จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 841



[ ท่านได้รับบาดเจ็บรุนแรง ]
[ ตำนานจะไม่ตายโดยง่าย  ท่านเข้าสู่ภาวะอมตะเป็นเวลา 5 วินาทีด้วยพลังชีวิต 1 หน่วย ]

    “อ…อึก!”

    ท่ามกลางปราสาทที่กำลังพังครืน  ยูร่ารู้สึกวิงเวียนศีรษะขณะกระโดดหลบเศษหินที่ถล่มใส่
    
    เหตุใดกริดถึงปรากฏตัวในที่แบบนี้?
    แล้วเหตุใดถึงโจมตีใส่เธอ?  
    
    ยิ่งไปกว่านั้น  ตำนานอย่างเธอกลับถึงแก่ความตายในการโจมตีเดียว  ยูร่าไม่เคยจินตนาการภาพเช่นนี้ในหัวมาก่อน

    ด้วยสถานการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  สมองของเธอจึงประมวลผลผิดพลาดบ่อยครั้ง
    
    พลังใจแทบไม่หลงเหลืออีกต่อไป
    ยูร่าไม่ทราบเลยว่า  เธอกำลังอยู่ในสถานการณ์ใด  และควรทำสิ่งใดต่อไป

    ‘ไม่ใช่…’

    ยูร่าขบกรามแน่นพลางดึงสติกลับมา  
    
    ไม่มีเหตุผลให้กริดต้องอยู่ในขุมนรกเวลานี้  และไม่มีเหตุผลให้เขาต้องโจมตีใส่เธอโดยไม่บอกกล่าว

    ใช่แล้ว 

    ‘เจ้านี่ไม่ใช่กริด’

    ความสับสนถูกวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง  
    ยูร่าพุ่งตัวผ่านเศษซากปรักหักพังของปราสาท  เธอจ้องมองไปยังชายปริศนาที่ดับลมหายใจเธอด้วยการโจมตีเดียว

    “กริด…”

    นัยน์ตายูร่าพลันสั่นระริกเมื่อได้เห็นชื่อที่เขียนไว้เหนือศีรษะ
    
    มันเขียนไว้ว่า ‘กริด’ อย่างชัดเจน  เหนือใบหน้าของชายที่รูปลักษณ์ตรงกับกริดทุกประการ 
    ทว่า  อักษรดังกล่าวกลับสลักด้วยสีทองซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของ NPC พิเศษ

    “หมายความว่ายังไง?”

    เหตุใดถึงมี NPC พิเศษในเวอร์ชั่นกริดอยู่ด้วย  และทำไมถึงอยู่ในขุมนรก?
    ท่ามกลางความสับสน  ยูร่าพยายามเค้นสมองครุ่นคิดจนถึงที่สุด

    ‘มนตร์ดำของยาธาน?’

    หรือจะเป็นนักลอบสังหารจากยาธานที่ส่งมาเพื่อปิดปากเธอ?  
    แต่ไม่ว่าจะทางใด  ชายคนนี้คือศัตรูแน่นอน

    ยูร่าดื่มโพชั่นพลางเล็งปืนไปยังศีรษะกริด

    “คำถาม…”

    อสูรที่ยืมรูปลักษณ์กริดกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกริดทุกประการ

    “เธอเป็นมนุษย์ใช่ไหม?  สิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกับกริด”

    “…!”

    คำถามของมันได้สร้างความสับสนให้ยูร่ายิ่งกว่าเดิม 

    ‘เจ้านี่รู้จักกริดด้วยรึไง?’

    คำถามของอสูรยังคงดำเนินต่อไป

    “น่าแปลก…เป็นครั้งแรกที่ได้พบมนุษย์ในสถานที่แห่งนี้”

    “…” 

    “คำถาม…กริดลงมาที่นี่ได้รึเปล่า?”

    มันรู้จักกริด  แถมยังอยากพบกริด?
    
    ยูร่าลองให้ความร่วมมือกับมัน

    “แกตามหาคนที่ชื่อกริดอยู่หรือ?”

    “คำตอบ…ถูกต้อง”

    “นายมีความสัมพันธ์ยังไงกับกริด?”

    “คำตอบ…ไม่มีความสัมพันธ์”

    “แล้วนายตามหากริดทำไม?”

    “คำตอบ…ฉันต้องฆ่ากริด”

    “เพราะอะไร?”

    “คำตอบ…ฉันเกิดมาเพื่อฆ่ากริด”

    “นายเป็นใครกันแน่?”

    “ฉันหรือ…กริดล่ะมั้ง?”

    “…”

    ยูร่าขนลุกไปทั่วร่าง

    เธอกำลังหวาดกลัวสุดขีด  แม้ชายตรงหน้าจะมีรูปลักษณ์  เสียง  และชื่อเหมือนกริดทุกประการ    

    เธอมิได้หวาดกลัวเพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่ง  แต่หวาดกลัวในพฤติกรรมที่อีกฝ่ายแสดงออก

    ชายปริศนาเอียงคอสังสัย

    “คำถาม…บทสนทนาของพวกเรามีประโยชน์หรือไม่?”

    “…”

    ยูร่าเริ่มก้าวถอยหลัง

    มันมิใช่สัตว์ประหลาดปริศนาที่มีปัญญาประดิษฐ์ไม่สมประกอบ  หากแต่เป็นขีปนาวุธเวลาที่เธอมิอาจรับมือไหวตามลำพัง

    แผนเดียวในหัวคือรีบหนีให้ไกลที่สุด

    “วิชาดาบแพ็กม่า·สะพรั่ง”

    รัศมีดาบหลายสิบเส้นปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าประหนึ่งกลีบดอกไม้บานสะพรั่ง

    “…!!”

    ภาพการมองเห็นของยูร่ากำลังกระพริบแสงสีแดง  เป็นอีกครั้งที่หนึ่งการโจมตีทำให้เธอตกอยู่ในสภาพปางตาย  โชคยังดีที่เหลือพลังชีวิตติดตัวไว้ในหลักหน่วย
    
    ยูร่ารีบหนีจากซากปรักพักพังโดยไม่คิดเหลียวหลังหันกลับไป 

    น่าแปลก  ชายปริศนาในท้องพระโรงกลับมิได้ไล่ตามมา  ตรงกันข้าม  มันเก็บดาบเข้าฝักพลางพึมพำ

    “อยู่ไม่ได้แล้ว…ต้องหาบ้านใหม่”

    ตัวมันเป็นใครกัน?  มันไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้เลยสักครั้ง  สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวตลอดมาคือการฆ่ากริด

    *** 

    “ช่างน่าขัน!  ทำไมแรงเกอร์จำนวนมากถึงถูกไอ้งั่งนั่นเพียงคนเดียวเล่นงานเอาได้!”

    เพนัน—เมืองเล็กแห่งหนึ่งทางสุดเขตตะวันออกของอาณาจักรเก๊าส์  จำนวนประชากรรวมมีเพียงสามหมื่นคน  
    
    เคียร์ซื้อเมืองนี้มาในราคายี่สิบล้านเหรียญทอง  
    มันยอมควักเงินในโลกจริงจำนวนหมื่นล้านวอนเพื่อให้ได้ครอบครองเพนัน  แต่เคียร์ไม่มองว่าเป็นการทุ่มเงินอย่างสูญเปล่า  เพราะหากเมืองพัฒนาไปตามแผน  มันจะถอนทุนคืนได้ในระยะเวลาเจ็ดปีซาทิสฟาย  จากนั้นจะถึงช่วงเวลาทำกำไรมหาศาล

    ทว่า  แผนทั้งหมดของเคียร์ต้องพังไม่เป็นท่าเพราะกริด
    โครงการใหญ่แรกที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของเงินทุนสำหรับทุกสิ่ง  ถูกกริดแทรกแซงทำลายจนป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดี
    
    ในช่วงเช้าวันนี้  มันสูญเงินจำนวนสองเท่าของมูลค่าเมืองไปกับสายลม
    เคียร์เกลียดชังความ ‘โอหัง’ ของกริดมากกว่าความ ‘ชั่ว’ ในตัวกริด

    “ไอ้โง่เอ้ย!  ไม่รู้รึไงว่าการจับมือกับราชาพ่อค้าจะมอบความมั่งคั่งมหาศาลเพียงใด?  ทำไมต้องทำให้แผนของฉันป่นปี้ด้วยการเข้ามาขัดขวาง!”

    เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
    บุคคลสติปัญญาต่ำมักก่อเรื่องเหนือความคาดหมายจนผิดแผนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    สรุปโดยสั้น  กริดคือมะเร็งร้ายในสายตาเคียร์  การนึกถึงกริดรังแต่จะสร้างโทสะปริมาณมหาศาลให้เคียร์เสมอ 

    จนกระทั่งข่าวดีถูกมาถึง

    “เอิร์ลทาลูสัญญาว่าสนับสนุนด้านกำลังคนให้เรา”

    “มันควรจะเป็นเช่นนั้น”

    เดิมที  เพนันเคยเป็นหนึ่งในเมืองจำนวนมากมายที่เอิร์ลทาลูครอบครอง  เคียร์ต้องจ่ายเงินให้เอิร์ลทาลูไม่น้อยในภารกิจก่อนหน้าจะถึงขั้นตอนการซื้อเมือง

    “คิดว่าฉันจ่ายเงินให้มันไปเท่าไร?  หากมีศีลธรรมสักหน่อย  เจ้านั่นไม่มีทางปฏิเสธความช่วยเหลือแน่”

    เคียร์กำลังวิกฤติ  เนื่องจากอัศวินทั้งสามคนถูกกริดสังหารเกลี้ยง  ความสำคัญเร่งด่วนในปัจจุบันคือการเสริมประสิทธิภาพกองทัพโดยเร็ว  
    ถึงการขยายธุรกิจจะจำเป็นไม่แพ้กัน  แต่สิ่งนี้ต้องมีกำลังทหารคอยสนับสนุน

    ทันทีที่คืนชีพใหม่  มันรีบติดต่อไปยังกลุ่มอิมมอทัลเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้เพนัน

    “ไม่เคยคิดว่าพวกเราจะได้พบกันในรูปแบบนี้”

    ประตูห้องทำงานเคียร์ถูกเปิดออก  เป็นชายผมขาวที่ย่างกรายเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
    แขกพิเศษในคราวนี้มิใช่ใครอื่น  
    เป็นเวอราดิน  
    มันยื่นแขนออกมาขอจับมือเคียร์

    ราชาพ่อค้า ‘เคียร์’ ฉีกยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ  จากนั้นก็ใช้สองมือจับตอบอย่างนอบน้อม

    “ขอบคุณที่ตอบรับคำเชิญ”

    “ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอบคุณ”

    อิมมอทัลเสียที่ซุกหัวนอนเนื่องจากถูกกริดตั้งค่าหัว  นั้นแต่นั้น  การหาสถานที่ปลอดภัยเพื่อพักอาศัยเริ่มกลายเป็นเรื่องยาก  เพราะผู้เล่นจำนวนมหาศาลจะตามไล่ฆ่าไม่เว้นในแต่ละวัน

    จนกระทั่งพวกมันได้รับคำเชื้อเชิญจากราชาพ่อค้าเคียร์  โดยเนื้อหาคือ  เคียร์ยอมให้อิมมอทัลซ่อนตัวอยู่ภายในเพนันได้ตามใจชอบ

    เวอราดินฉีกยิ้มกว้าง

    “คุณถูกกริดเล่นงานมาใช่ไหม?”

    “…อะไรนะ?”

    เคียร์ยังไม่ได้บอกเหตุผลที่มันยอมให้ที่พักพิงแก่อิมมอทัล  แล้วเหตุใดเวอราดินถึงกล่าวชื่อกริดออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย?

    เวอราดินยักไหล่เมื่อเห็นเคียร์แสดงสีหน้าฉงน

    “คุณขึ้นชื่อในด้านทำกำไร  หากอยู่ในสถานการณ์ปรกติ  คนอย่างคุณไม่มีทางชวนพวกเราให้ตัวเองต้องเดือดร้อนแน่  เหตุผลเดียวที่อธิบายได้ก็คือ  คุณกำลังถูกกริดเล่นงาน”    

    ใช่แล้ว  คนอย่างเคียร์ไม่มีทางหาเหาใส่หัวโดยปราศจากมูลเหตุ  มันไม่ใช่ไอ้งั่ง  ด้วยเหตุนี้  คำอธิบายเดียวคือเคียร์ถูกกริดเล่นงานอย่างหนัก

    เคียร์ถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง

    “คงปิดไม่มิดสินะ  ที่นายเดามา  ไม่มีสิ่งใดผิด  ฉันถูกไอ้กริดบัดซบนั่นเล่นงาน  และต้องหาทางเอาคืนให้ได้”

    ดวงตาเวอราดินเริ่มส่องประกาย

    "น่าสนใจมาก  ลองเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยสิ"

    “เรื่องเป็นแบบนี้…”

    เคียร์ต้องการกำลังสนับสนุนจากอิมมอทัล  มันต้องการพันธมิตรที่แข็งแกร่งและไว้ใจซึ่งกันและกัน  เคียร์จึงยอมเล่าเกือบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างตัวมันกับกริด  โดยเก็บงำความเสียหายไว้บางส่วน  และเลี่ยงไม่พูดถึงเรื่องวิหารยาธาน

    การอธิบายอย่างยืดยาวจบลงในระยะเวลาไม่นาน

    “อา…คุณคงเดือดร้อนไม่น้อย  จากวายร้ายที่ชื่อว่ากริดคนนั้น”  
    
    เวอราดินแสยะยิ้ม
    
    “ตกลง  อิมมอทัลจะพักอยู่ที่นี่สักระยะ  เหยื่ออย่างพวกเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ไม่อย่างนั้นใครจะมาช่วยเรา  จริงไหม?”

    มันมอบคำตอบที่น่าพึงพอใจแก่เคียร์

    “พวกเราจะใช้เมืองนี้เป็นฐานในการพื้นฟูพลังอำนาจ  อิมมอทัลจะช่วยให้คุณได้ในผลลัพธ์ที่ต้องการ”

    “เยี่ยมมาก  ทางฉันก็จะช่วยสนับสนุนด้านไอเท็มให้อิมมอทัล  ว่าแต่…แอ็กนัสไปไหน?”

    อันที่จริง  เมื่อกล่าวถึงอิมมอทัล  ชื่อแรกที่ผุดขึ้นในหัวเคียร์คือแอ็กนัส  
    ข้อความโลกที่ประกาศว่าแอ็กนัสกลายเป็นตำนาน  สิ่งนี้เป็นราวกับแสงสว่างปลายอุโมงค์สำหรับเคียร์  มันมั่นใจว่า  หากมีพลังของแอ็กนัสคอยช่วยเหลือ  ตัวตนอย่างกริดจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป
    
    แต่เคียร์กลับไม่พบแอ็กนัสในกลุ่มผู้เล่นอิมมอทัล

    ขณะเคียร์กระวนกระวายใจ  เวอราดินได้อธิบายราวกับมิใช่เรื่องใหญ่

    “แอ็กนัสเป็นคนดัง  เขากำลังท่องไปทั่วทวีปเพื่อหาความสุขใส่ตัว”

    “แล้วเรื่องค่าหัวล่ะ?”

    “ใครจะกล้าล่าค่าหัวกับแอ็กนัส?  นอกจากตัวกริด  ไม่มีใครแข็งแกร่งพอจะล้มแอ็กนัสได้อีกแล้ว”

    “ฮะฮะ!  แบบนี้นี่เอง”

    “คุณไม่ต้องกังวล  แอ็กนัสจะรีบมาที่นี่เมื่อเสร็จภารกิจยิบย่อยที่กำลังทำอยู่”
    
    นี่คือคำลวง

    แอ็กนัสไม่เชื่อใจเวอร์ราดินเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว  มันจึงมีพฤติกรรมแตกต่างจากอดีต  แอ็กนัสไม่แจกจ่ายงานให้เวอราดินทำ  รวมถึงไม่ยุ่งเกี่ยวกับอิมมอทัลอีกต่อไป  

    แต่เวอราดินบอกเรื่องนี้กับใครไม่ได้  อิมมอทัลจะกลายเป็นกลุ่มผู้เล่นดาษดื่นทันทีหากไร้แอ็กนัส  
    ยิ่งไปกว่านั้น  เวอราดินมั่นใจว่าแอ็กนัสต้องซมซานกลับมาหามันในสักวัน
    
    “ทางเราต้องการทราบแผนของคุณ”

    “ก่อนอื่น  ฉันจะระดมเงินทุนเพิ่มจากธรุกิจทุกรูปแบบ  โดยไม่สนจริยธรรมและวิธีลงมือ  จากนั้นจะทุ่มเงินก้อนดังกล่าวไปกับการพัฒนาบุคลากรและอาวุธ”

    “เพื่อป้องกันตัวเองจากกริด?”

    “ไม่ใช่แค่นั้น  ฉันจะพรากทุกสิ่งทุกอย่างจากกริดให้จงได้”
    
    “ฮะฮะ!  เป็นความคิดที่ยอดมาก!  ตกลง  พวกเรามาร่วมมือบดขยี้กริดกันเถอะ”

    “แค่บดขยี้กริดจะพอหรือ?  ฉันจะทำลายทุกสิ่งที่เป็นของกริดให้หมด! ฮะฮะ!”

    เสียงหัวเราะของชายสองคนดังกังวาลทั่วห้องทำงานสีสันสดใส  พวกมันไม่เคลือบแคลงเลยว่า  แผนการครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

    ยิ่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์แข็งแกร่งมากเท่าไร  พวกเขายิ่งตกเป็นเป้ารุมโจมตีจากหลายฝ่ายมากเท่านั้น  ทั้งเคียร์และเวอราดินจึงมั่นใจ  อาณาจักรโอเวอร์เกียร์กำลังจะถึงคราวล่มสลายในอีกไม่ช้า

    กริดและลอเอลย่อมคาดเดาสิ่งเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว  การปล่อยให้ศัตรูได้ลืมตาอ้าปากไม่ใช่เรื่องฉลาดนัก

    “ค…เคียร์!”

    “เวอราดิน!  หมอนั่นมาแล้ว!”

    “…?”

    เวอราดินและเคียร์ที่ส่งหัวเราะอย่างมีความสุขเมื่อครู่  ยามนี้ชะงักงันพร้อมกับยืนตัวแข็งทื่อ
    สีหน้าของพวกมันเริ่มขาวซีดเมื่อสายข่าวรายงานอย่างข้อมูลละเอียด
    
    “เป็นได้ยังไง?”

    *** 

    “พวกเราประมาทในคราวก่อน”

    “ถูกต้อง”

    บิวเทียนและอาริซ่า—สองแรงเกอร์คนสำคัญของกองทัพฝ่ายเคียร์  
    พวกมันกำลังย้อนนึกเหตุการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในป่าเอลฟ์ 

    “น่าละอายไม่น้อยที่ฉันหวาดกลัวมันจนต้องใช้เวทมนตร์ใหญ่  อันที่จริง  แค่ค่อยสกัดการเคลื่อนไหวไว้ก็พอแล้ว”

    หากพวกมันขัดขวางการรำดาบสำเร็จ  กริดคงมิอาจสำแดงพลังที่แท้จริงได้
    
    ทุกคนเคยวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของกริดมาหมดแล้วจากเทปบันทึกภาพงานแข่ง  แต่กลับมิอาจนำมาใช้เล่นงานกริดได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากความตื่นตระหนก
    
    บิวเทียนกล่าวอย่างหงุดหงิดใจ  ส่วนอาริซ่าสารภาพตามความจริง

    “พวกเราทำผิดพลาดหลายเรื่อง  ฉันกังวลเกี่ยวกับร่างมืดเกินไปจนประมาท  คงดีกว่านี้ถ้าพวกเราได้สู้โดยมีโอกาสเตรียมพร้อมล่วงหน้า”

    จากนั้น  ทาโร่ต์  ชายผู้นั่งเงียบมานาน  มันเริ่มฉีกยิ้มกว้าง

    “พวกนายน่าจะพาฉันไปด้วย  ถ้ามีฉันล่ะก็  กริดก็ไม่เท่าไรหรอกน่า  ถูกไหม?”

    ทาโร่ต์คือหนึ่งในผู้เล่นน้อยคนที่ครอบครองทักษะ ‘ร่างมืด’ เหมือนกริด  
    มันได้รับสุดยอดพลังหลังจากทำภารกิจเกี่ยวกับจอมอสูรสำเร็จ  จนในที่สุดก็มีโอกาสพัฒนาเผ่าพันธุ์ตัวเองเป็นครึ่งอสูร  
    
    ทั้งบิวเทียนและอาริซ่าต่างนึกเสียดายที่ทาโร่ต์ไม่อยู่ในศึกที่เพิ่งผ่านมา

    “ดันพลาดโอกาสทองซะได้”

    “ช่วยไม่ได้นะ  นายต้องแยกตัวไปทำภารกิจอื่น”

    “หัวหน้าพวกเราใจร้อนเกินไป  หากเขารอให้ฉันเสร็จภารกิจก่อน  คงไม่ต้องพ่ายแพ้อย่างอับอายเช่นนี้…หือ?”

    ขณะทาโร่ต์กล่าวโทษว่าเป็นความสะเพร่าของเคียร์  มันได้ยินเสียงความวุ่นวายโกลาหลดังขึ้น
    
    ทาโร่ต์ขยี้ตาซ้ำหลายครั้งก่อนจะชี้นิ้วไปยังประตูทางเข้าหลักที่อยู่ไกลออกไป

    “นั่นใช่กริดรึเปล่า?”

    “อะไรนะ?  จะเป็นไปได้ยังไง?”

    บิวเทียนและอาริซ่าขมวดคิ้วพร้อมกัน  ทั้งสองต่างคิดว่าทาโร่ต์กำลังเล่นมุกตลก  

    ทว่า  ทาโร่ต์เริ่มแลบลิ้นเลียปากประหนึ่งมีอาหารจานโอชะวางตรงหน้า
    
    “อา…นั่นสินะ  ฉันลืมไปว่าพวกมนุษย์สายตาสั้น  ยังไม่ชินสักที  ฉันมักคิดว่าตัวเองยังเป็นมนุษย์อยู่”

    “นายเล่นตลกอะไรอยู่?”

    ไม่ขำเลยสักนิด 

    บิวเทียนและอาริซ่าขมวดคิ้วเมื่อเห็นทาโร่ต์เปิดใช้ทักษะร่างมืด    
    น่าเสียดายที่ทาโร่ต์มิได้เล่นมุกตลก  มันชักดาบสีแดงพลางพุ่งตัวไปยังประตูทางเข้าหลักด้วยความเร็วสูง

    ทันใดนั้น  ดาบแสงปริศนาพุ่งเสียบกึ่งกลางหน้าผากทาโร่ต์อย่างไร้สุ้มเสียง

    “อ…เอ๋?”

    ทาโร่ตกอยู่ในอาการ ‘มึนงง’ จากการเสียพลังชีวิตไปมากกว่าครึ่ง  
    ความฮึกเหิมถูกสยบ  แทนที่ด้วยสีหน้าแสนสิ้นหวัง

    ชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้ามันไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย  ไม่หันเหลียวมองแม้แต่น้อย  
    จากนั้น  ทาโร่ต์ถูกรัศมีดาบหลายสิบเส้นปะทะร่างจนกลายเป็นแสงเทา

    บิวเทียนและอาริซ่ารีบส่งเสียงตะโกนอย่างลนลาน

    “ส…สถานการณ์ฉุกเฉิน!!”

    "ระดมพลโดยด่วน!!"

    “ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน”

    “…!!”

    เสียงสัญญาณเตือนภัยดังกังวาลไปทั่วเพนันราวกับจอมอสูรปรากฏกาย

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,254
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ตายยกแก็ง สมน้ำหน้า เคียร์กับวราดิน

    ReplyDelete
  2. หึหึ
    เละแน่
    มาคนเดียว​ เสียวทั้งเมือง
    👊😎

    ReplyDelete
  3. ตือ ดือ ดึง ตือ ดือ ดึง ตือ ดึง
    Last boss ปรากฏตัว

    ReplyDelete
  4. ตัวประกอบที่เเท้จริงทาโร่ 5555

    ReplyDelete
  5. วิชาดาบแพ็กม่า: สะพรั่ง อ๊ากกกกก เมื่อไหร่กริดจะได้ใช้มั่ง

    ReplyDelete
  6. พอนั่งคิดดูภูติเเสงคงเตรียมไว้สู้พวกแอ็กนัส จอมอสูร มีประโยชน์กว่าภูติไฟ เพราะกริดมันก็ตีเหล็กเทพอยู่เเล้ว

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00