จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,357



> ในตอนแรก รีเบคก้าสร้างเทวทูตขึ้นมาเจ็ดตนเพื่อเป็นแขนขา


จอมอสูรแห่งความขัดแย้ง อาโมแรค


หลังจากถ่ายทอดวิวรณ์ไปยังโรสและสาวกยาธานทั้งหมด โดยระบุให้ทุกคนเดินทางไปช่วยมนุษย์ปราบดราเชี่ยน และสัญญาว่าจะเปลี่ยนเผ่าของโรสให้เป็นอสูรหากภารกิจลุล่วงไปด้วยดี อาโมแรคพบว่ามนุษย์นามว่าโรสค่อนข้างน่าสนใจ จึงแบ่งจิตส่วนหนึ่งร่วมทางไปด้วย


จากนั้นก็เริ่มเล่าเรื่อง


> ยูดาห์ โดมิเนี่ยน เซราทุล เอลูอาส เฮ็กเซเทีย จิลเลี่ยน… เหล่าทวยเทพในปัจจุบันเกิดขึ้นได้เพราะมีรีเบคก้าคอยอุ้มชู


“เหตุใดรีเบคก้าถึงต้องสร้างเทพขึ้นมาเพิ่ม? ในเมื่อเหล่าเทวทูตก็ทรงพลังมากพออยู่แล้ว”


> เพื่อรักษาระดับบารมีเทพ… หล่อนมองว่าตัวเองจำเป็นต้องนำเสนอเทพที่แตกต่างกันให้มนุษย์เลือกนับถือ ลำพังเทวทูตยังไม่ศักดิ์สิทธิ์พอจะให้มนุษย์เลื่อมใสศรัทธา… ทั้งหมดก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวรีเบคก้าเอง


รีเบคก้าเป็นตัวแทนของความรักและอนาคต ยูดาห์เป็นตัวแทนของปัญญาและสุขภาพ เซราทุลเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง โดมิเนี่ยนเป็นตัวแทนของชัยชนะ เฮ็กเซเทียเป็นตัวแทนของความก้าวหน้า และจิลเลี่ยนคือตัวแทนของความสงบสุข


เทพหลายตนคอยรับฟังความปรารถนาของมนุษย์ ขณะเดียวกันก็ได้รับค่าบารมีเทพเป็นสิ่งตอบแทน


อย่างไรก็ตาม นั่นยังเพียงไม่พอจะสนองความต้องการของมนุษย์


หลักฐานพิสูจน์ก็คือ ยังมีเทพนอกรีตอีกหลายตนถือกำเนิดจากความศรัทธาอย่างแรงกล้าของมนุษย์ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก


เทพนอกรีตอันมากมายบนโลก คือกระจกสะท้อนความต้องการอันหลากหลายของมนุษย์


หากรีเบคก้าดื้อรั้นที่จะยึดมั่นสถานะเทพไว้แต่เพียงผู้เดียว พลังของเธอคงอ่อนแอกว่าในปัจจุบันหลายส่วน


คำสวดวิงวอนถึงสวรรค์จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังของรีเบคก้าโดยตรง แต่ในทางกลับกัน คำวิงวอนต่อเทพนอกรีตนั้นไม่


‘อย่างนี้นี่เอง…’


หลังจากฟังเรื่องราวจบ ภายในใจโรสเกิดคำถามมากมาย เธอลืมไปแล้วว่าหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับเทวทูตเริ่มขึ้นได้อย่างไร และพวกตนเดินทางมานานแค่ไหน


จนกระทั่งกองทัพยาธานเคลื่อนพลมาถึงสนามรบ เศษเสี้ยวดวงจิตของอาโมแรคที่เฉื่อยชามาตลอดทาง พลันตื่นตัวและอ้าปากพูด


> ดราเชี่ยนคือหนึ่งในเทวทูตแรกเริ่มของรีเบคก้า


‘หือ..?’


จอมอสูรลำดับสิบเอ็ด แท้จริงแล้วเป็นเทวทูต?


> เทวทูตผู้เคยมีลำดับสูงที่สุด… แต่อยู่มาวันหนึ่ง เธอเปิดโปงเรื่องที่เหล่าเทพก่อบาปร้ายแรงขึ้นมาเจ็ดประการ และตำหนิเทพทั้งเจ็ดที่ลุ่มหลงในอารมณ์ มัวเมาไปกับคำสวดวิงวอนของมนุษย์


“เธอกลายเป็นจอมอสูรเพราะเปิดโปงเทพด้วยกัน?”


> การเปิดโปงของเธอทำให้รีเบคก้านึกถึงแผนก่อกบฏของเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ รีเบคก้าเป็นกังวลว่า หากเครื่องมือที่ทรงพลังของตนย้ายข้างไปอยู่ฝั่งเดียวกับเจ็ดนักบุญภัยพิบัติ ตำแหน่งบนสวรรค์ของตนจะเริ่มสั่นคลอน อาจร้ายแรงถึงขั้นถูกเหล่าเทพรุมยึดอำนาจ…


“…!”


> นามเดิมของดราเชี่ยนคือซาลิเอล เทวทูตผู้คอยปกป้องดวงวิญญาณของมนุษย์มิให้หลงผิดเดินไปบนเส้นทางแห่งบาป


วาบ!


“…?!”


ซาลิเอล


เทวทูตผู้มีลำดับสูงสุด คอยตรวจสอบและนำทางมนุษย์มิให้ก่อบาป


บาปเดียวของซาลิเอลคือเรื่องที่เธอเบนเป้าการ ‘ตรวจสอบ’ จากมนุษย์มาเป็นเทพด้วยกันเอง


นับแต่นั้น ซาลิเอลถูกขับออกจากสวรรค์ ดำดิ่งลงไปยังขุมนรก


ถึงตอนนี้จะเป็นอสูร แต่อาโมแรคก็ยังจับตามองตลอดเวลา เพราะกังวลว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนกลับไปเป็นเทวทูตอีกครั้ง


หลังจากฟังเรื่องราวได้สักพัก โรสพลันต้องปิดตาสนิท


แสงสว่างอันเจิดจ้ากลางท้องฟ้าทำให้ดวงตาทุกคู่มิอาจขัดขืน


> ยิ่งแสงสว่างเพียงใด เงาที่เกิดขึ้นก็ยิ่งมืดมิดมากเท่านั้น… พวกเทพที่น่าขยะแขยงคงพยายามทำเรื่องสกปรกอยู่… เฮ่อ…


สิ้นเสียงถอนหายใจของอาโมแรค


“กรี๊ดดดดด!”


“อ๊ากกกก!”


สาวกยาธานพลันแหกปากกรีดร้องพร้อมกับโรส


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง!]


ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ราวกับเลือดเนื้อและกระดูกถูกแผดเผา แล่นผ่านไปทั่วร่างกายโรสอย่างฉับพลัน


[พันธสัญญาระหว่างท่านกับอาโมแรค ช่วยยื้อความตายของท่านออกไป]


“อึก…”


แปลงเป็นอันเดด


ทักษะที่ช่วยให้โรสยังรอดมาได้แม้จะถูกโจมตีหนักหน่วง


หลังจากยังมีชีวิตอยู่ด้วยผลจากพันธสัญญากับอาโมแรค โรสมองไปรอบสนามรบด้วยดวงตาสั่นเทา


นกประหลาดจำนวนมากที่กำลังรายล้อมดราเชี่ยน ต่างพากันส่งเสียงครวญครางอย่างทุกข์ทรมาน ก่อนจะสลายไปจนเหลือเพียงความว่างเปล่า


ท่ามกลางสนามรบเงียบสงัด โรสคือคนเดียวที่ยังรอดมาได้


ไม่สิ เธอคิดว่าคงเป็นแบบนั้น


เมื่อสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่ง หญิงสาวสะดุ้งพร้อมกับรีบแหงนหน้าขึ้นไปข้างบน จนได้พบกับเทวทูตสองตน รอบตัวพวกมันรายล้อมไปด้วยแสงสว่างที่ยากจะเพ่งด้วยตาเปล่า


โรสทราบทันทีว่า ความพินาศย่อยยับทั้งหมดเกิดจากฝีมือของเทวทูตสองตนนี้ พวกมันคือคนที่ปลดปล่อยพลังทำลายล้างเมื่อครู่


“อัครเทวทูต…”


รากูเอลและอูมิเอล


ร่างกายโรสพลันสั่นเท่าเมื่อเห็นชื่อเต็มของสองเทวทูตที่เขียนด้วยตัวอักษรระยิบระยับ


อาโมแรคถอนหายใจอีกครั้ง


> ให้ตายสิ… มีชั่วครู่หนึ่งที่พวกมันยอมรับว่าซาลิเอลเป็นเทวทูต จึงสำแดง ‘ตรีเอกานุภาพ’ ออกมาได้


บนโลกแห่งสวรรค์ หรือที่เรียกว่าแอสการ์ด ไม่ว่าจะเทพหรือเทวทูต หากต้องการปลดปล่อยสุดยอดพลัง จำเป็นต้องจับกลุ่มรวมกันสามตน


เฉกเช่นที่จอมอสูรขึ้นมาบนโลกมนุษย์ได้ไม่ง่ายนัก เหล่าเทวทูตและเทพก็เสด็จลงมายังเบื้องล่างไม่ง่ายเช่นกัน


หากมีเทวทูตหรือเทพสามตนเสด็จลงมายังพื้นโลกและสำแดงตรีเอกานุภาพ เกรงว่าโลกมนุษย์คงมิอาจทนทานต่อพลังศักดิ์สิทธิ์มหาศาล จนเกิดเป็นความปั่นป่วนวุ่นวายใหญ่หลวง


และนี่คือเหตุผลที่อาโมแรคสั่งให้สาวกยาธานรีบจัดการกับดราเชี่ยน


> แบบนี้แย่แน่… หากหวังให้ความจริงเกี่ยวกับดราเชี่ยนถูกเปิดโปงจนสวรรค์อันโสมมเกิดการสั่นคลอน ดราเชี่ยนต้องถูกจัดการโดยมนุษย์เท่านั้น ทั่วโลกจะได้เห็นดวงวิญญาณสีขาวบริสุทธิ์ด้วยตาตัวเอง


แต่น่าเสียดาย ปัจจุบันเหลือผู้เห็นเหตุการณ์เพียงสองคน


อาโมแรคและโรส


สองสมาชิกของวิหารยาธานที่ทราบความจริงอยู่ก่อนแล้ว


ขณะอาโมแรคส่ายหน้าอย่างผิดหวัง


ท่ามกลางสนามรบที่ทุกสิ่งถูกทำลายกลายเป็นซากเถ้าถ่าน ใบหน้ามนุษย์คนหนึ่งโผล่ขึ้นจากอากาศว่างเปล่า


ชายชราหลังค่อม


ดวงตาของเทวทูตและโรสเบิกโพลงอย่างพร้อมเพรียง


เหตุเพราะว่า เมื่อชายชราคลี่ผืนผ้าในมือออก ผู้คนกว่าหมื่นชีวิตพลันปรากฏตัวจนเต็มพื้นที่โดยรอบ


ทุกคนกำลังประจักษ์ผิวพรรณอันสว่างสุกใสและเส้นผมสีทองระยิบระยับของดราเชี่ยนผ่านรอยปริแตกบนผิวหนัง


นอกจากนั้น แผ่นหลังของเธอยังสยายปีกสีขาวอันงดงาม


“ข้า…”


ดราเชี่ยนพยายามกล่าวบางสิ่ง แต่เกิดติดขัดเนื่องจากปากและจมูกมีเลือดสีแดงไหลทะลัก


“ที่จริงแล้ว… ข้าคือ…”


“หุบปาก!”


สีหน้าเทวทูตบนท้องฟ้าพลันบิดเบี้ยวประหนึ่งกระดาษยับ


พวกมันดูเหมือนจอมอสูรยิ่งกว่าจอมอสูร


กริดรีบพุ่งเข้าไปขวางเส้นทางที่สองเทวทูตกำลังโฉบลงพลางชี้ปลายหอกไปหาดราเชี่ยน


“ดึกศักยภาพซ่อนเร้น · มังกร”


[วิชาดาบแพ็กม่า ‘มังกร’ ถูกพัฒนาเป็นวิชาดาบกริดชั่วคราว]


“กล้าขวางทางเทวทูตเชียวรึ!”


สองเทวทูตที่กำลังเดือดดาล ลงมือเหวี่ยงหอกพร้อมกัน


พวกมันคือตัวตนระดับเทวทูตที่สามารถคร่าชีวิตมนุษย์นับหมื่นในพริบตาด้วยตรีเอกานุภาพ ดังนั้น กับศัตรูที่เป็นแค่มนุษย์หนึ่งคน ลำพังพลังของตนคงจัดการได้ไม่ยากเย็น


ทว่า กริดคือผู้ที่ถูกยอมรับโดย ‘เอกเทพ’ ซือโหยว มหาเทพซึ่งมีระดับตัวตนสูงกว่า ‘เทพผู้เลื่อนลำดับจากเทวทูต’ ดังนั้น ถึงจะเป็นแค่มนุษย์ แต่ระดับตัวตนของชายหนุ่มก็มิได้ด้อยไปกว่าอัครเทวทูต


“วังวนมังกรทำลายล้าง”


กริดทะยานขึ้นฟ้าประหนึ่งมังกรผงาด


ดาบในมือปัดป้องหอกสองเทวทูตอย่างง่ายดาย


วินาทีถัดมา ปลายดาบแทงทะลวงหน้าอกหนึ่งในเทวทูตจนเกิดรูโหว่


เมื่อส่งตัวเองขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเหนือศีรษะเทวทูตที่กำลังสับสน กริดหมุนตัวฟันดาบใส่หัวไหล่ของพวกมันทั้งสอง


ตามต่อด้วยการพุ่งโฉบจากมุมสูง


“มังกรทำลายล้างคลื่นสยบสังหาร”


“…!”


“…!”


ดวงตาสองเทวทูตพลันส่องแสงสีขาวโพลนขณะถูกเขี้ยวมังกรขย้ำและฉีกกระชาก ร่างกายพวกมันตกกระแทกพื้นจนฝุ่นตลบ


“แฮ่ก… แฮ่ก…”


เทวทูตยังไม่ตาย แต่ก็ขยับตัวไม่ได้ไปสักพัก


กริดไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ รีบหันไปทางดราเชี่ยนด้วยดวงตาเจือความเห็นใจ เฉกเช่นเมื่อครั้งได้พบอสูรตนหนึ่งในเวิ้งคุกนรกอันอ้างว้าง


ชายหนุ่มถามไม่อ้อมค้อม


“แก… เป็นใครกันแน่”


“ข้า…”


ดวงตาดราเชี่ยนมิใช่สีแดงก่ำแบบเดียวกับจอมอสูรเหมือนทุกที


ดวงตาอันกลมกลึงของซาลิเอล กำลังส่องแสงสีทองเฉกเช่นเทวทูตตนอื่น


ภายในดวงตาที่อบอุ่น หยาดน้ำตาเริ่มไหลริน


“ซาลิเอล… อัครเทวทูต ซาลิเอล”


กล่าวจบ น้ำตาหญิงสาวพรั่งพรูอาบสองแก้ม


แม้จะสูญเสียความทรงจำและถูกเนรเทศลงไปยังนรก แต่ซาลิเอลยังไม่ลืมบาปทั้งหมดที่เธอเคยก่อในฐานะดราเชี่ยน


“ข้าเปิดโปงบาปของเทพไม่สำเร็จ… มิอาจช่วยเหลือเจ็ดนักบุญปฏิรูปสวรรค์… แถมยังทำร้ายมนุษย์ไปมากมาย… ได้โปรด… ได้โปรดลงโทษข้าในฐานะมนุษย์เปื้อนบาปคนหนึ่ง”


ภาพเคลื่อนไหวพลันถูกฉายในการมองเห็นของทุกคนบนสนามรบ


แน่นอน กริดก็ด้วย


เหตุการณ์เริ่มจากสมัยที่ซาลิเอลยังเป็นเทวทูตที่คอยชี้นำมนุษย์ให้รอดพ้นจากเส้นทางแห่งบาป สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข


จนกระทั่งถึงฉากที่ซาลิเอลร่ำไห้ขณะถูกเซราทุลขับไล่ลงนรกโดยมีเทพตนอื่นทำเพียงยืนมองจากด้านข้าง


ภาพทั้งหมดสลักลงในความทรงจำส่วนลึกของมนุษย์ทุกคน


ขณะเดียวกัน รากูเอลและอูมิเอลเริ่มพยุงตัวยืน สายตาพวกมันกวาดมองมนุษย์ทุกคนโดยรอบอย่างเย็นชา แม้แต่กริดที่หันไปสบตาก็ยังพลอยสะดุ้ง


“พวกเจ้าทั้งหมดคือคนบาป”


“พวกเราจะทำลายดวงวิญญาณทิ้งให้ราบคาบ”


สิ้นคำประกาศ หอกในมือรากูเอลและอูมิเอลพลันเปล่งแสงสีขาว


ทุกคนหันไปมองมหาโจรราตรีสีชาดโดยพร้อมเพรียง


แต่ชายชราทำเพียงถอนหายใจ ส่ายหน้าและนั่งลง


“พวกเจ้าคิดจะใช้แรงงานคนแก่ไปถึงไหน? ข้าไม่มีทางทำมันได้สองครั้งติด ๆ หรอกนะ”


“ทุกคนถอยไป”


บราฮัมก้าวไปข้างหน้า


ในโลกจินตภาพของมหาโจรราตรีสีชาด บราฮัมได้ละลายน้ำแข็งและฟื้นฟูพลังเวทกลับคืนมาบางส่วน มันพร้อมจะรับมือสองเทวทูตตามลำพัง


ทันใดนั้น


[เทพตีเหล็ก ‘เฮ็กเซเทีย’ ตัดสินใจช่วยเหลือท่าน]


หน้าต่างแจ้งเตือนที่ไม่คาดคิดปรากฏขึ้นต่อหน้ากริด


วินาทีถัดมา เสียงบางสิ่งกำลังแหวกอากาศดังมาจากด้านบน


ดาบเล่มหนึ่งปักลงบนดินปลายเท้ากริด


ชายหนุ่มจดจำมันได้ตั้งแต่แรกเห็น


ดาบเล่มนี้ กริดไม่มีวันลืม


<ดาบสั้นเฮ็กเซเทีย>

เกรด : มิธ

ความคงทน : อนันต์

พลังโจมตี 28,990

* ความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น 80%

* ความเสียหายทางกายภาพและเวทมนตร์เพิ่มขึ้น 200%

* พลังโจมตีธาตุทุกชนิดเพิ่มขึ้น 200%

ดาบสั้นที่สร้างโดยเทพเฮ็กเซเทีย ช่างตีเหล็กผู้ถวิลหาการพัฒนาอย่างไร้ขอบเขต

เงื่อนไขการสวมใส่ : เหนือมนุษย์

น้ำหนัก : 1,100


[เหล่าทวยเทพต่างไม่พอใจการกระทำของเฮ็กเซเทีย!]


[เทพสงคราม ‘เซราทุล’ ทำการกักขังเฮ็กเซเทียไว้ในคุกนิรันดร์!]


‘บัดซบ!’


กริดไม่ได้โง่ขนาดที่ไม่รู้ว่าเฮ็กเซเทียเสียสละตัวเองมากแค่ไหน


ขณะเดียวกัน สองเทวทูตต่างปรี่เข้าหาชายหนุ่มพลางสบถคำสาปแช่ง


“มนุษย์สกปรก! อย่าริอ่านสัมผัสดาบเล่มนั้นเด็ดขาด!”


ปลายหอกเทวทูตที่ผ่านการรวบรวมพลังงานสีขาวโพลนเข้มข้น ต่างรุมแทงใส่กริดอย่างไร้ความปรานี


[ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง!]


“คึ่ก!”


ทัศนวิสัยกริดพลันพร่ามัว


พละกำลังมหาศาลของเทวทูตที่ถูกยกระดับจาก ‘ตรีเอกานุภาพ’ มิใช่สิ่งที่ชายหนุ่มจะต้านทานไหว


ขณะกริดเฉียดใกล้ความตาย


[ท่านสวมใส่ <ดาบสั้นเฮ็กเซเทีย>]


“...สังหาร”


ดาบที่กริดทุ่มเททุกสิ่งเพื่อคว้ามา ถูกตวัดเสียบหัวใจรากูเอลจนมิดด้าม


“อั่ก…!”


ตัวมันกำลังส่งเสียงครวญครางอันน่าสมเพชขณะเผชิญความตาย?


รากูเอลเคลือบแคลงในสิ่งที่เกิดขึ้น


มันไม่อยากเชื่อว่าตนจะถูกมนุษย์สังหาร


ใบหน้าอูมิเอลด้านข้างพลันขาวซีด ก่อนจะรีบสยายปีกและบินหนีขึ้นฟ้า


‘…บ้าบอสิ้นดี’


สังหารเทวทูต


กริดไม่อยากเชื่อว่า ปาร์ตี้ล่าจอมอสูรของตนจะลงเอยด้วยความสำเร็จสุดพิสดารอย่างการพรากชีวิตเทวทูต


ขณะสมองกำลังสับสน ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลง


มุมสายตาเต็มไปด้วยข้อความระบบแจ้งเตือนของรางวัลจำนวนมาก


กริดภาวนาให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน


ทว่า การมีอยู่ของดาบสั้นเฮ็กเซเทียได้ทำลายความหวังดังกล่าว


ทั้งหมดคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง


______________

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 2 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,834

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/




Comments

  1. สนุกสัสสสตอนนี่

    ReplyDelete
  2. มังกรยังจะมาอยู่มั้ยเนี่ย

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00