จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,167



[เขามองเห็นเธอแสดงสีหน้าอันแน่วแน่ แม้ว่าภัยอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้]


แต่ไหนแต่ไร ถ้าเป็นข้อความโลก ครอเกลจะเป็นพระเอกเสมอ


ในฐานะท้องฟ้าช่วงสามปีแรกของซาทิสฟาย ครอเกลสำเร็จภารกิจลับก่อนใคร ครอบครองสมญานามหายาก และยังซุ่มดำรงตำแหน่งลับอย่าง ‘หัวแถว’ โดยไม่เปิดเผยข้อมูล


เมื่อครอเกลนำผู้เล่นคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ ทุกครั้งเมื่อข้อความระบบระบุถึง ‘บุคคลนิรนาม’ , สิ่งนี้จะมีความนัยว่าครอเกลไปโดยปริยาย


อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังของซาทิสฟาย กริดได้ไล่ทำลายสถิติครอเกลหนแล้วหนเล่าจนกระทั่งความสำเร็จเริ่มเทียบเคียง


ผลงานของกริดทั้งน่าทึ่งและน่าตื่นตาตื่นใจในเวลาเดียวกัน ทำเอาผลงานสมัยอดีตครอเกลเริ่มมัวหมอง


ไม่เหมือนกับช่วงแรก ยุคหลังของซาทิสฟายอุดมไปด้วยผู้เล่นแข็งแกร่ง ฉะนั้น การยึดครองข้อความโลกไว้คนเดียวจึงไม่ใช่เรื่องง่าย


แน่นอน สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะมองความสำเร็จในอดีตครอเกลเป็นเรื่องด้อยค่า


สมญานามหลากหลายชนิดซึ่งสามารถหาครอบครองได้ง่ายและมีทั่วไปในปัจจุบัน ถ้าย้อนกลับไปหลายปีก่อน ครอเกลคือผู้ครอบครองเพียงหนึ่งเดียวจากสองพันล้าน


ไม่ว่าจะครอเกลหรือกริด


ผู้คนล้วนมองว่าสุดยอดทั้งคู่


“กริดเขียนบทกวีอีกแล้วสินะ”


“ฉันแอบได้ยินว่า ทางโบสถ์โดมิเนี่ยนกำลังวุ่นวายมาก เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ”


“กริดกำลังกวาดล้างวิหารยาธาน?”


“เป็นแบบนั้นได้ก็ดี พวกระยำนั่นทำให้ฉันเก็บเลเวลได้ไม่สะดวก”


บทกวีลำดับ 4 ของกริดกำลังตกอยู่ในความสนใจจากคนทั่วโลก


ใครหลายคนนึกเสียดาย เนื่องจากพวกมันไม่ทราบตำแหน่งปัจจุบันของกริด


ผู้คนยังไม่ลืมบทกวีลำดับ 1, ซึ่งกริดเขียนขึ้นท่ามกลางหุบเขาไทเลอร์


ใครหลายคนต้องการสัมผัสบรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนั้นอีกสักครั้ง


การได้เห็นกริดเขียนบทกวีเต็มสองตา การได้ประจักษ์ภาพเคลื่อนไหวชัดเจน ย่อมสร้างอรรถรสในการรับชมซาทิสฟายได้ถึงขีดสุด


แต่น่าเสียดาย บทกวีหมายเลขสอง สาม และสี่ของกริดล้วนถูกเขียนในจุดอับสายตา


ทุกคนทำได้เพียงจินตนาการจากตัวอักษร


จริงอยู่ เท่านี้ก็มากพอจะกระตุ้นให้ต่อมความตื่นเต้นทำงาน แต่ย่อมไม่เท่าการได้เห็นทุกสิ่งด้วยตาตัวเองแน่นอน


“อ…เอ๋?”


ชาร์ลสวีล ผู้เล่นเลเวล 197, บุคคลธรรมดาแสนจืดชืดซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามริมข้างทาง


ขณะชาร์ลสวีลกำลังรับประทานอาหารกับพวกพ้องอย่างเอร็ดอร่อย มันเผลอทำส้อมหลุดมือด้วยใบหน้าประหลาดใจสุดขีด


“เป็นอะไรไป? ทำไมถึงทำหน้าโง่แบบนั้น”


“ลืมปิดแก๊สอีกแล้วหรือ”


“ม…ไม่ใช่…”


“…?”


“ก…กริด… กริดคนนั้น”


“กริดอะไร? พูดออกมาเร็วเข้า!”


เพื่อนของชาร์ลสวีล ผู้ต้องการเพ่งสมาธิกับบทกวีของกริด เริ่มออกอาการหัวเสีย


ชาร์ลสวีลเริ่มเสียงดัง


“ก…กริดเขาขอยืมอาวุธจากฉัน!”


“…เฮ่อ”


จะล้อเล่นก็ให้มันมีขอบเขตกันหน่อย…


พวกพ้องชาร์ลสวีลจ้องมองด้วยสายตาเย็นชาแกมเคลือบแคลง


แน่นอน เจ้าตัวเริ่มหงุดหงิด


“ฉันพูดจริง! ถ้าไม่เชื่อก็ดูนี่!”


ชาร์ลสวีลลุกพรวดจากเก้าอี้ ก่อนจะชักดาบออกมาและใช้มือกำแน่น


<ดาบยาวค่อนข้างดี>


อาวุธเกรดแรร์เลเวล 160, รูปลักษณ์อาจดาษดื่นตามชื่อของมัน แต่ประสิทธิภาพนั้นรับประกันว่าไม่ธรรมดา


หากวัดเฉพาะพลังโจมตีและค่าความคงทนเพียงสองสิ่ง ตัวเลขจะสูงกว่าอาวุธในระดับเดียวกันมากพอสมควร


สิ่งนี้คือหนึ่งในสมบัติสำคัญซึ่งชาร์ลสวีลใช้โอ้อวดใครต่อใครเสมอ


ไม่เพียงประสิทธิภาพของมันจะค่อนข้างดี


แต่รายละเอียดไอเท็มยังระบุว่าสร้างจาก ‘ช่างตีเหล็กนิรนาม’ , ซึ่งทุกคนทราบในภายหลังว่าเป็นฝีมือของกริด


ชาร์ลสวีลภูมิใจกับการมีไอเท็มฝีมือกริดไว้ในครอบครองมาก


“มีใครวางยาในซุปของชาร์ลสวีล… เห?”


ดวงตาเหล่าของพวกพ้อง ซึ่งกำลังจ้องดาบในมือชาร์ลสวีล พลันสั่นเทาอย่างหยุดไม่อยู่


สืบเนื่องมาจาก ดาบตรงหน้าพลันหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาพร้อมกับเสียง ‘ซู่ว’


ชาร์ลสวีลรีบโพล่ง


“เห็นไหม! พวกนายเห็นไหม! ฉันให้กริดยืมดาบ! คึฮ่าฮ่าฮ่า! กริดยืมดาบของฉัน!”


เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกซาทิสฟาย


“ขอยืมอาวุธ?”


“นั่นมันออกจะ…”


[ผู้เล่น ‘กริด’ ต้องการยืม ‘+7 ดาบกริดรุ่นผลิตจำนวนมาก’ หากท่านตอบตกลง ‘+7 ดาบกริดรุ่นผลิตจำนวนมาก’ จะกลายเป็นไอเท็มของ ‘กริด’ นาน 2 นาที]


[ผู้เล่น ‘กริด’ ต้องการยืม ‘+8 คันศรใหญ่’ หากท่านตอบตกลง…]


[ผู้เล่น ‘กริด’ ต้องการยืม ‘+6 ค้อนบดขยี้’ …]


ผู้เล่นหลายพันคนกำลังเผชิญหน้าต่างข้อความระบบในลักษณะเดียวกัน


ต่างละคนครอบครองอาวุธหลากหลายประเภท ต่างเกรด ต่างเลเวล แต่ทุกคนล้วนมีหนึ่งสิ่งร่วมกัน นั่นก็คือ อาวุธทั้งหมดถูกสร้างจากฝีมือกริดโดยตรง


บางคนใช้เป็นอาวุธหลัก เช่นชาร์ลสวีล และบางคนซื้อเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นสะสม แต่ทั้งหมดก็ได้รับข้อความไม่ต่าง


[ท่านจะให้ผู้เล่น ‘กริด’ ยืมหรือไม่?]


‘ใครมันจะให้ยืม!’


อยากให้ฉันตายหรือไง…


ผู้เล่นแต่ละคนย่อมกำลังเผชิญสถานการณ์แตกต่าง บ้างกำลังกินอาหารเหมือนชาร์ลสวีล แต่อีกหลายคนกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์ดุเดือด, กำลังปราบบอส หรือกำลัง PK


หมายความว่า กริดไม่มีทางยืมอาวุธจากทุกคนสำเร็จได้เลย


แน่นอน มีบางกลุ่มยังคอยรอดูท่าที เนื่องจากตนไม่ได้รีบร้อนใช้งานอาวุธ ขณะเดียวกันก็ยังไม่มั่นใจสถานการณ์สักเท่าไร


‘กริดเนี่ยนะจะขอยืมอาวุธเรา?’


กริดเป็นท้องฟ้าระดับใด แล้วพวกตนเป็นบุคคลชนชั้นไหน เหตุใดถึงประสงค์จะยืมใช้ไอเท็มเกรดแรร์ของตน?


หลายคนเริ่มความหวาดระแวง


และบางส่วน


‘ทำไมต้องให้ยืมด้วย?’


หลายคนหันหลังให้โดยไม่ไยดี


ท่าทีตอบสนองเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก


โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายกำลังจะเดือดร้อนสักเพียงใด แต่การให้ยืมอาวุธสำคัญโดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน มันก็ออกจะสุ่มเสี่ยงเกินไปสักหน่อย


เพียงเพราะครอบครองอาวุธฝีมือกริด ไม่ได้แปลว่าพวกมันต้องเทิดทูนกริดเสมอไป


จากบรรดาไอเท็มฝีมือกริดทั้งหมด ระดับสูงสุดจะอยู่กับตัวกริดเอง ระดับรองลงมาจะอยู่กับสมาชิกโอเวอร์เกียร์และอัศวิน และระดับต่ำสุดคือเกรดค้าขายในตลาดประมูล


ไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่า ผู้ใช้งานอาวุธกริด ไม่จำเป็นต้องชื่นชอบ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกริดเลยสักนิด


ส่งผลให้ หลายต่อหลายคนตอบปฏิเสธทันที


แต่ยังก็มีหลายคนยินดีให้ยืม


คนกลุ่มนี้ตระหนักถึงความพิเศษของเหตุการณ์ จึงให้ยืมโดยไม่คิดมาก แม้จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือชื่นชอบกริดเลยก็ตาม


“ต้องเป็นคำขอร้องสำหรับบทกวีแน่…!”


“ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วนี่”


“ไม่รู้สิน้า~ แต่ฟังดูน่าสนุกจังเลย!”


ซู่ว!


ซู่วววว!


ศาสตราหลายพันชิ้นเริ่มเลือนหายไปจากมือเจ้าของคนปัจจุบัน เพื่อเดินทางข้ามโลกไปหาบิดาผู้สร้างพวกมันขึ้นมา


***


กลศึกภาพรวมของลอเอล, กลยุทธ์เฉพาะหน้าของปิอาโร่, วินัยอัศวินของเมอร์เซเดส, ความเข้มแข็งของทหารโอเวอร์เกียร์ และความฮึกเหิมของกองทัพออร์ค


โดยไม่ผิดคาด กองทัพผสมระหว่างออร์คและโอเวอร์เกียร์คว้าชัยชนะมาตลอดทางจนกระทั่งบุกประชิดปราสาทเก๊าส์


ฝ่ายต่อต้านเหลือเพียงกำลังพล 50,000 นายและราชาของพวกมัน เนเมซิส


‘ดยุคโกลด์ฮิตทรยศพวกเราหรือ…’


เมื่อศัตรูยกทัพประชิดป้อมปราการด่านสุดท้าย โกลด์ฮิตกลับหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา


จริงอยู่ ราชาเนเมซิสได้เตรียมใจจะตายไว้นานแล้ว แต่ความพ่ายแพ้โดยมิอาจขัดขืน ได้ทำให้จิตใจของมันเกิดความหดหู่


อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มจะแสดงความอ่อนแอให้เหล่าทหารเห็นมิได้ มันตัดสินใจตะโกนปลุกด้วยน้ำเสียงสุดห้าวหาญ


“นี่คือศึกสุดท้ายของพวกเรา ขอให้พวกจงต่อสู้โดยไม่สำนึกเสียใจภายหลัง! จงแสดงให้โลกได้ประจักษ์ว่า ทหารเก๊าส์แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวมากเพียงใด!”


“โอ๊สสสสสส!!”


ราชาเมเนซิสกล่าวปลุกระดมดังกึกก้อง


เหล่าทหารในสภาพปัจจุบัน ย่อมไม่หวั่นเกรงว่าศัตรูจะมีจำนวนมากกว่านับสิบเท่าหรือไม่


ทุกนายเตรียมใจตายไว้แล้ว การต่อสู้นี้มีเพื่อให้โลกให้เห็นถึงเกียรติยศของบ้านเกิดเมืองนอน


“โอ๊ส!!… เอ๋?”


ทหารเก๊าส์ ผู้เคลื่อนพลตามหลังราชาเนเมซิสและเหล่าขุนพล พลันต้องชะงักฝีเท้าโดยไม่ทันได้ตั้งตัว


เหตุผลก็คือ เนเมซิสสั่งหยุดทัพกะทันหัน


ทำไมถึงได้ปุบปับนัก?


ขณะทหารเก๊าส์กำลังสับสน เสียงเคลือบเวทมนตร์ของราชาเนเมซิสพลันดังกังวานไปทั่วสนามรบ


“อยากให้ยอมจำนนหรือ… เข้าใจแล้ว หากการสละเพียงหนึ่งชีวิตสามารถช่วยให้ทหารหลายหมื่นอยู่รอดปลอดภัย… กองทัพเก๊าส์ทุกนายจงฟังเรา! นับแต่นี้ไป พวกเจ้าต้องกลายเป็นพลเมืองโอเวอร์เกียร์!”


ฉัวะ!!


ราชาเนเมซิสทำการอัตวินิบาตกรรม


ราชาคนหนุ่มไฟแรง ผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวถึงขั้นยอมสละชีวิตเพื่อแลกกับความสุขของประชาชนและทหาร ได้มอบศีรษะของตนแก่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในวาระสุดท้ายของชีวิต


“…หือ”


ปิอาโร่พลันขมวดคิ้วเมื่อประจักษ์ฉากเหตุการณ์ตรงหน้า


พร้อมกันนั้น จอบสั้นและเคียวสั้น ซึ่งถูกส่งไปให้ราชาของตนหยิบยืมชั่วคราว เริ่มกลับมาปรากฏบนฝ่ามือปิอาโร่อีกครั้ง


เฉกเช่นอัศวินเอกด้านหลังทุกคน ศาสตราของพวกมันหวนกลับคืนมาทีละคนสองคน


ใช่แล้ว


เมื่อราชาเนเมซิสเห็นแม่ทัพและเหล่าอัศวินขุนพลโอเวอร์เกียร์ยกทัพเข้ามาประชิดโดยไม่พกพาอาวุธ จึงทึกทักตีความไปเองว่า อีกฝ่ายมีเจตนาประนีประนอมและอาจไว้ชีวิตทหาร แต่ต้องแลกมาด้วยศีรษะของราชา


ทว่า ความเป็นจริงกลับตรงข้าม


เหล่าแม่ทัพและอัศวินเอกของโอเวอร์เกียร์ล้วนใช้งานอาวุธฝีมือการสร้างของกริด จึงต้องส่งให้ราชาของตนหยิบยืมชั่วคราว


การฆ่าตัวตายของราชาเนเมซิส รวมถึงการยอมศิโรราบของกองทัพเก๊าส์ ทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดส่วนตัวของเนเมซิสเองทั้งสิ้น


ปิอาโร่หันไปออกคำสั่งกับทุกคน


“…เพื่อเกียรติยศของพวกเขา ห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด”


“…ขอรับ”


***


[สายฝนยุทธภัณฑ์ของเขา ถือกำเนิดจากผู้ศรัทธาในตัวเขา และตกลงมายังดินแดนของอดีตทวยเทพ]


[การเห็นคนบริสุทธิ์ถูกเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ได้กระตุ้นความทะเยอทะยานภายในจิตใจให้ตื่นขึ้น]


[“เทวตำนานของฉันจะนำพาโลกใบนี้เดินไปบนเส้นทางอันเหมาะสม”]


[“ฝนศาสตราเมื่อครู่คือเครื่องพิสูจน์ว่าฉันคนนี้คู่ควร!”]


ขณะบทกวีกำลังถึงจุดสำคัญ


“เทวตำนาน? คลาสเทวตำนาน?”


ทั่วโลกกำลังโกลาหล


[บุคคลนิรนามเขียนบทกวีลำดับ 4 เสร็จสิ้น!]


[รางวัลพิเศษจะถูกมอบให้แก่ผู้เล่นทุกคนซึ่งมีส่วนช่วยทำให้บทกวีครั้งนี้สมบูรณ์แบบ]


“บ…บ้าน่า…!”


“เจ๋งเป้ง!”


“บัดซบ!!”


ในวินาทีบทกวีจบลง บางกลุ่มแสดงอาการยินดีปรีดา และบางกลุ่มเศร้าโศกเสียใจ


อารมณ์อันหลากหลายกำลังถาโถมผู้คน


หากใครให้กริดยืมอาวุธ มันผู้นั้นจะฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข แต่หากใครไม่ให้ มันผู้นั้นกำลังสำนึกเสียใจไปชั่วชีวิต


ชาร์ลสวีลอยู่ในกลุ่มแรก


เมื่อบทกวีจบลงและอาวุธถูกส่งกลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง ชายหนุ่มรีบใช้มือกำไว้แน่นถนัด


[ศักยภาพของอาวุธท่าน ‘ดาบยาวค่อนข้างดี’ , ซึ่งมีโอกาสกลับคืนสู่มือผู้สร้าง ‘กริด’ เป็นเวลาสองนาที กำลังเบ่งบานถึงขีดสุด พลังโจมตีและค่าความคงทนเพิ่มขึ้น 10%, เอฟเฟคดังกล่าวแสดงผลได้แค่ครั้งเดียวต่ออาวุธหนึ่งชิ้น]


[ศักยภาพของ ‘ดาบยาวค่อนข้างดี’ ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้]


[ท่านคือส่วนหนึ่งของบทกวีลำดับ 4, อัตราการปรับตัวในทุกภูมิประเทศเพิ่มขึ้น 10%, หากอยู่ในดินแดนแพงเจียจะได้รับแต้มสถานะเพิ่มขึ้นอย่างมาก]


[ถ้าท่านได้ฟังนักกวีพเนจรขับขานบทกวีลำดับ 4, ท่านจะได้รับบัฟชนิดพิเศษ]


***


“…?”


จุดคืนชีพของกริดคือไรน์ฮาร์ท


แต่หลังจากถูกการัมฆ่า ชายหนุ่มกลับมิได้ลืมตาตื่นในไรน์ฮาร์ทตามครรลอง


กระท่อมขนาดเล็ก ฝุ่นเขรอะ วิวทิวทัศน์รอบตัวแปลกประหลาดและไม่คุ้นเคย


เราอยู่ไหน?


ในทางทฤษฎี หากเสียชีวิตโดยปราศจากจุดคืนชีพ ระบบจะส่งตัวไปเกิดใหม่ภายในเมืองหรือวิหารใกล้สุด


แต่นอกจากกริดจะไม่ถูกส่งกลับไรน์ฮาร์ทแล้ว แม้แต่วิหารหรือเมืองก็ยังไม่ใกล้เคียง


เมื่อยืนยันว่าบริเวณรอบตัวไม่มีสัญญาณชีพของผู้คน กริดตัดสินใจเพ่งสมาธิสำรวจข้อมูลตัวละครล่าสุดอย่างละเอียด


สูญเสียค่าประสบการณ์ 40.6%, ค่าความคงทนของหน้ากากหนังลด 1หน่วย และสูญเสียดาบยาวอุดมคติ


นับว่าเสียหายใหญ่หลวง


หากสูญเสียอาวุธ กริดสามารถสร้างทดแทนได้ทุกเมื่อ หากสูญเสียค่าประสบการณ์ กริดสามารถฟาร์มคืนได้ตลอดเวลา แต่การสูญเสียความคงทนหน้ากากหนัง สิ่งนี้มีมูลค่ามหาศาล


‘ถ้ารู้ว่าต้องตาย เราควรรีบถอดหน้ากาก’


ขณะชายหนุ่มพึมพำ มันหวนนึกถึงความรู้สึกในวินาทีได้สะบั้นใบหูการัมจนขาดไปหนึ่งข้าง


“ดยุคแห่งคุณธรรม…”


สุดยอดทักษะเข้าขั้นขี้โกง ใช้งานโดยอาศัยสายสัมพันธ์ระหว่างอาวุธทั้งหมดซึ่งตนเคยสร้างไว้ในอดีต


ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีทักษะช่วยเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับผู้คนได้ง่ายขึ้น


สมญานามระดับดยุค ทรงพลังเกินกว่าจินตนาการกริดไปไกลมาก


เดิมที ชายหนุ่มเคยคิดว่าเอฟเฟคจากสมญานาม ‘ดยุคแห่งปัญญา’ ซึ่งมาพร้อมคลาสรองมหาจอมเวท นั้นยอดเยี่ยมเหนือคำบรรยายแล้ว


‘แต่ในความเป็นจริง สมญานามดยุคแห่งปัญญาของเรา ห่างไกลจากสมญานามบราฮัมหลายขุม’


ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น กริดมิได้ครอบครองสมญานามดยุคแห่งปัญญาด้วยลำแข้งตัวเอง แต่เป็นการสืบทอดมาจากบราฮัม ความรู้ในสมองกริดจึงไม่ใช่ความรู้ทั้งหมดของดยุคแห่งปัญญา


แต่ดยุคแห่งคุณธรรมและดยุคแห่งไฟนั้นแตกต่าง ทั้งสองเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของตัวกริดเอง


“หน้าต่างตัวละคร”


หลังจากฆ่าฮันกยอล เปอร์เซ็นต์ค่าประสบการณ์ของกริดสูงถึง 80 กว่า การหายไป 40.6% จึงยังช่วยให้เลเวลไม่ลดลง


ขณะเดียวกัน เมื่ออ่านถึงโบนัสแต้มสถานะ ‘สัดส่วนทองคำ’ , กริดพลันผุดแนวคิดใหม่


‘แต้มสถานะชนิดอื่นจะมีสัดส่วนทองคำเหมือนกับพละกำลังและความว่องไวไหม?’


ขณะชายหนุ่มเตรียมคำนวณ


วิ้ง!


“…!?”


ณ มุมหนึ่งของกระท่อม วัตถุบางชนิดกำลังส่องแสงระยิบระยับ สอดประสานกับลมหายใจฟินิกซ์แดงและคันศรฟินิกซ์แดงในช่องสัมภาระกริดอย่างพร้อมเพรียง


▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 4 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,556
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ขอบคุณ​มาก​ครับ​😊🙏

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00