จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,175



ทวีปตะวันออกถูกปกครองโดย 4 อาณาจักร


สาเหตุทำให้สถานการณ์บนทวีปเกิดความสมดุลมานานหลายร้อยปีนั้นไม่ซับซ้อน


ทรัพยากรและกำลังคนของทั้ง 4 อาณาจักรอยู่ในระดับอุดมสมบูรณ์


หากยังไม่เห็นภาพ ทวีปตะวันออกนั้นมีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลเทียบเท่าทวีปตะวันตก แต่ถูกปกครองโดย 4 อาณาจักรเท่านั้น


พวกมันคอยสอดส่องซึ่งกันและกัน หวาดระแวงซึ่งกันและกัน ระหว่างนั้นก็พัฒนาตัวเองตลอดเวลาเพื่อมิให้ถูกฝ่ายใดกลืนกิน


“…!”


กรุงคาราสึ อาณาจักรโช


ทหารองครักษ์เวรยามประตูชั้นนอกรีบคุกเข่าหมอบกราบด้วยสีหน้าประหลาดใจ


กึก. กึก.


เทพกำลังย่างกรายเข้าใกล้


ขณะหน้าผากเหล่าทหารแนบชิดติดกับพื้น ประชาชนโดยรอบซึ่งเริ่มสัมผัสถึงความผิดปรกติรีบหันมาจ้องอย่างตกตะลึง ก่อนจะกุลีกุจอรีบคุกเข่าในลักษณะเดียวกัน


“…”


หลังจากเทพย่างกรายผ่านประตูเมือง บรรยากาศในละแวกใกล้เคียงพลันเงียบสงัด


ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจ คลายกับความวุ่นวายในช่วงก่อนหน้าเป็นเรื่องโกหก


ยังบัน การัม


โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า มันมาเยือนเมืองหลวงแห่งอาณาจักรโชบ่อยครั้งจนเหมือนกับเป็นกิจวัตร


ทหารและประชาชนต่างรีบสวดภาวนา :


‘ได้โปรดประทานพรและนำพาความโชคดี’


แต่น่าเสียดาย


กึก. กึก. กึก…


การัมมิได้แยแสผู้สวดภาวนาเหล่านั้น


ไม่แม้แต่จะเหลียวมอง เพียงใช้สายตาเหนือมนุษย์จ้องมองประตูพระราชวังซึ่งอยู่ห่างออกไป


“ข้าแค่จะมาตักเตือน ให้พวกเจ้าได้ตระหนักว่าตัวเองเป็นเพียงสุนัข”


หนึ่งในกฎลับของอาณาจักรฮวานคือ :


ห้ามทำร้ายราชวงศ์ 4 อาณาจักรโดดเด็ดขาด


เพื่อให้คนกลุ่มนี้ปกครองชาวเมืองอย่างว่านอนสอนง่าย เพื่อให้พวกมันยำเกรงห้าอาวุโสและยังบัน เพื่อให้พวกมันคอยโน้มน้าวประชาชน ให้ประชาชนกราบไหว้บูชาอาวุโสและยังบันจากก้นบึ้งหัวใจ


ไม่มีแหล่ง ‘พลังศรัทธา’ ใดจะหาได้ง่ายไปกว่านี้แล้ว


แต่ในวันนี้ การัมเตรียมแหกกฎ


เป็นเพราะอีกฝ่ายเริ่มก่อน


“อวดดีกันนักนะ”


กรอด!


การัมขบกรามแน่นขณะใช้ฝ่ามือสางเส้นผมอันเรียบเนียนเงางาม


วันนี้มันไม่ได้มัดผมเหมือนกับทุกที


ผมยาวสลวยห้อยลงมาปกปิดหูซ้ายซึ่งถูกกริดตัดทิ้งไปเมื่อวันก่อน


ไม่ว่าอย่างไร ความลับนี้ก็ห้ามรั่วไหล


…กริด! กริด!! กริด!!!


มันไม่เคยคิดมาก่อนว่าสุนัขซึ่งตนเลี้ยงไว้จะแว้งกัดเข้าในสักวัน การัมไม่มีทางยกโทษให้กษัตริย์โชผู้แอบช่วยเหลือกริดอยู่หลังฉาก


ขณะดวงตาการัมเริ่มแผ่จิตสังหาร ฝีเท้าของมันก้าวถี่ขึ้นกว่าเดิม


ทันใดนั้น


ซู่วววว—!


ด้านหลังกำแพงวังหลวง เปลวเพลิงสีแดงส้มพลันพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างร้อนแรง


ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเปลวเพลิงมีอานุภาพรุนแรงมากเพียงใด แต่ถึงขั้นทำให้เมฆบนฟ้าสลายตัวได้ แปลว่าต้องไม่ธรรมดาแน่


ท้องฟ้าเริ่มถูกย้อมด้วยสีแดงฉาน


“…?”


การัมยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก


ในตอนแรก มันยืนกรานปฏิเสธทฤษฎีหนึ่งซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในความคิดของตน


แต่เพียงไม่นานก็ต้องกัดฟันยอมรับ


ออร่าและกลิ่นอายของสิ่งนั้นกำลังแผ่ออกมาอย่างท่วมท้นจนสัมผัสได้ชัดเจน


“ไม่ยอมให้พวกเจ้าทำสำเร็จแน่!”


นับตั้งแต่ถูกกราบไหว้บูชา การัมไม่เคยถูกทหารและประชาชนของอาณาจักรโชล่วงเกินเลยสักครั้ง แต่ในปัจจุบัน คนเหล่านั้นกลับกำลังรวมกันตัวขวางทางมันอย่างเหิมเกริม


ถึงขั้นกล้าเงยหน้าสบตาโดยตรง


“หือ…”


การัมจ้องเข้าไปในดวงตาของบรรดาผู้ขวางทางอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะด้วยภาษากายเหยียดหยัน


“ฮะฮะ! อย่างนี้นี่เอง สัตว์ชั้นต่ำมักเลือกทำตามสัญชาตญาณมากกว่าสมอง…”


ในวินาทีเสาเพลิงถือกำเนิด การัมพลันทราบถึงต้นตอของบรรยากาศน่าสะอิดสะเอียนบนท้องฟ้าซึ่งกำลังแผ่ออกไปรอบอาณาจักรโช


สิ่งนี้คือกลิ่นอายของฟินิกซ์แดง หนึ่งในสี่เทพผู้พิทักษ์ซึ่งเคยปกปักรักษาดินแดนแห่งนี้


เทพผู้เคยถูกผนึกในอดีต ปัจจุบันกำลังจะคืนชีพกลับมาสำแดงฤทธิ์เดชอีกครั้ง


“หยุดอยู่ตรงนั้น!”


การัมเมินเฉยต่อคำเตือนของทหาร, ยังคงย่างกรายต่อไปข้างหน้า เหล่าทหารจึงไม่มีทางเลือกนอกจากชักอาวุธขึ้นมาขัดขวาง


หอกดาบซึ่งเคยเป็นเครื่องสักการะเทพการัมในช่วงหลายปีหลัง ยามนี้กลับถูกหยิบจับเพื่อต่อต้านขัดขวางเทพการัมเสียเอง


สิ่งนี้หมายความว่า มีบางสิ่งในรหัสพันธุกรรมของชาวอาณาจักรโช เริ่มกลับมาเบ่งบานอีกครั้งเมื่อถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง


ขณะเพลิงฟินิกซ์แดงกำลังแผ่อิทธิฤทธิ์ท่วมท้นท้องฟ้า, คล้ายกับคลื่นวิทยุกระจายเสียงส่งต่อกันเป็นหลายทอด ความอบอุ่นจากผู้พิทักษ์ตัวจริงซึ่งพวกมันเคยทอดทิ้ง ได้ปลุกให้จิตสำนึกเบื้องลึกของทุกคนจนตื่นขึ้นมา


บรรพบุรุษพวกมันเคยรับใช้ฟินิกซ์แดง


เมื่อออร่าเทพฟินิกซ์แดงตื่นขึ้น ชาวอาณาจักรโชพลันได้สติกลับมาและทราบทันทีว่าการัมคือศัตรูตัวฉกาจ


“พวกสัตว์ชั้นต่ำโง่เขลา…”


การัมไม่คิดปิดบังความโกรธ


มันสัมผัสได้ว่า ความศรัทธาบางส่วนจากชาวเมืองเริ่มจางหายไป


เมื่ออยู่ต่อหน้าชาวอาณาจักรโชผู้กล้าทรยศหักหลังตน การัมเตรียมระเบิดความรู้สึกภายในจิตใจออกมาโดยไม่หวงแหวน


“พวกเจ้าไม่มีเหตุผลให้มีชีวิตอยู่อีกแล้ว! เตรียมรับการลงทัณฑ์จากเทพ!”


วาจาเทพถือเป็นคำขาด


ในฐานะสิ่งมีชีวิตอันสูงส่งซึ่งอีกไม่กี่ก้าวจะกลายเป็นเทพ การัมไม่คิดกลืนน้ำลายตัวเอง


พรึบ!!


เปลวเพลิงร้อนแรงลุกโชนเบื้องหน้าการัม จากนั้นก็เริ่มเผาไหม้อย่างเกรี้ยวกราด


เปลวเพลิงดังกล่าวอัดแน่นด้วยกลิ่นอายของฟินิกซ์แดงในปริมาณเข้มข้น


พลังของอดีตเทพซึ่งพวกมันกราบไหว้บูชา ยามนี้กำลังย้อนกลับมาทำร้ายพวกมันเอง…


ขณะเกิดความคิดข้างต้น การัมฉีกยิ้มกว้างด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ตามด้วยการระเบิดพลังเพลิงตรงหน้าออกไปทุกทิศทาง


บึ้มมมมมมม!!


ทหารและชาวเมืองผู้ยืนกีดขวางเส้นทางเปลวเพลิงพลันถูกคลื่นความร้อนคลอกร่างจนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ โดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ส่งเสียงร้อง


บึ้มมมม!!


ครืนนนนน!


อาคารบ้านเรือนหลายสิบหลังเริ่มถล่มจากแรงระเบิด เศษหินเศษดินพังทลายพร้อมกับล้มทับผู้คนด้านล่างจนเกิดการสูญเสียเพิ่มเติม


คาราสึแปรเปลี่ยนเป็นขุมนรกในพริบตา


การัม ผู้กำลังยืนเด่นตระหง่านใจกลางเปลวเพลิงและแรงระเบิด ตะโกนกล่าวกับพลเมืองอาณาจักรโชด้วยเสียงดังฟังชัด


“พวกมนุษย์ชั้นต่ำ! ไม่สำเหนียกบ้างเลยหรือว่าเสพสุขทุกวันนี้ได้เพราะใคร! เพราะข้าคนนี้! การัม! ข้ามีพลังมากพอจะบดขยี้พวกเจ้าให้ราบคาบได้ทุกเมื่อ เป็นเพราะข้าใจดี พวกเจ้าจึงยังหายใจได้อย่างทุกวันนี้!”


“อึก…!”


ใครหลายคนเสียชีวิตทันทีจากแรงระเบิด แต่อีกฝ่ายคนก็รอดมาได้ในสภาพปางตาย พวกมันทำได้เพียงนอนโอดครวญด้วยสีหน้าอมทุกข์


ความฉิบหายเป็นวงกว้างอันเกิดจากฝีมือของบุคคลซึ่งควรจะเป็นเทพ ยิ่งทำให้ชาวเมืองคาราสึเกิดความรู้สึกต่อต้านห้าอาวุโสอย่างรุนแรง


“หมอนั่นเสียสติไปแล้วหรือไง?”


กลุ่มผู้เล่นต่างพากันกัดฟันกรอด


พวกมันอาศัยในอาณาจักรโชมาหลายวัน มีโอกาสได้รับภารกิจจิปาถะก็มาก จึงไม่แปลกหากจะรู้จักตัวตนของยังบัน


ขณะเล่าถึงความสันติภาพของทวีปอันเกิดจากบุญคุณเป็นล้นพ้นของห้าอาวุโสและกลุ่มคนชื่อยังบัน ชาวเมืองหลายคนต่างเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุข


กลุ่มผู้เล่นจึงจินตนาการภาพของเทพผู้โอบอ้อมอารี


แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม


นิสัยระยำ โอหัง และหลงตัวเอง


นี่ไม่ใช่เทพ


ถ้าบอกว่าเป็นอสูรคงเชื่อไปแล้ว


“บางที… เทพอาจมีนิสัยเช่นนี้เป็นปรกติอยู่แล้วก็ได้”


ขณะกลุ่มผู้เล่นกำลังกระซิบกระซาบ ใครบางคนกล่าวความเห็นอันน่าเหลือเชื่อ


เฮล่า


ในฐานะหมอ เธอรักษาคนไข้ด้วยความยากลำบากทางวิทยาศาสตร์เสมอ จึงไม่เคยซาบซึ้งในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของเทพ และสามารถกล่าวในมุมมองต่างออกไปได้อย่างตรงไปตรงมา


“เอ่อ… ฉันหมายถึงเทพในซาทิสฟาย”


เมื่อเห็นบรรยากาศเริ่มอึมครึม เธอรีบขยายความเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิด


แต่สีหน้าของกลุ่มผู้เล่นรอบข้างกลับยังไม่ดีขึ้นจากเดิม


พวกมันกำลังกังวลว่า อาจมีข้อความระบบแสดงไปทั่วโลกทำนองว่า : กลุ่มบุคคลนิรนามกำลังนินทาเทพในแง่ลบ!


แบบนี้จะไม่อะไรกับการประกาศสงคราม


โดยมีศัตรูคือเทพ


‘กริดตระหนักถึงอุปนิสัยของเทพหรือยัง’


เทพในซาทิสฟาย


ไม่สิ บางที เทพบนทวีปตะวันออกอาจแตกต่างจากทวีปตะวันตกโดยสิ้นเชิง


เพราะหากเทพทวีปตะวันตกเป็นเช่นนี้ กริดคงไม่มีทางยอมให้ความร่วมมือแต่แรกแล้ว


บึ้มมมม!!


เสียงระเบิดยังคงดังกังวานอย่างต่อเนื่อง


เมืองคาราสึซึ่งเคยงดงามและเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนเรียงราย ปัจจุบันกำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นกองซากปรักหักพัง ด้วยฝีมือของเทพซึ่งพวกมันเคยกราบไหว้บูชา


“…”


เมื่อได้เห็นหายนะกำลังอุบัติขึ้นตรงหน้า ดวงตาของกลุ่มผู้เล่นเริ่มสั่นเทา


ขณะกำลังประจักษ์อนาคตอันมืดมนซึ่งนำมาพาโดยฝีมือการัม สีหน้าของแต่ละคนเริ่มเผยความหวาดกลัว


ท่ามกลางกองเพลิงและซากปรักหักพัง พลเมืองอาณาจักรโชล้มลงคนแล้วคนเล่า บางที อีกไม่นานก็คงถึงคิวของพวกตนบ้าง


“บ้าจริง… เกมเฮงซวย!!”


ย้อนกลับไปสมัยจอมอสูรเฟย์ริสบุกถล่มอาณาจักรโรเทมอน


ต้องขอบคุณการมีอยู่ของเทพ ชาวเมืองโรเทมอนจึงยังเหลือศรัทธาอย่างแรงกล้าในการรักษาชีวิตตัวเองให้รอด


ผู้คนต่างเชื่อโดยไม่เคลือบแคลงว่า เหล่าเทพจะต้องปรากฏกายออกมาช่วยเหลือได้ทันเวลา โดยไม่ปล่อยให้จอมอสูรจะลงมือทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์จนสูญสิ้น


แต่ผู้เล่นทุกคนตรงนี้ล้วนประจักษ์ชัด


ไม่มีเทพตนใดโผล่หัวออกมาช่วย


ไม่แม้แต่ตนเดียว


ยกเว้นก็อดกริด


ตัวตนของการัมยิ่งช่วยตอกย้ำเข้าไปอีกว่า มนุษย์ไม่ควรศรัทธาในเทพของซาทิสฟายอย่างถลำลึกโดยไม่ลืมหูลืมตา


“…จบสิ้นแล้ว ซาทิสฟายถึงคราวจบสิ้น!”


เพราะเหตุใด?


เพราะประธานใหญ่ลิมชอลโฮเคยกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ซาทิสฟายคือโลกซึ่งจะถูกกำหนดทิศทางผู้เล่นด้วยกันเอง


แต่เหตุไฉน ผู้เล่นถึงทำอะไรไม่ได้เลย


“อ๊ะ!”


ขณะฝั่งผู้เล่นซึ่งกำลังแตกตื่น ดวงตาทุกคนพลันเบิกโพลงพร้อมกัน


สามพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่ง, อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก กำลังจะถูกไฟบอลลูกใหญ่พุ่งตกใส่


“ไม่นะ!”


เฮล่ารีบวิ่งพรวดออกไปใช้ตัวเป็นกำบัง


แต่โชคยังดี ผู้เล่นอีกหนึ่งคนช่วยทำลายไฟบอลได้ทันท่วงที


แน่นอน คลาสนักรบและคลาสหมอมีบทบาทในสงครามแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง


“เธอจะบ้ารึไง! ทำไมถึงได้เอาร่างกายแสนอ่อนแอเข้าไปรับไฟบอลแบบนั้น? เธอเป็นแค่หมอไม่ใช่หรือ แถมยังไม่มีท่าพุ่งด้วยซ้ำ!”


“ให้พวกเราช่วยคน ส่วนเธอรักษา!”


กลุ่มผู้เล่นกำชับเฮล่าพร้อมกับพาตัวสามพ่อแม่ลูกมาหาเธอ จากนั้น พวกมันรีบแยกย้ายไปคนละทิศทางเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองผู้ประสบเคราะห์ร้าย


จริงอยู่ กลุ่มผู้เล่นเพียงหยิบมือย่อมมิอาจปกป้องผู้คนได้ทั้งเมือง แต่อย่างน้อย ถ้าเฉพาะละแวกใกล้เคียงก็ยังพอเป็นไปได้


ทุกคนตัดสินใจช่วยเหลือโดยไม่ลังเล เพราะเคยเห็นความโหดร้ายของเหตุการณ์จอมอสูรเฟย์ริสบุกถล่มอาณาจักรฮาเค่นทางจอทีวีมาแล้ว โดยในขณะนั้น แรงเกอร์จำนวนมากต่างทำตัวเป็นแบบอย่างอันดี ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือชาวเมืองฮาเค่นให้พ้นจากการเคราะห์ร้าย


“ทางนี้… อ๊ะ!”


“บัดซบ!”


แต่ทุกการกระทำมีราคาต้องจ่าย


การจะช่วยให้ใครสักคนรอดพ้นจากวิกฤติ ปัจจัยพื้นฐานคือ ผู้ช่วยเหลือต้องมีฝีมือมากพอในการฝ่าฟันวิกฤติ และกลุ่มผู้เล่นก็ไม่ได้มีคุณสมบัติดังกล่าวครบทุกคน


ใครบางคนปรารถนาจะช่วยคนจากเหตุไฟคลอกรุนแรง แต่มันกลับทนความร้อนไม่ไหว ใครบางคนปรารถนาจะช่วยคนจากการถล่มของอาคาร แต่มันกลับขาดความคล่องแคล่วจนไม่สามารถหลบเศษหินถล่มได้ทัน


ในทฤษฎี การช่วยเหลือประชากรหลายแสนคนด้วยจำนวนผู้เล่นเพียงหลักร้อย สิ่งนี้แทบไม่มีประสบความสำเร็จ


การัมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของชาวเมืองซึ่งกำลังใกล้ตายคนแล้วตนเล่า


“พวกสัตว์ชั้นต่ำ! ข้าขอสาบานว่าวันนี้จะไม่มีใครรอดชีวิตกลับไปแม้แต่คนเดียว!”


พรึ่บบบบ—!


เปลวเพลิงสีส้มอมแดงรอบตัวการัมพลันทวีความร้อนแรงยิ่งกว่าในตอนแรก


เพียงพริบตา ทะเลเพลิงได้ปกคลุมทั่วทุกซอกมุมของกรุงคาราสึด้วยบรรยากาศร้อนระอุ


ราวกับทะเลแดงได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงและนำมาไว้เบื้องหน้าทุกคน


“ชิ…!”


กลุ่มผู้เล่นภายในอาณาจักรโชต่างพากันแสดงสีหน้าสิ้นหวัง


ไม่มีใครพบแสงสว่างแม้แต่คนเดียว


ไม่เว้นแม้แต่เฮล่า


หลังจากมอบยาปรุงเองให้สามพ่อแม่ลูกดื่ม เธอปิดตาสนิทอย่างเหน็ดเหนื่อย พร้อมกับโอบกอดพวกเขาไว้แนบแน่น


‘ทุกคนคงไม่รอดแล้ว…’


ขอให้คุณเคนดริกตระหนักถึงความผิดปรกติและรีบหนีไปได้ทัน…


ขณะเฮล่ากำลังเกิดความคิด เปลวเพลิงรอบตัวทวีความร้อนแรงจนเริ่มแสบผิว


“สัตว์ชั้นต่ำ…? ทำไมแกถึงต้องดูแคลนความเชื่อของพวกเขา แถมยังนำมาเหยียดหยันอย่างสนุกปาก…”


เสียงใครบางคนก้องกังวานทั่วท้องฟ้า


เนื้อเสียงหนักแน่นจนสยบเปลวเพลิงโดยรอบให้หยุดการลุกลามได้ชะงักงัน


“ค…คงไม่กระมัง?”


เฮล่ารีบแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าประหลาดใจ เฉกเช่นกลุ่มผู้เล่นในละแวกใกล้เคียงทุกคน


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


ประจุไฟฟ้าเข้มข้นจากพลังประกายอัสนีกำลังเผยให้เห็นร่างบุรุษอย่างเด่นชัด


ตามด้วย


“ดาบสลายทัพสองแสน”


เทคนิคเพ่งจิตสร้างคลื่นดาบเพียงหนึ่งเส้นเพื่อสยบทุกสรรพสิ่งในการมองเห็น


ทันใดนั้น ทะเลเพลิงของการัมซึ่งเคยปกคลุมรอบเมืองคาราสึ พลันมลายหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


“อะ…!”


ดวงตาเฮล่าพลันสั่นเทา · เธอมองเห็น


ราคาซึ่งชายบนท้องฟ้าต้องจ่าย เพื่อแลกกับการยกเลิกเวทมนตร์ทำลายเป็นวงกว้างของตัวตนระดับเทพ


ชายลึกลับกระอักเลือกคำใหญ่ แต่เขายังไม่ถอดใจ รีบปรี่ลงจากท้องฟ้าโดยมีฝ่ามือสีดำคอยพยุงไหล่ไม่ให้เสียงการทรงตัว


“เสมือนเทพ”


เพื่อสู้กับเทพ มันต้องกลายเป็นเทพ


“มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร”


“กริดดดดดด!!”


บึ้มมม!


บึ้มบึ้มบึ้ม!!


ประหนึ่งดวงดาราพุ่งชนกันและกันโดยไม่มีใครคิดยั้งมือ


ราวกับโลกทั้งใบสั่นสะเทือนทุกครั้งเมื่อการัมปัดทำลายคลื่นการโจมตีจากกริดซึ่งมีอานุภาพทรงพลังราวกับอุกกาบาต


“ม…ไม่นะ!”


กลุ่มผู้เล่นต่างพากันเสียดาย


ขณะกริดปลดปล่อยท่ารำดาบออกไปหนึ่งชุดและเปิดช่องว่าง ทุกคนเห็นการัมชักกระบี่อ่อนรอบเอวเตรียมโจมตีใส่กริดทีเผลอ


แต่ภาพในจินตนาการพวกมันกลับไม่เกิดขึ้น


การโหมโจมตีจากกริดยังไม่จบ


“มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร!”


“…!?”


“มายาร่ายรำทำลายล้างสังหาร!”


“อึก…!”


บึ้ม!!


บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!


การัม ผู้เคยคิดว่าตนคงปัดทำลายการโจมตีของกริดทิ้งได้ง่ายดาย ยามนี้กลับต้องรีบเปลี่ยนความคิดและเข้าสู่สภาวะป้องกันตัว


ดวงตาอันแดงก่ำซึ่งเคยจ้องมองภาพอาคารบ้านเรือนลุกไหม้อย่างสนุกจิต ยามนี้เพ่งสนใจแต่กริดเพียงผู้เดียว


“เหิมเกริมไปแล้ว!”


เปรี้ยะ! เปรี้ยะ!


เมื่อสัมผัสถึงออร่าของมังกรครามซึ่งกำลังห่อหุ้มร่างกาย การัมรีบสวมอาภรณ์อัสนีพร้อมกับพุ่งใส่กริดด้วยความเร็วสูงสุด


ขณะเห็นสัตว์ประหลาดสองตนเริ่มปะทะกันอีกระลอก เฮล่าและกลุ่มผู้เล่นด้านล่างต่างตระหนักถึงบทบาทของตัวเองทันที


“ร…รีบอพยพชาวเมืองเร็วเข้า!”


“โอ๊ส! พาทุกคนไปวังหลวง!”


— ความฝันและความหวังล้วนเกิดจากสองมือตนเองทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมากำหนดชะตาชีวิตของเรา —


เมื่อกลุ่มผู้เล่นได้เรียนรู้จากกริด พวกมันขจัดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตวันข้างหน้า


ซาทิสฟายกำลังจะถึงจุดจบ?


ถ้าอย่างนั้น ทุกคนช่วยกันเปลี่ยนก็สิ้นเรื่อง


ประธานใหญ่ลิมชอลโฮคงทราบล่วงหน้ามาตั้งแต่ต้นแล้ว


“เร็วเข้า!”


เฮล่าผู้มีบาดแผลไหม้กลางหลัง รวมถึงผู้เล่นอีกหลายคนซึ่งได้รับบาดเจ็บขณะเข้าไปช่วยเหลือชาวเมือง ต่างเร่งมืออพยพผู้คนไปยังวังหลวงโดยไม่ห่วงสุภาพหรือความเหน็ดเหนื่อย


และยังมีอีกหลายคนช่วยเข่นฆ่าชาวเมืองซึ่งยังคงหลงกราบไหว้การัมอย่างไม่ลืมหูลืมตา


เฉกเช่นกริด ทุกคนกำลังทำงานของตัวเอง


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,564
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. มันส์มากกก ซัดมันเลยกริดดด
    ขอบคุณนะครับแอดมิน

    ReplyDelete
  2. ข้าอยากเข้าไปมีส่วนร่วมในนั้น..

    ReplyDelete
    Replies
    1. +

      ราคาเครื่องจะแพงใหม?

      Delete
  3. ทำไมรู้สึกสะใจตอนที่อ่านว่า และมีอีกหลายคนช่วยเข่นฆ่าชาวเมืองซึ่งยังคงหลงกราบไหว้การัมอย่างไม่ลืมหูลืมตา5555

    ReplyDelete
    Replies
    1. มันจะช่วยลดพลังเทพในตัวดารัมบ้างมั้ยอ่ะ กริดมี10 ส่วนการัมเกือบจะเต็มแล้ว

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00