จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 799



    ประตูเมืองไททันอยู่ห่างแค่เอื้อม

    “หยุดก่อน!”

    เมอร์เซเดสที่ถูกกริดจูงลากมาไกลพยายามบอกกล่าวให้เขาหยุด
    เธอรีบสลัดมือให้หลุดจากกริดเมื่อเหลือบไปเห็นทหารยามเฝ้าประตู
    
    บนใบหน้ายังหลงเหลือความเขินอายสีชมพูระเรื่อเจือจาง
    บนฝ่ามือยังหลงเหลือสัมผัสแสนพิสดารจากปลายนิ้วกริด
    
    “มีอะไร?”

    “นายจะพาฉันไปไหน?”

    “ออกจากจักรวรรดิให้ไกลที่สุด”

    “ไม่ได้!  ฉันยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”

    “ทำไม?”
    
    กริดขมวดคิ้ว

    “แล้วคิวราทันเป็นใคร?  ท่าทีของมันราวกับเป็นบุคคลแสนสำคัญของจักรวรรดิ”

    กริดเริ่มตระหนักว่าจักรวรรดิไม่ทราบถึงตัวตนด้านมืดของคิวราทัน
    เผ่าอสูรคือศัตรูอันดับหนึ่งของเผ่ามนุษย์มาช้านาน
    หากจักรวรรดิทราบว่าคิวราทันเป็นจอมอสูร  พวกมันไม่มีทางปล่อยให้ครองตำแหน่งใหญ่โตแน่

    และสาเหตุที่เมอร์เซเดสตกที่นั่งลำบากเพราะเธอก็ไม่เคยรับรู้ตัวจริงคิวราทันมาก่อน

    “หมอนั่นกล่าวหาว่าเธอเป็นกบฏ  โทษฐานกบฏร้ายแรงมากในสายตาราชาอย่างฉัน  ไม่ใช่ว่าเธอกำลังถูกปรักปรำเช่นเดียวกับปิอาโร่เมื่อสิบสองปีก่อนหรอกหรือ?”

    “แต่ฉันมีหน้าที่ต้องบอกให้ทุกคนรับรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของคิวราทัน!”

    “แล้วใครจะเชื่อเธอ?”

    เมอร์เซเดสฝืนยิ้มขมขื่น
    
    “คงไม่มีใครเชื่อฉัน…แม้แต่ฉันยังไม่เชื่อตัวเอง”

    คิวราทันดำรงตำแหน่งอัศวินลำดับสี่มายาวนานถึงสิบห้าปี     มันสามารถเล่นละครตบตาได้แนบเนียนถึงเพียงนั้น    
    ต่อให้บุคคลตาแหลมอย่างเมอร์เซเดส  หรือแม้กระทั่งนักบวชและจอมเวทชื่อดังของทวีป  ก็ไม่มีใครเลยที่ทราบว่าคิวราทันเป็นจอมอสูรตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมา
    ทักษะเก็บซ่อนพลังอสูรของมันอยู่ในระดับน่าทึ่ง  สมกับเป็นตัวตนที่น่าเกรงขามอย่างจอมอสูร
    แม้จะอ่อนแอลงจากการถูกมุลเลอร์ผนึกร่างเนื้อ  แต่พลังก็ยังมากพอที่จะปั่นหัวมนุษย์ให้หลงกล
    
    “ถ้าหากฉันรอคอยอย่างใจเย็น  ต้องมีสักวันที่คิวราทันเผยจุดอ่อนออกมาแน่  ฉันจะรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้จนกว่าจะถึงตอนนั้น  ไม่มีใครนอกจากฉันที่ทำได้”

    จอมอสูรตนหนึ่งกำลังวางแผนชั่วเพื่อให้จักรวรรดิปั่นป่วน  อัศวินลำดับหนึ่งอย่างเธอมีหน้าที่ต้องหยุดมัน
    นี่คือภาระอันทรงเกียรติที่เธอต้อบแบกรับตามลำพัง      การหลบหนีและละทิ้งทุกสิ่งมิใช่หนทางที่ถูกต้องของอัศวิน

    กริดพยายามหาเหตุเพื่อไม่ให้เมอร์เซเดสหวนกลับไป

    “ถ้าคิวราทันกราบทูลกับองค์จักรพรรดิว่าฉันช่วยเธอในวันนี้…”

    เมอร์เซเดสจะถูกลบตัวตนไปจากโลกก่อนโอกาสดังกล่าวจะมาถึง
    
    ทว่า  สิ่งที่เมอร์เซเดสตอบกลับคือรอยยิ้มแสนอบอุ่น

    ‘เธอยิ้มแบบนี้ได้ด้วยหรือ?’

    ไม่สมกับอัศวินลำดับหนึ่งผู้เลือดเย็นเลยสักนิด  กริดชื่นชมในความงามที่ไม่เป็นสองรองใคร  ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำ

    เมอร์เซเดสเองก็หน้าแดงไม่ต่างกัน
    เธอหันสายตาไปทางอื่นพลางอธิบายต่อไปอย่างเคอะเขิน

    “ฉันจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา  เฉกเช่นที่ฉันมิอาจกล่าวหาคิวราทันว่าเป็นจอมอสูร  คิวราทันก็ไม่สามารถกล่าวหาฉันอย่างไร้หลักฐาน  แต่ถ้าฉันหนีไปพร้อมกับนาย  ข้อเท็จจริงทั้งเรื่องของปิอาโร่และคิวราทันก็จะถูกเก็บงำไปตลอดกาล  ดังนั้นฉันต้องอยู่ที่นี่”

    “จะทำอย่างไรหากคิวราทันลอบโจมตีเธออีก?  เหมือนกับวันนี้…ฉันอยู่ช่วยเธอตลอดไปไม่ได้”

    “นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน?”

    เมอร์เซเดสหันกลับมามองด้วยสายตาแสนสุขุม  เป็นดวงตาที่อัดแน่นด้วยความองอาจและเกียรติยศของอัศวินลำดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิ  
    อัศวินผู้สามารถสยบราชาโอเวอร์เกียร์ให้ต้องคุกเข่าในการพบกันหนแรก

    “วันนี้ฉันประมาทเกินไป  แต่หากต้องสู้กับมันคราวหน้า ฉันมั่นใจว่าตัวเองไม่แพ้แน่”

    เมอร์เซเดสมิได้สวมเกราะสีชาดเพราะเธอถูกลงโทษทางวินัย  แถมยังนึกไม่ถึงว่าคิวราทันสามารถใช้มนตร์ดำของอสูรร้ายได้
    มันแฝงตัวในคราบนักดาบมายาวนานถึงสิบห้าปีเต็มโดยที่ไม่มีใครระแคะระคาย
    
    และสิ่งสำคัญที่สุด
    เธอต่อสู้กับมันขณะจิตใจกำลังสับสนว้าวุ่น        
    ด้วยสถานการณ์ซึ่งถูกลงโทษทางวินัยและกักบริเวณในบ้านพัก  เมอร์เซเดสเผชิญหน้ากับความตึงเครียดที่ไม่ทราบว่าตัวเองสามารถเชื่อใจใครได้บ้าง

    แต่ปัจจุบัน
    สิ่งเหล่านั้นได้สลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง

    ภาพในใจของเธอชัดเจนแล้วว่าคิวราทันคือศัตรูตัวฉกาจ  และเมอร์เซเดสก็ได้ทราบว่าเธอยังมีคนที่สามารถพึ่งพาได้    

    หมอกแห่งความสับสนภายในใจสลายไปโดยสมบูรณ์

    “ราชาโอเวอร์เกียร์”

    “หืม?”

    “ไม่ต้องกังวล  ฉันจะขจัดมลทินให้ปิอาโร่ที่นายเป็นห่วง”

    “…ขอบใจมาก”

    กริดทราบดีว่าปิอาโร่เกิดบาดแผลในใจมากมายกับเหตุการณ์ในอดีต  เขาหวังจะลบคำครหาให้ปิอาโร่และปลดปล่อยชายคนนั้นให้เป็นอิสระจากอดีตอันดำมืด
    ยิ่งไปกว่านั้น…

    “เธอห้ามตายเด็ดขาด”

    กริดอยากได้เมอร์เซเดสมาอยู่ข้างกาย
    เขาต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ด้วยบุคคลที่มีพรสวรรค์เพียบพร้อม
    ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเมอร์เซเดสอีกแล้วหากชำเลืองสายตาทั่วทั้งทวีปตะวันตก 
    
    เธอยืนเงียบงันเป็นเวลานานก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าใคร่รู้

    “…นายชอบฉันรึเปล่า?”

    แม่จะเป็นเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก
    แต่กริดกลับพยักหน้าโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว

    “ไม่ใช่แค่ชอบ…แต่ฉันปรารถนาในตัวเธอเหนือสิ่งอื่นใด  ถึงขั้นหมกมุ่นอยู่กับความคิดนี้ทุกคืน”

    จะมีใครบ้างที่ไม่ต้องการตัวยอดอัศวินแห่งทวีปอย่างเมอร์เซเดส?
    แต่ในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด  กริดคือผู้ที่ตระหนักถึงความสุดยอดของเธอได้ดีกว่าใคร
    
    กริดกล่าวออกไปโดยมีเจตนาตามด้านบน  แต่เมอร์เซเดสกลับเข้าใจผิดคิดไปอีกแบบหนึ่ง

    ใบหน้าของเธอพลันแดงก่ำไปถึงหู  
    เมอร์เซเดสรีบเบือนหน้าหนี
    
    “ร…รุกหนักจังนะ…นายพูดแบบนี้กับทุกคนเลยรึเปล่า?”

    ความหมายของเธอคือต้องการทราบว่ากริดใช่เสือผู้หญิงรึไม่
    แต่ไอ้ทึ่มกริดกลับยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์

    “ไม่เลย…ฉันไม่เคยพูดแบบนี้กับใครมาก่อน  ไม่รู้ว่าควรอธิบายความรู้สึกออกไปอย่างไรดี  แต่เธอคือคนพิเศษสำหรับฉัน”

    แม้จะทราบว่าเมอร์เซเดสเป็นอัศวินของจักรวรรดิ  แต่เขาก็ยังอยากได้ตัวเธอมาก
    
    กริดกำลังประหม่าและตื่นเต้นจนอธิบายความรู้สึกออกไปมากเกินพอดี
    
    “ง…งั้นหรือ”

    เมอร์เซเดสเริ่มหวาดระแวงในความเจ้าชู้ของกริด

    ‘ชายคนนี้ไม่ธรรมดา’

    กริดอาจเป็นเสือผู้หญิงตัวฉกาจ
    เขาป้อนคำหวานอย่างไม่เคอะเขินประหนึ่งเสือผู้หญิงที่คุ้นชินกับมัน

    ถึงกระนั้นเมอร์เซเดสก็มิได้รังเกียจหรือคิดในแง่ลบ  กริดคือผู้มีพระคุณของปิอาโร่และอัสโมเฟล  แถมยังเป็นบุคคลสำคัญในการผลักดันให้เมอร์เซเดสสืบหาความจริงของคดีสมัยอดีต
    
    และส่วนสำคัญที่สุด 
    กริดเพิ่งช่วยชีวิตเธอไว้เมื่อครู่
    เขาจ้องไม่ใช่คนเลวร้ายแน่

    “ฉันจะไม่ถามว่าทำไมคุณถึงอยู่ที่ไททัน  ฉันจะไม่เคลือบแคลงสงสัยผู้มีพระคุณ  แต่ได้โปรดอย่าพยายามทำให้หัวใจของฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้  มันจะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นแน่นอน”

    ในฐานะอัศวินของจักรวรรดิ  เธอมิอาจสมรสกับราชาจากอาณาจักรอื่นได้    
    นั่นจะถือเป็นความผิดร้ายแรง
    เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย

    ขณะเมอร์เซเดสกำลังฝืนยิ้มอย่างขื่นขม  กริดรีบคว้าข้อมือเธอไว้พร้อมกับอธิบายความรู้สึกที่อัดแน่นในใจ
    
    “ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด…เธอเคยสัญญาไว้แล้วไม่ใช่หรือ?  ว่าจะตอบแทนฉันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี  คิดจะไม่รักษาสัญญากันรึไง!”

    “…นายไม่ได้ต้องการฉันเพื่อเป็นคนรักหรือภรรยา  แต่ต้องการเพื่อไปเป็นทาสสินะ”

    “หือ?”
    
    “หยาบคายที่สุด”

    “…??”

    ท่าทีแบบนี้มันอะไรกัน?

    ไอ้ทึ่มกริดพลันหน้าแดงก่ำเมื่อเริ่มรู้ตัว
    เขาหลงลืมพลังนิ้วมือมารเสียสนิท  
    ก่อนหน้านี้ได้สัมผัสร่างกายเมอร์เซเดสไปเป็นเวลานาน    

    “สายตาแทะโลมของนายหมายความว่ายังไงกัน?  นายต้องการสิ่งนั้นเพื่อแลกกับบุญคุณที่ช่วยชีวิตงั้นหรือ?”

    “…”

    นี่ตนเคลียร์ภารกิจแสนสำคัญเพื่อให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกโรคจิตรึไง?
    กริดทั้งอับอายและผิดหวัง

    “…ถ้านายต้องการเช่นนั้น  ฉันคงไม่มีทางเลือกอื่น”

    เมื่อเซอร์เดสกล่าวด้วยสีหน้าขึงขังจริงจังพลางเลื่อนมือขึ้นไปยังลำคอขาวนวล
    สายตาของกริดจดจ้องผิวพรรณบริสุทธิ์ผุดผ่องพร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่
    แต่เหตุการณ์กลับมิได้ดำเนินไปตามครรลองที่กริดต้องการ

    เมอร์เซเดสปลดจี้ห้อยคอที่สวมอยู่มอบให้กริด  จี้สีเงินแสนล้ำค่าซึ่งสลักไว้ด้วยลวดลายกุหลาบงดงาม

    “นี่คือ...?”

    “สัญลักษณ์ประจำตระกูลของฉัน  จงใช้มันหากนายต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากภายในจักรวรรดิ”

    ชิ้ง— 

[ ภารกิจลับเสร็จสิ้น ]
[ ค่าความสัมพันธ์กับเมอร์เซเดสเพิ่มขึ้น 50 หน่วย ]
[ ท่านได้รับไอเท็ม ‘จี้ห้อยคอตระกูลเวนซ์’ ]

[ จี้ห้อยคอตระกูลเวนซ์ ]
ความคงทน : 31/33
* ความน่าหลงไหล +100
* ความสง่างาม +100
    จี้ห้อยคอที่สืบทอดต่อกันมายาวนานภายในตระกูลเวนซ์อันโด่งดังแห่งจักรวรรดิซาฮารัน
    สิ่งนี้สามารถใช้พิสูจน์ตัวตนของท่านได้ทุกหนแห่งภายในจักวรรดิ
    หากสวมใส่จะได้รับความเคารพจากคนรอบข้างอย่างมาก
น้ำหนัก : 5
เงื่อนไขสวมใส่ : ทายาทตระกูลเวนซ์หรือคนที่พวกเขายอมรับ

    “เป็นของสำคัญไม่ใช่รึไง?”

    มันคือสัญลักษณ์ในการพิสูจน์ตัวตนของเมอร์เซเดสผู้เป็นทายาทตระกูล
    เธอส่ายศีรษะเมื่อเห็นกริดแสดงสีหน้ากังวล

    “มันมิได้สลักสำคัญต่อฉันแม้แต่น้อย”

    ‘เจ๋ง!’

    ไอเท็มชิ้นนี้สามารถใช้ยืนยัน ‘สถานะทางสังคม’ ของผู้สวมใส่ได้ทั่วจักรวรรดิ
    หากกริดพกไว้กับตัว  เขาจะท่องไปได้ทุกที่ในจักรวรรดิได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด
    ทุกสิ่งจะง่ายขึ้นทันตาเห็น

    “แบบนี้ดีแล้วจริงหรือ?  เธอจะทำอย่างไรถ้าฉันใช้มันในทางมิชอบจนทำให้ตระกูลของเธอเสื่อมเสีย?”

    “ทั้งปิอาโร่และอัสโมเฟลเลือกที่จะเชื่อใจและจงรักภักดีต่อนาย  ฉันไม่คิดว่าบุคคลเช่นนั้นจะกระทำสิ่งเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูลของฉัน  หรือต่อให้นายใช้มันในทางมิชอบ  แต่นั่นคงเพราะเหตุจำเป็น  ฉันทำได้เพียงยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น”

    “…เข้าใจแล้ว”

    กริดแสยะยิ้ม
    นิสัยตรงไปตรงมาของเมอร์เซเดสคือสิ่งที่กริดชื่นชอบอย่างมาก
    ยิ่งได้รู้จัก  เขาก็ยิ่งหลงไหลสตรีผู้นี้
    
    “ขอบใจมาก”

    กริดกล่าวคำอำลา
    เมอร์เซเดสคุกเข่าลงหนึ่งข้างพลางเปล่งเสียงด้วยท่าทีนอบน้อม

    “ขอให้โชคดี  ราชาโอเวอร์เกียร์”
    
    “เช่นกัน”

    “ฉันต้องทำภารกิจให้สำเร็จ  เพื่อจักรวรรดิและปิอาโร่”

    ในภายหลัง
    กริดจะได้พบเมอร์เซเดสอีกครั้งอย่างไม่คาดฝัน

    ***
    
    “โฮ่?  ไม่ยอมหนีไปพร้อมราชาโอเวอร์เกียร์…นี่เธอไม่รักชีวิตตัวเองแล้วหรือ?”
    
    เมอร์เซเดสกลับบ้านพักของเธอที่มีคิวราทันรออยู่
    ทั้งวาจาและท่าทางของมันยังคงต่ำทรามไม่แปรเปลี่ยนไปจากหลายชั่วโมงก่อน

    เมื่อยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้  
    เมอร์เซเดสหรี่ตาลงพลางเย้ยหยัน

    “แกไม่อยากให้ฉันกลับมารึไง?”

    “ไม่เลยสักนิด”

    หากเมอร์เซเดสหนีไปพร้อมกับราชาโอเวอร์เกียร์  คิวราทันสามารถกราบทูลเรื่องเท็จแก่องค์จักรพรรดิได้ตามใจชอบ
    ตระกูลเวนซ์ของเธอจะกลายเป็นกบฏแผ่นดินทันที
    จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เมอร์เซเดสย้อนกลับมา
    
    ทว่า  นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด
    แค่ฆ่าเธอทิ้งก็สิ้นเรื่อง

    “เธอรู้อะไรไหม?  การป้ายสีความผิดให้ตระกูลขุนนางนั้นง่ายมาก  ฉันแค่ฆ่าปิดปากพวกมันให้เรียบ  จากนั้นก็กราบทูลเรื่องเท็จต่อฝ่าบาท  เหมือนที่เคยทำกับตระกูลปิอาโร่ยังไงล่ะ  คุคุคุ!”

    คิวราทันแสยะยิ้มชั่วร้าย
    สีหน้าท่าทีน่าขยะแขยงคล้ายคลึงกับจอมอสูรไม่ผิดเพี้ยน
    เหตุใดมันถึงเอ่ยชื่อปิอาโร่ต่อหน้าเมอร์เซเดสในเวลาเช่นนี้?
    คำตอบนั้นง่ายมาก  
    มันพยายามยั่วยุเธอ
    แต่ไม่มีทางที่คนตาแหลมอย่างเมอร์เซเดสจะมองไม่ออก

    “ยั่วยุได้ตื้นเขินสิ้นดี  ทำตัวไม่สมกับจอมอสูรผู้น่าเกรงขามเลยนะ”

    “…”

    “ก่อนหน้านี้ฉันแค่กำลังสับสน  แต่หากต้องสู้กับแกเต็มฝีมือ  ขอรับประกันว่าจะไม่ง่ายเหมือนคราวก่อนแน่  และเมื่อยิ่งแกเอาจริง  ตัวตนจอมอสูรก็จะยิ่งถูกเปิดเผยชัดเจนจนคนภายนอกเริ่มผิดสังเกต”  

    อัศวินลำดับหนึ่งฉีกยิ้ม

    “ไหนลองตอบมา  แกคิดจะทำยังไงกับฉัน?”

    คิวราทันเริ่มตระหนักได้ถึงบางสิ่งเมื่อเห็นท่าทีแสนมั่นใจของเมอร์เซเดส  
    
    “พวกเราทำข้อตกลงกันไหม?”

    เดิมที  จอมอสูรมักโด่งดังในด้านการทำพันธสัญญาและข้อตกลงกับมนุษย์
    มีมนุษย์เพียงน้อยคนที่สามารถหักห้ามใจตัวเองมิให้หลงระเริงไปกับสิ่งที่จอมอสูรมอบให้

    เมอร์เซเดสเองก็ทราบข้อเท็จจริงนี้
    คิวราทันกล่าวต่อไป

    “ฉันไม่ต้องการให้พวกเราก้าวก่ายซึ่งกันและกัน  ตัวตนจอมอสูรของฉันยังมิอาจถูกเปิดเผยได้ในตอนนี้  แต่สำหรับเธอนั้นเป็นกรณีพิเศษ  จะยอมบอกให้ก็ได้…ฉันคือจอมอสูรอัสทารอธ  จนกว่าความปรารถนาของมนุษย์ผู้อัญเชิญจะบรรลุผล  ฉันจำเป็นต้องสวมหน้ากากอัศวินสีชาดต่อไป  ฉันจะใช้พลังที่มีเพื่อสนับสนุนให้ผู้อัญเชิญได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ”

    “ผู้อัญเชิญ…?”

    เมอร์เซเดสหลงลืมเรื่องหนึ่งไปเสียสนิท

    ‘ผู้อัญเชิญคือใครกัน?’

    ใครกันที่บังอาจอัญเชิญจอมอสูรและปล่อยให้แทรกซึมอยู่ภายในวังหลวง?
    นัยน์ตาเมอร์เซเดสพลันสั่นระริกเมื่อรับรู้ในสิ่งที่ไม่คาดฝัน  
    คิวราทันแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ

    “คุคุคุ!  เป็นคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี”

    “ใครกัน?”

    “ฉันคงบอกไม่ได้  พันธสัญญาของจอมอสูรประกอบด้วยเงื่อนไขมากมาย  หากฝ่าฝืนจะได้รับโทษรุนแรงชนิดที่แม้แต่จอมอสูรก็มิอาจทนไหว  แต่ฉันจะใบ้ให้  ผู้อัญเชิญมิใช่หญิงสาวที่เธอคิด”

    ‘ไม่ใช่แมรี่?’

    “เทียบกับหล่อนแล้ว  คนผู้นั้นใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดิมากกว่า”
    
    คิวราทันกล่าวพลางฉีกยิ้มกว้างถึงใบหู
    ส่วนเมอร์เซเดสกำลังครุ่นคิดด้วยสีหน้าตึงเครียด  ดูเหมือนคำว่า ‘ใกล้ชิด’ อาจไม่ใช่ทางด้านกายภาพ  น่าจะเป็นความใกล้ชิดทางสายเลือดมากกว่า
    
    “หนึ่งในองค์ชาย?”

    “คำบอกใบ้จบลงเพียงเท่านี้  คนที่อยู่เบื้องหลังฉันไม่ธรรมดา  แต่กลับกัน  เธอยังเหลือใครบ้างเมอร์เซเดส?  จักรพรรดิเสื่อมคลายความเชื่อใจในตัวเธอไปมาก  เธอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับจักรพรรดินีแมรี่  เธอทำลายความสำพันธ์กับดยุคแห่งดาบลิมิต  ชายเพียงคนเดียวที่เคยเชื่อใจในตัวเธอ  แล้วแบบนี้เธอยังจะเหลือใครอีก?  เหล่าอัศวินสีชาดที่ศรัทธาในตัวเธองั้นหรือ?  คุคุคุ!  พวกมันก็แค่ลูกแกะน้อย  ไม่มีพลังมากพอจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดได้  เธอสิ้นหวังแล้วเมอร์เซเดส  คนอย่างเธอไม่มีทางเป็นภัยคุกคามต่อฉันได้”

    เสียงกระซิบกระซาบอันแหบพร่าของมันจะทำให้บุคคลจิตใจไม่มั่นคงต้องพบความสิ้นหวัง

    “น่าเสียดายที่ฉันยังทำอะไรเธอไม่ได้ในตอนนี้  คงมีแต่ต้องยอมปล่อยไปก่อน”
    
    ไพ่ตายที่เป็นมนตร์ดำของมันมิอาจใช้ได้กับเมอร์เซเดสซ้ำสอง
    ตำแหน่งอัศวินอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิมิได้มาเพราะโชคช่วย
    
    แม้แต่จอมอสูรยังหวั่นเกรงต่อดวงตาที่มองเห็นอนาคตล่วงหน้าขณะต่อสู้

    ทว่า  นั่นจะเป็นอีกเรื่องหากอัสทารอธอยู่ในร่างสมบูรณ์ 

    “ฉันสัญญาว่าพวกเราจะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน  ฟังดูไม่เลวกับเธอเลยใช่ไหม?  เธอจะได้มีเวลารวบรวมพลังต่อต้านฉันยังไงล่ะ  คุคุคุ!”
    
    ข้อตกลงระหว่างมนุษย์และจอมอสูรมิได้หอมหวานอย่างที่เมอร์เซเดสเคยได้ยินเลยสักนิด

    ‘เราต้องรีบทำให้ฝ่าบาทเชื่อใจ’

    เมอร์เซเดสพยักหน้าเล็กน้อยพลางครุ่นคิด  ส่วนฝ่ายคิวราทันกำลังแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,225
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สนุกมาก
    ขอบคุณ​ครับ​ 😊

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณครับ สนุกๆ

    ReplyDelete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00