จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 789



    โอเวอร์เกียร์คืออาณาจักรผู้เล่นอันดับหนึ่ง ณ ปัจจุบัน
    พวกเขาแข็งแกร่งจนเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อขั้วอำนาจอื่น
    การตกเป็นเป้าโจมตีคือสิ่งที่มิอาจเลี่ยง
    ผู้คนมากมายคอยเฝ้าจับตาอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในทุกฝีก้าว

    แต่กริดกลับมิได้กระหนักในจุดนี้
    เขามองข้ามโชคชะตาอันโหดร้ายที่ผู้แข็งแกร่งต้องแบกรับ
    กริดปกป้องอาณาจักรไม่รัดกุมในยามที่ตัวเองลงแข่งนานาชาติ  ส่งผลให้ถูกศัตรูลอบแทรกซึมได้ง่ายดาย
    ความประมาทเลินเล่อครั้งใหญ่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของข่าน

    หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น  
    กริดหมั่นฝึกฝนตนเองในด้านสติปัญญาอย่างหนัก
    
    หากเขาฉลาดกว่าที่เป็นอยู่  ข่านคงไม่ต้องตายอย่างโดดเดี่ยว
    กริดท้าทายตัวเองให้ถือกำเนิดใหม่ในฐานะกษัตริย์ผู้มีไหวพริบ    

    เขารวบรวมความรู้ได้ช้ากว่าผู้อื่นเนื่องจากมีสติปัญญาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมนุษย์
    แต่กริดชดเชยมันโดยการ ‘ไม่หยุดคิด’ แม้แต่วินาทีเดียว  
    เขาอาศัยการกระทำซ้ำซากจำเจที่เป็นสิ่งถนัดเพื่อชดเชยจุดอ่อนด้านสติปัญญาที่บกพร่อง
    
    กริดไม่มั่นใจว่าทฤษฏีนี้จะได้ผลลัพธ์เช่นไร  แต่มันคงไม่เสียหายหากเริ่มนำมาปฏิบัติจริง

    และเมื่อครู่คือผลลัพธ์จากทฤษฏีดังกล่าว
    สติปัญญาด้อยกว่าผู้อื่นแล้วอย่างไร?
    หากบังคับตัวเองให้ใช้เวลาขบคิดมากกว่าเป็นเท่าตัว  เขาสามารถไล่ตามคนอื่นทันแน่

    กริดประมวลทุกสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาในหัว  สมองทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก
    
    เหตุใดกริดจึงอัญเชิญปิอาโร่เพียงคนเดียวในตอนแรก?
    เพราะเขาไม่เห็นแอ็กนัส

    กริดประเมินว่าอัศวินสีชาดและอิมมอทัลอาจเป็นเพียงเหยื่อล่อ
    หากตนอัญเชิญอัศวินทุกคนในคราวเดียว  อาจเป็นการเปิดช่องว่างให้แอ็กนัสจู่โจมใส่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ที่ว่างเปล่า

    นั่นคือสาเหตุที่ปิอาโร่ถูกเรียกออกมาตามลำพังในตอนต้น    
    
    กริดระแวงคนสนิทของเมอร์เซเดสด้วยสาเหตุที่ไม่ต่างกัน
    
    สิ่งนี้เกิดจากการไม่หยุดคิด
    เขามิใช่คนที่หาบทสรุปได้เร็วก็จริง  
    แต่หากใช้เวลาไตร่ตรองให้มาก  ผลลัพธ์จะมีค่าเท่ากับอัจฉริยะที่ใช้เวลาครุ่นคิดเพียงเล็กน้อย

    เท่านั้นก็มากพอแล้ว
    
    จิตใจของกริดกำลังเหนื่อยล้า
    ไม่เหมือนกับตอนที่เขาลงมือด้วยสัญชาตญาณหรืออารมณ์และปล่อยให้หน้าที่ขบคิดเป็นของลอเอล    
    การบังคับตัวเองให้ย้ำคิดหาเหตุผลของทุกสิ่งรอบตัวจะสิ้นเปลืองพลังใจในระดับมหาศาล

    ซู่วว— 

    คาซิมหายตัวไปในความมืด

    “เฮ่อ…”

    กริดเอนหลังพิงเบาะรถม้าอย่างหมดแรงประหนึ่งเพิ่งปราบจอมอสูรสำเร็จ
    ปิอาโร่สำรวจอาการอย่างถี่ถ้วนก่อนจะก้มศีรษะอย่างนอบน้อม

    “ฝ่าบาทเติบโตขึ้นมาก”

    ปิอาโร่ภูมิใจในตัวกริด
    แทนที่จะเศร้าโศกหรืออาลัยอาวรณ์อยู่กับความตายของข่าน  
    กริดพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ข่านบนสวรรค์ภาคภูมิใจ
    
    แม้กระทั่งการเข้าเฝ้าจักรพรรดิก็ยังทำได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง
    กริดเอ่ยปากถามขณะปิอาโร่อมยิ้มอย่างมีความสุข

    “ฉันทำถูกหรือไม่ที่คิดปิดปากคนสนิท"

    กริดได้เห็นวินัยและความเข้มงวดของอัศวินสีชาดเต็มสองตา
    แม้คนเหล่านั้นจะสั่นสะท้านเมื่อได้เห็นปิอาโร่อีกครั้ง  แต่ทุกคนกลับปฏิบัติตามคำสั่งเมอร์เซเดสอย่างเคร่งครัด
    
    และในการต่อสู้ช่วงหลัง
    ถึงจะมีหลายคนที่ไม่เข้าใจเรื่องราวจากปากอัสโมเฟล  แต่เมื่อเมอร์เซเดสตัดสินใจเลิกสงครามเพื่อสืบสวน  ก็ไม่มีผู้ใดคิดคัดค้านแม้แต่คนเดียว
    กริดเชื่อว่าอัศวินสีชาดในเหตุการณ์จะไม่แพร่งพรายความลับของอัสโมเฟลและปิอาโร่ออกไป
    
    ทว่า
    ไม่ใช่กับคนสนิทของเมอร์เซเดส

    เขาไม่มีทางทราบถึงนิสัยชายปริศนาที่ยืนเฝ้าม้าจากระยะไกล
    นั่นคือที่มาของคำสั่งปิดปาก

    ปิอาโร่พยักหน้า

    “เมอร์เซเดสจัดการเรื่องนี้ได้แน่  เธอมีความสามารถในการคัดกรองอัศวินและคนสนิทที่เหมาะสม”

    “นายเชื่อใจเธอมากเลยนะ”

    “เธอเป็นเด็กอัจฉริยะที่มีสายตาเฉียมแหลมเหนือผู้ใด”

    สิ่งนี้คือเหตุผลที่ปิอาโร่เลือกเมอร์เซเดสเป็นลูกศิษย์

    “เธอเติบโตได้รวดเร็วตามที่กระหม่อมคาดคิดไว้  อีกไม่นานต้องกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักจักรวรรดิแน่”

    ปิอาโร่ค่อนข้างแปลกใจเมื่อได้พบหน้าเมอร์เซเดสหลังจากถูกกริดอัญเชิญ
    เขาไม่คิดว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่
    
    ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น
    ดังที่เคยกล่าวไปก่อนหน้า  
    อัสโมเฟลผู้ถูกล้างสมองได้สังหารคนใกล้ชิดปิอาโร่เกือบทั้งหมด
    เขาไม่มีทางปล่อยใครไว้เป็นเสี้ยนหนามแว้งกัดในอนาคตแน่
    จึงน่าประหลาดไม่น้อยที่เมอร์เซเดสผู้เป็น ‘ศิษย์เอก’ ของปิอาโร่จะยังมีชีวิตอยู่
    
    ซึ่งในตอนนั้น
    อัสโมเฟลแอบละเว้นเมอร์เซเดส
    ด้วยเหตุผลก็คือ… 

    ‘จิตใต้สำนึกของเขาหวาดกลัวต่อจักรวรรดิ’

    อัสโมเฟลแอบไว้ชีวิตเหล่าอัจฉริยะแม้กำลังถูกล้างสมอง
    หนึ่งในนั้นคือเมอร์เซเดส
    ปิอาโร่แหงนหน้ามองทองฟ้ายามรัตติกาลเมื่อครุ่นคิดถึงอดีต

    “ยิ่งนายพูดแบบนี้  ฉันก็ยิ่งอยากได้ตัวเธอมาครอบครอง”

    กริดประกาศกร้าว

    “เมอร์เซเดสต้องเป็นของฉัน”

    กริดมีสีหน้าบิดเบี้ยวเมื่อย้อนคิดกลับไปในตอนที่ดวลกับเมอร์เซเดส
    เขาสัมผัสถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลจากเธอ

    กริดรู้สึกราวกับเมอร์เซเดสมองเห็นการกระทำของตนล่วงหน้า
    มันแตกต่างจาก ‘อ่านใจ’ ของมหาจอมดาบที่ใช้ครอเกลใช้บ่อยครั้ง

    กริดเคยคิดว่าเป็นเพราะฝีมือดาบที่ห่างชั้นเกินไป  
    แต่เมื่อลองทบทวนให้ดี  
    มันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด

    เขาลองเปลี่ยนมุมมองความคิด
    กริดตั้งสมมติฐานใหม่ว่าเมอร์เซเดสสามารถ ‘มองเห็นอนาคต’
    แล้วทุกอย่างก็ลงล็อค 

    ‘พลังของหล่อนเข้าขั้นขี้โกง’

    กริดแสดงสีหน้าหนักใจ
    เมอร์เซเดสอยู่ในระดับเดียวกับปิอาโร่ไม่ผิดแน่  ขุนเขาสูงตระหง่านที่ผู้เล่นไม่มีวันก้าวข้ามไปชั่วชีวิต
    
    NPC พิเศษเหนือพิเศษ
    กริดปรารถนาจะได้ตัวเธอมาเป็นพวก    
    
    ปิอาโร่เองก็เช่นกัน
    ขณะดวลกับเมอร์เซเดส  แม้แต่ปิอาโร่ผู้เก่งกาจยังคิดออกเพียงหนทางเดียวในการเอาชนะเธอ
    นั่นคือ ‘ความตายที่ถูกลิขิต’

    ‘และหากปล่อยไว้แบบนี้…’

    เธอจะเติบโตจนกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ ‘ความตายที่ถูกลิขิต’ ไม่ส่งผล
    ปิอาโร่ปรารถนาจะได้เธอมาเป็นพวก

    “กระหม่อมเห็นด้วย…เธอต้องเป็นของฝ่าบาทเท่านั้น”

    “อา…”

    กริดพยักหน้า
    ภายในใจของเขาเกิดคำถามหนึ่งข้อที่มิได้กล่าวออกไป
    หากมลทินของปิอาโร่ถูกขจัดโดยสมบูรณ์  เขาจะยังรับใช้โอเวอร์เกียร์ต่อไป  หรือกลับไปอยู่ที่จักรวรรดิกันแน่

    แต่กริดมิได้ถาม
    เขาเชื่อใจชายคนนี้

    “กลับไรน์ฮาร์ทกันเถอะ”

    ระหว่างทาง
    กริดครุ่นคิดถึงสาเหตุการถูกลอบโจมตี
    เมื่อไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน  มีโอกาสสูงที่ฮวนเดอร์จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

    น่าจะเป็นฝีมือทางฝั่งจักรพรรดินีแมรี่เสียมากกว่า  แต่การด่วนสรุปด้วยสติปัญญาตัวเองไม่ใช่เรื่องดีนัก
    เขาต้องรีบกลับไรน์ฮาร์ทเพื่อปรึกษากับลอเอล

    ‘เหนื่อยฉิบ'’

    หนึ่งวันในจักรวรรดิช่างยาวนานราวกับสิบปี
    กริดมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้าเพื่อสังเกตุบรรยากาศโดยรอบ
    และบังเอิญเหลือบไปเห็นอัสโมเฟลเข้า

    อัสโมเฟลกำลังเดินคุ้มกันด้านขวาของรถม้าด้วยสีหน้าเจ็บปวด

    ‘ความผิดบาปได้ฝังรากลึกและกัดกินจิตใจชายคนนี้จนเกินเยียวยาแล้ว’

    การลืมมลทินของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย
    แม้ปิอาโร่อาจให้อภัย  แต่ครอบครัวของเหล่าอัศวินที่ตายไปคงไม่    
    หากเป็นไปตามที่กริดคาดไว้  อัสโมเฟลจะจบชีวิตของตัวเองลงทันทีเมื่อเขาแก้แค้นแมรี่สำเร็จ
    
    ‘…เดี๋ยวก่อน’

    ขณะกริดกำลังแสดงสีหน้าเศร้าหมอง
    เขาเกิดความคิดประหลาดอย่างหนึ่ง

    ‘อัศวินสีชาดถูกอัสโมเฟลฆ่าหมดแล้วจริงหรือ?’

    กลุ่มคนทรยศที่ใกล้ชิดปิอาโร่
    นั่นคือคำทีจักรวรรดิใช้เรียกขานอดีตอัศวินสีชาดในยุคนั้น

    กริดรับรู้มาว่า ‘เกือบทั้งหมด’ ของอัศวินสีชาดถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม
    
    ใช่แล้ว
    เกือบทั้งหมด…มิใช่ทั้งหมด

    ต้องมีอีกหลายคนที่รอดชีวิต
    เหมือนกับเมอร์เซเดส

    ‘อัสโมเฟลอาจชดเชยบาปในอดีตของตัวเองได้’

    กริดไม่รอช้า  
    เขาออกคำสั่งแก่อัสโมเฟลทันที

    “อัสโมเฟล  จงท่องไปทั่วทวีปและค้นหาอัศวินสีชาดที่ยังเหลือรอดให้พบ”

    “หือ…?  อ…อะไรนะ”

    ทั้งประหลาดใจและหวาดกลัว
    ใบหน้าของอัสโมเฟลพลันหม่นหมองจากคำสั่งที่ไม่คาดคิด  
    กริดจ้องเข้าไปในดวงตาที่กำลังสับสนพลางอธิบาย
    
    “ฉันต้องการครอบครองอดีตอัศวินสีชาดทั้งหมด  ทำเพื่อฉันได้ไหม?”

    “ฝ่าบาทต้องการตัวอดีตอัศวินสีชาดที่ยังเหลือรอดงั้นหรือ?”

    “ถูกต้อง”

    “เหตุใดถึงให้กระหม่อมทำภารกิจนี้?  ปิอาโร่น่าจะเหมาะสมกว่า…”

    อัสโมเฟลชะงักคำพูด
    เขาเริ่มทราบถึงเจตนาของกริดแล้ว
    แต่อัสโมเฟลไม่กล้ากล่าวคำว่า ‘ชดเชยบาปในอดีต’ ออกมา

    คนบาปหนาอย่างตนจะชดเชยหมดได้อย่างไร?
    เขาก้มหน้ามองพื้นดินด้วยแววตาดำมืด

    “ปิอาโร่อภัยให้นายแล้ว”

    “…”

    “คนอื่นก็เช่นกัน  พวกเขาต้องคิดแบบเดียวกับปิอาโร่แน่”

    “…”

    “หาพวกเขาให้พบ  จากนั้นก็อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง”

    อัสโมเฟลมองออกว่ากริดมอบหมายหน้าที่นี้เพื่อประโยชน์ของตัวเขาเอง
    แถมยังเป็นโอกาสที่จะนำ ‘อดีตขุมพลังจักรวรรดิ’ มาเป็นแขนขาคอยสนุนสนันอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ในอนาคต
    
    ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

    อันที่จริง   
    กริดไม่ได้คิดซับซ้อนขนาดนั้น
    เขาเพียงปฏิบัติต่อคนใกล้ชิดโดยคำนึงถึงหัวอกให้มากที่สุด
    และนี่คือรากฐานสายสัมพันธ์อันแน้นแฟ้นของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์สุดแกร่งในอนาคต

    “จงมีความสุขในทุกลมหายใจ”    

    “…”

    “นี่คือคำขอร้องสุดท้ายที่ข่านกล่าวกับฉัน  พวกเรามามีความสุขด้วยกันเถอะ”

    “…กระหม่อมจะมีวันไม่ลืม”

    อัสโมเฟลหยุดเดินพร้อมกับก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม  เขาค้างไว้เช่นนั้นจนกระทั่งรถม้าของกริดลับสายตาไป
    ปิอาโร่ให้กำลังใจอัสโฟเฟลกับเส้นทางแห่งการชดเชยบาปที่กริดมอบหมาย

    ‘นายทำได้แน่…เพื่อนยาก’

    ได้โปรดกลับมาพร้อมสหายที่เหลือ

    ***

[ พลเมืองอาณาจักรฮวาน (1) ]
★ ภารกิจลับ ★
    ท่านมีคุณสมบัติพื้นฐานในการเข้าสอบซือโหยว
    เงื่อนไขประการแรก  จงก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ทั่วไป
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ (1) : ห้ามเสียชีวิตจนกว่าจะมีเลเวลถึง 400
* หากอยู่ระหว่างภารกิจ  ท่านจะได้รับโบนัสค่าสถานะจำนวนมากทุก 20 เลเวลที่เพิ่มขึ้น
* หากท่านเสียชีวิต  โบนัสค่าสถานะทั้งหมดจะสูญหายไปตลอดกาล
* หากท่านเสียชีวิต  เงื่อนไขสำเร็จภารกิจจะเปลี่ยนเป็นข้อ (2)
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ (2) : ห้ามเสียชีวิตเกิน 5 ครั้งจนกว่าจะมีเลเวลถึง 400 (จำนวนครั้งการตาย : 2/5)
* นี่คือโอกาสสุดท้าย  หากท่านล้มเหลวในเงื่อนไขข้อ (2)  ท่านจะหมดสิทธิ์เข้าร่วมการทดสอบซือโหยวตลอดกาล

    
    ในอดีต  
    เวอราดินเคยเดินทางมายังทวีปตะวันออกและมุ่งเน้นทำภารกิจเกี่ยวกับยังบันแห่งอาณาจักรฮวาน    
    มันหวังผลประโยชน์มหาศาลที่ผู้ปกครองทวีปตะวันออกจะมอบให้ในภายหลัง
    
    ลงเอยด้วย
    เวอราดินคือผู้เล่นคนแรกที่ได้เข้าไปในอาณาจักรฮวาน  แถมยังได้รับภารกิจเพื่อที่จะกลายเป็น ‘ยังบัน’

    ด้วยพลังจิตวิทยาชั้นสูง  มันจึงมีชั้นเชิงในการสนทนากับยังบันมากกว่าผู้เล่นปรกติ
    ส่งผลให้เวอราดินกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่ายังบันอย่างง่ายดาย
    
    เวอราดินในตอนนั้นมีเลเวลเพียง 290
    มันพยายามอย่างหนักในการอัพเลเวลให้ถึง 400 โดยไม่เสียชีวิตแม้แต่ครั้งเดียว
    ผลก็คือการได้รับโบนัสค่าสถานะระดับมหาศาลมาครองจนดวลชนะเทพสังหาร ‘เฟคเกอร์’ อย่างง่ายดาย

    แต่โบนัสทั้งหมดล้วนหายไปในพริบตา
    เพียงไม่กี่วันหลังจากแตะต้องอาณาจักรโอเวอร์เกียร์  มันเสียชีวิตไปแล้วสองครั้งซ้อน

    “บางที…”

    เวอราดินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยสีหน้าตึงเครียด
    คำว่า ‘นี่แค่ครั้งแรก’ ของกริดกำลังดังก้องในหัวซ้ำไปมา
    กริดจะตามล่ามันจนสุดขอบโลกและสังหารอีกนับครั้งไม่ถ้วนจนสาแก่ใจ

    “…เราควรหาที่ปลอดภัยหลบซ่อน”

    เวอราดินเคยคิดอยู่เสมอว่ามันสูงส่งกว่าผู้เล่นคนอื่น
    สำหรับชายที่ใช้หลักจิตวิทยาบงการและชักใยผู้อื่นมาตลอด  กริดและไอเท็มของเขาได้สร้างเหตุการณ์เหนือสามัญสำนึกขึ้นมากมาย  จนแม้แต่อัจฉริยะอย่างเวอราดินก็มิอาจคาดเดาการกระทำกริดได้แม่นยำ

    มันไม่ต้องการเผชิญหน้ากริดในช่วงนี้
    นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เวอราดินหวาดกลัวและเลี่ยงที่จะปะทะกับผู้เล่นสักคน

    ‘ไม่อยากเชื่อว่าเราจะเกิดความรู้สึกแบบนี้กับมนุษย์ธรรมดา…’

    หมับ!

    เวอราดินกำลังโกรธจัด
    มันเกิดคำถามในใจหนึ่งข้อเกี่ยวกับท่าทีของอัศวินสีชาดที่แสดงออกเมื่อปิอาโร่ถูกอัญเชิญ

    ‘ทำไมพวกมันถึงต้องตะลึงนัก?’

    กลุ่มหมอผียืนอยู่ห่างจากจุดที่ปิอาโร่ถูกอัญเชิญค่อนข้างมาก  ไกลจนเวอราดินไม่ได้ยินเสียงบทสนทนา
    และนั่นถือเป็นสิ่งที่พลาดมหันต์
    
    ‘มีบางสิ่งไม่ถูกต้อง…’

    หรือกุญแจที่ไขความลับทั้งหมดจะอยู่กับชาวนาคนนั้น?
    เวอราดินพยายามครุ่นคิดหาความเป็นไปได้หนทางใหม่

    ขณะเดียวกัน
    บริเวณรอบนอกไททัน

    เคร้งงง— 

    เมอร์เซเดสใช้ดาบปัดมีดสั้นที่พุ่งตรงมาจากความมืด
    สกายพลันหวาดผวาเมื่อลำคอของตนเกือบถูกโลหะเสียบทะลวง  มันรีบยกโล่ตั้งท่าป้องกันอย่างลนลาน
    
    เมอร์เซเดสหันไปมองในเงามืด    
    
    “กลับไปบอกราชาโอเวอร์เกียร์ว่าฉันขอบคุณที่เป็นห่วง  ฉันจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”

    >>  เข้าใจแล้ว

    “…?”

    สกายรู้สึกเย็นสันหลับวาบเมื่อสุ้มเสียงสุดสยองขวัญดังกังวาลไปทั่วบรรยากาศอันมืดมิด
    
    ‘อะไรกัน?  นี่เราเกือบถูกลอบสังหารงั้นหรือ?’

    เมอร์เซเดสหันไปกล่าวกับสกายที่มีสีหน้าตื่นตระหนก
    
    “นายถูกปลดตำแหน่งนับตั้งแต่นี้”

    “เห…?”
    
    “นายจะไม่สามารถย่างกรายเข้าไปในเขตวังหลวงได้อีก”

    “อ…อะไรนะ?!”

    เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?
    ขณะสกายกำลังสับสนและรอคำอธิบาย

[ ท่านสูญเสียคลาสรอง ‘คนสนิทอัศวินลำดับหนึ่ง’ ]
[ ภารกิจเกี่ยวกับอัศวินสีชาดทั้งหมดถูกทำลาย ]
[ ท่านไม่สามารถเข้าเขตวังหลวงได้ ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับเมอร์เซเดส 7 แต้มถูกรีเซ็ตกลายเป็น 0 ]

    “เอ๋...?  ด…ได้ไงกัน?”

    สกายได้แต่ยืนสั่นระริกกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน  มันกังวลว่าเมอร์เซเดสอาจรับรู้ด้านมืดของตนเข้า


    หลังจากถูกทิ้งให้ยืนโดดเดี่ยวอยู่นาน
    สกายครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับได้ข้อสรุปว่า
    …กริดคือผู้อยู่เบื้องหลัง
    
    เมอร์เซเดสปลดมันเพราะกริดเกิดความเคลือบแคลง  ถึงขนาดต้องส่งนักลอบสังหารมาปิดปาก

    “อ…ไอ้!  ไอ้ระยำ!!”

    มันเดือดดาลสุดขีดที่กริดทำลายอนาคตในการเปลี่ยนเมอร์เซเดสให้กลายเป็นทาส
    แต่หลังจากนั้นไม่นาน

    “บ…บ้าบอสิ้นดี”

    มันเริ่มหวาดกลัวกริดแทนที่จะโมโห
    อีกฝ่ายมีพลังที่สามารถทำลายชีวิตผู้อื่นได้ง่ายดายขนาดนี้เชียว?
    
    พลังของกษัตริย์คนใหม่ที่กลบจุดอ่อนด้านสติปัญญาจนมิดชิด  ชายคนนี้น่ากลัวจนกริดในอดีตเทียบไม่ติดฝุ่น

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,219
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. โอ้ เย้ ในที่สุดก็หมดสิ่งกีดขว้างไปอีก 1-2 คน คงอีกนานกว่าพวกนี้จะฟื้นตัวและกลับมาทำร้ายกริดได้ 🙏ขอบคุณที่แปลครับ

    ReplyDelete
  2. อ่านอย่างมีความสุข
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​ 😁

    ReplyDelete
  3. รอตอนต่อไปอยู่น้าา

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00