จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 831
เฉกเช่นชื่อของมัน
‘ไนท์’ คือผู้เล่นที่ต้องการเป็นคลาสอัศวิน
นับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว มันได้ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเพื่อให้ถูกบรรจุในกองอัศวิน
ทว่า ความฝันดังกล่าวกลับไม่ถูกเติมเต็ม
ไนท์กลายเป็นตัวตนต้องสาป
ทุกกองอัศวินที่มันสังกัด จะต้องเผชิญกับศัตรูไม่คาดฝันและถูกทำลายอยู่ร่ำไป
มันเร่ร่อนหลายอาณาจักร แต่ทุกที่ล้วนมีชะตากรรมแบบเดียวกันรออยู่
พวกพ้องอัศวินของไนท์ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควรเสมอ
จนกระทั่ง
[ ท่านได้รับพลัง ‘เทพแห่งความตาย’ ]
[ วิญญาณที่ยังมีชีวิตล้วนเป็นศัตรูของท่าน ]
[ ปราณความตายรอบตัวท่านปรารถนาจะลิ้มรสดวงวิญญาณของเป้าหมาย ]
ไนท์ได้รับคลาสลับชนิดเติบโตนามว่า ‘เทพแห่งความตาย’
เมื่อเทียบกับคลาส ‘อัศวิน’ ที่มันต้องการเป็น เทพแห่งความตายแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งกว่าไม่รู้กี่เท่า
แต่ถึงกระนั้น ไนท์มิได้ยินดีเลยสักนิด
ราวกับเทพแห่งความตายตัวจริงบนสวรรค์กำลังหัวเราะเยาะมันอย่างขบขัน
“สิบสองนาทีเชียว…สมกับเป็นอัศวินอันดับหนึ่ง นี่คือครั้งแรกที่ได้ต่อสู้กับจิตวิญญาณกล้าแกร่งขนาดนี้”
“…”
“เธอจะต้องตายหากไม่รีบฆ่าฉันภายในสิบสองนาที”
ไนท์กล่าวเตือนเมอร์เซเดสพลางยิ้มด้วยสีหน้าขื่นชม
หลอดวิญญาณของเธอกำลังลดระดับลงทุกขณะ
ม่านโปร่งแสงสีดำปิดล้อมบริเวณรอบไนท์และเมอร์เซเดสให้กลายเป็นเวทีดวลหนึ่งต่อหนึ่ง บรรยากาศโดยรอบช่างหม่นหมองสอดคล้องกับตัวตนเทพแห่งความตายเสียเหลือเกิน
***
‘พวกนี้ปวกเปียกกว่าอิมมอทัลอีกแฮะ’
สมาชิกอิมมอทัลเกือบทั้งหมดจะไม่ตายในดาบเดียวจากกริด อย่างน้อยต้องสองถึงสามครั้ง
และอย่าลืมว่า กลุ่มคนเหล่านั้นเป็นผู้เล่นคลาสหมอผีที่ร่างกายแสนอ่อนแอ
หมายความว่า สมาชิกอิมมอทัลล้วนมีเลเวลและค่าสถานะที่สูง ประกอบด้วยไอเท็มส่วนใส่คุณภาพดี
สมกับเป็นกลุ่มแรงเกอร์หัวแถวของคลาสใดคลาสหนึ่ง
กลับกัน เมื่อเทียบกับพวกมดปลวกจากบริษัทการค้าเคียร์…
“อ๊ากก!”
“แค่ก!”
หนึ่งดาบหนึ่งศพ
ลูกน้องของเคียร์กลายเป็นแสงสีเทาเมื่อถูกกริดฟันธรรมดาเพียงครั้งเดียว
อ่อนแอที่สุดในบรรดาสมาชิกระดับล่างจากกิลโอเวอร์เกียร์ วัลฮัลล่า และอิมมอทัล
‘น่าขัน’
เหตุใดผู้เล่นถึงต้องเก็บเลเวลอย่างเอาเป็นเอาตายและอัพเกรดอุปกรณ์สวมใส่?
คำตอบง่ายมาก ทุกคนต้องการเป็นดาวเด่นเหนือผู้อื่น ต้องการเก่งกาจและมีชื่อเสียง กลายเป็นดาราดังที่คนทั่วโลกรู้จัก
เหมือนกับกริดในปัจจุบัน
[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]
…
…
เพียงกริดฟันกวาดเป็นแนวนอนหนึ่งครั้งด้วยดาบอัสนีฯ สมาชิกบริษัทการค้าเคียร์ได้เสียชีวิตสามคนพร้อมกันในพริบตา
แถมยังมีสมาชิกอีกกลุ่มที่ถูกจู่โจมจากหัตถ์เทวะฝั่งซ้ายขวาจนมิอาจเข้าใกล้กริด
‘ฝ่ามือพวกนี้มีประโยชน์มาก’
กริดแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อตนสามารถจัดการศัตรูนับร้อยตามลำพัง
แต่ถึงอย่างนั้น…
“ตอนนี้แหละ!”
“ไอ้ระยำ!”
กริดมิได้ติดประมาท การฟาดฟันแต่ละครั้งเฉียบคมและไม่เปิดช่องว่าง
ชายหนุ่มยังปัดป้องคล่องแคล่วโดยไม่ปล่อยให้การโจมตีใดเล็ดลอดปะทะร่างกาย
เหตุใดต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปกับการโจมตีแสนกระจอก?
คำตอบคือ เขาต้องการซ่อนไพ่ตายไว้
ชายหนุ่มยังไม่ต้องการเผยประสิทธิภาพของเกราะพิษ ‘+1 วัลฮัลล่า’ ในตอนนี้
‘ฝ่ายพวกมันต้องมีแรงเกอร์แน่’
แรงเกอร์ระดับท็อปคงกำลังรอฉกฉวยโอกาสจากที่ใดสักแห่ง
พวกมันกำลังรอให้กริดบาดเจ็บหรืออ่อนแรง ไม้เด็ดของชุดเกราะวัลฮัลล่าจึงเหมาะสำหรับรับมือเหตุการณ์ดังกล่าว
“อ๊ากกก!”
ปราณต่อสู้เพิ่มจำนวนขึ้นทุกขณะ
ปราณต่อสู้สีม่วงเข้มส่งเสริมให้ชายหนุ่มทรงพลังยิ่งขึ้นเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป
การโจมตีธรรมดาสามารถดับลมหายใจมดปลวกได้ง่ายดาย
แม้ฝูงมดปลวกจะร่วมมือกันรุมโจมตีเป็นค่ายกล แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไร้ความหมาย
“อึ๋ย!”
“อะ…!”
สายตาเย็นยะเยียบของกริดทำให้สมาชิกกลุ่มเคียร์เริ่มแข้งขาสั่น
ชายหนุ่มตระหนักได้ถึงความต่างชั้นของผู้เล่นธรรมดาและผู้เล่นระดับท็อป
‘ไม่ใช่แค่พลังของไอเท็ม…’
กริดเก่งกาจยิ่งกว่าที่พวกมันคาดคิด
วิดีโอภาพเหตุการณ์กริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์ร่วมมือล่าจอมอสูรบีเลียล สมาชิกกลุ่มเคียร์ย่อมเคยดูซ้ำหลายหน
แต่กริดไม่เคยแสดงพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อนสักครั้ง
แถมเลเวลยังต่างกันเกินกว่าหนึ่งร้อยระดับ…
พวกมันเคยคิดว่า ส่วนต่างของเลเวลและไอเท็ม สามารถชดเชยได้ด้วยฝีมือควบคุมและจำนวนคนที่เหนือกว่า
แต่สถานการณ์ปัจจุบันกำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผลกับกริดแม้แต่น้อย
สำหรับพลังแห่งไอเท็มของกริด พวกมันเคยคิดว่า การได้เคียร์ผู้มั่งคั่งคอยสนับสนุนไอเท็มเกรดยูนีคชั้นดีก็เพียงพอแล้ว
แต่ดูเหมือนพลังไอเท็มของกริดจะเหนือจินตนาการชนิดที่พวกมันเทียบไม่ติด
เช่นนั้นแล้ว ความได้เปรียบด้านจำนวนที่มากกว่าล่ะ?
กริดตามลำพังมิอาจรับมือกลุ่มผู้เล่นหลายร้อยได้แน่
นั่นคือสิ่งที่พวกมันเคยคิด
แต่ดูเหมือนความจริงจะมิใช่แบบนั้น
ต่อให้มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวแล้วอย่างไร มีผู้เล่นเพียงสิบกว่าคนที่รุมโจมตีกริดได้พร้อมกัน นอกเหนือจากนั้นเป็นได้เพียงส่วนเกินที่ต้องรอให้แนวหน้าล้มตาย
พื้นที่ให้โจมตีมีน้อยเกินไป
‘ไม่สำเร็จแน่’
‘ใครจะปราบปีศาจแบบนี้ไหว?’
ในสายตาพวกมัน ครอเกลกลายเป็นบุคคลที่น่ายกย่องไปทันทีเมื่อชายคนนั้นสามารถรับมือสัตว์ประหลาดกริดได้นานหลายอึดใจ
“พวกแกไม่เข้ามารึไง?”
กริดเอ่ยปากขณะพุ่งตัวประชิดพวกมัน
สมาชิกกลุ่มเคียร์พลันสะดุ้งด้วยใบหน้าขาวซีด
“เหม่อแบบนี้จะดีหรือ? ฉันควรทารุณพวกแกดีไหม? เหมือนกับที่เคยทำกับเอลฟ์ยังไงล่ะ”
“น…นั่น”
เหลือสมาชิกกลุ่มเคียร์เพียงไม่ที่คนที่กล้ายืนเผชิญหน้ากับกริดโดยตรง
ขวัญกำลังใจกองทัพเริ่มหดหาย
เมื่อมีหนึ่งคนก้าวถอยหลัง คนที่เหลือต่างรีบถอยพร้อมกัน
กริดย่างกรายหนึ่งก้าว พวกมันจะถอยหลังไปสาม
และเมื่อกริดก้าวอีกครั้ง พวกมันเริ่มเหยียบเท้ากันเองและล้มระเนระนาด
ความภาคภูมิใจที่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มเคียร์ไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว
ขณะกลุ่มเคียร์กำลังเผชิญความสิ้นหวัง
เสียงหนึ่งแว่วขึ้น
“ใช้เอลฟ์เป็นกำบัง!”
เป็นเสียงของราชาพ่อค้า ‘เคียร์’
“สลับใช้อาวุธระยะไกล! สายเวทกระหน่ำยิงเวทมนตร์ ไม่ต้องกลัวเปลืองโพชั่น ฉันมีให้พวกแกไม่อั้น! อย่าปล่อยให้กริดพักหายใจเด็ดขาด! พวกแกจะปลอดภัยถ้าใช้เอลฟ์เป็นโล่!”
ปลอดภัย—คำนี้ได้ปลุกขวัญกองทัพกลับมาอีกครั้ง
สมาชิกกลุ่มเคียร์รีบถอยไปหลบหลังเอลฟ์พร้อมกับสลับเป็นอาวุธระยะไกล
ธนูและมีดสั้นถูกยิงขว้างใส่กริดเป็นอย่างต่อเนื่องประหนึ่งห่าฝน
จอมเวทที่มีบทบาทมากขึ้นเริ่มกระหน่ำโจมตีด้วยเวทมนตร์ชุดใหญ่
แรงเกอร์หัวกะทิทั้ง 32 คนของกลุ่มเคียร์ รวมถึงอาริซ่าและบิวเทียน พวกมันได้เวลาเคลื่อนไหว
“ฝนศิลา”
บิวเทียนเสกก้อนหินจำนวนมากโปรยใส่กริด ขณะเดียวกัน อาริซ่าลอบประชิดตัวกริดพร้อมกับรุกหนักด้วยซิมิท่า
“เห…ไม่คิดว่าจะปัดทันนะเนี่ย ฝีมือควบคุมดีขึ้นกว่าตอนงานแข่งรึเปล่า?”
อาริซ่าฉีกยิ้มพลางออกปากชมกริด
“แต่แกคงสู้ลำบากหน่อยนะ”
พลิ้วไหว—บัฟพิเศษของกริดที่ต้องใช้มีดสั้นเป็นสื่อกลาง
กริดเคยใช้บัฟชนิดนี้ออกทีวีนับครั้งไม่ถ้วน อาริซ่าและพวกพ้องจึงวิเคราะห์อย่างละเอียดทุกซอกมุม
เธอจึงทราบว่า ระยะเวลาแสดงผลของพลิ้วไหวใกล้หมดลงเต็มที
และเป็นไปตามคาด
ขณะกริดหลบเวทมนตร์จากบิวเทียนไปพลาง เขาก็ต้องหลบดาบจากอาริซ่าในเวลาเดียวกัน
ชายหนุ่มโยกตัวหลบการโจมตีดาบที่สองและสามของเธอสำเร็จ
แต่ไม่พ้นในดาบที่สี่
ซิมิท่าที่ว่องไวและเฉียบคมฟันใส่แผ่นอกของกริดเข้าอย่างจัง
ขวัญกำลังใจกองทัพพลันฮึกเหิมทันทีเมื่ออาริซ่าฝากรอยแผลไว้บนตัวสัตว์ประหลาดนามว่ากริดสำเร็จ
“มาได้จังหวะพอดี”
กริดแสยะยิ้มพลางกล่าวถ้อยคำปริศนา
“…?”
อาริซ่าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพึมพำ
[ ท่านติดพิษ! ]
[ พิษรุนแรงจนมิอาจต้านทาน ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,300 หน่วยต่อวินาที ]
‘อะไรกัน?’
หมอกพิษมาจากไหน?
อาริซ่าที่ติดพิษเริ่มแสดงสีหน้าตื่นตระหนก
ลูกน้องของเธอซึ่งตามมาไม่ห่าง เริ่มเปิดฉากรุมโจมตีใส่กริดทุกทิศทาง
ดาบหอกจำนวนมากทิ่มแทงใส่ร่างกายชายหนุ่มที่สวมเกราะวัลฮัลล่า
ทุกครั้งที่เกิดบาดแผล หมอกหนาทึบสีเขียวเข้มจะถูกปลดปล่อยโดยมีกริดเป็นศูนย์กลาง
“แค่ก!”
ด้วยสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ส่งผลให้แรงเกอร์แนวหน้าจำนวนมากได้รับพิษร้ายแรงอย่างฉับพลัน
พลังชีวิตลดระดับรวดเร็วจนน่าใจหาย
“ไม่โกงไปหน่อยรึไง? ทำงานด้วยกลไกลอะไรกันแน่?”
อีกฝ่ายทั้งถึกทนและปล่อยหมอกพิษรอบตัวได้ในเวลาเดียวกัน? ความโกงขนาดนี้ได้รับอนุญาตให้มีในซาทิสฟายได้อย่างไร?
อาริซ่ายังคงขมวดคิ้ว เธอรีบถอยหลังเพื่อหาโอกาสดื่มยาถอนพิษ
ทว่า นั่นเป็นการกระทำที่โง่เขลา
พฤติกรรมยืนดื่มโพชั่นต่อหน้าศัตรูไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายเลยสักนิด
กริดเปล่งเสียงแผ่วเบา
“เธอคงไม่เคยสู้กับศัตรูที่เก่งกว่าสินะ”
ชายหนุ่มกล่าวถ้อยคำเย้ยหยันพร้อมกับใช้ดาบทิ่มทะลวงทรวงอก
นี่คือวินาทีที่แรงเกอร์แถวหน้าของโลกเลเวล 352 สูญเสียพลังชีวิตมากถึงหนึ่งในห้าส่วน จากการโจมตีธรรมดาเพียงหนึ่งครั้ง
[ ท่านได้รับความเสียหาย 14,900 หน่วย ]
[ ความคงทนของ ‘เกราะออร์แกน’ ลดลง 20 หน่วย ]
“เอ๋?”
การโจมตีธรรมดาแรงถึงเพียงนี้เชียว?
ใบหน้าอาริซ่าเริ่มดำมืด เธอไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะบาดเจ็บรุนแรงทั้งที่สวมชุดเกราะเกรดเลเจนดารีอยู่กับตัว
อาริซ่าถอดใจ
เธอนึกว่าตัวเองคงตายแน่แล้ว
เปลวเพลิงสีดำที่คร่าชีวิตทาร์ม่าในพริบตา เธอหลับตาลงและอ้าแขนรอรับมัน
ทว่า เปลวเพลิงกลับไม่ระเบิดออก
ตรงกันข้าม กริดรีบดึงดาบกลับและกระโดดถอยหลังหลบเวทแผ่นดินไหวที่ยิงมาจากบิวเทียน
แรงเกอร์คนอื่นย่อมไม่นิ่งเฉย
ขณะกริดโจมตีอาริซ่า พวกมันได้บัฟตัวเองหลายชนิด จนมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้นราว 200%
ไม่ว่ากริดจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ผู้เล่นแรงเกอร์คลาสสามจำนวนมากถึง 32 คนคือศัตรูที่รับมือไม่ง่าย
กริดจำใจต้องใช้ทักษะเป็นครั้งแรก
“วิชาดาบแพ็กม่า”
ใช่แล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้จนถึงปัจจุบัน กริดไม่เคยใช้ทักษะโจมตีด้วยดาบเลยสักครั้ง
“คลื่น”
“หลบเร็ว!”
ร่ายรำ สังหาร คลื่น ทำลายล้าง และอีกมาก—แรงเกอร์ทุกคนบนโลกย่อมเคยเห็นวิชาดาบแพ็กม่าของกริด
แน่นอน กลุ่มผู้เล่นที่มีฝีมือจะศึกษาจุดอ่อนและวิธีการรับมือเป็นอย่างดี
พวกมันรักษะระยะห่างให้ออกจากวงของรัศมีดาบคลื่น
“ตรงนี้!”
ท่ามกลางเอลฟ์สาวกลุ่มใหญ่ บิวเทียนตะโกนขึ้นพร้อมกับหลบหลังพวกเธอเหมือนกับหนูที่ซุกซ่อนตัว
อาริซ่าและแรงเกอร์ที่เหลือต่างทำแบบเดียวกัน พวกมันวิ่งไปหาบิวเทียนพร้อมกับใช้อาวุธจี้ลำคอหมู่เอลฟ์หมายขู่ฆ่า
“การทำอะไรคนเดียวย่อมมีขีดจำกัด ไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม”
“ฉันไม่รู้ว่าแกเกี่ยวข้องกับอัศวินลำดับหนึ่งยังไง แต่แกไม่มีทางช่วยเอลฟ์ทั้งหมดได้แน่”
"หยุดก่อน! ฉันจะมอบเอลฟ์บางส่วนให้แก พวกเรามาแบ่งกัน จากนั้นต่างคนต่างแยกย้าย"
สมาชิกกลุ่มเคียร์เริ่มกล่าวถ้อยคำเหลวไหลพร้อมกับแสดงพฤติกรรมสุดโฉด
“ช่างแม่งสิ”
กริดพึมพำราวกับมิแยแสชีวิตชาวเอลฟ์มากนัก
สาเหตุหลักที่กริดไม่ได้ใช้ทักษะโจมตีในตอนต้น เพราะเขามองว่าไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงกับพวกมดปลวก
“แต่ฉันเบื่อแล้ว”
สมาชิกกลุ่มเคียร์ได้กระตุ้นต่อมโทสะกริดโดยการจับเอลฟ์เป็นตัวประกันพร้อมกับแสดงท่าทีเหนือกว่า
การกระทำเช่นนี้ได้ก่อหายนะใหญ่หลวงเกินกว่าที่พวกมันคาดคิด
ปราณต่อสู้สีม่วงเข้มรอบตัวกริดเริ่มไหลมารวมยังปลายดาบอัสนีฯ
พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของราชาวีรบุรุษกำลังสอดประสานกับราชาไร้พ่ายอย่างลงตัว
ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน—สุดยอดทักษะที่สร้างบาดแผลให้แก่มังกรบันเฮเลียร์ต่อหน้าคนทั้งโลก
กริดคิดใช้สิ่งนี้ใส่กลุ่มผู้เล่นที่ชั่วช้า
“นี่แก…!!”
คนของเคียร์แทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นกริดกำลังง้างดาบพินาศทัพหนึ่งแสน
อาริซ่ารีบโพล่งขึ้นอย่างลนลาน
“เสียสติไปแล้วรึไง? แกกำลังจะฆ่าเอลฟ์ทั้งหมดที่นี่!!”
“แล้วมันยังไง?”
แม้ริมฝีปากกริดกำลังแสยะยิ้ม ทว่า สายตาที่เปี่ยมด้วยจิตสังหารกลับตรงข้าม
“พวกแกอาจไม่รู้…แต่เอลฟ์ไม่ตายด้วยของแค่นี้หรอกนะ”
ชายหนุ่มเริ่มง้างดาบในมือไปด้านหลัง
ปราณต่อสู้สีม่วงจำนวนมหาศาลกำลังปะทุอย่างร้อนแรงจนเกิดไอเดือด
“ดาบพินาศทัพ—“
กริดมองว่าบิวเทียนแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้เล่นกลุ่มเคียร์ มันจึงเป็นตกศูนย์กลางของดาบพินาศทัพหนึ่งแสน
สายตากริดเพ่งเล็งบิวเทียนไม่กระพริบ
“ด…เดี๋ยวก่อน! แกไม่คิดจะใช้พลังนั่นช่วยอัศวินลำดับหนึ่งรึไง?”
เคียร์โพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงลนลาน
“ถึงจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่อัศวินลำดับหนึ่งกำลังรับใช้อยู่แกใช่ไหม? เธอกำลังจะตายด้วยฝีมือเทพแห่งความตาย!”
กริดชะงักทักษะไว้ จากนั้นก็เค้นเสียงถามด้วยสีหน้าเยือกเย็น
“เทพแห่งความตาย?”
กริดใช้หางตาชำเลืองมองไปทางเมอร์เซเดส
เส้นผมสีขาวสว่างของเธอดูหม่นหมองลงเล็กน้อยเนื่องจากเวทีการดวลถูกม่านสีดำปกคลุมไว้รอบด้าน
ภาพเงาลางของโครงกระดูกถือเคียวกำลังปรากฏเหนือศีรษะเมอร์เซเดส
“ผู้เล่นคนนั้นมีทักษะป้องกันตัวที่เก่งกาจ แถมยังมีความสามารถพิเศษซึ่งสังหารทุกชีวิตอย่างไร้เงื่อนไข ฉันมั่นใจว่า NPC พิเศษแพ้ทางผู้เล่นแบบนี้…“
เคียร์หันไปมองเมอร์เซเดสด้วยสีหน้าพึ่งพอใจพร้อมกับอธิบายสรรพคุณของไนท์
แต่ยังไม่ทันจะกล่าวจบ เมอร์เซเดสเริ่มสยายปีกเงินด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปราณอัศวินสีเงินปริมาณมหาศาลไหลเวียนรอบดาบเสือขาวอย่างงดงาม
เธอตวัดดาบเพียงหนึ่งครั้ง
ม่านแห่งความตายสีดำที่เคยล้อมคอกเวทีการดวล พลันแหลกละเอียดประหนึ่งเศษกระจกแตกร่วงกราว
แสงสีเทาสว่างขึ้นฟ้าพร้อมกับโลหิตที่เปื้อนเปรอะไปทั่วผืนป่า
[ สมาชิกปาร์ตี้ ‘ไนท์’ เสียชีวิต ]
“…ได้ยังไง?”
เคียร์ทราบถึงความแข็งแกร่งของอัศวินลำดับหนึ่งเป็นอย่างดี
แต่มันก็ไม่คิดว่า จะไร้เทียมทานชนิดที่แรงเกอร์แถวหน้าต้องสิ้นลมในพริบตา
มันมิได้คาดหวังให้ไนท์ชนะ การข่มขู่กริดเป็นเพียงการบลัฟ แต่มันก็หวังให้ไนท์ยื้อเวลาไว้นานกว่านี้
กลับกลายเป็นว่า นักรบรับจ้างราคาแพงแทบจะถ่วงเวลาเมอร์เซเดสไม่ได้เลย
เคียร์ทำได้เพียงอ้าปากค้าง
ขณะเดียวกัน พื้นที่ในจุดที่มันยืนก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
สิ่งนี้คือลางบอกหายนะซึ่งมันไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต
“—หนึ่งแสน”
สามสิบครั้งต่อวินาที
รัศมีดาบสุดทรงพลังพรั่งพรูจากกริดด้วยความเร็วที่ตาเปล่ามองตามไม่ทัน
ศูนย์กลางคือบิวเทียน แต่พลังทำลายได้กินวงกว้างครอบคลุมกลุ่มผู้เล่นที่มุดหัวหลบหลังเอลฟ์ทั้งหมด
ผืนป่าเอลฟ์ที่เคยสงบสุข บัดนี้ถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงฉานจนน่าสะอิดสะเอียน
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,248
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/
สู้ตอนเดียว ตายหมดละ
ReplyDeleteขอบคุณมากครับ😁👍
555นี้ค่อยสมกับเป็นกริดหน่อย พวกเลวๆ ต้องเจอคนนิสัยอย่ากริดถึงจะสาสม 😊
ReplyDeleteสิบสองนาที คืออะไร แค่ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ตายซะล่ะ
ReplyDeleteครั้งแรกที่กริดเจอเมอร์เซเดส กริดยังต้องคุกเข่าให้
Delete