จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,360



สร้อยเนอวาร์ธาน


ลำดับสามแห่งหอคอย ลาร์ดวูล์ฟ ระบุว่าเป็นสร้อยที่สร้างจากกรงเล็บแตกหักของเนอวาร์ธาน


มันคือวัตถุต้องสาปอันน่าสะพรึงซึ่งจะกลืนกินจิตใจผู้สวมจนบ้าคลั่ง


ลาร์ดวูล์ฟตอบคำถามของกริดถึงเหตุผลที่สร้างขึ้นมา


“สร้อยเส้นนี้คือคุณค่าทางจิตใจ… หากเจ้าเป็นข้า จะปล่อยกรงเล็บมังกรทิ้งไว้โดยไม่ยุ่งกับมันเลยหรือ?”


ถูกต้อง สร้อยเนอวาร์ธานมีค่าไม่มากไปกว่าสร้อยคำสาปเส้นหนึ่ง มิใช่วัตถุทรงพลังที่ควรค่าแก่การแก่งแย่ง


ทั้งลาร์ดวูล์ฟผู้สร้าง และมหาโจรราตรีสีชาดผู้ขโมย ต่างหมกมุ่นอยู่กับ ‘ความหายาก’ มากกว่าประสิทธิภาพ


กริดเองก็เช่นกัน


ชายหนุ่มปรารถนาสร้อยเนอวาร์ธานเพราะภารกิจ มิใช่เพราะอยากได้


<สร้อยคอเนอวาร์ธาน>

ระดับความยาก :???

ทวงคืนสร้อยเนอวาร์ธานที่ถูกมหาโจรราตรีสีชาดขโมยไป

เงื่อนไขบรรลุภารกิจ : ส่งสร้อยเนอวาร์ธานให้กับลำดับสาม ลาร์ดวูล์ฟ

รางวัลสำเร็จภารกิจ :

- เหล็กแสงจันทร์

- ค่าความสัมพันธ์กับลาร์ดวูล์ฟเพิ่มขึ้น


เหล็กแสงจันทร์คือแร่ที่ผนึก ‘ระดับตัวตน’ ของเป้าหมาย


ส่วนจะผนึกได้มากน้อยแค่ไหน ปัจจุบันมีเพียงกลุ่มนักวิจัยไม่กี่คนเท่านั้นที่ล่วงรู้


แต่ในทางทฤษฎี เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกระชากตัวตนจากระดับสูงสุดให้กลายเป็นสามัญชน เพราะนั่นหมายจะความว่า ชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตระดับสูงอย่างจอมอสูร เหนือมนุษย์ เทพ และมังกรจะตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนทันที


แต่ถึงอย่างนั้น กริดก็ยังปรารถนา ‘เหล็กแสงจันทร์’ อยู่ดี


และขณะเดียวกัน ชายหนุ่มก็ต้องการสานสัมพันธ์กับลาร์ดวูล์ฟ ผู้สร้างจักรกลเวทมนตร์


หากพัฒนาความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ กริดเชื่อว่าตนมีโอกาสได้รับของขวัญเป็นจักรกลเวทมนตร์ หรือไม่ก็ความช่วยเหลือในการสร้าง


‘แบบนี้ดีแล้ว…’


กริดเองก็คาดไม่ถึงว่า เรื่องราวจะดำเนินมาถึงจุดที่ตนอยู่ฝ่ายเดียวกันกับมหาโจรราตรีสีชาด


ด้วยความสัตย์จริง ก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มคิดไม่ตกว่าตนจะมีโอกาสพบมหาโจรราตรีสีชาดตอนไหน และภารกิจนี้จะจบลงเมื่อไร


แต่แล้ว โอกาสทองกลับเดินมาหาถึงตรงหน้า


ดาบสั้นเฮ็กเซเทีย


ต้องขอบคุณความปรารถนาที่ผิดเพี้ยนของมหาโจรราตรีสีชาด ผู้หลงใหลในวัตถุเทพสร้าง กริดจึงบรรลุความต้องการที่มีมานาน


‘ไม่ว่าจะมองมุมไหน ดาบสั้นเล่มนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เราควรครอบครอง’


หากนับเฉพาะโลกมนุษย์ ดาบสองเล่มที่ทรงพลังที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้นดาบอัสนีแห่งการบรรลุสัจธรรมฯ และดาบมังกรเพลิง


แต่พวกมันอยู่ในระดับใดเมื่อนำไปเทียบกับดาบเฮ็กเซเทีย?


มอร์เฟียสที่ถวิลหาความสมดุล ไม่มีทางเฝ้ามองอย่างเงียบงันแน่


ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ‘เขี้ยวขาว’ ของครอเกล


ในฐานะอาวุธที่สร้างจากเล็บมังกรบันเฮเลียร์ เขี้ยวขาวเกิดมาพร้อมคำสาป ‘การจ้องมองจากบันเฮเลียร์’ แสนอันตราย ดาบเฮ็กเซเทียจึงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจของเทวทูตและเทพเช่นกัน


สุดยอดดาบที่สามารถดับลมหายใจอัครเทวทูตได้ในการโจมตีเดียว


ในเมื่อมนุษย์กำลังครอบครองอาวุธที่สามารถคุกคามพวกมัน ไม่มีทางที่เหล่าทวยเทพจะใจกว้างและทำเพียงมองดูเฉย ๆ


“คิดไม่ถึงว่าจะขอสร้อยเนอวาร์ธาน… เข้าใจแล้ว… เจ้าคงเป็นหัวแถวคนปัจจุบันสินะ”


มหาโจรราตรีสีชาดพึมพำขณะจ้องเข้าไปในดวงตากริด


ดวงตาของจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายร้อยปี กำลังอัดแน่นด้วยความลุ่มลึก


ถึงจะเป็นชายแก่เสียสติที่ป่วยเป็นโรคชอบขโมยของ แต่ในยามที่สามารถระงับกิเลส มันจะไม่ต่างอะไรกับจอมปราชญ์


“เจ้าอาจไม่ทราบ แต่ดาบสั้นเล่มนี้ถือเป็นวัตถุอันตรายอย่างยิ่ง… เฮ่อ จะเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังไม่สาย ข้ามิได้เลือกดาบสั้นเพราะปรารถนามัน แต่เป็นการยอมเสียสละตัวเอง เก็บระเบิดเวลาลูกนี้ไว้กับตัว รุ่นน้องที่กำลังสั่งสมบารมีเทพจะได้ไม่ต้องเสี่ยงอันตราย… แต่เจ้ากลับเลือกสร้อยเนอวาร์ธานเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน? สร้อยเส้นนี้ก็อันตรายไม่ต่างกันเลยสักนิด… ขอเตือนอีกครั้ง การแลกสร้อยกับดาบไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดนัก”


ดาบสั้นเฮ็กเซเทียคือวัตถุอันตราย


มหาโจรราตรีสีชาดเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน แต่คำพูดข้างต้นเป็นเพียงคารมคมคายเพื่อโน้มน้าวให้กริดเปลี่ยนใจ มันมิได้ห่วงใยความปลอดภัยของชายหนุ่ม เพียงแค่ไม่อยากสูญเสียสร้อยเนอวาร์ธาน


กริดนึกทบทวนพลัง ‘ช่วงชิงอาณาจักร’ ซึ่งภายในนั้นมีความปรารถนาของมหาโจรฯ อัดแน่นอยู่เต็มเปี่ยม จึงไม่ถูกหลอกด้วยคารม


“รุ่นพี่เป็นคนบอกเองว่า จะมอบของขวัญหนึ่งชิ้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับดาบสั้น ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของมหาโจรราตรีสีชาด คงไม่คิดจะกลืนน้ำลายตัวเองหรอกกระมัง?”


“…ชิ”


ใช้คารมขนาดนี้แล้วยังไม่หลงกลอีก…


เช่นนั้นก็ไม่ควรสิ้นเปลืองงานโดยเปล่าประโยชน์ มหาโจรราตรีสีชาดตัดสินใจล้วงเข้าไปในแจ็คเก็ตเก่าโทรม ควานหาพวงสร้อยคอและเลือกหยิบออกมาหนึ่งเส้น


เป็นสร้อยที่ประดับประดาไปด้วยอัญมณีเม็ดใหญ่ งดงามจนดูไม่ออกว่าสร้างมาจากเศษเล็บ


[ท่านต้านทาน]


“อะ…”


กริดจ้องสร้อยคอด้วยสีหน้าลุ่มหลงสักพัก ก่อนจะได้สติและตื่นจากภวังค์บางอย่าง


ชายหนุ่มพบว่า สร้อยที่เคยดูงดงามเมื่อครู่กำลังแผ่พลังปราณเข้มข้น


‘ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าในข่าวลือ…’


สร้อยคอเนอวาร์ธานมีอำนาจทำให้ผู้คนหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น


กระทั่งมหาโจรราตรีสีชาดก็ยังตกอยู่ในภวังค์ลุ่มหลงไม่ต่ำกว่าสองนาทีเมื่อแรกพบสร้อยในหอแห่งปัญญา


พลังเวทของมหาโจรฯ ปั่นป่วนจนถูกข่ายเวทมนตร์หอคอยตรวจพบ


เหตุการณ์ดังกล่าวคือวิกฤติร้ายแรงครั้งแรกในชีวิต ชนิดที่มันเกือบเอาตัวไม่รอด


แต่กลับกัน กริดสามารถคืนสติได้ในไม่กี่วินาที


มหาโจรราตรีสีชาดจำต้องยอมรับแม้จะไม่เต็มใจ


‘คงต้องมองเขาในมุมใหม่… ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็นเทพหรือไม่’


กริดมีชื่อเสียงโด่งดังมาสักพักแล้ว


เกือบทุกคนบนทวีปทราบว่าชายหนุ่มเคยต่อสู้กับอะไร และประสบความสำเร็จมากมายเพียงใดในอดีต


มหาโจรฯ เคยมองกริดเป็นคนเก่งคนหนึ่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้


ล่าจอมอสูรสำเร็จ เอาชนะสาวกเทพสงครามและอัครเทวทูต


ตามปรกติแล้ว ข่าวลือมักเป็นเรื่องที่เกินจริงเสมอ


แต่กริดที่มหาโจรฯ ได้ประจักษ์ ยอดเยี่ยมกว่าในข่าวลือไปมาก


นอกจากนั้น ชายหนุ่มยังต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์โดยแท้จริง มิใช่เพื่อชื่อเสียงหรือความโด่งดังส่วนตัว


นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไม ผู้คนมากมายจึงยอมมอบความศรัทธาจนถึงขั้นกลายเป็นเทพ


‘ยิ่งใหญ่เสียจน… คนอย่างเราไม่มีวันเข้าใจ’


ฉึบ


มหาโจรราตรีสีชาดหัวเราะพลางส่งสร้อยเนอวาร์ธานให้กริด


“รับไป”


กริดยื่นดาบสั้นเฮ็กเซเทียแลกเปลี่ยน


มหาโจรราตรีสีชาดทราบดีว่า มูลค่าของดาบสูงกว่าสร้อยหลายเท่า แต่ถึงอย่างนั้นก็อดเสียดายไม่ได้


“ข้ารับปากคนไม่ค่อยเก่ง… แต่สำหรับเจ้า ข้าสัญญาว่าจะทำตามสิ่งที่เคยลั่นวาจาออกไป หากวันใดถึงคราวที่เจ้าต้องใช้ดาบเล่มนี้ ข้าจะให้ยืมโดยไม่มีเงื่อนไข”


“รุ่นพี่ เก็บดาบนั้นไว้กับตัวจะไม่เป็นอะไรแน่หรือ”


กริดเพิ่งเคยพบมหาโจรราตรีสีชาดเป็นวันแรก ตามปรกติแล้วไม่ควรเกิดความรู้สึกอะไรมากมาย


แต่เมื่อการต่อสู้จบลง ชายหนุ่มกลับชื่นชอบมหาโจรฯ ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการช่วยชีวิตผู้คนหลายหมื่นด้วย ‘ช่วงชิงอาณาจักร’


หนึ่งในมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ยังมีลมหายใจ


จากมุมมองของกริดที่ปรารถนาจะรวมใจมนุษยชาติเข้ากัน ชายหนุ่มย่อมอยากให้มหาโจรฯ มีชีวิตยืนยาว


มหาโจรราตรีสีชาดหัวเราะ


“ข้าขโมยของมาทั้งชีวิต มั่นใจว่าไม่แพ้ใครในเรื่องการหลบหนี”


แม้แต่เทพก็มิอาจลงทัณฑ์ข้าได้…


หลังจากกล่าวในใจ มหาโจรฯ ยิ้มพร้อมกับหันหลังให้กริด


ขณะชายหนุ่มกำลังนึกสงสัยว่า ตนยังติดค้างสมบัติกับอีกฝ่ายอยู่สองชิ้นไม่ใช่หรือ? มหาโจรราตรีสีชาดโบกไม้โบกมือ


“ไม่ต้องแล้ว… เป็นเพราะดาบสั้นเล่มนี้ ข้าจึงมีโอกาสหมายตาสมบัติที่เจ้าไม่มีวันจินตนาการถึง… ดังนั้น ข้าไม่ต้องการอะไรจากเจ้าอีก”


“…”


เมื่อมหาโจรราตรีสีชาดจากไป กริดหันไปมองซาลิเอลด้านข้าง


เทวทูตสาวงามกำลังก้มศีรษะลงอย่างเงียบงัน


ก่อนหน้านี้ หญิงสาวถามทิ้งไว้ว่า ตนคู่ควรแก่การรับใช้เทพโอเวอร์เกียร์หรือไม่ และปัจจุบันกำลังรอคำตอบ


ปีกนางฟ้าของเธอกำลังหุบลงโดยไม่แผ่พลังใดออกมา


กระทั่งวงแหวนเทวทูตก็ยังไม่ตั้งตรงกึ่งกลางศีรษะ คล้ายกับพร้อมร่วงหล่นลงมาทุกเมื่อ


หญิงสาวกำลังโศกเศร้าเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบจากกริด


ชายหนุ่มสารภาพตามตรง


“…ฉันไม่มีพลังมากพอจะปกป้องเธอ”


ซาลิเอลตอบกลับ


“ไม่มีเทพตนใดปกป้องใครสักคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ… แต่ท่านเป็นคนเดียวที่กล้ายืดอกยอมรับ”


“…ถ้าอยู่กับฉัน เธอจะมีแต่ความลำบาก”


“ถึงจะลำบาก ก็คงไม่แย่เท่าการต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว”


“ฉันไม่มีพลังมากมายเหมือนเทพบนสวรรค์”


“ข้าก็เช่นกัน… แต่พวกเราสามารถแก้ไขจุดบกพร่องให้กันและกันได้”


ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว


แต่ไหนแต่ไร กริดยินดีต้อนรับพวกพ้องที่แข็งแกร่งเสมอ ซาลิเอลซึ่งเป็นเทวทูตที่แข็งแกร่งย่อมผ่านคุณสมบัติครบทุกข้อ


“ตกลง… ถ้าเธอไม่ถือสา ได้โปรดมาเป็นพลังให้ฉัน”


กริดยื่นมือไปหาซาลิเอล


น้ำตาเทวทูตสาวพลันพรั่งพรูอาบสองแก้ม


ในวินาทีที่ซาลิเอลเหยียดแขนออกมาจับมือกริดอย่างตื่นเต้น วงแหวนเหนือศีรษะหญิงสาวเริ่มส่องแสงสีทอง


[อัครเทวทูต ‘ซาลิเอล’ กลายเป็นผู้ส่งสารของเทพโอเวอร์เกียร์]


ข้อความโลกสั้นกระชับปรากฏ


นี่คือจุดสิ้นสุดของสงครามอันยาวนานที่กินเวลาหนึ่งวันเต็ม


กริดไม่มีเวลามัวดื่มด่ำความสำเร็จมากนัก ถัดไปต้องรีบวิเคราะห์พลังเทพโดยเร่งด่วนและใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


ขณะเดียวกันก็ต้องรีบสงบสติอารมณ์เหล่านักบวชอดีตสาวกรีเบคก้าที่กำลังถกเถียงแกมทะเลาะกันว่า ควรตั้งชื่อศาสนาว่า ‘โบสถ์กริด’ หรือ ‘โบสถ์โอเวอร์เกียร์’ ดี


นอกจากนั้น ผู้ส่งสารแห่งเทพสามารถมีได้เจ็ดคน ชายหนุ่มต้องคิดให้รอบคอบว่าควรแจกจ่ายตำแหน่งให้ใคร


เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อให้ศาสนาเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ อันดับแรกคือการแต่งตั้งสันตะปาปา


“ดาเมี่ยน นายต้องเป็นสันตะปาปาให้ฉัน”


“…”


ดาเมี่ยนถูกริบคลาส ‘อัครทูตแห่งเทพธิดา’ กลับไปแล้ว ถือเป็นอิสระจากพันธนาการทั้งปวงและสามารถมีชีวิตใหม่กับอิสซาเบลได้อย่างไร้ข้อผูกมัดใด ๆ


นั่นคือความคิดในตอนแรก


เมื่อฟังจบ ดาเมี่ยนที่กำลังตื่นเต้นพลันหุบยิ้ม


แต่ก็เพียงไม่นาน หลังจากยืนปรับสภาพจิตใจสักพัก ดาเมี่ยนสวมสีหน้าของอัครสาวกอย่างกระตือรือร้น


มันรู้สึกดีเสมอที่ตนสามารถเป็นพลังให้กริดได้


[ศาสนจักรเทพโอเวอร์เกียร์ถือกำเนิดขึ้นแล้ว]


[ณ ปัจจุบัน ศาสนจักรเทพโอเวอร์เกียร์มีสมาชิกทั้งสิ้น 42,255 คน]


[ทุกครั้งที่จำนวนสาวกเพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่ง หรือทุกครั้งที่คำสวดวิงวอนเพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่ง ท่านจะได้รับพลังใหม่]


หน้าต่างแจ้งเตือนแบบเดียวกันปรากฏขึ้นในการมองเห็นของทั้งกริดและดาเมี่ยน สำหรับตอนนี้ คนทั้งสองมีความสัมพันธ์กันแบบ ‘สันตะปาปา-เทพ’ อย่างเป็นทางการ


สาวกของศาสนามีทั้งสิ้น 42,255 คน หมายถึงจำนวนของ NPC ที่รอดชีวิตจากการต่อสู้ในศึกนี้


ขณะเดียวกัน ณ สำนักงานใหญ่ SA กรุป


“…ถึงขั้นสร้างศาสนาแล้ว”


เหล่าคณะกรรมการที่เฝ้าดูการล่าดราเชี่ยนตั้งแต่ต้นจนจบ กำลังเผยสีหน้าเหม่อลอยอย่างชัดเจน


จริงอยู่ หลายฝ่ายเคยคาดการณ์กันว่า หากผู้เล่นสั่งสมความสำเร็จและพลังอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดหนึ่ง สักวันจะกลายเป็นครึ่งเทพ และพัฒนาไปเป็นเทพได้ในที่สุด


แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่า ผู้เล่นหนึ่งคนจะถูก NPC มอบความศรัทธาอย่างล้นหลามจนถึงขั้นสามารถก่อตั้งศาสนา


ท่ามกลางกลุ่มผู้บริหาร ประธานลิมชอลโฮอมยิ้ม


‘ดูเหมือนว่า ทั้งหมดจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ที่เขากลายเป็นดวงประทีปแห่งมวลมนุษย์…’


ดวงประทีปแห่งมวลมนุษย์


หลังจากช่วยชีวิตผู้คนมากมาย กริดได้รับสมญานามดังกล่าว


มันคือหนึ่งในสมญานามลับที่ทางทีมงานคาดกันว่า ไม่น่าจะมีผู้เล่นคนใดคว้ามาครอบครองได้ เนื่องจากต้องเสียสละตัวเองมากเกินไป


บางที สมญานามคงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า กริดควรค่าแก่การได้รับคำยกย่องชื่นชมจาก NPC มากมาย


“อา…”


ประธานลิมชอลโฮเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ของทุกศาสนา


การถือกำเนิดของศาสนาใหม่ ส่งผลให้พลังของโบสถ์รีเบคก้าอ่อนแอลงหลายระดับ และนั่นจะทำให้วิหารยาธานผงาดกลับขึ้นมา


ทุกสิ่งกลับสู่ความสมดุลอย่างที่ควรจะเป็น


ช่างน่าขัน ปัญหาที่มอร์เฟียสวิตกและพยายามแก้ไขมานาน กลับถูกคลี่คลายอย่างง่ายดายด้วยการก่อตั้งศาสนาเทพโอเวอร์เกียร์


“ในอนาคต เรื่องราวยิ่งจะทวีความเข้มข้น”


______________
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,838
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สนุกมากๆครับ ขอบคุณสำหรับงานแปลดีๆอีกเช่นเคย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00