้อื่น


แต่ไหนแต่ไร ยูเฟอมิน่ามักเอาเปรียบผู้อื่นด้วยทักษะการคัดลอกซึ่งเป็นพลังของคลาส และมักสัมผัสถึงความเกลียดชังจากผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อ ส่งผลให้มักตีตัวออกหากจากคนอื่นโดยสัญชาตญาณ


แต่นั่นไม่ใช่กับกริด


อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยขโมยทักษะกริด หรืออาจเป็นเพราะศักดิ์ศรีของเธอที่พยายามรักษาความสัมพันธ์กับกริดเอาไว้ ไม่ว่าจะอย่างไหน ยูเฟอมิน่าก็ไม่เคยมองกริดในแง่ลบ


ตรงกันข้าม เธอจะมีความมั่นใจและผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้อยู่ข้างๆ กริด


ชายคนนี้เปรียบดังพี่ชายที่อบอุ่น


“ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่นายต้องการ”


ยูเฟอมิน่ามอบไอเท็มดรอปและแก่นของกัลกุนอสให้กริด


“พี่จิสึกะบอกว่า คุณต้องการพวกมัน เราจึงไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย”


“จิสึกะ…”


“ฉันรู้สึกว่า… ความสัมพันธ์ของนายกับเธอดูอึดอัดมาก… เป็นความจริงใช่ไหมที่มันพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม?”


“…”


มีข่าวลือแบบนี้ด้วยหรือ?


กริดชะงักเล็กน้อย แต่ไม่นานก็แสดงจุดยืนอย่างซื่อตรง


“ฉันมัน… เป็นไอ้ขยะ… นั่นคือเหตุผลที่ฉันชอบทั้งยูร่าและจิสึกะ… แต่ฉันก็ทราบดี โลกคงไม่ยอมให้ฉันเห็นแก่ตัวแบบนั้น และนั่นก็ถือเป็นการเสียมารยาทกับพวกเธอด้วย… สุดท้ายก็ต้องเลือกเพียงคนเดียว… ระหว่างพวกเธอทั้งคู่ จิสึกะเป็นคนสดใสร่าเริง เธอน่าจะมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีฉัน”


“ว้าว… ไอ้ขยะตัวจริง”


ดวงตายูเฟอมิน่าเต็มไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยัน


ภาษากายเผยความรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง


“ยูร่าและจิสึกะต่างหลงรักนาย หลงรักหัวใจของนาย แต่นายกลับใช้หัวใจดวงเดียวกันเป็นข้ออ้างในการทำลายความสัมพันธ์? ไร้สาระสิ้นดี นายนี่มันโง่ชะมัด”


“แต่ฉันจำเป็นต้องทำ… มนุษย์เราไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่คลุมเครือได้ตลอดไป… ไม่อย่างนั้น บางแผลรังแต่จะขยายใหญ่ขึ้น”


“คลุมเครืออะไร? นายชอบทั้งสองคน และทั้งสองคนก็ชอบนาย มันมีตรงไหนที่คลุมเครือ? โลกจะตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์นาย? สนใจทำไม? ในเมื่อพวกนายสามคนรักชอบกัน! ถ้าคนพวกนั้นอยากจะสาปแช่งนายก็ปล่อยมันไป… แค่ทำให้ทุกคนรอบตัวนายมีความสุขก็พอแล้ว… นอกจากนั้น… สิ่งที่นายทำมันเสียมารยาทกับพี่จิสึกะของฉัน! สิ่งที่นายกังวลมันก็แค่มโนภาพ! ถ้าชอบใครสักคนจริงๆ ไม่สำคัญหรอกว่าสถานการณ์มันจะเป็นยังไง… ต่อให้นายชอบทั้งสองคน ทั้งสองก็จะยินดีที่ความรักของพวกตนผลิดอกออกผล… นายรู้อะไรไหม? พวกไก่อ่อนด้านความรัก มักชอบคิดอะไรโง่ๆ ไปเองคนเดียว”


“…ฉันเข้าใจที่เธอพูดแล้ว เปลี่ยนเรื่องกันเถอะ”


ท้ายที่สุด นั่นก็เป็นแค่ความเห็นของยูเฟอมิน่า


เป็นเพียงหนึ่งความเห็นจากกระแสตอบรับมากมายรอบตัวกริด เป็นเพียงแนวคิดที่ขาดประสบการณ์และฝ่าฝืนจริยธรรมอันดีงามของสังคมที่กริดได้เรียนรู้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา


ชายหนุ่มเชื่อว่า คุยต่อไปก็คงเปล่าประโยชน์


มันวิเคราะห์ซากของกัลกุนอสด้วยเนตรแพ็กม่า: ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล


ผนวกกับสมญานามดยุคแห่งปัญหา กริดจึงเข้าใจรายละเอียดที่แสดงขึ้น


มันพบว่า สูตรเวทมนตร์และลวดลายที่สลักบนกระดูกสีขาว แท้จริงแล้วคือวงจรเวทเทียม


‘การควบแน่นของพลังเวท… การแปลงพลังเวท… ตัวช่วยในการลดความกระจัดกระจายของพลังเวท… ตัวช่วยในการสร้างตัวเร่งปฏิกิริยา… ตัวช่วยในการเสริมจิตใจ…’


ข้อมูลจำนวนมากกำลังถาโถมและหล่อหลอมกลายเป็นหนึ่งผลลัพธ์


กระดูกของกัลกุนอสกำลังบอกเล่าให้ฟังว่า กว่าที่กัลกุนอสจะกลายเป็นลิช มันต้องศึกษาและเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ลิชออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด


กริดสัมผัสได้เลือนรางว่า กัลกุนอสเป็นพวกกระหายพลังมากเพียงใด 


‘มันคิดจะครองโลกหรือไง?’


พลังงานที่สั่งสมในแกนกลาง มีปริมาณมหาศาลจนน่าทึ่ง


ยากจะคำนวณพลังที่แท้จริงสมัยยังมีชีวิต เพราะพลังงานส่วนมากสูญหายไปหลังจากความตาย


แม้กระทั่งอุปนิสัยของอีกฝ่าย กริดก็สัมผัสได้จางๆ


‘แม้จะมีพลังมากมายขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่รีบร้อนครองโลก… คอยซ่อนตัวอยู่ในคุกใต้ดินเพื่อสั่งสมกองกำลัง… เป็นประเภทที่รอบคอบและมีความระวังตัวสูง’


กริดสงสัยว่า บางที กัลกุนอสอาจกังวลเกี่ยวกับอดีตตำนาน


แพ็กม่า บราฮัม และอดีตตำนานอีกหลายคน


กัลกุนอสทราบถึงความแข็งแกร่งของตำนานมนุษย์ ขณะเดียวกันก็ไม่กล้าประเมินพลังตัวเองไว้สูงจนเกินไป


“สมแล้วที่แม้แต่บราฮัมยังทึ่ง”


กริดมิอาจเก็บซ่อนความชื่นชม


มันจินตนาการถึงภัยพิบัติครั้งใหญ่หากพวกตนปล่อยกัลกุนอสไปจนถึงวันที่พลังของมันสุกงอมและพร้อมครองโลก กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความสำเร็จของจิสึกะและยูเฟอมิน่ามีค่ามหาศาล


สำหรับไอเท็มดรอปเหล่านี้ มันต้องจ่ายเท่าไรจึงจะเพียงพอ?


คล้ายกับเธออ่านสีหน้าของกริดที่เผยความลังเลเกี่ยวกับราคาไอเท็มดรอป


“ฉันไม่คิดเงิน~ ขอแค่ช่วยสร้างไอเท็มให้ในตอนที่ว่างก็พอ”


“…จะสร้างให้สิบชิ้นเลย”


ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว หากสมาชิกโอเวอร์เกียร์ต้องการให้กริดผลิตไอเท็ม พวกมันต้องหาวัสดุมาเอง รวมถึงสูตรการผลิตของสิ่งนั้น


แต่ถ้าตั้งคำถามว่า ลำพังสองสิ่งนี้มีมูลค่าทัดเทียมกับไอเท็มที่กริดผลิตเชียวหรือ


ไม่มีใครเลยที่กล้าตอบว่าใช่


พวกมันเป็นหนี้กริดมาตั้งแต่อดีต


แต่ปัจจุบัน ความสัมพันธ์เหล่านั้นค่อยๆ แปรเปลี่ยน


สมาชิกโอเวอร์เกียร์มิได้ขูดรีดเอาจากกริดฝ่ายเดียว ทุกคนเริ่มสร้างประโยชน์ในระดับที่น่าทึ่ง


จากมุมมองของกริด ทุกความช่วยเหลือจากทุกคนล้วนมีค่าเสมอ ไม่ว่าจะมากน้อยสักเพียงใด


“ท่านจะเป็นราชาแห่งความตายได้หรือไม่?”


กริดทำการอัญเชิญโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ทั้งสอง


แกร่ก! แกร่ก! แกร่ก!


โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองปรากฏตัวพร้อมกับเต้นแทงโก้


มันลืมตาขึ้นและทำความเคารพกริดอย่างสุภาพ ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง


กระดูกสีขาวและแก่นของลิชกำลังดึงดูดความสนใจจากมัน


แกร่ก! แกร่ก! แกร่ก!


เจ้านี่กำลังตื่นเต้น?


ภาพของโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์สองกำลังกระทืบเท้า ทำให้กริดอมยิ้ม


มันเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าทำไมเมอร์เซเดสถึงบอกว่าพวกมันน่ารัก


“มาเริ่มกันเลย”


โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองกำลังจะถึงคราววิวัฒนาการ


แต่ไหนแต่ไร กะโหลกของมันค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัว แต่เมื่อกระดูกถูกแทนที่ด้วยกระดูกของกัลกุนอส ร่างกายของมันก็เริ่มสมส่วน


ซี่โครงและกระดูกเชิงกรานหนาขึ้น ใหญ่ขึ้น เพิ่มความรู้สึกแข็งแรงมั่นคง


ยิ่งลวดลายและสูตรเวทมนตร์ที่สลักบนกระดูกสีขาวของกัลกุนอสเริ่มเชื่อมติดกัน อักขระบนกระดูกก็ยิ่งส่องแสง


เวทมืดที่รุนแรงกำลังรายล้อมโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสอง


“…”


ขณะหมายเลขสองกำลังเต้นรำจนดูคล้ายกับพิธีกรรมทางศาสนา การเคลื่อนไหวของมันชะงักกะทันหัน


เวทมืดรอบตัวมันทวีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ ร้อนแรงและเผาไหม้ดุจดังเปลวไฟ


ลักษณะเช่นนี้ คล้ายกับมันยังไม่ยอมรับเจ้านายใหม่


คล้ายกับพยายามแผดเผาโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสอง


‘ล้มเหลว?’


กริดขมวดคิ้ว


ยูเฟอมิน่าเองก็แสดงสีหน้าไม่ดีนัก


ต่อให้โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์เป็นผลงานที่น่าทึ่งของเบริอาเช่ แต่การจะดูดซับพลังเวทของลิชที่แข็งแกร่งอย่างกัลกุนอสก็อาจฟังดูโลภเกินไป


ขณะทั้งสองกำลังคิดไปไกล


โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองเงยหน้าขึ้นพร้อมกับคำราม


ดวงตาที่คล้ายกับยิ้มให้กริดตลอดเวลา แปรเปลี่ยนเป็นดุดันและแผ่แสงสว่าง


ทุกครั้งที่โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองฝืนขยับแขนขาที่ไม่ยอมทำตามความตั้งใจ เสียงกระดูกลั่นจะดังสนั่นไปทั่วห้องฝึก


หากปล่อยเอาไว้ หมายเลขสองคนแตกหักและพังครืน


ทว่า กริดไม่ใจร้อน


มันเชื่อว่า ตนไม่ควรโจมตีโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองเพื่อสกัดพลังเวทที่กำลังอาละวาด และไม่ควรยกเลิกอัญเชิญส่งเดชโดยที่ไม่มั่นใจผลลัพธ์


ค่อนข้างน่าเสียดาย หากเป็นในด้านหมอผี กริดถือเป็นคนนอก


มีความรู้ไม่มาก แถมยังไม่มีทักษะที่เกี่ยวข้อง


กล่าวอีกนัยหนึ่ง โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ถูกชะตากรรมนำพาให้มาพบกับเจ้านายผิดคน


“…ฉันจะไปพาบุลเล็ตมาที่นี่!”


ยูเฟอมิน่ารีบคว้าคอกริดซึ่งกำลังกระวนกระวาย


“นายคิดว่าบุลเล็ตจะเคยมีประสบการณ์ทำนองนี้หรือไง? โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์เป็นอันเดดพิเศษที่ไม่เหมือนใครในโลก! …นายทำได้แค่รอและเชื่อใจมัน”


ทันใดนั้น


> หลอมรวมกับร่างใหม่! ร่างกายที่สมบูรณ์แบบที่ข้าเฝ้าฝัน! ช่างน่าพึงพอใจอะไรเช่นนี้!


แก่นของกัลกุนอสในมือกริดส่งเสียงพร้อมกับโบยบินอย่างอิสระ


“อะไรกัน?”


ยูเฟอมิน่าผงะ


เธอเชื่อมาตลอดว่า อีโก้ของกัลกุนอสได้จบสิ้นไปแล้ว


คาดไม่ถึงว่ามันจะยังซ่อนตัวอยู่ในแก่น แสร้งตายและรอโอกาส


กระทั่งบราฮัมยังไม่สังเกตเห็น แล้วอย่างเธอจะสัมผัสถึงได้ยังไง?


“หยุดนะ!”


ยูเฟอมิน่าอุทานพร้อมกับเหยียดแขนออกไปหาแก่นกัลกุนอสที่พุ่งไปยังโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสอง


เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เคยเผชิญหน้ากับความน่าสะพรึงของกัลกุนอสโดยตรง


หากมรดกของเบริอาเช่อย่างโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์ผสานเข้ากับกัลกุนอส ศัตรูที่พวกตนยากจะรับมือจะถือกำเนิดขึ้น


แต่น่าเสียดาย เธอตอบสนองได้ช้าเกินไป


แก่นกัลกุนอสผสานเข้ากับโครงกระดูก ทันใดนั้น เสียงคำรามของมันทวีความหนักแน่น


ฟังดูคล้ายกับเสียงกรีดร้อง


ทว่า สีหน้ากริดยังคงเยือกเย็น


เพราะในวินาทีนี้ มันมีวิธีช่วยเหลือโครงกระดูกหมายเลขสอง


“บรรจุอีโก้”


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,964
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ

Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00