จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,396



แม้จะเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ แต่พิธีบรรลุนิติภาวะของลอร์ดก็จบลงอย่างราบรื่น ไม่มีใครต้องได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต


ลอร์ด เด็กหนุ่มผู้มีสุดยอดอาจารย์หลายคน แสดงฝีมือในระดับสูงกว่าความคาดหวังของแขกผู้มีเกียรติ


ในทำนองเดียวกัน กริดก็เผชิญหน้ากับแมรีโรสอย่างสง่าผ่าเผย สิ่งนี้สร้างความประทับใจให้แขกเป็นอย่างมาก


ลงเอยด้วย สายตาที่คนนอกมองเข้ามายังอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เต็มไปด้วยความยกย่องชื่นชม


แน่นอน ทุกคนทราบดี อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยิ่งใหญ่เป็นรองเพียงจักรวรรดิ เพียงแต่ไม่มีใครสามารถกะเกณฑ์พลังอำนาจในปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ รวมถึงทิศทางที่จะมุ่งหน้าไปในอนาคต


อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ก่อตั้งและปกครองโดยราชาโอเวอร์เกียร์กริด จึงไม่มีใครคาดเดาได้ว่า หลังจากเขาวางมือ อาณาจักรจะรุ่งเรืองเหมือนปัจจุบันหรือไม่ ทรราชจะขึ้นมาปกครองแทนไหม


แต่วินาทีนี้ แขกผู้มีเกียรติได้ทราบคำตอบ


คำตอบก็คือ บุตรชายของกริดมีพรสวรรค์เหลือล้น อาจเทียบเท่าได้กับกริด แถมยังซื่อตรงและเป็นเด็กดี


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เพราะกริดเป็นถึงเทพ


แม้จะเกิดมาในร่างกายมนุษย์ แต่ก็เป็นเป้าศรัทธาที่ก้าวข้ามขีดจำกัดมนุษย์ได้ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าของผู้คน


แล้วกริดกับบุตรชายจะไม่มีจิตใจที่ซื่อตรงได้อย่างไร?


จริงอยู่ ในพักหลังมีข่าวลือเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับเทพธิดารีเบคก้าแพร่กระจายออกไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เทพทุกตนจะต้องมีมลทินมัวหมอง


ผู้คนต่างพากันเชื่อมั่นในตัวกริดและอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


“ของขวัญกองเป็นภูเขา…”


บ่ายวันเดียวกันหลังจากจบพิธีฉลองบรรลุนิติภาวะ


เมื่องานเลี้ยงเต้นรำสุดท้ายจบลง บรรดาแขกผู้มีเกียรติทยอยกลับออกไปจากปราสาท


ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ลอเอลยืนมองภูเขาขุมสมบัติที่แขกเหลือทิ้งไว้


เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยติดต่อกันมาหลายวัน นี่จึงเป็นสีหน้าที่หาได้ยาก


“เหตุผลที่พวกเขาอยากเป็นมิตรกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์… เพราะทึ่งในความสง่างามและปรีชาสามารถของกษัตริย์… หรือเพราะต้องการได้รับบารมีและพรจากเทพกันนะ?”


ภาพของแขกที่เริ่มทยอยกลับ กำลังสะท้อนอยู่บนกระจกตาสีฟ้าของลอเอล ผู้ยืนมองจากริมหน้าต่าง


การที่มันพูดจาเบียวๆ เช่นนี้ออกมาได้ หมายความว่าสภาพจิตใจดีขึ้นมากแล้ว


“ไม่มีแขกผู้มีเกียรติคนไหนก่อปัญหาใช่ไหม?”


กริดรีบชักนำบทสนทนา ด้วยเกรงว่าลอเอลจะพล่ามยืดยาว


ลอเอลพยักหน้า


“ขอรับ กระหม่อมเชิญเฉพาะคนที่ถูกตรวจสอบประวัติกับอุดมการณ์อย่างละเอียด ทุกคนล้วนมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ต่อสู้เพื่อความสงบสุขของทวีปและมนุษยชาติ ไม่มีใครกล้าก่อความวุ่นวายเพียงเพราะความโลภส่วนตัว เราสามารถผูกมิตรกับคนเหล่านี้ได้”


“อา… เลือกได้ดี”


กริดพยักหน้ารับพลางดึงจดหมายออกมาสองสามฉบับ


เหล่านี้คือจดหมายที่แขกหลายคนแอบส่งถึงกริดเป็นการส่วนตัวก่อนจะกลับไป


เจ้าของจดหมายล้วนมีหนึ่งสิ่งตรงกัน นั่นคือ พวกมันมีบุตรสาว


กริดเปิดอ่านจดหมายพลางรำพัน : อย่าบอกนะว่า…


จากนั้นก็หัวเราะ


“ลอร์ดเสน่ห์แรงเอาเรื่อง”


กระหม่อมต้องการปรึกษาเกี่ยวกับพิธีสมรสระหว่างองค์ชายลอร์ดกับบุตรสาว…


เนื้อหาของจดหมายทั้งสิบเอ็ดฉบับมีข้อความทำนองนี้


โดยเฉพาะทัศนคติของผู้ปกครองรัฐเล็กๆ ซึ่งไม่ใช่อาณาจักร หลายคนตอบรับในเชิงบวก


คล้ายกับพวกมันเต็มใจที่จะใช้การแต่งงานเพื่อรวมเป็นปึกแผ่นเดียวกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์


ใบหน้าของลอเอลทวีความสดชื่นเมื่อได้อ่านทีละตัวอักษร


“รัฐเฮอมิลตันน่าสนใจมาก… ก่อตั้งโดยบุตรชายคนที่สามของปฐมจักรพรรดิซาฮารัน สืบเชื้อสายจากราชวงศ์ต้นกำเนิดโดยตรง… หากองค์ชายลอร์ดสมรสกับหญิงสาวเฮอมิลตันและมีทายาท เด็กที่เกิดมาจะต้องมีพรสวรรค์สูงมาก แม้จะไม่ได้สืบทอดปราณสีชาดก็ตาม”


ลอเอลเล่าอย่างตื่นเต้น


มันกำลังสนใจการสมรสระหว่างองค์ชายกับหญิงสาวตระกูลใหญ่ของทวีป จึงไม่แปลกที่จะมีความสุข


แต่ในทางกลับกัน กริดตอบสนองอย่างเย็นชา


“ขอผ่าน… ฉันไม่คิดจะจับลอร์ดคลุมถุงชน”


“ต…แต่ว่า…”


“ลอร์ดเพิ่งบรรลุนิติภาวะเองนะ ฉันไม่คิดจะใช้การแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่คิดจะเป็นพ่อแม่ไร้ยางอายที่ขายลูกชายเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักร”


“ไม่ใช่ คือว่า…”


“ลอเอล อย่าโลภมากนักเลย… ฉันขอบใจที่นายพยายามอย่างหนักเพื่อพัฒนาอาณาจักรจนเจริญรุ่งเรือง แต่ทุกวันนี้พวกเราก็ยิ่งใหญ่มากอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? การเสียสละของลอร์ดจำเป็นนักรึไง?”


“ไม่ใช่แบบนั้น…”


ขณะกริดเตรียมกล่าวบางสิ่ง ลอเอลชี้ออกไปนอกหน้าต่าง


เมื่อมองตามปลายนิ้ว ชายหนุ่มเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอก ก่อนจะต้องปิดปากสนิท


ฉากตรงหน้าคือลอร์ดที่มีสาวงามนับร้อยรายล้อม ทั้งหมดไม่ใช่ใคร แต่เป็นว่าที่บุตรีแห่งรีเบคก้า


เด็กชายวัยสิบห้ากำลังนอนหนุนเข่าของสาวสวยผมทอง พลางกอดเอวของสาวสวยผมสีน้ำตาลและจุมพิตตรงแก้ม


ลอเอลพูดกับกริดตรงๆ


“…ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ในอนาคตจะเกิดปัญหาใหญ่แน่”


“…”


ลอร์ดมิได้เปลี่ยนไปจากเดิม ยังคงมอบความรักให้เหล่าเด็กสาวที่สูญเสียอนาคต


ผู้คนเคยเฝ้ามองภาพดังกล่าวด้วยความน่ารักน่าชัง


แต่ตอนนี้ ลอร์ดไม่ใช่เด็กเหมือนเดิมอีกแล้ว


ฉากตรงหน้าเริ่มสร้างความกระอักกระอ่วน เพราะลอร์ดเริ่มโตขึ้น รูปลักษณ์เริ่มเหมือนชายหนุ่ม


ดูราวกับเป็น พระเอกในนิยายแฟนตาซีที่หื่นกามและชอบสร้างฮาเร็ม


และไม่ผิดจากที่คิดไว้


สีหน้าแววตาของแขกที่หันมามองขณะเดินกลับ เผยความอึดอัดใจเล็กๆ เมื่อเห็นลอร์ดรายล้อมด้วยหญิงงามนับร้อย


“องค์ชายลอร์ดอาจมีจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่กับบุตรีแห่งรีเบคก้านั้นไม่เหมือนกัน ยิ่งพวกเธอเติบโต ความเข้าใจโลกก็ยิ่งเพิ่มขึ้น… ถ้าฝ่าบาทไม่จับองค์ชายแยกออกมา อีกไม่นานคงได้มีหลานหลายร้อยคน”


“…”


สำหรับตระกูลราชวงศ์ การเข่นฆ่ากันเองของพี่น้องถือเป็นเรื่องปรกติ


ยิ่งกษัตริย์มีบุตรชายมากเท่าใด โศกนาฏกรรมก็ยิ่งรุนแรง


กริดขบคิดเป็นเวลานานก่อนจะขมวดคิ้ว


“…ถึงเวลาที่ลอร์ดต้องออกผจญภัยแล้วสินะ”


ในโลกซาทิสฟาย ก่อนที่ NPC จะมีอายุครบสิบห้าปี พัฒนาการจะถูกจัดกัดไว้หลายด้าน ซึ่งลอร์ดเป็นอิสระจากสิ่งเหล่านี้ในวินาทีที่พิธีฉลองบรรลุนิติภาวะจบลง


แม้จะเป็น NPC พิเศษ แต่ค่าสถานะและเลเวลก็ไม่สามารถพัฒนาได้เกินกรอบที่ระบบตั้งไว้


อย่างไรก็ตาม พันธนาการได้ถูกปลดออกแล้วในปัจจุบัน


“ทีราเม็ท เครย์”


“ฝ่าบาทเชิญรับสั่ง”


“เรียกข้ามีอะไร?”


ทีราเม็ทและเครย์ - แวมไพร์ทายาทที่สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อราชาโลหิต


ในฐานะบุตรแห่งเบริอาเช่ พลังของทั้งสองอาจด้อยกว่าแมรีโรสและบราฮัม แต่ในสายตาคนทั่วไป พวกมันคือภัยพิบัติเดินดิน ความแข็งแกร่งทัดเทียมบอสพิเศษ


“ถ้าถึงเวลา ฉันจะให้พวกนายคอยติดตามดูแลลอร์ด”


“ขอรับ”


“ขอรับ”


ในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์มีจุดเก็บเลเวลที่ดีและเหมาะแก่การผจญภัยหลายแห่ง


ดังนั้น เวทีแรกของลอร์ดจึงควรเป็นภายในอาณาจักร มิใช่ดินแดนห่างไกล


ทว่า ไม่ใช่ทุกตารางนิ้วของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลอร์ดที่มีเลเวลต่ำ


ชื่อเสียงและตัวตนของลอร์ดย่อมหมายถึง เด็กหนุ่มคนนี้สามารถถูกซุ่มโจมตีจากศัตรูได้ทุกเมื่อ


‘แต่ถ้าเป็นเขตเลเวลต่ำ อันตรายก็จะน้อยลงมาก ลำพังทีราเม็ทกับเครย์คงพอจะคุ้มกันไหว’


จุดเก็บเลเวลระดับต่ำนั้นง่ายต่อการบริหาร ระดับความปลอดภัยจึงสูง แถมยังมีทหารและอัศวินของอาณาจักรคอยเดินตรวจตราทุกซอกมุม หรือกล่าวได้ว่า เป็นการยากที่ลอร์ดจะได้รับอันตราย


‘เมื่อเลเวลของลอร์ดเพิ่มขึ้นและมีการเปลี่ยนจุดล่ามอนสเตอร์ เราค่อยเพิ่มคนคุ้มกัน’


เอลฟินสโตน โนลล์ เยติม่า และที่เหลือ


มีแวมไพร์ทายาทมากมายให้เลือกใช้เป็นผู้คุ้มกัน


ในกรณีเลวร้ายที่สุด กริดยังสามารถใช้สมญานาม ‘บิดาคนแรก’


สมญานามนี้จะช่วยให้ทราบทันทีที่ลูกของตนมีพลังชีวิตต่ำกว่า 30%


เมื่อทักษะ ‘สัญชาตญาณของพ่อ’ ถูกเปิดใช้งาน กริดสามารถเข้าไปช่วยลอร์ดได้ทันท่วงที


ขณะกำลังครุ่นคิด กริดตื่นจากภวังค์


มันพบว่าลอเอลกำลังจ้องมาทางตน


“ทำไมถึงมองฉันด้วยสายตาแบบนี้?”


“กระหม่อมไม่เข้าใจความคิดฝ่าบาท… ถ้าเป็นกังวลขนาดนั้น ทำไมไม่เดินทางไปพร้อมกับองค์ชาย?”


“ไม่ได้… นั่นไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่ต้องการให้ลอร์ดผจญภัย”


กริดอยากให้ลอร์ดออกผจญภัยเนื่องจาก วิธีนี้จะช่วยสั่งสมประสบการณ์ได้เร็ว แถมยังมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ และได้พบกับอิสระที่หาไม่ได้จากในวัง


มันหวังให้ลอร์ดจะเติบโตขึ้นด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันก็จะได้หลุดพ้นจากชายกระโปรงของบุตรีแห่งรีเบคก้า


กริดจึงมองว่า การที่ตนร่วมทางไปด้วย อาจทำให้หลายสิ่งหลายอย่างขาดหายไป


“ถ้านั่นคือความต้องการของฝ่าบาท ก็ควรเชื่อใจและปล่อยเขาเป็นอิสระ”


“…ส่งคนไปคุ้มกันไม่ได้หรือ?”


“ถ้าอยากจะคุ้มกัน ขอแนะนำให้เลือกใช้หน่วยโอเวอร์เกียร์เงา องค์ชายจะได้ไม่สังเกตเห็น”


“นั่นสินะ…”


หากลอร์ดถูกคุ้มกันอย่างเปิดเผย เกรงว่าคงไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร เพราะนั่นจะทำให้ลอร์ดขาดความระมัดระวัง


“ตกลง… ส่งมือดีที่สุดไป”


“ใช่แล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากให้ลอร์ดสัมผัสถึงตัวตนของคนคุ้มกัน ทางเลือกเดียวคือการส่งมือดีที่สุดไป”


“…เฟคเกอร์กำลังไปได้ดีสินะ”


ก่อนจะล็อกอินเข้าซาทิสฟาย ก่อนจะเข้าร่วมพิธีฉลองบรรลุนิติภาวะ กริดมีโอกาสได้ดูถ่ายทอดสดงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติ


ชายหนุ่มเอาใจช่วยดาเมี่ยนที่กำลังทำงานหนัก ขณะเดียวกันก็สนใจการแสดงฝีมือของราชาอสูรแห่งเงา


ราชาอสูรในปีนี้ใช้พลังเกี่ยวกับเงาเป็นหลัก สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลายเป็นอาวุธ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้คนเป็นอย่างมาก


ฉากการคืนชีพของกองทัพเงาที่ไม่ว่าจะล้มลงสักกี่ครั้ง ก็จะฟื้นกลับขึ้นมาได้เสมอ ทำให้ผู้ชมต่างอ้าปากค้างไปตามๆ กัน


ลอเอลตอบพลางยิ้ม


“สำหรับเฟคเกอร์ พวกเราไม่มีอะไรต้องกังวล”

“ใช่…”


เฟคเกอร์คอยปกป้องชาวโอเวอร์เกียร์ในเงามืดมาตลอด


หากกริดเปรียบดังดวงตะวัน เฟคเกอร์ก็คือจันทรา


หลังจากกลายเป็นลันเทียร์ ยกระดับความแข็งแกร่ง กริดก็จินตนาการความพ่ายแพ้ของเฟคเกอร์ในงานแข่งนานาชาติไม่ออก


ในวินาทีที่ชายคนนี้ตัดสินใจเข้าร่วม ผลลัพธ์เดียวคือความเท่และความอลังการ


กริดที่ชมเชยเฟคเกอร์ในใจ เปิดหน้าต่างภารกิจที่ค้างคา


<ความลับเบื้องหลังการกำเนิดราชาโลหิต>

ระดับความยาก :???

เบริอาเช่ต้นตระกูลต้องฝ่าฟันอุปสรรคตามลำพังมาตลอด

หลังถูกขับออกจากนรกและพเนจรบนโลกมนุษย์อย่างโดดเดี่ยว เธอพบว่า ความเดียวดายนั้นทุกข์ทรมานเพียงใด

นี่คือเหตุผลที่เธอมอบเพศให้เหล่าทายาท

เบริอาเช่ไม่ต้องการให้ทายาทรู้สึกโดดเดี่ยว

เธอหวังว่าทุกคนจะได้พบคู่ชีวิต เอาชนะชะตากรรมที่ถูกสาปร่วมกัน

นั่นคือเหตุผลที่เบริอาเช่ไม่ให้อภัยบราฮัม ผู้ทำร้ายคู่หมั้นเอลฟินสโตน ขณะเดียวกันก็เป็นเหตุผลที่ราชาโลหิตถือกำเนิด

ราชาโลหิต

ท่านคือราชาโลหิต ตำแหน่งที่สันตะปาปาเครย์เชอร์มิอาจเอื้อมถึง และตำแหน่งที่อริยดาบมุลเลอร์ตอบปฏิเสธ

หน้าที่ของท่านคือ ขจัดความโดดเดี่ยวให้แมรีโรส

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : เพิ่มค่าความสัมพันธ์กับแมรีโรสสิบหน่วย

รางวัลภารกิจ : สามารถดูข้อมูล ‘ความลับเบื้องหลังการกำเนิดราชาโลหิต’


เป็นภารกิจที่แสดงขึ้นขณะแมรีโรสเอ่ยถึงคู่ชีวิตและเมล็ดพันธุ์


และเป็นเพราะภารกิจนี้ กริดจึงกล้ารับปากว่าจะเป็นฝ่ายแวะไปหา


‘เราต้องไปพบหล่อนให้ได้’


ข้อมูลคือพลัง ข้อมูลใหม่ๆ จึงหมายถึงระบบใหม่ที่ซ่อนอยู่


เหนือสิ่งอื่นใด แมรีโรสคือตัวตนที่สามารถโน้มน้าวให้เป็นพวก


กริดตัดสินใจหนักแน่น ตนต้องรีบทำภารกิจนี้ให้เสร็จโดยเร็ว


‘ไม่ใช่เรื่องดีที่จะยืดเวลาออกไป ไม่อย่างนั้น แมรีโรสอาจเป็นฝ่ายกลับมาหาอีกครั้ง’


ชายหนุ่มมีลางสังหรณ์ว่า ไม่ควรปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น


แมรีโรสเป็นคนใจแข็ง ค่าความสัมพันธ์ไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้จะพูดเรื่องการแต่งงานและคู่ชีวิต


เมื่ออ่านใจอีกฝ่ายไม่ออก จึงต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ


‘แต่ก่อนอื่น…’


ขณะเดียวกัน กริดได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากจุดห่างไกล


เมื่อมองตรงไป ภูเขาในบริเวณดังกล่าวกำลังถล่มลงมาทั้งลูก


หอกแสงขนาดมหึมาพุ่งลงจากฟ้าและป่นให้ภูมิประเทศที่เคยสูงตระหง่านแหลกละเอียด


‘ต้องเริ่มจากบราฮัม’


บราฮัมต้องทำลายภูเขาทุกครั้งที่ ‘หลอม’ ละโมบด้วยเวทมนตร์ระดับตำนาน – ดิสอินทิเกรต


กริดอยากให้กำลังใจอีกฝ่าย ผู้ต้องทำเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปมาตลอดหลายสัปดาห์เพื่อช่วยตนสร้างแร่ชนิดใหม่ ขณะเดียวกันก็อยากปลอบใจจากเหตุการณ์ที่บราฮัมเผชิญหน้ากับแมรีโรส


“ฉันจะไปหาบราฮัม… แล้วก็… จะส่งวอลนัทสีทองเป็นของขวัญให้แขกที่มาร่วมงาน”


ปัจจุบัน วอลนัทสีทองที่ถูกปลูกบนเกาะคอร์ก ประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง


สรรพคุณคล้ายโอสถเหมือนกับวอลนัทบนทวีปตะวันออก แต่มีข้อกำจัดด้านจำนวนการใช้งาน


เอฟเฟคเพิ่มค่าสถานะจะส่งผลแค่คนละสองครั้ง


แน่นอน ลำพังสิ่งนี้ก็มากพอจะทำให้มูลค่าของมันมหาศาล


เป็นของขวัญที่ดีที่สุดอย่างไร้ข้อกังขา


“ของขวัญ? ไม่ราคาแพงไปหน่อยหรือ? น่าจะยกให้อัศวินโอเวอร์เกียร์กินมากกว่า…”


“ปิอาโร่ต้องการที่ดินเพิ่มสำหรับเพาะปลูกวอลนัท ฉันจึงอยากให้หลายๆ อาณาจักรตระหนักถึงความยอดเยี่ยมของพืชชนิดนี้ พวกเขาจะได้ร่วมมือและให้เช่าที่ดินซึ่งมีสภาพแวดล้อมคล้ายคลึงกับเกาะคอร์ก”


“เข้าใจแล้ว… หากต้องการปลูกวอลนัทสีทองพันธุ์สมบูรณ์ จำเป็นต้องมีการทดลองในดินที่ต่างออกไป… กระหม่อมไม่คัดค้าน”


ลอเอลพยักหน้าและยอมรับในเหตุผล


จากนั้น กริดไปหาบราฮัม


หากจัดการเรื่องนี้เสร็จ ชายหนุ่มจะเรียกลอร์ดมาคุยเกี่ยวกับการออกผจญภัย


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 3 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,885
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
#จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ #BJKNovel #BJK_Novel #Overgeared_แปลไทย #Overgeared #นิยาย_เกมออนไลน์ #พระเอกเทพ



Comments

  1. แปลมาพันกว่าตอนดีทุกอย่างติดเรื่องเดียวคือการใช้คำว่า"มัน"ใช้รวมกันไปหมดไม่ว่าจะแทนพวกเดียวกันเองหรือศัตรูขัดใจมากเวลาอ่านมีสรรพนามเยอะแยะที่ใช้แทนได้อย่าง"เรา""ตน""พวกเขา"หรือจะใช้ชื่อแทนตัวเองในบางประโยคก็ยังดีแต่นี่ใช้คำว่า"มัน"กับทุกอย่างขัดใจชิบ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00