จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 845



   กริดก้าวร้าวเพราะคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง  กริดขลาดเขลาและมัวเมาไปกับพลังมหาศาลที่ครอบครอง
   กริดเป็นพวกที่เห็นประโยชน์ตรงหน้าดีกว่าอนาคตที่สดใสในระยะยาว  ความป่าเถื่อนของกริดผสมผสานเข้ากับความโอหังจนน่ารังเกียจ  

   ชายคนนี้คือเดนมนุษย์ที่น่าขยะแขยง
   นั่นคือสิ่งที่เคียร์มองกริด

   ปัจจุบัน  แม้กริดอาจครอบครองพลังอำนาจมหาศาลด้วยความบังเอิญ  แต่อีกไม่นาน  เขาต้องเสียมันไปแน่
   เคียร์มั่นใจว่าไอ้งั่งเช่นกริดไม่มีทางอยู่ค้ำฟ้าได้ในโลกซาทิสฟายที่มีแต่การแก่งแย่ง

   แต่แล้ว  ความจริงคืออะไรกันแน่?
   ร่างกายเคียร์แข็งทื่อไปทุกส่วนเมื่อได้เห็นบันนี่บันนี่
   
   มันถูกบีบบังคับให้มองกริดในแง่มุมใหม่

   ‘หมอนี่ไม่ได้โง่…?’

   ไม่สิ  อาจไม่ใช่ความคิดของกริด  
   ต้องเป็นแผนของลอเอลแน่  ชายผู้เป็นมันสมองในการก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์

   หากมีลอเอลคอยกุมบังเหียน  
   กริดแทบไร้จุดอ่อน

   หลังจากตระหนักได้ว่า  กริดมาที่นี่เพื่อพรากทุกสิ่งไปจากมัน  เคียร์ดำดิ่งสู่ความสิ้นหวังและหดหู่  มันเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าเจ็บแค้น

   “แกต่างกับฉันตรงไหน?”

   “…?”

   "อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ฆ่าพวกเอลฟ์  จนกระทั่งแกยื่นมือเข้ามาสอด!  แต่กลับกัน  ดูสิ่งที่แกทำเข้าสิ  แกฆ่าทหารหลายร้อยภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที!  ว่ายังไงล่ะ?  ไหนบอกว่าชีวิต NPC ทุกคนมีค่า?  หลังจากที่ฉันลักพาตัวเอลฟ์  แกสอดมือเข้ามาขวางโดยอ้างหลักความถูกต้อง  แต่ฆาตกรอย่างแกต่างจากฉันตรงไหน?"

   “อ้อ…เรื่องนี้เองหรือ”

   “…?”

   หลายปีก่อน  ขณะกริดทำภารกิจสังหารปาสคาล  ผู้ท้าชิงตำแหน่งสันตะปาปาชั่วร้ายที่คิดคดและลอบติดสินบน  ในครั้งนั้น  เขาได้สังหารโสภณีบางคนไปพร้อมกับเหล่าอาวุโสของโบสถ์ที่ใช้พวกเธอเป็นโล่กำบัง

   ไม่สิ  ย้อนกลับไปไกลกว่านั้น
   ในวันแรกที่ได้พบข่าน  เพื่อช่วยข่านแล้ว  กริดตัดสินใจฆ่านักเลงท้องถิ่นสี่คนโดยไม่ลังเล

   “ฉันมีบรรทัดฐานของตัวเอง  ฉันไม่เคยพูดว่าชีวิต NPC ทุกคนมีค่า”

   แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า  กริดคือหนึ่งในบุคคลที่เคารพชีวิต NPC มากที่สุดของโลก
   ชายหนุ่มชี้นิ้วไปยังชาวเมืองเพนันที่หลบซ่อนตัวอยู่บนถนน

   “ดูนั่น…ฉันไม่ได้ฆ่าคนพวกนั้น”

   “แล้วมันต่างกันยังไง!”

   การวิจารณ์แง่ลบหรือพูดให้กริดสำนึกผิด  เคียร์ไม่เคยทำสำเร็จ
   กริดมักอาศัยความเห็นแก่ตัวและหน้าด้านมองผ่านไปอย่างง่ายดายเสมอ

   สติของเคียร์เริ่มขาดผึ่ง  มันตะคอกใส่หน้ากริดด้วยสายตาแดงก่ำ

   “แกคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้ารึไง?  ทำไมชีวิตของคนอื่นต้องถูกแกตัดสิน!?”

   กริดขมวดคิ้ว

   “แกพูดเรื่องอะไร?  แกต่างหากที่คิดว่าตัวเองคือพระเจ้า”

   “...?”

   “ไม่ใช่รึไง?  แกเคยแสดงให้เห็นหลายครั้งแล้ว  การจับเอลฟ์เป็นทาสคือหนึ่งในนั้น  แกทำไปเพราะคิดว่าตัวเองคือพระเจ้า”

   “ไม่เห็นจะเกี่ยว!”

   “ถูกต้อง…ไม่เห็นจะเกี่ยว  แล้วแกดึงเรื่องศีลธรรมมาเกี่ยวกับความแค้นของพวกเราทำไม?”

   “…”

   ขณะเคียร์ขมวดคิ้ว  กริดเลื่อนดาบขึ้นมาจ่อที่ลำคอมันพลางเอ่ยปาก
   
   “หยุดความรุนแรงได้แล้ว”

   “???”

   กริดกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร?
   เคียร์ได้แต่ฉงน
   อีกฝ่ายเป็นฆาตกรสังหารหมู่ที่คร่าชีวิตทหารเพนันไปมากมาย  แต่กลับบอกให้ตนหยุดความรุนแรงเนี่ยนะ?

   “ฝ่ายที่ต้องพูดแบบนั้นควรเป็นฉันต่างหาก…”

   “แกกำลังหมายถึงอะไร?  ทั้งหมดที่ฉันทำไปก็เพื่อปกป้องตัวเอง  ฝ่ายแกต่างหากที่โจมตีไม่เลิก  ถ้าแกหยุด  ฉันก็จะหยุด  จะไม่มีทหารต้องตายไปมากกว่านี้”

   ‘ไอ้ระยำนี่!’

   กริดอาศัยกล้องถ่ายทอดสดดึงความดีความเข้าใส่ตัวจนหยดสุดท้าย  แสร้งทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำแสนอ่อนแอ  

   ไอ้ระยำที่ชื่อกริด
   หมอนี่น่ารังเกียจเข้าไส้

   กริดมอบโอกาสสุดท้ายให้เคียร์
   
   “ยอมแพ้ซะ  แล้วฉันจะยอมกลับแต่โดยดี  ไม่พรากเมืองนี้ไปจากแก”

   “…”

   ไม่พรากแค่เมืองสินะ
   หรือก็คือ  นอกจากเมืองแล้ว  กริดคิดพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเคียร์

   มันมิได้ประหลาดใจนัก  กริดมาที่นี่โดยมีจุดมุ่งหมายแน่วแน่ตั้งแต่ต้น

   “…คิดจะฮุบกิจการฉันด้วยใช่ไหม?”

   “ถูกต้อง”

   “ล้ำเส้นเกินไปแล้ว!  หากสักวันหนึ่ง  โลกได้รับรู้ในสิ่งที่แกทำกับฉัน  ทุกฝ่ายจะวิจารณ์แกในแง่ลบ  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะถูกโดดเดี่ยวให้อยู่ตัวคนเดียว!”

   “ฉันรู้…”

   เกิดปัญหาขึ้นมากมายนับตั้งแต่กริดเริ่มก่อตั้งอาณาจักร
   
   มีหลายฝ่ายที่ต้องการใช้พลังอำนาจข่มเหง  และอีกหลายฝ่ายที่ร่วมมือกันเพื่อหวังกำจัดโอเวอร์เกียร์ให้สิ้นซาก  สิ่งเหล่านี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว  และกำลังจะเกิดขึ้นอีกหลายหนในอนาคต  

   การพัฒนาตัวเองและกอบโกยผลประโยชน์ให้มากที่สุด  ย่อมดีกว่านิ่งเฉยและรอให้ความฉิบหายมาเยือน

   “การปล่อยแกไว้ถือเป็นเรื่องอันตราย  คงดีกว่าหากทำลายแกที่นี่และพรากทุกสิ่งทุกอย่างไป  ชนิดที่แกมิอาจฟื้นฟูกลับมาเป็นภัยได้อีก  ฉันตัดสินใจในมุมมองของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  ของแค่นี้เข้าใจรึเปล่า?”

   “…”

   เคียร์ไม่ตอบโต้  
   ถ้อยคำของกริดไม่มีส่วนใดผิด
   เพราะแต่ไหนแต่ไรมา  เคียร์มักทำเช่นนี้กับผู้อื่นเพื่อมิให้อีกฝ่ายย้อนกลับมาทำร้ายตนในวันหลัง
   
   แต่อย่างน้อยที่สุด
   มันยังต่อการค้าขายต่อไปภายในโลกซาทิสฟาย

   หลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน  เคียร์ได้แสดงปัญญาของพ่อค้าอันดับหนึ่ง

   “เข้าใจแล้ว  ฉันจะยอมทำตามที่แกต้องการ”

   “โฮ่?”

   “เพียงแต่ว่า…”

   “แต่ว่า?”

   “แกต้องสัญญา  ว่าหลังจากนี้จะรามือจากฉัน  จะไม่แย่งชิงหรือบ่อนทำลายธุรกิจที่ฉันสร้างขึ้นใหม่ในอนาคต”

   ในเมื่อความสูญเสียคือสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยง  มันก็คิดไม่รั้งไว้ให้เหนื่อยเปล่า  
   แต่อย่างน้อย  มันต้องการให้กริดรับประกันว่า  ในอนาคต  มันจะไม่ถูกก่อกวนธุรกิจการค้าอีกเป็นหนที่สอง

   เรื่องในวันนี้
   …ก็ให้มันจบที่ตรงนี้

   กริดครุ่นคิดเล็กน้อย  
   จากนั้นก็ตอบตกลง   

   “เข้าใจแล้ว  มาร่างสัญญากัน”

   อันที่จริง  กริดคาดไม่ถึงว่าเคียร์จะยอมจำนนง่ายดายขนาดนี้

   เขาเคยคิดว่า  ต้องใช้เวลาและการข่มขู่สักพักใหญ่เพื่อให้เคียร์ยอมเซ็นสัญญามอบธุรกิจ  แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน  เขาก็จะตามราวีเคียร์อย่างเลือดเย็นโดยไม่ลดละ  จนกว่ามันจะใจอ่อนและต้องการหลุดพ้นจากขุมนรกของการถูกตามล่า

   แต่เคียร์กลับยินยอมแต่โดยดีผิดพาด  เพื่อแลกกับอนาคตทางการค้า

   ‘ถ้าหมอนี่เริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น  มันคงหมดสิทธิ์เป็นภัยคุกคามต่อโอเวอร์เกียร์’

   กริดลดดาบลง  จากนั้นก็หันไปจ้องหน้าหมอผีที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก  

   สายตาเต็มเปี่ยมด้วยจิตสังหาร
   ใบหน้าของกริดบิดเบี้ยวราวกับปีศาจ
   ความโกรธแค้นปริมาณมหาศาลถูกเผยให้เห็นผ่านทางแววตา   

   “พวกแกคิดจะทำอะไร?  ไม่ดิ้นรนขัดขืนสักหน่อยรึไง?”

   ปลายดาบถูกชี้ไปยังบุคคลหนึ่ง   
   แรงเกอร์คลาสหมอผีผู้โด่งดัง  เดอลู  หนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้ข่านตาย
   
   เดอลูเอ่ยปาก

   “…ฆ่าฉันซะ!”

   กริดขมวดคิ้ว
   กลุ่มผู้เล่นหมอผีที่แข็งแกร่ง  พวกมันกลับยอมจำนนโดยไม่ขัดขืน  
   ถึงขั้นมอบชีวิตของตัวเองให้

   ‘วางแผนอะไรไว้?’

   ซากศพนับน้อยบนพื้นจะระเบิดขณะเข้าเดินเข้าไปใกล้พวกมันรึเปล่า?

   เดอลูอธิบายกริดที่มีสีหน้าเคลือบแคลง

   “สาเหตุที่พวกเราบุกรุกไรนฮาร์ทในวันนั้น  ทั้งหมดเป็นเพราะคำสั่งเวอราดิน  แต่ตอนนี้  ไอ้บัดซบเวอราดินได้ทอดทิ้งพวกเราไปแล้ว  มันไม่ใช่คนของอิมมอทัลอีก”

   “…”
   
   “ฉันไม่คิดปัดความรับผิดชอบ  ขอยอมรับว่าตัวเองคือหนึ่งในคนที่ก่อเรื่องในไรนฮาร์ท  และมิได้คิดจะขอความเห็นใจจากนาย  เพียงแต่  พวกเรามีเรื่องอยากขอร้อง…”

   “ขอร้อง?”

   “ได้โปรดไล่ตามเวอราดินและสังหารมันให้ได้  พลังของพวกเราไม่เพียงพอจะหยุดยั้งชายคนนั้น”

   “…ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?”

   “หลังปราสาทจะมีประตูลับลงไปยังทางระบายน้ำใต้ดิน  มันอาศัยเส้นทางนั้นเพื่อหลบหนี”

   “ตกลง”

   ฉึก

   กริดให้สัญญาพร้อมกับใช้ดาบอัสนีฯ เชือดคอเดอลู

   เมื่อเห็นเดอลูตายไป  เหล่าหมอผีที่ยืนอยู่ไม่ห่างต่างพากันหน้าถอดสี  แต่ก็ไม่มีใครคิดขัดขืนหรือลงมือโจมตีกริด

   ชายหนุ่มหันไปชำเลืองมอง

   “พวกแกก็มีส่วนร่วมในการบุกรุกไรนฮาร์ทใช่ไหม?  อย่าได้คิดว่าความแค้นของฉันจะจบแค่นี้เชียว”

   “…”

   กริดเริ่มมั่นใจว่าอิมมอทัลถูกแอ็กนัสทอดทิ้งโดยสมบูรณ์  เพราะมันไม่ปรากฏตัวทั้งในวังหลังของแมรี่และที่นี่
   
   ไม่สิ…
   แอ็กนัสไม่ได้อยู่ที่ไรน์ฮาร์ทในวันนั้นด้วยซ้ำ 

   สีหน้าหมดอาลัยตายอยากของเหล่าขุนพลหมอผีบ่งบอกอย่างดีว่า  ในปัจจุบัน  อิมมอทัลไม่ลงเหลือผู้นำอีกต่อไปแล้ว

   ‘เจ้าบ้านั่นหายหัวไปไหน…? ช่างเถอะ’

   กริดบัฟพลิ้วไหวพร้อมกับรีบมุ่งหน้าไปยังทางระบายน้ำใต้ดิน

   *** 

[ ท่านเสียชีวิต ]

   ทาโร่ต์ถูกกริดโจมตีจากมุมไม่คาดฝันขณะใช้ร่างมืด
   มันถูกดาบแสงปริศนาแทงเข้าใส่จนเกิดอาการมึนงง  ตามด้วยพายุรัศมีดาบปะทะร่าง
   และจบลงที่  การเดินผ่านไปโดยไม่แยแสของกริด

   ทาโร่ต์คืนชีพใหม่อีกครั้ง
   บรรยากาศรอบตัวคละคลุ้งด้วยหมอกพิษที่สร้างความวิงเวียน  รวมถึงบ่อลาวาร้อนระอุ
   
   ทาโร่ต์ถูกส่งมาคืนชีพในขุมนรก

   “บัดซบ…”

   มันมิได้ตื่นตูมนัก 
   ทาโร่ต์เคยเสียชีวิตขณะอยู่ในบัฟร่างมืดมาแล้ว  ขณะล่าบอสใหญ่สุดแกร่ง

   แต่ถึงอย่างนั้น  ขุมนรกก็มิใช่สถานที่น่าอภิรมณ์   แม้เผ่าพันธุ์ของมันจะเป็นครึ่งอสูรก็ตาม

   บรรยากาศรอบตัวทั้งน่าขยะแขยงและอึดอัด  สร้างความรู้สึกขนลุกขนพองให้ทาโร่ต์ไม่น้อย  

[ ท่านส่งข้อความกิลด์ล้มเหลว  ขุมนรกถูกตัดขาดจากโลกกึ่งกลาง ]
[ ท่านส่งข้อความกิลด์ล้มเหลว  ขุมนรกถูกตัดขาดจากโลกกึ่งกลาง ]
[ ท่านล้างบัฟ ‘ร่างมืด’ ไม่สำเร็จ ]

   “…ชิ!”

   บัฟของทาโร่ต์อยู่ได้นานถึงสิบห้านาที
   ประสิทธิภาพของทักษะจากครึ่งอสูรแท้ย่อมสูงกว่ากริดที่ใช้ร่างมืดผ่านแหวนดาร์คบัส

   มันควรทำยังไงดี?

   ‘เราถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว’

   กริดผู้ยิ่งใหญ่สามารถเล่นงานมันในพริบตา  สิ่งนี้ยังคงตราตรึงในใจทาโร่ต์ไม่เลือนหาย  มันไม่เคยรู้มาก่อนว่า  ทั้งที่มีร่างมืดเหมือนกัน  แต่ฝีมือของตนและกริดกลับแตกต่างราวฟ้ากับเหว

   ‘เราเป็นเพียงคากคกในบ่อ’

   แม้จะได้ลิ้มรสความจริงแสนขื่นขม  แต่ทาโร่ต์กลับลุกโชนด้วยไฟการต่อสู้  แทนที่จะท้อแท้อย่างสิ้นหวัง

   ‘ถ้าเรายังห่างกริดมากขนาดนี้  หมายความว่าตัวเรายังพัฒนาได้อีกหลายขั้น  กริดเอ๋ย…ครั้งหน้าที่ได้สู้กัน  ฉันขอสาบานว่าจะไม่เหมือนคราวนี้แน่นอน’
   
   ทาโร่ต์เปรียบดั่งวัชพืช
   ไม่ว่าจะถูกเหยียบย่ำมากเพียงใด  มันจะยืนหยัดงอกเงยกลับมาได้ทุกครั้ง   

   สิ่งเหล่านี้เกิดเคยขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนหล่อหลอมให้ทาโร่ต์เป็นตัวมันเช่นทุกวันนี้

   “เก็บเลเวลกับสัตว์อสูรฆ่าเวลาดีกว่า”

   มันไม่ควรปล่อยเวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์
   ทาโร่ต์ย่อมทราบดี  ตัวมันจะถูกส่งกลับไปโลกกึ่งกลางอีกครั้งเมื่อร่างมืดหมดลง

   ระหว่างรอก็ขอเก็บเลเวลกับสัตว์อสูรให้สาแก่ใจ
   
   แต่เมื่อพิจารณาสถานการณ์โดยรอบอย่างที่ถ้วน  มีสิ่งหนึ่งที่น่าประหลาด
   ไม่มีสัตว์อสูรอาศัยในบริเวณนี้แม้แต่ตัวเดียว  ราวกับถูกใครบางคนกำจัดไปไม่นาน

   ทาโร่ต์เดินสำรวจอย่างระมัดระวังพลางชักดาบตั้งท่าป้องกัน
   จนกระทั่ง  มันได้พบกับแผ่นหลังของชายคนหนึ่งที่ยืนห่างออกไปไกล

   เส้นผมยุ่งเหยิง  
   เสื้อผ้าสกปรกมอมแมม
   
   ทาโร่ต์เริ่มเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด  ราวกับมันเคยเห็นแผ่นหลังแบบนี้มาก่อนจากที่ใดสักแห่ง

   เหมือนกับ…
   แผ่นหลังของกริดที่เดินผ่านไปหลังจากฆ่ามันเสร็จ

   ‘เป็นไปไม่ได้แน่…’

   นี่มันเห็นภาพหลอนงั้นหรือ
   ทาโร่ต์ส่ายศีรษะอย่างรุนแรง

   ขณะเดียวกัน  ชายปริศนาคนดังกล่าวเริ่มหันหลังเหลียวมองมัน

   “คำถาม…แกคือมนุษย์ใช่ไหม?”

   “…?!!”

   หัวใจทาโร่ต์หล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อได้เห็นใบหน้าของชายปริศนาเต็มสองตา 

   “ก…กริด!!?”

   ไอ้บัดซบกริดลงทุนตามลงมาในนรกเพื่อฆ่ามันเชียว?

   เพียงพริบตา  คมดาบในมือกริดได้พุ่งสัมผัสกับหว่างคิ้วขณะทาโร่ต์ยืนอึ้ง
   มันไม่มีทางหลบพ้นด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   ฉึก

   “แค่ก!”

[ ท่านเสียชีวิต ]
[ ท่านเสียชีวิตสองครั้งซ้อนภายในเวลา 24 ชั่วโมง  ท่านถูกบังคับล็อกเอาต์ ]

   ดาบของกริดยังคงแทงซ้ำใส่ร่างที่กลายเป็นแสงเทาหลายหน  
   ทาโร่ต์เสียชีวิตในพริบตา  ทั้งที่มันเพิ่งคืนชีพได้ไม่นาน

   เป็นฝีมือกริดทั้งสองครั้ง!

   ทาโร่ต์ให้สาบานกับตัวเองอย่างหนักแน่นทันที  นับแต่นี้ไป  ต่อให้มีมีดคมจ่อลำคอหรือเงินมหาศาลวางกองตรงหน้า  แต่มันขอไม่เป็นศัตรูกับกริดไปชั่วชีวิต

   และในวันนี้...

[ หัวข้อ : วันนี้ฉันได้พบกริด ]
ผู้เขียน : โฮคุโอะ
เนื้อหา : หากใครบังอาจลองดีกับกริดเข้า  หมอนั่นจะตามฆ่าจนถึงสุดขอบนรก!!
นี่ไม่ใช่คำเปรียบเปรย  แต่เป็นเรื่องจริง!!

   กระทู้หนึ่งกำลังสร้างความฮือฮาในเวปไซต์ชื่อดังที่เกี่ยวข้องกับซาทิสฟาย   
   แน่นอน  ความเห็นในกระทู้เต็มไปด้วยการประชดประชันและแดกดัน   

===  มีใครบ้างที่ไม่รู้เรื่องนี้?  ทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับอิมมอทัลหมดแล้ว  กริดไม่ใช่พ่อพระสักหน่อย  เขาคือซาตานจากขุมนรก  และคงไม่แปลกหากเขาจะตามไล่ฆ่านายไปจนถึงสวรรค์

=== มีคำกล่าวที่ว่า  ถ้าอยากลงนรก  ให้ลองไปหาเรื่องกริดดู

=== แกเป็นชาวเพนันใช่ไหม?  ไอ้พวกสวะที่ลอบโจมตีกริดขณะถ่ายทอดสด

===  เพนันเป็นเมืองที่ประหลาดมาก  กริดกำลังถ่ายทอดสดการเที่ยวชมวิวทิวทัศน์รอบเพนัน  แต่เขากลับถูกโจมตีโดยไม่บอกกล่าวสักคำ

ความเห็นผู้เขียน :  ไม่ใช่แบบนั้น  ฉันหมายความว่า  กริดตามลงมาฆ่าฉันในนรกด้วย!  ขุมนรกของจริงเลยล่ะ!  แล้วเพนันแปลกยังไง?  ไอ้บัดซบกริดเป็นฝ่ายบุกรุกเมืองก่อนต่างหาก!

===  คนที่เสียสติคงเป็นแกมากกว่า  กริดแค่เดินชมวิวตามลำพังพร้อมกับถ่ายรายการสด  เขาไม่ได้นำกองทัพติดตัวไปด้วยสักหน่อย  แบบนั้นจะเรียกว่าบุกรุกเพนันได้ยังไง?

ความเห็นผู้เขียน :  ( ถูกลบเนื่องจากได้รับรายงานความไม่เหมาะสม )

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,257
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. โอ้ ทาโร่ คงจะช็อตหนักมาก

    ReplyDelete
  2. 😁
    สนุก​มาก​เลยครั​บ​ผม​
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​👍

    ReplyDelete
  3. สรุปลงวันไหนบ้างครับ

    ReplyDelete
  4. 555🤣🤣 วางแผนมาดี

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00