จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 801



    ‘ดาบเวทมนตร์สามารถสร้างภัยบัติได้รุนแรงขนาดนี้เชียว?’

    ดาบเวทมนตร์คืออาวุธที่เกิดจากพลังของช่างตีเหล็กและจอมเวท
    ในบางครั้งอาจมีช่างตีเหล็กหรือจอมเวทสร้างขึ้นได้ตามลำพัง  แต่นั่นถือเป็นกรณีพิเศษที่เกิดขึ้นได้ยาก
    โกลด์ฮิตย่อมเคยมีประสบการณ์สร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ร่วมกับช่างตีเหล็ก  เธอจึงตระหนักได้ถึงความยากลำบาก
    
    ‘การสร้างอาวุธเวทมนตร์แต่ละชิ้นไม่ใช่เรื่องง่าย’

    อาวุธเวทมนตร์มีทั้งหมดสามชนิด
    ชนิดแรก  ยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ที่ฝังเวทมนตร์ไว้ด้านในโดยสมบูรณ์
    ผู้ใช้งานจะสูญเสียมานาทุกครั้งที่ปลดปล่อยเวทมนตร์ภายในออกมา
    ชนิดที่สอง  ยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ที่ช่วยเพิ่มพลังเวทให้กับผู้สวมใส่
    และชนิดที่สาม  ยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ที่อัดแน่นด้วยธาตุใดธาตุหนึ่ง
    อาวุธประเภทนี้สามารถปลดปล่อยธาตุธรรมชาติตามแต่ละชนิด  เช่นเปลวเพลิง  น้ำแข็ง  สายฟ้า  รวมถึงธาตุที่เหลือ
    ข้อเสียคือผู้ใช้งานต้องสิ้นเปลืองมานาทุกครั้งที่พลังธรรมชาติถูกปลดปล่อย  
    ยุทธภัณฑ์เวทมนตร์ชนิดนี้มักมีประสิทธิภาพไม่สูงนัก  และดาบของกริดถูกจัดอยู่ในประเภทที่สาม

    ทว่า  ดูเหมือนกริดจะไม่สูญเสียมานาในการปลดปล่อยเปลวเพลิงปริศนา
    การสร้างเปลวเพลิวมหึมาขนาดนี้ย่อมต้องใช้มานาปริมาณมหาศาล  แต่กริดกลับไม่แสดงสีหน้าเหน็ดเหนื่อยให้เห็น

    หากนี่เป็นความจริง  อาวุธของกริดจะต้องเป็นศาสตราระดับตำนานของทวีปแน่

    ‘ดาบในตำนาน…’

    เมื่อโกลด์ฮิตตระหนักว่ากริดคือผู้สืบทอดแพ็กม่า  สมาธิทั้งหมดของเธอจึงจดจ่ออยู่กับดาบยาวในมือกริด
    หล่อนพบว่าวัสดุที่ใช้สร้างดาบมิใช่แร่ธรรมดาทั่วไป

    ‘พลังอสูร?  อย่าบอกนะว่า…’
    
    ข่าวที่กริดปราบจอมอสูรบีเลียลได้โด่งดังไปทั่วทวีป  โกลด์ฮิตคาดเดาวัสดุที่เป็นแกนหลักของดาบได้ทันที
    
    ‘อาวุธจากชิ้นส่วนบีเลียล!’

    เธอมั่นใจมากว่าดาบเล่มนี้จะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าของมวลมนุษย์ในอีกหลายร้อยปีให้หลัง
    และหากเข้าใจไม่ผิด  กริดคือผู้ที่สร้างมันเองกับมือ  
    โกลด์ฮิตเริ่มขนลุกไปทั่วร่าง

    กี่ปีแล้วนะที่เธอไม่ได้ชื่นชมใครสักคนขนาดนี้?
    หากเค้นเอาจากความทรงจำอันเลือนลาง  คงราวห้าสิบปีก่อนเห็นจะได้

    โกลด์ฮิตแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยเมื่อได้รับรู้ตัวตนอีกด้านของกริด
    ชายคนนี้มิใช่หนูทดลองสำหรับการศึกษาเวทมนตร์ (พัฒนา) ของบราฮัมเพียงอย่างเดียวแล้ว
    เธอมองกริดเป็นตัวตนยิ่งใหญ่กว่านั้น

    ‘มันควรเช่นนี้ตั้งแต่ต้น…’

    กริดเริ่มจากการเป็นตำนาน  ถัดมาคือวีรบุรุษอาณาจักร  หลังจากนั้นได้ก่อตั้งอาณาจักรขึ้นเองและกลายเป็นราชาวีรบุรุษ

    จิตใจอันคับแคบที่หวังใช้กริดเป็นเพียงเครื่องมือศึกษาเวทมนตร์พลันสลายไป
    โกลด์ฮิตยกย่องเลื่อมใสในตัวกริดอย่างแท้จริง
    
    ‘วีรบุรุษแห่งยุคสมัยใหม่…เราควรให้เกียรติเขามากกว่านี้’

    ทว่า… 

    ‘จุดประสงค์เดิมยังต้องคงอยู่’

    ความเลื่อมใสและจุดประสงค์ที่แท้จริงต้องแยกออกจากกัน
    โกลด์ฮิตจำเป็นต้องบีบคั้นให้กริดใช้งานเวทมนตร์ (พัฒนา) ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
    เมื่อเห็นกริดผ่านด่านไปจนถึงชั้นสิบหก  เธอตัดสินใจใช้งานหนึ่งในไพ่ตายที่ซุกไว้

    “คงต้องใช้ผู้พิทักษ์ลิลิธ…”

    ***

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 1 หน่วย ]
[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 1…  ]
[ เปลวเพลิงขนาดใหญ่แสดงผล  เป้าหมายได้รับความเสียหาย 5,000 หน่วย ]
    
    ดาบอัสนีฯ จะมีโอกาสปลดปล่อยเปลวเพลิงมหึมาในทุกการโจมตี  โอกาสแสดงผลจะมีราว 30% จากประสบการณ์ของกริด  
    ยิ่งโจมตีได้มากครั้ง  เปลวเพลิงมหึมาก็ยิ่งมีโอกาสแสดงผลบ่อย  สิ่งนี้สอดประสานอย่างลงตัวกับถุงมือว่องไวอเล็กซ์

    เปลวเพลิงมหึมาจะมีประสิทธิภาพค่อนข้างแย่หากนำไปเทียบกับเพลิงทมิฬ  การโจมตีชนิดนี้จะไม่ส่งผลต่อศัตรูที่มีค่าต้านทานธาตุไฟสูง
    
    แต่มันคือทางออกที่เยี่ยมที่สุดในเหตุการณ์ที่กริดกำลังเผชิญ
    เปลวเพลิงธาตุไฟอาจมีประโยชน์กว่าในบางสถานการณ์  โดยเฉพาะกับศัตรูที่มีค่าต้านทานกายภาพสูง  เพลิงทมิฬถูกจัดให้เป็นการโจมตีกายภาพชนิดหนึ่ง
    
    ‘แถมดาบเล่มนี้ยังมีออปชั่นอีกมาก’

    กริดฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจ
    เขาได้พบลาภก้อนโตเข้าแล้ววันนี้

    ค่าสติปัญญาของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นจากเดิมสิบสองแต้มหลังจากผ่านบดทดสอบไปจนถึงชั้นสิบหก    
    ผู้พิทักษ์ชั้นที่ผ่านมาอ่อนแอเสียจนกริดแทบไม่ต้องออกแรง  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขากำลังประมาท

    ‘หืม…ไม่เหมือนทุกที?’

    กึก!

    กริดเปิดประตูหอคอยชั้นสิบหกเข้าไปโดยไม่รีรอ  สิ่งแรกที่ได้พบคือรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมของผู้พิทักษ์
    ร่างกายเล็กลงเหลือขนาดเท่ามนุษย์เพศชายโตเต็มวัย  แต่บรรยากาศรอบตัวกลับไม่มีสิ่งใดน่าหวาดหวั่นพิเศษ
    ถึงกระนั้น  ผู้พิทักษ์ในด่านหลังย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าผู้พิทักษ์ในด่านช่วงแรก  
    กริดมิอาจประเมินความยากง่ายจากสิ่งที่เห็นด้วยตาเปล่า

    ‘ทำเอานึกถึงโกเล็มของบราฮัม…’

    เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์กองทัพโกเล็มรุกรานไรนฮาร์ทในอดีต
    โกเล็มร่างมนุษย์จะแข็งแกร่งชนิดที่โกเล็มใหญ่ทั่วไปเทียบไม่ติด
    โกเล็มประเภทมนุษย์คือเครื่องจักรสังหารที่สร้างหายนะแก่ไรนฮาร์ทได้สูงสุด
    ความแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมยังคงติดตราตรึงใจกริดมาจนถึงทุกวันนี้
    
    ‘คล้ายกันเกินไปรึเปล่า?  หรือว่าเราจำผิดไป?’

[ ผู้พิทักษ์ลิลิธ ]
    
    เขาอ่านชื่อมอนสเตอร์ชนิดใหม่พลางสำรวจโลหะที่ให้สร้างเป็นแกนหลัก

    “อึก!”

    ทันใดนั้น  กริดพลันต้องรีบชักดาบพร้อมตั้งท่าป้องกัน
    โกเล็มปริศนาตัวใหม่ได้พุ่งประชิดตัวด้วยความเร็วสูงซึ่งเป็นทักษะคล้ายคลึงกับ ‘ชุนโป’ ของยังบันการัม

    เพียงพริบตาเดียวก็ปรากฏตัวจ่อที่ปลายจมูกกริดเรียบร้อย

    เปรี้ยงงง— 

    เกิดแรงสั่นสะเทือนแผ่เป็นวงกว้างเมื่อกำปั้นของมันปะทะใส่คมดาบอัสนีฯ
    ผนังและเพดานหินภายในมิติด่านสิบหากพลันถล่มลงจนเกิดเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อย
    กริดฝืนต่อสู้กับผู้พิทักษ์โดยมิได้แยแสเศษฝุ่นที่ร่วงโปรยจากด้านบน

    ขณะโจมตีอย่างไม่หยุดพักก็พลางครุ่นคิดไปในตัว

    เขาประเมินว่าการรักษาระยะห่างกับสัตว์ประหลาดตัวนี้มิใช่ความคิดที่ดี
    กริดจึงฝืนต่อสู้ประชิดตัวทั้งอย่างนั้นโดยไม่ปล่อยให้มันได้พักหายใจ

    เคร้ง!

    เคร้ง!

    โกเล็มจะได้รับความเสียหายเพียงหนึ่งหน่วยทุกครั้งที่คมดาบกริดฟาดฟันปะทะร่าง  
    สัตว์ประหลาดตนนี้มีค่าต้านทานกายภาพมหาศาลเฉกเช่นผู้พิทักษ์ตัวก่อนหน้า
    ผู้พิทักษ์ลิลิธมิได้คิดปัดป้องการโจมตีแม้แต่น้อย  มันแลกหมัดอย่างดุเดือดโดยไม่กลัวเกรงภัยอันตรายจากกริด
    ในสายตามัน  ศัตรูเป็นเพียงมดปลวกที่สร้างความเสียหายได้หนึ่งหน่วยเท่านั้น
    ลิลิธจะชกสวนด้วยหมัดขวาเมื่อกริดฟันใส่  และชกสวนด้วยหมัดซ้ายเมื่อกริดแทงดาบใส่หน้าอก

[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,900 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,780 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 1,910 หน่วย ]

    กริดได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นทุกขณะ 
    แม้ภายนอกจะเป็นการต่อสู้อันดุเดือด  แต่ความจริงแล้วความเสียหายเกิดขึ้นกับฝ่ายเดียวเท่านั้น
    ทว่ากริดก็มิได้แสดงอาการตื่นตระหนก  เขารอคอยโอกาสที่เปลวเพลิงสีแดงส้มจะแสดงผลอย่างใจเย็น

    บึ้มมม!

    ในที่สุดดาบอัสนีฯ ก็เริ่มส่องแสง
    ทว่า… 

[ ท่านสร้างความเสียหายต่อเป้าหมาย 1,660 หน่วย ]

    ‘หืม?  ค่าต้านทานธาตุไฟเพิ่มขึ้นจากตัวก่อนหน้า?’

    พลังชีวิตของผู้พิทักษ์ลดลงเพียงเล็กน้อยทั้งที่หลอดพลังชีวิตของมันใหญ่มาก

    กริดตอบไม่ได้ว่าศัตรูจะตายในอีกกี่ดาบหากเขาเอาแต่หวังพึ่งเปลวเพลิงมหึมา
    บางทีค่าเรี่ยวแรงอาจหมดลงก่อนที่อีกฝ่ายจะล้มลง
    
    เคร้งงง!

    ผู้พิทักษ์มิได้แยแสเปลวเพลิงของกริด  มันกระโจนขึ้นฟ้าพลางหมุนตัวเตะด้วยส้นเท้าเต็มแรง
    ร่างกริดถูกกระแทกอย่างจังจนลอยกระเด็นไปด้านหลัง

    ภาพการมองเห็นของเขาเหลือเพียงเพดานที่ผุพัง

    ขณะเดียวกัน… 

    “โยะโฮะโฮะ…แข็งแกร่งใช่ไหมล่ะ?”

    โกลด์ฮิตบนชั้นแปดสิบกำลังมีความสุขเมื่อได้เห็นดวงตาที่สั่นระริกของกริด
    
    อันที่จริง  โกลด์ฮิตรู้สึกผงะไปชั่วครู่ในตอนแรก
    เธอทึ่งกับปฏิกริยาตอบสนองของกริดที่สามารถรับมือเวทมนตร์เคลื่อนที่ในพริบตาจากผู้พิทักษ์ 
    บลิ้ง—เวทมนตร์เคลื่อนที่ระดับสูงซึ่งมีเพียงจอมเวทน้อยคนนักจะครอบครอง 
    โกลด์ฮิตทราบดีว่าผู้สืบทอดแพ็กม่าคือช่างตีเหล็กและนักดาบ  แต่เธอไม่คิดว่ากริดจะมีความว่องไวและตอบสนองได้รวดเร็วเหมือนกับยอดนักรบเช่นนี้
        
    เขาแข็งแกร่งกว่าข่าวลือมาก    
    บางทีจักรวรรดิอาจประเมินชายที่ชื่อกริดต่ำเกินไป

    ‘ทว่า…’

    จุดเด่นของศัตรูในคราวนี้คือค่าต้านทานมหาศาลระดับสัตว์ประหลาด
    หากกริดต้องการเอาชนะผู้พิทักษ์ลิลิธ  เขาต้องละทิ้งดาบแล้วงัดเวทมนตร์ออกมาใช้สถานเดียว
    โกลด์ฮิตกำลังคาดหวังให้เกิดสิ่งนั้น
    เธอเฝ้ามองจากชั้นแปดสิบด้วยใจจดจ่อโดยไม่คิดพลาดการปลดปล่อยเวทมนตร์ (พัฒนา) แม้แต่อึดใจ

    แต่น่าเสียดายที่โกลด์ฮิตไม่ทราบว่า...
    กริดคือนักทำลายสามัญสำนึกตัวยง

    ***
        
    ผัวะ!

    เคร้งงง!

    ‘ไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด’

    กริดผู้กำลังตกที่นั่งลำบากเริ่มสัมผัสถึงความอบอุ่นจากข่าน  แม้ภายนอกจะถูกผู้พิทักษ์ลิลิธโหมกระหน่ำประเคนหมัดเท้าใส่อย่างไม่หยุดพัก

    ผลงานสุดท้ายของข่านได้ปกป้องตัวเขาจากอาการบาดเจ็บทั้งปวง
    ยิ่งไปกว่านั้น  วัลฮัลล่าจะปล่อยหมอกพิษหากกริดถูกโจมตี  
    
    เขากำลังเล็งสิ่งนั้นไว้

    เคร้งงง!    

    ชายหนุ่มโจมตีสวนกลับโกเล็มขณะที่ตนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
    เขาแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย

    เปรี้ยง!

    ผู้พิทักษ์ลิลิธชกใส่แขนกริดอย่างจังโดยไม่คิดปัดป้องดาบ  แต่ทันใดนั้น  เกิดหมอกสีเขียวหนาทึบฟุ้งกระจายเป็นวงกว้าง

    “นี่มัน…!”

    โกลด์ฮิตเฝ้ามองกริดอย่างไม่กระพริบตาเพื่อมิให้พลาดการไหลเวียนวงจรเวทมนตร์
    แต่เหตุการณ์ทำเกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกทึ่งจนต้องลุกยืนขึ้นจากที่นั่ง  โกลด์ฮิตย่อมทราบตัวตนหมอกสีเขียวปริศนาเป็นอย่างดี
    สิ่งนั้นคือหมอกพิษ!

    ซู่ววว—     

    สุดยอดพิษที่ไคโรผลิตขึ้นหลังจากการทดลองนานถึงสามสิบปีเต็ม
    มันทั้งรุนแรง  ทรงพลัง  และมิอาจต้านทานได้ด้วยยาถอนพิษทั่วไป  
    พิษนรกฟุ้งกระจายไปทั่วห้องมิติหอคอยชั้นสิบเจ็ด  สิ่งนี้คือออปชั่นจากชุดเกราะที่ข่านสร้างโดยเอาชีวิตเข้าแลก

    ผู้พิทักษ์ลิลิธย่อมไม่มีค่าต้านทานพิษ  
    กระแสความฮึกเหิมเมื่อครู่พลันสงบลงเมื่อถูกพิษร้ายเล่นงาน
    ไม่เพียงพลังชีวิตที่ลดลง  แต่การเคลื่อนไหวยังทื่อลงหลายส่วน  โลหะซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกายเริ่มถูกพิษกัดกร่อนจนเกิดสนิมอย่างรวดเร็ว

    “เหลวไหลสิ้นดี!”

    ชายคนนี้มีดาบเวทมนตร์สุดโกงแล้วยังมีชุดเกราะปล่อยพิษด้วยหรือ?
    โกลด์ฮิตกำลังกระวนกระวายใจเมื่อกริดตะลุยผ่านหอคอยชั้นสิบหก  สิบเจ็ด  และสิบแปดอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากชุดเกราะพิสดาร

    ผู้พิทักษ์ลิลิธกลายเป็นตัวตนไร้ค่า

    กริดมาถึงชั้นสิบเก้าอย่างง่ายดาย
    นี่คือบททดสอบด่านสุดท้ายที่โกลด์ฮิตตั้งไว้  กริดจะเข้าสู่ชั้นยี่สิบทันทีหากเขาผ่านด่านชั้นนี้สำเร็จ  
    
    ทว่า… 

    >>  เพิ่มบททดสอบอีกสิบชั้น!

    เสียงคำสั่งเจือปนความหงุดหงิดของโกลด์ฮิตพลันดังกังก้อนในหัวจอมเวททุกคนบนหอคอย
    เหล่าลูกศิษย์ของเธอต่างแสดงท่าทีคัดค้านทันที
    
    >>  ท่านจะไม่มอบผลประโยชน์ให้บุคคลภายนอกมากไปหน่อยหรือ?

    >>  ท่านอาจารย์…การกระทำเช่นนี้อาจเกิดผลกระทบร้ายแรงตามมา
    
    เศษเสี้ยวแห่งปัญญาซึ่งจะได้รับหลังจากผ่านบททดสอบถือเป็นรางวัลตอบแทนที่มีมูลค่ามหาศาล
    ไม่ว่าใครตามก็ล้วนต้องการผ่านหอคอยให้ได้มากชั้นที่สุด
    สาเหตุหลักที่จอมเวทของหอแห่งนิรันดร์หมั่นฝึกฝนเวทมนตร์เอาเป็นเอาตายก็เพื่อผ่านบททดสอบเหล่านี้

    แต่โกลด์ฮิตกลับเปิดให้บุคคลภายนอกใช้งานเป็นกรณีพิเศษ
    
    เธอย้อนถามกลับลูกศิษย์ทุกคนที่ออกปากโต้แย้ง

    >>  การเพิ่มบททดสอบเป็นเรื่องเสียหายตรงไหน?  นี่เป็นการทดสอบแขกพิเศษว่าคู่ควรจะพบฉันหรือไม่  มิใช่การมอบผลประโยชน์อย่างที่ทุกคนคิด  ต่อให้ฉันจะเพิ่มอีกสักกี่ชั้น  แต่ถ้ากริดไม่ผ่าน  เขาก็ได้รับสิ่งตอบแทนเท่าที่ตัวเองทำได้

    ขณะเดียวกัน… 
    กริดกำลังทะลวงผ่านบททดสอบชั้นแล้วชั้นเล่าอย่างไม่ยากเย็น  

    ...แถมยังไม่พึ่งพาเวทมนตร์แม้แต่ครั้งเดียว

    “บ้าจริง…!”

    โกลด์ฮิตมืดแปดด้านในศาสตร์เวทมนตร์ของตัวเองมานานหลายปี
    การที่พลังของตนไม่พัฒนาขึ้นเลยในช่วงหลัง  สิ่งนี้คอยตามหลอกหลอนให้เธอทุกข์ทรมาณราวกับอยู่ในขุมนรก

    ความหวังของเธอมีเพียงกริดเท่านั้น

    แต่ปัญหาคือ…
    กริดเป็นชายที่ยากจะคาดเดาการกระทำ

[ กริดเข้าสู่ชั้น 24 ]
[ กริดเข้าสู่ชั้น 25]
[ กริดเข้าสู่ชั้น 26]
...
...

    “…ทำไมเขาถึงไม่ใช้เวทมนตร์สักที!”

    คงไม่มีใครคาดคิดว่ามหาจอมเวทอันดับหนึ่งของทวีปจะเกิดอาการฉุนเฉียวเหมือนกับเด็ก
    แม้แต่ตัวกริดเองก็ไม่มีทางทราบว่าเขากำลังก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น

[ ประตูบานใหม่ถูกเปิดออก ]
[ ท่านต้องฝ่าฟันบททดสอบไปให้ถึงชั้น 40 ]

    “ที่นี่คือสวรรค์รึไง?”

    ยิ่งประตูบานใหม่เปิดออก  
    กริดก็ยิ่งได้รับค่าสติปัญญาเพิ่มขึ้น

    เขาเพิ่มพูนค่าสติปัญญามากถึง 40 แต้มภายในระยะเวลาเพียงสามชั่วโมง
    ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างไม่หุบ  
    กริดกำลังมีความสุขสุดขีด

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,226
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ทำไมกริดไม่ใช้ดาบเสือขาวซักทีนะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เพราะดาบอัศนีมีพลังโจมตีแล้วเอฟเพลิงครับทำให้พลังโจมตีมากกว่าส่วนดาบเสือขาวเน้นสมดุลครับ

      Delete
  2. กริดได้อัพเกรด มากมายในด้านทดสอบนี้ ค่าสติปัญญาล้วนๆ นั้นก็คือ อีกไม่นานถ้าได้ค่าสติปัญญามากขึ้นกริดก็จะได้เรียนเวทมนต์ที่บราฮัมทิ้งสูตรการเรียนเวทไว้ให้ และกริดก็จะเก่งทุกด้านนั้นเอง

    ReplyDelete
  3. เข้ากลุ่มลับยังไงครับกดเข้าลิ้งไม่ได้

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00