จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 1,237
[<เลือดของราชาโลหิต> ถูกฉาบลงบนไอเท็ม..]
‘เลือดของราชาโลหิต?’
ราชาโลหิตเป็นเพียงหนึ่งในสมญานามอันมากมายของกริด แถมยังเป็นสมญานามที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์มากนัก
แต่ถึงอย่างไร ระบบเกมก็ระบุชัดเจนว่าเลือดของกริดคือเลือดของราชาโลหิต
หมายความว่า ราชาโลหิตมีความสำคัญกับโลกของซาทิสฟายค่อนข้างมาก อย่างน้อยก็ในแง่ของเลือด
เฉกเช่นผู้สืบทอดแพ็กม่าขณะถือค้อน ดยุคแห่งปัญญาขณะใช้เวทมนตร์ และมหากาพย์จอมดาบเวทขณะกวัดแกว่งดาบ
เลือดของราชาโลหิตมีระดับสูงกว่าปรกติ
ชิ้ง!
แท่งหนาม*เต่าดำ (ชื่อไอเท็ม) ถูกย้อมด้วยเลือดของราชาโลหิตจนกลายเป็นสีแดง
ในที่มีด สีของมันค่อนข้างดำเข้ม แต่ในที่สว่าง สีของมันกลับแผ่แสงแดงระเรื่อ
ไม่น่าเชื่อว่าแท่งเหล็กที่เย็นชืด เรียบง่าย และมีลักษณะแข็งกร้าว จะมอบความงดงามในเชิงศิลป์ได้มากถึงเพียงนี้
‘ไม่เข้ากับเราเลยสักนิด’
มันวิจิตรงดงามเกินไป
ไม่สิ พูดแบบนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพียงแต่คนที่ถือสิ่งนี้แล้วเหมาะสมมีไม่มาก ต้องเป็นชายหรือหญิงรูปร่างผอมบางและสง่างามจึงจะคู่ควร เฉกเช่นบราฮัมหรือครอเกล
อย่างไรก็ตาม ถึงกริดจะมองว่าไม่เหมาะสมกับตน แต่ก็มิได้เก็บมาตัดพ้อ
เพราะสิ่งนี้มิใช่อาวุธที่มันจะนำไปใช้อยู่แล้ว
“…หือ?”
ดวงตากริดพลันเบิกโพลงทันทีเมื่อเริ่มอ่านรายละเอียดไอเท็มที่เสร็จสมบูรณ์
<แท่งหนามเต่าดำเกรี้ยวกราดที่ชโลมด้วยเลือดของราชาโลหิต>
เกรด : เลเจนดารี (เติบโต)
ไอเท็มเซต (เซ็นเต่าดำ)
ความคงทน (แท่งเหล็ก) : 890/890
พลังโจมตี (แท่งเหล็ก) : 560
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุพิษ 70%
* เพิ่มพลังโจมตีธาตุน้ำ 70%
* เมื่อโจมตี มีโอกาสปานกลางที่เป้าหมายจะตกอยู่ในอาการติดพิษ (รุนแรง)
* เมื่อป้องกัน มีโอกาสปานกลางที่จะปลดปล่อยทักษะ <พ่นละอองน้ำ> โดยวัตถุที่สัมผัสกับละอองน้ำมีโอกาสปานกลางที่จะตกอยู่ในอาการ ‘สึกกร่อน’
* ขณะโจมตีหรือป้องกัน มีโอกาสปานกลางที่จะสร้างอาการ ‘ปลดอุปกรณ์’ แก่เป้าหมาย
* ขณะโจมตีหรือป้องกัน มีโอกาสน้อยมากที่จะทำลายอุปกรณ์ของเป้าหมายโดยสมบูรณ์
★ หากทำการโจมตีใส่อุปกรณ์ที่ตกอยู่ในอาการ ‘สึกกร่อน’ มีโอกาสสูงมากที่อุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกทำลายโดยสมบูรณ์
ความคงทน (คมหนาม) : 120/120
พลังโจมตี (คมหนาม) : 1,160
* เมื่อโจมตี มีโอกาสต่ำที่จะมองข้ามพลังป้องกันของเป้าหมาย 50%
* เมื่อโจมตี มีโอกาสต่ำมากที่จะมองข้ามพลังป้องกันของเป้าหมาย 100%
★ เมื่อโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ในอาการถูกปลดอุปกรณ์ ทักษะ <ทะลวงสังหารเกรี้ยวกราด> จะแสดงผล เป้าหมายที่ถูกโจมตีด้วยทะลวงสังหารเกรี้ยวกราดจะสูญเสียพลังชีวิต 60% แบบตายตัว สร้างอาการผิดปรกติ ‘เลือดออกรุนแรง’ โดยไม่สนใจค่าต้านทาน
อาวุธที่เกิดจากปลายนิ้วของช่าวตีเหล็กในตำนาน กริด ผู้มีพลังทัดเทียมเทพชั่วคราว
ส่วนผสมประกอบด้วยละโมบที่ถูกระงับพลังพิเศษทั้งหมด ลมหายใจเต่าดำ และเลือดของราชาโลหิต
แท่งเหล็กถูกออกแบบให้มีรูปทรงเรียบง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่ถึงจะมีรูปทรงไม่โดดเด่น สีสันของมันกลับงดงามจนน่าพิศวง โดยคมหนามลับที่พุ่งออกไปประหนึ่งสว่านจะดูคล้ายกับเขี้ยวเต่าดำ
* ได้รับทักษะ <หมอบ!>
* ได้รับทักษะติดตัว <พิษจุติ>
★ โบนัสเซตเต่าดำ
- เมื่อสวมใส่อุปกรณ์เต่าดำครบ 3 ชิ้น ความเร็วโจมตีจะเพิ่มขึ้น 10% และความแม่นยำเพิ่มขึ้น 15% โดยไม่สนใจค่าหลบหลีกเป้าหมาย
สำหรับกริด ไอเท็มชิ้นนี้มีคุณภาพสูงผิดคาด
ไม่ว่าจะเอกลักษณ์ในการกัดกร่อนไอเท็ม ทักษะโจมตีที่รุนแรงตามเปอร์เซ็นต์เลือด การมองข้ามพลังป้องกันเป้าหมาย รวมถึงโบนัสเซต ทั้งหมดเป็นไปตามความตั้งใจของกริด
เพื่อให้ลาเด็นใช้การได้ กริดไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลบคุณสมบัติพิเศษของละโมบทั้งหมด ส่งผลให้ไม่มีออปชันสุดโกงอย่างค่าความคงทนอนันต์ แต่กระนั้น ประสิทธิภาพของแท่งหนามเต่าดำกลับสูงกว่าที่คาดไว้มาก
ทว่า กริดกำลังตกใจในเรื่องอื่น
!! ไอเท็มชิ้นนี้มีอารมณ์ความรู้สึกเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากเลือดราชาโลหิต มันจะเกรี้ยวกราด ทระนงตน และพยายามอยู่เหนือเจ้าของ!!
* มีโอกาสต่ำมากที่จะสูญเสียการควบคุมอาวุธชั่วขณะ ในช่วงเวลาดังกล่าว อาวุธจะไม่สามารถใช้งานได้
ออปชันเสริมจากเลือดราชโลหิต
<แท่งหนามเต่าดำ> คือไอเท็มที่มาพร้อมคำขยายชื่อ ‘เกรี้ยวกราด’ จึงแถมออปชันคำสาปเพื่อให้สมกับชื่อความเกรี้ยวกราดนั้น
แต่…
★ ได้รับทักษะ <สายเลือดราชาโลหิต>
* เวทโลหิตทุกชนิดจะรุนแรงขึ้น 1.5 เท่า
★ เพิ่มช่องใส่ทักษะเวทโลหิต 1 ช่อง
* สามารถฝังเวทโลหิต 1 ชนิดลงไปในไอเท็ม
…แต่ก็เป็นคำสาปที่คุ้มค่ากับความเสี่ยง
จริงอยู่ หากบังเอิญสุ่มติดคำสาป ผู้ใช้งานจะเป็นอันตรายอย่างมาก
ถึงจะไม่ร้ายแรงเท่าคำสาปบันเฮเลียร์ในดาบ <เขี้ยวขาว> ของครอเกล แต่หากโชคร้าย คำสาปจากแท่งหนามเต่าดำก็รุนแรงพอจะทำให้ผู้ใช้งานเสียชีวิต
ถึงกระนั้น กริดก็ยังพึงพอใจอย่างมาก
ช่องติดตั้งเวทมนตร์โลหิต…
ลำพังออปชันนี้อันเดียว แท่งหนามเต่าดำก็มีมูลค่าสูงจนมิอาจประเมินได้
‘น่าเสียดายที่จำกัดเฉพาะเวทมนตร์โลหิต แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…’
ตามปรกติแล้ว การฝังเวทมนตร์ลงในไอเท็มสามารถกระทำได้สองวิธี
หนึ่ง ใช้หยดน้ำตาของราชาเผ่าวารีเป็นวัสดุในการสร้าง และสอง อาศัยเทคนิคการสร้างยุทธ์ภัณฑ์เวทมนตร์ ฝึกฝนแร่ให้ซึมซับเวทมนตร์ชนิดนั้นเข้าไป
ทั้งสองวิธีต่างมีข้อบกพร่อง
ในกรณีของหยดน้ำตาราชาเผ่าวารี วัสดุดังกล่าวมีจำนวนเพียงหยิบมือ และถ้าหากเวทมนตร์มีระดับสูง โอกาสฝังสำเร็จก็ยิ่งต่ำลง
ส่วนเทคนิคการสร้างยุทธภัณฑ์เวทมนตร์จะมีประสิทธิภาพเหนือขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ อีกทั้งยังกระทำได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ปัญหาคือ กริดต้องทำงานกรรมกรเป็นเวลานาน สิ้นเปลืองโพชันมานาอีกนับไม่ถ้วนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และเหนือสิ่งอื่นใด เวทมนตร์ระดับสูงไม่สามารถฝึกให้ซึมซับได้ในเชิงปฏิบัติ
แต่ในทางกลับกัน ช่องบรรจุเวทโลหิตที่เกิดจากเลือดของราชาโลหิตนั้นไม่มีข้อจำกัดผูกมัด
ไม่มีข้อกำหนดการฝังเวทโลหิตระบุไว้
อีกทั้งยังมีทักษะ <สายเลือดราชาโลหิต> ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพ
* เวทโลหิตรุนแรงขึ้น 1.5 เท่า…
‘…ไม่สิ เราไม่ควรดีใจเกิดพอดี การฝังเวทโลหิตอาจมีโอกาสล้มเหลว’
สำหรับกริด ซาทิสฟายขึ้นชื่อในด้านความใจร้ายกับผู้เล่น
ไม่ใช่แค่หนหรือสองหนที่กริดต้องพานพบความผิดหวังเมื่อความเป็นจริงไม่ตรงตามคำอธิบายที่เขียนไว้ในทักษะ
‘ใจเย็นก่อน’
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึก กริดไตร่ตรองจนพบข้อเสียร้ายแรงของแท่งหนามเต่าดำ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลาเด็นถูกคำสาปขณะกำลังดวลกับดราโกเนี่ยน?
การจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้ก่อน ทำให้กริดเริ่มกลับมาตาสว่าง
แต่สำหรับลาเด็น คำสาปอาจไม่เลวร้ายนัก
‘…ลาเด็นยังมีโล่ ถึงจะใช้อาวุธไม่ได้ชั่วคราว หมอนั่นคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ’
ไม่ว่ากริดจะพยายามนึกถึงข้อเสียและเหตุการณ์ด้านลบอย่างไร แต่ในใจลึก ๆ ก็มิอาจขจัดความตื่นเต้นจากออปชันฝังเวทโลหิตได้
ตื่นเต้นจนมิอาจระงับอากัปกิริยา
“ฝ่าบาท?”
แท่งเหล็กเรียว ยาวไม่ถึงหนึ่งเมตร
หลังจากเห็นกษัตริย์ของตนยิ้มสลับกับขมวดคิ้วเป็นพัก ๆ ดยุคสไตม์มิอาจขัดความกังวลใจ จึงรวบรวมความกล้าและซักถามตามตรง
เมื่อถูกดึงสติกลับมา กริดหันไปอีกฝ่ายมองด้วยสายตาสุขุม
‘ตอนนี้ต้องรีบคิดก่อนว่า… จะนำเวทมนตร์โลหิตชนิดใดฝังลงไปในอาวุธ’
จริงอยู่ กริดอาจไม่มีเวทโลหิตติดตัวแม้แต่ทักษะเดียว แต่ก็มิได้มองว่านั่นเป็นปัญหา
เหตุผล?
“อัญเชิญอัศวิน โนลล์’
ซู่ว!
กริดมีมิตรสหายผู้ชำนาญเวทมนตร์โลหิตมากกว่าใครในโลก
“งั่ม. งั่ม. งั่ม.”
เด็กชายผู้มีผมสีเงินเงางาม
แต่สวนทางกับรูปลักษณ์ แวมไพร์ตนนี้มีอายุมากกว่า 200 ปีแล้ว
จากบรรดาทายาทสายเลือดแท้ของเบริอาเช่ต้นตระกูล โนลล์ถือเป็นระดับท็อปอย่างไร้ข้อกังขา
โนลล์ ผู้เป็นเจ้าเมืองแห่งหนึ่งในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ ตอบสนองต่อคำอัญเชิญของกริดทันทีโดยปราศจากความลังเล
“ท่านดยุค!”
เมื่อลาเด็นที่กำลังต่อสู้กับศัตรูในจินตนาการสัมผัสถึงความผิดปรกติ อัศวินหนุ่มปรี่เข้าไปปกป้องดยุคสไตม์ผู้เป็นนายด้วยท่าทีสั่นกลัว
มันทราบดี กริดมีแวมไพร์เป็นบริวาร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ไว้ใจสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตประเภทนักล่า โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่ารอบริมฝีปากอีกฝ่ายถูกฉาบด้วยของเหลวสีแดงฉาน
“เจ้านั่นเพิ่งกินมนุษย์เข้าไป…!”
ลาเด็นตื่นตัวกับเลือดที่รอบปากโนลล์
แวมไพร์หนุ่มทำสายตาเหยียดหยันขณะชำเลืองมองอัศวินอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือที่กำลังตั้งท่าเป็นศัตรูกับตน
“ฝ่าบาท ไอ้ลูกสุนัขนั่นเป็นใคร?”
ถูกต้อง
ถึงแม้ลาเด็นจะเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่มีศักยภาพล้นหลาม แต่ในสายตาแวมไพร์ทายาท ลาเด็นเป็นได้เพียงลูกสุนัขตัวหนึ่ง
กริดเช็ดปากโนลล์ที่กำลังขมวดคิ้วเนื่องจากถูกปฏิบัติอย่างมุ่งร้าย
“เขาเป็นผู้ช่วยของพ่อตาฉัน ได้โปรดเป็นมิตรกับเขาด้วย”
“ผู้ช่วยพ่อตา…? เข้าใจแล้ว จะไม่กินก็ได้”
“…”
หงึกหงึก.
ลาเด็นเฝ้ามองเหตุการณ์ด้วยร่างกายสั่นเทา
อัศวินอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือผู้เป็นเจ้าของประสาทสัมผัสแสนเฉียบคม ที่สามารถตรวจจับได้แม้กระทั่งคาซิม ราชันแห่งเงา กำลังเพ่งสติสำรวจโนลล์อย่างละเอียดทุกซอกมุม
ตรงข้ามกับร่างกายที่เล็กกะทัดรัด อีกฝ่ายถือเป็นสัตว์ประหลาดมาดสง่างาม ที่เปี่ยมด้วยพลังเวทมนตร์มหาศาลจนมิอาจมองเห็นก้นบึ้ง
เมื่อได้เห็นนักล่าแห่งห่วงโซ่อาหารที่สามารถจัดการตนได้ในพริบตา ยอมศิโรราบต่อราชาของตนอย่างนอบน้อม ลาเด็นยิ่งทวีความศรัทธาในตัวกริดเป็นล้นพ้น
‘ดราโกเนี่ยน… ไม่เคยอยู่ในสายตาฝ่าบาท’
ตัวตนผู้ยิ่งใหญ่ที่มิได้แยแสเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนอันสูงส่ง บัดนี้กำลังยืนตรงหน้าตน
โลกใบใหม่เริ่มเปิดกว้างแก่ลาเด็น ผู้ที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนจะมีโอกาสเอาชนะดราโกเนี่ยนในการดวล
โลกที่มันอยากไปให้ถึง
ลาเด็นลั่นวาจาหนักแน่นพลางหลับตาลง ลมหายใจถูกสูดเข้าไปเต็มปอด ตามด้วยการสร้างภาพดราโกเนี่ยนในจินตนาการ
บรรยากาศคุกคามรอบตัวดราโกเนี่ยนเริ่มบรรเทาลงจากเดิม อีกฝ่ายมิได้น่ากลัวเท่ากับเมื่อก่อนเมื่อข้อเปรียบเทียบเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังยิ่งกว่าหลายเท่า
“ย๊ากกก!”
โนลล์ที่ยืนข้างกริด ยืนจ้องลาเด็นใช้ดาบฟันลมอย่างบ้าคลั่งอยู่สักพัก ก่อนจะก็หันกลับมามองกริดพลางยกนิ้วชี้หมุนเป็นวงกลมแนวราบข้างศีรษะตัวเอง
นั่นคือภาษากายที่ถามว่า :
“เจ้านั่นเป็นบ้าไปแล้วหรือ”
กริดส่ายหน้า ส่งแท่งหนามเต่าดำให้โนลล์
ทันใดนั้น
“น่าสนใจมาก… อิทธิพลจากเลือดของราชาโลหิตทำให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม”
โนลล์สัมผัสถึงคุณค่าที่แท้จริงของแท่งหนามเต่าดำตั้งแต่แรกสัมผัส
มันหันไปถามกริดพลางใช้ฝ่ามือสัมผัสแท่งเหล็กสีสันสวยงาม
“แล้วข้าต้องบรรจุเวทโลหิตชนิดใดลงไป?”
“ฝังเวทโลหิตระดับสูงได้ไหม”
“แน่นอน มีเลือดของราชาโลหิตไหลเวียนอยู่ทั้งที ไม่ว่าเวทโลหิตระดับใดก็เป็นที่ยอมรับ”
“รวมถึงเวทถ่ายเลือดของนาย และเวทมนตร์สะกดข่มของแวมไพร์ทายาทด้วยหรือ?”
“กรณีของเวทถ่ายเลือดนั้นค่อนข้างพิเศษ มันเกิดจากคุณลักษณะเฉพาะของข้า จึงตอบสนองต่อพลังเวทของข้าเท่านั้น ส่วนพลังสะกดข่มนั้นไม่ใช่เวทมนตร์ แต่เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลังจากแวมไพร์ทายาทปรากฏกาย”
“นายคิดว่า หลังจากฝังเวทโลหิตลงไปครั้งหนึ่ง จะลบแล้วฝังใหม่ได้ไหม?”
“ไม่ได้แน่นอน เวทโลหิตจะถูกฝังอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ครั้งแรก”
‘นี่คืออีกหนึ่งข้อเสียที่ด้อยกว่าหยดน้ำตาของราชาเผ่าวารี…’
กริดยืนใคร่ครวญสักพัก
อย่างไรก็ตาม มันถือเป็นคนนอกในวงการเวทมนตร์โลหิต
เมื่อตระหนักว่าการครุ่นคิดและหาคำตอบถามลำพังคงไม่เกิดประโยชน์อันใด กริดจึงเริ่มอธิบายรายละเอียดและความเป็นมาให้โนลล์ฟัง รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันของดราโกเนี่ยน
โนลล์พยักหน้ารับ
“หากจะถามว่า เวทโลหิตชนิดใดเหมาะสำหรับจัดการดราโกเนี่ยนมากที่สุด ข้าคงเลือกเวทมนตร์ที่ทะลวงผ่านชั้นเกล็ดและสร้างความเสียหายภายในโดยตรง แต่ในเมื่อเจ้าหนูนั่นมีอาวุธชิ้นนี้แล้ว เวทมนตร์ดังกล่าวก็ไม่จำเป็น”
โนลล์ใช้แท่งหนามเต่าดำเคาะฝ่ามือตัวเองเล่นพลางเผยรอยยิ้มซุกซนเหมือนเด็กเล็ก
“ประเมินจากฝีมือของเจ้าหนู พรุ่งนี้คงมีการหลั่งเลือดไม่น้อย… ข้าคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเหมาะ”
ซู่วว…
พลังเวทมนตร์ของโนลล์เริ่มซึมซาบเข้าไปในแท่งหนามเต่าดำ
ชอบโนลล์เหมือนเด็กที่ทำตัวน่ารักแค่กับกริด กริดก็ดูแลเหมทอนน้องชายมีเช็ดปากให้ด้วย
ReplyDelete