จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 793



    เคร้ง!  เคร้ง!  เคร้ง!

    พรึ่บ— 

    ชี่— 

    กริดให้ความร้อนไข่มุกและชุบแข็งซ้ำไปมาตลอดทั้งวัน  แต่ลมหายใจเสือขาวทั้งสองกลับไม่ย่อมอ่อนข้อแม้แต่น้อย
    ยิ่งถูกเปลวเพลิงและค้อนกระหน่ำใส่  มันกลับยิ่งโกรธเกรี้ยวดุร้ายยิ่งกว่าเก่า
    เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า  ขนที่สะบัดกลับยิ่งรวดเร็วและรุนแรง

    เคร้ง—!!

[ ท่านกำลังระคายเคืองศักดิ์ศรีของพญาเสือขาว ] 
[ เสือขาวกำลังเดือดดาล ]  
[ ท่านได้รับความเสียหาย 890 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 844 หน่วย… ]
...
...

    ‘หมอนี่เป็นเป็นยังบันในร่างสัตว์เทพรึไง?’

    ประหนึ่งเม่นที่พยายามปกป้องตัวเอง
    ลมหายใจเสือขาวจะสลัดขนหนามใส่ทุกครั้งที่ถูกแรงกระแทก  และใบหน้าของกริดจะเต็มไปด้วยบาดแผลขีดข่วน
    ชายหนุ่มไม่ปลื้มข้อความระบบวรรคที่กล่าวว่า ‘ศักดิ์ศรีของพญาเสือขาว’ เลยสักนิดเดียว
    เสือขาวจะโจมตีตอบโต้ทุกครั้งที่ศักดิ์ศรีของมันถูกระคายเคือง  แสดงให้เห็นเป็นอย่างดีว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่โอหังมากเช่นไร

    ‘หากวันใดเรามีโอกาสกลับไปทวีปตะวันออก’

    เคร้ง!  เคร้ง!

    'ถ้ามีโอกาสได้พบสัตว์เทพล่ะก็…'

    โฮกกก! 

    ฉึกฉึกฉึก!

    ‘ถ้าเลือกได้  เราขอไม่พบหน้าเสือขาวเป็นอันขาด…ต้องอยู่ให้ไกลห่างที่สุด’
    
    แต่ปัจจุบัน  กริดไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดเรื่องอื่นมากนัก  เขาต้องรับมือกับสัตว์ร้ายที่อยู่ตรงหน้า
    ชายหนุ่มเพ่งสมาธิทั้งหมดเพื่อหลบหลีกขนหนาม  อาการบาดเจ็บของกริดลดลงจากในตอนต้นอย่างเห็นได้ชัด
    
    ตัวกริดอาจไม่ทราบ  แต่ครอเกลเริ่มส่งโพชั่นไม่บ่อยเหมือนก่อนแล้ว

    ‘นี่คือสิ่งที่เขาเล็งไว้สินะ’

    ดวงตาครอเกลพลันส่องประกาย

    ‘สาเหตุที่กริดไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากหัตถ์เทวะ…เพราะเขาต้องการฝึกตัวเองเพื่อพัฒนาฝีมือด้านหลบหลีก’

    แม้แต่ยามสร้างไอเท็มยังเกิดความคิดที่น่ายกย่องได้ขนาดนี้เชียว?
    ชายคนนี้พยายามหนักกว่าใครในการกลบจุดด้อยของตัวเอง  ครอเกลยกย่องในจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของกริด    

    ‘ความอดทนของเขาส่งผลให้กริดกลายเป็นกริดเฉกเช่นทุกวันนี้’

    ครอเกลคิดไปเองหรือไม่ว่ากริดทำไปเพื่อฝึกฝนตนเอง?
    สาเหตุที่กริดไม่นำหัตถ์เทวะออกมาช่วยป้องกันเพราะเขาลืมรึเปล่า?
    คำตอบคือไม่

    กริดไม่ได้ลืม
    เขาตั้งใจใช้โอกาสนี้พัฒนาตัวเอง
    ความเกรี้ยวกราดของลมหายใจเสือขาวคือบทฝึกซ้อมที่ดีเมื่อไม่มีของวิเศษช่วยทุ่นแรงอย่างหัตถ์เทวะ
    กริดเกิดไอเดียนี้ได้เพราะเขาไม่หยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียว  

    สิ่งนี้ถูกคำนวณไว้ตั้งแต่ต้น 
    และครอเกลก็มองมันออก
    แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ครอเกลคาดไม่ถึง

[ ค่าประสบการณ์เข็มขัดทีราเม็ท (ยูนีค) เพิ่มขึ้น 0.01% ]    

    การเก็บค่าประสบการณ์ให้ไอเท็ม
    ขนหนามของเสือขาวถูกจัดให้เป็นการโจมตีระดับสูงแม้จะมีความเสียหายต่ำ
    ถือเป็นแดนสวรรค์สำหรับการเก็บค่าประสบการณ์ไอเท็มเลยทีเดียว
    ถึงจะเพิ่มเพียง 0.01% หลังจากถูกอัดหลายร้อยครั้ง  แต่ก็นับว่าคุ้มค่ามากแล้ว

    ‘น่าเสียดายมาก…หากการทุบค้อนถือเป็นการโจมตี  แหวนเอลฟิน·สโตนก็คงจะเพิ่มระดับเช่นกัน’
    
    ใช่แล้ว
    กริดต้องการเพิ่มสามสิ่งไปพร้อมกับการสร้างดาบเล่มใหม่
    ฝีมือควบคุม  
    ค่าประสบการณ์ไอเท็ม  
    และพัฒนากระบวนการคิด    

    เคร้ง!

    เคร้ง!

    ถึงกระนั้นเขาก็มิได้คิดสร้างดาบให้ออกมาเป็นงานหยาบ
    กริดในปัจจุบันไม่โง่พอจะทำให้วัสดุล้ำค่าเช่นลมหายใจเสือขาวต้องเสียของ
    สิ่งสำคัญที่สุดของช่วงเวลานี้คือการสร้างไอเท็มชั้นเลิศ  เขาจำเป็นต้องเพ่งสมาธิกับการทุบค้อนมากกว่าส่วนอื่นใด
    กริดเข้าสู่ภาวะจิตสงบนิ่งจนสามารถนับจำนวนขนหนามที่พุ่งกระจายออกมาในแต่ละครั้ง

    แต่ผลของการเสริมแกร่งกลับไม่น่าพึงพอใจนัก

    ฉึก ฉึก!

    “อึก…!”

    กาลเวลาล่วงผ่านอย่างรวดเร็ว
    กริดเริ่มออกอาการเหนื่อยล้าทางใจในวันที่สามของการเสริมแกร่งลมหายใจเสือขาว    
    
    ความเกรี้ยวกราดของเสือขาวยังไม่ทุเลาลงเลยสักนิด

    ‘ทำไมถึงดื้อด้านแบบนี้?’

    แข็งแกร่งจนผิดปรกติหากเทียบกับวัสดุในระดับเดียวกัน
    ไม่ว่ากริดจะให้ความร้อนและชุบแข็งบ่อยครั้งเพียงใด  แต่ลมหายใจเสือขาวกลับยังคงมีรูปทรงไข่มุกเม็ดกลมเช่นเดิม    
    
    ทันใดนั้น  กริดหวนนึกถึงคำว่า ‘ศักดิ์ศรีของพญาเสือขาว’ 
    เขาพลันตระหนักถึงสิ่งที่ตนมองข้ามไป
    
    ‘เดี๋ยวก่อน…’

    เขาเพิ่งฉุกคิดได้ในวันที่สามของความยากลำบาก

    ‘หรือจะไม่ใช่นิสัย…แต่เกิดจากผลของธาตุ?’

    เสือขาวคือธาตุดิน
    ธาตุดินจะทนทานต่อไฟได้ดีเป็นพิเศษ
    เมื่อทบทวนสิ่งพื้นฐานของเกมออนไลน์  กริดเริ่มตระหนักว่าเขาทำพลาดมาตั้งแต่ต้น

    ‘ลมหายใจเสือขาวมีคุณสมบัติธาตุดินโดยธรรมชาติ…จึงเป็นวัสดุที่มิอาจถลุงได้ด้วยเปลวเพลิงปรกติ’

    กริดพลันเจ็บแปลที่ศีรษะขึ้นมาจับใจ
    ครอเกลผู้คอยปกป้องกริดมานานสามวันเต็ม  เขาเอ่ยปากถามเมื่อเห็นกริดงะชักพลางขมวดคิ้ว  

    “เกิดอะไรขึ้น?”

    “ฉันถลุงมันไม่ได้”

    “…?”

    แพนเมียร์ลุกพรวดขึ้นจากเสื่อผืนที่เขาใช้หลับนอน
    
    “ถลุงไม่ได้…นายหมายความว่ายังไง?”

    แพนเมียร์เฝ้ามองการทำงานของกริดตลอดสามวันที่ผ่านมา
    เขาไม่ต้องการพลาดความยอดเยี่ยมของช่างตีเหล็กในตำนาน
    แพนเมียร์ไม่พบจุดบกพร่องในท่วงท่าและเทคนิคการตีเหล็กของกริดแม้แต่น้อย
    ชายคนนี้แสดงฝีมือได้สมกับฐานะช่างตีเหล็กในตำนาน

    แต่ลมหายใจเสือขาวกลับไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์แม้แต่น้อย
    เป็นเพราะมันไม่มีวันถูกถลุงหรอกหรือ?

    “หมายความว่าเรานำมันมาสร้างเป็นไอเท็มไม่ได้?”

    แพนเมียร์ถามด้วยสีหน้าสับสนเพราะเขาไม่เคยมีประสบการณ์กับวัสดุเกรดมิธมาก่อน  
    ไม่เหมือนกับครอเกลที่นิ่งเงียบไปเพราะสิ่งนี้มิใช่โลกที่เขาถนัด  แพนเมียร์ยังคงเอ่ยปากถามกริดอย่างใคร่รู้

    “หรืออุณภูมิจะร้อนไม่พอ?  การถลุงวัสดุธาตุดินต้องมีความร้อนสูงกว่านี้งั้นหรือ?”

    “ไม่เลย…อุณหภูมิเพิ่มถึงค่าสูงสุดแล้ว”

    วัสดุที่ใช้สร้างไอเท็มสามารถแบ่งได้เป็น ‘แร่บริสุทธิ์’ และ ‘แร่ผสม’
    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ
    เหล็กเป็นแร่บริสุทธิ์  ส่วนเหล็กกล้าเป็นแร่ผสม

    เมื่อเหล็กเริ่มร้อน  อุณหภูมิของเนื้อเหล็กจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดหลอมเหลวที่ 1,530 องศาเซลเซียส  และอุณหภูมิจะคงที่ไปเช่นนี้จนกว่าเหล็กละลายเป็นของเหลวโดยสมบูรณ์
    ในทางกลับกัน  เหล็กกล้าที่เป็นแร่ผสมจะไม่คงค่าอุณหภูมิเดิมไว้แม้จะร้อนได้ที่
    มันจะเพิ่มขึ้นอีกราว 100 องศาหลังจากถึงจุดหลอมเหลว
    กริดสามารถระบุว่าวัสดุใดเป็นแร่ผสมหรือแร่บริสุทธิ์ได้จากอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปเมื่อร้อนถึงจุดหลอมเหลว    

    “ลมหายใจเสือขาวคือแร่บริสุทธิ์ที่ไม่มีสิ่งอื่นเจือปนแม้แต่น้อย  หลักฐานคืออุณหภูมิของมันค้างอยู่ที่ 7,230 องศาเป็นเวลานาน”

    ใช่แล้ว  ปัญหาไม่ได้อยู่ที่อุณหภูมิ
    ระบบซาทิสฟายระบุชัดเจนว่าจุดหลอมเหลวของลมหายใจเสือขาวคือ 7,230 องศา    
    สิ่งที่ช่วยยืนยันได้ดีคือสภาพหลังนำออกจากเตาหลอม
    ลมหายใจเสือขาวจะมีลักษณะอ่อนตัวลงเล็กน้อยเหมือนกับชุบด้วยโคลนหนืด

    “แต่การทุบค้อนในสภาพดังกล่าวกลับไม่ทำให้รูปร่างของมันเปลี่ยนไปสินะ?”

    “ถูกต้อง  มันคือสาเหตุที่ทำให้ฉันเพิ่งรู้ตัวเอาป่านนี้  ลมหายใจเสือขาวแข็งแกร่งจนทำให้ฉันเข้าใจผิดในตอนแรก  คิดแต่เพียงว่าเป็นแร่ที่สามารถถลุงได้จากการทำซ้ำเป็นเวลานาน”

    แต่ตอนนี้ทุกสิ่งกระจ่างแล้ว

    “การถลุงคือวิธีที่ผิด…ฉันต้องละลายมันเพื่อเสริมแกร่งถึงจะถูก

    อุณหภูมิไม่ผิด  ที่ผิดคือวิธีการ  
    ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีคำอธิบายอื่นอีก
    กริดได้ข้อสรุปพลางหันไปถามครอเกลและแพนเมียร์

    “ธาตุดินแพ้ธาตุอะไร?”

    “น้ำและน้ำแข็ง”

    “หากต้องการลงลึกในรายละเอียด  ทักษะป้องกันประเภทดินจะแพ้ทางทักษะโจมตีประเภทพืช”

    “แพ้ทางการทำให้เปียกชุ่ม  แช่แข็ง  หรือทำลายจากด้านในสินะ”

    กริดเริ่มคาดเดา
    ในการเสริมแกร่งลมหายใจเสือขาว  เขาจำเป็นต้องทำให้พลังของมันอ่อนลงเสียก่อน
    
    แต่ช่างตีเหล็กพึ่งพาได้เพียงพลังจากธาตุไฟของเตาหลอมเท่านั้น
    
    น้ำ  น้ำแข็ง  หรือพืช
    ไม่มีสิ่งใดเป็นด้านถนัดของกริด
    
    ‘ช่างตีเหล็กไม่มีวันเสริมแกร่งลมหายใจเสือขาวได้งั้นหรือ?’

    หากระบุให้ชัดคือไม่มีทางทำได้ตามลำพัง  จำเป็นต้องมีคนช่วยในสิ่งที่ขาดไป
    กริดคิดถึงบราฮัมขึ้นมาจับใจ

    ‘ถ้ามีบราฮัมล่ะก็…’

    หมอนั่นคงพูดว่า

    “เฮ่อะ!  ง่ายเหมือนปอกกล้วย!  ด้วยพลังของฉันผู้นี้  ฉันจะเสกมหาสมุทรซัดโถมท่วมจนเจ้าเสือขาวกระจอกนั่นจมน้ำตาย  หรือไม่ก็แช่ให้แข็งแล้วทำลายจนแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อย!”

    “เฮ่อ…”

    กริดยิ้มอย่างขื่นขม
    พลังที่ดีที่สุดของตนคือการพึ่งพาคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วสินะ
    เขารีบส่งข้อความเสียงหาลอเอล

    >>  กิลด์เรามีจอมเวทที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์วารีเป็นพิเศษบ้างไหม?
    
    >>  กระหม่อมไม่ทราบว่าฝ่าบาทมีจุดประสงค์ใด  แต่กิลด์เรามีอยู่หนึ่งคนที่ใช้เวทวารีได้ทรงพลังยิ่งกว่าใครทั้งหมด

    ลอเอลมีวิสัยทัศน์ในระดับสูง
    เขาคอยสอดส่องคนรอบตัวเสมอ  จึงสามารถเลือกใช้คนได้เหมาะกับงานทุกครั้ง
    ลอเอลมีบรรทัดฐานความแข็งแกร่งโดยอ้างอิงจากกริดเป็นที่ตั้ง
    ดังนั้นหากเขากล่าวว่า ‘ทรงพลัง’ ย่อมหมายถึงผู้นั้นทรงพลังอย่างแท้จริง
    กริดเริ่มคาดหวังทันที

    >>  ใครกัน?

    >>  ยูเฟอนิม่า

    >>  จริงด้วย!

    นักคัดลอก ‘ยูเฟอมิน่า’

    ใช่แล้ว  เธอสามารถคัดลอกเวทมนตร์ธาตุน้ำระดับสูงได้

    ‘แต่เวทมนตร์ธาตุน้ำระดับสูงจะหาได้ง่ายขนาดนั้นเชียว?’

    ในการจะคัดลอก
    เธอต้องมองหาจอมเวทที่ใช้เวทมนตร์ธาตุน้ำให้พบ  จากนั้นก็คอยจับตามองอย่างละเอียดขณะอีกฝ่ายร่ายมนตร์
    กริดมิอาจทราบได้เลยว่ายูเฟอมิน่าต้องใช้เวลานานกี่วันจนกว่าจะคัดลอกเวทมนตร์วารีระดับสูงสำเร็จ

    กริดต้องการเสริมแกร่งลมหายใจเสือขาวเดี๋ยวนี้  ลอเอลกล่าวต่อไปขณะกริดกำลังแสดงสีหน้าผิดหวัง

    >>  ยูเฟอมิน่าเรียนรู้เวทมนตร์ของมูมัดบางชนิด  และดูเหมือนจะเป็นธาตุน้ำ

    >>  ใช่แล้ว!  เคยมีเรื่องแบบนั้นไม่ผิดแน่!

    ใบหน้ากริดกลับมาเปี่ยมสุขอีกครั้ง
    บราฮัม  หนึ่งในตำนานที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ตำนาน
    และมูมัด  หนึ่งในอัจฉริยะที่รอดชีวิตจากการดวลตัวต่อตัวกับมังกรไฟทราวก้า
    เวทมนตร์ของมูมัดต้องมีระดับไม่ต่างจากบราฮัมมากแน่
    กริดรีบส่งข้อความหายูเฟอมิน่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

    >>  ยูเฟอมิน่า…ช่วยมาที่โรงเหล็กหลวงได้ไหม? 

    >>  แน่นอน  ถ้านายให้เกียรติเรียกหาด้วยตัวเองเช่นนี้

    เธอไม่ไต่ถามด้วยซ้ำว่าไปหาด้วยเหตุใด
    ยูเฟอมิน่ามีความจงรักภักดีต่อกริดในระดับที่น่าทึ่ง
    ต้องขอบคุณเวทมนตร์จากมูมัด  กำแพงขีดจำกัดในการเก็บเลเวลของนักคัดลอกจึงถูกทำลายโดยเสิ้นเชิง
    เธอรีบเดินทางกลังไรนฮาร์ทด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อพบกริด
    
    ***

    “นี่คือ?”

    ไข่มุกสีขาว
    สีของมันค่อนข้างประหลาด
    เป็นสีขาวด้านมิได้แวววาวเหมือนไข่มุกปรกติ  แต่เป็นความด้านที่ลุ่มลึกจนยากอธิบาย    
    รอบผิวสีขาวกำลังแผ่พลังเวทมนตร์อันน่าพิศวงตลอดเวลา
    
    “ลองใช้เวทมนตร์ธาตุน้ำโจมตีใส่จนกว่ามันจะเปลี่ยนรูปร่าง”

    “ฉันจะลองดู”

    ยูเฟอมิน่าผงกศีรษะเล็กน้อยพลางประสานมือด้านหน้า
    ทันใดนั้น… 
    
    ‘อะไรกัน?’

    ทั้งกริดและครอเกลต่างทึ่งไปพร้อมกัน
    
    ออร่าสีฟ้าไร้รูปร่างที่มักปรากฏขึ้นเวลาจอมเวทร่ายมนตร์
    สิ่งที่ดูคล้ายคลึงกับ ‘มานา’ กำลังถูกรวบรวมจากทั่วโรงเหล็กมาไว้ที่ปลายนิ้วของยูเฟอมิน่า
    ฉากดังกล่าวแตกต่างจากการร่ายมนตร์ของจอมเวทโดยสิ้นเชิง
    หากเป็นจอมเวททั่วไป  พวกเขาจะ ‘ปลดปล่อย’ มานาจากวงจรเวทมนตร์ภายในร่างกาย
    แต่ของยูเฟอมิน่าราวกับเธอกำลัง 
‘ดูดซับ’ มานาจากบรรยากาศรอบตัว

    บึ้มมมม!

    เธอยิงกลุ่มก้อนมานาออกจากปลายนิ้ว
    มานาสีฟ้าครามราวกับลำธารได้พุ่งกระแทกใส่ลมหายใจเสือขาวอย่างจัง
    ทันใดนั้น… 

    “ฮ…เฮ้ย?”

    “ข…แข็งแกร่ง”

    กริดและครอเกลต่างหน้าซีดพร้อมกัน
    ลมหายใจเสือขาวที่ยังรักษาสภาพเดิมเสมอแม้กริดจะใช้เวลาทุบนานถึงสามวันเต็ม
    แต่มันกลับบิดเบี้ยวผิดรูปเพียงเพราะยูเฟอมิน่าทดสอบโจมตีครั้งแรก

    บึ้มม!  บึ้มมม!  บึ้มมม!

    เธอกระหน่ำยิงเวทมนตร์ใส่ไข่มุกสีขาวทั้งสองจนกว่ากริดจะบอกให้หยุด
    เวทวารีที่เธอยิงออกไปทั้งดุดันและเกรี้ยวกราดประหนึ่งสัตว์ป่าหิวกระหาย

    ‘ลักษณะของเวทมนตร์คือกระจกเงาสะท้อนนิสัยผู้ใช้…’

    กริดที่หวาดกลัวยูเฟอมิน่าเป็นทุนเดิมพลันสั่นระริกต่อความดุดันที่เธอแสดงออก

    “พอก่อน!”

    “อื้อ”

    กริดรีบคว้าลมหายใจเสือขาวออกมาสำรวจเมื่อยูเฟอมิน่าหยุดมือ
    ผิวรอบนอกเกิดรอยร้าวอย่างเห็นได้ชัด  ราวกับใกล้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มที

    ‘เจ๋ง!’

    ชายหนุ่มไม่รีรอ
    เปลวเพลิงจากฟืนไม้ฟอสฟอรัสขาวพลันลุกโชนขึ้นด้วยอุณหภูมิ 7,230 องศาในพริบตา
    จากนั้น… 

    เคร้ง!  แกร่ก!

    เปรี้ยะ!

    รอยร้าวของลมหายใจเสือขาวเพิ่มมากขึ้นในทุกค้อนที่ทุบลงไป
    ในที่สุดขั้นตอนถลุงอันยาวนานก็ดำเนินมาถึงจุดจบเสียที
    ทั้งหมดเกิดจากการผนึกำลังระหว่างความรู้และทักษะของกริดกับครอเกล  รวมถึงเวทมนตร์สุดทรงพลังจากยูเฟอมิน่า
    
    กริดกำลังสัมผัสได้
    ดาบที่ดีที่สุดของโลกกำลังจะถือกำเนิดในไม่ช้า

Comments

  1. อ่าว แล้วดาบอัสนีละ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ดาบอัสนีเป็นดาบที่โกงสุดในโลกมั้ง

      Delete
    2. แต่ดาบดีสุดละ

      Delete
    3. ดีที่สุดก็คือดีที่สุดแต่ก็ไม่ได้โกงเท่าดายอัสนีที่โกงที่สุด
      ก็เหมือนรถที่ดีที่สุดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแรงที่สุด

      Delete
    4. ก็เหมือนกับดาบใหญ่ความผิดพลาด ที่เน้นแรง กับดาบใหญ่กริดที่สมดุล และเหมาะมือที่สุด

      Delete
  2. 🙏ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  3. เกลียดกริดก็ตรงนี้หละกลัวยูเฟอมิน่าทำไมถ้าสู้กันจริงๆกริดก็ชนะอยู่ดีกริดมีทั้งโนเอะแรนดี้หัตเทวะยารุกต์อีกแถมอีกอย่างเวทมูมัดของเธอยังมีไม่กี่ชนิดเองถ้าสู้กันนานๆกริดก็ชนะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. หมายถึงทักษะคัดลอกครับ หากยูเฟอมิน่าเตรียมพร้อมที่สุด โอกาศชนะกริดมาไม่ต่ำกว่า 50% เลย แต่คุณคงไม่กลับมาอ่านหรอกไว้ให้คนที่มาอ่านที่หลังได้รู้ก็แล้วกัน

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00