จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 844



    อันเดดคือสัตว์อัญเชิญที่แข็งแกร่ง

    แม้พื้นฐานด้านสติปัญญาจะไม่สูง  แต่การปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดโดยไม่ไต่ถามหรือลังเลถือเป็นจุดแข็งที่หมอผีทุกคนชื่นชอบ

    ข้อดีอีกหนึ่งก็คือ  พวกมันไม่มีอารมณ์ความรู้สึก  ไม่หวาดกลัว  ไม่เสียขวัญแม้ศัตรูจะแข็งแกร่งกว่ามาก

    เช่นนั้นแล้ว  ด้านความว่องไวและความคงทนที่ต่ำ  สิ่งนี้ไม่เป็นปัญหาหรือ?
    คำตอบคือ  จุดอ่อนข้างต้นจะถูกชดเชยเมื่ออันเดดพัฒนาเป็นระดับสูงขึ้น
    
    โครงกระดูกนักรบจะเชื่องช้ากว่ามอนสเตอร์ในระดับเดียวกันไม่มาก  แถมค่าความคงทนก็ยังเพิ่มขึ้นจากโครงกระดูกธรรมดาหลายเท่า

    โครงกระดูกนักรบคือสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสำหรับดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับผู้เล่นที่มีเลเวลใกล้เคียงกัน
    
    เมื่อคำนึงว่า  คลาสหมอผีระดับสองและสามสามารถอัญเชิญโครงกระดูกนักรบได้หลายตน  สิ่งนี้คือปัจจัยที่ให้หมอผีกลายเป็นคลาสต่อสู้ซึ่งแข็งแกร่งระดับแนวหน้า

    แต่นั่นเป็นเรื่องราวเฉพาะด้านการเก็บเลเวลและ PK เท่านั้น

    หากเป็นการล่าบอส  โครงกระดูกแสนอ่อนแอจำนวนมากจะมิอาจทำอันตรายใดกับบอสใหญ่สุดแกร่งได้เลย  
    มอนสเตอร์ระดับบอสมักมาพร้อมค่าพลังโจมตีและป้องกันมหาศาล  มิใช่สิ่งที่โครงกระดูกนักรบจะใช้จำนวนเข้าสู่แล้วได้รับชัยชนะ

    “…พวกเรายอมแพ้ดีไหม”

    ขุนพลอิมมอทัลต่างหมดกำลังใจสู้เมื่อเห็นกริดสำแดงพลังระดับบอสใหญ่  
    พวกมันล้วนมั่นใจว่า  ด้วยพลังที่มี  อิมมอทัลมิอาจระคายเคืองกริดได้แม้แต่ปลายเล็บ

    “ทำไมอิมมอทัลถึงไร้ฝีมือขนาดนี้  แค่สวะคนเดียวก็จัดการไม่ได้รึไง?”

    หมอผีเลเวล 245 ‘คาครอน’  มันตัดพ้อด้วยร่างกายสั่นระริก

    คาครอนก้มหน้าก้มตาเล่นซาทิสฟายอย่างหนักไม่แพ้คนอื่น  แต่กลับมิอาจเอาชนะกริดที่ถูกรุมโดยศัตรูนับพันได้
    คาครอนเกิดความหงุดหงิดและสิ้นหวัง  คำสบถหยาบคายถูกพ่นจากปากโดยไม่รู้ตัว

    ทว่า  ไม่มีสมาชิกอิมมอทัลคนใดเลยที่เห็นด้วยกับคำพูดคาครอน
    
    เดอลู  หมอผีลำดับเจ็ดของโลก  หันมาต่อว่าคาครอน

    “พล่ามอะไรออกมา?  อย่างนายมีสิทธิ์ปริปากบ่นด้วยหรือ?  เลเวลน้อยที่สุดในบรรดาพวกเรา  ไอเท็มสวมใส่ก็ห่วยสุด  หมายความว่า  ความตายของนายสูญเสียน้อยที่สุดในหมู่พวกเรา  ทำไมนายถึงไม่พยายามให้หนักกว่านี้?  ทุ่มเวลา  ทุ่มเงิน  และทุ่มสมาธิให้มากกว่าคนอื่น  ไม่ใช่เอาแต่โทษว่าเป็นความผิดคนอื่น”

    “…” 

    “ถ้ายังพอจะมีสมองอยู่บ้างก็เงียบไปซะ  เลิกบ่นไม่เป็นเรื่องได้แล้ว”

    ถ้อยคำและความโกรธแค้นของเดอลูได้กล่าวเหมารวมถึงตัวมันเองด้วย

    เดอลูเฝ้ามองกริด  ครอเกล  และแอ็กนัสมาเป็นเวลานานแล้ว
    มันจึงทราบดี  ว่าเหตุใดผู้เล่นระดับท็อปถึงสามารถรั้งตำแหน่งได้โดยไม่ถูกโค่นล้ม
    
    มิใช่ความอดทนในการเก็บเลเวลซ้ำซากจำเจ
    มิใช่ความมั่งคั่งร่ำรวยที่สามารถครอบครองไอเท็มเกรดสูง
    และมิใช่ความโชคดีที่บังเอิญถูกหวยโดยไม่คาดฝัน

    ทั้งหมดที่กล่าวมายังไม่พอ

    ความลับที่แรงเกอร์ระดับท็อปสามารถรักษาอันดับและตำแหน่งไว้ได้  ปัจจัยสำคัญที่สุดคือ ‘ทักษะในการทำภารกิจลับ’

    ซาทิสฟายขึ้นชื่อในด้านความอิสระและนอกกรอบ  ภารกิจลับจำนวนมากอยู่ไม่ไกลจากตัวผู้เล่นทุกคน  อยู่ที่ว่าเขาเหล่านั้นจะบรรลุเงื่อนไขให้ภารกิจลับปรากฏสู่สายตาตนเองด้วยวิธีใด  
    
    สิ่งนี้คือพรสวรรค์ที่แรงเกอร์ระดับท็อปทุกคนครอบครอง

    ใช่แล้ว  มันคือสิ่งที่เดอลูไม่มี

    ตัวมันไม่รู้เลยว่า  ตนต้องคุยกับ NPC คนใด  ที่ไหน  และเมื่อไร  
    ในสถานการณ์แบบใด  NPC เหล่านั้นถึงจะยอมมอบภารกิจลับมาให้ทำ 
    ต้องเลือกตอบคำถามแบบใด   NPC เหล่านั้นถึงยอมเปิดเผยเรื่องราวที่เชื่อมกับเนื้อหาเบื้องลึกของซาทิสฟาย  

    เดอลูไม่ทราบเลยสักนิดเดียว
    มันไม่มีพรสวรรค์มากพอจะใช้ความอิสระของซาทิสฟายให้เกิดประโยชน์

    “…หมอนี่”

    เดอลูจ้องมองกริดโดยปราศจากความอาฆาต  แม้กริดเพิ่งจะเผาร่างเวอราดินและกองทัพเพนันเป็นเถ้าถ่านไปเมื่อครู่  

    ในสายตาเดอลูมีเพียงความชื่นชมและยอมรับในตัวกริด

    “หมอนี่ฉลาดขนาดไหนกันแน่…”

    กริดคืออัจฉริยะที่เกิดมาเพื่อเล่นเกมอย่างไม่ต้องสงสัย  การได้ทำภารกิจลับครั้งแล้วครั้งเล่า  สิ่งนี้มิอาจเกิดจากความบังเอิญเพียงอย่างเดียว
    
    เดอลูยอมแลกทุกสิ่งที่มันมี  เพื่อให้ได้ครอบครองพรสวรรค์การเล่นเกมระดับเดียวกับกริด

    “เฮ่อ…”

    สถานการณ์ตรงหน้าสิ้นหวังเกิดกว่าจะมองหาทางออก  เดอลูทำได้เพียงถอนหายใจยาวพร้อมกับยอมรับชะตากรรม

    ขณะเดียวกัน  เสียงข้อความส่วนตัวจากเวอราดินได้แว่วเข้ามาในหู

เวอราดิน  >>  ขอโทษที่ด่วนตายโดยไม่ทันทำอะไร  ตอนนี้ฉันอยู่ที่จุดคืนชีพ  กำลังจะกลับไปช่วยเดี๋ยวนี้  นายใช้ทหารของเคียร์เป็นโล่มนุษย์ไปก่อน  พวกเราต้องทำลายกริดให้จงได้!

    “ฮะฮะ!”

    เดอลูถึงกับหลุดขำ
    มันแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยพลางตอบกลับเวอราดิน

เดอลู >>  นายเนี่ยนะจะกลับมาช่วยพวกเรา?  คนอย่างนายเนี่ยนะ?

เวอราดิน >>  พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?

เดอลู >>  นายหวาดกลัวการตายเหนือสิ่งอื่นใด  พวกเราทุกคนรู้หมดแล้ว  ว่านายอยู่ระหว่างภารกิจที่ไม่สามารถตายได้บ่อยครั้ง

เวอราดิน >>  พวกนายกำลังเดาสุ่ม  มีผู้เล่นคนใดบ้างที่ชื่นชอบความตาย?  ฉันก็แค่ไม่ต้องการให้ตัวเองตายบ่อยครั้งเท่านั้น  นายกำลังพูดถึงภารกิจอะไรกันแน่?

เดอลู >>  นายเปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่กลับจากทวีปตะวันออก    

เวอราดิน >>  …นายมั่นใจได้ยังไง? 

เดอลู >>  คิดว่าพวกเราโง่รึไง?  สายสืบของฉันรายงานมาว่า  นายเตรียมทิ้งทุกคนและหลบหนีด้วยทางออกลับใต้ดิน! 

เวอราดิน >> … 

เดอลู >>  ฟังจากน้ำเสียง  นายคงถึงทางออกที่ว่านั่นแล้วใช่ไหม?

    เพนันมีอีกหนึ่งทางออกลับ  เป็นทางระบายน้ำที่อยู่ใต้ปราสาทของเคียร์  

    เวอราดินมีแผนจะหลบหนีจากเมืองโดยหวังให้ขุนพลอิมมอทัลช่วยถ่วงเวลาให้
    ทว่า  มันกลับต้องผงะเมื่อเดินมาถึงหน้าทางออกลับดังกล่าว

    ผู้เล่นคลาสหมอผีอันดับสอง ‘บุลเล็ต’ กำลังยืนเด่นตระหง่านขวางทางเวอราดินไว้
    บุลเล็ตผู้สุขุมอ่อนโยนตลอดเวลา  ยามนี้กำลังเปี่ยมด้วยโทสะ

    “ฉันเลือกติดตามเพราะยอมรับในฝีมือของนาย  รวมถึงความสำเร็จมากมายในอดีตที่นายสร้างขึ้น  แต่สุดท้าย  พวกเราเป็นได้เพียงหมากที่นายใช้แล้วทิ้งเองหรือ?”

    “…แล้วยังไง?  นายคิดจะให้ฉันปฏิบัติต่อพวกนายแบบไหน?  คนพิเศษอย่างฉันกับคนธรรมเยี่ยงพวกนาย!” 

    เวอราดินกล่าวด้วยท่าทีแสนโอหัง  
    จากนั้นก็ตอกลิ่มลงไป

    “ฉันรวบรวมพวกนายเพียงเพราะอยากให้แอ็กนัสยอมรับ  ฉันแค่ต้องการอยู่ใกล้แอ็กนัสเพื่อเฝ้ามองความเสียสติของมันในระยะประชิดเท่านั้น!”

[ พลเมืองอาณาจักรฮวาน (1) ]
★ ภารกิจลับ ★
    ท่านมีคุณสมบัติพื้นฐานในการเข้าสอบซือโหยว
    เงื่อนไขประการแรก  จงก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ทั่วไป
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ (1) : ห้ามเสียชีวิตจนกว่าจะมีเลเวลถึง 400
* หากอยู่ระหว่างภารกิจ  ท่านจะได้รับโบนัสค่าสถานะจำนวนมากทุก 20 เลเวลที่เพิ่มขึ้น
* หากท่านเสียชีวิต  โบนัสค่าสถานะทั้งหมดจะสูญหายไปตลอดกาล
* หากท่านเสียชีวิต  เงื่อนไขสำเร็จภารกิจจะเปลี่ยนเป็นข้อ (2)
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ (2) : ห้ามเสียชีวิตเกิน 5 ครั้งจนกว่าจะมีเลเวลถึง 400 (จำนวนครั้งการตาย : 4/5)
* นี่คือโอกาสสุดท้าย  หากท่านล้มเหลวในเงื่อนไขข้อ (2)  ท่านจะหมดสิทธิ์เข้าร่วมการทดสอบซือโหยวตลอดกาล

    เวอราดินไม่เหลือโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว

    มันถูกแอ็กนัสที่แสร้งเสียสติทอดทิ้ง  แม้ยังไม่แน่ชัด  แต่แอ็กนัสก็ไม่เหลียวแลมันมาพักใหญ่แล้ว  แถมยังถูกเหล่าขุนพลอิมมอทัลหันคมดาบใส่

    เวอราดินจะตายอีกไม่ได้  มันจึงปกป้องชีวิตตัวเองอย่างสุดความสามารถ
    
    ต้องรีบหนีจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

    ชิ!  

    เวอราดินเปิดหน้าต่างรายละเอียดกิลด์ขึ้นมาแสดง  มันมีแผนจะขับไล่บุลเล็ตและเดอลูออกจากกิลด์ด้วยอำนาจหัวหน้า  
    เหตุผลเพื่อมิให้สองคนนี้เป่าหูสมาชิกหมอผีคนอื่น  รวมถึงต้องการให้ได้รับโทษชั่วคราวของการถูกขับออกจากกิลด์

    ทว่า  บุลเล็ตและเดอลูไม่เหมือนเวอราดิน  ทั้งสองทำงานอย่างหนักเพื่ออิมมอทัลด้วยจิตใจบริสุทธิ์มาตลอด  สมาชิกเกือบทั้งหมดจึงเลือกเข้าข้างบุลเล็ตและเดอลู 
    
[ ท่านถูกโหวตโดยสมาชิกให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้ากิลด์ ]
[ บุลเล็ตกลายเป็นหัวหน้ากิลด์คนใหม่ ]
[ บุลเล็ตขับไล่ท่านออกจากกิดล์ ] 

    “นี่แก!!”

    ระบบซาทิสฟายประเมินการ ‘ถูกขับออกจากกิลด์’ ว่าเป็น ‘ความผิดร้ายแรง’  ส่งผลให้ผู้เล่นที่ถูกขับออกจากกิลด์จะได้รับบทลงโทษหนักชั่วคราว

[ ท่านถูกขับไล่จากกิลด์และกลายเป็นคนเร่ร่อน ]
[ ท่านมีความผิดร้ายแรง  หากถูกจับกุมตัวโดยสมาชิกกิลด์เก่า  โทษคุมขังจะรุนแรงกว่าปรกติ ]
[ หากท่านเสียชีวิต  โทษความตายจะเพิ่มขึ้น 20% จำนวนหนึ่งครั้ง ]

    “ชิ…ดันถูกหมาที่เลี้ยงแว้งกัดซะได้”

    อิมมอทัลคือสิ่งที่มันสร้างขึ้นกับมือ!
    ไอ้หมอนี่ไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด!  แม้แต่แอ็กนัสก็ไม่มีสิทธิ์!
    เวอราดินเงยหน้าขึ้นพลางแผดเสียงตะโกนอย่างเดือดดาล

    “อัญเชิญอัศวินความตาย!”    

    มันกำลังกระวนกระวายใจสุดขีด
    
    ต้องอย่าลืมว่า  กลุ่มหมอผีของอิมมอทัลอาจยกธงขาวยอมแพ้กริด  และอาจกำลังนำทางกริดมายังที่นี่

    ‘ต้องเร่งมือแล้ว’

    เวอราดินออกคำสั่งแก่อัศวินความตาย  
    เป้าหมายคือการฆ่าบุลเล็ต
    
    “อัญเชิญอัศวินความตาย”
    
    บุลเล็ตอัญเชิญอัศวินเพื่อรับมือ

    การดวลที่ไม่คาดฝันระหว่างผู้เล่นคลาสหมอผีอันดับหนึ่งและสองของโลกได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

    *** 
    
    “บ้าจริง…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

    ไม่เหมือนกับในข่าวลือเลยสักนิด
    หรือว่าแท้จริงแล้ว  ก่อนที่กริดจะกลายเป็นเป็นผู้สืบแห่งแพ็กม่า  เขาคือผู้เล่นคลาสจอมเวทที่ช่ำชองมาก่อน?  
    
    ขณะกริดถล่มกองทัพเพนันและกองทัพอิมมอทัลด้วยเวทมนตร์ทรงพลัง  เคียร์กำลังกระวนกระวายใจสุดขีด

    สาเหตุเพราะเหล่าโครงกระดูกและผู้เล่นหมอผีต่างเริ่มถอนทัพโดยไม่ทราบสาเหตุ
    
    ‘มีแผนใหม่งั้นหรือ?’

    เวอราดินอาจตายไปอย่างไร้ค่า  แต่อิมมอทัลยังเหลือแรงเกอร์หมอผีฝีมือดีอีกเป็นจำนวนมาก  และเคียร์ก็หวังพึ่งพาคนเหล่านี้โดยไม่เคลือบแคลง

    มันประเมินว่า  หากกองทัพตนและอิมมอทัลร่วมมือกัน  อาจบีบบังคับให้กริดต้องสู้จนหมดแรงได้  นั่นคือโอกาสทองที่เคียร์เล็งไว้

    แต่เหตุการณ์ประหลาดกลับเกิดขึ้น

    เมื่อขุนพลหมอผีเริ่มทิ้งระยะห่างจากกริดสำเร็จ  เหล่าอันเดดทั้งหมดที่ถูกอัญเชิญได้กลับคืนสู่ธุลีดินอีกครั้ง

    “เกิดอะไรขึ้น?”

    “…”

    เคียร์ตะโกนถามกลุ่มอิมมอทัล  
    แต่ไร้วี่แววตอบกลับ  ไม่มีใครสนใจจะอธิบายแก่เคียร์

    ทีละเล็ก  ทีละน้อย  สมาชิกอิมมอทัลเริ่มล่าถอยอย่างแนบเนียนโดยหวังจะไม่ตกเป็นเป้าสายตากริด

    เคียร์โพล่งขึ้นอย่างฉุนเฉียว

    “คิดจะทำลายพันธมิตรทิ้งรึไง?”

    ดวงตาของมันแดงก่ำ  เปี่ยมด้วยโทสะ

    “คนที่สัญญากับนายออกกิลด์ไปแล้ว”

    เดอลูอธิบายเหตุการณ์กับเคียร์

    “ไอ้ระยำเวอราดินทิ้งกิลด์และหนีไปคนเดียว  พวกเราไม่มีเหตุผลที่ต้องสู้อีก”

    “…ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์นักหรอก  แต่พวกนายทุกคนถูกกริดตั้งค่าหัวไม่ใช่รึไง?  คิดว่ากริดจะยอมปล่อยไปเพียงเพราะไม่ดิ้นรนขัดขืนงั้นหรือ?  คิดง่ายไปแล้ว!  วิธีเดียวที่พวกนายจะรอดคือต้องสู้!  สู้จนถึงที่สุด!  สู้ร่วมกับทหารของฉัน  รีบอัญเชิญอันเดดออกมาเร็วเข้า!"

    เดอลูยักไหล่ให้เคียร์ที่กำลังเดือดดาลและสบถถ้อยคำหยาบคาย
    
    “จริงอยู่ที่กริดคงไม่รามือโดยง่าย  แต่พวกเราทุกคนเตรียมใจไว้แล้ว”

    “…?”

    “พวกเราจะปล่อยให้กริดฆ่าจนกว่าโทสะในใจเขาจะสลายไป  ได้แต่หวังว่าเขาจะหายโกรธเร็วกว่าที่คิดไว้”

    “พวกนายยอมทำถึงขนาดนั้นเชียว?”

    เดอลูตอบกลับ

    “นั่นเป็นทางออกเดียวของอิมมอทัล  นายไม่เห็นรึไงว่าพวกเราไม่มีทางหนีพ้นพลังอำนาจกริด  ไม่ได้ใกล้เคียงเลยสักนิด”

    “…”

    เวทมนตร์สุดท้ายของกริดถูกปลดปล่อย  
    เป็นไฟบอลที่คร่าชีวิตทหารเพนันหลายสิบในพริบตา  

    ชายหนุ่มเก็บไม้เท้าบีเลียลพร้อมกับชักดาบอัสนีฯ ออกมาถือ

    ค่าสติปัญญาที่โนเอะขโมยมาหมดฤทธิ์แล้ว  และมานาของเขาก็เหลือไม่มาก  กริดมิอาจทำตัวเป็นจอมเวทได้นานกว่านี้

    ทว่า  ขุนพลอิมมอทัลและเคียร์กลับเข้าใจผิดว่ากริด ‘เบื่อ’

    “การฆ่าด้วยเวทมนตร์คงไม่สนุกมือ  ดาบจึงถูกชักออกมาอีกครั้ง…”

    เคียร์ฟังคำอธิบายจากเดอลูพลางกลืนน้ำลาย  ตัวมันเองก็เสียกำลังใจต่อสู้ไปมาก
    
    ขณะเดียวกัน  อาริซ่าที่คืนชีพอีกครั้งได้รีบวิ่งมาหาเคียร์

    “กริดต้องเสียเรี่ยวแรงไปมากแน่  คงใกล้หมดลงเต็มที  ว่าแต่…ทาโร่ต์ยังไม่มาอีกหรือ?”

    ครึ่งอสูร ‘ทาโร่ต์’ คือบุคคลที่เคียร์เสียเงินจ้างในราคาแพงสุด
    แม้จะถูกกริดสังหารในพริบตาโดยไม่ทันตั้งตัว  แต่อาริซ่าก็มั่นใจว่าหมอนั่นต้องมุ่งมั่นเอาคืนกริดให้จงได้

    เคียร์หันไปมองอาริซ่าพลางส่ายศีรษะอย่างขื่นขม

    “ทาโร่ต์ไม่ตอบข้อความส่วนตัว”

    “…” 

    อาริซ่าพูดสิ่งใดไม่ออก

    สาเหตุที่เธอยังมีหวัง  เพราะเธอเชื่อมั่นในพลังของทาโร่ต์  แล้วเหตุใดทาโร่ต์ถึงขาดการติดต่อกระทันหันได้?  

    ความหวังเดียวปลิวไปกับสายลมเรียบร้อย

    กริดกำลังย่างกรายเข้าใกล้ทุกขณะ
    ในการขยับแต่ละก้าว  ทหารเพนันหลายสิบจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นแสงเทา  

    เปลวเพลิงสีดำที่ระเบิดเป็นวงกว้าง  สิ่งนี้คือเวทมนตร์ทำลายล้างแสนมหัศจรรย์  และดูเหมือนกริดสามารถงานใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
    
    ไม่ต้องเสียเวลาร่าย
    ไม่ต้องเอ่ยชื่อทักษะ

    ไม่มีใครเข้าใจเลยสักนิด  ว่าช่างตีเหล็กในตำนานมีของแบบนี้กับตัวได้อย่างไร    
    
    ลงเอยด้วย  กองทัพเคียร์เกิดความสูญเสียใหญ่หลวงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
        
    เคียร์หันไปบอกอาริซ่าให้สั่งทหารถอยทัพ  จากนั้นมันก็เดินเข้าเผชิญหน้ากริดตามลำพัง
    
    “นี่คือการรุนรานเมืองที่โหดร้ายป่าเถื่อน  แกสังหารผู้บริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก  หากเรื่องนี้ถูกเผยออกไปทั่วโลก  ความนิยมในตัวแกจะต้องดิ่งเหวแน่!  เสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบจะถามโถมเข้าใส่จากทุกฝ่าย!”

    คำข่มขู่ของเคียร์มีเพื่อให้กริดหยุดการกระทำ

    มนุษย์ทุกคน  ไม่ว่าจะมีขุมพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่เพียงใด  แต่หากถูกทิ้งให้เดียวดายบนโลก  ความกลัวและความระแวงจะกัดกินจิตใจไปตลอดกาล

    เคียร์ต้องการต่อรอง  

    แต่น่าเสียดายที่ถ้อยคำของมันไม่เป็นผลต่อกริด  ชายหนุ่มพ่นลมหายใจเหยียดหยันพลางเชิดคางขึ้นเล็กน้อย

    “ฉันก็แค่มาเดินเล่นเท่านั้น  แต่กลับถูกไอ้บัดซบคนหนึ่งใช้ร่างมืดเปิดฉากโจมตีใส่  จากนั้นก็เป็นการระดมยิงจากทหารเพนัน  ทุกสิ่งที่ฉันทำไปคือการปกป้องตัวเอง  จนกระทั่งไอ้พวกระยำอิมมอทัลโผล่หัวออกมา  ฉันเคยมีความแค้นต่อพวกมันมาก่อน  ทั่วโลกย่อมรับรู้  อ้อ…แล้วก็  เหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกและถ่ายทอดสดไว้หมดแล้ว”

    กริดใช้นิ้วโป้งชี้ไปด้านหลัง

    “…!”

    เคียร์หันไปมองตามด้วยสีหน้าตกตะลึง

    บันนี่บันนี่—นักจัดรายการเกมอันดับหนึ่งของโลก  เขากำลังโบกไม้โบกมือให้เคียร์
    
    กริดกล่าวต่อไปด้วยสายตาเย็นยะเยียบ    
    
    “บทเรียนที่บังอาจท้าทายฉัน…ราคาของมันแพงหน่อยนะ”

    “อึก…!  ว๊ากกก!”

    เคียร์เพียงต้องการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเอง  แต่ความจริงที่สนองคืนกลับมาช่างโหดร้ายต่อมันนัก
    
    ดวงตาของเคียร์กำลังแดงก่ำเมื่อได้ยินถ้อยคำเหยียดหยันจากกริด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,257
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สุดยอด กริดฉลาดขึ้นมาก รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมผู้คนมากขึ้น สนุกมากขอบคุณครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ช็อคฟิวมาก 😂😂😂

      Delete
  2. ผมก็เล่นเกม​มานานนะ
    ไม่เห็นฉลาดขึ้นเลย😂
    สนุกมากขอบคุณ​ครับ​

    ReplyDelete
    Replies
    1. Oop 😂🙈คิดสะว่ามันเป็นนิยาย อย่าคิดมาก ✌✌😊

      Delete
  3. สนุกมากครับขอบคุณที่แปลให้อ่านนะครับ

    ReplyDelete
  4. สงสัยวันนี้แอดมาดึกแน่ๆ

    ReplyDelete
  5. วันนี้ลงตอนต่อไปกี่โมงครับ

    ReplyDelete
  6. ใช่ ครับ รอติดตามยุครับ กดเข้า และกดออกหลายรอบมาก วันนี้จะนอนหลับไหมเนี้ย 😂😅🙈🙈

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00