จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 784

จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 784

    วาบ

    ‘อะไรกัน?’

    โถงทางเดินยาวของท้องพระโรงใหญ่

    สองข้างทางเรียงรายด้วยเสาหินต้นมหึมาข้างละสามสิบ
    กริดตกตะลึงกับความอลังการของท้องพระโรงที่อยู่ด้านบนสุดของมหาราชวัง 

    ความเพียรพยายามที่ผ่านมาของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เป็นได้เพียงเศษฝุ่นต่อหน้าความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ
    
    แต่ความรู้สึกแปลกแยกโดดเดี่ยวที่กริดกำลังรู้สึกมิได้เกิดจากขนาดอันมโหฬารของท้องพระโรง
    เขากลืนน้ำลายพลางย่างกรายไปด้านหน้าอย่างระมัดระวัง
    ไกลสุดอีกฟากฝั่งทางเดินมีบุคคลผู้หนึ่งกำลังเฝ้ามองกริดจากบัลลังก์สูง
    
    ตึก  
    
    ตึก  

    ตึก…

    หมอกม่วงแดงของปราณต่อสู้ก่อตัวหนาทึบขณะเดินผ่านเหล่าสัตว์ประหลาดสองข้างทาง
    บางคนเฝ้ามองหมอกม่วงด้วยสายตาสนใจใคร่รู้  บ้างออกอาการหงุดหงิดราวกับไม่เต็มใจถูกเรียกตัวมาที่นี่  และบ้างก็มิได้แยแส

    ท่ามกลางความเงียบงัน

    “ราชาโอเวอร์เกียร์ขอถวายบังคมฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ”

    กริดหยุดที่หน้าบัลลังก์ใหญ่พร้อมกับก้มศีรษะลง
    เขาคุกเข่าหนึ่งข้างพลางเอนตัวไปด้านหน้าอย่างนอบน้อม
    
    มหาจักรพรรดิฮวนเดอร์
    ผู้ปกครองทวีปตะวันตกยุคสมัยปัจจุบัน
    พลเมืองหลายสิบล้านและดินแดนอีกนับไม่ถ้วนล้วนตกอยู่ในกำมือ

    กริดไม่ปฏิเสธความเป็นผู้ปกครองสูงสุดของชายคนนี้

    แม้ฮวนเดอร์จะเป็นศัตรูในภายภาคหน้า  แต่กริดก็ไม่ละเลยมารยาทพื้นฐานของผู้มีสถานะด้อยกว่า

    บรรยากาศพลันกดดันและขนลุกประหนึ่งคมมีดนับหมื่นกำลังจ่อลำคอกริด

    “สมกับเป็นราชาวีรบุรุษ”

    ชายคนนี้มีเส้นผมสีขาวสว่างเจิดจรัส
    มิใช่ขาวซีดเยี่ยงชายชรา  หากแต่เป็นสีขาวเปล่งประกายราวกับดวงดาวยามราตรี
    
    “จักรวรรดิยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับราชาโอเวอร์เกียร์”  

    ฮวนเดอร์จ้องมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
    
    “เราคือมหาจักรพรรดิ  ยินดีที่ได้พบ”

    ไม่ต้องมีคำบรรยายใดแต่งเติมให้ฟุ่มเฟือย
    เพียงเรียกขานตนว่า ‘มหาจักรพรรดิ’ ก็ถือเป็นการประกาศกึกก้องว่าตัวข้าคือผู้ปกครองสูงสุดของโลกใบนี้

    ฮวนเดอร์มิได้โอหัง  
    แต่การเป็นมหาจักรพรรดิควรต้องวางตนเหนือให้กว่าผู้ใดทั้งมวล

    วาบ!

    ‘อะไรกัน?’

    กริดรู้สึกเย็นสันหลังมาสักพักนับตั้งแต่เริ่มเข้ามาในท้องพระโรง
    แต่เขาเพิ่งจะทราบถึงต้นตอของสิ่งที่ทำให้ตนขนลุกไปทั่วร่างเช่นนี้
    
    ความหวาดกลัวของกริดเกิดจากเหล่าขุนพลระดับทวีปที่ยืนเรียงรายสองข้างทางงั้นหรือ?
    คำตอบคือไม่    ใช่

    อาการหวาดผวาทั้งหมดมีต้นตอจากตัวตนมหาจักรพรรดิเพียงผู้เดียว

    ‘…ชายคนนี้คือบอสใหญ่งั้นหรือ?’

    กริดมิอาจสำรวจรายละเอียดจักรพรรดิได้ด้วยดวงตาช่างตีเหล็กและดาบแห่งราชา’
    ระดับชั้นของเขาและฮวนเดอร์ต่างกันเกินไป  ค่าวิสัยทัศน์กำลังร้องเตือนว่าชายคนนี้คือสัตว์ประหลาด
    
    กริดมิอาจวัดค่าความยิ่งใหญ่ได้เลย

    ‘ยิ่งกว่าที่คิดไว้เสียอีก…’

    ดังที่เคยกล่าวไปก่อนหน้า
    ความแข็งแกร่งของ NPC จะแปรผันตามสถานภาพทางสังคมและตำแหน่ง
    โดยเฉพาะผู้นำอาณาจักรหรือเผ่าพันธุ์จะแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ
    ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเผ่าเนตรมารและเผ่าวารี        
    
    เช่นนั้นแล้ว  มหาจักรพรรดิที่เป็นผู้ปกครองเผ่าพันธ์มนุษย์จะแข็งแกร่งมากเพียงใดกัน
    
    กริดเคยประเมินว่าการเผชิญหน้ากับฮวนเดอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย
    แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะยากถึงระดับนี้
    
    ‘ระดับเดียวกับตำนาน…’

    ระบบซาทิสฟายคงจัดลำดับให้ ‘มหาจักรพรรดิ’ มีพลังเทียบเท่า ‘ตำนาน’
    สมมติฐานเช่นนี้เข้าท่าและมีเหตุผลรองรับมากมาย

    มีความเป็นไปได้สูงที่ต้นตระกูลของมหาจักรพรรดิจะเป็นตัวตนระดับเทวะตำนาน
    เชื้อสายของราชวงศ์ที่แข็งแกร่งมักเป็นเช่นนั้นเสมอ

    “เจ้าชื่นชอบพิธีต้อนรับรึไม่?”

    “กระหม่อมมิคู่ควรกับงานฉลองที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้  แค่ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิตอบรับคำขอร้องให้เข้าเฝ้าก็เพียงพอแล้ว”

    “แม้นเป็นเพียงชั่วครู่  แต่พวกเราคือมิตรสหายในปัจจุบัน  เราต้องต้อนรับเจ้าอย่างสมเกียรติ  เฉกเช่นที่เจ้านอบน้อมต่อเราตามธรรมเนียม”

    ถ้อยคำดังกล่าวแฝงด้วยความนัยมากมาย
    ถึงจะมีใบหน้ายิ้มแย้ม  แต่ดวงตาที่ดุร้ายราวกับสัตว์ป่าของมันกลับมิได้เปี่ยมด้วยความห่วงใยดังปากว่า
    
    “เข้าเรื่องเลยดีกว่า  เจ้าต้องการเข้าเฝ้าเราด้วยความประสงค์ใด?”

    ฮวนเดอร์จ้องมองกริดด้วยดวงตาใคร่รู้

    “กระหม่อมต้องการเข้าเฝ้าเพื่อแสดงความขอบพระทัยที่ฝ่าบาททรงประทานสนธิสัญญาแห่งความกรุณาให้”

    “สนธิสัญญาแห่งความกรุณา…”

    ดวงตาฮวนเดอร์พลันกระตุก

    เหตุใดจักรวรรดิถึงยื่นสัญญาณสงบศึกกับอาณาจักรโอเวอร์เกียร์งั้นหรือ?
    คำตอบคือเพราะโอเวอร์เกียร์ยกทัพประชิดชายแดนฝั่งที่จักรวรรดิปราศจากกำลังทหาร

    ใช่แล้ว
    แม้ฮวนเดอร์ไม่ต้องการยอมรับ  แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางจักรวรรดิเป็นฝ่ายเริ่มอ่อนข้อให้โอเวอร์เกียร์ก่อน

    จักรวรรดิที่เคยบดขยี้ศัตรูด้วยกำลังทหารมาตลอด  กลับถูกบีบบังคับให้สานสัมพันธ์ทางการทูตเป็นครั้งแรก
    
    สิ่งนี้ถือเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติศาสตร์อันยาวนานและเกรียงไกรของจักรวรรดิซาฮารัน

    หากเป็นไปได้  
    ฮวนเดอร์ไม่ต้องการนึกถึงมันอีก  
    ถึงขั้นเคยคิดหาทางลบเรื่องราวอันน่าอับอายครั้งนี้ออกจากบันทึกประวัติศาสตร์
    แต่กริดกลับหยิบยกขึ้นมากล่าวใหม่จนต่อมโทสะของฮวนเดอร์เริ่มเดือดดาล

    แน่นอนว่ากริดมิได้คิดซับซ้อนขนาดนั้น 
    แต่ฮวนเดอร์กลับเข้าใจผิดมหันต์และกำลังเปี่ยมด้วยโทสะ

    ‘ไอ้บดซบนี่บังอาจล่วงเกินฝ่าบาท…!’

    ราชาท้องฟ้า ‘รีกัล’
    มันคือหนึ่งในเจ็ดดยุคแห่งจักรวรรดิและกัปตันกองทัพอากาศ
    มันปกครองฝูงบินใหญ่ที่ประกอบด้วยห้าร้อยกริฟฟอนและสามร้อยไวเวิร์น
    รีกัลยังมีสิทธิ์นำทัพหลักแสนถึงหลักล้านในการทำศึกมหาสงคราม
    ความทระนงตนย่อมสูงเสียดฟ้า
    
    มันไม่ชอบหน้ากริดที่บังอาจก่อตั้งอาณาจักรโดยไม่ได้รับความยินยอมจากองค์จักรพรรดิ

    ‘เรเชล’ ดยุคอีกหนึ่งคนที่เฝ้ามองปราณต่อสู้ของกริดมาตั้งแต่เริ่ม
    เธอพยายามสงบสติรีกัล
    
    “อีกฝ่ายเป็นแขกพิเศษของฝ่าบาท  อย่าได้สติแตกเพียงเพราะถ้อยคำยั่วยุตื้นเขิน  คิดจะทำให้ฝ่าบาทต้องอับอายเพราะตัวเองไม่รู้จักควบคุมอารมณ์รึไง?  แล้วอีกอย่าง  พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหมอนั่นเจตนายั่วยุรึเปล่า  คุคุคุ!”

    เรเชลคือทายาทของ ‘เดฮาเคล’ หนึ่งในบุคคลเกียรติยศเมื่อครั้งจักรวรรดิถูกก่อตั้งและยังเป็นอดีตอัศวินหอกในตำนาน
    เธอใช้หอกเป็นอาวุธและมีฝีมือสูสีกับ ‘คิรินัส’ อัศวินหอกอันดับหนึ่งคนปัจจุบันของทวีป
    เรเชลคือผู้ครอบครองเพลงหอกสนธยาที่เฉิดฉายในสงครามนับครั้งไม่ถ้วน      
    
    กริดเริ่มสัมผัสถึงบรรยากาศที่อึมครึมจากรอบข้าง  เขากล่าวตัดพ้อในใจ

    ‘คนพวกนี้มิได้ต้องการต้อนรับเรา  เพียงแค่อยากเห็นหน้าเท่านั้นสินะ’

    สถานการณ์ค่อยข้างเลวร้าย
    แต่กริดยังทำสิ่งใดได้อีก?  
    สัตว์ประหลาดเหล่านี้คือบุคคลระดับทวีป  ส่วนกริดเป็นเพียงมดปลวกแสนอ่อนแอ
    เขาจำต้องอดทนเพื่อให้เหตุการณ์ผ่านไปอย่างลุล่วง

    เฉพาะตอนนี้เท่านั้น

[ รีกัล ]
เลเวล : 439
ตำแหน่ง : นักบิน
แต้มสถานะ : ???
รายการทักษะ : ???

[ เรเชล ]
เลเวล : 475
ตำแหน่ง : อัศวินหอก
แต้มสถานะ : ???
รายการทักษะ : ???

    ‘จะใช่พวกห้าเสาหลักรึเปล่านะ…’

    สุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นขณะกริดกำลังสำรวจรายละเอียดขุนพลโดยรอบ

    “เจ้าลงทุนถ่อมาไกลถึงที่นี่เพียงเพื่อกล่าวคำขอบคุณจริงหรือ?”

    แม้ฮวนเดอร์จะปฏิบัติต่อกริดเยี่ยงราชา  
    แต่น้ำเสียงแสนดูแคลนกลับทะลวงผ่านบรรดาศักดิ์ของอีกฝ่ายโดยไม่แยแส

    ขณะกริดและฮวนเดอร์กำลังขมวดคิ้วให้กับความเสียมารยาทของกันและกัน

    “ไรน์ฮาร์ทเพิ่งถูกองค์กรที่ชื่ออิมมอทัลลอบโจมตีมาใช่ไหม?”
    
    บุคคลที่โพล่งข้อมูลน่าสนใจได้ปรากฏตัวในขอบเขตการมองเห็นกริด

[ ลิมิต ]
เลเวล : 468
ตำแหน่ง : ดยุคแห่งดาบ
แต้มสถานะ : ???
ทักษะ : ???
    
    แม่ทัพใหญ่แห่งกองอัศวินสีชาดและนักดาบอันดับหนึ่งของจักรวรรดิ
    กริดเองก็เคยได้ยินเรื่องราวขอบดยุคแห่งดาบ ‘ลิมิต’ มาบ้าง
    ลิมิตเมินเฉยต่อสีหน้าบิดเบี้ยวของกริดพลางหันไปกล่าวกลับองค์จักรพรรดิ

    “องค์กรที่ชื่ออิมมอทัลกำลังแฝงตัวภายในไททัน  สาเหตุที่กริดมาเยือนจักรวรรดิก็เพื่อล่าตัวพวกมัน…ฉันพูดแบบนี้ถูกรึเปล่า?”

    ลิมิตชำเลืองมองกริดด้วยสายตายั่วยุ

    “เจ้ามาที่นี่เพื่อล่าอิมมอทัลงั้นหรือ?”

    แม้จักรวรรดิจะเป็นอาณาจักรที่มีศักดิ์เหนือกว่าโอเวอร์เกียร์
    แต่ลิมิตก็เป็นเพียงดยุค  
    ส่วนกริดเป็นถึงราชา

    ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร  มารยาทพื้นฐานคือการปฏิบัติต่อราชาอาณาจักรอื่นอย่างนอบน้อม
    
    ทว่าลิมิตกลับแสดงท่าทีโอหังใส่กริดประหนึ่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์แสนต่ำต้อยด้อยค่า
    ใบหน้าลิมิตกำลังปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายเมื่อปราณต่อสู้ของกริดทวีความเข้มข้น

    ‘ต้องอย่างนั้น…เผยธาตุแท้ของแกซะ’

    มีน้อยคนนักที่ชื่นชอบสัญญาสงบศึกระหว่างอาณาจักรโอเวอร์เกียร์และจักรวรรดิ
    จักรพรรดิฮวนเดอร์ถูกหลายฝ่ายตราหน้าว่าไร้ความสามารถเมื่อเสนอสนธิสัญญาสงบศึกกับอาณาจักรเล็ก

    ในเมื่อฮวนเดอร์ยอมรับกริดเป็นสหาย  
    จะเกิดอะไรขึ้นหากกริดแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อลิมิตซึ่งเป็นขุนนางใหญ่?
    คำตอบคือ  ลิมิตที่วางตัวเป็นกลางจะเริ่มตีตนออกห่างจักรพรรดิและเอนเอียงเข้าหาฝ่ายจักรพรรดินีมากขึ้น    

    ใจแล้ว  การยั่วยุของมันมีความหมายแฝงลึกซึ้งถึงเพียงนั้น
    กริดกำลังเผชิญหัวเลี้ยวหัวต่อของสถานการณ์ยากลำบาก    

    โทสะของกริดจะเป็นประโยชน์กับลิมิตอย่างมหาศาล
    หากกริดระเบิดอารมณ์ใส่ลิมิตอย่างเกรี้ยวกราด  ฮวนเดอร์จะกลายเป็นหมาหัวเน่าที่ถูกกษัตริย์อาณาจักรเล็กข้ามหน้าข้ามตาโดยปราศจากความยำเกรง

    ถ้าข่าวลือเช่นนี้แพร่กระจายออกไป  แรงสนับสนุนฝ่ายจักรพรรดินีจะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า
    ลิมิตกำลังคาดหวังให้เกิดสิ่งนั้น

    “…สถานการณ์การณ์คงสนุกและน่าตื่นเต้นกว่านี้หากฉันเยือนจักรวรรดิด้วยเหตุผลที่แกว่ามา”

    กริดแสยะยิ้ม

    “ฉันต้องการเชือดพวกมันให้สาแก่ใจก็จริงอยู่  แต่ก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่าอิมมอทัลมุดหัวอยู่ในไททัน”

    กริดไม่ตกหลุมพลางคำยั่วยุจากลิมิต
    การยืนบนจุดสูงสุดของผู้เล่นสองพันล้านส่งผลให้เขาสุขุมและมีไหวพริบปฏิภาณ
    
    “ว่าแต่…ดยุคลิมิตเอ๋ย  แกทราบเรื่องของอิมมอทัลได้ยังไง?  หรือแกจะเป็นผู้ที่บงการให้อิมมอทัลลอบโจมตีอาณาจักรโอเวอร์เกียร์กันล่ะ?”

    กริดไม่เพียงสะกดโทสะไว้อยู่หมัด  เขายังสวนถ้อยคำยั่วยุกลับไปหาลิมิตได้ทันท่วงที
    
    ตาต่อตาฟันต่อฟัน

    “แกไม่พอใจสัญญาสงบศึกที่ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิทำขึ้นใช่ไหม?  จึงต้องส่งคนลอบกัดอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความแตกแยก”
    
    กริดเน้นหนักคำว่า ‘ฝ่าบาทมหาจักรพรรดิ’ มากเป็นพิเศษ
    เขาพยายามประจำประแจงและชี้นำให้ฮวนเดอร์เห็นว่าลิมิตคิดฝ่าฝืนโองการจักรพรรดิ

    ‘แต่คงไม่ได้ผล’

    กริดและจักรพรรดิจะกลายเป็นศัตรูในวันข้างหน้า
    ฮวนเดอร์ย่อมเล็งเห็นถึงเจตนาของกริดที่ประจบตนเพื่อต้องการกดดันลิมิต
    การประจบประแจงของกริดมิได้เกิดเพราะความนอบน้อม  หากแต่เพื่อใช้เป็นฐานในการยั่วยุอีกฝ่าย    
    
    ทว่า… 
    ฮวนเดอร์กลับตกหลุมพรางนี้

    จักรพรรดิมองว่าถ้อยคำของกริดสมเหตุสมผล  สาเหตุเกิดจากลิมิตเริ่มออกตัวชัดเจนว่าเข้ากับขั้วอำนาจจักรพรรดินีแมรี่    
    ยิ่งไปกว่านั้น  ฮวนเดอร์ได้สยบพลังอำนาจของลิมิตและกองอัศวินสีชาดลงหลายระดับในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
    องค์จักรพรรดิจึงมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลิมิตจะคิดแค้นต่อตนและลอบส่งคนโจมตีโอเวอร์เกียร์
    
    กระนั้น  ฮวนเดอร์กลับมิอาจแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง
    การคลางแคลงสงสัยในตัวบริวารมิใช่สิ่งที่ควรกระทำต่อหน้ากษัตริย์อาณาจักรอื่น
    
    “เรื่องราวเลยเถิดไปมากแล้ว  มาเริ่มทานมื้อค่ำกันดีกว่า”

    องค์จักรพรรดิพยายามรักษาบรรยากาศให้อยู่ในความสงบมากที่สุด

    หลังจากนั้น

    ‘คลายสายผลิตอย่างพวกเราจะสู้กับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้ยังไง?’

    กริดรู้สึกตัวเล็กลงเมื่อได้เห็นรายละเอียดเหล่าขุนพลจักรวรรดิในงานเลี้ยงอาหารค่ำ
    ค่าเฉลี่ยของสัตว์ประหลาดโดยรอบมีระดับสูงกว่าปิอาโร่เสียอีก
    และปัญญาใหญ่คือการที่ปิอาโร่มีพื้นฐานเป็นเพียงคลาสชาวนา  ส่วนเจ็ดดยุคของจักรวรรดิล้วนเป็นคลาสนักรบที่ดุดัน
    ขุมกำลังของจักรวรรดิยิ่งใหญ่เสียจนกริดเกิดความหวั่นวิตก

    แต่มีอยู่หนึ่งคนที่กำลังหวาดหวั่นยิ่งกว่าตัวกริด

    ‘กริดคนนั้น…’
    
    สตรีที่มีสายตาเย็นชาดุจดั่งน้ำแข็งกำลังจ้องมองกริดอย่างไม่กระพริบ
    เธอคือเมอร์เซเดส
    แววตาของเมอร์เซเดสเปี่ยมด้วยความหวาดระแวง  

    เธอกำลังหวาดกลัวกริด
    
    ค่าวิสัยทัศน์มหาศาลซึ่งเป็นพรสวรรค์ติดตัวตั้งแต่กำเนิดได้ร่ำร้องบอกเธอว่ากริดคือบุคคลแสนอันตราย

    เมอร์เซเดสพลันเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดในยามที่ถูกฝ่ามือของกริดบีบไหล่
    มันคือสัมผัสแปลกใหม่ที่เธอเคยไม่เคยพานพบตลอดชีวิตที่ผ่านมา
    สิ่งนี้ส่งผลให้จิตใจของเมอร์เซเดสปั่นป่วนสถานหนัก

    “มันไม่ใช่มดปลวกที่อ่อนแออีกแล้ว”
    
    ดยุคแห่งดาบ ‘ลิมิต’ เดินเข้ามาใกล้เมอร์เซเดสพลางกระซิบกระซาบ

    “เก็บกริดซะ”

    “อะไรนะ…?”

    “โดยอ้างว่าเป็นโองการของฝ่าบาท”

    “ท่านคิดจะให้จักรวรรดิโจมตีแขกพิเศษอย่างเปิดเผยงั้นหรือ?  ขอถามถึงเหตุผลได้รึไม่?”

    “ฉันต้องการให้กริดเป็นฝ่ายฉีกสัญญาสงบศึก  ลองคิดดูให้ดี  จะเกิดอะไรขึ้นหากสัญญาสงบศึกของฝ่าบาทถูกกษัตริย์อาณาจักรเล็กฉีกทิ้งอย่างไม่ใยดี?  เรื่องนี้จะสร้างความอับอายใหญ่หลวงให้แก่ฝ่าบาท  และสถานการณ์ฝ่ายขั้วอำนาจฝ่าบาทก็จะตกต่ำลง”

    “…”

    ลิมิตคือบุคคลที่เคยอยู่กึ่งกลางระหว่างจักรพรรดินีและจักรพรรดิ  
    แต่ปัจจุบันกำลังออกตัวเข้ากับฝ่ายแมรี่อย่างชัดเจน
    
    การที่ฮวนเดอร์สยบอำนาจอัศวินสีชาดส่งผลให้ลิมิตตัดสินใจง่ายขึ้น
    ลิมิตยังคงกระซิบกระซาบข้างหูเมอร์เซเดสผู้กำลังมีสีหน้าเศร้าหมอง

    “พวกเขาเป็นกลุ่มหมอผีที่แข็งแกร่ง  จงนำคนเหล่านั้นลอบโจมตีกริดขณะเดินทางกลับ”

    “…เข้าใจแล้ว”

    นี่คือสิ่งที่ถูกต้องจริงหรือ?
    เมอร์เซเดสมั่นใจอยู่หลายส่วนว่ามันไม่ใช่เรื่องถูกต้อง
    แต่อัศวินต้องจงรักภักดีต่อผู้เป็นนายโดยไม่เคลือบแคลงสงสัย
    นั่นคือชะตากรรมอันขมขื่นที่ต้องแสร้งมองไม่เห็นการกระทำต่ำทราม

    เมอร์เซเดสตระหนักได้ว่าตัวตนของเธอเริ่มไร้ความสำคัญ  อัศวินลำดับหนึ่งกัดริมฝีปากด้วยใบหน้าเจ็บแค้น
    ตลอดช่วงเวลางานเลี้ยงที่เหลือ  เธอเหลียวมองไปมาระหว่างกริดและองค์จักรพรรดิอยู่เป็นระยะ
    
    ขณะเดียวกัน 
    ณ วังจักรพรรดินี

    “นี่คือโอกาสทอง…พวกเราต้องสั่งสอนให้กริดรู้สำนึก”

    เวอราดินผู้อยู่เบื้องหลังแผนการชั่วร่วมกับลิมิต  มันออกคำสั่งแก่เหล่าขุนพลหมอผีด้วยใบหน้าแสนมั่นใจ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,215
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ใครจะเชือดใคร รออ่านต่อไป 🙏😅ค้าง

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณ​อย่าง​สุด​ซึ้ง​😊

    ReplyDelete
  3. ค้างเลย5555ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะครับ

    ReplyDelete
  4. เจอพลัง​นิ้วกริดเข้าไป​ ถึงกับอยู่ไม่เป็นสุขเลยนะ​

    ReplyDelete
  5. เมอร์ซิเดสเจอฝ่ามือมารของกริดเข้าไปจังๆอย่างงั้นหรอเนี้ย โดนปลุกเพลิงราคะทมิฬที่ถูกผนึกในจิตใจขึ้นมาสินะ คุคุคุ
    โครตเบียว

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00