จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,178



บุตรแห่งเบริอาเช่ต้นตระกูลผู้สูงศักดิ์


ภายหลังได้กลายมาเป็นตำนาน


มหาจอมเวทอันดับหนึ่งนับตั้งแต่โลกมนุษย์เคยมีมา


บราฮัม·เฮชวาล


มันกลายเป็นดยุคแห่งปัญญาได้เพราะองค์ความรู้มหาศาลซึ่งถูกรวบรวมจากสัญชาตญาณการกระหายในความรู้ ผู้คนหลายล้านทั่วโลกต่างยกย่องในปัญญาอันไร้จุดสิ้นสุดของบราฮัม


ไม่มีใครกล้าปฏิเสธในเรื่องนี้


แต่มีหนึ่งประเด็นค่อนข้างน่าสนใจ


แทบไม่เคยมีใครพูดว่า ดยุคแห่งปัญญาอย่างบราฮัมเป็นคน ‘เฉลียวฉลาด’


บราฮัมทั้งโอหัง จองหอง และกระหายในความรู้จนไม่สนใจผลลัพธ์ตามมา หลายฝ่ายต่างเชื่อว่า ยิ่งบราฮัมมีปัญญามากเท่าใด สติของเขาก็ยิ่งถูกอารมณ์ครอบงำมากเท่านั้น


‘บัดซบ!’


ในวินาทีบราฮัมเสกหอกแสงทะลวงร่างยังบันทั้งสอง สีหน้ากริดเต็มไปด้วยความกระสับกระส่าย หาใช่ยินดีปรีดา


ชายหนุ่มยังคงไม่ลืม ก่อนจากมายังทวีปตะวันออก บราฮัมเคยให้สัญญาไว้ว่าอย่างไร


ฉันจะปกป้องบ้านและครอบครัวของนายเยี่ยงสุนัขผู้ซื่อสัตย์…


มันเคยกล่าวเอาไว้ทำนองนั้น


การติดตามกริดมายังทวีปตะวันออกถือเป็นสถานการณ์สุ่มเสี่ยง ไม่มีใครทราบถึงอันตรายและความแข็งแกร่งแท้จริงของศัตรู


เมื่อตระหนักว่าความตายของตนจะทำให้กริดเจ็บปวด บราฮัมจึงตัดสินใจอยู่บนทวีปตะวันตกต่อไปและคอยสนับสนุนผู้คนทางนี้


‘แล้วนายตามมาถึงนี่ได้ยังไง!!’


กริดถลึงตาจ้องบราฮัมปานจะกลืนกินเลือดเนื้อเสียให้ได้ มันไม่อยากจะชื่อว่าตนจะโมโหบราฮัมได้ถึงเพียงนี้ หลังจากอีกฝ่ายไม่ยอมทำตามคำมั่นสัญญาซึ่งเคยให้ไว้


ขณะเดียวกัน สองยังบันซึ่งถูกโจมตีทีเผลอ ถึงคราวลุกขึ้นยืนและพุ่งปรี่เข้าหาบราฮัมอย่างพร้อมเพรียง


“ชิ…!”


กริดซึ่งกำลังถูกความเจ็บปวดกัดกินทุกซอกมุมร่างกาย พยายามพยุงตัวด้วยแข้งขาสั่นเทา มันไม่สนความเจ็บปวดส่วนตัว หวังเพียงอย่างเดียวว่าจะใช้ชุนโปเข้าไปช่วยบราฮัม


แต่ชุนโปล้มเหลว


“คึ่ก! อั่ก!”


ทันใดนั้น เมื่อหมอกพิษถูกพ่นจากร่างบราฮัมอย่างเป็นปริศนา สองยังบันพลันอาเจียนออกมาเป็นเลือดพร้อมกับล้มลงไปนอนน้ำลายฟูมปาก


“…เห?”


กริดยืนตัวแข็ง สมองเต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ จริงอยู่ บราฮัมอาจเคยเป็นสุดยอดตำนานเหนือตำนาน แต่นั่นเป็นเรื่องราวในยุคสมัยรุ่งเรือง บราฮัมร่างปัจจุบันเข้าขั้นอ่อนแอ ส่วนสองยังบันนั้นเป็นครึ่งเทพ


โดยเฉพาะอาการ ‘ถูกพิษ’ สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับครึ่งเทพได้เลยในทางทฤษฎี


‘หรือพวกมันจะเป็นแค่ยังบันผู้ไม่ผ่านการทดสอบซือโหยว?’


ไม่น่าใช่


เมื่อมีตัวเปรียบเทียบอย่างการัมและฮันกยอล ค่าวิสัยทัศน์ของกริดช่วยยืนยันว่าสองยังบันมีระดับใกล้เคียงการัมมากกว่า


แต่กลับยังถูกพิษเล่นงาน…?


‘หรือว่า…’


เมื่อเกิดสมมติฐานข้อหนึ่ง กริดพลันขนลุก มันรีบตรวจสอบหน้าต่างรายละเอียดตัวละครของบราฮัมทันที


ชื่อ : บราฮัม·เฮชวาล

เผ่าพันธุ์ : แวมไพร์ผู้สูญเสียชีวิตอันเป็นนิรันดร์

คลาส : มหาจอมเวทในตำนาน

สมญานาม : ดยุคแห่งปัญญา

สมญานาม : ผู้เป็นตำนาน

สมญานาม : เจ้าแห่งมานา

สมญานาม : ผู้คืนชีพ

สมญานาม : ผู้ช่วงชิงเทวตำนาน

* ได้จากการปราบไฮดร้า สิ่งมีชีวิตซึ่งปรากฏตัวอยู่แทบทุกเทวะตำนานของโลกมนุษย์

(ในภายหลัง เทวตำนานทั้งหมดเกี่ยวกับไฮดร้าจะถูกเพิ่มเติมต่อท้ายว่า ‘ถูกสังหารโดยบราฮัม’)

* สามารถพัฒนาคลาสให้กลายเป็นเกรดมิธ

* เปิดใช้งานค่าสถานะพิเศษ ‘บารมีเทพ’

* เพิ่มพลังโจมตีและโจมตีเวทมนตร์อย่างมากเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตในเทวตำนาน

* เมื่อเผชิญหน้าสิ่งมีชีวิตในเทวตำนาน มีโอกาสปานกลางในการแผ่จิตสังหารสะกดข่ม

สมญานาม : ผู้ครอบครองถุงพิษไฮดร้า

* ผู้วิเคราะห์และหลอมรวมพิษของไฮดร้าให้เป็นหนึ่งเดียวกับมานา พิษชนิดดังกล่าวมีอานุภาพสังหารคนธรรมดาในพริบตา และสร้างความเจ็บปวดชั่วนิรันดร์ให้กับเทพ แม้ว่าจะไม่ทรงพลังเท่ากับพิษจากปากไฮดร้าโดยตรง แต่เวทมนตร์ชนิดนี้คือสุดยอดเวทพิษอันดับหนึ่งของโลกอย่างไรข้อกังขา

* เพิ่มความรุนแรงให้กับเวทพิษอย่างมาก อีกทั้งยังมีโอกาสมองข้ามค่าต้านทานพิษของศัตรูในอัตราสูง

เลเวล : 500 (▼)

พละกำลัง : 178 ความอดทน : 2,190

ความว่องไว : 607 สติปัญญา : 9,210

ความน่าเกรงขาม : 3,511 วิสัยทัศน์ : 5,943

พลังจิต : 7,800

* บราฮัมเป็นคนเรียนรู้เร็ว แม้เพิ่งจะได้รับร่างกายกลับคืนเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งร้อยปีก็ตาม เพิ่มอัตราได้รับค่าประสบการณ์ 2,000% จนกว่าจะมีเลเวล 600

….

* ตัวละครนี้ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา ยกเว้นกริดและครอบครัว ผู้เล่นอื่นนอกจากกริดหมดสิทธิ์เพิ่มค่าความสัมพันธ์


“…!!”


เลเวลบราฮัมเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งร้อยระดับภายในระยะเวลาแค่ไม่กี่วันได้ยังไง? นี่นายฆ่าทหารเก๊าส์ทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวเลยหรือ?


เมื่อพบความผิดปรกติในระดับเลเวลบราฮัม กริดรีบเลื่อนผ่านและได้อ่านสมญานามใหม่


‘ไฮดร้า…? หมายถึงไฮดร้าในคุกนรก?’


และเหนือสิ่งอื่นใด สมญานาม ‘ช่วงชิงเทวตำนาน’ ของบราฮัม มีระดับสูงกว่าสมญานาม ‘เศษเสี้ยวเทวตำนาน’ ของกริดอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง หลังจากอ่านจบ ชายหนุ่มพลันเกิดความยินดีปรีดาเหนือคำบรรยาย ความรู้สึกอันยากจะหาใครมาเข้าใจกำลังเอ่อล้นไปทั่วร่าง


‘เราไม่ได้อยู่ตามลำพัง… อีกแล้ว…’


ถึงจะไม่แสดงออก แต่ลึกๆ แล้วกริดค่อนข้างห่อเหี่ยวเมื่อต้องเดินทางท่องทวีปตะวันออกตามลำพัง เคยถึงชั้นฝันร้ายว่าจะไม่ได้พบใครอีกเลยในชีวิตนี้


แต่ในวินาทีปัจจุบัน ความกังวลทั้งหมดได้ถูกขจัดปัดเป่าจนหายเป็นปลิดทิ้ง อย่างน้อยมันก็ยังมีบราฮัม มิตรสหายผู้ไม่มีวันแยกจาก


ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเอง…


ราวกับบราฮัม ผู้กำลังจะได้เป็นเทวตำนาน เปล่งถ้อยคำเช่นนี้ออกจากปาก


ขณะกริดกำลังยืนสั่นเทิ้ม การัมรีบกระโจนเข้าหาบราฮัมราวกับกริดไม่ได้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย พร้อมกันนั้น มันแอบถือหอกสั้นด้วยมือซ้ายและนำไปซ่อนไว้ด้านหลัง


กริดพลันเย็นสันหลังวาบ เนื่องจากท่วงท่าในปัจจุบันของการัม คือสิ่งเดียวกับท่าไม้ตายซึ่งกริดต้องใช้เนตรมองทะลุของเมอร์เซเดสปัดทำลายอย่างยากลำบาก


“บราฮัม! อันตราย!”


ยังไม่ทันสิ้นเสียงเตือน


ฟ้าว!


การัมหายตัวไปโผล่ด้านหน้าบราฮัมด้วยความเร็วสุดน่าทึ่ง พร้อมกับซัดหอกสั้นจากด้านหลังเตรียมแทงในระยะประชิด


บราฮัมเผยสีหน้าตื่นตระหนก


การชักอาวุธลับออกมากะทันหันของการัม ได้ทำให้บราฮัมสูญเสียสีหน้าเยือกเย็นไปชั่วขณะ ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น การโจมตีอันไม่คาดฝันมักได้ผลเสมอหากศัตรูไม่ทันได้เตรียมใจ


ท่วงท่าเป็นแบบเดียวกับเมื่อครั้งโจมตีใส่กริดไม่มีผิดเพี้ยน การโจมตีสุดสมบูรณ์แบบซึ่งการัมเรียกว่าเป็นไพ่ตายของตน กำลังถูกปลดปล่อยใส่บราฮัมในระยะใกล้จนแทบหมดโอกาสหลบ


ฟุ่บ!


สุดยอดท่าโจมตีกำลังพุ่งเข้าหาบราฮัม


ด้วยพลังป้องกันอันน้อยนิดของคลาสมหาจอมเวท การถูกแทงด้วยหอกสั้นในระยะประชิดไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด


ในวินาทีเวทมนตร์บาเรียกำลังกางออก ปลายหอกการัมได้ทะลวงผ่านเข้ามาก่อนแล้ว


“สิ่งนี้เรียกว่าสามัญสำนึก หากพวกนักพรตหรืออะไรทำนองนั้นถูกตรึงมือเท้าไว้ พวกแกก็ไม่ต่างอะไรกับหุ่นไล่กา”


การัมว่างพอจะเทศนาให้บราฮัมฟัง


แต่ทันใดนั้น บราฮัมเริ่มเผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย ถึงจะกางบาเรียคลุมกายไม่ทันก็ตาม


เป็นรอยยิ้มสุดโอหังและทระนงตน ชนิดแม้แต่การัมก็เทียบไม่ติดในด้านนี้


“ผิดจากแพ็กม่าโดยสิ้นเชิง การเคลื่อนไหวของเจ้าช่างเถรตรงและซื่อบื้อ ยังบันเป็นพวกไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเลยหรือไง? ไม่สิ อาจแค่โง่”


“…?”


ทำไมเรื่องราวถึงโยงเข้าหาแพ็กม่าอีกแล้ว!


ขณะการัมกำลังหรี่ตา


“กรีซ” (Greece)


“เอิร์ธเบรก” (Earth Break)


“ไอซ์วอลล์” (Ice Wall)


“กีก้าไรเดน” (Giga Raiden)


แม้ร่างกายจะถูกหอกเสียบเข้าอย่างจัง แต่นั่นเป็นเพียงภาพลวงตา พร้อมกันนั้น เสียงของบราฮัมเริ่มดังก้องจากทุกทิศทางประหนึ่งมหาจอมเวทสามารถแยกได้สิบร่าง


นี่คือหนึ่งในวิธีใช้งานเวทตั้งเวลา


“…!”


เมื่อพื้นดินเริ่มสะเทือน การัมรีบกระโจนขึ้นไปในอากาศ แต่กลับถูกกำแพงน้ำแข็งล้อมดักหน้าดักหลังไว้ทุกทิศ ส่วนด้านบนเป็นสายฟ้าฟาดผ่า


ในทางทฤษฎี สายฟ้าสามารถถูกดูดซับได้โดยลมหายใจมังกรคราม แต่ท่ามกลางกำแพงน้ำแข็งล้อมรอบทุกทิศและเกิดสภาพแวดล้อมเย็นจัด มันเริ่มไม่มั่นใจว่าตนจะรับเวทสายฟ้าจากบราฮัมได้อย่างไร้รอยขีดข่วน


ลงเอยด้วย


ฟุ่บ!


การัมเห็นท่าไม่ดี จึงใช้ชุนโปหนีขึ้นท้องฟ้า


มันเพ่งมองลงมายังสนามรบเบื้องล่างอย่างตั้งใจ หมายค้นหาตัวบราฮัมให้พบ แต่จนแล้วจนรอดก็มิอาจระบุตำแหน่งของบราฮัมได้


ความเปลี่ยนแปลงเดียวก็คือ ผิวหนังของมันเริ่มรู้สึกแสบร้อนราวกับใกล้ไหม้เกรียมเต็มที


“…!”


เมื่อเห็นท่าไม่ดีอีกครั้ง การัมรีบใช้ชุนโปเพื่อหนีไปยังพื้นดินด้านล่าง


บึ้มมมมมมมม!!


แรงระเบิดลุกท่วมร่างการัมอย่างไร้ความปรานี แม้การัมจะใช้ชุนโปเสร็จภายในเสี้ยววินาทีหลังจากตัดสินใจ แต่ร่างของมันกลับยังมีสภาพไม่น่ามองเลยสักนิด


ผิวหนังภายใต้ซากเสื้อคลุมซึ่งถูกกริดฟันขาดยับเยิน ยามนี้ปรากฏรอยไหม้เกรียมหลายจุด ไม่หลงเหลือความน่าเกรงขามของสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพให้เห็น


การัมเพิ่งตาสว่างว่ามันดูแคลนบราฮัมเกินไป


“ไอ้ขี้ขลาด เก่งแต่ลูกไม้ตุกติก”


“ถ้าเป็นแพ็กม่า เจ้านั่นจะฉุกคิดว่าทำไมข้าถึงจงใจเปิดช่องว่าง และมันจะรอดพ้นจากกับดักได้ด้วยความรอบคอบเหล่านั้น ตอนนี้ข้าเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมแพ็กม่าถึงต้องข้ามทะเลแดงหนีไปยังทวีปตะวันตก คงเป็นเพราะมันไม่อยากทนหายใจร่วมกับพี่น้องสมองหมาแบบเจ้า…”


“ไอ้…!”


ดวงตาการัมพลันถมึงทึง


“ใช่แล้ว… ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเจ้า…!!”


บราฮัมเริ่มคำรามอย่างเดือดดาล


“…?”


“เป็นเพราะพวกเจ้าปล่อยให้ไอ้ระยำสารเลวแพ็กม่าหนีไปยังทวีปตะวันตกได้ ชีวิตของข้าก็เลยต้องฉิบหายอย่างทุกวันนี้! ทั้งหมดเกิดจากความโง่เขลาของพวกเจ้า!!”


“…??”


การัมเกิดความสับสน จึงไม่กล้าลงมือโจมตีเข้าไปอย่างบุ่มบ่าม ด้วยเหตุผลบางประการ มันกลับเห็นใจบราฮัมขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายกับมีอารมณ์ร่วมกันในบางประเด็น


หลังจากวิเคราะห์อีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน การัมเริ่มตระหนักถึงวิธีการต่อสู้ของบราฮัม


‘เป็นพวกจอมบงการสนามรบ มักใช้กลยุทธ์หลอกล่อให้ศัตรูเคลื่อนไหวเข้าไปติดกับดัก’


ถ้าอย่างนั้น แค่ไม่ติดกับดักก็สิ้นเรื่อง ต้องพยายามระวังไม่ให้ถูกชักจูงการกระทำ


‘ฉวยโอกาสชุนโปในจังหวะทีเผลอ จากนั้นก็ปิดบัญชีในพริบตา’


ตึกตัก! ตึกตัก!


การัมไม่ค่อยชอบความรู้สึกใจเต้นสักเท่าไร สำหรับมัน ความตึงเครียดไม่เคยเป็นผลดีในการต่อสู้ แต่ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ในฐานะครึ่งเทพ มันสามารถระงับความรู้สึกของตัวเองได้ไม่ยาก


ถึงไม่อยากยอมรับ แต่ระดับของบราฮัมอยู่นอกเหนือความคาดหมายไปมากทีเดียว ไม่เหลือช่องว่างให้ก่อความผิดพลาด โดยเฉพาะเมื่อได้รับบาดแผลจากกริดและฟินิกซ์แดง


ศัตรูแข็งแกร่งถึงขั้นว่า ต่อให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้


‘แล้วเจ้าพวกนั้นจะแกล้งเจ็บไปถึงไหน?’


ขณะยกย่องบราฮัมในใจ การัมชำเลืองมองพี่น้องยังบันทั้งสอง ผู้กำลังนอนสั่นกระตุกด้วยสีหน้าตื่นตระหนก


คนเหล่านี้ล้วนเป็นครึ่งเทพ ต่อให้พิษมีอานุภาพร้ายแรงเท่าคำสาปฟินิกซ์แดง แต่พวกมันก็สามารถสลัดออกได้ภายในระยะเวลาไม่นาน


แต่ทั้งสองกลับเอาแต่นอนแกล้งเจ็บ สิ่งนี้ทำให้การัมหัวเสียอย่างหนัก มันเชื่อว่าทั้งสองจงใจปล่อยให้ตนต้องแสดงฝีมือตามลำพัง


ขณะความอดทนของการัมใกล้ถึงขีดจำกัดและคิดจะหันกลับไปฆ่าพี่น้องไม่ได้เรื่องทั้งสองให้รู้แล้วรู้รอด


ฉัวะ!


สองยังบัน คนหนึ่งตัดแขนขวาทิ้ง ส่วนอีกคนตัดข้อเท้าซ้าย พวกมันรีบตะโกนมาทางการัม


“ถ่วงเวลาไว้ก่อน! ฮารังกำลังลาดตระเวนแถวอาณาจักรโชเหมือนกับพวกเรา เจ้านั่นกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า!”


“…อะไรนะ?”


สีหน้าการัมพลันดำมืด เมื่อยืนยันว่าพี่น้องทั้งสองต้องตัดแขนขาทิ้งจริง มันพลันตระหนักได้ทันทีว่าระดับของ ‘ชายผมเงิน’ เหนือกว่าจินตนาการตนไปอีกขั้น


อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งคนกำลังลนลานและแตกตื่นกว่าใครทั้งหมด


เป็นกริด


“แฮ่ก… แฮ่ก…”


ขณะได้บราฮัมช่วยยืดเวลา กริดฟื้นฟูค่าเรี่ยวแรงและพลังชีวิตกลับคืนมาได้บางส่วน ชายหนุ่มเริ่มสูดลมหายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้าพลางย่างกรายเข้าไปยังใจกลางสนามรบ


‘ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าบราฮัมจะชนะ’


กริดทราบนิสัยบราฮัมดี ชายคนนี้ไม่ชอบเอาชนะใครด้วยพลังทั้งหมดของตน แต่ชื่นชอบการได้เหยียบย่ำความรู้สึกคู่ต่อสู้จนแหลกละเอียดเป็นผุงผง หากยังจำกันได้ บราฮัมเคยสังหารทัลลอส ข้ารับใช้ยาธานลำดับหนึ่งผู้เป็นตัวแทนอาโมแรค ด้วยเวทมนตร์พื้นฐานเพียงอย่างเดียวจนทำให้อีกฝ่ายคับแค้นใจจนตาย


แต่สถานการณ์ปัจจุบัน การทำเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องฉลาด ในความคิดกริด บราฮัมควรเร่งมือจัดการกับการัมและสองยังบันให้เสร็จโดยเร็วด้วยเวทมนตร์ระดับสูง ก่อนยังบันนามว่าฮารังจะมาถึง แต่บุคคลซึ่งยังไม่เป็นเทวตำนานอย่างบราฮัม คงจัดการกับบุคคลระดับครึ่งเทพจำนวนสามในพริบตาไม่ได้แน่


แล้วยังจะมียังบันมาเพิ่มอีกหนึ่ง?


บราฮัมอาจไม่รอด…


[เทพฟินิกซ์แดงจะคืนชีพในอีก 39 นาที]


‘เราต้องเปิดช่องว่างให้บราฮัมหนี’


บราฮัมสามารถหนีไปได้ เพราะผู้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยคืนชีพฟินิกซ์แดงคือกริด ไม่มีเหตุผลให้บราฮัมต้องสละชีวิตอย่างไร้ประโยชน์


กริดย้ำเตือนตัวเอง สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในตอนนี้คือชีวิตของบราฮัม หาใช่การคืนชีพของฟินิกซ์แดง


“โนเอะ!”


ชายหนุ่มงัดโนเอะซึ่งหวังเก็บไว้เป็นไพ่ตายออกมาใช้ ตามด้วยการอัญเชิญภูตแสง แต่ขณะกำลังจะสั่งให้ภูตแสงออกไปใช้ทักษะ ‘แสงจ้า’ เพื่อทำให้สามยังบันตาบอด


“กริด”


บราฮัมมองสลับไปมาระหว่างกริดและยังบัน ก่อนจะพ่นถ้อยคำแฝงความนัย


“จุดแข็งของนายคือคุณธรรม”


“…?”


—!


ขณะกริดกำลังสับสนและไม่เข้าใจ เสียงร้องของสัตว์พลันดังมาจากทิศทางกำแพงชั้นนอกของกรุงคาราสึ เสียงดังกล่าวไม่เพียงคุ้นเคยเฉพาะกับกริด แต่ยังรวมถึงยังบันทุกคนด้วย


“ฟินิกซ์แดง?”


โดยมิได้นัดหมาย สายตาทุกคนหันไปจ้องกำแพงชั้นนอกของคาราสึอย่างพร้อมเพรียง และด้วยความช่วยเหลือของวิสัยทัศน์เหนือมนุษย์ ทุกคนจึงเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังอัญเชิญฟินิกซ์แดงโดยมีพวกพ้องยืนรายล้อมรอบตัว


เธอและพวกพ้องกำลังขัดขวางยังบันอีกหนึ่งคนซึ่งกำลังจะเข้ามาสมทบในกรุงคาราสึ


“บิดามารดาของแก! จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 50 ปีเท่านั้น!”


วิ้ง~


ไอ้บ้าบางคนตะโกนใส่หน้าฮารัง


มันกำลังจะบอกว่าฮานึล ตัวตนระดับเทพบรรพกาลผู้มีชีวิตมาตั้งแต่โลกถือกำเนิด จะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 50 ปีเท่านั้น?


เป็นแค่มนุษย์สามัญชน แต่กลับกล้าตัดอายุขัยของเทพเชียวหรือ?


จริงอยู่ ทุกคนทราบว่าถ้อยคำดังกล่าวไม่มีผลใดกับฮานึลแน่ แต่วาจาจาบจ้วงก็ไม่ควรได้รับการให้อภัย


ปึด!


การัมและยังบันคนอื่นต่างขบกรามแน่น ความสนใจซึ่งเคยเพ่งอยู่กับบราฮัมเพียงผู้เดียว บัดนี้ได้ถูกโอนถ่ายไปยังชายเสียสตินามว่าฮิวรอยในจุดห่างไกลออกไป


“กล้าเมินกันหรือ?”


บราฮัมซัดเวทมนตร์ใส่การัมซึ่งหันหลังให้


“ปล่อยไว้ไม่ได้… อั่ก?”


ฮารัง ผู้ควรเข้าไปรวมกลุ่มกับการัมและอีกสองคน แต่ถูกฮิวรอยดึงความสนใจไว้เสียก่อน กลับต้องชะงักฝีเท้ากะทันหันเนื่องจากถูกยิงโดยวิถีธนูอันคมกริบของจิสึกะ


“เป็นไง? เจ็บล่ะสิ? การโจมตีของมนุษย์แสนต่ำต้อยรู้สึกเจ็บมากเลยใช่ไหม!”


“ไม่ต้องทำเป็นดึงหน้า! เพื่อนของฉันทุกคนล้วนแข็งแกร่งกว่าฉัน พวกแกจะได้เจ็บตัวกว่านี้อีกหลายเท่า! คึฮ่าฮ่า! อีก 50 ปีอย่างลืมจัดงานศพให้พ่อแม่แกด้วย!”


“เบาหน่อย จิสึกะ ฮิวรอย อีกฝ่ายเป็นถึงเทพเชียวนะ อย่างน้อยก็ควรสำรวมไว้บ้าง”


“ยังทำตัวป่าเถื่อนเหมือนเคย อย่างเธอคงเป็นได้แค่คู่ขามากกว่าคู่แต่งงาน ผู้ชายเขาไม่อยากได้ผู้หญิงปากจัดเป็นภรรยาหรอกนะ”


“พูดเหมือนเธอแต่งงานกับเขาแล้ว?”


สิบวีรชนซึ่งแยกย้ายกันไปหาประสบการณ์และฝึกฝนในแบบของตัวเอง ยามนี้กำลังยืนรายล้อมจิสึกะ ไม่ใช่เรื่องปรกติเลยสักนิด กับการต้องเสียเวลาข้ามทะเลแดงก่อนงานแข่งนานาชาติเริ่มขึ้นไม่นาน


แต่ทุกคนก็ล้วนเต็มใจด้วยเหตุผลเดียวกัน


เพื่อช่วยกริด


เมื่อได้เห็นกริดเดือดร้อนจากเนื้อหาระหว่างการเขียนบทกวี ไม่ว่าใครจะอยู่แห่งหนไหน แต่ทั้งหมดต่างมุ่งหน้ามายังทวีปตะวันออกโดยปราศจากความลังเล


“ก็อดกริด! พวกเรามาช่วยแล้ว!!”


เมื่อพีคซอร์ดแหกปากตะโกน การต่อสู้ก็เข้าสู่บทใหม่ของสงครามทันที


กริดสัมผัสได้ทันทีว่า


‘อีกไม่นานก็คงจบ…’


ฟินิกซ์แดงจะคืนชีพ และอาณาจักรโชกลับมาร่มเย็นเฉกเช่นในอดีต


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,567

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/


Comments

  1. ขนลุก​รัวๆ

    👍👍👍👏👏👏

    ReplyDelete
  2. ตำนาน เทวตำนาน และผู้ที่จะกลายเป็นเทวตำนาน

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00