จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,397



ในวินาทีที่เผชิญหน้ากับแมรีโรสและประสบภาวะสมองขาวโพลน มันค่อยๆ สัมผัสได้ว่า ปิอาโร่และอัสโมเฟลกำลังใกล้เข้ามา ภายในใจเริ่มจึงเกิดความหวัง


ขอเพียงมีสองคนนี้คอยช่วยเหลือ มันเชื่อว่าตนจะรอดชีวิตจากสถานการณ์ตรงหน้าไปได้ หรืออาจไม่ต้องสูญเสียอะไรเลย


นี่คืออีกหนึ่งครั้งในชีวิตที่มันต้องเผชิญความน่าสังเวช


ในวินาทีที่มันตัดสินใจฝากชีวิตไว้กับผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่าตน ศักดิ์ศรีของมหาจอมเวทในตำนานก็ถูกย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี


ความโอหังในฐานะทายาทของเบริอาเช่ แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ


และเหนือสิ่งอื่นใด มันรู้สึกอับอายเมื่อเห็นกริด คนที่เคยมองว่าตนแข็งแกร่งที่สุดมาตลอด กำลังจ้องมองด้วยสีหน้าเจือความกังวล


นั่นทำให้มันอยากจะมุดเข้าไปซ่อนในรูหนู


“…แมรีโรส!”


พลังเวทรอบกายบราฮัมกำลังหมุนวนอย่างเกรี้ยวกราด


จากนั้น ละอองมานาก่อตัวเป็นหอกแสงขนาดมหึมา


เมื่อราวร้อยปีก่อน บราฮัมเคยใช้ดิสอินทิเกรตเพื่อทะลวงทำลายพระราชวังของกษัตริย์ฟาราห์


สุดยอดเวทมนตร์ที่ถูกขนานนามให้เป็นตำนานในขณะที่มันนอนหลับ พุ่งปะทะเข้ากับ ‘ละโมบ’ บนทั่งเหล็ก


เดิมที นี่คือเวทมนตร์ที่สามารถป่นได้กระทั่งภูเขา และหนึ่งในสาเหตุที่บราฮัมหนีรอดจากมังกรเพลิงทราวก้า เป็นเพราะอีกฝ่ายตื่นตัวกับพลังทำลายของดิสอินทิเกรต


ทว่า ดิสอินทิเกรตในปัจจุบัน อ่อนแอลงหลายระดับ


ถึงพลังงานส่วนหนึ่งจะถูกละโมบดูดซึมเข้าไป แต่พลังส่วนเกินกลับทำลายได้แค่ ‘บางซีก’ ของภูเขา


บราฮัมสำเร็จการล่าไฮดราและกลายเป็นเทวตำนาน แต่พลังกลับยังไม่ฟื้นฟูกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดของอดีต


ในทางกลับกัน แมรีโรสที่เอาแต่นอนหลับ กลับฟื้นคืนพลังของมารดาอย่างต่อเนื่อง


จนปัจจุบัน เธอมีพลังมากกว่าจุดสูงสุดของมารดาในอดีตไปแล้ว


สามารถพูดได้เต็มปากว่า ความต่างชั้นของบราฮัมและแมรีโรส มีช่องว่างใหญ่กว่าสมัยก่อนหลายเท่า


แน่นอน นั่นคือการเปรียบเทียบเมื่อครั้งบราฮัมยังเป็นแวมไพร์


ในตอนที่ถูกแมรีโรสทะลวงร่าง บราฮัมยังไม่ใช่จอมเวท


เป็นแค่สัตว์ป่าที่อาศัยพละกำลัง สัญชาตญาณ และความรู้


‘ถ้าเราฟื้นคืนพลังสมัยก่อนกลับมาได้…’


หากนำพลังเวทเมื่อครั้งยังเป็นแวมไพร์ทายาท ผนวกเข้ากับเวทมนตร์ที่สั่งสมมาในฐานะมหาจอมเวท


ถ้าได้คืนมาทั้งหมด และผสานเข้ากับพลังเทพ การดวลกับแมรีโรสคงใกล้เคียงความสูสีมากขึ้น แม้จะยังไม่ถึงขั้นที่สามารถทะลวงหัวใจหรือศีรษะอีกฝ่ายได้ตามใจชอบก็ตาม


แต่อย่างน้อยก็ยังได้ตัดสินว่าใครแข็งแกร่งกว่า


นั่นถึงจะเป็น ‘บราฮัม’ ที่แท้จริง


‘ในการจะฟื้นคืนพลัง…’


เวลาคือสิ่งที่ขาดไม่ได้


ดังนั้น มันไม่ควรจิตตก แค่ก้มหน้าทุ่มเททำงานหนักก็พอ


ดวงตาบราฮัมหยุดการสั่นระริก ก้มลงด้วยความใจเย็น


แมรีโรสเกิดจากพลังทั้งหมดของมารดา จึงใช้คำสาปเกียจคร้านเป็นข้ออ้างมาตลอด


บราฮัมพยายามอดกลั้นโทสะและความเคียดแค้นที่มีต่อศัตรูที่ยากจะก้าวข้ามตนนี้


มันเปลี่ยนความผิดหวังและขยะแขยง ให้เป็นแรงกระตุ้นเพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจซึ่งใกล้จะพังทลาย


การทำเช่นนี้สิ้นเปลืองพลังใจในฐานะมหาจอมเวท มิใช่ในฐานะแวมไพร์


อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ถูกเสียบร่างจนสูญสิ้นพลังแวมไพร์และถูกขับไล่มายังโลกมนุษย์ บราฮัมเริ่มฝึกฝนจิตใจจนเข้มแข็ง ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายตามลำพัง


“โฮ่…”


ขณะควบคุมลมหายใจเข้าออก มันได้ยินเสียงที่คุ้นเคย


เป็นกริดที่ลอยมาจากบนฟ้า


เมื่อเห็นว่ากริดยังคงพึ่งพารองเท้าบินคู่เก่า ทั้งที่สามารถสยายปีกมังกรบินได้เอง บราฮัมแอบเผยรอยยิ้ม


แต่ขณะกริดเริ่มเข้าใกล้ บราฮัมรีบสลายรอยยิ้มทิ้ง ราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


มันทักทายกริดเสียงห้วน


“มาเพื่อปลอบใจฉันรึไง? ลืมไปได้เลย… แมรีโรสคือตัวตนที่สืบทอดพลังทั้งหมดจากมารดา การสั่นกลัวต่อหน้าหล่อนไม่ใช่เรื่องแปลก แม้แต่ฉันเองก็ไม่มีข้อยกเว้น จึงไม่ได้รู้สึกอับอายหรือโกรธอะไร”


“เห็นฉันเป็นคนยังไง? อย่างฉันคงไม่มีสิทธิ์ปลอบนาย”


บราฮัมอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่กริดแอบใช้ดวงตาและการมองเห็นที่มันไม่เคยมี


ก่อนจะมาถึงสักพัก กริดสำรวจบราฮัมจากระยะไกลและประจักษ์ความพยายามในการละทิ้งโทสะกับความหงุดหงิด


ด้วยเหตุนี้ กริดเชื่อว่าตนไม่จำเป็นต้องห่วงบราฮัม


ในเมื่อเจ้าตัวสามารถเอาชนะอารมณ์ด้านลบได้ด้วยจิตใจอันเข้มแข็ง แล้วไยต้องหักหน้าอีกฝ่าย?


“ถ้าอย่างนั้น… มีเรื่องอะไร?”


“หือ… ฉันมาหานายตอนทำงานบ้างไม่ได้หรือ? กินข้าวรึยัง? วันนี้ดื่มชาอะไร? พอดีกำลังสงสัย”


“…เฮ่อะ! ถ้าอยากรู้ความคืบหน้าของการหลอมโลหะด้วยเวทมนตร์ นั่นไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยสูญเปล่าแม้แต่วินาทีเดียว”


“จริงสิ… การหลอมด้วยเวทมนตร์… เอ่อ… ทำไมนายถึงไม่ทำในโลกจินตภาพ?”


บราฮัมทำลายภูเขาทุกครั้งที่หลอมละโมบ


หมายความว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ภูเขารอบๆ ไรน์ฮาร์ทจะหายไปทั้งหมด


บราฮัมส่ายหน้า


“เปล่าประโยชน์… ฉันนำละโมบไปหลอมในโลกจินตภาพได้ก็จริง แต่จะนำละโมบที่หลอมเสร็จแล้วออกมาไม่ได้”


“ทำไม?”


“วัสดุที่มีการเปลี่ยนแปลงในโลกจินตภาพ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตฉัน”


“อา…”


กริดพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง


สรุปได้ว่า การหลอมด้วยเวทมนตร์ต้องทำข้างนอกเท่านั้น


“แล้ว… เอ่อ… อย่างน้อย ช่วยไม่ทำลายภูเขาได้ไหม”


ฟืน ไม้ แร่ธาตุ และสมุนไพร คือผลผลิตจากภูเขารอบๆ กรุงไรน์ฮาร์ท


แถมยังเป็นจุดล่าสัตว์ป่าและเก็บเลเวลที่สำคัญของผู้เล่นใหม่


หากภูเขาหายไป ทรัพยากรจำนวนมากที่เมืองหลวงควรได้รับก็จะหายไปด้วย


แถมยังทำให้ชาวบ้านตกงาน ผู้เล่นไม่มีที่เก็บเลเวล


นั่นคือสาเหตุที่กริดกังวลเกี่ยวกับอนาคตระยะยาว


บราฮัมพ่นลมหายใจ


“ฉันจะหลอมแร่ตรงไหนมันก็สิทธิ์ของฉัน”


“…”


หมอนี่ใช่คนเพิ่งจิตตกเพราะแมรีโรสจริงหรือ?


จากมุมมองกริด บราฮัมทำตัวเกเรอย่างไร้เหตุผล


แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากเซ้าซี้อีกฝ่ายไปมากกว่านี้


ลำพังการที่บราฮัมยอมสละเวลามาช่วยหลอมแร่ ก็ซาบซึ้งในบุญคุณมากพอแล้ว


หากเอ่ยปากขอร้องให้อีกฝ่ายไปหลอมแร่บนเกาะร้าง คงจะดูเป็นการเสียมารยาทเกินไป


‘นั่นสินะ… อย่างน้อยเขาก็ทำลายภูเขา ไม่ใช่เมือง’


เหนือสิ่งอื่นใด การที่บราฮัมเลือกทำบนเขา ก็เพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อน


ในเมื่ออีกฝ่ายยอมถอยให้มากขนาดนี้แล้ว ตนก็ควรถอยครึ่งก้าว


‘ถ้าภูเขาถูกทำลาย เราจะได้หน้าดินคุณภาพสูงเพิ่ม พวกชาวนาคงชอบ’


กริดมองโลกในแง่บวก ก่อนจะหยิบเศษผ้าส่งให้บราฮัม


เดิมที มันคือซับในของเบริอาเช่ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้เข้ากับร่างกายกริด


“…อะไร?”


“เป็นซับในที่ว่ากันว่า เบริอาเช่เคยสวมสมัยเป็นจอมอสูร”


“…?”


“ฉันใช้พลังตัดเย็บเพื่อสร้างมันขึ้นมาใหม่… ขอมอบเป็นของขวัญให้นาย”


กริดอธิบายอย่างภาคภูมิใจ


มันกำลังมีความสุขที่ตนได้มอบ ‘ของดูต่างหน้า’ ของมารดาให้บราฮัม


แน่นอน ท่าทีตอบสนองของมหาจอมเวทยังคงเย็นชา


“…แมรีโรสทำให้นายเสียสติไปแล้วหรือ?”


ถ้าของดูต่างหน้าเป็นวัตถุอื่นที่ไม่ใช่ซับใน บราฮัมคงประทับใจมากกว่านี้


แต่ว่า นี่มันซับใน


การปลาบปลื้มกับซับในของแม่มันออกจะ…


เมื่อเห็นบราฮัมขมวดคิ้ว เกิดเริ่มตระหนักถึงความผิดพลาด


***


ชื่อ : ลอร์ด·สไตม์

อายุ : 15

เพศ : ชาย

คลาส : องค์ขาย

สมญานาม : อัจฉริยะแห่งทวีปตะวันตก

* อัจฉริยะที่เป็นตัวแทนของทวีป

ตัวตนที่เหนือกว่าอัจฉริยะระดับอาณาจักรหลายเท่า ส่งผลให้เลเวลและความสามารถเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าปรกติ 60%

นอกจากนั้น เขายังเปิดใจเรียนรู้ทักษะจากหลากหลายสาขา

สมญานาม : ผู้จะกลายเป็นตำนาน

บุคคลที่จะจารึกชื่อของตัวเองไว้ในหน้าประวัติศาสตร์

มีโอกาส 80% ที่จะต้านทานอาการผิดปรกติและอาการป่วยทุกชนิด

เมื่อถูกโจมตี หากพลังชีวิตเหลือ 1 หน่วย จะเข้าสู่ภาวะอมตะเป็นเวลา 2.5 วินาที

สมญานาม : บุตรแห่งเทพโอเวอร์เกียร์

มิใช่ครึ่งเทพ

เขาถือกำเนิดขึ้นในวันที่เทพโอเวอร์เกียร์ยังเป็นมนุษย์ จึงไม่ได้รับสืบทอดสายเลือด ร่างกาย และพลังเทพ

ทว่า มีโอกาสที่เขาจะกลายเป็นเป้าความศรัทธาของผู้คน

สมญานาม : บุรุษอันตราย

แม้จะไม่มีเจตนาร้าย แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะยั่วยวนเพศตรงข้าม

ไม่แน่ใจว่าเป็นความโชคดีหรือความโชคร้าย

เลเวล : 150

พละกำลัง : 1,500

ความอดทน : 1,500

ความว่องไว : 1,500

สติปัญญา : 1,447

ความชำนาญ : 1,500

พลังศักดิ์สิทธิ์ : 1,160

เสน่ห์ : 1,500

ความน่าเกรงขาม : 870

วิสัยทัศน์ : 1,500

พลังทางการเมือง : 552

ความพากเพียร : 1,210

ความเยือกเย็น : 1,210

บุตรแห่งเทพโอเวอร์เกียร์กริด

สืบทอดข้อดีทั้งหมดของพ่อและแม่ จึงมีศักยภาพเหนือจินตนาการ

การได้สั่งสอนเด็กคนนี้จะทำให้อาจารย์มีความสุข

ปัจจุบัน มีอาจารย์หกคนที่คอยผลัดเปลี่ยนกันมาสอนเต็มเวลา และเขาก็ซึมซับมันได้อย่างสมบูรณ์

มหาจอมเวทในตำนานบราฮัม ประเมินพรสวรรค์ของเขาไว้สูงมาก

ต้องขอบคุณการสั่งสอนด้านมารยาทและระเบียบวินัย เด็กคนนี้จึงเติบโตขึ้นมาพร้อมกับอุปนิสัยซื่อตรง และมีจิตใจที่เข้มแข็งจนไม่สามารถถูกสั่นคลอนจากสิ่งเร้า

อย่างไรก็ตาม ต้องคอยระวังความคิดอันบริสุทธิ์และเป็นอิสระของเขาให้ดี โดยเฉพาะด้านความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม

รายการทักษะ : ขี่ม้า (A) , สมรรถภาพร่างกาย (A) , ชำนาญธนูขั้นสูง (A) , ชำนาญหอกสั้นสูง (A) , พลังศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์รีเบคก้า (A▼▼▼) , มารยาท (S) , เคล็ดวิชาดาลูก้า (S) , วิชาดาบอริย (ไม่สมบูรณ์) (S+) , ชำนาญอาวุธทุกชนิด (S+) , ศาสตร์ภูตของจอมปราชญ์สติกส์ (SS) , ชำนาญการตีเหล็กขั้นสูง (SS) , เกษตรกรรม (SS) , สายตาเฉียบแหลม (SS) , เสน่ห์อันเหลือล้น (SS) , สายเลือดที่สูงศักดิ์และเป็นตำนาน (SS) , คุณธรรม (SS) , เคล็ดวิชาลับลันเทียร์ (SS+) , ปัญญาของจอมปราชญ์ (SS+) , บุตรแห่งเทพ (??)


นี่คือหน้าต่างค่าสถานะของลอร์ดที่ไม่ได้สวมไอเท็ม


เครื่องหมาย (-) ซึ่งเคยกำกับหลังเลเวล 150 และค่าสถานะที่เพิ่มถึง 1,500 ถูกนำออก


หมายความว่า นับแต่นี้ไป ลอร์ดจะไม่มีขีดจำกัดในการพัฒนา


กริดเชื่อว่าในอนาคต ค่าสถานะของเด็กคนนี้จะไม่ต่ำกว่าชนิดละสองพัน


‘ที่น่าเสียดายก็คือ พลังศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์รีเบคก้า’


เมื่อไม่กี่เดือนก่อน กริดจำได้ว่ามันเคยมีเกรด SS


แต่ถูกปรับลงมาเหลือ A อย่างรวดเร็วเพราะตนกลายเป็นศัตรูกับโบสถ์


‘…เสน่ห์อันเหลือล้น คงเป็นฝีมือซูเอสินะ’


สมญานาม ‘บุรุษอันตราย’ เองก็น่าเป็นห่วง


กริดตรวจสอบหน้าต่างสถานะของลอร์ดด้วยสีหน้าเจือความกังวล ก่อนจะกล่าวหลังจากไตร่ตรอง


“ลอร์ด ลูกโตขึ้นมากแล้ว อยากออกไปผจญภัยไหม?”


“ครับ! ท่านพ่อ! ผมเชื่อว่าต้องสนุกมากแน่!”


ลอร์ดฉีกยิ้มกว้างพลางมอบคำตอบอย่างแข็งขัน


แม้ว่าการเผชิญโลกภายนอกอาจทำให้ไม่สะดวกสบายในหลายสิ่ง แต่ลอร์ดกลับตื่นเต้นยินดี


ไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้ไม่ตระหนักถึงอันตรายของโลกภายนอก แต่ลอร์ดคืออัจฉริยะที่เข้าใจกฎและกรอบของโลกเป็นอย่างดี


การแสดงสีหน้าแห่งความสุข เกิดขึ้นเพราะเด็กหนุ่มวางแผนอนาคตของตนไว้ล่วงหน้าแล้ว


“การผจญภัยต้องมีเป้าหมาย หากเอาแต่เตร็ดเตร่ไปวันๆ คุณค่าของการผจญภัยก็จะไม่หลงเหลือ… ลูกกำหนดเป้าหมายไว้หรือยัง?”


ดวงตาของลอร์ดเริ่มเปล่งประกาย


“อันดับแรก ผมอยากเอาชนะผู้พิทักษ์พงไพร!”


บทแรกของตำนานราชาโอเวอร์เกียร์ (ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นตำนานเทพโอเวอร์เกียร์) ที่มักถูกขับขานโดยเหล่านักดนตรีพเนจร คือศึกระหว่างกริดและผู้พิทักษ์พงไพร


ลอร์ดปรารถนาจะเดินตามรอยเท้าผู้เป็นบิดา


ฟังดูสมเหตุสมผล


‘เลือกไบรันเป็นเวทีแรกในการผจญภัย… ก็เหมาะสมดี’


กริดมอบความรักให้ลอร์ดอย่างหาที่สุดมิได้


ในวินาทีที่มีอาจารย์หกคนคอยผลัดเปลี่ยนกันมาสอนเต็มเวลา กริดได้มอบของขวัญเป็นไอเท็มที่ช่วยให้ลอร์ดมีพัฒนาการเร็วกว่าปรกติ


เมื่อพิจารณาว่าลอร์ดกำลังสวมใส่ไอเท็มสั่งทำพิเศษเกรดแรร์ถึงอีปิกทั้งตัว ผนวกกับเรื่องที่ครอบครองทักษะเกรดเลเจนดารีมากมาย แม็ปทั่วไปและดันเจี้ยนรอบๆ ไบรันคงไม่สามารถทำอันตรายเด็กคนนี้ได้


แม้ค่าสถานะจะไม่สูงมากนักเนื่องด้วยข้อจำกัดทางอายุ แต่ก็สามารถเชือดมอนสเตอร์ได้ด้วยไอเท็มและทักษะ


‘ในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์พงไพร คงมีเลเวลสูงกว่าเราสักยี่สิบระดับ…’


ค่าสถานะของลอร์ดจะเพิ่มขึ้นอย่างสมดุลตามบุคลิกและสิ่งที่ถูกอบรม ดังนั้น การล่าผู้พิทักษ์พงไพรตามลำพังจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องห่วง


กริดฉีกยิ้มกว้างจนเผยฟันซี่ขาว


“ตกลง โค่นผู้พิทักษ์พงไพรแล้วกลับมา”


“ครับ ท่านพ่อ! ผมจะกลับมาพร้อมกับโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน!”


ลอร์ดตอบอย่างกระตือรือร้น จากนั้นก็เดินทางออกจากไรน์ฮาร์ทโดยมีราชินีและเหล่าแฟนสาวยืนอำลา


ลอร์ดตื่นเต้นกับการผจญภัยตามลำพัง (?) ครั้งนี้มาก และเลือกจะไม่ใช้วาร์ปเกตในการเดินทาง


มีเพียงสองขาที่จะพาไปจนถึงไบรัน


ด้วยเนตรบาร์บาทอส กริดเฝ้ามองแผ่นหลังของลอร์ดที่ค่อยๆ ห่างออกไปไกล


ชายหนุ่มเผยรอยยิ้ม


‘แทนที่จะเหน็ดเหนื่อย เขากลับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ’


ลำพังการ ‘วิ่ง’ อย่างเดียว ช่วยเพิ่มค่าความอดทนและความว่องไวได้ทันทีตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง


ค่าสถานะและเลเวลที่ถูกแช่แข็งมาหลายปี ในที่สุดก็เริ่มปะทุอย่างเดือดพล่าน


“…!”


“…!”


หน่วยโอเวอร์เกียร์เงาที่ถูกกำชับให้คอยคุ้มกันลอร์ดอยู่ห่างๆ พลันแตกตื่นและรีบเร่งความเร็วตามหลังไป


ในอีกไม่ช้า ลอร์ดคงสัมผัสถึงพวกเขา…


กริดส่ายหน้าก่อนจะหันไปด้านข้าง พูดกับคาซิมในเงา


“ปล่อยให้หน้าที่อารักขาราชินีเป็นของเฟคเกอร์ นายช่วยตามไปดูแลลอร์ด”


“ขอรับ”


คาซิมหายตัวไปในเงามืด


ขณะกริดกำลังผ่อนคลาย ข้อความระบบแสดงขึ้นตรงมุมหน้าจอ


[บุตรชายของท่าน ลอร์ด กำลังออกผจญภัย]


[ลอร์ดจะกลับมาหาท่านโดยมีของขวัญเป็นโอริชาลคั่มสีน้ำเงิน]


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,887
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00