จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,361
“ส…สุดยอด… เทพโอเวอร์เกียร์… ศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์! แค่ชื่อก็กินขาดแล้ว!”
“ช…ใช่! เท่มาก! ฮะฮะฮะ!”
“…”
หลังจากมหาโจรราตรีสีชาดกลับไป ใบหูของกริดแดงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเริ่มตรวจสอบระบบศาสนาร่วมกับดาเมี่ยน
เมื่อเก็บกวาดสนามรบเสร็จ สมาชิกโอเวอร์เกียร์หลายคนเดินเข้ามาร่วมยินดีกับหัวหน้าพวกตนด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน
แม้แต่รุ่นบุกเบิกที่อยู่กับกิลด์มานาน ก็ยังต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวให้คุ้นชินกับชื่อเทพโอเวอร์เกียร์และศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์
แน่นอน กริดก็ด้วย
“ถ้าเปลี่ยนเป็นคลาสเกรดมิธจะก่อตั้งศาสนาได้สินะ… ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
“แล้วทักษะพื้นฐานของคลาสเกรดมิธมีอะไรบ้าง?”
คำถามมากมายหลั่งไหลมาจากเหล่าสมาชิกโอเวอร์เกียร์
หลายคนทึกทักเอาเองว่า กริดกลายเป็นเทพเพราะคลาสพัฒนาไปเป็นระดับเทวตำนานเรียบร้อยแล้ว
บางที คนส่วนใหญ่ก็คงคิดแบบเดียวกัน เพราะในวินาทีที่เห็นข้อความโลกประกาศว่ากริดเป็นเทพ คงยากจะมีใครเข้าใจระบบอันซับซ้อนที่อยู่เบื้องหลังความศรัทธาของ NPC
‘นั่นสินะ…’
แม้แต่ในโลกเสมือนอย่างซาทิสฟาย ตัวตนของเทพก็ยังมีระดับสูงสุด เป็นการยากที่จะมีใครเชื่อมโยงเข้ากับผู้เล่นด้วยกันเอง
“หากจำนวนสาวกเพิ่มขึ้น ยังมีระดับที่สูงกว่าเทวตำนานอีกไหม?”
“ฉันอยากรู้จัง การได้เป็นเทพจะรู้สึกดีแค่ไหน”
กริดมิได้อธิบายความจริงแก่พวกพ้องที่เข้าใจผิด
ความจริงที่ว่า แม้สถานะของตนจะเปลี่ยนเป็นเทพ แต่คลาสกลับยังมิได้พัฒนาไปเป็นระดับเทวตำนาน
ชายหนุ่มมองว่า ถึงจะเล่าความจริงออกไป ตนก็ไม่สามารถอธิบายความแตกต่างระหว่าง ‘สถานะ’ เทพและศักยภาพหรือขีดจำกัดได้อยู่ดี
‘อาจเหลือแค่อีกหนึ่งก้าวในการเลื่อนเป็นคลาสเกรดมิธ… ให้ตายสิ ตอนนี้อยากพักสมองชะมัด’
หลังจากปราบจอมอสูรลำดับสิบเจ็ด โบทิส ได้ไม่นาน กริดก็ต้องต่อสู้กับจอมอสูรลำดับสิบเอ็ด ดราเชี่ยน ทันที
เพื่อการนั้น มันตัดสินใจอัญเชิญกองทัพโอเวอร์เกียร์ เผชิญหน้ากับมหาโจรราตรีสีชาดและเริ่มเจรจาต่อรอง
ถัดมาเป็นการดวลแลกชีวิตกับสามยอดนักรบ ลีจอง
ในภายหลัง ขณะกำลังสู้กับดราเชี่ยน ชายหนุ่มเผชิญการโจมตีที่คาดไม่ถึงจากสองเทวทูต และหลังจากนั้น ความจริงมากมายได้ถูกเปิดเผย
กริดกรำศึกหนักตลอดทั้งวันโดยไม่ได้พักผ่อน ร่างกายและจิตใจคล้ายกับใกล้ถึงขีดจำกัด หากเดินอย่างไม่ระวังอาจหกล้มหน้าคะมำเอาได้
‘ถึงเวลาตรวจสอบของรางวัลแล้วสินะ…’
หากได้เห็นความยอดเยี่ยมของไอเท็มดรอป บางที อาการเหนื่อยล้าคงอันตรธานหายราวกับหิมะละลาย
ท่ามกลางพวกพ้องที่กำลังโห่ร้อยยินดี กริดอมยิ้มพลางตรวจสอบรางวัลที่ได้รับจากลีจอง
ในฐานะสาวกเทพสงครามและสามยอดนักรบ ลีจองแข็งแกร่งเกือบที่สุดจากบรรดาสาวกทั้งหมดของเซราทุล ความตายของมันย่อมมอบสิ่งล้ำค่าให้กริดมากมาย
นอกจากค่าประสบการณ์ที่สามารถอัปได้ถึงห้าเลเวลในคราวเดียว ลีจองยังดรอปเคล็ดวิชาลับเทพสงครามเกรดยูนีคอีกสองชนิด
‘เทคนิคการชกและการทุ่ม… คงไม่เหมาะกับเราเท่าไร’
กริดพึ่งพาพลังไอเท็มเป็นหลัก
การพัฒนาตัวเองส่วนใหญ่เกิดจากการยกระดับไอเท็ม ชายหนุ่มจึงไม่สนใจเทคนิคหมัดเปล่าที่ค่อนข้างด้อยประสิทธิภาพ
ถัดมาเป็นการตรวจสอบไอเท็มดรอปจากลีจอง
ทุกชิ้นค่อนข้างประหลาด มาพร้อมออปชันที่กริดไม่เคยเห็นมาก่อน
<ผ้าปิดตาของลีจอง>
เกรด : เลเจนดารี (เซต)
ความคงทน : 155/230
* ทำให้สูญเสียการมองเห็น
* ไม่สามารถโจมตีด้วยทักษะล็อกเป้า
* ลดความว่องไวและค่าพละกำลัง 50% ลดพลังป้องกัน 40% ลดอัตราหลบหลีก 60% และลดความแม่นยำการโจมตี 50%
หนึ่งในอุปกรณ์ฝึกตนของลีจอง สามเทพนักรบ
สร้างจาก ‘ผ้าเอนัส’ หลายชั้นเพื่อปิดกั้นแสงโดยสมบูรณ์ ผู้สวมใส่จะมองไม่เห็นแม้แต่หนึ่งนิ้วด้านหน้า
การผนึกวิสัยทัศน์ขณะต่อสู้จะช่วยให้พัฒนาตัวเองได้เร็ว
★ ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 30%
★ หากต่อสู้ในสภาพปิดตา ค่าความว่องไวจะเพิ่มขึ้นถาวรเมื่อท่านสั่งสมค่าประสบการณ์ได้ถึงจำนวนหนึ่ง
★ หากหลบหลีกได้ถึงจำนวนหนึ่งในสภาพปิดตา ระบบ ‘หลบหลีกอัตโนมัติ’ จะเปิดใช้งาน พร้อมกับเพิ่มโอกาสแสดงผลในอัตราต่ำ
★ ในสภาพปิดตา หากโจมตีโดนเป้าหมาย ค่าความแม่นยำและพละกำลังจะเพิ่มขึ้นถาวร
★ เมื่อสวมใส่ครบเซต เอฟเฟคการฝึกตนจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
<กุญแจมือของลีจอง>
เกรด : เลเจนดารี (เซต)
ความคงทน : 515/577
* ลดระยะโจมตีลงอย่างมาก
* ไม่สามารถใช้ทักษะโจมตีบางชนิด
* พลังโจมตีของอาวุธลดลง 70% เมื่อสวมใส่
* ความแม่นยำลดลง 30%
หนึ่งในอุปกรณ์ฝึกตนของลีจอง สามยอดนักรบ
เนื่องจากข้อมือทั้งสองข้างถูกตรึงไว้ด้วยแผ่นเหล็กนิล การเคลื่อนไหวของข้อต่อจึงมีขีดจำกัด ไม่สามารถขยับร่างกายได้ในบางท่า
การสวมกุญแจมือขณะต่อสู้จะทำให้พัฒนาตัวเองได้เร็ว
★ ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 30%
★ หากสวมกุญแจมือขณะต่อสู้ ค่าความชำนาญอาวุธจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
★ หากสวมกุญแจมือและใช้ทักษะโจมตีโดนเป้าหมาย ค่าประสบการณ์ของทักษะจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
★ เมื่อสวมใส่ครบเซต เอฟเฟคการฝึกตนจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
<ตรวนของลีจอง>
เกรด : เลเจนดารี (เซต)
ความคงทน : 686/764
* ลดประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวลงอย่างมาก
* ความเร็วเคลื่อนที่ลดลงครึ่งหนึ่ง
* ไม่สามารถใช้ทักษะประเภทเคลื่อนที่จำพวก ‘พุ่งชน’
* ทักษะที่เกี่ยวกับร่างกายท่อนล่างมีโอกาสสำเร็จเพียง 50%
* อัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติของพลังชีวิตและค่าเรี่ยวแรงลดลง 30%
หนึ่งในอุปกรณ์ฝึกตนของลีจอง สามยอดนักรบ
ผู้สวมจะถูกพันธนาการข้อเท้าทั้งสองด้วยตรวน ส่งผลให้ข้อต่อเคลื่อนไหวอย่างมีขีดจำกัด ไม่สามารถขยับร่างกายได้ในบางท่า
การสวมตรวนขณะต่อสู้จะช่วยให้พัฒนาตัวเองได้เร็ว
★ ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น 30%
★ หากสวมตรวนและได้รับค่าประสบการณ์ถึงจำนวนหนึ่ง ทักษะประเภทเคลื่อนที่และทักษะที่เกี่ยวกับร่างกายท่อนล่างจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเล็กน้อยเป็นการถาวร
★ หากสวมตรวนและเคลื่อนไหวร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง ค่าพลังชีวิตและค่าเรี่ยวแรงสูงสุดจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นการถาวร
★ เมื่อสวมใส่ครบเซต เอฟเฟคการฝึกตนจะเพิ่มขึ้นสองเท่า
ลีจองมิได้สวมใส่เครื่องพันธนาการเล่น ๆ
การผนึกดวงตา ข้อมือ ข้อเท้า ช่วยให้ลีจองสามารถพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด
‘…เป็นประโยชน์หรือโทษกันแน่’
สีหน้ากริดเผยความสับสน
อุปกรณ์ฝึกตนของลีจองอาจมีประสิทธิภาพในด้านการพัฒนาตัวละครสูงมากก็จริง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า จะนำสิ่งนี้ไปใช้งานจริงได้แน่หรือ
‘ถ้าเราอยากใช้งาน คงมีแต่ต้องไปเก็บเลเวลในจุดที่มอนสเตอร์อ่อนแอและไม่สามารถฆ่าเราได้…’
แต่การลดตัวไปเก็บเลเวลในแม็ปมอนสเตอร์อ่อนแอเพียงเพื่อให้ได้สวมใส่เซตอุปกรณ์ฝึกตน นั่นจะไม่เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนหรือไง?
หลังจากครุ่นคิดสักพัก กริดได้ข้อสรุปว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการสิ้นเปลืองเวลาโดยเปล่าประโยชน์
‘ไม่ต้องรีบร้อน… เดี๋ยวเราก็หาวิธีใช้งานได้เอง’
เหนือสิ่งอื่นใด หากต้องการสวมใส่อุปกรณ์ฝึกตนของลีจอง เคล็ดวิชาลับของเทพสงครามคือสิ่งจำเป็น
เทคนิคการชก ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ต้องพึ่งพาอาวุธ
ทักษะนี้ไม่เคยอยู่ในสายตากริดจนกระทั่งได้อ่านรายละเอียดไอเท็มเซตฝึกตนของลีจอง ชายหนุ่มตระหนักว่า หากต้องการสวมใส่กุญแจมือของลีจองนี่ลดพลังโจมตีอาวุธลงถึง 70% ตนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเรียนเทคนิคชกและทุ่ม
[ท่านเรียนทักษะ <การชกผสมผสาน>]
<การชกผสมผสาน> Lv.1
ชกเป้าหมายด้วยหมัดที่รวดเร็วจนยากจะมองตามทัน
สร้างความเสียหาย 1,500% ของพลังโจมตีกายภาพ มีโอกาสปานกลางที่จะสร้างอาการ ‘ชะงัก’
ท่านสามารถคอมโบทักษะถัดไปใส่เป้าหมายที่ติดอาการชะงักได้ทันทีโดยไม่ต้องร่าย นอกจากนั้นยังจะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม
ระยะหน่วง : 50 วินาที
มานา : 4,000
จุดเด่นของเทคนิคการชกคือค่าสัมประสิทธิ์ (ตัวคูณ) ทางพลังโจมตีกายภาพที่สูงมากและสามารถทำคอมโบได้รวดเร็ว
ผู้ที่มีค่าสถานะพื้นฐานสูงจะสำแดงพลังทำลายได้ดีกว่าในยามต่อสู้ด้วยมือเปล่า ข้อเสียคือระยะโจมตีที่สั้นและการสิ้นเปลืองทรัพยากร
แต่อัตราการสูบมานา 4,000 หน่วยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับกริด สิ่งเดียวที่ต้องปรับตัวก็คือระยะการโจมตีที่สั้นลง
[ท่านเรียนทักษะ <พลิกโลกา>]
<พลิกโลกา> Lv.1
มีโอกาสสูงที่จะทุ่มเป้าหมายซึ่งตกอยู่ในสถานะ ‘ถูกจับ’
ศีรษะของเป้าหมายที่ถูกทุ่มจะกระแทกพื้นอย่างรุนแรง สร้างความเสียหาย 20,000 หน่วยแบบคงที่และสร้างอาการ ‘มึนงง’ เป็นเวลา 0.3 ถึง 1.5 วินาที เป้าหมายที่มึนงงจะถูกลดทอนพลังป้องกันอย่างมาก
ระยะหน่วง : 2 นาที
มานา : 1,800
เทคนิคการทุ่มมีจุดเด่นในด้าน CC
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ เป็นทักษะประเภทไม่ล็อกเป้า มีโอกาสพลาดค่อนข้างสูง จำเป็นต้องเข้าประชิดเป้าหมายและจับตัวไว้
หากเคลื่อนไหวอย่างโฉ่งฉ่างเกินความจำเป็นจนศัตรูหลบพ้น ผู้โจมตีจะเปิดช่องว่างให้อีกฝ่ายย้อนกลับมาเล่นงาน
อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีจุดอ่อนตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทักษะนี้จะไม่มีประโยชน์
‘เราเองก็ไม่ได้อยากใช้ทักษะยาก ๆ นักหรอก… แต่การเรียนท่าทุ่มติดตัวไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย’
บางที ลีจองอาจเป็นของขวัญที่หล่นจากฟ้าสำหรับกริด
สิ่งตอบแทนช่างคุ้มค่าเสียจนความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง
กริดฮัมเพลงขณะพยายามสวมอุปกรณ์ฝึกตนทีละชิ้น
อันดับแรก ชายหนุ่มพันธนาการข้อเท้าด้วยโซ่ตรวนยาว ส่งผลให้เคลื่อนไหวร่างกายได้ยากลำบากทันที ยกขาขึ้นได้เพียงครึ่งหนึ่ง แถมขอบเขตการหมุนข้อเท้าก็ยังลดลงมาก
ทว่า กุญแจมือกลับยิ่งมอบความอึดอัดมากกว่า หัวไหล่ถูกจำกัดการเคลื่อนไหวไปมากถึง 80% แค่จะถือของสักชิ้นบนมือยังเป็นเรื่องยาก
‘ไม่ว่าเราจะถืออาวุธประเภทไหน ด้ามจับก็จะชนกับแผ่นเหล็กเสมอ’
เข้าใจแล้วว่าทำไมพลังโจมตีของอาวุธถึงลดลงขณะสวมกุญแจมือ
ในสภาพที่ด้ามจับอาวุธกระแทกกับแผ่นเหล็กหนาตลอดเวลา การใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพก็คงยาก
แต่ถึงอย่างนั้น กุญแจมือก็ยังดีกว่าผ้าปิดตาหลายเท่า
[ท่านมองไม่เห็นแม้แต่หนึ่งนิ้วด้านหน้า]
“…”
การมองเห็นของกริดถูกผนึกทันทีที่สวมผ้าปิดตา
เป็นไปตามข้อความแจ้งเตือนของระบบ ชายหนุ่มมองไม่เห็นแม้แต่หนึ่งนิ้วข้างหน้าอย่างแท้จริง
‘ทำได้แค่พึ่งพาการฟัง…’
กริดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ทำความเข้าใจและตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมด้วยโสตประสาทเพียงอย่างเดียว
หลังจากสวมผ้าปิดตา ระดับความยากในการเล่นก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า
ขณะชายหนุ่มกำลังแกว่งแขนไปในอากาศอย่างส่งเดช
“อ…โอ้! ม…ไม่น่าเชื่อ เทพโอเวอร์เกียร์กำลังพันธนาการตัวเองเพื่อให้พระองค์เข้าใจความยากลำบากของคนอ่อนแอ… แล้วจะไม่ได้พวกเราหลั่งน้ำตาได้อย่างไรกัน”
กริดเริ่มได้ยินเสียงปล่อยโฮของนักบวชอาวุโส
[สาวกโบสถ์เทพโอเวอร์เกียร์ทวีความศรัทธาอย่างแรงกล้า!]
[ค่าบารมีเทพของท่านเพิ่มขึ้นหนึ่งหน่วย]
“…”
พวกมันกำลังเล่นตลกกับตนอยู่หรือ?
ขณะกริดเค้นสมองคิดเคร่งเครียด เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์และสิบวีรชนฯ ต่างเดินเข้ามาใกล้
หลังจากปรึกษาหารือกับขุนนางจักรวรรดิถึงวิธีการประเมินความเสียหายจากสงครามและการชดเชย บรรดาขุนนางโอเวอร์เกียร์ต้องการแลกเปลี่ยนความเห็นกับกริด
“เอ่อ… นอกจากซาลิเอล นายตัดสินใจหรือยังว่าจะแต่งตั้งใครเป็นผู้ส่งสารแห่งเทพบ้าง?”
แม้จะเห็นกริดกำลังเผชิญความยากลำบากในสภาพปิดตาและรัดข้อมือราวกับตัวตลก แต่จิสึกะและสิบวีรชนต่างก็ไม่มีใครเผยรอยยิ้ม
ผู้ส่งสารแห่งเทพโอเวอร์เกียร์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือตำแหน่งสำคัญที่ใครหลายคนต้องการจับจอง
โดยเฉพาะยูร่าและจิสึกะที่จริงจังเป็นพิเศษ
“หลัก ๆ คงเป็นบราฮัม ปิอาโร่ และเมอร์เซเดส… แต่อีกสามตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ นายคิดไว้หรือยังว่าจะมอบให้ใคร”
กริดถอดผ้าปิดตาพลางมอบตอบ
“ฉันคิดไว้แล้วหนึ่งคน”
“ใคร?”
“เนเฟลิน่า”
“…หา?”
แฮชลิ่งตัวนั้นน่ะหรือ?
หลังจากได้ยินชื่อที่ไม่คาดคิด ดวงตาทุกคนพลันเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
มังกรแห่งเทพโอเวอร์เกียร์ !!!
ReplyDeleteลืมไปเลยว่าเคยเลี้ยงมังกร 555555
ReplyDelete