จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 832



    ย้อนกลับไปก่อนหน้า  เหล่าเอลฟ์สาวเคยรอดชีวิตจากการถูกคอมโบผสานระหว่างกริดและเมอร์เซเดสเล่นงาน

    แถมที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่า  เบเนียลูสามารถรอดชีวิตจากคลื่นทำลายล้างร่ายรำสังหารในระยะประชิดของกริดมาได้

    สิ่งนี้หมายความว่า  เอลฟ์มีพลังป้องกันและความถึกทนพื้นฐานในระดับน่าทึ่ง  แตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกซึ่งปกปิดไว้ด้วยเศษใบไม้เพียงเล็กน้อย

    สมกับเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ระดับสูงเทียบเท่าแวมไพร์

    แต่พวกเธอจะทนทานดาบพินาศทัพหนึ่งแสนได้จริงหรือ?

[ ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน (ลดระดับ)  Lv.1 ]
    สร้างรัศมีดาบจำนวน 30 เส้นภายในหนึ่งวินาที  
    แต่ละเส้นรุนแรง 60% ของพลังโจมตี  โจมตีทุกเป้าหมายในระยะ 10 เมตรด้านหน้า (ไม่สนมิตรหรือศัตรู)  
ทรัพยากรที่ใช้ :
- มานา 8,000
- ปราณดาบ 50 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 10 นาที

    แม้แต่กริดก็ตอบไม่ได้
    ถึงจะเป็นเวอร์ชั่นลดระดับ  แต่วิชาดาบของราชาไร้พ่ายถูกสร้างขึ้นเพื่อ ‘พินาศ’ ทหารศัตรูหนึ่งแสนคน

    ความรุนแรงย่อมมากกว่าวิชาดาบแพ็กม่าหลายเท่า

    แถมแต่ละครั้งโจมตียังมีโอกาสเกิด ‘เพลิงทมิฬ’ จากออปชั่น +1 ดาบอัสนีฯ
    เช่นนั้นแล้ว  เหตุใดกริดถึงกล้าใช้ทักษะอันตรายทั้งที่ภายในใจต้องการช่วยเอลฟ์?

    คำตอบคือ  เขามีศรัทธา
    ศรัทธาในปลอกนิ้วที่กำลังสวมอยู่

[ปลอกนิ้วยิงธนูชาวเอลฟ์ (สร้างโดยแพ็กม่า)]
เกรด : เลเจนดารี
ความคงทน : 100/111
* ความเร็วโจมตีธนู +20% เมื่อสวม
(เผ่าเอลฟ์จะได้รับผลสองเท่า)
* การโจมตีธรรมดาหรือทักษะจะถูกเปลี่ยนให้เป็นการโจมชนิด ‘ล็อคเป้า’ หนึ่งครั้ง
* ระยะหน่วงสามนาที
(เผ่าเอลฟ์จะลดระยะหน่วงลงครึ่งหนึ่ง)
    ปลอกนิ้วที่แพ็กม่า  ช่างตีเหล็กในตำนานและผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล  สร้างให้กับอัศวินความตายโพเวีย     
    ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับร่างกายของโพเวีย  ผู้เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งเอลฟ์
น้ำหนัก : 15

    ไอเท็มสุดโกงที่เปลี่ยนการโจมตีชนิดไม่ล็อคเป้าให้กลายเป็นล็อคเป้าได้ ‘หนึ่งครั้ง’
    แต่ในช่วงแรกที่กริดได้รับปลอกนิ้วมา  สมองของเขายังไม่ฉลาดเท่าปัจจุบัน   จึงไม่ทราบถึงความโกงของไอเท็มที่เปลี่ยนทุกทักษะให้กลายเป็นชนิดล็อคเป้าได้หนึ่งครั้งเช่นนี้  
    
    หลังจากจบหมู่เกาะเบเฮ็น  กริดยังคงหลงระเริงไปกับถุงมืออเล็กซ์และทักษะดาบพินาศทัพหนึ่งแสน 

    ลืมนึกถึกปลอกนิ้วชาวเอลฟ์จนหมดสิ้น

    เขาเพิ่งนึกได้ว่าตนมีปลอกนิ้วชาวเอลฟ์หลังจากย่างกรายเข้ามาในเขตป่าต้นไม้โลก
    
    ชายหนุ่มสวมสร้อยคอต้นไม้โลกพร้อมกับปลอกนิ้วชาวเอลฟ์  จากนั้นก็ใช้ทักษะ
    
    “ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน”

    แม้กริดจะใช้ทักษะโจมตีหมู่  แต่กลับมีเพียงสมาชิกกลุ่มเคียร์เท่านั้นที่ถูกรัศมีดาบเล่นงาน
    พวกมันได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งที่กำลังซุกหัวหลบอยู่หลังบรรดาเอลฟ์สาว

    แต่น่าเสียดาย  
    เพลิงทมิฬยังคงแสดงผลเป็นวงกว้างและสร้างความเสียหายแก่ชาวเอลฟ์อยู่

    “กรี๊ดดดด!”

    “อึก!”

    ค่าความถึกทนพื้นฐานทำให้เหล่าเอลฟ์ยังคงมีชีวิตรอด
    แต่ถึงอย่างนั้น  เมื่อโดนเพลิงทมิฬเข้าไปสักสองถึงสามลูก  หลอดพลังชีวิตได้ลดลงจนถึงระดับที่น่าเป็นห่วง

    “พวกแกเห็นรึยัง?  เอลฟ์เหล่านี้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด”

    หรือต่อให้พวกเธอเจ็บปวด  แต่การกัดฟันทนไว้คือหนทางเดียวในปัจจุบัน
    กริดแสยะยิ้มพึงพอใจเมื่อแสงสีเทาเริ่มส่องสว่างขึ้นหลายจุด
    
    ทันทีที่ใช้ดาบพินาศทัพหนึ่งแสนเสร็จ  ชายหนุ่มต่อด้วย ‘วังวน’ โดยไม่รีรอ
    เพราะเขามองเห็น

    อาริซ่าซึ่งลอบแทงกริดจากด้านหลังอย่างเงียบเชียบ  ซิมิท่าของเธอมีอันต้องวกกลับไปปักหน้าอกตัวเอง
    
    อาริซ่าตกอยู่ในอาการมึนงงเนื่องจากได้รับความเสียหายมากเกินไปในระยะเวลาสั้น
    เธอเค้นเสียงถามด้วยใบหน้าเจ็บแค้น

    “แกขี้โกงเกินไปแล้ว!”

    เพลิงสีดำคือเวทมนตร์ที่กริดใช้สังหารทาร์ม่าในงานแข่งนานาชาติที่ผ่านมา
    แต่เหตุใดเวทมนตร์แสนทรงพลังเช่นนั้นถึงระเบิดอย่างต่อเนื่องราวกับมันไม่มีระยะหน่วงหลังใช้?
    
    ทุกทักษะล้วนมีขีดจำกัดในด้านระยะหน่วง  โดยเฉพาะเมื่อทักษะทรงพลังมาก  ระยะหน่วงของมันก็ยิ่งนาน
    
    สถานการณ์ตรงหน้ามิอาจอธิบายด้วยหลักสามัญสำนึกของผู้เล่นทั่วไป

    กริดเปล่งเสียงเย็นยะเยียบถามอาริซ่า

    “เธอหมายถึงเรื่องไหน…”

    ไม่แปลกที่กริดจะไม่เข้าใจ
    เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า  คนส่วนใหญ่มองระเบิด ‘เพลิงทมิฬ’ เป็นทักษะเวทมนตร์ที่ต้องกดใช้งานเองและมีระยะหน่วง  
    
    ขณะเดียวกัน  ดาบในมือกริดรัวฟันใส่อาริซ่าที่ไร้การป้องกัน
    ดาบที่สองและสามตามซ้ำอัตโนมัติด้วยผลของถุงมือว่องไว

    ดาบที่สามไม่จำเป็นด้วยซ้ำ

    อาริซ่าบาดเจ็บหนักจากดาบพินาศทัพหนึ่งแสนก่อนหน้านี้  รวมถึงวังวนที่สะท้อนดาบตัวเองเสียบอก

    เธอจึงกลายเป็นแสงสีเทาทันทีกริดฟันซ้ำดาบสอง

    แรงเกอร์ระดับสูงเลเวล 352 ซึ่งเป็นดั่งเทพเจ้าในสายตาผู้เล่นเลเวลสองร้อยกว่า  
    เมื่ออยู่ต่อหน้ากริด  ความโอหังของเธอเป็นได้เพียงสายลมพัดผ่าน

    กริดอยากตะโกนออกไปว่า 
    ‘นอกจากฉัน…ที่เหลือก็แค่มดปลวก’

    แต่เขาไม่ได้พูด
    การต่อสู้จบลงแล้ว
    

    ไนท์ถูกสังหารในพริบตา
    เพื่อนเก่าแก่อย่างอาริซ่าและบิวเทียน  รวมถึงหน่วยหัวกะทิ  ถูกกริดทำลายอย่างราบคาบด้วยทักษะหมู่ครั้งเดียว

    เคียร์ทำได้เพียงเฝ้ามองเหตุการณ์อย่างไร้คำพูด

    “เหลวไหลสิ้นดี…”

    ภัยพิบัติที่ชื่อ ‘กริด’ คือตัวตนที่ราชาพ่อค้าอย่างมันไม่เคยเผชิญมาก่อน
    มีผู้เล่น 34 คนที่ยังเหลือรอดหลังจากเสร็จสิ้นดาบพินาศทัพหนึ่งแสน  
    
    ทุกคนต่างหมดไฟในการต่อสู้  ทำเพียงยืนเหม่อลอยโดยไม่พูดจาสิ่งใด
    ไม่มีใครคิดขัดขวาง  แม้กริดกำลังย่างสามขุมเข้าหาเคียร์ทีละน้อย
    
    สิ่งที่เคียร์ลงทุนทำมาทั้งหมดได้กลายเป็นศูนย์    
    กองทัพที่มันทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างขึ้น  เป็นได้เพียงมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าราชาโอเวอร์เกียร์  
    
    เคียร์ผู้อาศัยพลังเงินสร้างฐานะและความยิ่งใหญ่มาตลอด  มันไม่มีวันจิตนาการฝีมือต่อสู้ที่เหนือมนุษย์ของกริดได้
    
    ‘…ความแข็งแกร่งคือสิ่งจำเป็นไม่แพ้กันสินะ’

    เคียร์เพิ่งตระหนักได้  
    มันหยิ่งผยองอยู่พักใหญ่หลังจากใช้เงินก้อนโตซื้อเมืองเป็นของตัวเองสำเร็จ

    บนโลกซาทิสฟาย  มีบางสิ่งที่เงินตรามิอาจไขว่คว้าได้

    ‘ถ้าเรานำเงินสำหรับซื้อเมืองไปใช้ตีสนิทองค์จักรพรรดิล่ะก็…’

    กริดคงไม่กล้าลงมือกับเคียร์หากมันมีจักรพรรดิคอยหนุนหลัง

    ขณะเคียร์กำลังตัดพ้อในความผิดพลาด  กริดเดินเข้ามาใกล้มันพร้อมกับเอ่ยปากถาม

    “มีคนต้องการซื้อทาสเอลฟ์รึไง?”
    
    “ไม่จำเป็นต้องมี  พ่อค้าที่ดีต้องสร้างตลาดใหม่ด้วยตัวเองเสมอ  แกถามไปทำไม?  จะตามไปฆ่าคนที่ซื้อทาสเอลฟ์ด้วยรึไง?  แกเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมงั้นหรือ?”

    “ฉันไม่ใช่คนดีขนาดนั้น  แค่ต้องการทราบว่า  มีไอ้บัดซบจำนวนเท่าไรที่อยากได้คนเหล่านี้ไปเป็นทาส”    

    “คนเหล่านี้?”

    เคียร์ขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อหู
    
    “แกเพี้ยนไปแล้วรึไง?  พวกมันเป็นแค่ปัญญาประดิษฐ์!  อย่าบอกนะว่าแกมอง NPC เทียบเท่ามนุษย์คนหนึ่ง?”

    ความเดือดดาลเริ่มปรากฏบนดวงตาของเคียร์
    
    “NPC เป็นได้แค่ขั้นบันไดให้ผู้เล่นเหยียบย่ำ!  มีเพียงผู้เล่นเท่านั้นที่คู่ควรถูกเรียกว่ามนุษย์  หรือว่าแกลืมไปแล้วหลังจากแต่งงานกับมันและมีลูกหนึ่งคน?  อย่าบอกนะว่าแกเป็นหนึ่งในพวกคลั่ง  ที่หวังให้ NPC มีตัวตนในโลกความจริง?”

    ในชีวิตจริง  มีผู้คนมากมายหลงไหลตัวละครอนิเมะหรือภาพยนต์ซึ่งไม่มีอยู่จริง
    คนเหล่านั้นจะมอบความรักความผูกพันให้ NPC ซาทิสฟายอย่างออกนอกหน้าจนผู้เล่นทั่วไปเอื้อมระอา
    
    “คุคุคุ!”

    เคียร์ส่งเสียงหัวเราะอย่างดูแคลน

    มันเล่นซาทิสฟายเพียงเพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่—ความฝันในการแก้แค้นบุคคลที่ทำให้บิดาต้องตาย 
    
    แต่ขณะเดียวกัน  แรงเกอร์ที่โด่งดังที่สุดของโลกกลับกำลังเล่นบทพ่อแม่ลูกกับ NPC อย่างมีความสุข

    “…ฉันไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด”

    เคียร์เค้นเสียงอย่างโกรธแค้น

    มันจ้องกริดเขม็งพลางนำถุงใบใหญ่ออกมาถือ
    หากฟังจากเสียง  นั่นคือถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญทอง

    หนักราวร้อยกิโลกรัมเห็นจะได้

    “ถือไหวด้วยหรือ?  สมกับเป็นพ่อค้าอันดับหนึ่งของโลก”

    กริดพ่นลมหายใจเหยียดหยัน

    “แล้วยังไงต่อ?  จะจ่ายเงินเพื่อแลกกับการไว้ชีวิตใช่ไหม?  ย่อมได้  ไม่มีปัญหา  ฉันจะยอมปล่อยแกถ้าได้เงินจำนวนมากพอ”

    เขาช่วยเอลฟ์สำเร็จแล้ว  และเมอร์เซเดสก็จัดการสมาชิกกลุ่มเคียร์ที่เหลือเรียบร้อย
    ศัตรูเหลือเคียร์เพียงคนเดียว  การปล่อยให้มีชีวิตรอดคงไม่เกิดอันตรายใด

    กริดมิได้บาดหมางส่วนตัวกับเคียร์จนต้องเมินเฉยเงินก้อนโต
    ไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ    

    ทว่า  เคียร์กลับพูดจาดูแคลนกริดจนถึงที่สุด

    “ถึงจะพูดให้ตัวเองดูดี  แต่แกไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปเลยสักนิด”

    มนุษย์ทุกคนล้วนต้องการเงิน  น้อยคนนักที่จะไม่โลภเมื่อมีโอกาสวางตรงหน้า
    เป็นอีกครั้งที่เคียร์ตระหนักถึงความละโลภในใจมนุษย์
    
    “แกต้องการเงินใช่ไหม?  ย่อมได้  ฉันขอยกให้แกทั้งถุง!!”

    เคียร์แผดเสียงตะโกนพลางเหวี่ยงถุงเงินใส่กริด

    ‘หมอนี่เสียสติไปแล้วรึไง?’

    เคียร์คิดจะทำอะไร?
    กริดไม่มีรายเอียดคลาสพ่อค้ามากนัก  เขาทราบเพียงเป็นคลาสที่ไม่มีพลังต่อสู้

    การดิ้นรนครั้งสุดท้ายของเคียร์ช่างน่าสมเพชจนกริดไม่มีกะจิตกะใจดูถูก

    “…!”

    ทว่า  นัยน์ตากริดพลันต้องสั่นระริกขณะถุงเงินของเคียร์พุ่งกระทบร่าง
    สาเหตุเพราะ  เขาไม่สามารถโยกตัวหลบการโจมตีแสนเชื่องช้านี้ได้ด้วยเหตุผลปริศนา

[ เงินจำนวนมหาศาลได้กระตุ้นความโลภในตัวท่าน ]
[ ท่านต้านทานไม่สำเร็จ ]
[ ท่านถูกเงินดึงดูดสายตา ]

    ‘อะไรกัน?’

    กริดรู้ตัวเมื่อสาย
    ถุงเงินใบใหญ่กระแทกใส่หน้าอย่างจัง

[ ท่านได้รับความเสียหาย 1 หน่วย ]
[ อำนาจเงินจำนวนมหาศาลคือสิ่งที่ท่านมิอาจปฏิเสธ ]
[ ท่านถูกอำนาจเงินกระแทกใส่อย่างรุนแรง ]
[ ท่านถูกส่งออกจากสนามรบ ]

    ร่างกริดกระเด็นลอยขึ้นท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง  
    เพียงไม่นาน  เขาได้หายจากการมองเห็นของเคียร์โดยสมบูรณ์

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,249
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สกิลพ่อค้า👍

    ReplyDelete
  2. อุ๊บ พระเอกกูตายเพราะโดนเงินฟาดใส่ 😂😂😂😂

    ReplyDelete
  3. โดนเงินฟาดหัว

    ReplyDelete
  4. 555+ เชี่ย!! อุ๊ปป!

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00