จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,182



ซ่าาาา!


สายฝน


สายฝนอัคคีกำลังปกคลุมท้องฟ้าดินแดนตอนใต้ของทวีปตะวันออก


“อ…อะ! อะ!”


ชาวอาณาจักรโชรีบชะโงกหน้าออกจากบ้านและแหงนมองท้องฟ้า กระจกตาพวกมันกำลังสะท้อนภาพของสายฟ้าอัคคีสีทองอร่ามโปรยปราย


เมื่อเหล่าสัตว์ป่าสัมผัสถึงไอความร้อน ทุกตัวล้วนเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างพร้อมเพรียง


โฮกกกกกกก—!


เสียงคำรามของสัตว์


“ท่านเทพ… ท่านเทพของพวกเรา!”


รวมถึงเสียงของมนุษย์


นี่มิใช่เสียงแห่งความหวาดกลัว แต่เป็นเสียงโหร้องยินดีเมื่อได้เห็นสายฝนศักดิ์สิทธิ์จากสรวงสวรรค์ ทุกชีวิตเบื้องล่างล้วนอ้าแขนรับสายฝนสีทองด้วยสีหน้าสุดอิ่มเอมใจ


สิ่งเหล่านี้คือพฤติกรรมตามสัญชาตญาณเมื่อได้เห็นพรจากอดีตเทพซึ่งถูกมนุษย์ลืมเลือนเป็นเวลานาน


[พลัง <ฟินิกซ์แดงพิทักษ์> จะส่งผลต่อทุกชีวิตบนดินแดนภาคใต้!]


[เลเวลและค่าสถานะของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดินแดนภาคใต้จะเพิ่มขึ้น อัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติจะเพิ่มขึ้น]


[สัตว์ป่าและสัตว์วิเศษบางตนได้รับพลังกลับคืนมาบางส่วน]


[ร่องรอยของ ‘เทวตำนานปลอม’ ถูกลบเลือนอย่างสมบูรณ์]


[ทุกสิ่งมีชีวิตซึ่งตั้งรกรากบนทวีปใต้จะกลายเป็นศัตรูกับอาณาจักรฮวานทันที]


[ฮวานจักรฮวานปิดกั้นมิให้เรื่องราวในวันนี้ล่วงรู้ไปถึงหูอาณาจักรชิง ปา และคายา]


“…ท่านกริด!”


“…!”


ณ กรุงคาราสึ เมืองหลวงแห่งโช


กริด ผู้กำลังดื่มด่ำกับอารมณ์อันหลากหลายหลังจากได้เห็นการัมเสียชีวิตไปต่อหน้า พลันคืนสติเมื่อถูกใครบางคนเรียกหา


นอกจากข้อความระบบอันน่ายินดีตรงมุมหน้าจอ กริดยังมองเห็นกษัตริย์โชและบริวาร


“เป็นเพราะท่านกริด อาณาจักรโชของพวกเราจึงปลอดภัย และเทพฟินิกซ์แดงได้คืนชีพ ฉะนั้น เราขอเป็นตัวแทนพลเมืองเพื่อแสดงความขอบคุณจากใจจริง”


กษัตริย์โชยังคงสุภาพนอบน้อมเช่นเคย


จริงอยู่ บุญคุณของกริดอาจมากมาย แต่อีกฝ่ายก็เป็นถึงกษัตริย์ เป็นตัวตนในระดับเดียวกัน ไม่มีเหตุผลให้ต้องนอบน้อมจนเกินพอดีเช่นนี้


ถึงขั้นคุกเข่าลงหนึ่งข้าง


กริดเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปพยุงให้ยืน


“ส่วนหนึ่งฉันทำไปเพื่อตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้น ท่านราชาเองก็ร่วมต่อสู้เหมือนกันไม่ใช่หรือ”


กริดพยายามให้เกียรติกษัตริย์โช


พฤติกรรมเช่นนี้เข้าใจได้ไม่ยาก ต่อหน้าข้าราชบริพารจำนวนมาก การปล่อยให้กษัตริย์โชเสื่อมเกียรติเป็นเวลานานย่อมไม่ใช่สิ่งดี


เสียงกระซิบกระซาบของผู้คนเริ่มดังแว่ว


“ท่านกริดช่างใจกว้างอะไรเช่นนี้!”


“ถูกต้อง แตกต่างจากยังบันโดยสิ้นเชิง!”


การเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นทีละนิด


[กษัตริย์โชและข้าราชบริพารเกิดความศรัทธาในตัวท่าน ค่าบารมีเทพเพิ่มขึ้น 1 แต้ม]


ไม่เพียงเท่านั้น


[กษัตริย์โชและข้าราชบริพารเกิดความศรัทธาในตัวบราฮัม ค่าบารมีเทพของบราฮัมเพิ่มขึ้น 1 แต้ม]


กริดพัฒนาไปพร้อมกับบราฮัม


เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจอะไรนัก กล้าพูดได้เต็มปากว่าถ้าศึกนี้ไม่มีบราฮัมเข้าร่วม กริดก็คงไม่มีทางเอาชนะสี่ยังบันตามลำพังไหว และเทพฟินิกซ์แดงก็จะไม่มีโอกาสได้คืนชีพ


ขณะเดียวกัน เมื่อชาวคาราสึทุกคนได้ประจักษ์ฉากดวลอันดุเดือดระหว่างบราฮัมและยังบันสั่งสมบารมี การัม พวกเขาล้วนเกิดความเลื่อมใสและเทิดทูนบราฮัมเปรียบดังเทพสงคราม


“โฮ่…?”


บราฮัมทำสีหน้าประหลาดใจเมื่อสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย มันเริ่มมองเห็นหนทางกลับไปมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ได้อีกครั้ง


กริดเปล่งเสียงเย็นชา


“จากนี้ไปก็ช่วยทำดีกับมนุษย์สักหน่อยก็แล้วกัน เพื่อประโยชน์ของตัวนายเองด้วย”


“ชิ!”


บราฮัมจิ๊ปากไม่สบอารมณ์ แต่ความจริงแล้วตรงกันข้าม มันออกจะยินดีด้วยซ้ำ


มันรู้สึกขอบคุณกริดยิ่งกว่าเดิม กับการช่วยให้คนใกล้ตายอย่างตนกลับมามีชีวิตใหม่และได้พบเห็นโลกอันกว้างใหญ่


ขณะเดียวกันก็เริ่มตระหนักว่า การมีพลังอำนาจอยู่ในมือนั้นจำเป็นต่ออนาคตมากเพียงใด


ซ่าาา!


ประกายเพลิงศักดิ์สิทธิ์พลันสว่างวาบ


หลังจากลืมตาตื่น เทพฟินิกซ์แดงได้ก็ปรากฏตัวสู่สายตาสาธารณชนทันที


เทพผู้พิทักษ์ เทพผู้มีตัวตนได้เพราะความปรารถนาอันแรงกล้าของมนุษย์


ตัวตนของ ‘เทพแท้จริง’ ย่อมแฝงอำนาจเหนือธรรมชาติไว้อย่างเข้มข้น


เมื่อชาวอาณาจักรโชนับแสนนับล้านเริ่มสัมผัสถึงความอบอุ่นและความรักอันไร้ขอบเขตจากเพลิงแห่งเทพ ทุกคนพลันหลั่งน้ำตาพลางโห่ร้องยินดีอย่างมีความสุข


“ได้โปรดอภัยให้เหล่าชาวเมืองด้วยขอรับ พวกเขามิได้มีเจตนาทอดทิ้งท่าน สำหรับความผิดทั้งหมด กระหม่อมยินดีรับไว้แต่เพียงผู้เดียว”


กษัตริย์โชก้มกราบ มันไม่กล้าเงยหน้า


ขณะเดียวกัน สิบวีรชนต่างถูกแรงกดดันมหาศาลครอบงำจนต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แม้แต่บราฮัมยังต้องกัดฟันกรอดอย่างไม่ยอมรับ


ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน


『มนุษย์ผู้สูงส่งเอ๋ย』


ฟินิกซ์แดงเปล่งเสียงกังวาน


เป้าหมายของสายตาไม่ใช่ใครนอกจากกริด


『ความกล้าและความเสียสละของเจ้าในการเผชิญหน้ากับเทพเทียม ส่งผลให้อาณาจักรแห่งนี้กลับคืนสู่ความสงบสุขดังเดิม หากไม่มีเจ้าอยู่ทั้งคน คงไม่มีใครในโลกสามารถสลายการล้างสมองของฮานึลได้อีก』


ทุกสายตาจับจ้องมายังกริดทันที


เหล่าผู้เล่น โดยเฉพาะเฮล่า กำลังจ้องมองแผ่นหลังกริดด้วยดวงตาเปล่งปลั่ง


『ขอบคุณเจ้ามาก หลังจากนี้ไป ข้าจะขอยืนหยัดต่อสู้กับโชคชะตาอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าผู้พิทักษ์คนอื่นจะไม่คืนชีพกลับมาก็ตาม 』


『ข้าเป็นเทพผู้พิทักษ์ประจำทิศใต้ มิอาจเดินทางออกจากดินแดนไปช่วยเจ้าทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ได้ ข้อขออวยพรให้เจ้าโชคดี จะคอยเฝ้ามองจากตรงนี้และเอาใจช่วยอีกแรง』


『มนุษย์ผู้สูงส่ง ข้านับถือเจ้า』


ซู่วววว!


เมื่อสิ้นเสียง เพลิงแห่งเทพพลันกระจัดกระจายจนเต็มท้องฟ้า เพลิงศักดิ์สิทธิ์จะคอยชำระล้างสิ่งอัปมงคล และอวยพรให้แก่ทุกชีวิตภายในดินแดนภาคใต้ไปอีกแสนนาน


[★ภารกิจลับ★ <ผู้พิทักษ์ฟินิกซ์แดง> เสร็จสิ้น!]


[รางวัลสำเร็จภารกิจ ลมหายใจฟินิกซ์แดงจะผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย]


[ท่านได้รับ <หัวใจฟินิกซ์แดงลำดับ 999>]


[<หัวใจฟินิกซ์แดงลำดับ 999> ถูกดูดกลืนโดย <หัวใจฟินิกซ์แดงลำดับ 9> ในร่างกายท่าน]


[<หัวใจฟินิกซ์แดงลำดับ 9> ถูกยกระดับขึ้นจากเดิมหนึ่งขั้น ผลการรักษาทุกชนิดเพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 30%]


[<เขตแดนพายุเพลิงเทพ> ได้รับเอฟเฟคเพิ่มเติมจากของเก่า]


[ค่าความสัมพันธ์กับเสือครามเพิ่มขึ้น 50 หน่วย]


[ค่าความสัมพันธ์กับเทพฟินิกซ์แดงกลายเป็นค่าสูงสุด]


[ฟินิกซ์แดงจะชื่นชอบในตัวท่าน รวมถึงคอยปกป้องดินแดนของท่านด้วย]


<ลมหายใจฟินิกซ์แดง> Lv.1

* เมื่อเปิดใช้งาน ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น 2 เท่าและสามารถใช้งานทักษะ <เพลิงแห่งชีวิต>

* ทักษะนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับ <อัคคีจุติ> แต่จะสามารถใช้ได้พร้อมกับ <อัสนีจุติ> <ธรณีจุติ> และ <มรณาจุติ>

ระยะแสดงผล : 10 นาที

ระยะหน่วงหลังใช้ : 3 ชั่วโมง

ทรัพยากร : ไม่มี


<เพลิงแห่งชีวิต>

เผาผลาญค่าเรี่ยวแรงของเป้าหมายไปพร้อมกับฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรงของตน

ระยะหน่วงหลังใช้ : 3 ชั่วโมง

ทรัพยากร : ไม่มี


“…!”


กริดเคยเห็นทักษะ <อัคคีจุติ> จากคำอธิบายในรายละเอียดของคันศรฟินิกซ์แดง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในมือจิสึกะ ทักษะดังกล่าวจะช่วยเร่งอัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติ 90% และทำให้ค่าเรี่ยวแรงไม่มีวันลดต่ำกว่า 5 หน่วย


เมื่อนำไปผนวกกับทักษะ <อสนีจุติ> จากรองเท้ามังกรคราม ประสิทธิภาพการใช้งานทรัพยากร ค่าเรี่ยวแรง และอัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติจะช่วยส่งเสริมกันจนเห็นผลเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด


<อัสนีจุติ> Lv.1


ทักษะติดตัว



ค่าเรี่ยวแรงไม่ลดลงขณะทำการบิน ลดการใช้มานาของเวทมนตร์บิน 20% ท่ามกลางบรรยากาศเมฆหนาหรือฝนตก ลดการใช้ทรัพยากรเพิ่ม 10% ท่ามกลางพายุสายฟ้า ลดการใช้ทรัพยากรเพิ่ม 20%


หากถูกโจมตีด้วยสายฟ้า ร่างกายจะได้รับผลด้านบวกแทน (ค่าเรี่ยวแรงฟื้นฟูเล็กน้อย มานาฟื้นฟูรุนแรงหนึ่งหน เอฟเฟคของแต้มสถานะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแบบสุ่ม ระยะหน่วงหลังใช้ 10 วินาที)



‘หืม… ทักษะอัคคีจุติจะแสดงผลตลอดเวลา ถ้าอย่างนั้น หากเลเวลของลมหายใจฟินิกซ์แดงในตัวเราเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพของมันอาจเพิ่มสูงจนเราไม่ต้องพึ่งพาโพชัน’


โดยทั่วไปแล้ว อัตราการฟื้นฟูตามธรรมชาติของตัวละคร หรือศัพท์วงการเกมคือ ‘เด้งเลือด’ จะมีค่าเท่ากับ 2 หน่วยต่อค่าความอดทน 100 หน่วย


อย่างไรก็ตาม โบนัสจากการตื่นของค่าสถานะจะไม่ส่งผลต่อจำนวนการเด้งเลือด


แตกต่างจากเอฟเฟคอื่น อัตราการเด้งเลือดสามารถเพิ่มได้จากหลายหนทาง เช่นสมญานาม ทักษะติดตัว หรือไอเท็มมากมาย ยิ่งพัฒนาตัวละครไปจนถึงระดับสูง ค่าเด้งเลือดก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว


ยกตัวอย่างเช่นกริด ถ้าไม่นับแต้มสถานะ ค่าเด้งเลือดของกริดยังเพิ่มขึ้นจากพรของ 4 เทพในแร่ละโมบ ทักษะเขตแดนพายุเพลิงเทพ การหลอมรวมกับลมหายใจฟินิกซ์แดง รวมถึงพลังราชินีแห่งไฟจากอักขระแห่งความตะกละ


นอกจากนั้นยังมีสมญานามดยุคแห่งคุณธรรมซึ่งช่วยเพิ่มค่าความอดทน 35% รวมถึงยังมีไอเท็มอีกหลายชนิดในการช่วยเพิ่มค่าเด้งเลือด


หากกริดเน้นการเด้งเลือดเป็นพิเศษและใส่ไอเท็มประเภทเด้งเลือดทั้งหมด ชายหนุ่มสามารถทำค่าเด้งเลือดสูงสุดได้ถึงวินาทีละ 1,000 กว่าหน่วยเลยทีเดียว


และนี่คือเหตุผลว่าทำไมการตื่นของค่าสถานะจึงควรไม่ส่งผลต่อการเด้งเลือด เพราะหากมันส่งผล คุณค่าของโพชันในเกมก็จะลดลงไปตามกาลเวลา


‘สำหรับตัวเราในปัจจุบัน ลำพังการเปิดใช้งานอัคคีจุติก็ช่วยให้เลือดเด้งในปริมาณน่าพึงพอใจ แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้น การเปิดใช้งานลมหายใจฟินิกซ์แดงไปพร้อมกับเขตแดนพายุเพลิงเทพจะช่วยให้เลือดเด้งได้อย่างมหาศาล’


ในช่วงเวลาปรกติ เลือดของเราจะเด้งด้วยความเร็วเทียบเท่าเทียบเท่าการดื่มโพชันระดับกลางทุกวินาที แต่ถ้าเปิดเขตแดนเพลิงเทพร่วมด้วย เลือดจะเด้งด้วยความเร็วระดับโพชันสูงสุดต่อหนึ่งวินาที


ดูเหมือนว่าความพยายามของ SA กรุปในการทำให้โพชันมีมูลค่า ได้กลายเป็นหมันอย่างสมบูรณ์เมื่ออยู่ต่อหน้ากริด


“…”


หลังจากอ่านทักษะใหม่และจินตนาการภาพตาม กริดเริ่มครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด


เราจะไม่กลายเป็นสัตว์ประหลาดเอาหรือ?


ขณะชายหนุ่มกำลังหวาดกลัวตัวเอง


“…?”


กริด ผู้กำลังส่ายศีรษะอย่างกระวนกระวาย พลันตระหนักถึงบรรยากาศผิดปรกติรอบตัว


ทั้งกษัตริย์โช ชาวอาณาจักรโช เฮล่า รวมถึงเหล่าสิบวีรชน ทุกคนต่างกำลังจ้องมองกริดอย่างไม่ละสายตา


สีหน้าชายหนุ่มเผยความตกตะลึงสุดขีด


“พวกเขาเป็นอะไรไป?” กริดกระซิบถามบราฮัมด้านข้าง


“แม้แต่ฉันก็มองว่าเรื่องนี้ไม่ปรกติ ตัวตนระดับเทพมักไม่ออกปากชมมนุษย์บ่อยครั้งนัก” บราฮัมตอบตามตรง


ทันใดนั้น กริดพลันหวนนึกถึงบทสนทนาระหว่างตนและฟินิกซ์แดง


ใช่แล้ว เราไม่ได้กำลังจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด…


เรากำลังเดินบนเส้นทางถูกต้อง…


***


ณ ห้องรับรองแขกพิเศษซึ่งกษัตริย์โชเตรียมไว้ให้กริดกับพวกพ้องโดยเฉพาะ


หลังจากไม่ได้พบกันนาน กริดและเหล่าสิบวีรชนมีโอกาสได้พบหน้ากันอีกครั้งเพื่อแบ่งปันประสบการณ์อันล้ำค่า


ส่วนใหญ่เป็นข่าวสารทั่วไป ข้อมูลเกม และประสบการณ์สุดตื่นเต้นของแต่ละคน


“เธอทำลายพิธีกรรมของบาเอลได้ยังไง?”


กริดให้ความสนใจกับกิจกรรมในนรกของยูร่าเป็นพิเศษ มันยังไม่ลืมขณะกดใช้งานถ้อยคำนักคุณธรรมเพื่อขอหยิบยืมอาวุธ


เมื่อชายหนุ่มเกิดความสิ้นหวังและคิดว่าตนคงไม่รอดพ้นจากการจ้องมองของบาเอลแน่แล้ว ยูร่าได้เปรียบดังเทพธิดาจากฟากฟ้าลงมาโปรด


เธอมอบคำตอบเรียบง่าย


“เป็นความบังเอิญโดยแท้จริง ฉันรับภารกิจจัดการอสูรในละแวกดังกล่าวพอดี เมื่อเห็นสิ่งไม่ชอบมาพากลเข้า จึงตัดสินใจทำลายทิ้งทันที”


“ขุมนรกของบาเอลคือชั้น 1 ไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมเธอถึงได้รับภารกิจปราบเผ่าอสูรบนชั้น 1 เร็วขนาดนี้?”


“เป็นเพราะความบังเอิญอีกเช่นกัน”


“…”


ต้องไม่ใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน กริดอ่านใจยูร่าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเลือกจะยืนกรานเช่นนั้น การไปขุดคุ้ยก็คงไม่เกิดประโยชน์อันใด


“เธอไม่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อฉัน”


“ตกลง”


“…”


เธอไม่ตกลงแน่นอน เรามั่นใจ


แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามความคิด


จนกระทั่ง ระยะหน่วงของทักษะลมหายใจฟินิกซ์แดงในตัวกริดวนกลับมาครบอีกครั้ง ชายหนุ่มรีบทดสอบเปิดใช้งาน


แวนเนอร์ซักถามอย่างสนใจ


“เป็นยังไงบ้าง? ได้ค่าประสบการณ์ไหม”


“ไม่เลยสักนิด”


กริดสวมสีหน้าสับสน


มันเคยทดสอบเปิดใช้งานทักษะลมหายใจฟินิกซ์แดงไปแล้วสองหน แต่ค่าประสบการณ์กลับไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่หน่วยเดียว


ดูเหมือนทฤษฎีของจิสึกะจะถูกต้อง


การจะเลเวลอัปทักษะลมหายใจฟินิกซ์แดง มีแต่ต้องใช้ลมหายใจฟินิกซ์แดงในการอัปเท่านั้น


“บ้าน่า… ฉันต้องกินเจ้านี่จริงหรือ ให้เคี้ยวไข่มุกแข็งเหมือนหินเนี่ยนะ?”


กริดทำหน้าเสียดายปนพะอืดพะอม


ไม่เพียงลมหายใจฟินิกซ์แดงจะเป็นสุดยอดวัตถุดิบสำหรับสร้างไอเท็ม แต่ด้านในยังมีเพลิงอนันต์แสนล้ำค่า


และเหนือสิ่งอื่นใด รสชาติของมันจะออกเป็นอย่างไร? เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยพิสูจน์ได้แน่


“ลองกินดู และถ้าได้ผล ฉันขอสัญญาว่านายจะได้กินเจ้าไข่มุกสีแดงนี่จนพุงกางแน่ พวกเราจะนำของรางวัลจากการแข่งนานาชาติมาประเคนให้ถึงมือ!”


จิสึกะฉีกยิ้มกว้าง รอยยิ้มทีเล่นทีจริงของเธอทำให้กริดทวีความเครียด


“ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ…”


เราต้องกินไอ้นี่เข้าไปจริงหรือ…


บนฝ่ามือกริดกำลังถือลมหายใจฟินิกซ์แดงซึ่งดรอปมาจากการัม สีหน้าแววตาชายหนุ่มเผยความอึดอัดใจโดยไม่ปิดบัง


ไม่มีใครแน่ใจด้วยซ้ำว่าสิ่งนี้กินได้หรือไม่


ขณะกริดนั่งลังเลตามลำพัง บทสนทนาของพวกพ้องคนอื่นยังคงดำเนินต่อไป


จนกระทั่งถึงเวลาทุกคนต้องแยกย้ายกลับ การอำลาจึงมีขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้


ปัจจุบัน เหล่าสิบวีรชนต้องกลับไปยังโลกจริงเพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันซาทิสฟายนานาชาติปี 5 ส่วนกริดได้รับสิทธิ์ให้ผจญภัยต่อไปในซาทิสฟายอย่างอิสระ


“นายคิดจะคืนชีพเทพผู้พิทักษ์ให้ครบทุกตนเลยไหม?”


ณ กลางดึกสงัด


ต้องของคุณพรอันสิ่งใหญ่จากเทพฟินิกซ์แดง บรรยากาศภายในอาณาจักรโชจึงกำลังสดชื่นเป็นพิเศษ


บราฮัมอยู่ในชุดชาวตะวันออก


เสื้อคลุมสีม่วงระยิบระยับหรูหรา เข้ากันกับมาดบุรุษโฉมงามเจ้าของเส้นผมสีเงินอย่างไร้จุดตำหนิ


“ฉันยังไม่อยากทำอะไรเกินตัว แผนการขั้นแรกคือสำรวจพลังของยังบันคนอื่นให้แน่ใจเสียก่อนว่า พวกมันแข็งแกร่งตามคำบอกเล่าฮารังจริงหรือไม่ หากประเมินว่าสู้ไม่ไหว คงต้องกลับทวีปตะวันตกทันที”


“ความคิดดี ในบางครั้ง การพักผ่อนก็คือการพัฒนาตัวเองประเภทหนึ่ง”


“อื้อ”


แน่นอน การพักผ่อนนั้นสำคัญ ไม่ว่าจะบนโลกใบใดก็ตาม


การพักผ่อนช่วยให้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้ทบทวนข้อบกพร่องในอดีต และนำมาปรับปรุงแก้ไขจนเกิดเป็นก้าวกระโดดใหญ่ในอนาคต


เหนือสิ่งอื่นใด กริดต้องการพบหน้าไอรีน


‘การฝืนตัวเองมากเกินไปก็ไม่ช่วยให้บทกวีรอบใหม่ปรากฏขึ้น…’


ชายหนุ่มคาดเดาไว้แล้วว่า ยิ่งจำนวนบทกวีมากเท่าไร ความยากในการปรากฏก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น


ตัวอย่างชัดเจนคือ บทกวีไม่ปรากฏขึ้นหลังจากความตายของสี่ยังบันและการคืนชีพของเทพฟินิกซ์แดง


“แต่ก่อนจะไปอาณาจักรชิง ฉันต้องไปพบใครบางคนก่อน”


กริดหมายถึงสัตว์เหล่าวิเศษ


เสือครามและโทซุน


ชายหนุ่มเชื่อว่าการคืนชีพของฟินิกซ์แดงจะช่วยให้เหล่าสัตว์วิเศษฟื้นคืนความทรงจำและคืนพลังเดิมกลับมาได้บางส่วน


“นายไปกับฉันได้ไหม?”


กริดยื่นแขนออกไปขอจับมือบราฮัม


ปัจจุบัน มันไม่กลัวว่ามหาจอมเวทในตำนานผู้นี้จะพลาดท่าจนถึงแต่ความตาย บราฮัมพัฒนาตัวเองจนแซงกริดหน้าไปไกลมากแล้ว


“เริ่มอยากพึ่งพาขึ้นมาบ้างแล้วหรือ? จอมเวทอันดับหนึ่งตลอดกาลของโลกอย่างฉันคนนี้”


บราฮัมเผยรอยยิ้มขณะจับมือกริดตอบ


คล้ายกับเสียงธรรมชาติด้านนอกกำลังอวยพรให้การเดินทางรอบใหม่ของบุรุษทั้งสองเป็นไปอย่างราบรื่น


***


『คุณผู้ชมครับ! นักกีฬาผู้เข้าร่วมการแข่งขันซาทิสฟายนานาชาติปี 5 กำลังเดินเข้ามาในสนามแล้วครับ!』


บรรยากาศงานแข่งในปีนี้ค่อนข้างจืดชืด


สืบเนื่องจาก ความสำเร็จสุดน่าทึ่งหนแล้วหนเล่าของกริดก่อนงานแข่งจะเริ่ม ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนไปจนเกือบหมด


สังหารครึ่งเทพ เขียนบทกวีใหม่ และคืนชีพอดีตเทพอย่างฟินิกซ์แดง


จึงไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร หากความสนใจทั้งหมดจะเทไปทางกริดแทนงานแข่งซาทิสฟายนานาชาติปีปัจจุบัน


แต่โชคยังดี


ดูเหมือนว่าเรทติ้งของพิธีเปิดการแข่งซาทิสฟายนานาชาติปี 5 จะไม่ได้ด้อยไปกว่าปีอื่นสักเท่าไร ตัวเลขยังอยู่ในเกณฑ์พอรับได้


= ตอนนี้กริดกำลังทำอะไร?


= คงอยู่ทวีปตะวันออกละมั้ง


= การแข่งนานาชาติอันปราศจากกริด ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องจัดก็ได้นะ เสียเวลาเปล่า


= ก็อดกริดจงเจริญ!


ปัญหาของผู้จัดงานก็คือ ช่องแชตรายการสดมีแต่คำว่ากริดเต็มไปหมด


“ลูกเราก็ดังเหมือนกันนะเนี่ย”


ณ บ้านชินยองวู


พ่อแม่ของยองวูกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขขณะรับชมพิธีเปิดการแข่งซาทิสฟายนานาชาติ


ด้วยทีวีรุ่นใหม่ล่าสุดจากเครือแดจินกรุปในหนวดเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้า การรับชมถ่ายทอดสดจึงมีช่องแชตแยกให้ดูต่างหาก ไม่ไปรบกวนกับจอหลัก


นักกีฬาชาวเกาหลีใต้กำลังเดินเข้าสนาม


นำทีมโดยยูร่าและจิสึกะ


แม่ของยองวูพลันปรบมือและตะโกนเชียร์เสียงดังขณะหนึ่งในสองตัวเต็งลูกสะใภ้เดินนำธงชาติของประเทศเข้าสู่สนามจัดพิธีเปิด


ทันใดนั้น เธอเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเซฮีกับเยริมเดินตามหลังเข้าไป


“แม่ได้ยินว่าพวกเธอยังเป็นแค่นู๊บ แล้วจะไหวจริงหรือ?”


“น…นู๊บ…”


ยองวูระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อแม่ของตนพยายามใช้ศัพท์เกมสื่อสาร


“พวกเธอฉลาดมาก ต้องไม่เป็นอะไรแน่”


ยองวูได้ยินมาว่า เยริมกับเซฮีเลือกลงแข่งในรายการประเภทคู่เท่านั้น


ใครจะไปหยุดคู่หูแฝดนรก อัศวินแห่งนักบุญและนักบุญหญิงได้ พวกเธอเล่นกวาดล้างดันเจียนวิหารกัลกุนอสซึ่งมีระดับเลเวลสูงกว่าตัวเองหลายเท่าอย่างง่ายดาย…


ขณะยองวูอมยิ้มอย่างมีความสุขพลางกระดกแก้วเครื่องดื่มโคล่า


“แกคิดว่าประเทศไหนจะเป็นเจ้าเหรียญทองประจำปีนี้” ผู้เป็นพ่อหันมาถาม


“เกาหลีใต้อยู่แล้ว” ยองวูตอบโดยไม่ลังเล


ในสายตามัน พัฒนาการของเหล่าสิบวีรชนสูงเกินความคาดหมายไปมาก


โดยเฉพาะจิสึกะผู้ได้รับการยกระดับอาวุธจากพรของฟินิกซ์แดงร่างเทพ รวมถึงยูร่าผู้สามารถตะลุยไปจนถึงขุมนรกชั้น 1


ยองวูไม่เคลือบแคลง


“ถ้าไม่ใช่ครอเกลหรือคริส ไม่มีใครหยุดยูร่ากับจิสึกะได้แน่”


“ฮะฮะ…”


พ่อแม่ยองวูเผยรอยยิ้มแฝงเลศนัย


“แม่อยากอุ้มหลานเต็มทีแล้ว ตกลงเป็นคนไหนกันแน่? เลือกหรือยัง?”


“อ…อะไรกัน…”


ผู้บรรยาย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ชมส่วนใหญ่ต่างคาดหมายว่านักกีฬาทีมสหรัฐจะกลายเป็นเจ้าเหรียญทองในปีนี้


ด้วยเหตุผลว่า ในเมื่อปีนี้ไม่มีกริด ถ้าทีมสหรัฐยังคว้าอันดับหนึ่งไม่ได้อีก นั่นคงจะแปลกเกินไปสักหน่อย


การประโคมข่าวเช่นนั้นได้ทำให้พ่อและแม่ยองวูเข้าใจผิดมาตลอด


ชายหนุ่มรับถุงถั่วมาหยิบกินพลางทิ้งท้ายความเห็นส่วนตัว


“…แล้วทุกคนจะต้องประหลาดใจในอีกสองสามวันข้างหน้า”


ยองวู ผู้กำลังมีใบหน้าแดงก่ำ รีบลุกขึ้นและเดินไปทำความสะอาดโต๊ะอาหาร


ในเมื่อขีดจำกัดการออนไลน์ใกล้ถูกยกเลิก มันวางแผนทำงานบ้านและล้างจานให้เสร็จก่อนเข้าไปนอนในแคปซูล


ชายหนุ่มพยายามอย่างหนักเพื่อให้แม่ของตนทำงานน้อยลง


‘จ้างสาวใช้ดีไหม…? แต่ถ้าเจอพวกโรคจิตแบบหยางเฟยจะทำยังไง…’


ไม่มีทาง เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นแน่…


ยองวูรีบล้างจานให้เสร็จพลางวางแผ่นว่า พรุ่งนี้ค่อยหาทางติดต่อบริษัทจัดหาแม่บ้าน


***


“แน่ใจใช่ไหมว่ากริดจะผ่านมาทางนี้?”


“มั่นใจมาก”


“ดี…”


เวอราดิน ผู้เล่นคลาสหมอผีซึ่งสูญเสียทุกสิ่งเพราะดันไปล่วงเกินกิลด์โอเวอร์เกียร์เข้า


ท่ามกลางฝูงเจียงชือแข็งแกร่งหลายสิบซึ่งดักซุ่มในเขตป่าลึกของชุมชนมอนสเตอร์ เวอราดินกำลังแผ่จิตสังหารอันเข้มข้นโดยไม่ปกปิด


หลังจากอพยพมายังทวีปตะวันออกและได้พบกับนักพรตชั่วโดยบังเอิญ มันก็ไม่คิดปล่อยโอกาสล้างแค้นให้หลุดลอยไป


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,571
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ? นายเป็นใครเวอราดิน... ฉันลืมนายแล้ว

    ขอบคุณ​มาก​ครับ​🙏

    ReplyDelete
  2. เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วไม่จำคือ"เวอราดิน" ไม่หลาบไม่จำจริง

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00