จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 842

    ซาทิสฟายขึ้นชื่อด้านอิสระที่มิอาจหาได้จากชีวิตจริง  รวมถึงโลกแสนกว้างใหญ่ที่ราวกับไร้ขอบเขต
    การสำรวจทวีปตะวันตกและทานอาหารพื้นเมืองของแต่ละถิ่นให้ครบต้องใช้เวลานานหลายปี
    
    ทว่า  มนุษย์มีความชื่นชอบแตกต่างกัน

    บางคนชอบที่ซาทิสฟายเป็นเพียงเกม  เหมือนกับเกมออนไลน์อื่นที่ผ่านมา
    ไม่สนใจการสำรวจ  ไม่สนใจอิสระ  มุ่งหน้าเก็บเลเวลและรักษาอันดับโลกไว้ให้ได้  
    ช่วงเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหมกตัวในจุดเก็บเลเวล  คนเหล่านี้ไม่สนใจทิวทัศน์รอบข้างที่งดงามหรือบรรยากาศแสนสดชื่น  สิ่งเดียวในหัวคือการเก็บเลเวลให้รวดเร็วที่สุด

    ความพยายามอย่างหนักมักตอบแสนด้วยชื่อเสียงและเงินทอง

    แต่กับกริดแล้วต่างออกไป

ชื่อ : กริด
เลเวล : 362
คลาส : ผู้สืบทอดแพ็กม่า ( มหาจอมเวทในตำนานแบบมีเงื่อนไข )
สมญานาม : ผู้กลายเป็นตำนาน  และอีก 25 สมญานาม (กดเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

พลังชีวิต : 88,815 
มานา : 14,268
พละกำลัง : 3,160 (+360)
ความอดทน : 1,987 (+580)
ความว่องไว : 2,690 (+330)
สติปัญญา : 1,838 (+540)
ความชำนาญ : 3,547 (+880)
ความเพียร : 1,472 (+330) 
ความสุขุม : 1,078 (+330)
ความทรหด : 1,333 (+440)
ความน่าเกรงขาม : 1,986 (+330)
วิสัยทัศน์ : 1,826 (+330)
ความกล้า : 1,022 (+330)
พลังการเมือง : 21 (+330)
พลังอสูร : 15,498
ความโชคดี : 241
ความเป็นเทพ : 4
แต้มสถานะคงเหลือ : 267

    เทียบกับผู้เล่นทั่วไป  กริดอุทิศเวลาให้กับการเก็บเลเวลเพียงน้อยนิด
    
    ระบุให้ชัดคือ  เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับโรงตีเหล็ก  หรือไม่ก็เผชิญเรื่องราวสุดพิสดารที่ผู้เล่นปรกติไม่มีวันพานพบ
    ดังนั้นในทางทฤษฏี  กริดจึงไม่ควรมีเลเวลที่สูง  ทว่า  เขากลับมีอันดับเลเวลอยู่ในหลักหน่วย

    ได้อย่างไร…? 

    คำตอบคือ  เพราะกริดมีโอกาสพัวพันกับ NPC พิเศษมากมายที่สำคัญต่อเนื่อเรื่องหลักซาทิสฟาย  
    ในระหว่างเหตุการณ์  กริดมักเผชิญหน้ากับบอสสุดแกร่งที่มอบค่าประสบการณ์เทียบเท่าการเก็บเลเวลหนึ่งร้อยวันเต็ม 

    นี่คือพลังจากการสานสัมพันธ์กับ NPC พิเศษ  ความจริงใจที่กริดมีให้ NPC เป็นทองแท้ที่ไม่มีวันถูกลอก  มิได้เกิดจากการเสแสร้งปั้นแต่ง  

    แต่ผู้เล่นทั่วไปที่มอง NPC เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ย่อมไม่ทราบหลักการข้อนี้

    “ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน”

    เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น  ตามด้วยรัศมีดาบหลายสิบเส้นที่พวยพุ่งอัดแน่นทุกอนูบรรยากาศ
    ทหารเพนันที่ถูกระดมพลตามคำสั่งบิวเทียนและอาริซ่าล้วนกลายเป็นแสงเทาในพริบตา

    จำนวนศพผู้เสียชีวิตสูงเกินกว่าสองร้อยอย่างรวดเร็ว

    “ไอ้ระยำเอ้ย…!”

    บิวเทียนโกรธแค้นเมื่อได้เห็นทหารของเคียร์ที่ถูกบ่มเพาะด้วยเงินทุนมหาศาลถูกทำลายไปกับตา  
    
    มันเจ็บใจที่ตัวเองหลงลืม ‘ความแข็งแกร่งส่วนบุคคล’ ของกริด  ผู้ที่แม้จะเป็นราชา  แต่กลับมีอันดับโลกอยู่ในหลักหน่วย
    
    ‘เราควรเดาได้ว่ามันจะบุกมาหาถึงถิ่น!  ไอ้ระยำติดเกมที่เอาแต่เล่นซาทิสฟายทั้งวันทั้งคืนแบบหมอนี่!’

    บิวเทียนเล่นซาทิสฟายเฉลี่ยวันละสิบสองชั่วโมง  
    นอกจากทำภารกิจที่เคียร์มอบหมายให้  เวลาทั้งหมดจะถูกใช้ไปกับจุดเก็บเลเวล  
    แต่ถึงกระนั้น  มันก็ไม่กล้าฝันว่าตัวเองจะไต่เต้าจนถึงอันดับหลักหน่วยของโลก 
    
    อันดับดีที่สุดของบิวเทียนคือท็อปหนึ่งร้อย  
    
    มันจินตนาการว่ากริดคือเด็กติดเกมที่เอาแต่เล่นซาทิสฟายทั้งวันทั้งคืนยกเว้นเวลากินและนอน

    ‘ถ้าเราเด็กกว่านี้สักสิบปีล่ะก็…!’

    น่าหงุดหงิดไม่น้อยเมื่อร่างกายวัยสี่สิบกว่าไม่แข็งแรงเหมือนกับเด็กหนุ่ม  
    ขณะริษยาในความเยาวัย  บิวเทียนแผดเสียงตะโกนกึกก้อง

    “รีบตั้งรั้วกีดขวาง!!”
    
    แม้จะสูญเสียทหารกว่าสองร้อยไปในพริบตา  แต่บิวเทียนก็มิได้สิ้นหวัง  
    ฝ่ายมันยังมีโอกาสอีกมาก  เพราะหากเป็นสงครามกลางเมือง  ฝ่ายเจ้าของเมืองจะถือครองความได้เปรียบอย่างสูง  สิ่งก่อสร้างนานาชนิดสามารถถูกใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์  ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือรั้วกีดขวาง  ซึ่งถูกวางเตรียมไว้ล่วงหน้าในแต่ละจุดของเมือง
    
    หน่วยทหารรีบนำรั้วกีดขวางมาตั้งไว้ด้านหน้าสุด  
    ผู้บุกรุกจะต้องเสียเวลาทำลายรั้วกีดขวางเหล่านี้  แต่ฝ่ายทหารสามารถโจมตีสวนกลับได้อย่างอิสระ

    บิวเทียนแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ

    “ราชาโอเวอร์เกียร์เอ๋ย…แกขุดหลุมฝังตัวเองแล้ว!  จงเสียใจในความโง่เขลาครั้งนี้ไปชั่วชีวิต!”

    มันทราบดีว่า  กริดสามารถทำลายรั้วกีดขวางเหล่านี้ได้ด้วยพลังโจมตีมหาศาล  แต่นั่นหมายถึงการลงทุนใช้ทักษะใหญ่ระดับท่าไม้ตาย  
    ขณะกริดเสียเวลาและทักษะไปกับการทำลายสิ่งกำบัง  จอมเวทและพลธนูจำนวนมากจะระดมยิงใส่จนกริดได้รับบาดเจ็บหนัก

    ในสนามรบที่ได้เปรียบเช่นนี้  จำนวนคนคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด  
    นี่คือหลักพื้นฐาน

    “ศรเวท”

    “อะไรกัน?”

    หัตถ์เทวะสี่ข้างกระหน่ำยิงศรเวทหนึ่งนัดต่อหนึ่งวินาที  เพียงไม่นาน  รั้วกีดขวางที่ติดตั้งไว้รอบเมืองก็เริ่มพังลง

    “ปลดปล่อยสายฟ้า  เมี๊ยว!”

    แมวอ้วนขนทองฟูปรากฏตัวด้านหน้ากลุ่มทหารพร้อมกับใช้เวทมนตร์สายฟ้าเป็นวงกว้าง  ทหารเพนันหลายสิบคนต่างตกอยู่ในอาการช็อตไฟฟ้า 

    เมื่อแนวหน้าหมดสภาพ  บิวเทียนรีบออกคำสั่งเร่งมือพลธนู

    “เร็วเข้า!”

    “วังวน”

    แรนดี้ที่จำแลงร่างกริดได้ใช้วงวันเพื่อสะท้อนลศรทุกดอกกลับไป

    “อั่ก…!”

    “อ๊ากกก!”

    พลธนูถูกศรของตัวเองคร่าชีวิตทีไปละคนสองคน

    “บ้าน่า?”

    บิวเทียนและกลุ่มจอมเวทต่างเร่งมือร่ายมนตร์สนับสนุน  แต่น่าเสียดายที่สายเกินไป  
    
    “ถ้าฉันโง่ขนาดตกหลุมพรางกระจอกเช่นนี้  คิดว่าฉันจะกล้ามาคนเดียวรึไง?”

    กริดใช้เคลื่อนที่อิสระเพื่อหลบหลีกกลุ่มเวทมนตร์ขนาดใหญ่  ชายหนุ่มประชิดตัวบิวเทียนได้ในพริบตา

[ ท่านได้รับความเสียหายรุนแรง ]
[ จิตใจของท่านถูกกระทบกระเทือน ]

    “แค่ก!”

    หลอดพลังชีวิตบิวเทียนลดฮวบเกินกว่าครึ่งจากการโจมตีธรรมดาเพียงหนึ่งครั้ง 
    ด้วยผล ‘ชะงัก’ ที่ตามมา  บิวเทียนจึงมิอาจขยับเขยื้อนร่างกายได้แม้แต่ปลายนิ้ว
    
    ในวินาทีคาบเกี่ยวความเป็นความตาย  มันกลับถูกโจมตีอย่างไม่คาดฝันด้วยฝีมือโครงกระดูกที่มีรอยยิ้มแสนประหลาดสองตัว

[ ท่านได้รับความเสียหาย 509 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 480 หน่วย ]

    บิวเทียนถูกแทงด้วยมีดสั้น

    ขณะกลุ่มทหารกรูเข้ามาล้อมปกป้อง  บิวเทียนตะโกนใส่กริดด้วยสีหน้าโกรธแค้น

    “แกกำลังดูถูกฉันใช่ไหม?  ถึงไม่ยอมปิดฉากด้วยตัวเอง!!”

    ปล่อยหน้าที่ดับลมหายใจให้เป็นของสัตว์เลี้ยงแสนกระจอก  บิวเทียนโกรธแค้นกริดชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    ทว่า  การโจมตีแสนธรรมดาจากมืดสั้นในมือโครงกระดูก  การโจมตีซึ่งมิอาจทะลวงผ่านพลังป้องกันจากชุดเกราะเกรดเลเจนดารีมาได้   การโจมตีดังกล่าวกลับส่งผลข้างเคียงแปลกประหลาดตามมา

[ ท่านกระดูกซี่โครงหัก ]
[ ร่างกายได้รับความเสียหายรุนแรง  ท่านมิอาจใช้ทักษะได้ชั่วคราว  ความเร็วเคลื่อนที่ลดลง  พลังชีวิตฟื้นฟูตามธรรมชาติลดลง 80%  ]

[ ท่านกินยารักษากระดูกหัก ]
[ ยาไม่ได้ผล ]

[ ท่านต้องกินยาที่มีคุณภาพสูงกว่านี้ ]

    “อะไรกัน?”

    บิวเทียนเริ่มเย็นสันหลัง

    ปัจจุบัน  กริดหันไปจัดการกับกลุ่มทหารเลวโดยมิได้แยแสบิวเทียนแม้แต่น้อย
    
    ทั้งฝ่ามือสีทอง  แมวขนทอง  ร่างโคลนจำแลง  ร่วมถึงโครงกระดูกประหลาด  ไม่มีสิ่งใดธรรมดาเลยสักอย่าง

    กริดครอบครองไอเท็มทรงพลังรวมถึงสัตว์เลี้ยงล้ำค่าไว้แต่เพียงผู้เดียว  ทั่งที่ผู้เล่นอื่นคงมีความสุขมากหากได้ครอบครองแม้สักหนึ่งชิ้น
    
    ด้วยเหตุนี้  ตัวตนของกริดจึงทรงพลังเกินไปในสายตาผู้เล่นธรรมดา

    “อั่ก…!”

    ลำพังกริดสามารถกำราบแรงเกอร์สองหลักและสามหลักราวกับไม่มีตัวตน  บิวเทียนและอาริซ่ากลายเป็นเพียงอากาศธาตุ  

    บิวเทียนขมวดคิ้วครุ่นคิดขณะมันถูกโครงกระดูกรุมทิ่มแทงด้วยมีด

    ‘…กริดแข็งแกร่งเกินกว่าขอบเขตของผู้เล่นไปแล้ว’

    พลังรบของชายคนนี้เป็นระดับกองทัพ  มิใช่พลังระดับบุคคลอีกต่อไป  
    กริดคือขุนเขาที่ไม่มีวันพังครืนในสงคราม

    เหลือเพียงหนทางเดียว

    บิวเทียนมั่นใจว่า  กำลังรบที่เหลือคงมิอาจต้านทานพลังโจมตีของกริดไหว  
    แต่ขณะออกคำสั่งให้ถอยเพื่อลดการสูญเสีย  มันกลับถูกสังหารไปเสียก่อน

    “บัดซบ!  ถอย…ทั—อั่ก!”

    ทว่า  ผู้ที่คร่าชีวิตบิวเทียนมิใช่โครงกระดูกโอเวอร์เกียร์  หากแต่เป็นหมอผีของอิมมอทัล

    “โอกาสทองมาถึงแล้ว”

    กองทัพหมอผีแสยะยิ้มชั่วพลางปลุกโครงกระดูกจากซากศพทหารจำนวนมากที่เสียชีวิต
    
    สถานการณ์วันนี้แตกต่างจากเมื่อครั้งภายในวังหลังของแม่รี่โดยสิ้นเชิง  แถมปัจจุบันยังมีสองพี่น้องแบล็คไวท์เข้าร่วมศึก

    “ไม่ได้เจอกันนาน…ไอ้ระยำกริด”

    “โอกาสแก้แค้นมาถึงแล้ว”

    ผู้เล่นเกรดดวงอาทิตย์ซึ่งเคยเป็นสมาชิกระดับสูงของบลัดคาร์นิวัล  
    พวกมันละทิ้งบลัดคาร์นิวัลเพื่อเข้าร่วมกับอิมมอทัล  ตลอดหลายปีที่ผ่านมา  สองพี่น้องคู่นี้ซุ่มซ่อนในเงามืดอย่างใจเย็นรอวันแก้แค้นกริด
    
    เกิดแรงกดดันมหาศาลกระจายไปทั่วบรรยากาศเมื่อไวท์ระเบิดไขมัน  และแบล็คอัญเชิญร่างลวงตา
    
    พวกมันเปี่ยมด้วยโทสะปริมาณมหาศาลที่ต้องการฉีกกระชากกริด  เฟคเกอร์  รวมถึงลอร์ด  บุตรชายกริด  
    ตลอดหลายเดือนให้หลัง  แบล็คกับไวท์ก้มหน้าเก็บเลเวลและพัฒนาตัวละครอย่างเต็มประสิทธิภาพ

    พวกหล่อนมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า  ปัจจุบัน  ทั้งสองสามารถบดขยี้กริดได้ในพริบตา
    โดยเฉพาะการมีเคียร์และอิมมอทัลคอยสนับสนุน  แผนกำราบกริดจึงง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

    “ตายซะเถอะ!!”

    ถึงเวลาสะสางความแค้นในใจสักที
    
    หลังจากป่นโครงกระดูกโอเวอร์เกียร์จนแหลกเป็นผุยผง  ไวท์และร่างลวงตาแบล็คได้พุ่งเข้าหากริดด้วยความเร็วสูงสุด  เป้าหมายคือกริดที่กำลังเล็งจัดการทหารกลุ่มใหญ่

    ทว่า  การกระทำเช่นนี้มิต่างจากขุดหลุมฝังศพตัวเอง

    “ร่างมืด”

    เมื่อสัมผัสถึงตัวตนไวท์และแบล็ค  กริดตัดสินใจงัดหนึ่งในไม้ตายออกมาใช้โดยไม่ลังเล

    “อักขระความมืด·พลังจอมอสูรอัสทารอธลดระดับ”

    “…!!”

    “เขตแดนพายุสายฟ้าอสูร”

    ท้องฟ้าด้านบนเป็นใจมาตั้งแต่ต้น  สภาพอากาศเหนือเพนันมีเมฆมากตลอดวัน  กริดจึงเลือกวันนี้เป็นวันลงมือโดยไม่ลังเล
    
    เขตแดนจอมอสูรได้สร้างพายุสายฟ้าสี่ถึงสิบเอ็ดเส้นต่อวินาทีในรัศมีรอบตัวสองร้อยเมตร

    สองพี่น้องแบล็คไวท์รวมถึงกองทัพเพนันต่างถูกสายฟ้าที่สร้างความเสียหายคงที่ 10,000 หน่วยฟาดผ่า  
    คนที่ไม่ตายจะตกอยู่ในอาการอัมพาต  มึนงง  เผาไหม้  และอีกมาก

    “อั่ก!  ไอเท็มบัดซบอะไรของมันอีก!!”

    โชคร้ายที่ร่างลวงตาของแบล็คมิอาจรอดพ้นอาการอัมพาตและมึนงง  เธอขบกรามด้วยสีหน้าเจ็บแค้น  พยายามฝืนอดทนความเจ็บปวดเอาไว้

    เหตุใดผู้เล่นถึงใช้เขตแดนได้?
    ไม่มีทางที่พลังสุดโกงเช่นนี้จะเป็นทักษะของผู้เล่น

    ถูกต้อง  กริดมิใช่ผู้เล่นอีกแล้ว  เขาคือสิ่งมีชีวิตระดับบอสใหญ่
    
    ทว่า  ไวท์กลับมั่นใจว่านี่ต้องเป็นผลของไอเท็มหายากชนิดใช้แล้วทิ้ง  กริดยอมลงทุนมหาศาลเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นวิกฤติ

    “ไอ้โอเวอร์เกียร์บัดซบ!”

    ไวท์ฝืนขยับร่างกายท่ามกลางพายุอสูรอันเกรี้ยวกราดที่ส่งผลลดความเร็ว  เธอโยกตัวหลบหลีกสายฟ้าและพุ่งประชิดตัวกริดได้สำเร็จ  จากนั้นก็ซัดกำปั้นใส่ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี
    
    แต่ในสายตากริด  การโจมตีของไวท์กลับเชื่องช้าดุจดั่งเต่าคลาน  สาเหตุเกิดจากผลลดความเร็วและค่าแม่นยำของพายุ  
    ขณะเดียวกัน  กริดซึ่งได้รับผลเพิ่มความเร็วจากทั้งพายุและร่างมืด  เขาหายตัวไปปรากฏด้านหลังไวท์อย่างง่ายดาย

    ชายหนุ่มจ้องมองไวท์ด้วยดวงตาแสนเย็นชา  จากนั้นก็สะบั้นดาบอัสนีฯ ใส่หกครั้งซ้อน
    
    เพียงอึดใจเดียว  ผู้เล่นเกรดดวงอาทิตย์ได้จบชีวิตลงท่ามกลางระเบิดเพลิงทมิฬที่ลุกท่วม

    “พี่!”

    แบล็คเผยสีหน้าแสนสิ้นหวังขณะร่างลวงตาของเธอถูกผลอัมพาตจากสายฟ้าอสูรครอบงำ
    
    ในสายตาฟ้องฟ้าผืนใหม่  นอกจากตัวเขาแล้ว  ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนเท่าเทียมกัน  ไม่เว้นแม้แต่ดวงอาทิตย์

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน

ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,255

ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous