จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ 830

    เที่ยงธรรมไม่เสื่อมคลายคือทักษะโจมตีหมู่ที่รุนแรง 300% ของพลังโจมตีกายภาพ
    ผู้เล่นที่เป็นลูกน้องเคียร์ส่วนใหญ่จะมีเลเวลในช่วง 250   แต่ละคนจึงมิอาจหลบการจู่โจมฉับพลันด้วยกำปั้นจากกริดพ้น

[ ท่านได้รับความเสียหาย 2,900 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 3,150 หน่วย ]

    “อึก!”

    ร…เร็วมาก! 
    เป็นการโจมตีที่มองตามด้วยตาเปล่าไม่ทัน  ทว่า  ความรุนแรงก็ไม่มากเช่นกัน

    ถึงกริดจะเป็นอันดับหนึ่งของโลกในด้าน PVP คนปัจจุบัน  แต่การสังหารผู้เล่นอื่นด้วยกำปั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก  
    แถมลูกน้องเคียร์ส่วนใหญ่กำลังสวมใส่ไอเท็มคุณภาพสูง
    
    ผู้เล่นห้าคนรุมล้อมโจมตีกริดด้วยพลังแห่งไอเท็มที่พวกมันได้รับหลังจากกลายเป็นลูกน้องเคียร์
    แต่ด้วยวิสัยทัสน์ที่คับแคบของบุคคลธรรมดา  ทั้งห้าย่อมไม่ตระหนักรู้ถึงภัยอันตรายที่ลอยมาจากด้านหลัง

[ ท่านได้รับความเสียหาย 11,290 หน่วย ]
[ ท่านได้รับความเสียหาย 9,870 หน่วย ]

    “อะไรกัน?”

    ดาบของใครที่พุ่งแทงใส่แผ่นหลังของพวกมันทีเผลอ?
    กลุ่มผู้เล่นต่างหันไปมองใบดาบที่กำลังหมุนควงประหนึ่งใบพัด  ต้องใช้เวลาสักพักใหญ่กว่ามันจะรู้ตัวว่ามีด้ายสีเงินร้อยเชื่อมติดอยู่กับปลายใบดาบ
    
    ใบดาบสีแดงดำพุ่งกลับไปหาด้ามดาบในมือกริด
    ราวกับมีแดงดึดดูดปริศนา  ใบดาบเสียบเข้าประกอบกับด้ามจับพอดิบพอดี  
    
    ก่อเกิดเป็นดาบอัสนีฯ รุ่นสมบูรณ์
        
    ต้องขอบคุณม้วนเสริมแกร่งดึกดำบรรพ์  กริดจึงเป็นผู้คนเล่นแรกในโลกที่เสริมแกร่งไอเท็มเกรดมิธถึงระดับ +1
    ดาบอัสนีฯ ที่ทรงพลังอยู่แล้ว  บัดนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมถึง 5% 

    5% ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเมื่อตัวคูณมีปริมาณมาก

    หากอาวุธมีพลังโจมตี 100 หน่วย  การเพิ่ม 5% จะหมายถึงพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้น 5 หน่วย
    แต่ถ้าคำนวณด้วยตัวอย่างข้างต้น  5% จะมีค่ากระจ่อยร้อยอย่างน่าใจหาย

    ทว่า  ผู้เล่นระดับสูงกกลับขวนขวายหา 5% เช่นนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย  หลายคนยอมแลกเปลี่ยนกับสิ่งสำคัญ
    เมื่อพัฒนาตัวละครจนสุดโต่งในทุกด้าน  การเพิ่มความเสียหายขึ้นแม้แต่ 1 หน่วยก็นับเป็นเรื่องที่ยากเย็น
    
    ในการดวลบางครั้ง  พลังโจมตีที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยคือจุดตัดสินผลแพ้ชนะ
    ด้วยเหตุนี้  การเพิ่ม 5% จากค่าพลังโจมตี 3,780 หน่วยของดาบอัสนีฯ จึงกลายเป็นตัวเลขมหาศาล

    พลังโจมตีของกริดเพิ่มขึ้น 189 หน่วย
    แค่ +1 ยังเพิ่มเกือบสองร้อย

    นี่คือสาเหตุที่ลิมชอลโฮกังวลถึงสมดุลซาทิสฟาย
    หากกริดเสริมแกร่งมันได้ถึงระดับ +7 ตามที่ลิมชอลโฮคาด  พลังโจมตีของดาบอัสนีฯ ที่สูงอยู่แล้วจะเพิ่มมากถึงเกือบ 1,400 หน่วย 
    
    ทว่า  ความอับโชคอย่างน่าอัศจรรย์ของกริดได้ทำให้สมดุลซาทิสฟายยังคงอยู่
    
    กริดเสียใจกับเรื่องนี้มาก

    ‘ชิ!  ถ้าเราได้ +3 ล่ะก็  พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นอีกตั้ง 567 หน่วย!’

    เหตุใดถึงสุ่มออกมาได้เพียง +1 
    
    ชายหนุ่มสลัดความคิดไร้สาระทิ้งไป  เขาเร่งความเร็วด้วยบัฟพลิ้วไหวพลางพุ่งตัวเข้าดงศัตรูกลุ่มใหญ่โดยไม่รีรอ
    การโจมตีจากอีกฝ่ายล้วนถูกหลบหลีกหรือปัดป้องด้วยหัตถ์เทวะ  จากนั้นก็เป็นการโตกลับด้วยดาบอัสนีฯ ที่ได้รับการเสริมแกร่งมาใหม่

[ ท่านได้รับบาดเจ็บรุนแรง ]
[ ท่านเสียชีวิต ]

[ ท่านได้รับบาดเจ็บรุนแรง ]
[ ท่านเสียชีวิต ]

    “อะไรกัน...?”

    สมาชิกกลุ่มเคียร์เริ่มหน้าถอดสีเมื่อเห็นพวกพ้องถูกสังหารจากหนึ่งดาบที่กริดฟาดฟัน

    ‘ไม่เหมือนกับที่เห็นในวิดีโอเลยสักนิด!’

    ไม่มีผู้เล่นซาทิสฟายคนใดไม่ดูเทปบันทึกภาพงานแข่ง PVP นัดชิงชนะเลิศในปีที่ผ่านมา
    หลายช่องสถานีทั่วโลกนำมาฉายซ้ำใหม่จนเปื่อยยุ่ยเพื่อเรียกเรทติ้งรายการ

    แรงเกอร์สายต่อสู้ต่างพยายามวิเคราะห์หาจุดอ่อนของกริดอย่างสุดความสามารถ    
    บรรดาลูกน้องของเคียร์ก็ไม่ต่างกัน

    พวกมันได้รับเงินสนับสนุนจากเคียร์และหวังจะกลายเป็นแรงเกอร์แนวหน้าในสักวัน
    สำหรับคนกลุ่มนี้  ฉากการดวลในงานแข่งนานาชาติเป็นราวกับจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต  แถมยังเป็นตำราฝึกสอนการต่อสู้ชั้นดี    
    
    นับตั้งแต่การแข่งในปีแรกจนถึงปีที่สาม  วิดีโอการต่อสู้ระหว่างกริดและแรงเกอร์ชั้นนำของโลกถูกฉายวนซ้ำหลายรอบ
    กลุ่มผู้เล่นธรรมดาไม่โดดเด่นจึงแสดงสีหน้ามั่นใจหลังจากศีกษาการเคลื่อนไหวของกริดอย่างทะลุปรุโปร่ง

    ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  กริดไม่ใช่ศัตรูที่น่ากลัวหากไม่อยู่ในร่างมืดหรือร่างสว่าง (ผสานวิญญาณ) 
    แค่คอยระวังทักษะโจมตีฉับพลันด้วยระเบิดเพลิงสีดำไว้ก็พอ

    แต่ความจริงไฉนตรงกันข้าม?

    “แค่ก!”

    ความโอหังเกินตัวได้เผาผลาญขีวิตของพวกมันจนกลายเป็นซากขี้เถ้า
    
    ความว่องไวของกริดที่ทุกคนศึกษาอย่างละเอียดและมั่นใจว่าสามารถรับมือได้  แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ถูกฉายให้ช้าลงกว่าปรกติด้วยเทคนิคการเล่นภาพช้า  
    กริดตัวจริงมีสปีดที่มนุษย์มิอาจมองตามทันด้วยตาเปล่า

    วิถีการโจมตีแสนธรรมดาเมื่อเทียบกับครอเกล  กลับกลายเป็นสิ่งที่รับมือได้ยากถึงแม้จะทราบล่วงหน้า
    
    ขณะดวลกับครอเกล  กริดอาศัยเทคนิคการปัดป้องและรอจังหวะโต้กลับ
    ทว่า  กริดจะใช้วิธีดังกล่าวเฉพาะตอนที่สู้กับศัตรู ‘แข็งแกร่ง’ เท่านั้น

    สำหรับมดปลวก  เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ยุ่งยากขนาดนั้น
    บรรดาลูกน้องเคียร์มิอาจรับมือกับ ‘ฝีมือควบคุมพอใช้’ ของกริดไหว  ทิศทางการโจมตีไม่ใช่ปัญหา  เพียงแต่ไม่มีใครมองตามความเร็วของกริดที่สวมถุงมือว่องไวทัน
    
    และสิ่งที่เหนือกว่าความเร็ว…

    พลังทำลาย 

[ ท่านได้รับบาดเจ็บรุนแรง ]
[ ท่านเสียชีวิต ]

    หนึ่งดาบคร่าชีวิต

    ผู้เล่นระดับมดปลวกกลายเป็นเสาสีเทาทันทีที่ดาบของกริดสัมผัสร่าง

    “เหลวไหลสิ้นดี!”

    เพียงสามสิบวินาทีเท่านั้น
    ทุกคนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น  พวกพ้องของมันหลายสิบคนจบชีวิตลงภายในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาที

    ความหวาดกลัวเริ่มครอบงำบรรยากาศสงคราม
    บางคนเริ่มแข้งขาสั่น  ก้าวขาไม่ออก
    บางคนเริ่มผงะถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

    และสิ่งที่ทำให้บรรยากาศน่ากลัวยิ่งขึ้นคือสายตาของกริด  มันทั้งเรียบเฉยและปราศจากอารมณ์โดยสิ้นเชิง
    
    ราชาพ่อค้า ‘เคียร์’ ชายที่โอหังว่าจะสร้างอาณาจักรถัดจากกริดและอาเรส
    มันเคยเชื่อว่า  บริวารของตนเก่งกาจและพึ่งพาได้เมื่อสวมไอเท็มคุณภาพสูง  
    แต่ความจริงกลับกลายเป็น  คนเหล่านี้คือมดปลวกที่มีไว้ให้กริดบี้เล่นเท่านั้น

    “พวกเราควรทำยังไงต่อ?”

    “สั่งมาได้เลย”
    
    จอมเวท ‘บิวเทียน’ และนักดาบหญิงผู้ใช้ซิมิท่า ‘อาริซ่า’ เดินเข้ามาหาเคียร์พลางเอ่ยปากถาม
    ทั้งสองคนเป็นลูกน้องเก่าแก่ของเคียร์  รวมถึงเป็นคนที่เล่นละครตบตาในวันที่เคียร์พบป่าต้นไม้โลก
    
    พวกมันคือแรงเกอร์ที่แข็งแกร่ง  เลเวลสูงถึง 349 และ 351 ตามลำดับ
    แต่เหนือสิ่งอื่นใด  ทั้งสองสวมใส่ไอเท็มเกรดเลเจนดารีด้วยการสนับสนุนจากเคียร์

    “ขอคิดก่อน”

    มันจะลงมือบุ่มบ่ามไม่ได้เด็ดขาด

    หน่วยของบิวเทียนและอาริซ่ามีกำลังคนร่วมกันราวสามสิบคน
    ถึงแม้ทั้งหมดจะเป็นแรงเกอร์คสาสระดับสาม  แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสยบกริดไหว
    
    ปัจจัยหลักสำคัญคือทักษะ ‘อัญเชิญอัศวิน’ ที่กริดมี

    ‘ถ้าเราอัญเชิญอัศวิน  ชัยชนะก็อาจเกิดขึ้นได้  แต่ว่า…’

    เคียร์มี NPC พิเศษสามคนที่รอตอบรับคำอัญเชิญอยู่ในเมือง
    สามคนดังกล่าวอาจมากพอจะรับมืออัศวินของกริด  
    แต่ปัญหาอยู่ที่ปิอาโร่

    ปิอาโร่คือขุนพลสวรรค์มือขวาคนสำคัญของกริด  
    ไม่มีผู้เล่นคนใดลืมเลือนความทรงพลังของปิอาโร่เมื่อครั้งล่าจอมอสูรบีเลียล
    
    NPC ของเคียร์ยังไม่แข็งแกร่งพอจะรับมือ NPC ระดับตำนานไหว
    
    ‘การอัญเชิญอัศวินคงไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น…’

    แม้เคียร์เพิ่งได้พบกริดในวันนี้  แต่มันกลับประหลาดใจในตัวกริดมาก

    เคียร์ทึ่งในความแข็งแกร่งงั้นหรือ?  
    คำตอบคือไม่
    ทั่วโลกประจักษ์ความแข็งแกร่งของกริดมานานแล้ว
    
    แม้จะมีนิสัยชั่วช้าต่ำทราม  แต่สายตาที่เฉียมแหลมของพ่อค้าอันดับหนึ่งก็มิใช่สิ่งเทียมเลียนแบบ
    เคียร์ทึ่งใน ‘สติปัญญา’ ของกริดที่เหนือกว่าข่าวลือไปมาก

    ‘ชายคนนี้ฉลาดเป็นกรด’

    หากกริดเป็นไอ้งั่ง  เขาคงเลือกสานสัมพันธ์กับเคียร์มากกว่าจะช่วยเผ่าเอลฟ์

    อีกฝ่ายเป็นถึงพ่อค้าอันดับหนึ่งที่มีเงินทุนมั่งคั่ง  หากจับมือกันลงทุนภายในอาณาจักร  ตลาดการค้าของโอเวอร์เกียร์ก็จะยิ่งเติบโตก้าวกระโดด  
    นั่นคือความคิดของเคียร์

    แต่กริดกลับเลือกช่วยเอลฟ์
    หมายความว่า  ชายคนนี้มีแผนใช้เอลฟ์เป็นรากฐานสำคัญของอาณาจักโอเวอร์เกียร์ในอนาคต

    ‘กริดอ่านเกมขาดมาก’

    เขากล้าได้กล้าเสีย  กล้าเสี่ยงช่วยเอลฟ์เพื่อผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
    สมกับเป็นราชาคนแรกของโลก
    
    ความโง่เขลาที่แสดงออกต่อหน้าทีวีคงเป็นเพียงการเสแสร้งเท่านั้น
    เคียร์มั่นใจ

    ‘ไอ้งูพิษ…’

    กริดต้องมีไพ่ตายอย่างอื่นนอกจากอัญเชิญอัศวินแน่  ไม่อย่างนั้นคงไม่บ้าบิ่นตะลุยกองทัพผู้เล่นกว่าสี่ร้อยคนตามลำพัง
    
    อาริซ่าหันไปกล่าวกับเคียร์ที่ยังตัดสินใจไม่ได้

    “หมอนั่นอาจไม่มีแผนรับมือล่วงหน้า  ที่กำลังอาละวาดอาจเกิดจากความโอหังเกินตัวโดยไม่ไตร่ตรองให้ดี”

    “…?” 

    “คงคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลกแล้ว  ชัยชนะเหนือครอเกลทำให้วิสัยทัศน์ของกริดคับแคบลง  ลองคิดดูให้ดี  ต่อให้กริดสามารถอัญเชิญอัศวินได้มากถึงสิบคนพร้อมกัน  แต่ขุนพลโอเวอร์เกียร์จะออนไลน์ตอบรับคำอัญเชิญตลอด 24 ชั่วโมงเชียวหรือ?  ไม่มีทางแน่”

    “…”

    “อัศวินของกริดในตอนนี้อาจมีจำนวนเท่ากับนาย  หรือต่อให้อัญเชิญได้มากกว่านายเล็กน้อย  แต่จำนวนคนฝ่ายเราก็ยังมากกว่าอยู่ดี  การคิดเยอะเกินไปอาจเป็นผลร้ายในบางครั้ง”

    “…” 

    เคียร์ยังคงเงียบขรึมขณะสมองประมวลผลไม่หยุดพัก
    จนกระทั่งบิวเทียนเริ่มร่ายเวทมนต์ตรวจจับ  ผลที่ได้ทำให้มันรีบรายงาน

    “เคียร์…เป็นอย่างที่นายคิด  กริดมีลูกไม้อื่นนอกจากอัญเชิญอัศวินอยู่”

    “สิ่งนั้นคือ?”

    “มีหนูสกปรกหนึ่งตัวซ่อนอยู่เหนือศีรษะพวกเรา”

    “แค่หนึ่ง?  แน่ใจนะ?”

    “แต่ไม่ต้องห่วง  พวกเรากำลัอถือไพ่เหนือกว่ามาก  ลองคิดดูให้ดี  แม้ฝ่ายเราจะมีจำนวนคนสูงกว่า  แต่กริดกลับไม่ได้ใช้ทักษะโจมตีหมู่ที่ทรงพลังแม้แต่ครั้งเดียว"

    เพราะเหตุกัน?

    “คำตอบคือ  กริดกลัวเอลฟ์จะโดนลูกหลงไปด้วย”

    “ต่อให้กริดอัญเชิญอัศวินออกมาก็ไม่เกิดประโยชน์  จิสึกะสามารถโจมตีหมู่ได้รุนแรงก็จริง  แต่พวกเราแค่ใช้เอลฟ์เป็นโล่กำบังก็สิ้นเรื่อง”

    อาริซ่าปรบมือสนับสนุนแนวคิดของบิวเทียน

    “ใช่แล้ว!  เคียร์  ถ้าพวกเราจับเอลฟ์เป็นตัวประกัน  ศึกนี้ก็ไม่มีอะไรยากอีกต่อไป”

    ยิ่งปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไป  ฝ่ายที่เสียเปรียบจะยิ่งเป็นพวกมันเสียเอง
    หากเคียร์ยอมเสี่ยงให้เอลฟ์ที่เป็นสินค้าถูกทำลายไปบ้าง  ชัยชนะของพวกมันก็จะอยู่แค่เอื้อม

    “…ตกลง”

    ในที่สุดเคียร์ก็ตัดสินใจได้

    “ฉันจะบดขยี้กริดด้วยจำนวนคนที่มากกว่า  แสดงให้ราชาโอเวอร์เกียร์ได้เห็นถึงความยิ่งใหญของบริษัทเคียร์กันเถอะ”

    “เจ๋ง!”

    กระแสสงครามจะพลิกกลับถ้าบิวเทียน  อาริซ่า  และกลุ่มหัวกะทิเข้าร่วมตะลุมบอน
    ความฮึกเหิมของฝ่ายเคียร์กำลังเพิ่มขึ้นขณะกริดอาละวาดฆ่าคนเป็นผักปลา

    ไนท์ >>  คุณไม่กลัวเอลฟ์ทั้งหมดถูกฆ่ารึไง?

    เคียร์ได้รับข้อความส่วนตัวจากไนท์—นักรบรับจ้างที่คอยดูเชิงสงครามอยู่ด้านหลัง
    
    เคียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
    มันลงทุนกับแผนจับเอลฟ์ไปมากถึง 40 ล้านเหรียญทอง  หากเอลฟ์ทั้งหมดต้องตายไปอย่างไร้ค่า  จะถือเป็นการขาดทุนครั้งมหาศาล
    
    เคียร์ >>  ไม่เลย  ฉันไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น
    
    ไนท์ >>  ก็ดี  ผมจะไม่ห้ามคุณ  ผมจะต่อสู้อย่างสุดความสามารถตามที่ถูกว่าจ้าง  เพียงแต่… 
    
    ไนท์  ชายผู้สวมชุดคลุมสีดำปกปิดร่างกาย  บัดนี้เริ่มนำเคียวขนาดมหึมาออกมาถือในมือ
    เป็นเคียวใหญ่ที่เข้ากันกับชื่อของคลาสลับ ‘เทพแห่งความตาย’ อย่างมาก

    มันกล่าวเสริม

    ไนท์ >>  ผมจะไม่เสี่ยงชีวิตตัวเอง  นั่นไม่คุ้มกับค่าจ้างแม้แต่นิดเดียว  หากเห็นท่าไม่ดีผมจะรีบหนีทันที

    เคียร์ >>  กริดแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว?    

    เคียร์ทราบถึงทักษะติดตัวสุดพิเศษของไนท์ที่ชื่อว่า ‘การหยั่งรู้จากเทพความตาย’
    นี่คือข้อมูลสำคัญที่เคียร์ได้รับหลังจากว่าจ้างไนท์ด้วยราคาแสนแพง

    ไนท์ตอบกลับ 
    
    “มันแสดงเป็นเครื่องหมายคำถาม”

    “…???”

    เครื่องหมายคำถามอะไร?
    เคียร์ขมวดคิ้วสงสัย

    “หมายความว่า  ผมไม่สามารถประเมินฝีมือชายคนนั้นได้  ยังมีช่องว่างอีกมากให้กริดระเบิดพลังออกมา  ตัวอย่างที่ชัดเจนคือร่างมืด  ระบบของซาทิสฟายจึงมิอาจวัดค่ากริดเป็นตัวเลขได้แม่นยำ  สมกับเป็นบุคคลที่สามารถโค่นครอเกล"

    ไนท์ชำเลืองขึ้นไปด้านบน

    “แต่ในเมื่อพวกคุณคิดสู้  หมายความว่าคงมีวิธีจัดการกริดแล้วใช่ไหม?  ผมคงต้องฝากให้หน้าที่รับมือกริดเป็นของพวกคุณ”

    ไนท์มองว่าปัญหาที่แท้จริงคือจุดอื่น
    บุคคลที่หลบซ่อนอยู่เหนือศีรษะซึ่งทักษะหยั่งรู้บ่งชี้ว่าเป็น ‘ภัยคุกคามสูงสุด’ 

    ไนท์ลงมือโค่นต้นไม้ตรงหน้าด้วยเคียวยักษ์  
    การฟันอย่างไร้ที่ตีเพียงครั้งเดียว  เฉียบขาดมากพอจะโค่นไม้ใหญ่ให้ล้มครืน

    เมื่อต้นไม้ล้มกระแทกพื้น  หญิงสาวผมขาวผู้หนึ่งได้ปรากฏสู่สายตาทุกคน

[ เมอร์เซเดส ]

    ในวินาทีที่ต้นไม้เริ่มเซ  เธอพุ่งโฉบโจมตีใส่ไนท์โดยไม่ให้สุ้มเสียง
    
    ดวงตาของเคียร์พลันเบิกโพลงสุดขีด  
    มันรีบตะโกนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

    “อัศวินลำดับหนึ่ง?!  ทำไมหล่อนถึงอยู่ที่นี่?!!”
    
    “อัศวินลำดับหนึ่ง?”

    ไนท์แสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อย  แต่มันก็ยังไม่ถอย  อย่างน้อยก็ขอทำงานให้คุ้มค่าจ้างสักหน่อย

    พลังของเทพแห่งความตายที่ส่งผลต่อทุกเป้าหมายซึ่ง ‘ยังมีชีวิต’ พลันระเบิดออกเป็นวงกว้าง    
    พุ่มไม้ใหญ่และต้นไม้โดยรอบเริ่มเหี่ยวเฉา   ด้านล่างหลอดพลังชีวิตของเมอร์เซเดสผุด ‘หลอดวิญญาณ’ ขึ้นโดยกำลังนับถอยหลัง

    “ถ้าไม่ต้องการให้วิญญาณถูกกลืนกิน  เห็นทีเธอต้องเร่งมือหน่อยแล้ว”

    ภาพเงาลางของเทพความตายได้ปรากฏเบื้องหลังไนท์
    แม้แต่อเล็กซานเดอร์ที่เคยถูกบดขยี้อย่างราบคาบก็ไม่มีโอกาสได้เห็นพลังนี้มาก่อน
    
    ใช่แล้ว  ไนท์ไม่เคยเอาจริงต่อหน้าผู้เล่นคนใดเลยสักครั้ง
    
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
ตอนฟรีลงสัปดาห์ละ 5 ตอน
ปัจจุบันแปลถึงตอน 1,248
ติดตามผู้แปล : www.facebook.com/bjknovel/

• Next
• Previous