จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,453
[วิญญาณของกัลกุนอสสัมผัสถึงการอัญเชิญของท่าน… เขาละเลยมัน]
‘ต้องอย่างนั้น’
กัลกุนอสที่เพิ่มเข้ายึดร่างโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์สอง กริดตรวจสอบแล้วว่า อีกฝ่ายสามารถถูกกำหนดให้เป็นเป้าการบรรจุอีโก้ได้
เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ชายหนุ่มคิดไวทำไว
จริงอยู่ กริดอาจไม่สามารถช่วยเหลือโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองที่ปล่อยให้เวทมืดไหลล้นออกมาจากร่าง แต่กริดสามารถช่วยโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์หมายเลขสองที่กำลังถูกกัลกุนอสเข้าสิง
มันสามารถ ‘ขจัด’ ชายคนนี้ออกไปได้
แผนของกริดก็คือ สร้างความเจ็บปวดแสนสาหัสจนกัลกุนอสไม่อยากอยู่ในร่างโครงกระดูก หลังจากนั้นก็ใช้ทักษะบรรจุอีโก้เพื่อ ‘ผลัก’ มันออกไปในจังหวะที่หมดความอดทน
<กัลกุนอส>
ชื่อที่กำลังส่องสว่างเหนือศีรษะโครงกระดูก กำลังเด่นสะดุดตากริด
เพียงพริบตาเดียว กริดพุ่งประชิดตัวกัลกุนอสพร้อมกับใช้สังหาร
ยูเฟอมิน่ากำลังผงะจนได้สติช้าไปหนึ่งจังหวะ
ในสายตาของเธอ การเคลื่อนไหวของกริดเกิดด้วยปฏิกิริยาตอบสนองที่น่าทึ่ง
‘เร็วมาก…!’
ผู้สืบทอดมูมัดคือจอมเวท
แน่นอน ยูเฟอมิน่าย่อมมีค่าความว่องไวต่ำกว่ากริด
แต่ถึงอย่างนั้น ค่าวิสัยทัศน์ที่เธอทุ่มเทฝึกฝนมาตั้งแต่สมัยเป็นนักคัดลอก เรียกได้ว่ามากที่สุดของโลก
หมายความว่า เธอมีมุมมองร่างกายตัวละครในเชิงสามมิติสูงกว่าใคร
นั่นคือจุดแข็งของยูเฟอมิน่าเสมอมา
การที่เธอมองตามการเคลื่อนไหวของกริดไม่ทันจึงถือเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่น่าตกใจกว่านั้น
“…?!”
บาเรียสีดำหนาๆ รอบกายกัลกุนอส คือเวทมนตร์ที่ยากจะทะลวงผ่านเข้าไป เว้นเสียแต่จะใช้การถอดรหัสเวทมนตร์จากผู้เป็นทั้งนักคัดลอกและผู้สืบทอดมูมัด หรือไม่ก็เจาะเข้าไปตรงๆ ด้วยศรทำลายล้างของจิสึกะ
บาเรียคุ้มกายครอบจักรวาลที่สามารถดูดซับได้ทั้งความเสียหายกายภาพและเวท กลับแตกสลายในพริบตาด้วยวิชาดาบเดียว และกระจัดกระจายกลายเป็นละอองมานา?
‘ต้องมีพลังโจมตีมากขนาดนั้นกัน…’
เมื่อนึกย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เธอและจิสึกะพยายามทำลายบาเรียของกัลกุนอสอย่างยากลำบาก ยูเฟอมิน่าทำได้เพียงยิ้มขื่นขม
แม้จะเต็มไปด้วยกระแสความคิด แต่ร่างกายของเธอก็ขยับไปตามสัญชาตญาณ
ยูเฟอมิน่าเปิดฉากด้วยการร่ายเวทขนาน ‘สามชนิดพร้อมกัน’
เวทแรก เวทมนตร์สังเกตของนักคัดลอกเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของกัลกุนอส
เวทที่สอง เวทมนตร์ค้นหาจุดอ่อน
เวทที่สาม มนตร์สีรุ้งเพื่อจุดประกายการสลายตัวและสร้างพลังทำลายล้าง
ร่ายเวทขนาดสามชนิด
ถ้าไม่ให้เรียกอัจฉริยะ ก็คงไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว
กัลกุนอสปล่อยเวทมืดออกจากร่างในจุดที่ถูกกริดสร้างบาดแผล แต่ทันใดนั้น ข้อต่อของมันพลันถูกบิดไปในทิศทางตรงกันข้ามกับธรรมชาติ
ด้วยร่างกายที่บิดงอในท่าพิสดาร ผนวกกับแสงสว่างในห้องฝึกใต้หอคอย ชวนให้นึกถึงเงาของต้นไม้แห้งกรังและใกล้ตาย
เวทของมูมัดได้ย้อนกลับกระแสมานาและส่งผลให้ร่างกายผิดรูป
และนั่นคือผลลัพธ์
> อีกแล้ว… นังนี่อีกแล้ว…
กัลกุนอสที่เตรียมตอบโต้กริดด้วยหมอกเวทมนตร์ มีอันต้องชะงักและหันไปสนใจยูเฟอมิน่า ดวงตาที่ส่องแสงสีแดงอัดแน่นด้วยโทสะและจิตสังหาร
คล้ายกับมันเคียดแค้นสตรีผู้นี้จากก้นบึ้ง
ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ลิชกัลกุนอสเคยพ่ายแพ้ต่อเธอมาแล้วหนหนึ่ง
ถูกกระชากออกจากวิหารที่มันปกครองเยี่ยงเทพ
ความฝันแหลกสลายไปในพริบตา ความฝันที่จะใช้ร่างของลิชยกระดับตัวเองให้กลายเป็นเทพ
กัลกุนอสเกลียดชังและสาปแช่งยูเฟอมิน่าตลอดกาล
ทว่า ความรู้สึกมากมายไม่ควรเกิดขึ้นในเวลาเช่นนี้
เพียงวินาทีเดียวที่กัลกุนอสสบตากับยูเฟอมิน่า กริดฟันดาบไปหลายสิบครั้ง
การผนึกกำลังระหว่างดาบไร้รูปและร่ายรำเป็นราวกับหายนะของเหยื่อ
ปราณดาบหลายสิบเส้นปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า แต่ละเส้นบิดเป็นเกลียวจนยากจะคาดเดาวิถี พร้อมกันนั้น ผลของ ‘โจมตีจุดบอด’ กำลังแสดงผล
ท่ารำดาบที่ร่ายเสร็จภายในหนึ่งวินาที
หากไม่เคยเห็นมาก่อนก็คงเข้าใจว่านี่คือปาฏิหาริย์
ปาฏิหาริย์ที่นำพาไปสู่หายนะของคู่ต่อสู้
“…?!”
แต่ทันใดนั้น สีหน้ากริดพลันแข็งทื่อหลังจากปลดปล่อยการโจมตีใส่กัลกุนอส
นั่นเพราะการโจมตีกว่าแปดในสิบ กระจัดกระจายกลายเป็นภาพมายาโดยมิได้สัมผัสร่างกัลกุนอส
‘บิดเบือนมิติ!’
หนึ่งในสุดยอดเวทมนตร์ห้วงมิติ
มหาเวทที่สามารถโอนถ่ายวัตถุหรือสิ่งใดๆ ไปยังมิติอื่น
คล้ายกับเคล็ดวิชาเคลื่อนเงาของลันเทียร์ แต่สูงกว่านั้นหนึ่งขั้น
เคลื่อนเงาจะช่วยให้ผู้ร่ายย้ายร่างกายไปยังเงาอื่นในพริบตาโดยไม่สนใจกฎแห่งธรรมชาติ แต่เวทบิดเบือนมิติยอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้น เพราะไม่จำกัดเพียงแค่เงา
แน่นอน เวทชนิดนี้ใช้งานได้ไม่ง่าย แม้กระทั่งบราฮัมก็ตาม
นั่นเพราะการใช้เวททุกครั้งจำเป็นต้องเสียสละตัวเร่งปฏิกิริยาที่ชื่อ ‘โฮรันเดีย’
นี่ไม่ใช่สิ่งที่มีเงินแล้วจะซื้อได้
กริดรู้สึกเย็นเยียบไปถึงกระดูก พร้อมกับรีบชักดาบไร้รูปกลับออกจากห้วงมิติที่ไม่ทราบปลายทาง
‘เจ้านี่…’
มีสูตรการเร่งปฏิกิริยาสลักอยู่บนกระดูก
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นตัวเร่งที่แข็งแกร่งจนสามารถบิดเบือนห้วงมิติ
‘…เยี่ยม’
ความตกใจกลายเป็นความยินดี
เมื่อจินตนาการภาพโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์สองใช้เวทบิดเบือนมิติ กริดเริ่มมีไฟขึ้นมาทันที
> เจ้า… แข็งแกร่งไม่เลว
กัลกุนอสที่แทบไม่สนใจกริดในตอนแรก เริ่มเปิดปากสนทนาด้วย
“แกก็เหมือนกัน”
ในวินาทีที่กริดตอบ กัลกุนอสใช้เวทบลิ้ง
เป้าหมายของมันคือด้านหลังยูเฟอมิน่า
กริดที่ตามมาด้วยชุนโป เสียบดาบใส่ร่างกัลกุนอสด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง แต่น่าเสียดายที่เวทของกัลกุนอสถูกปลดปล่อยใส่แผ่นหลังยูเฟอมิน่าเรียบร้อยแล้ว
ชุนโปมิได้ครอบจักรวาลในทุกสถานการณ์
หากอีกฝ่ายชิงเคลื่อนย้ายตำแหน่งผ่านห้วงมิติ การจะไล่ตามก็จะช้าไปหนึ่งจังหวะ
> ถ้าไม่มาพร้อมกับผู้หญิงที่มีพลังปราบมารคนนั้น เจ้าเองก็ไม่เท่าไร
กัลกุนอสเผยสีหน้ายินดีขณะเห็นยูเฟอมิน่ากระอักเลือด
อารมณ์ในปัจจุบันอาจแตกต่างจากไปโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์สองเล็กน้อย แต่ก็มีการเผยความสุขอย่างชัดเจน
‘ไอ้ระยำนี่ทำเป็นเมิน’
กริดสัมผัสได้ว่า อีกฝ่ายเมินตน แต่ถึงอย่างนั้นก็มิได้สูญเสียความเยือกเย็น
อันที่จริง การต่อสู้จะสบายขึ้นมากถ้ายูเฟอมิน่าคอยดึงความสนใจไปให้
ทำลายล้างสังหารถูกปลดปล่อยอย่างเยือกเย็น
สำหรับกริด มีสองสิ่งเกี่ยวกับกัลกุนอสที่ค่อนข้างยุ่งยาก
ประการแรก บาเรียมานาของลิชที่เปิดค้างไว้ตลอดเวลา สิ่งนี้ทำให้ความเสียหายถูกลดทอนหลายส่วน
ประการที่สอง ทุกการโจมตีที่ทะลุผ่านบาเรียมานา จะถูก ‘เวทบิดเบือนมิติ’ ส่งออกไปที่อื่น
เป็นอีกครั้งที่ ‘ทำลายล้างสังหาร’ ถูกดูดหายเข้าไปในห้วงมิติที่บิดเบี้ยว
ปลายทางคือที่ใดมิอาจทราบได้ แต่ใบดาบไร้รูปกลับมาในสภาพเปียกโคลน
ขณะกริดดึงดาบกลับ เป็นช่วงเวลาที่ยูเฟอมิน่าและกัลกุนอสได้แลกหมัดกันเป็นครั้งแรก
บาดแผลจำนวนมากปรากฏทั่วร่างยูเฟอมิน่า
กริดสั่งให้หัตถ์เทวะช่วยปกป้องหญิงสาว ส่วนตัวเองเริ่มถอดอุปกรณ์ฝึกตนของลีจอง
ภายในเวลาแสนสั้น ยูเฟอมิน่ายังคงได้รับบาดแผลเพิ่มเติม
“อึก!”
สถานการณ์ค่อนข้างน่าขัน
เวทที่เธอยิงขึ้นไปในอากาศ กลับถูกหัตถ์เทวะบังทางจนพวกมันแข็งทื่อ
จากนั้น กัลกุนอสก็ฉวยโอกาสโจมตีใส่หญิงสาวในสภาพไร้การปกป้อง
หัตถ์เทวะกำลังเผยให้เห็นจุดอ่อนที่ว่า มันไม่ชำนาญการอ่านวิถีเวทมนตร์
ยูเฟอมิน่าพยายามคาดเดาความเคลื่อนไหวของกัลกุนอสล่วงหน้าและลงมือยิงเวท แต่หัตถ์เทวะกลับทำตัวเป็นภาระมากกว่าประโยชน์
“ฉันขอโทษ!”
หลังจากถอดอุปกรณ์ฝึกตนเสร็จ กริดเริ่มสั่งสมปราณต่อสู้ด้วยสภาพร่างกายที่พร้อมสุดขีด
ความเร็วของมันกลายเป็นระดับเดียวกับสายฟ้าทันที
“หือ? แค่นี้เอง ไม่เห็นต้องขอโทษกัน”
ยูเฟอมิน่าชะงักเล็กน้อยเพราะทึ่งที่จู่ๆ กริดก็โผล่มาข้างๆ
โล่ในมือชายหนุ่มกำลังปัดป้องเวทมนตร์ของกัลกุนอสที่พรั่งพรูมาจากด้านข้าง
‘อย่างที่คิด… ระดับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง… แค่บทบาทของคนคอยสนับสนุน เราจะยังเป็นได้ไหม…’
ขณะตั้งคำถาม เป็นอีกครั้งที่ยูเฟอมิน่าพลาดโอกาสตอบโต้เนื่องจากยิงเวทไปติดหัตถ์เทวะ
อย่างไรก็ตาม เธอมิได้หัวเสีย ภายในใจผุดความตื่นเต้นเล็กๆ ภายนอกยิ้มอย่างสุขุม
มิใช่ยิ้มที่สดใสหรือยียวน แต่เป็นรอยยิ้มที่อัดแน่นด้วยไฟแห่งการต่อสู้
แก่นแท้ของสตรีผู้นี้คือนักสู้
ยูเฟอมิน่าคือแรงเกอร์ปกปิดตัวตนคนดังมาตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว จวนจบปัจจุบันก็ยังไม่แปรเปลี่ยน
เธออาจ ‘แข็งแกร่งที่สุดหากเตรียมพร้อม’ แต่ด้วยข้อจำกัดดังกล่าว เธอกลายเป็นคนกระหายชัยชนะและมากไปด้วยไหวพริบ
“ถ้าไม่ไหว นายต้องหนีทันที… ฉันจะคอยสนับสนุนเท่าที่ทำได้”
ยูเฟอมิน่าเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง
การได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกริดแบบสองต่อสอง อาจไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ณ สถานการณ์ตรงหน้า กัลกุนอสเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างมาก และการต่อสู้ของกริดก็สูงกว่าเธอหนึ่งระดับ
หากเธอสามารถประสานความคิดเป็นหนึ่งเดียวกับกริดและโค่นกัลกุนอสด้วยกัน ยูเฟอมิน่าเชื่อว่าตัวเธอจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
“ตกลง”
กริดพยักหน้าและตอบห้วน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันกำลังมีสมาธิ
กริดเองก็ทราบดี กัลกุนอสคือศัตรูที่ใช่ว่าอยากจะเอาชนะตอนไหนก็ทำได้
เวทบิดเบือนมิติจะทำให้การโจมตีการแปดในสิบที่เข้าไปกลายเป็นหมัน นอกจากนั้นยังมีบาเรียคุ้มกายที่ทรงพลัง สนับสนุนด้วยมานาอนันต์อันเป็นเอกลักษณ์ของลิช
กุญแจสำคัญก็คือ หาวิธีหักล้างเวทบิดเบือนมิติกับบาเรียมานา
เช่นนั้นแล้ว ต้องทำอย่างไรจึงจะยกเลิกเวทมนตร์ที่สามารถแสดงผลตลอดเวลา?
‘…ศรปราบมารของจิสึกะคงมีบทบาทมากในจุดนี้’
การจะโค่นกัลกุนอสจำเป็นต้องเคลียร์เงื่อนไขยากๆ หลายข้อ
มันคือบอสที่มีระดับความยากสูงมาแต่ไหนแต่ไร
กริดคิดเสมอว่า หากตนยังไม่พร้อม ก็ไม่ควรเอาตัวเองมาเสี่ยงกับกัลกุนอสก่อนเวลาอันควร เพราะโอกาสล้มเหลวมีสูงมาก
แน่นอน นั่นคือเรื่องราวก่อนที่มันจะสร้าง ‘สิ่งนี้’
กริดเก็บดาบไร้รูปเข้าช่องสัมภาระ จากนั้นก็นำดาบมังกรเพลิงและดาบจันทราดับออกมาพร้อมกัน
การผสานของไอเท็มเกิดขึ้นอย่างไหลลื่นประหนึ่งสายน้ำ เพียงพริบตา ดาบยาวที่มีเปลวเพลิงแสงจันทร์ปกคลุมก็ปรากฏขึ้นในมือขวา
การเปิดใช้ ‘มายา’ ได้สร้างสายลมกระโชกไปรอบๆ
ผ้าคลุมเฟนเรียร์สะบัดพลิ้ว พื้นแข็งๆ ของห้องฝึกกำลังปริแตก เศษซากกระจัดกระจายไปในอากาศ
แตกต่างจากความปั่นป่วนรอบตัว ในท่าถือดาบไว้กึ่งกลางลำตัว ดวงตากริดสงบนิ่งดุจดังทะเลสาบ
ไม่มีใครอ่านออกว่ากริดกำลังคิดสิ่งใด จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดาการกระทำถัดไป
แม้แต่ยูเฟอมิน่าเองก็ประหม่า เพราะเธอไม่รู้เลยว่ากริดจะทำอะไรต่อ
> นี่เจ้า…?
ท่าทีตอบสนองของกัลกุนอสผิดปรกติไปอย่างชัดเจน
กริดสังเกตเห็นอากัปกิริยาตื่นตัวของอีกฝ่ายในวินาทีที่ดาบจันทราดับถูกชักออก
‘อย่างที่คิด… มันคือตัวตนจากยุคโบราณ’
กัลกุนอสมีพลังในการสร้างตัวเร่งปฏิกิริยาของเวทห้วงมิติ สิ่งนี้มีรากฐานมาจากเวทโบราณ
มีหรือจะจำเหล็กแสงจันทร์ไม่ได้?
> …!
“…!”
กัลกุนอสและยูเฟอมิน่าต่างดวงตาเบิกโพลง
พายุรอบๆ ตัวกริดยังคงโอบล้อมยูเฟอมิน่า แต่ตัวกริดได้โผล่ไปอยู่ตรงหน้ากัลกุนอสเรียบร้อยแล้ว
ทั้งสองต่างรู้จักชุนโป แต่การใช้ชุนโปท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดจาก ‘มายา’ ได้ทำให้สมาธิของพวกมันไขว้เขว
เรื่องดีๆ ก็คือ ยูเฟอมิน่าสามารถยิงเวทตามหลังกริดมาได้ทันเวลาฉิวเฉียด
แต่มันจะสมบูรณ์กว่านี้หากเธอยิงออกมาเร็วขึ้นสักหนึ่งวินาที
[วิญญาณของกัลกุนอสสัมผัสถึงการอัญเชิญของท่าน]
บนหน้าจอของกริด สีหน้าตกตะลึงของกัลกุนอสกำลังซ้อนทับกับข้อความระบบ
ขณะดาบมังกรเพลิงที่โอบล้อมด้วยเปลวไฟเย็นๆ ของแสงจันทร์กำลังจะฟันผ่านร่างโครงกระดูก
[กัลกุนอสตอบสนองคำอัญเชิญของท่าน]
“…”
“…”
ดาบที่ส่งเสียงคำรามประหนึ่งเตรียมจะผ่าโลกเป็นสองซีก หยุดชะงักอย่างกะทันหัน
โครงกระดูกกัลกุนอสที่ยืนจ้องหน้ากริดด้วยสายตาดุร้าย เผยรอยยิ้มออกมาทันที
ชื่อบนศีรษะเปลี่ยนไปเป็น ‘โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์สอง’
เป็นชื่อที่กริดตั้งให้ ยิ่งได้เห็นในเวลาแบบนี้ ชายหนุ่มมีความสุขเหนือคำบรรยาย
“…บทสรุปห่วยๆ นี่มันอะไรกัน”
เสียงของยูเฟอมิน่าดังก้องไปทั่วห้องฝึกเวทมนตร์
Comments
Post a Comment