จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 792



[ ตั้งชื่อดาบเล่มนี้ว่า ‘ดาบหิน’ กรุณายืนยัน ]

“…ไม่สิ เดี๋ยวก่อน”

   กริดที่กำลังเปี่ยมด้วยบรรยากาศฮึกเหิมพลันชะงักยั้งมือ  เขารู้สึกว่าชื่อ ‘ดาบหิน’ นั้นยังไม่เหมาะสมเท่าที่ควร

   กริดได้ยินเสียงถอนหายใจจากครอเกลและเหล่าช่างเหล็กงั้นหรือ?
   ไม่เลย
   แต่เขาคิดทบทวนใหม่เมื่อหวนนึกถึงชุดเกราะที่ตนกำลังสวมใส่อยู่

   ผลงานส่งท้ายของข่าน ‘วัลฮัลล่า’
   ชุดเกราะที่กริดไม่เคยถอดออกนับตั้งแต่ข่านเสียชีวิต

   ‘ชื่อไอเท็มเป็นสิ่งสำคัญ  เราต้องเลือกให้ดี’

   เหตุใดข่านถึงตั้งชื่อมันว่าวัลฮัลล่า?
   กริดไม่เคยทราบความหมายของคำว่าวัลฮัลล่ามามาก่อน  เขารู้เพียงแค่  วัลฮัลล่าเป็นชื่อของชุดเกราะที่อัลบาติโน่บรรพบุรุษข่านสร้างขึ้น

   แต่กริดได้พยายามค้นหาความหมายเมื่อข่านเสียชีวิตลง  เขาจำเป็นต้องรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับข่าน
   แล้วกริดก็ได้พบ
   หนึ่งในความหมายของวัลฮัลล่าคือ ‘บ้านแห่งความสุข’ กริดได้รับรู้เจตนาที่แท้จริงของข่านผ่านชื่อวัลฮัลล่าทันที

   ‘ข่านเป็นห่วงเราเสมอแม้เขาจะไม่อยู่แล้ว’

   ข่านหวังให้กริดเป็นบ้านหลังใหญ่ที่คอยมอบความสุขแก่คนรอบข้าง

   ‘ใช่แล้ว…ชื่อคือสิ่งสำคัญ’

   ความคิดกริดที่เคยยึดติดว่าชื่อของไอเท็มต้องตั้งตามรูปลักษณ์  สิ่งนี้เริ่มเปลี่ยนไป
   เขาทำตามคำแนะนำของลอเอลที่ไม่หยุดคิดในช่วงเวลาสำคัญ
   หากข่านตั้งชื่อผลงานว่า ‘เกราะเหล็ก’  กริดคงไม่มีวันรับรู้เจตนาที่แท้จริงของข่าน

   นี่คือความหนักแน่นและพลังอำนาจของชื่อ

   ‘ยิ่งไปกว่านั้น…’

   ผลงานชิ้นนี้เกิดจากความร่วมมือของตนกับสหายรักครอเกล
   คงเป็นการเสียมารยาทเกินไปหากเขาตั้งชื่อโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี

   “ฉันจะแก้ไขชื่อ”

   ไม่ใช่ดาบหินอีกต่อไป
   เสียงของกริดกังวาลไปทั่วโรงเหล็กพร้อมกับใบหน้าที่ตกตะลึงของเหล่าช่างตีเหล็ก

   “มุคซาบัล”
( เยลลี่ธัญพืชเสิร์ฟพร้อมซุปเย็น
แต่สามารถเป็นแสลงที่แปลได้ว่า ‘พังพินาศ’  หรือ ‘เละเทะ’)

   “...?”

   “ดาบเล่มนี้จะมีชื่อว่ามุคซาบัล”

   “...”

   “โดยทั่วไป  พลังธาตุปฐพีมักเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ผู้พิทักษ์’  แต่ราชาโอเวอร์เกียร์และอริยดาบมีพลังที่สามารถงัดผืนปฐพีขึ้นมาถล่มใส่ศัตรูให้พังพินาศ”

   ศัตรูทุกคนที่บังอาจขวางทางจะถูกส่งกลับธุลีดิน

   “นั่นคือเหตุผลที่มันมีชื่อว่ามุคซาบัล”

   “...พวกนายสองคนสามารถงัดผืนดินขึ้นมาถล่มใส่ศัตรูได้จริงหรือ?”

   “...”

   แพนมียร์เอ่ยปากถามราวกับเขาไม่รู้จักการเปรียบเปรย
   ด้วยเหตุนี้  บรรยากาศอันน่าเกรงขามเมื่อครู่(?) เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบงัน
   แต่กริดก็มิได้ใส่ใจ

   “ครอเกล…ด้วยทักษะ  ความรู้  และประสบการณ์ที่พวกเรามี  ฉันมั่นใจว่าเราสามารถถล่มศัตรูให้พังพินาศได้ง่ายดายเพียงพลิกฝ่ามือ”

   “...”

   “มุคซาบัลคือชื่อที่ฉันไต่ตรองดีแล้ว  ฉันหวังว่านายจะสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของมันด้วยใจ”

   “...อื้อ  ฉันก็ไม่ชอบชื่อยาวสักเท่าไร”

   อันที่จริง  มีหลายร้อยเหตุผลให้ครอเกลโต้แย้งชื่อที่กริดตั้ง  แต่เขาก็มิได้ทำ  สีหน้ากริดจริงจังเกินกว่าจะโต้แย้งสิ่งใดในขณะนี้

   เพียงแต่

   ‘เราน่าจะบอกชื่อที่เข้ามาไปตั้งแต่แรก’

   ครอเกลทำได้เพียงนึกเสียดายที่ตนมีนิสัยขี้เกรงใจเกินเหตุ

   ***

[ สูตรผลิต : มุคซาบัล]
เกรด : อีปิก ~ เลเจนดารี

ข้อมูลเกรดอีปิก :
ความคงทน : 455~790
พลังโจมตี : 390~650
พลังป้องกัน : 100~188
* ออปชั่นยังไม่ปรากฏ

ข้อมูลเกรดยูนีค :
ความคงทน : 667~980
พลังโจมตี : 493~817
พลังป้องกัน : 140~246
* ออปชั่นยังไม่ปรากฏ

ข้อมูลเกรดเลเจนดารี :
ความคงทน : ???
พลังโจมตี : ???
พลังป้องกัน : ???
* ออปชั่นยังไม่ปรากฏ

   อาวุธที่ช่างตีเหล็กในตำนาน ‘กริด’ ผู้ก้าวข้ามตำนานและกำลังจะกลายเป็นเทวะตำนาน  ออกแบบร่วมกับอริยดาบครอเกล
   ส่วนคมของอาวุธมีรูปทรงเหมือนดาบ แต่ส่วนด้ามจับเป็นโกร่งสนับมือสำหรับป้องกันฝ่ามือผู้ใช้
   โกร่งสนับถูกออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายคลึงมงกุฏขนาดเล็ก
   ส่วนบนสุดของด้ามจับจะยืดออกทั้งสองด้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน
   ดาบพิเศษเล่มนี้สามารถใช้เป็นอาวุธโจมตีและป้องกันได้ในเวลาเดียวกัน
   วัสดุในการสร้างต้องเป็นศิลาหมื่นปีหรือศิลาโลหิตเท่านั้น  ประสิทธิภาพของไอเท็มจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้
   ด้วยน้ำหนักที่มาก  ผู้ที่มีค่าพละกำลังต่ำจะไม่สามารถกวัดแกว่งดาบเล่มนี้ได้
   แต่ถือเป็นดาบในอุดมคติที่มีค่าความสมดุลสูงลิบ
น้ำหนัก : 6,800~13,900
เงื่อนไขสวมใส่ : ยังไม่ปรากฏ

   ‘ไอเท็มจะออกมาเป็นมีคุณสมบัติต่ำสุดหากสร้างด้วยศิลาหมื่นปี  แถมศิลาหมื่นปีจะยิ่งทำให้ดาบมีน้ำหนักมากขึ้น’

   ชายหนุ่มตรวจสอบรายละเอียไอเท็มด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข

   แม้ยังไม่ทราบว่าออปชั่นไอเท็มจะออกมาเป็นเช่นไร  แต่เพียงคุณสมบัติพื้นฐานก็นับเป็นสุดยอดดาบของโลกเรียบร้อยแล้ว
   จะมีดาบมือเดียวเกรดอีปิกสักกี่เล่มที่พลังโจมตี 390 และพลังป้องกัน 100 หน่วย?
   สิ่งนี้อยู่เหนือระดับอาวุธเลเวล 300 ไปไกลมาก

   ‘แถมเงื่อนไขการสวมใส่ก็ไม่วุ่นวาย’

   ดาบในอุดมคติของครอเกลคือดาบที่ ‘ใช้งานง่าย’ และกริดก็ออกแบบตามหลักการข้อนั้น
   มันจึงกลายเป็นอาวุธที่เปี่ยมด้วยอรรถประโยชน์และมีเงื่อนไขสวมใส่ต่ำมาก

   ปัญหาข้อเดียวของมุคซาบัลคือน้ำหนัก  
   สิ่งนี้เกิดจากธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ 
   แต่หากผู้เล่นคนใดมีค่าพละกำลังสูงถึงระดับที่ต้องการ  พวกเขาจะใช้งานมุคซาบัลได้ง่ายจนน่าเหลือเชื่อ

   ‘ศิลาหมื่นปีมีมูลค่าค่อนข้างสูง  เราไม่สามารถผลิตจำนวนมากเพื่อแจกจ่ายแก่ทหาร  คงต้องเริ่มจากกลุ่มอัศวินไปก่อน’
   
   ดาบมุคซาบัลเป็นอาวุธที่เหมาะกับสงคราม  ถึงขนาดดาบกริดรุ่นผลิตจำนวนมากเทียบไม่ติด
   มุคซาบัลเกรดยูนีคจะมีพลังโจมตีสูงกว่าอาวุธเกรดเลเจนดารีหลายชิ้น
   ยังไม่ต้องพูดถึงด้านพลังป้องกันที่มหาศาล

   หากอัศวินอาณาจักรล้วนสวมใส่อาวุธชนิดนี้  พลังต่อสู้ของพวกเขาจะทัดเทียมอัศวินจักรวรรดิเลยทีเดียว
   กริดรู้สึกโล่งใจไปหลายส่วน

   ตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายแสนสำคัญ  ขั้นตอนการลงมือสร้าง

   “ครอเกล…ส่งลมหายใจเสือขาวให้ฉัน”

   “อื้อ”

   วัสดุระดับสูงที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มีวันได้ครอบครอง  นอกเสียจากจะทำภารกิจลับบนทวีปตะวันออกหรือคว้าเหรียญทองในงานแข่งนานาชาติ
   ครอเกลมอบไข่มุกสีขาวที่มีมูลค่ามหาศาลยิ่งกว่าเมืองใหญ่ให้กริดโดยไม่ลังเล
   
   เมื่อยืนหน้าเตาหลอมที่มีเปลวเพลิงจากฟืนฟอสฟอรัสขาวกำลังลุกโชน  
   กริดยอนนึกถึงครั้งที่เขาสร้างคันศรฟินิกซ์แดงและดาบอัสนีฯ จนกลายเป็นเกรดมิธ

   ‘สิ่งสำคัญพื้นฐานคือการเสริมแกร่งวัสดุแกนหลัก  เราเสริมแกร่งลมหายใจฟินิกซ์แดงในคันศรฟินิกซ์แดง  และเสริมแกร่งเขาบีเลียลในดาบอัสนีฯ’

   เมื่อลองนึกย้อนกลับไป  
   การเสริมแกร่งวัสดุทั้งสองนับเป็นงานสุดหินที่เฉียดใกล้ความตายเสมอ
   ขั้นต่ำคือสามวัน  และอย่างมากสุดไม่เกินหนึ่งอาทิตย์
   เขาต้องทุบค้อนโดยไม่หยุดพักและห้ามเสียสมาธิแม้แต่วินาทีเดียว

   มันคือนรกของความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ
   ปัญหาใหญ่คือ ‘การต่อต้าน’ จากวัสดุ
   
   ลมหายใจฟินิกซ์แดงจะปลดปล่อยเปลวเพลิงอันร้อนแรงทุกครั้งที่ถูกทุบ
   ส่วนเขาบีเลียลจะระเบิดพร้อมสร้างความเสียหายในปริมาณมาก
   
   ถ้าไม่ใช่เพราะกริดมีค่าพลังป้องกันและพลังชีวิตสูง  เขาจะไม่สามารถเสริมแกร่งลมหายใจฟินิกซ์แดงและเขาบีเลียลได้เลย

   การทุบค้อนเพียงสองถึงสามหนจะบดขยี้ร่างให้กริดกลายเป็นแสงสีเทา

   ‘ลมหายใจเสือขาวต้องมีการต่อต้านที่รุนแรงแน่’

   บางทีอาจนานถึงหนึ่งสัปดาห์เมื่อคำนวณจากธรรมชาติ ‘เกรี้ยวกราด’ ของเสือขาวธาตุดิน
   
   ‘คงไม่ใช่เรื่องง่าย’

   สีหน้าของกริดพลันหม่นหมองเมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่กำลังจะได้รับ
   เขาพยายามระงับความหวาดกลัวไว้
   
   หลังจากสูดลมหายใจเต็มปอดนานหลายนาที  ในที่สุดกริดก็ผ่อนคลายลง
   
   แต่ครอเกลกับแพนเมียร์ต่างเข้าใจสถานการณ์ผิดไป
   เขาคิดว่ากริดกังวลถึงเกรดของไอเท็มที่อาจออกมาไม่ดี
   ทั้งสองไม่มีทางรู้เลยว่า  ขั้นตอนการสร้างต่างหากคือนรกของจริง
   
   ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น
   ทั้งแพนเมียร์และครอเกลล้วนเคยพบเห็นเพียงช่างตีเหล็กดาษดื่นทั่วไป
   แถมผู้เล่นช่างตีเหล็กส่วนใหญ่ยังสร้างไอเท็มด้วยการ ‘กดปุ่ม’ สำเร็จรูป
   
   แม้กระทั่งแพนเมียร์ที่ยึดติดกับการสร้างด้วยมือยิ่งกว่าใคร  แต่ในบางจุดก็ยังต้องพึ่งพาให้ระบบของเกมช่วยเหลือ
   ย่อมไม่มีใครคาดคิดว่ากริดต้องเผชิญขุมนรกทุกครั้งที่ลงมือสร้างไอเท็มระดับสูง

   “เอาล่ะ…เริ่มได้”

   กริดคิดเร็วทำเร็วหลังจากเตรียมการทุกสิ่งเสร็จสรรพ
   ชายหนุ่มโยนไข่มุกสีขาวเข้าไปในเตาหลอมพร้อมกับเร่งเปลวเพลิงให้ลุกโชนถึงขีดสุด

[ อุณหภูมิสูงเกินไป ]

   “อึก…!”

   แพนเมียร์ส่งเสียงโอดครวญขณะเฝ้ามองกริด
   กริดอาศัยคุณสมบัติพิเศษของฟืนฟอสฟอรัสขาวเพื่อเร่งอุณหภูมิในพริบตา
   ผิวหนังของแพนเมียร์แสบร้อนราวกับจะไหม้เกรียมแม้กำลังยืนห่างหลายเมตร
   เขารีบสะบัดแขนพร้อมกับก้าวถอยหลังพลางตระหนักถึงความผิดปรกติรอบข้าง

   นอกจากแพนเมียร์แล้ว  ช่างตีเหล็กที่เหลือล้วนรักษาระยะห่างจากกริดมากกว่าปรกติหลายเท่า
   
   ‘กระทั่งช่างฝีมือก็มิอาจทนความร้อนระดับนี้ไหวงั้นหรือ?’
   
   กริดได้ทำสิ่งที่น่าทึ่งโดยการเร่งเปลวเพลิงให้อยู่ระดับที่มนุษย์มิอาจทนทาน
   นับวันแพนเมียร์ยิ่งชื่นชมกริดมากขึ้น

   ซู่วว— 

   ชี่—!! 

   ชี่—!!

   ไข่มุกสีขาวเริ่มกลายเป็นสีแดงเมื่อถูกความร้อนมหาศาล
   กริดเริ่มเข้าสู่กระบวนการชุบแข็งด้วยการใช้น้ำเปล่า
   น้ำในถังหนึ่งร้อยลิตรที่กริดนำไข่มุกจุ่มลงไปพลันเดือดพล่านสาดกระเซ็นประหนึ่งลาวาร้อนระอุ

   ครอเกลที่ยืนข้างกริดรีบหลบน้ำเดือดที่กระเซ็นจากถังด้วยพลัง ‘อ่านใจ’
   เขาหลบหลีกตามสัญชาตญาณโดยไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน

   “โฮ่!  สมกับเป็นอริยดาบ…!”

   เหล่าช่างตีเหล็กต่างชื่นชนในความพลิ้วไหวของครอเกล
   ขณะเดียวกัน  อริยดาบครอเกลกำลังขมวดคิ้วด้วยความฉงนสุดขีด

   ‘การสร้างไอเท็มเต็มไปด้วยอันตรายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?’

   กึก!

   กริดวางไข่มุกสีขาวลงบนทั่งเหล็ก
   สีหน้าของเขากำลังตึงเครียดสุดขีดประหนึ่งทหารที่ออกรบเป็นครั้งแรก

   ครอเกลเป็นต้องกลืนน้ำลายกับภาพตรงหน้าอยู่หลายหน

   เคร้ง— 

   กริดเริ่มลงมือทุบค้อน
   ในวินาทีที่ค้อนช่างเหล็กเกรดเลเจนดารีสัมผัสกับลมหายใจสัตว์เทพ

   โฮกกกกกกก—!!  

   เสียงของเสือขาวคำรามกึกก้องจนโรงเหล็กหลวงสั่นสะเทือนรุนแรง
   เศษขนสีขาวจำนวนมากพวยพุ่งกระจัดกระจายทุกทิศทางประหนึ่งตัวเม่นสลัดหนาม

   “อึก…!”

   บริเวณแก้ม  ลำคอ  และข้อมือของกริดได้รับบาดเจ็บจนเกิดเลือดไหลซึม
   เขาหลบความเกรี้ยวกราดจากเสือขาวไม่พ้นทั้งหมด
   เศษหนามแหลมเล็กทิ่มแทงร่างกายราชาโอเวอร์เกียร์หลายจุด

   “กริด…!”

   “ฝ่าบาท!”

   ครอเกลและช่างตีเหล็กต่างตะโกนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
   แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าย่างกรายเข้าไปใกล้
   นี่คือสนามรบของกริดเพียงผู้เดียว  
   หากมิได้รับอนุญาต  ไม่มีใครกล้าสอดมือเข้าไปยุ่งโดยไม่เจียมตัว

   กริดปาดเลือดที่ไหลหยดปลายคางพลางฉีกยิ้ม

   “ไอ้บัดซบนี่…สมกับที่เป็นของหายาก”

   เสือขาวย่อมมีธรรมชาติก้าวร้าวยิ่งกว่าลมหายใจฟินิกซ์แดงและเขาบีเลียล
   
   ทำให้เชื่องยากฉิบ…    

   ‘เราคนเดียวคงสู้กับเจ้านี่สองตัวพร้อมกันไม่ไหวแน่’

   กริดครุ่นเล็กเล็กน้อยพลางนำลมหายใจเสือขาวของตนโยนใส่เตาหลอม

   ‘สู้ไปทีละตัวคงจะเหมาะกว่า’

   ใช่แล้ว  
   กริดมองว่าการเสริมแกร่งลมหายใจเสือขาวทีละเม็ดคือทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
   
   แต่ปัญหาคือเวลา
   เขาต้องเดินทางไปยังจักรวรรดิในอีกสองสัปดาห์ให้หลัง   
   ถึงตอนนั้นจะเป็นช่วงที่กำแพงไททันถูกหัวเข็มเหล็กมังกรคลั่งขยายตัวจนทรุดถล่ม  รวมถึงการหลุดร่วงของโคนเทียนระย้าภายในห้องบรรทมขององค์จักรพรรดิ
   กริดต้องรีบสร้างไอเท็มให้เสร็จก่อนถึงกำหนดปฏิบัติการลับ

   “ครอเกล…ฉันต้องพึ่งพานายเพื่อจะเสริมแกร่งสองเม็ดพร้อมกัน”

   “ว่ามาได้เลย”

   “คอยนำโพชั่นมาให้ฉัน”

   “…?”

   หลังจากนั้นไม่นาน

   เคร้ง—! 

   กริดลงมือทุบค้อนใส่ลมหายใจเสือขาวทั้งสองเม็ดที่วางอยู่ข้างกัน  ขนสีขาวจะกระจายไปทุกทิศเมื่อไข่มุกถูกค้อนกริดทุบ
   กริดไม่หยุดมือแม้บาดแผลตามร่างกายจะเพิ่มขึ้นทุกขณะ  
   เมื่ออาการบาดเจ็บถูกสะสมถึงปริมาณหนึ่ง  ครอเกลจะเข้าไปใกล้กริดพร้อมกับวางโพชั่นสำหรับฟื้นฟูพลังชีวิต
   โดยระหว่างนั้น  อริยดาบสามารถหลบหลีกเศษหนามแหลมคมได้อย่างหมดจดไร้ที่ติ
   
   เคร้ง!  เคร้ง!

   “ครอเกล…โพชั่น!”

   “ซ้ายมือของนาย  ดื่มซะ!  หลบเร็ว!”

   “อั่ก!  ฉันหลบไม่พ้น…”

   “อย่าคิดหลบในจังหวะที่ศัตรูปลดปล่อยการโจมตีออกมาแล้ว  แต่จงตัดสินใจหลบก่อนที่ศัตรูจะเริ่มโจมตี  นายต้องอ่านรูปแบบการตอบโต้ของอีกฝ่ายให้แม่น"

   “เข้าใจแล้ว!”

   เคร้ง!  เคร้ง!  เคร้ง— 

   “...”

   กริดกำลังเผชิญหน้ากับขุมนรกหนามขนเสือขาว  ส่วนครอเกลคอยวิ่งพล่านไปมาเพื่อช่วยสนับสนุน
   แพนเมียร์เฝ้ามองฉากสองสุดยอดผู้เล่นร่วมมือกันต่อสู้ด้วยสีหน้าสุดทึ่งเจือปนความประหลาดใจ

   ‘นี่ใช่การสร้างไอเท็มจริงหรือ?’

   เหตุการณ์เริ่มดำเนินไปได้ด้วยดี
   ดาบแห่งเทพจำนวนสองเล่มกำลังจะถือกำเนิดขึ้นบนโลกในไม่ช้า

   
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,221
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. ตอนเก่า 🙏😅รอต่อไป

    ReplyDelete
  2. ตอนนี้ลงแล้วซ้ำนะจ๊ะ

    ReplyDelete
  3. คือจะสื่อว่าตอนที่แล้วลงผิด เป็นลง2ตอน ก็เลยลงวันนี้ซํ้าหรอ?

    ReplyDelete
  4. วันนี้ไม่ลงหรอ
    พรุ้งนี้ชดเชยให้ด้วยนะ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00