จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,358

[อัครเทวทูต ‘รากูเอล’ ได้ลิ้มรสความตายเป็นครั้งแรก]

เฉกเช่นจอมอสูร เทวทูตเองก็มิได้ตายในทันที

หลังจากความตาย พวกมันสามารถคืนชีพได้อีกหน

ข้อแตกต่างก็คือ จอมอสูรจะเร่ร่อนในร่างวิญญาณนานหลายปี ก่อนที่จะได้ร่างเนื้อคืนมาเมื่อถึงวัฏจักรคืนชีพ

แต่ในทางกลับกัน เทวทูตจะคืนชีพบนสวรรค์ทันที

สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของเทพที่สร้างพวกมันขึ้นมา

ยาธาน มหาเทพผู้สร้างจอมอสูร เป็นตัวแทนของการทำลายล้าง ความตาย และการพักผ่อน

สาเหตุที่จอมอสูรต้องใช้เวลาหลายปีในการคืนชีพ เพราะเทพยาธานต้องการให้อสูรได้พักผ่อนและตระหนักถึงความสำคัญของชีวิต

ในทางกลับกัน รีเบคก้าคือเทพแห่งความเมตตา อัครเทวทูตที่ตายไปจะคืนชีพทันที ไม่ต้องทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดและโดดเดี่ยว การสร้างร่างเนื้อใหม่ให้อัครเทวทูตทันทีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับรีเบคก้า

[นี่คือความสำเร็จ ‘ครั้งแรก’ ของผู้เล่น!]

แน่นอน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความสำเร็จครั้งแรกของมนุษยชาติ

เมื่อครั้งอดีต อัครเทวทูตบางตนเคยลิ้มรสความตายในสงครามใหญ่กับเจ็ดนักบุญ อัครเทวทูตที่ไม่เคยตายมาก่อนอย่างรากูเอลจึงนับว่าค่อนข้างหายาก

[ท่านได้รับไอเท็ม <วงแหวนเทวทูต>]

[ท่านได้รับไอเท็ม <ขนนกเทวทูต>]

[ท่านได้รับไอเท็ม <หอกรากูเอล>]

[ท่านได้รับสมญานาม <ผู้สังหารเทวทูต>]

[ชื่อของท่านจะถูกจารึกไว้ในจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่]

[รางวัลตอบแทนความสำเร็จ : ‘ระดับบารมีเทพ’ เพิ่มขึ้นหนึ่งขั้น]

[ท่านเลเวลอัป!]

[ท่านเลเวลอัป!]

[ท่านเลเวลอัป!]

[ท่านเลเวล…]

[ท่านเล…]

……

…

<วงแหวนเทวทูต>

เกรด : มิธ

วงแหวนที่เปล่งแสงเหนือศีรษะเทวทูต ถึงปัจจุบันจะขาดชีวิตชีวาและไม่ทราบจุดประสงค์การใช้งานที่แน่ชัด แต่ดูเหมือนจะมีมูลค่าสูง

น้ำหนัก : 0

<ขนนกของเทวทูต>

เกรด : มิธ

ขนนกที่หลุดร่วงจากปีกเทวทูต สีของมันขาวบริสุทธิ์ราวกับไม่มีวันถูกทำให้เปื้อนเปรอะ จุดประสงค์การใช้งานยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ดูเหมือนจะมีมูลค่าสูง

น้ำหนัก : 0

<หอกรากูเอล>

เกรด : มิธ

ความคงทน : 1/1

พลังโจมตี : 1,277

หอกที่อัครเทวทูตรากูเอลใช้งาน

หลังจากรากูเอลตาย หอกเล่มนี้เสื่อมพลังลงและยากจะคงสภาพเดิมไว้ได้ อาจแตกหักได้ง่ายหากใช้งานไม่ถูกวิธี

น้ำหนัก : 1,220

<ผู้สังหารเทวทูต>

★ มีโอกาสปานกลางที่จะลดพลังป้องกันขณะโจมตีตัวตนศักดิ์สิทธิ์

ท่านทำให้สิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบ อัครเทวทูต ลิ้มรสความตายและตระหนักถึงความกลัวและความเจ็บปวด

อัครเทวทูตจะระแวงท่าน เหล่าเทวทูตจะหวาดกลัวท่าน

วงแหวน ขนนก หอก และสมญานาม

นอกเหนือจากสมญานาม คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดามูลค่าที่แน่ชัดของไอเท็มดรอปจากรากูเอล

แต่สำหรับกริด เมื่อตรวจพบว่าหอกรากูเอลและดาบสั้นเฮ็กเซเทียผลิตจากวัสดุแบบเดียวกัน ชายหนุ่มสามารถกะเกณฑ์มูลค่าได้อย่างคร่าว

‘…ทั้งขนนกและวงแหวนคงนำไปใช้ประโยชน์ได้สักอย่าง’

ศิลาศักดิ์สิทธิ์

แร่ที่สร้างโดยเฮ็กเซเทีย เกิดจากการนำข้อดีทั้งหมดของแร่บนสวรรค์มาประกอบเข้าด้วยกัน

ไม่เกินจริงไปนักหากจะกล่าวว่า ปัจจุบันมันคือแร่ที่ดีที่สุดของโลกซาทิสฟาย ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า ‘ละโมบ’ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากพาเฟรเนี่ยม

ถึงจะมีปริมาณไม่มาก แต่แกนหลักของหอกรากูเอลคือศิลาศักดิ์สิทธิ์ไม่ผิดแน่

กล่าวอีกนัยหนึ่ง กริดสามารถสกัดศิลาศักดิ์สิทธิ์ออกจากหอกรากูเอลได้ในปริมาณเล็กน้อย

‘ถ้าเราใช้ดึงศักยภาพซ่อนเร้นเพื่อยกระดับทักษะตีเหล็ก การสกัดศิลาศักดิ์สิทธิ์คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร’

และในกรณีเลวร้ายที่สุด ทั้งวงแหวนและขนนกก็คงสกัดออกมาเป็นวัตถุดิบราคาแพงได้เช่นกัน

นอกจากนั้น ชื่อของกริดยังถูกสลักไว้ในปฐมบทของเทวตำนานบทใหม่ของโลก ระดับบารมีเทพจึงเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งขั้นเต็ม ๆ

เรากำลังพูดถึง ‘ระดับบารมีเทพ’ ที่ต้องสั่งสม ‘ค่าบารมีเทพ’ ให้ครบสิบครั้งจึงจะเลื่อนลำดับได้หนึ่งขั้น หรือกล่าวได้ว่า ของรางวัลที่กริดได้รับในคราวนี้เทียบเท่าการเขียนมหากาพย์ถึงสิบบทเลยทีเดียว

‘ไม่สิ ระดับตัวตนเหนือมนุษย์ของเรายังไม่เพิ่มขึ้นจากเดิม ของรางวัลอาจไม่ได้มากมายขนาดนั้น’

ใจเย็นไว้…

ถึงเลเวลจะอัปรวดเดียวเจ็ดระดับ แต่ก็ไม่ใช่เวลามัวยินดี

กริดสูดลมหายใจยาว หันไปทางซาลิเอลที่กำลังร่ำไห้

อัครเทวทูตซาลิเอล

ในครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ กริดยังไม่ปักใจเชื่อเต็มร้อย

ชายหนุ่มยังไม่ลืมว่า ซาลิเอลคือนามของอัครเทวทูตที่เป็นผู้นำหน่วย ‘เท็มพล่า’ แห่งโบสถ์รีเบคก้า

ในเมื่อซาลิเอลมีตัวตนอยู่จริง กริดจึงยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ว่า ดราเชี่ยนจงใจสวมรอยเป็นซาลิเอลเพื่อเอาตัวรอด ธรรมชาติของจอมอสูรคือตัวตนที่ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์

แต่เมื่อเห็นรากูเอลและอูมิเอลพยายามปรี่เข้ามาปิดปาก ชายหนุ่มพลันนึกถึงเหตุการณ์หนึ่งในอดีตทันที : ซาลิเอล ผู้นำหน่วยเท็มพล่าแห่งรีเบคก้า เคยพ่ายแพ้ให้กับ ‘มือของสตริโอ้’ !

นับตั้งแต่เริ่มปรากฏตัว ซาลิเอลเคยสำแดงความน่าเกรงขามของอัครเทวทูตให้กริดเห็นสักครั้งแล้วหรือยัง?

คำตอบคือยัง

อัครเทวทูตตนแรกที่กริดรู้จัก ซาลิเอล แทบไม่เคยสร้างความประทับใจใดเป็นพิเศษ นอกเสียจากทักษะติดตัวที่เข้าขั้นโกงอย่าง ‘บาเรียต้านทานเวทมนตร์’

นั่นทำให้กริดเริ่มตั้งคำถาม

เหตุใดซาลิเอลและหน่วยเท็มพล่าถึงไม่ออกโรงจัดการกับดราเชี่ยน ทั้งที่มีนักบวชรีเบคก้าจำนวนมากเข้าร่วม?

นอกจากนั้น ทำไมดาเมี่ยนที่น่าจะคืนชีพทันทีหลังจากความตาย ถึงไม่ย้อนกลับมายังสนามรบเสียที?

จุดที่น่าสงสัยมีมากมาย

และส่วนที่น่าสงสัยที่สุด : ท่าทีตอบสนองของรากูเอลและอูมิเอลหลังจากได้ยินดราเชี่ยนเผยตัวว่าเป็นซาลิเอล

อาจเป็นเพราะเทวทูตห้ามโกหก พวกมันจึงมิอาจโต้แย้งคำสารภาพของดราเชี่ยน?

พิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด กริดไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อในคำพูดดราเชี่ยน

และอันที่จริง ไม่ว่าดราเชี่ยนจะพูดจริงหรือโกหก กริดก็เตรียมจัดการกับสองเทวทูตตรงหน้าอยู่แล้ว โทษฐานที่พวกมันบังอาจทำร้ายดาเมี่ยนและพยายามฆ่ามนุษย์ทุกคนบนสนามรบ

ผลลัพธ์จึงลงเอยด้วย

[เหล่าทวยเทพบนสวรรค์ต่างโกรธแค้นท่าน!]

[หลังจากเห็นท่านทำร้ายอัครเทวทูต เทพธิดารีเบคก้าจ้องมองท่านด้วยสายตาแฝงอารมณ์หลากหลาย]

กริดที่ได้รับความพิโรธจากทวยเทพ ตระหนักว่านี่มิใช่เวลามัวยินดี

‘ให้ตายสิ…’

ในอดีต ชายหนุ่มเคยถูกเสนอโอกาสให้เป็นครึ่งเทพถึงสองครั้ง แต่ก็ตอบปฏิเสธกลับไปทั้งหมด แม้ว่านั่นจะเป็นทางลัดในการครอบครองพลังมหาศาลก็ตาม

เหตุผลที่ตอบปฏิเสธนั้นไม่ซับซ้อน กริดไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับปัญหาของสวรรค์

คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่อยากให้เทพเกลียดชังตัวเอง

กริดต้องแบกรับชะตากรรมของผู้คนนับล้านไว้บนบ่า หากกลายเป็นศัตรูกับสวรรค์ ผลเสียจะมีมากกว่าผลดี

‘ให้ตายสิ… เราแค่คิดจะล่าจอมอสูร…’

แล้วทำไมถึงลงเอยด้วยการเป็นศัตรูกับเทพบนแอสการ์ด?

กริดที่กำลังหัวเสีย ใช้มือข้างหนึ่งปิดหน้าพลางชำเลืองไปทางจอมอสูรดราเชี่ยน ไม่สิ ซาลิเอล

หญิงงามตรงหน้ากำลังร่ำไห้จากก้นบึ้งหัวใจ

เธอสำนึกเสียใจอย่างหนัก เมื่อความพยายามในการเปิดโปงบาปของเทพและช่วยเจ็ดนักบุญปฏิรูปสวรรค์ ลงเอยด้วยการถูกเนรเทศลงนรกและกลายเป็นจอมอสูรที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย

ยังไม่ทันที่ซาลิเอลจะกล่าวคำใด ผู้คนโดยรอบ โดยเฉพาะอาวุโสของโบสถ์รีเบคก้า คุกเข่าลงพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงคล้ายกำลังสวนมนต์

“อย่าได้โทษตัวเองและมัวอาวรณ์กับบาป เพราะอย่างน้อย… มนุษยชาติก็ได้ตาสว่างจากความเสียสละและความเจ็บปวดของท่าน พวกเราทุกคนได้ประจักษ์โฉมหน้าที่แท้จริงของสวรรค์แล้วในวันนี้”

“ท่านคือแสงสว่างที่แท้จริง… คือเทวทูตเพียงองค์เดียวที่คู่ควรแก่การรับใช้ฝ่าบาทกริด มนุษย์ผู้ช่วยเหลือพวกเราทุกคน”

“…?”

เมื่อฟังจบ ดวงตากริดพลันเบิกกว้างอย่างตกตะลึง

เทวทูตที่คู่ควรแก่การรับใช้เรา?

ตาแก่พวกนี้กำลังพล่ามอะไรอยู่…

ความสนใจของผู้คนรอบข้าง เริ่มพุ่งเป้ามาทางกริดที่กำลังยืนฉงน

ขณะเดียวกัน เหล่าตากล้องจากสถานีโทรทัศน์จำนวนมากที่ตายไปเพราะถูกตรีเอกานุภาพลงทัณฑ์ เริ่มทยอยกลับมาถึงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง

ขณะกล้องนับร้อยกำลังถ่ายฉากสนามรบที่เต็มไปด้วยซากความตายและละอองเถ้าถ่านเพื่อนำเสนอความสูญเสีย กล้องทุกตัวพลันหันมาจับภาพกริดโดยพร้อมเพรียง

สมาชิกโบสถ์รีเบคก้าหลายร้อยชีวิตกำลังคุกเข่าคำนับกริดด้วยอากัปกิริยานอบน้อม

แน่นอน หนึ่งในนั้นคือเทวทูตผู้งดงามนามซาลิเอล

“ณ วันนี้ พวกเราสูญเสียศรัทธาจนหมดสิ้น”

ในวินาทีที่อาวุโสเปิดปาก บรรยากาศรอบตัวพลันบีบหัวใจ

ไม่ว่าจะผู้เล่นที่เข้าร่วมสงคราม สมาชิกโอเวอร์เกียร์ หรือทหารนับหมื่นของกองทัพจักรวรรดิ ทุกคนที่กำลังมองมาทางกริดพลันหยุดหายใจ

“แต่ในขณะเดียวกัน พวกเราได้ประจักษ์ศรัทธาครั้งใหม่”

“เราขอวิงวอนและอ้อนวอนต่อท่านกริด ผู้มีพระคุณที่ช่วยรักษาชีวิตของทุกคน มาเป็นเทพองค์ใหม่ให้พวกเรา”

“…!”

“…!”

เสียงฮือฮาดังขึ้นจากทุกสารทิศ

ฉากตรงหน้าคือเหตุการณ์ประกาศถอนตัวออกจากศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของทวีปตะวันตกและหันมานับถือศาสนาใหม่

ผู้เล่นและผู้ชมทั่วโลกต่างตกตะลึงเมื่อพบว่าศาสดาองค์ใหม่เป็นผู้เล่น

ในวินาทีนี้ ผู้เล่นคนหนึ่งซึ่งไต่เต้าจากวีรบุรุษ ราชา ตำนาน กำลังกลายมาเป็นตัวเอกในเทวตำนานบทใหม่ของโลกมนุษย์

ฉากตรงหน้าทั้งยิ่งใหญ่และชวนให้ตกตะลึงเสียจนใครหลายคนมิอาจทำใจยอมรับ และหลายคนยังไม่เข้าใจที่มาที่ไปแม้จะได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

ขณะเดียวกัน ในใจกริดกำลังร้อนรุ่ม

‘แบบนี้ไม่ดีแน่…’

สาวกรีเบคก้าไม่มีทางย้ายมานับถือกริดทุกคน

คงมีเพียงส่วนน้อยที่ได้ประจักษ์ความจริงด้วยตัวเองและมอบศรัทธาให้กริดจากก้นบึ้งประหนึ่งเทพองค์ใหม่

และบางที ใครหลายคนอาจผิดหวังและถอนตัวเมื่อเวลาผ่านไป

แต่เรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ กริดได้พรากสาวกของรีเบคก้าไปแล้วจำนวนหนึ่ง สิ่งนี้ถือเป็นการประกาศสงครามต่อเทพอย่างชัดเจน แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

แน่นอน เกิดผลกระทบตามมาทันที

[ข่าวด่วน! เกิดโรคระบาดทางภาคเหนือของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์]

[ข่าวด่วน! ฝูงตั๊กแตนจำนวนมากปรากฏตัวทางภาคตะวันตกของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์]

[ข่าวด่วน! พายุไต้ฝุ่นกำลังพัดผ่านภาคกลางของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์]

[ข่าวด่วน! ภาคใต้ของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังเผชิญอุทกภัย]

“ชิ…”

ได้โปรดหยุดทำแบบนี้สักที

กริดมองไปทางอดีตสาวกรีเบคก้าและซาลิเอลด้วยสีหน้ากังวล

แน่นอน ไม่มีใครทราบว่าชายหนุ่มกำลังคิดสิ่งใด

“ขอโทษที่กลับมาช้า… ฉันทำประโยชน์ให้นายไม่ได้เลย”

ดาเมี่ยนกลับมาถึงจุดเกิดเหตุ

คราวนี้มาพร้อมกับบุตรีแห่งรีเบคก้าทั้งสาม

แม้จะไม่ได้เข้าร่วมสงคราม แต่ลำตามตัวดาเมี่ยนกลับเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ และทางบุตรีรีเบคก้าเองก็บาดเจ็บหนักเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นในบริเวณอื่น และน่าจะเป็นฝีมือของอีกหนึ่งซาลิเอลที่ถูกส่งไปดักรอในวิหารรีเบคก้าใกล้เคียง

“ดาเมี่ยน… อิสซาเบล…”

ได้โปรดห้ามคนเหล่านี้ที… 

ขณะเตรียมกล่าวคำอ้อนวอน ร่างกายกริดพลันแข็งทื่อ

ชายหนุ่มเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ผู้ศรัทธาคนแรกของตนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบุตรีแห่งรีเบคก้าเจ้าของหอกไลฟาเอล อิสซาเบล

“ข้าขอคารวะเทพองค์ใหม่”

อิสซาเบลและบุตรีแห่งรีเบคก้าที่เหลือต่างคุกเข่าคำนับกริด

“…ฉันอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในศาสนากริดมานานแล้ว”

ดาเมี่ยนถอดผ้าคลุมและมงกุฎที่เป็นสัญลักษณ์ของสันตะปาปาออก

กริดที่กำลังหัวเสีย หมดคำจะกล่าวเป็นเวลานาน

ระบบเกมเคยบอกใบ้มาสักพักแล้วว่า ผู้เล่นก็สามารถเป็นเทพได้

และเหตุการณ์ดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นในวินาทีนี้

ข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้ากริดที่กำลังยืนสับสน

ไม่สิ ปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้เล่นทุกคนบนโลกที่กำลังออนไลน์

[ราชาโอเวอร์เกียร์ กริด เริ่มเขียนมหากาพย์บทที่สิบ]

______________

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,836

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous