จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 838
รูปลักษณ์และท่าทางคลายคลึงกับสุนัขที่กำลังคลุ้มคลั่ง
‘สกังก์คาเพ็น’ มอนสเตอร์ชั่วร้ายที่มีน้ำลายฟูมปากตลอดเวลา บรรยากาศรอบตัวมันส่งผลให้มนุษย์เกิดความหวาดกลัวจากก้นบึ้งจิตใจ
ขณะกำลังจ้องมองตัวสกังก์วิ่งขึ้นจากตีนเขา รอยแมน หนึ่งในอัศวินแนวหน้าแห่งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ เธอตะโกนขึ้น
“พลธนูวิ่งขึ้นที่สูง! พลหอกและพลโล่ช่วยยื้อเวลาไว้พร้อมกับฉัน!”
“เฮ—!!”
สกังก์คาเพ็นจะปรากฏตัวรอบชายแดนไรนฮาร์ทในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี เลเวลของพวกมันคือ 277 ทั้งพละกำลังและกลิ่นเหม็นถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสำหรับชาวอีเทอนัลมาช้านาน
มันคือตัวที่การสร้างความใหญ่หลวงแก่ชาวเมืองอีเทอนัลเสมอ ผู้คนมากมายต้องล้มตาย ป้ายหลุมศพขายดีเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถึงกับมีคำกล่าวที่ว่า ‘อย่าคิดหาก้อนหินจากอีเทอนัลในฤดูใบไม้ผลิ’
แต่ปัจจุบัน ไรนฮาร์ทกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ มิใช่อีเทอนัลเดิมที่แสนอ่อนแอ
อัศวินหลวงพุ่งประจัญบานใส่สกังก์คาเพ็นอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เนื่องจากถูกฝึกฝนด้วยการทำฟาร์มร่วมกับปิอาโร่มานานหลายปี
“ย่าห์!!”
รอยแมนเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วกว่าสกังก์ที่กำลังปืนป่ายก้อนหิน ต้นไม้ และวัตถุอื่นโดยรอบ มันกำลังรีบวิ่งผ่านเนินเขา
รอยแมนใช้ปลายแหลมของโล่สามเหลี่ยมปักกดลงไปในดินด้วยพละกำลังมหาศาล
ทันทีที่ตัวสกังก์วิ่งเข้ามาในระยะ พื้นดินบริเวณดังกล่าวได้พังลงประหนึ่งถูกขุดลึกหลุมดักไว้ล่วงหน้า
“…!”
มีคำกล่าวไว้ว่า สัตว์ป่าจะมีสัญชาตญาณสำหรับหยั่งรู้อันตรายเสมอ
แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้
ฝูงสกังก์กลุ่มใหญ่ที่พยายามกระโจนผ่านเนินเขาต้องชะงักฝีเท้าเท้าเนื่องจากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
เกิดดินถล่มจากเนินเขาไหลลงด้านล่างอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฝนธนูห่าใหญ่ที่โปรยจากท้องฟ้าอย่างแม่นยำ
รอยแมนและทหารแนวหน้าคอยยื้อเวลาไว้ขณะพลธนูระดมยิ่งจากที่สูง
“เยี่ยม!”
ลูกธนูยัฟฟ่าได้เสียบทะลุร่างสกังก์จนพรุนเป็นเม่น พวกมันเริ่มล้มตายไปทีละตัวสองตัว
เสาแสงสีเทากลุ่มใหญ่สว่างท่วมทุ่งเนินเขา ส่วนทางด้านรอยแมนและทหารก็มีแสงงสีขาวห่อหุ้มร่างกายในเวลาเดียวกัน
พวกเขากำลังเลเวลอัพ
***
“รายงานจากกลุ่มซูเอ! ฝูงสกังก์ทางหมู่บ้านบูเร็นถูกจำกัดอย่างราบคาบ!”
“รายงานจากกลุ่มบลันด์! ฝูงสกังก์ทางทุ่งฟอร์ติน่าถูกจำกัดอย่างราบคาบ!”
“รายงานจากกลุ่มรอยแมนมาถึงแล้ว!”
“ดีล่ะ ฝั่งตอนใต้ก็เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน”
ภายในค่ายทหารชั่วคราวด้านนอกไรนฮาร์ท ลอเอลแสยะยิ้มอย่างพึ่งพอใจขณะจ้องมองแผนที่ใหญ่ซึ่งกางวางบนโตะ เขายังจำเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วได้ดี เป็นความทรงจำอันขมขื่นหลังจากก่อตั้งอาณาจักรโอเวอร์เกียร์ได้ไม่นาน
หมู่บ้านที่ตั้งรอบไรนฮาร์มจำนวนมากได้ถูกทำลายด้วยฝีมือฝูงสกังก์ ประชาชนนับพันนับหมื่นต้องล้มตาย บางส่วนไร้ที่อยู่และต้องกลายเป็นผู้อพยพ
โดยทางทฤษฏีแล้ว ไม่มีโอกาสที่อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะปราบฝูงสกังก์กลุ่มใหญ่ได้ด้วยทรัพยากร ณ ขณะนั้น หากฝืนรับมือกับสกังก์โดยปราศจากขุนพลที่แข็งแกร่งอย่างเรกัสหรือป็อน ความเสียหายอาจร้ายแรงเกินกว่าที่คาด
หนึ่งปีผ่านไป อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ทรงพลังขึ้นจากเดิมหลายเท่า
กลุ่มคนพรสวรรค์ที่กริดนำมาจากทวีปตะวันออก กลุ่มคนที่ถูกปิอาโร่ฝึกฝนอย่างหนัก และกองทหารที่ถูกอัสโมเฟลเคี่ยวเข็ญ ไม่มีกองทัพในอาณาจักรใดจะพัฒนาได้รวดเร็วเท่ากองทัพโอเวอร์เกียร์อีกแล้ว
หลังจากขับไล่สกังก์น่ากลัวได้ภายในสองวัน ลอเอลก็มั่นใจว่า ขุมพลังกองทัพอาณาจักรโอเวอร์เกียร์แข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่านับร้อยเท่า
‘เป็นผลสำเร็จจากการสละดวงวิญญาณของเรา’
ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า เขารู้สึกภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองอุทิศให้อาณาจักร แม้ต้องแลกมากับอาการผมร่วงก็ตาม
‘แต่ว่า…’
แค่นี้ยังไม่ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ อาณาจักรโอเวอร์เกียร์ยังไม่ใช่ที่สุด แถมจักรวรรดิซาฮารันก็มิใช่ภัยคุกคามเพียวหนึ่งเดียว เพราะยังมีอาณาจักรวัลฮัลล่าที่ประสิทธิภาพทางทหารสูงไม่แพ้กัน พวกเขาอาจดีกว่าในระยะยาวด้วยซ้ำ
และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด…
‘แอ็กนัส’
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน ข้อความโลกได้ประกาศการกำเนิดใหม่ของตำนาน
ศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ยามนี้ได้รับพลังแห่งตำนานไปครอง ไม่แปลกที่ลอเอลจะแสดงสีหน้ากังวล
เขาคือผู้แบกรับหน้าที่นำพาอาณาจักรให้รุ่งโรจน์ไว้บนบ่า
‘มีหลายสิ่งผิดจากที่คาดไปมาก’
เดาไม่ได้ยากเลยว่า คลาสของแอ็กนัส ‘ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล’ ได้พัฒนาไปเป็นเกรดเลเจนดารีเรียบร้อยแล้ว
และที่แย่ไปกว่านั้น คลาสลับชนิดเติบโตจะไม่ถูกรีเซ็ตเลเวลเมื่อกลายเป็นตำนาน
ลอเอลคิดไม่ถึงว่าแอ็กนัสจะเลื่อนระดับคลาสได้รวดเร็วขนาดนี้ คลาสชนิดเติบโตทั่วไปจะพัฒนาระดับได้ยากมาก มีตัวอย่างให้เห็นไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือออร่ามาสเตอร์ฮูเร็น
แต่สาเหตุหนึ่งที่ลอเอลมองว่าแอ็กนัสไม่ควรพัฒนาคลาสได้เร็ว มาจากรูปแบบการเล่นเกมที่ผิดแผกของแอ็กนัส
ว่ากันว่า ชายคนนี้ลิ้มรสความตายมากที่สุดในบรรดาแรงเกอร์ระดับสูงทั้งหมด แอ็กนัสคือหมาบ้าที่ไม่สนใจว่าตัวละครจะตายหรือไม่ ขอแค่มันได้รับความสนุกตื่นเต้นก็เพียงพอ
ความตายในซาทิสฟายคือโทษร้ายแรง สิ่งนี้เป็นปัจจัยให้เลเวลของแอ็กนัสไม่สามารถเป็นที่หนึ่งของโลกได้แม้จะมีคลาสสุดโกง
ลอเอลจึงคำนวณว่า คงใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีกว่าแอ็กนัสจะเลื่อนระดับเป็นตำนานได้
‘แต่กลับตรงกันข้าม…’
ลอเอลเริ่มตระหนักแล้วว่า ความตายบ่อยครั้งของแอ็กนัสมีนัยยะสำคัญซ่อนอยู่
‘หมอนั่นเลือกท้าทายบททดสอบยากที่มีโอกาสสำเร็จต่ำเสมอ’
รูปแบบการเล่นเกมอันโด่งดังของแอ็กนัส ‘ยิ่งเสี่ยงมากก็ยิ่งกำไรมาก’
ดูเหมือนสิ่งนี้จะเกิดการจากคำนวณและวางแผนอย่างรอบคอบ มากกว่าถูกขับเคลื่อนด้วยความคุ้มคลั่งเพียงสิ่งเดียว
คงต้องพูดว่า น่าทึ่งมากที่แอ็กนัสรักษาอันดับเจ็ดของโลกไว้ได้นาน แม้ว่าจะตายจำนวนครั้งมากขนาดนี้
‘หมอนั่นมีแผนที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ไม่สนใจอันดับเลเวล ยอมเสี่ยงท้าทายภารกิจยากเพื่อให้คลาสพัฒนาได้เร็วที่สุด…’
นี่คือความเป็นไปได้เดียวที่ลอเอลคิดออก
เขาย่อมทราบดี ไม่เหมือนกับที่คนทั้งโลกเข้าใจ แอ็กนัสมิใช่คนเสียสติโดยสมบูรณ์
บางที ชายคนนี้อาจเป็นภัยร้ายแรงกว่าที่ลอเอลคิดไว้
ขณะลอเอลกลืนนำลายด้วยสีหน้าหวั่นวิตก
กริด >> ลอเอล รีบหาคนขับรถบัสไปช่วยรูบี้และเซ็กซี่สคูลเกิร์ลเก็บเลเวล
ข้อความส่วนตัวถูกส่งมาจากกริด
กริด >> พวกเธอจำเป็นต้องแข็งแกร่งเพื่อรับมือแอ็กนัส แล้วก็ เพิ่มการลงทุนกับโบสถ์รีเบคก้าขึ้นอีกสามเท่า ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ฉันจะชดเชยในส่วนที่ไม่พอด้วยเงินทุนตัวเอง พวกเราจำเป็นต้องมีนักบวชจำนวนมากเพื่อรับมือกองทัพอันเดด และตามความเห็นของฉัน เริ่มมี NPC จบการศึกษาจากโรงเรียนหลวงแล้วใช่ไหม รีบนำคนกลุ่มนั้นมาใช้ในงานบริหาร
ลอเอล >> รับทราบ
ความกังวลใจของลอเอลหายเป็นปลิดทิ้งทันที
แอ็กนัสแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่คิดงั้นหรือ?
ช่างปะไร เจ้านายของตนก็ไม่ได้นิ่งเฉยเหมือนกัน เขาเติบโตและพัฒนาตัวเองได้รวดเร็วกว่าใครทั้งหมด
***
ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านประหนึ่งตึกระฟ้า
ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเอลฟ์ซึ่งบ้านเรือนสร้างจากกิ่งไม้ขนาดใหญ่
“อะไรนะ?”
“จะดีหรือ?”
จิสึกะ เฟคเกอร์ ฮิวรอย ป็อน เรกัส และคริส เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ต่างแสดงสีหน้าฉงนขณะเดินเข้าหมู่บ้านเอลฟ์พร้อมกริด
สาเหตุเพราะกริดสั่งให้พวกเขายุติหน้าที่บริหารบ้านเมือง และมุ่งมั่นพัฒนาตัวละครเป็นสำคัญ
“เป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ ยกตัวอย่างเช่นจิสึกะและคริส พวกเขาปกครองไบรันและเรย์ดันนับตั้งแต่อาณาจักรถูกก่อตั้ง เมืองใหญ่ทั้งสองจะเกิดความระส่ำระสายถ้าพวกเขาไม่ได้บริหารด้วยตัวเอง”
“นั่นสิ แบบนั้นอาณาจักรจะเข้าสู่ความวุ่นวาย”
การเป็นเจ้ามืองคือความฝันของใครหลายคน
ถูกนับหน้าถือตาจากชาวเมือง เก็บรวบรวมภาษีปริมาณมหาศาลและกลายเป็นบุคคลที่มั่งคั่ง ทว่า ตำแหน่งใหญ่โตย่อมมาพร้อมกับภาระหน้าที่
จิสึกะและคริสต้องเหนื่อยกว่าผู้เล่นคนอื่นหลายเท่า
สมมตให้ทั้งสองเล่นซาทิสฟายวันละ 14 ชั่วโมง เวลาอย่างน้อยหนึ่งส่วนสี่จะถูกเจียดไปบริหารเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้
กับเจ้าเมืองคนอื่นก็เช่นกัน
เจ้าเมืองทุกคนภายในอาณาจักร มีหน้าที่ต้องบริหารเมืองให้เกิดกำไรและประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งนี้ถูกระบุไว้ชัดเจนในเงื่อนไขเข้ารับตำแหน่ง
อาณาจักรโอเวอร์เกียร์จะเข้าสู่ความโกลาหลทันทีหากจิสึกะ คริส และป็อนหยุดบริหารเมืองพร้อมกัน
ทว่า กริดไม่คิดถอนคำสั่ง
“ไม่เป็นไร เมืองใหญ่ของอาณาจักรพัฒนาขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณน้ำพักน้ำแรงของพวกนาย ต้องขอบคุณที่ยอมสละเวลาส่วนตัวทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แต่ตอนนี้ ถึงเวลาที่พวกเราต้องก้าวไปอีกขั้น”
“จะแก้ปัญหานี้ยังไง?”
“ฉันมี NPC สำหรับบริหารเมืองแทนทุกคนแล้ว”
“อะไรนะ?”
ลอเอลคือผู้เล่นที่ทำงานหนักที่สุดนับตั้งแต่อาณาจักรถูกก่อตั้ง ความช่วยเหลือเพียงหนึ่งเดียวของลอเอลมาจาก NPC เทศมนตรีแร็บบิท สิ่งนี้หมายความว่า การค้นหา NPC ที่มีพรสวรรค์บริหารบ้านเมือง ยากยิ่งกว่าการคว้าดาวลงมาจากท้องฟ้าเสียอีก
“ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา แรบบิทคอยทำหน้าที่ค้นหาบุคคลพรสวรรค์ตลอดเวลา จากนั้นก็ส่งตัวให้สติกส์อบรมในโรงเรียนหลวง”
ทั้งสองช่วยกันพัฒนาบุคลากรด้านบริหาร เฉกเช่นที่ปิอาโร่และอัสโมเฟลพัฒนาบุคลากรด้านการกำลังรบ
“พวกเรามิใช่อาณาจักรที่ขาดแคลนกำลังคนอีกต่อไป งานหนักที่พวกนายต้องแบกรับมายาวนาน ฉันขอปล่อยปลดทุกคนจากพันธนาการนับแต่นี้ไป ขอแสดงความยินดีกับการหลุดพ้น”
ไม่มีใครกังขาในพลังของแอ็กนัส
ก่อนจะเป็นตำนาน มันสามารถรับมือกองทัพวัลฮัลล่าพร้อมกับกริดและขุนพลโอเวอร์เกียร์ได้อย่างสูสี ดังนั้น พลังของแอ็กนัสในปัจจุบัน ไม่มีใครจินตนาการความน่าสะพรึงกลัวได้เลย
ราวกับชายคนนี้ไม่มีขีดจำกัด
กริดจำเป็นต้องพร้อมรบตลอดเวลา
“พวกเราต้องตามเกมให้ทัน อย่างที่ฉันบอกไป ได้เวลาทุกคนเร่งพัฒนาตัวละครแล้ว พวกนายไม่อยากเป็นคลาสระดับสี่รึไง?”
ลิมชอลโฮเคยกล่าวไว้ชัดเจนในงานแถลงข่าวหลายปีก่อน ผู้เล่นคลาสทั่วไปจะยิ่งแข็งแกร่งเมื่อพัฒนาเป็นคลาสระดับสูง
ในช่วงเลเวลสี่ร้อย ระยะห่างระหว่างคลาสลับจะถูกย่นย่อจนแทบไม่เหลือ
กริดเคยตัดพ้อที่คลาสของตนจะยิ่งอ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ปัจจุบัน เขามิได้คิดเช่นนั้นอีกแล้ว
‘ถ้าคนอื่นแข็งแกร่งขึ้น ไม่ได้แปลว่าเราจะเสียเปรียบสักหน่อย’
เพราะเหตุใด?
คำตอบคือ
‘เรามีพวกพ้องมากมายที่เป็นสุดยอดผู้เล่นคลาสธรรมดา’
ยิ่งค่าเฉลี่ยผู้เล่นทั่วโลกแข็งแกร่งขึ้น ความโดดเด่นของเหล่าอัจฉริยะก็จะยิ่งเฉิดฉาย แม้ตัวเขาจะอ่อนแอลง แต่ขุมพลังของอาณาจักรโอเวอร์เกียร์โดยรวมจะยิ่งพัฒนาขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
กริดเชื่อมั่นเช่นนั้น เขาจึงฝากความหวังไว้กับกลุ่มคนเหล่านี้
‘ตัวเราก็ต้องพัฒนาเหมือนกัน’
เมื่อถึงจุดที่คลาสทั่วไปแข็งแกร่งเทียบเท่าตำนาน…
‘เราจะกลายเป็นคลาสเทวะตำนาน’
นี่มิใช่มุกตลกหรือความโอหัง
กริดจะสังหารจอมอสูรตนแล้วตนเล่าและดูดพลังมาเป็นของตัวเอง แถมเขายังมีโอกาสสร้างไอเท็มเกรดมิธขึ้นอีกหลายชิ้น
คลาสเกรดมิธมิใช่สิ่งที่ไกลเกินเอื้อมหากมองในมุมกริด
ชายหนุ่นหันไปกล่าวกับเอลฟ์สาวตัวเล็กน่ารักนามว่าเดเลียลู
‘ขอรบกวนสักเรื่องได้ไหม ฉันต้องการให้พวกพ้องคอยปักหลักล่าสัตว์ดึกดำบรรพ์รอบป่าต้นไม้โลกสักระยะ ไม่ทราบว่าพอจะเป็นไปได้รึเปล่า?’
นอกจากเดเลียลูและเบเนียลู สิบสองผู้พิทักษ์ที่เหลือต่างมุมปากกระตุกทันที
“สัตว์ดึกดำบรรพ์รอบป่าแข็งแกร่งมากเลยนะ!”
“อันตรายเกินไป พวกพ้องของคุณมิได้แข็งแกร่งเท่าคุณสักหน่อย พวกเขาอาจถึงขั้นเสียชีวิต”
“ถูกต้อง จริงอยู่ที่การล่าสัตว์ดึกดำบรรพ์เป็นผลดีต่อพวกเรา แต่มันคงไม่คุ้มหากพวกพ้องของคุณได้รับอันตรายร้ายแรง ได้โปรดทบทวนดูใหม่”
แม้พวกเธอจะชื่นชอบกริดมาก แต่ก็ต้องปฏิเสธคำขอร้องเนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกเขา
“ทุกคนที่นี่แข็งแกร่งมาก ฉันขอรับประกัน”
กริดยังคงยืนกราน
“…”
มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอมิใช่หรือ
พวกเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?
กริดยักไหล่ให้สิบสองผู้พิทักษ์ที่แสดงสีหน้าเคลือบแคลง
“ยังมีอีกหลายสิบคนที่แข็งแกร่งเทียบเท่าคนกลุ่มนี้ ฉันจะระดมมกำลังทั้งหมดออกล่าสัตว์ดึกดำบรรพ์รอบป่า ไม่ต้องห่วง ฉันจะทำลายพวกมันให้หมด เพื่อความสงบสุขของชาวเอลฟ์”
“ด…ได้”
กริดคงไม่โกหกแน่ สิบสองผู้พิทักษ์พยักหน้าเล็กน้อย
ทันใดนั้น สุ้มเสียงแสนอบอุ่นได้ดังกังวาลไปทั่วหมู่บ้าน
>> บุตรีแห่งพงไพรเอ๋ย มนุษย์ผู้นี้ได้รับความรักจากเทพธิดาแห่งแสงเป็นล้นพ้น จงนำทางเขาและพวกพ้องเข้ารับการอวยพรจากภูติธาตุ
เป็นเสียงของต้นไม้โลก
กริดและสมาชิกโอเวอร์เกียร์คือผู้เล่นกลุ่มแรกที่ได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ก่อนใคร
[ ต้นไม้โลกตัดสินใจมอบของขวัญสุดพิเศษให้แก่พวกท่านทุกคน ]
[ ผู้เล่น ‘กริด’ และกลุ่มคนที่ติดตาม ทุกคนสามารถทำพันธสัญญากับภูติธาตุได้ แต่จะถูกจำกัดไว้เพียงภูติธาตุระดับต่ำเท่านั้น ]
[พวกท่านมิอาจเลือกธาตุของภูติได้เอง ภูติธาตุจะเลือกรับใช้บุคคลตามความพึงพอใจเท่านั้น ]
[ รางวัลข้างตนมีผลเฉพาะผู้ติดตามกริดในปัจจุบัน สมาชิกใหม่ที่เข้าร่วมหลังจากนี้จะไม่ได้รับผลประโยชน์ ]
วิญญาณกริดแทบหลุดออกจากร่าง
จิสึกะที่ยืนอยู่ด้านหลังพลันกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นครือ
“กริด…ฉันรักนายที่สุด!”
“ฉันด้วย…”
“ฉันก็ด้วย”
“…”
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,253
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
นี่มัน...ดวงหรืออะไร
ReplyDeleteนายรู้จักก็อดกริดใหม
ReplyDelete👍
5555 ลาปลอยมาให้พวกพ้องแล้ว สงสารคนที่ไม่ได้มาด้วยคงเสียใจน่าดูที่ไม่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เพื่อนที่มาด้วยนี้อวยก็อดกริดใหญ่เลย 😍😍
ReplyDelete