จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 831



    เฉกเช่นชื่อของมัน  
    ‘ไนท์’ คือผู้เล่นที่ต้องการเป็นคลาสอัศวิน
    นับตั้งแต่ซาทิสฟายเปิดตัว  มันได้ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเพื่อให้ถูกบรรจุในกองอัศวิน

    ทว่า  ความฝันดังกล่าวกลับไม่ถูกเติมเต็ม
    
    ไนท์กลายเป็นตัวตนต้องสาป
    ทุกกองอัศวินที่มันสังกัด  จะต้องเผชิญกับศัตรูไม่คาดฝันและถูกทำลายอยู่ร่ำไป    
    มันเร่ร่อนหลายอาณาจักร  แต่ทุกที่ล้วนมีชะตากรรมแบบเดียวกันรออยู่
    พวกพ้องอัศวินของไนท์ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควรเสมอ

    จนกระทั่ง

[ ท่านได้รับพลัง ‘เทพแห่งความตาย’ ]
[ วิญญาณที่ยังมีชีวิตล้วนเป็นศัตรูของท่าน ]
[ ปราณความตายรอบตัวท่านปรารถนาจะลิ้มรสดวงวิญญาณของเป้าหมาย ]

    ไนท์ได้รับคลาสลับชนิดเติบโตนามว่า ‘เทพแห่งความตาย’
    เมื่อเทียบกับคลาส ‘อัศวิน’ ที่มันต้องการเป็น  เทพแห่งความตายแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งกว่าไม่รู้กี่เท่า
    
    แต่ถึงกระนั้น  ไนท์มิได้ยินดีเลยสักนิด
    ราวกับเทพแห่งความตายตัวจริงบนสวรรค์กำลังหัวเราะเยาะมันอย่างขบขัน

    “สิบสองนาทีเชียว…สมกับเป็นอัศวินอันดับหนึ่ง  นี่คือครั้งแรกที่ได้ต่อสู้กับจิตวิญญาณกล้าแกร่งขนาดนี้”

    “…”

    “เธอจะต้องตายหากไม่รีบฆ่าฉันภายในสิบสองนาที”

    ไนท์กล่าวเตือนเมอร์เซเดสพลางยิ้มด้วยสีหน้าขื่นชม   
    หลอดวิญญาณของเธอกำลังลดระดับลงทุกขณะ
    ม่านโปร่งแสงสีดำปิดล้อมบริเวณรอบไนท์และเมอร์เซเดสให้กลายเป็นเวทีดวลหนึ่งต่อหนึ่ง  บรรยากาศโดยรอบช่างหม่นหมองสอดคล้องกับตัวตนเทพแห่งความตายเสียเหลือเกิน

    ***

    ‘พวกนี้ปวกเปียกกว่าอิมมอทัลอีกแฮะ’

    สมาชิกอิมมอทัลเกือบทั้งหมดจะไม่ตายในดาบเดียวจากกริด  อย่างน้อยต้องสองถึงสามครั้ง
    และอย่าลืมว่า  กลุ่มคนเหล่านั้นเป็นผู้เล่นคลาสหมอผีที่ร่างกายแสนอ่อนแอ    

    หมายความว่า  สมาชิกอิมมอทัลล้วนมีเลเวลและค่าสถานะที่สูง  ประกอบด้วยไอเท็มส่วนใส่คุณภาพดี
    สมกับเป็นกลุ่มแรงเกอร์หัวแถวของคลาสใดคลาสหนึ่ง

    กลับกัน  เมื่อเทียบกับพวกมดปลวกจากบริษัทการค้าเคียร์… 

    “อ๊ากก!”

    “แค่ก!”

    หนึ่งดาบหนึ่งศพ
    ลูกน้องของเคียร์กลายเป็นแสงสีเทาเมื่อถูกกริดฟันธรรมดาเพียงครั้งเดียว
    อ่อนแอที่สุดในบรรดาสมาชิกระดับล่างจากกิลโอเวอร์เกียร์  วัลฮัลล่า  และอิมมอทัล

    ‘น่าขัน’

    เหตุใดผู้เล่นถึงต้องเก็บเลเวลอย่างเอาเป็นเอาตายและอัพเกรดอุปกรณ์สวมใส่?
    คำตอบง่ายมาก  ทุกคนต้องการเป็นดาวเด่นเหนือผู้อื่น  ต้องการเก่งกาจและมีชื่อเสียง  กลายเป็นดาราดังที่คนทั่วโลกรู้จัก

    เหมือนกับกริดในปัจจุบัน

[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]
[ เป้าหมายเสียชีวิต! ]



    เพียงกริดฟันกวาดเป็นแนวนอนหนึ่งครั้งด้วยดาบอัสนีฯ  สมาชิกบริษัทการค้าเคียร์ได้เสียชีวิตสามคนพร้อมกันในพริบตา
    แถมยังมีสมาชิกอีกกลุ่มที่ถูกจู่โจมจากหัตถ์เทวะฝั่งซ้ายขวาจนมิอาจเข้าใกล้กริด

    ‘ฝ่ามือพวกนี้มีประโยชน์มาก’

    กริดแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อตนสามารถจัดการศัตรูนับร้อยตามลำพัง
    แต่ถึงอย่างนั้น…

    “ตอนนี้แหละ!”
     
    “ไอ้ระยำ!”

    กริดมิได้ติดประมาท  การฟาดฟันแต่ละครั้งเฉียบคมและไม่เปิดช่องว่าง  
    ชายหนุ่มยังปัดป้องคล่องแคล่วโดยไม่ปล่อยให้การโจมตีใดเล็ดลอดปะทะร่างกาย
    
    เหตุใดต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปกับการโจมตีแสนกระจอก?
    คำตอบคือ  เขาต้องการซ่อนไพ่ตายไว้
    ชายหนุ่มยังไม่ต้องการเผยประสิทธิภาพของเกราะพิษ ‘+1 วัลฮัลล่า’ ในตอนนี้

    ‘ฝ่ายพวกมันต้องมีแรงเกอร์แน่’

    แรงเกอร์ระดับท็อปคงกำลังรอฉกฉวยโอกาสจากที่ใดสักแห่ง
    พวกมันกำลังรอให้กริดบาดเจ็บหรืออ่อนแรง  ไม้เด็ดของชุดเกราะวัลฮัลล่าจึงเหมาะสำหรับรับมือเหตุการณ์ดังกล่าว

    “อ๊ากกก!”

    ปราณต่อสู้เพิ่มจำนวนขึ้นทุกขณะ
    ปราณต่อสู้สีม่วงเข้มส่งเสริมให้ชายหนุ่มทรงพลังยิ่งขึ้นเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป    
    
    การโจมตีธรรมดาสามารถดับลมหายใจมดปลวกได้ง่ายดาย
    แม้ฝูงมดปลวกจะร่วมมือกันรุมโจมตีเป็นค่ายกล  แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไร้ความหมาย

    “อึ๋ย!”

    “อะ…!”

    สายตาเย็นยะเยียบของกริดทำให้สมาชิกกลุ่มเคียร์เริ่มแข้งขาสั่น
    ชายหนุ่มตระหนักได้ถึงความต่างชั้นของผู้เล่นธรรมดาและผู้เล่นระดับท็อป

    ‘ไม่ใช่แค่พลังของไอเท็ม…’

    กริดเก่งกาจยิ่งกว่าที่พวกมันคาดคิด
    
    วิดีโอภาพเหตุการณ์กริดและกิลด์โอเวอร์เกียร์ร่วมมือล่าจอมอสูรบีเลียล  สมาชิกกลุ่มเคียร์ย่อมเคยดูซ้ำหลายหน  
    แต่กริดไม่เคยแสดงพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อนสักครั้ง

    แถมเลเวลยังต่างกันเกินกว่าหนึ่งร้อยระดับ… 
    
    พวกมันเคยคิดว่า  ส่วนต่างของเลเวลและไอเท็ม  สามารถชดเชยได้ด้วยฝีมือควบคุมและจำนวนคนที่เหนือกว่า    
    แต่สถานการณ์ปัจจุบันกำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า  สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผลกับกริดแม้แต่น้อย

    สำหรับพลังแห่งไอเท็มของกริด  พวกมันเคยคิดว่า  การได้เคียร์ผู้มั่งคั่งคอยสนับสนุนไอเท็มเกรดยูนีคชั้นดีก็เพียงพอแล้ว
    แต่ดูเหมือนพลังไอเท็มของกริดจะเหนือจินตนาการชนิดที่พวกมันเทียบไม่ติด

    เช่นนั้นแล้ว  ความได้เปรียบด้านจำนวนที่มากกว่าล่ะ?
    กริดตามลำพังมิอาจรับมือกลุ่มผู้เล่นหลายร้อยได้แน่
    นั่นคือสิ่งที่พวกมันเคยคิด

    แต่ดูเหมือนความจริงจะมิใช่แบบนั้น
    ต่อให้มีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวแล้วอย่างไร  มีผู้เล่นเพียงสิบกว่าคนที่รุมโจมตีกริดได้พร้อมกัน  นอกเหนือจากนั้นเป็นได้เพียงส่วนเกินที่ต้องรอให้แนวหน้าล้มตาย

    พื้นที่ให้โจมตีมีน้อยเกินไป

    ‘ไม่สำเร็จแน่’

    ‘ใครจะปราบปีศาจแบบนี้ไหว?’

    ในสายตาพวกมัน  ครอเกลกลายเป็นบุคคลที่น่ายกย่องไปทันทีเมื่อชายคนนั้นสามารถรับมือสัตว์ประหลาดกริดได้นานหลายอึดใจ

    “พวกแกไม่เข้ามารึไง?”

    กริดเอ่ยปากขณะพุ่งตัวประชิดพวกมัน
    สมาชิกกลุ่มเคียร์พลันสะดุ้งด้วยใบหน้าขาวซีด

    “เหม่อแบบนี้จะดีหรือ?  ฉันควรทารุณพวกแกดีไหม?   เหมือนกับที่เคยทำกับเอลฟ์ยังไงล่ะ”

    “น…นั่น”

    เหลือสมาชิกกลุ่มเคียร์เพียงไม่ที่คนที่กล้ายืนเผชิญหน้ากับกริดโดยตรง
    ขวัญกำลังใจกองทัพเริ่มหดหาย 
    เมื่อมีหนึ่งคนก้าวถอยหลัง  คนที่เหลือต่างรีบถอยพร้อมกัน    
    
    กริดย่างกรายหนึ่งก้าว  พวกมันจะถอยหลังไปสาม
    และเมื่อกริดก้าวอีกครั้ง  พวกมันเริ่มเหยียบเท้ากันเองและล้มระเนระนาด

    ความภาคภูมิใจที่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มเคียร์ไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว

    ขณะกลุ่มเคียร์กำลังเผชิญความสิ้นหวัง  
    เสียงหนึ่งแว่วขึ้น

    “ใช้เอลฟ์เป็นกำบัง!”

    เป็นเสียงของราชาพ่อค้า ‘เคียร์’

    “สลับใช้อาวุธระยะไกล!  สายเวทกระหน่ำยิงเวทมนตร์  ไม่ต้องกลัวเปลืองโพชั่น  ฉันมีให้พวกแกไม่อั้น!  อย่าปล่อยให้กริดพักหายใจเด็ดขาด!  พวกแกจะปลอดภัยถ้าใช้เอลฟ์เป็นโล่!”

    ปลอดภัย—คำนี้ได้ปลุกขวัญกองทัพกลับมาอีกครั้ง
    สมาชิกกลุ่มเคียร์รีบถอยไปหลบหลังเอลฟ์พร้อมกับสลับเป็นอาวุธระยะไกล

    ธนูและมีดสั้นถูกยิงขว้างใส่กริดเป็นอย่างต่อเนื่องประหนึ่งห่าฝน
    จอมเวทที่มีบทบาทมากขึ้นเริ่มกระหน่ำโจมตีด้วยเวทมนตร์ชุดใหญ่
    แรงเกอร์หัวกะทิทั้ง 32 คนของกลุ่มเคียร์  รวมถึงอาริซ่าและบิวเทียน  พวกมันได้เวลาเคลื่อนไหว

    “ฝนศิลา”

    บิวเทียนเสกก้อนหินจำนวนมากโปรยใส่กริด  ขณะเดียวกัน  อาริซ่าลอบประชิดตัวกริดพร้อมกับรุกหนักด้วยซิมิท่า

    “เห…ไม่คิดว่าจะปัดทันนะเนี่ย  ฝีมือควบคุมดีขึ้นกว่าตอนงานแข่งรึเปล่า?”

    อาริซ่าฉีกยิ้มพลางออกปากชมกริด

    “แต่แกคงสู้ลำบากหน่อยนะ”

    พลิ้วไหว—บัฟพิเศษของกริดที่ต้องใช้มีดสั้นเป็นสื่อกลาง
    กริดเคยใช้บัฟชนิดนี้ออกทีวีนับครั้งไม่ถ้วน  อาริซ่าและพวกพ้องจึงวิเคราะห์อย่างละเอียดทุกซอกมุม  
    เธอจึงทราบว่า  ระยะเวลาแสดงผลของพลิ้วไหวใกล้หมดลงเต็มที

    และเป็นไปตามคาด  
    ขณะกริดหลบเวทมนตร์จากบิวเทียนไปพลาง  เขาก็ต้องหลบดาบจากอาริซ่าในเวลาเดียวกัน
    ชายหนุ่มโยกตัวหลบการโจมตีดาบที่สองและสามของเธอสำเร็จ  

    แต่ไม่พ้นในดาบที่สี่
        
    ซิมิท่าที่ว่องไวและเฉียบคมฟันใส่แผ่นอกของกริดเข้าอย่างจัง
    ขวัญกำลังใจกองทัพพลันฮึกเหิมทันทีเมื่ออาริซ่าฝากรอยแผลไว้บนตัวสัตว์ประหลาดนามว่ากริดสำเร็จ

    “มาได้จังหวะพอดี”

    กริดแสยะยิ้มพลางกล่าวถ้อยคำปริศนา

    “…?”

    อาริซ่าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพึมพำ

[ ท่านติดพิษ! ]
[ พิษรุนแรงจนมิอาจต้านทาน ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 4,300 หน่วยต่อวินาที ]

    ‘อะไรกัน?’

    หมอกพิษมาจากไหน?
    อาริซ่าที่ติดพิษเริ่มแสดงสีหน้าตื่นตระหนก
    ลูกน้องของเธอซึ่งตามมาไม่ห่าง  เริ่มเปิดฉากรุมโจมตีใส่กริดทุกทิศทาง
    
    ดาบหอกจำนวนมากทิ่มแทงใส่ร่างกายชายหนุ่มที่สวมเกราะวัลฮัลล่า
    ทุกครั้งที่เกิดบาดแผล  หมอกหนาทึบสีเขียวเข้มจะถูกปลดปล่อยโดยมีกริดเป็นศูนย์กลาง

    “แค่ก!”

    ด้วยสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน  ส่งผลให้แรงเกอร์แนวหน้าจำนวนมากได้รับพิษร้ายแรงอย่างฉับพลัน
    พลังชีวิตลดระดับรวดเร็วจนน่าใจหาย

    “ไม่โกงไปหน่อยรึไง?  ทำงานด้วยกลไกลอะไรกันแน่?”
    
    อีกฝ่ายทั้งถึกทนและปล่อยหมอกพิษรอบตัวได้ในเวลาเดียวกัน?  ความโกงขนาดนี้ได้รับอนุญาตให้มีในซาทิสฟายได้อย่างไร?
    อาริซ่ายังคงขมวดคิ้ว  เธอรีบถอยหลังเพื่อหาโอกาสดื่มยาถอนพิษ

    ทว่า  นั่นเป็นการกระทำที่โง่เขลา
    พฤติกรรมยืนดื่มโพชั่นต่อหน้าศัตรูไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายเลยสักนิด

    กริดเปล่งเสียงแผ่วเบา

    “เธอคงไม่เคยสู้กับศัตรูที่เก่งกว่าสินะ”

    ชายหนุ่มกล่าวถ้อยคำเย้ยหยันพร้อมกับใช้ดาบทิ่มทะลวงทรวงอก
    นี่คือวินาทีที่แรงเกอร์แถวหน้าของโลกเลเวล 352  สูญเสียพลังชีวิตมากถึงหนึ่งในห้าส่วน  จากการโจมตีธรรมดาเพียงหนึ่งครั้ง
    
[ ท่านได้รับความเสียหาย 14,900 หน่วย ]
[ ความคงทนของ ‘เกราะออร์แกน’ ลดลง 20 หน่วย ]

    “เอ๋?”

    การโจมตีธรรมดาแรงถึงเพียงนี้เชียว?
    
    ใบหน้าอาริซ่าเริ่มดำมืด  เธอไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะบาดเจ็บรุนแรงทั้งที่สวมชุดเกราะเกรดเลเจนดารีอยู่กับตัว
    
    อาริซ่าถอดใจ  
    เธอนึกว่าตัวเองคงตายแน่แล้ว  
    เปลวเพลิงสีดำที่คร่าชีวิตทาร์ม่าในพริบตา  เธอหลับตาลงและอ้าแขนรอรับมัน

    ทว่า  เปลวเพลิงกลับไม่ระเบิดออก
    ตรงกันข้าม  กริดรีบดึงดาบกลับและกระโดดถอยหลังหลบเวทแผ่นดินไหวที่ยิงมาจากบิวเทียน  
    
    แรงเกอร์คนอื่นย่อมไม่นิ่งเฉย
    ขณะกริดโจมตีอาริซ่า  พวกมันได้บัฟตัวเองหลายชนิด  จนมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้นราว 200%
    ไม่ว่ากริดจะแข็งแกร่งเพียงใด  แต่ผู้เล่นแรงเกอร์คลาสสามจำนวนมากถึง 32 คนคือศัตรูที่รับมือไม่ง่าย    
    
    กริดจำใจต้องใช้ทักษะเป็นครั้งแรก

    “วิชาดาบแพ็กม่า”

    ใช่แล้ว  ตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้จนถึงปัจจุบัน  กริดไม่เคยใช้ทักษะโจมตีด้วยดาบเลยสักครั้ง
    
    “คลื่น”

    “หลบเร็ว!”

    ร่ายรำ  สังหาร  คลื่น  ทำลายล้าง  และอีกมาก—แรงเกอร์ทุกคนบนโลกย่อมเคยเห็นวิชาดาบแพ็กม่าของกริด
    แน่นอน  กลุ่มผู้เล่นที่มีฝีมือจะศึกษาจุดอ่อนและวิธีการรับมือเป็นอย่างดี
    พวกมันรักษะระยะห่างให้ออกจากวงของรัศมีดาบคลื่น
    
    “ตรงนี้!”

    ท่ามกลางเอลฟ์สาวกลุ่มใหญ่  บิวเทียนตะโกนขึ้นพร้อมกับหลบหลังพวกเธอเหมือนกับหนูที่ซุกซ่อนตัว
    อาริซ่าและแรงเกอร์ที่เหลือต่างทำแบบเดียวกัน  พวกมันวิ่งไปหาบิวเทียนพร้อมกับใช้อาวุธจี้ลำคอหมู่เอลฟ์หมายขู่ฆ่า

    “การทำอะไรคนเดียวย่อมมีขีดจำกัด  ไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม”

    “ฉันไม่รู้ว่าแกเกี่ยวข้องกับอัศวินลำดับหนึ่งยังไง  แต่แกไม่มีทางช่วยเอลฟ์ทั้งหมดได้แน่”

    "หยุดก่อน!  ฉันจะมอบเอลฟ์บางส่วนให้แก  พวกเรามาแบ่งกัน  จากนั้นต่างคนต่างแยกย้าย"

    สมาชิกกลุ่มเคียร์เริ่มกล่าวถ้อยคำเหลวไหลพร้อมกับแสดงพฤติกรรมสุดโฉด
    
    “ช่างแม่งสิ”

    กริดพึมพำราวกับมิแยแสชีวิตชาวเอลฟ์มากนัก
    สาเหตุหลักที่กริดไม่ได้ใช้ทักษะโจมตีในตอนต้น  เพราะเขามองว่าไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงกับพวกมดปลวก

    “แต่ฉันเบื่อแล้ว”

    สมาชิกกลุ่มเคียร์ได้กระตุ้นต่อมโทสะกริดโดยการจับเอลฟ์เป็นตัวประกันพร้อมกับแสดงท่าทีเหนือกว่า

    การกระทำเช่นนี้ได้ก่อหายนะใหญ่หลวงเกินกว่าที่พวกมันคาดคิด

    ปราณต่อสู้สีม่วงเข้มรอบตัวกริดเริ่มไหลมารวมยังปลายดาบอัสนีฯ 
    พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของราชาวีรบุรุษกำลังสอดประสานกับราชาไร้พ่ายอย่างลงตัว

    ดาบพินาศทัพหนึ่งแสน—สุดยอดทักษะที่สร้างบาดแผลให้แก่มังกรบันเฮเลียร์ต่อหน้าคนทั้งโลก
    กริดคิดใช้สิ่งนี้ใส่กลุ่มผู้เล่นที่ชั่วช้า

    “นี่แก…!!”

    คนของเคียร์แทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นกริดกำลังง้างดาบพินาศทัพหนึ่งแสน

    อาริซ่ารีบโพล่งขึ้นอย่างลนลาน

    “เสียสติไปแล้วรึไง?  แกกำลังจะฆ่าเอลฟ์ทั้งหมดที่นี่!!”

    “แล้วมันยังไง?”

    แม้ริมฝีปากกริดกำลังแสยะยิ้ม  ทว่า  สายตาที่เปี่ยมด้วยจิตสังหารกลับตรงข้าม

    “พวกแกอาจไม่รู้…แต่เอลฟ์ไม่ตายด้วยของแค่นี้หรอกนะ”

    ชายหนุ่มเริ่มง้างดาบในมือไปด้านหลัง
    ปราณต่อสู้สีม่วงจำนวนมหาศาลกำลังปะทุอย่างร้อนแรงจนเกิดไอเดือด

    “ดาบพินาศทัพ—“

    กริดมองว่าบิวเทียนแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้เล่นกลุ่มเคียร์  มันจึงเป็นตกศูนย์กลางของดาบพินาศทัพหนึ่งแสน

    สายตากริดเพ่งเล็งบิวเทียนไม่กระพริบ    

    “ด…เดี๋ยวก่อน!  แกไม่คิดจะใช้พลังนั่นช่วยอัศวินลำดับหนึ่งรึไง?”

    เคียร์โพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงลนลาน

    “ถึงจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง  แต่อัศวินลำดับหนึ่งกำลังรับใช้อยู่แกใช่ไหม?  เธอกำลังจะตายด้วยฝีมือเทพแห่งความตาย!”

    กริดชะงักทักษะไว้  จากนั้นก็เค้นเสียงถามด้วยสีหน้าเยือกเย็น

    “เทพแห่งความตาย?”

    กริดใช้หางตาชำเลืองมองไปทางเมอร์เซเดส 
    เส้นผมสีขาวสว่างของเธอดูหม่นหมองลงเล็กน้อยเนื่องจากเวทีการดวลถูกม่านสีดำปกคลุมไว้รอบด้าน
    ภาพเงาลางของโครงกระดูกถือเคียวกำลังปรากฏเหนือศีรษะเมอร์เซเดส

    “ผู้เล่นคนนั้นมีทักษะป้องกันตัวที่เก่งกาจ  แถมยังมีความสามารถพิเศษซึ่งสังหารทุกชีวิตอย่างไร้เงื่อนไข  ฉันมั่นใจว่า NPC พิเศษแพ้ทางผู้เล่นแบบนี้…“

    เคียร์หันไปมองเมอร์เซเดสด้วยสีหน้าพึ่งพอใจพร้อมกับอธิบายสรรพคุณของไนท์  

    แต่ยังไม่ทันจะกล่าวจบ  เมอร์เซเดสเริ่มสยายปีกเงินด้วยสีหน้าเรียบเฉย  ปราณอัศวินสีเงินปริมาณมหาศาลไหลเวียนรอบดาบเสือขาวอย่างงดงาม
    
    เธอตวัดดาบเพียงหนึ่งครั้ง  

    ม่านแห่งความตายสีดำที่เคยล้อมคอกเวทีการดวล  พลันแหลกละเอียดประหนึ่งเศษกระจกแตกร่วงกราว

    แสงสีเทาสว่างขึ้นฟ้าพร้อมกับโลหิตที่เปื้อนเปรอะไปทั่วผืนป่า
    
[ สมาชิกปาร์ตี้ ‘ไนท์’ เสียชีวิต ]

    “…ได้ยังไง?”

    เคียร์ทราบถึงความแข็งแกร่งของอัศวินลำดับหนึ่งเป็นอย่างดี
    แต่มันก็ไม่คิดว่า  จะไร้เทียมทานชนิดที่แรงเกอร์แถวหน้าต้องสิ้นลมในพริบตา

    มันมิได้คาดหวังให้ไนท์ชนะ  การข่มขู่กริดเป็นเพียงการบลัฟ  แต่มันก็หวังให้ไนท์ยื้อเวลาไว้นานกว่านี้

    กลับกลายเป็นว่า  นักรบรับจ้างราคาแพงแทบจะถ่วงเวลาเมอร์เซเดสไม่ได้เลย    
    
    เคียร์ทำได้เพียงอ้าปากค้าง  
    ขณะเดียวกัน  พื้นที่ในจุดที่มันยืนก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
    สิ่งนี้คือลางบอกหายนะซึ่งมันไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต

    “—หนึ่งแสน”

    สามสิบครั้งต่อวินาที
    รัศมีดาบสุดทรงพลังพรั่งพรูจากกริดด้วยความเร็วที่ตาเปล่ามองตามไม่ทัน
    ศูนย์กลางคือบิวเทียน  แต่พลังทำลายได้กินวงกว้างครอบคลุมกลุ่มผู้เล่นที่มุดหัวหลบหลังเอลฟ์ทั้งหมด

    ผืนป่าเอลฟ์ที่เคยสงบสุข  บัดนี้ถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงฉานจนน่าสะอิดสะเอียน

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,248
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

Comments

  1. สู้ตอนเดียว​ ตายหมดละ
    ขอบคุณ​มาก​ครับ​😁👍

    ReplyDelete
  2. 555นี้ค่อยสมกับเป็นกริดหน่อย พวกเลวๆ ต้องเจอคนนิสัยอย่ากริดถึงจะสาสม 😊

    ReplyDelete
  3. สิบสองนาที คืออะไร แค่ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ตายซะล่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ครั้งแรกที่กริดเจอเมอร์เซเดส กริดยังต้องคุกเข่าให้

      Delete

Post a Comment

recent post


♥ All Chapters ♥
ออกทุกเย็น
ช่วงเวลา 18.00 - 24.00