จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 837
“ฉันจะไม่ลืมความอับยศในวันนี้…ไม่มีวัน!!”
ในเสี้ยววินาทีที่มันกลายเป็นแสงสีเทา ดวงตาเคียร์เปี่ยมด้วยโทสะผสมแรงอาฆาตปริมาณมหาศาล บ่งบอกได้ชัดเจนว่า มันจะตามจองล้างจองผลาญกริดไปตลอดชั่วชีวิตที่เหลืออยู่
กลับกัน ท่าทีของกริดยังคงสุขุม
ตัวเขาเองย่อมรู้ดีว่า การตกเป็นเป้าของความแค้นจากใครสักคนคือเรื่องอันตรายที่ไม่สมควรเกิดขึ้น
ในอดีต กริดเคยเกิดความอาฆาตแค้นรุนแรงกับใครหลายคน เขาเคยคิดนำพาความพินาศไปสู่งบุคคลเหล่านั้นเสมอ ย่อมทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นดี
‘…เราตกเป็นเป้าความแค้นบ้างแล้วสินะ’
ยิ่งมีพลังมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ย่อมมิอาจหลีกเลี่ยง
“ไม่ทำเกินไปหน่อยหรือ?”
“ตรงไหนที่เกินไป??”
กริดไม่คิดว่าตนกระทำผิด ดวงตาของเขาไม่สั่นคลอนในยามหันไปจ้องมองจิสึกะซึ่งกำลังแสดงสีหน้ากังวล
“การกระทำของฉันมีจุดใดไม่ถูกต้อง?”
ราชาพ่อค้าเคียร์คือศัตรูตัวฉกาจในอนาคต
อันที่จริง กริดไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องกับมันก่อน แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว เขามีแต่ต้องบดขยี้เคียร์ให้ราบคาบเท่านั้น ความปราณีที่ไม่เข้าท่า จะนำมาสู่หายนะใหญ่หลวงในภายหลัง
มักพบเห็นได้ทั่วไป กับพวกพ้องที่เคยเป็นพันธมิตรกันมาก่อน แต่หักหลังและห้ำหั่นกันเองอย่างเอาเป็นเอาตายในเวลาถัดมา
“ฉันทำไปเพื่อความอยู่รอดของอาณาจักร มิอาจปล่อยให้ขั้วอำนาจอื่นเติบโตขึ้นมาเทียบเคียงได้”
ใช่แล้ว กริดต้องไม่แสดงความอ่อนแอให้ศัตรูเห็น ไม่อย่างนั้นจะเกิดอิมมอทัลที่สองและสามตามมาในอนาคต และคนสำคัญของเขาจะตกอยู่ในอันตราย
‘ราต้องบดขยี้มันให้สิ้นซาก เอาให้ไม่มีพลังเหลือสำหรับแก้แค้น’
กริดสาบานกับตัวเองด้วยสีหน้าเยือกเย็น เสียงกลืนนำลายดังแว่วมาจากกลุ่มขุนพลโอเวอร์เกียร์ที่ยืนรายล้อม
แต่คนหนึ่งที่กำลังสุขสุดขีด
เป็นคริส
เขาดีใจที่ตัวเองเลือกเจ้านายไม่ผิด คริสเคยเป็นหัวหน้ากิลด์ไจแอนท์แห่งเจ็ดกิลด์ใหญ่มาก่อน ชายคนนี้ย่อมเข้าใจในสิ่งที่กริดทำยิ่งกว่าใครทั้งหมด
‘ผู้นำที่ดีต้องไม่ปราณีศัตรู’
ซาทสฟายคือโลกแห่งการเอาตัวรอด ผู้ที่เมตตากับทุกคนไม่มีวันอยู่รอด ได้แต่รอวันที่จะถูกปลาใหญ่เขมือบ
ดังนั้น คริสจึงมองว่าการกระทำของกริดเหมาะสมแล้วทุกประการ
ขณะเดียวกัน กริดเริ่มตรวจสอบรายละเอียดยูนิคอร์น
[ ยูนิคอร์น ]
สัตว์เทพในตำนานของทวีปตะวันออก มีความดุร้ายจนยากจะฝึกให้เชื่อง นิสัยตามธรรมชาติจะชื่นชอบเพศหญิงและเกลียดชังเพศชาย
ชื่อ : ยังไม่ระบุ
เลเวล : 189
ค่าความสัมพันธ์ : -110/100
พลังชีวิต : 40,000/40,000
มานา : 80,000/80,000
พลังป้องกัน : 1,980
* สามารถสวมเกราะม้าได้
อารมณ์ : เสียใจไม่พอใจ
( เจ้านายคนเก่าที่หาแฟนให้เรา ตอนนี้เขาทอดทิ้งเราไปแล้ว ถ้าไม่ต้องการเรา แค่ปล่อยกลับคืนธรรมชาติก็พอ ทำไมต้องนำเราไปมอบให้คนอื่น? แถมเจ้านายใหม่ยังเป็นมนุษย์เพศชาย น่าหงุดหงิดชะมัด )
รายการทักษะ :
- ยูนิคอร์นอวยพร
- เร่งความเร็ว
- กระโดด
- ขับไล่
- เกลียดชังเพศชาย
[ ยูนิคอร์นอวยพร (ติดตัว) ]
เพิ่มความเร็วฟื้นฟูทรัพยากรตามธรรมชาติ 20%
หากผู้ขี่เป็นเพศหญิง จะเพิ่มจากเดิมขึ้นอีก 30%
[ เร่งความเร็ว ]
พุ่งตัวด้วยความเร็ว 60 เมตรต่อวินาที เป็นเวลา 3 วินาที
ระหว่างผลของทักษะนี้ ผู้ขี่และยูนิคอร์นจะได้รับเกราะคุ้มกายที่ต้านทานอาการผิดปรกติทั้งหมด แต่ไม่ต้านทานอาการผิดปรกติทางกายภาพ
หากผู้ขี่เป็นเพศหญิง บัฟจะส่งผลนาน 5 วินาที
ระยะหน่วงหลังใช้ : 2 นาที
มานาที่ใช้ : 4,900
[ กระโดด ]
ยูนิคอร์นสามารถกระโดดได้ไกล 10 เมตร
หลบหลีกอุปสรรคกีดขวางทั้งหมดขณะกระโดด
ระยะหน่วง : 5 นาที
มานาที่ใช้ : 7,800
[ ขับไล่ ]
ยูนิคอร์นทำการโจมตีเป้าหมายด้วยเขากึ่งกลางศีรษะที่ใหญ่และงดงาม
เป้าหมายจะกระเด็ดถอยหลังพร้อมกับได้รับความเสียหายคงที่ 10,000 หน่วย
ระยะหน่วงหลังใช้ : 30 วินาที
มานาที่ใช้ : 1,500
[ เกลียงชังเพศชาย ]
ยูนิคอร์นตัวนี้จะเกลียดชังสิ่งมีชีวิตเพศชายทั้งหมด ไม่สนว่าเผ่าพันธุ์ใด ไม่เว้นแม้กระทั่งมนุษย์
หากเจ้านายเป็นเพศชาย ค่าความสัมพันธ์จะลดลง 1 หน่วยในทุกวัน
การเพิ่มความสัมพันธ์ทำได้ไม่ยาก เจ้านายต้องให้ยูนิคอร์นได้ใกล้ชิดสิ่งมีชีวิตเพศหญิงเป็นประจำ
“…”
ความลำเอียงทางเพศนี้มันอะไรกัน? กริดขมวดคิ้วพลางหันไปจ้องมองยูนิคอร์นตัวปัญหา
ด้วยขนที่ขาวฟู คอยาว และเขากึ่งกลางศีรษะที่งดงาม โดยเฉพาะดวงตาสีดำแวววาวแสนบริสุทธิ์ ภาพลักษณ์ของยูนิคอร์นตรงหน้าไม่เข้ากับคำอธิบายในหน้าต่างรายละเอียดเลยสักนิด
‘บั๊กล่ะมั้ง’
ข้อความในหน้าต่างรายละเอียดคงแสดงผลผิดพลาด กริดตัดสินใจเดินเข้าไปลูบหัวยูนิคอร์นอย่างทะนุถนอม
ทันใดนั้น ยูนิคอร์นเจ้าปัญหาได้พ่นลมหายใจฟุดฟิดพร้อมกับขวิดใส่กริดเต็มแรงด้วยเขากลางหน้าผาก
[ ท่านได้รับความเสียหาย 10,000 หน่วย ]
“อึก…!”
เป็นตัวเลขความเสียหายที่กริดไม่คุ้นเคยเลยสักนิด ด้วยพลังป้องกันระดับป้อมปราการที่มี เขาไม่เคยตกอยู่ในสภาพนี้มาก่อน
ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเจ็บแปลบ เขาขยับขาก้าวถอยหลัง จากนั้นก็จ้องมองยูนิคอร์นตรงหน้าอีกครั้ง
ยูนิคอร์นเจ้าเล่ห์รีบเปลี่ยนท่าที มันทำตาทรงจันทร์ครึ่งเสี้ยวพลางเดินเข้าไปออดอ้อนจิสึกะ
จากนั้นก็อาศัยลิ้นที่ใหญ่ยาวเลียหน้าอกและใบหน้าของจิสึกะอย่างอ่อนโยน
เธอย่อมไม่เห็นรายละเอียดยูนิคอร์น จิสึกะกำลังฉีกยิ้มกว้างด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“เด็กคนนี้น่ารักจัง นายโชคดีมากที่ได้ครอบครองสุดยอดสัตว์เลี้ยง”
“…เธอไม่เห็นรึไงว่ามันเพิ่งขวิดฉัน?”
“คงเป็นแค่อาการเครียด จะมีสัตว์เลี้ยงตัวไหนคิดทำร้ายเจ้านายบ้าง?”
อารมณ์ของยูนิคอร์นมีเปลี่ยนแปลงเมื่อได้ซุกไซร้ใบหน้าเข้าไประหว่างซอกอกจิสึกะ
[ อารมณ์ : มีความสุข ]
( ไม่คิดว่าเจ้านายอัปลักษณ์จะมีแฟนสวยขนาดนี้ ค่อยน่ารับใช้หน่อย )
[ ค่าความสัมพันธ์กับยูนิคอร์นเพิ่มขึ้น 10 หน่วย ]
“…”
เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารังเกียจชะมัด
เหตุใดท่าทีถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่ออีกฝ่ายคือเพศหญิง?
‘ทีมพัฒนาต้องป่วยหนักแน่ ในตอนที่พวกเขาสร้างไอ้บัดซบนี่ขึ้นมา’
กริดขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดพร้อมกับตั้งชื่อให้มัน
แน่นอน เขาไม่คิดตั้งชื่อแบบขอไปทีเพียงเพราะไม่ชอบหน้ายูนิคอร์นตัวนี้
กริดเค้นชื่อที่ฟังดูดีที่สุด
“โอเวอร์เกียร์คอร์น”
[ ท่านตั้งชื่อให้ยูนิคอร์น ]
[ ท่านสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างยูนิคอร์น ]
[ ความสัมพันธ์กับสู่ค่าปรกติ ]
[ ความสัมพันธ์ : 0/100 ]
มันจะต้องชอบชื่อใหม่มากแน่ กริดจ้องมองยูนิคอร์นด้วยสายตาเอ็นดู สิ่งมีชีวิตชนิดนี้งดงามหมดจดจนยากจะหาจุดตำหนิได้
ทว่า ในสายตาชาวโอเวอร์เกียร์ สีหน้าของยูนิคอร์นกลับดูเศร้าหมองยิ่งกว่าตอนที่มันเพิ่งสูญเสียเจ้านายไปต่อหน้า
***
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือพวกเรา”
สิบสองผู้พิทักษ์จากสิบสองตระกูลใหญ่ พวกเธอทุกคนต่างก้มศีรษะขอบคุณกริด
นี่คือครั้งแรกที่เอลฟ์ผู้สูงส่งต้องก้มหัวให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์แสนอ่อนแอ
กริดรู้สึกกระอักกระอ่วนมากกว่าภาคภูมิใจ
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน เคยบอกไปแล้วนี่ ทั้งหมดทำไปเพราะตอบแทนบุญคุณของสติกส์”
“เรื่องนั้น…”
เดเลียลู เอลฟ์สาวสวยซึ่งมีใบหน้าอ่อนเยาว์ที่สุดในหมู่ผู้พิทักษ์ เธอเดินเข้ามากุมมือกริดพลางกล่าวด้วยสีหน้าคาดหวัง
“คุณมีความสัมพันธ์อย่างไรกับท่านจอมปราชญ์สติกส์? ตอนนี้เขาสบายดีไหม?”
ราวหนึ่งร้อยปีก่อน จอมปราชญ์สติกส์ซึ่งเป็นที่นับถือของทุกคน หายตัวไปจากหมู่บ้านก่อนเกิดเหตุการณ์สำคัญซึ่งแบ่งผืนป่าต้นไม้โลกออกเป็นสองส่วน
ปัจจุบัน เอลฟ์ชายและหญิงได้แยกเขตแดนอยู่อาศัยอย่างชัดเจนรอบบริเวณต้นไม้โลก เป็นเช่นนี้มานานหลายสิบปีแล้ว
พวกเขาแสร้งไม่รู้จักซึ่งกันและกัน ไม่ทักทายกันแม้จะเดินสวนภายในป่า
สิบสองผู้พิทักษ์มองสิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่
อัตราการเกิดใหม่ของประชากรเผ่าเอลฟ์ลดลงอย่างน่าใจหาย พวกเธอกังวัลถึงการดำรงอยู่ของสายพันธุ์
ทว่า ราชาเอลฟ์ที่เลือกอยู่ร่วมกับเอลฟ์เพศชายได้เมินเฉยต่อความกังวลจากสิบสองผู้พิทักษ์
เขาตัดสินใจหนักแน่นที่จะไม่คืนดีกับเอลฟ์ฝ่ายหญิง—ผู้ที่เคยเหยียดหยันและดูแคลนเอลฟ์ชายในอดีต
แต่หากจอมปราชญ์สติกส์ปรากฏตัวขึ้น เขามือบุคคลผู้เดียวที่สามารถโน้มน้าวให้ราชาเอลฟ์ตาสว่าง และเผ่าพันธุ์เอลฟ์จะได้รวมใจเป็นหนึ่งอีกครั้ง
สิบสองผู้พิทักษ์ล้วนคิดถึงสติกส์มาก
โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น สิ่งนี้ยิ่งทำให้พวกเธอต้องการพบสติกส์มากว่าเดิม เพราะหากสติกส์อยู่ที่นี่ เหล่าเอลฟ์สาวคงไม่มีวันตกเป็นเหยื่อของแผนตื้นเขินจากมนุษย์ชั่วช้า
แต่ปัญหาคือ ไม่มีใครทราบว่าสติกส์อยู่ที่ใด
กริดอธิบาย
“สติกส์คือเพื่อนคนพิเศษ เขาอาศัยอยู่ในอาณาจักรโอเวอร์เกียร์เพื่อคอยช่วยงานฉัน”
“ท่านสติกส์อยู่ในอาณาจักรมนุษย์…”
ใบหน้าสิบสองผู้พิทักษ์พลันกระตุก ท่าทีเช่นนี้สร้างความประหลาดใจให้กริดมาก
“ว่าแต่ ทำไมพวกเธอถึงทำเหมือนไม่ได้พบกับสติกส์นานแล้ว? เขาเพิ่งกลับมาที่ป่าแห่งนี้ไม่ใช่รึไง?”
สติกส์ใช้เวทมนตร์เคลื่อนย้ายมิติกลับมายังต้นไม้โลกเพื่อปรุงยาถอนพิษให้ข่าน
แต่เหล่าเอลฟ์สาวกลับไม่ทราบ พวกเธอกำลังฉงนไม่แพ้กริด
สีหน้าสิบสองผู้พิทักษ์เริ่มตื่นตระหนก
“สติกส์เพิ่งกลับมาที่นี่?”
“ถูกต้อง”
“เรื่องนั้น…”
สิบสองผู้พิทักษ์หันไปซุบซิบหลังจากได้ยินคำยืนยันจากปากกริด
“หรือท่านสติกส์จะกลับมาที่หมู่บ้านของราชา?”
“คงเป็นไปได้มากที่สุด”
“ไอ้ราชาชั่วนั่นต้องปั้นเรื่องหลอกเขาแน่! สติกส์ไม่มีทางได้รับรู้สถานการณ์ที่แท้จริงของป่าแห่งนี้!”
นี่คือข้อสรุปเดียวที่พวกเธอคิดออก
จากนั้น สิบสองผู้พิทักษ์ทุกคนหันมามองกริดด้วยสีหน้าขึงขัง
“ถ้าได้พบเขาอีก ช่วยบอกให้ท่านสติกส์กลับมายังหมู่บ้านเอลฟ์อีกรอบได้ไหม? แต่กำชับให้มาหาสิบสองผู้พิทักษ์ มิใช่ราชา”
“หืม? ได้สิ ไม่มีปัญหา”
มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นในหมู่ชาวเอลฟ์งั้นหรือ เหตุใดพวกเธอถึงเรียกราชาของตัวเองว่า ‘ไอ้ราชาชั่ว’ กันนะ
กริดมิได้ไต่ถามให้มากความ เขาไม่อยากรู้สักเท่าไร ลางสังหรณ์บ่งบอกว่า หากยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว ตนจะพัวพันกับเรื่องวุ่นวายจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด
แต่กริดยังมีอีกหนึ่งเหตุผลให้ต้องอยู่ในป่าต้นไม้โลกต่อ คำเชื้อเชิญจากต้นไม้โลกคือสิ่งที่มิอาจมองข้ามได้
‘ต้องการตอบแทนเราในฐานะที่ช่วยเอลฟ์สินะ’
ถ้าอย่างนั้น สิ่งตอบแทนต้องเป็นของขวัญมูลค่ามหาศาลแน่ กริดเดินตามหลังกลุ่มเอลฟ์สาวสวยด้วยสีหน้าคาดหวังเต็มเปี่ยม
ระหว่างทาง ชายหนุ่มมิได้สังเกตุเห็นดวงตาที่เปี่ยมด้วยความโกรธแค้นจากเบเนียลูผู้เงียบงันเลยสักนิด เธอแตกต่างจากสิบสองผู้พิทักษ์คนอื่นโดยสิ้นเชิง
จนกระทั่ง ข้อความระบบที่ทำให้หัวใจทุกคนแทบหยุดเต้นได้แสดงต่อหน้ากริด
[ ผู้นำกองทัพความตายได้ถือกำเนิดใหม่ในฐานะตำนาน ]
[ โลกจะถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำ ]
เป็นข้อความระบบแสดงถึงการเกิดใหม่ของตำนาน แต่คราวนี้ให้บรรยากาศแตกต่างจากปรกติเล็กน้อย เพราะเมื่อนำคำว่า ‘กำเนิดใหม่’ และ ‘ผู้นำกองทัพความตาย’ มารวมกัน มีเพียงชื่อเดียวที่ผุดขึ้นในหัวทุกคน
เหล่าขุนพลโอเวอร์เกียร์ต่างชะงักฝีเท้าด้วยใบหน้าขาวซีด
“แอ็กนัส…”
***
『 นักแกะสลัก ‘โพลิช’ ผู้ที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลกในงานเปิดตัวแสดงผลงานศิลป์ เขาสารภาพว่า ได้พัฒนาฝีมือตัวเองอย่างต่อเนื่องภายในโลกซาทิสฟาย ดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาก็กำลังใช้วิธีแบบเดียวกัน และยังมีองค์กรอีกมากที่เกิดโปรเจกต์บ่มเพาะบุคลากรพรสวรรค์ผ่านเกมซาทิสฟาย ทาง SA กรุ๊ปจึง… 』
ปราสาทเก่าโทรมหลังใหญ่ที่ถูกปิดตายและเงียบงันมาเป็นเวลานาน
มีเพียงเสียงจากโทรทัศน์ที่ดังกังวาลอย่างไร้ผู้ฟังท่ามกลางความมืดมิด
จนกระทั่ง แคปซูลกลางห้องได้แง้มประตูเปิดออก
ชายหนุ่มรูปร่างซูบผอม ผิวขาวซีด ลุกขึ้นจากแคปซูล จากนั้นก็คว้าชุดคลุมสวมปิดบังร่างกายที่เปลือยเปล่าไว้
มันคือแอ็กนัส
ชายคนนี้ยืนลูบคลำภาพวาดขนาดใหญ่ที่แขวนกึ่งกลางผนังห้องเป็นเวลานาน
หญิงสาวในภาพมีใบหน้างดงามและอบอุ่น เธอกำลังฉีกยิ้มอย่างมีความสุข ไม่ปรากฏความขื่นขมเหมือนกับในวินาทีที่เธอเลือกจบชีวิตตัวเองอย่างน่าเศร้า
“อีกไม่นาน พวกเราจะได้พบกันแล้ว”
ในที่สุดแอ็กนัสก็เลื่อนระดับคลาส ‘ผู้ทำพันธสัญญากับบาเอล’ จากเกรดอีปิกสู่เกรดเลเจนดารีสำเร็จ เป็นผลจากการทำงานอย่างหนักตลอดสามปีเต็ม
มันได้ครอบครองทักษะ ‘สร้าง’ ที่ถวิลหามาแสนนาน ทักษะซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับตำนานทุกคน
“แคโรไลน์ ฉันจะสร้างเธอขึ้นมาอีกครั้ง”
แอ็กนัสไม่สนว่ามันต้องสูญเสียสิ่งใดไปบ้าง มันไม่สนว่าโลกซาทิสฟายเป็นเพียงโลกเสมือนที่มิใช่ความจริง มันแค่ต้องการสร้างคนรักขึ้นมาใหม่ คนรักที่ต้องจบชีวิตลงเพราะความไร้ฝีมือของตัวมันเอง
มันไม่สนอีกแล้วว่าโลกใบใดเป็นของจริง
แอ็กนัสใช้แก้มแนบกับภาพวาดด้วยสีหน้ามีความสุข จากนั้นก็หลับไปในสภาพดังกล่าว
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,252
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สงสารประวัติแอ็ดนัส ขอให้สร้างเมียแล้วกลับตัวไม่เป็นวายร้าย
ReplyDeleteคือแบบปูมาเยอะมาก ถ้าไม่กลับมาเปนคนดี ก็เปนลาสบอสอ่ะ แอบน่าลำคัญหน่อยๆตอนนี้ มัน2 จิต2 ใจ
Deleteน่าสงสารจริงๆ
ReplyDeleteกลับสู่ทางสว่างให้ได้นะ